ปุถุชน....คนช่างสงสัย...

ขออภัยครับ. ภาพไม่ค่อยชัดครับ.
ถ่ายจากไอแพด ที่ร้านกาแฟ ได้ประมานนี้ครับ
ปล.เนื้อทองแดงนะครับ ดูเล่นๆขำๆแล้วกันคับ

 

พอดูได้ครับว่าปรอทวิ่งมาจับที่ผิวเหรียญด้านหน้าจะชัดมาก...

ผู้ที่สำเร็จวิชาปรอทได้ จะสามารถเล่นแร่แปรธาตุได้ และต้องชำนาญในกสิณไฟ เพื่อใช้คุมธาตุปรอท ส่วนตัวผมเองทำไม่ได้หรอกนะครับ...

 

โดยส่วนตัวยังไม่มีโอกาสได้ครอบครองปรอทเลยครับ...
ถ้าไปทางปรอทเนี่ยตอนนี้ก็คิดว่ายังคง ง่องๆแง๋งๆอยู่ครับ...
แม้ว่าพระอภิญญาจิตไวมีชื่อท่านหนึ่งจะเคยบอกไว้ว่าต่อไปจะทำได้...
แต่บอกตรงๆว่าตอนนี้ยังนึกอะไรออกจริงๆครับว่า
อนาคตข้างหน้าจะเป็นไงครับ..
เพราะดูแล้วเหมือนบททดสอบจะค่อนข้างหินพอสมควรครับ...
แต่ส่วนตัวมีตะกรุดเชือกของท่านที่สำเร็จวิชาจิตธาตุนะครับ..
ท่านที่เคยเล่าให้ฟังว่า หยิบพระออกจากหนังสือมากลายเป็น
พระจริงๆได้ครับ..อีกอย่างก็คือ หยิบขี้ธูปขึ้นมาแล้วส่งให้โยม
เนี่ยกลายเป็นทองคำจริงๆครับคือเอาไปขายเปลี่ยนเป็นเงินได้ครับ
ถ้าจะดูตะกรุดที่ท่านถักเองแล้วท่านใช้นิ้วลนไปเพื่อตัดเชือก
จะเอาให้ดูครับ.
ปล.ตรงนี้ภาพชัดครับเพราะถ่ายไว้นานแล้ว ๕๕๕.

 

เรื่องนี้

สนใจมากค่ะ
เรื่องการเล่นแร่แปรธาตุ

เวลา ดูหนัง หรือ อ่านหนังสือ เมื่อ พระเจ้าตา พระฤาษี หรือ พระสงฆ์องค์ครูบา

ท่านมีฤทธิ์ เสก วัตถุธาตุให้เป็น ทองคำได้

เนื่องจาก ท่าน สำเร็จ วิชา ญาณขั้นสูง เข้าฌาณ ได้คล่องแคล่ว เป็นวสี(ชำนาญการ)

พออ่านไปถึงว่า คนที่จะเสก วัตถุธาตุ ให้เป็นทองได้

คล้ายๆจะมีเคล็ดคือ คนเสก ได้ ท่านไม่โลภ

ทว่า ไอ้คนอยากได้ขี้โลภแบบเรา ก็จะเสกไม่ได้ ๕๕๕๕

 

๕๕๕๕ แห๋มๆก็ระดับนั้นแล้วเนาะ. ธรรมดาแระ.
ไว้อนาคตรวมก๊วนได้ และสดวกๆจะพาไปกราบท่านเอง.
ตอนนี้ดูฆาระรั่ว ดูรูปฆาราวาสรั่วๆไปก่อน.

http://palungjit.org/attachments/a.3409139/

 

คือจริงๆแล้ว นู๋พายุ อยากจะถามว่า
การเสกทองนั้น ต้องทำอย่างไรบ้าง
แล้วถ้าทำได้อย่างนั้น เอาไปขายให้มันร่ำรวยได้ไหม?
ทำในไทยไม่ได้ไปทำทองอยู่ต่างประเทศได้หรือเปล่า...
จะเสกทองคำแท้ๆให้ได้นั้น ต้องฝึกวิชาอะไรมาบ้าง?
ประมาณนี้แหละครับ...ถามตรงๆเลยดีกว่า...นิ...

 

๕๕๕. ก็สำเร็จวิชาเดินธาตุในระดับจิตธาตุ ซึ่งเป็น
ขั้นสุดท้ายหรือขั้นที่ ๗ กำลังจิตใช้งานในสภาวะลืมตาปกติ
ระดับกำลังสมาธิระดับสูง(เป็นไปตามที่คิด)ครับ.
คือ นึกไฟเป็นไฟจริงๆ น้ำเป็นนำ้จริงๆ
ท่านที่พูดถึงหายไปในป่า ๗ ปีนะครับกว่าจะออกมา

 

ใช่

อยากได้ทองคำ สัก ๕ กิโล
จะเอาไปขาย เอาตังค์ ไปใช้หนี้ ทำห้องแลป ไต้ดิน

เบื่อ คนรู้ทัน (โว๊ย)

 

น้องราคุ มัก น้อย พี่ก็ไม่โลภ อยากได้ ซักแค่เท่านํ้าหนักตัวเท่านั้น อิอิ

 

********************************
. .

 

ก็หนูเคยอ่านนิทาน

ที่มีชาย ขอ ทองคำ กับเทวดาก้อนเท่ากระต๊อบ

แล้วเทวดา เสกมา ทับ ตะแก ตายพอดีเลยน่ะค่ะ ๕๕๕๕

ทีนี้ ทองหนักเท่า ตัวเราเอง มันจะเคลื่อนย้ายลำบากน่ะค่ะ

แต่ สัก ห้า กิโลกรัม นี้ น้องคิดว่า พอ หลบให้พ้นจุดตาย ได้ค่ะ

แต่ไม่เป็นไร พี่ลินดา ยังผอม อยู่ ก็ไม่น่าอันตรายเท่าไรค่ะ

 

คุณนพคะ ลองๆส่งมาให้ดูค่ะ หายไปสักพัก เริ่มๆกลับมา

ส่วนรูปน้ำมัน ดิฉันไม่ขอออกความเห็น ขอคุณนพฯเต็มที่เลยค่ะ จะได้ถึงบางอ้อเสียที ในป่าในดง หรือโบ๋เบ๋คะ เขาหมดกันเป็นล้านๆแล้ว:'(
ปล. เขา ที่แปลว่า ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ดิฉัน เพราะโชคดีที่ไม่มีสักล้าน ...เง้อออ

 

เอารูป ที่ถ่ายเองมาฝากด้วยค่ะ

ที่วัดดอยแท่นพระ ที่เชียงใหม่ค่ะ

 

คุณ Rungdao คับพวกของสืบเนื่องอะไรต่างๆเหล่านี้ แม้ว่าจะมีกะแสออกไปทาง
ด้านการสัมผัสที่ดี ด้านป้องกันบ้าง มีเมตตาบ้างแต่ว่ามันจะออก
แบบแนวอกุศลกรรมครับ แถมดึงให้จิตใจฝักใฝ่อีกต่างหาก
คือดึงให้ใจเรามักตกต่ำได้ไปสร้างเหตุ
ที่เกิดจากการนำไปใช้ในทางที่อกุศลทั้งหลายได้.
ถ้าเป็นส่วนตัวก็จะเฉยๆนะคับ
ไม่อยากไปเข้าใจว่ามีเจตนาทำเพื่อ ?
ของสืบเนื่องอะไรก็ตาม ที่ไม่มีกะแสเชื่อม
ขึ้นไปข้างบน เป็นไปได้ ก็วางไว้ หรือ อย่าไปคบหา
ปล.มุมส่วนตัวนะคับ. สุดแล้วแต่จะพิจารณาครับ
ส่วนผีเสื้อที่พวกเลี้ยงผีชอบส่งมาดูเป้าหมาย
จะตัวใหญ่หน่อยครับ และจะมีพวกภูมิอสูรกาย
หรือวิญญานที่โดนบังคับติดมาด้วย พวกนี้
เรามองดีๆจะเห็นหน้าตาและสีออกดำขุ่นๆปนขาวขุ่นๆครับ
ตัวที่เอามาให้ดูนี้ไม่น่ามีอะไรคับ

 

ขอบคุณค่ะคุณนพ ...
เรื่องของเรื่องคือดิฉันได้มานานแล้วค่ะไม่กล้าใช้เลย ส่วนตัวไม่เชื่อค่ะ ไม่เคยยุ่งกับเรื่องพวกนี้ ไม่เสาะแสวงหา แต่เขาบอกว่ารักษาข้อเคล็ดได้เขาเลยให้มา
ทั้งๆที่คนที่เอามาให้นั้นเชื่อสนิทใจคนในของพวกเขาถึงกับเกือบหมดตัวเลยนะคะ ทั้งเงินในธนาคาร บ้าน และที่ดินของพวกเขาแต่ดีที่ ที่ดินขายไม่ได้ ... หลังๆมาคนเขามาถามว่าเอาเก็บไว้ที่ไหน ดิฉันบอกว่าในห้องครัว เขาบอกว่าบ้านเขาเอาไว้บนหิ้งพระ และให้ดิฉัน นะโมฯ 3 จบก่อนใช้ค่ะ ... จริงๆคือมันยาวมากกว่านี้แต่มันพิสดารเกินไป เขาอยู่ทางนี้แต่อ้างครูบาอาจารย์ในดง อ้างข้างบนบ้าง ... เวลาที่เขาจะไปต้องได้เงินก้อนใหญ่ๆกลับไป ดิฉันสงสารเพื่อนจัง ที่โดนแบบนี้ แต่ดิฉันทราบดีว่าช่วยไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ ..

ปัญหาคือ ตอนที่ดิฉันจับมาเทแล้วถ่ายรูปมือไปโดนเลอะติดมือค่ะ รู้สึกว่าเป็นกระแสที่ร้อนๆ แต่กลิ่นไม่ฉุนค่ะ ธรรมดาๆทีมีกลิ่นทั่วๆไป คือ .. จะอะไรทำไมไหมคะเนี่ย คุณนพ

 

ปัญหาต่อมาคือ ดิฉันอยากทราบว่า นักปฏิบัติ ตั้งแต่ระดับอนุบาล คือ สวดมนต์ไหว้พระ นักสมาธิไม่ถึงฌาณ 4 มีสิทธิ์โดนคุณไสยฯได้ไหม ถ้าได้ .. ก็ขอวิธีป้องกันค่ะ
เอ่อ... คือว่าคุณไสยฯจริงๆนะคะขอท่านผู้เข้ามาอ่านเข้าใจ คนละอย่างกับพวกที่โดนเจาะแล้วบอกว่าตัวเองโดนทำอยู่นะคะ

 

หลังจากอาบน้ำล้างมือก็หายคับไม่มีไร
คนจะโดนคุณไสยได้มีเหตุเนื่องจากตัวจิต
ขาดกำลังในการเข้าถึงกะแสความดีครับ
คือไม่ทำดีและไม่ทำไม่ดีก็โดนได้ครับ
ไม่เกี่ยวว่าจะนั่งสมาธิได้ดีแค่ไหนเพียงฝ่ายเดียวด้วย
อยู่ที่ว่า ขอให้ตัวจิตเรามันเข้าถึงกะแสความดีได้ปกติ
พูดง่ายสะสมทุนเพื่อเข้าถึงไว้เรื่อยๆ
มันก็ป้องกันเราได้แล้วครับ. อย่างน้อย ศีล ๕
การเคารพพระรัตน์ตรัย และไม่เผลอสร้างกรรมใหญ่
จากการปรามาสองค์คุณ องค์มหาบารมี พระโพธิสัตว์
พระปัจจเจกฯ หน่อเหนือพุทธทางกูล เหล่าผู้มีอธิวาสนาบารมีทั้งหลาย
ผู้มีศีลมีธรรมทั้งหลาย. ผู้มาสร้างบารมีทั้งหลาย
เนื่องจากท่านเหล่านี้จะมากด้วยบริวารทางภพภูมิ
ตลอดจนหลบหลู่ครูบาร์อาจารย์ บิดามารดาคนอื่นเค้า
รู้จักทำบุญทำทานเพื่อส่งพลังงานให้เทพเทวดาประจำตัว
ครูบาร์อาจารย์ ภพภูมิทั้งหลาย เราก็จะมีกะแสตรงนี้
เวลามีภัยมันก็จะมีอะไรๆมาช่วยเตือนช่วยกัน
และควรจะต้องมีเมตตาต่อคนและสัตว์
รวมทั้งอุทิศส่วนกุศลบ่อยๆเราก็จะเป็นที่รักของ
สิ่งที่มองไม่เห็น ยิ่งเปิดทองหลังพระเค้ายิ่งชอบเรา
ทำบุญทำทานสม่ำเสมอต่อเนื่อง
ถ้าพวกที่เค้านั่งสมาธิได้และทำความดีด้วย
เค้าจะมีครูบาร์อาจารย์
คอยคุ้มครองอยู่แล้วครับไม่น่าห่วง.
ยกเว้นว่าประมาทแล้วกะแสกำลัง
เทพเทวดาประจำตัวอ่อน(มักจะเกิดพวกที่ประมาทคิดว่าตัว
มีความสามารถพิเศษ)
ยกเว้นว่ากะแสวิบากมันจรมาแล้วเราไปปรุงไปคิดร่วม
มันก็จะมาปิดตัวจิตเรา ปิดความคิดในการเข้าสู่กะแสความดี
ที่เรียกกันว่าช่วงดวงตก
ก็จะกลายเป็นจุดอ่อนให้คนเจตนาไม่ดีเค้าทำอะไรไม่ดีกับเราได้ครับ

 

สอบถามเพิ่มพี่นพการณ์ พระเครื่องบางองค์ ไม่ได้ลงกันแก้ทางคุณไสยมนต์ดำ ก้อไม่มีใช่ไหม แล้วแต่ความชำนาญของพระเกจิหรืออาจารย์องค์นั้นท่านชำนาญหรือเรียนทางด้านนี้เรื่องปราบแก้กันถอดถอนมา ก้อไม่มีอำนาจปกป้องทางด้านนี้แบบเจาะจงที่อธิฐานเสกด้านนี้ แต่พลังแห่งพุทธคุณ เทพพรหมเทวา ครูบาอาจารย์มีหมด ว่าพุทธคุณแห่งองค์พระจะไปทางด้านไหน ตามกำลังจิตของครูบาอาจารย์ผู้เสกจะกำหนดด้านไปไหน รอฟังคุณพี่นพอธิบายเพิ่มเติม
เอารูปมาพระกริ่งที่ท่านอธิฐานเสกให้พิจรณาร่วมครับเพราะองค์ท่านที่เสกท่านมาทางมหาปราบด้านนี้โดยตรง
รอฟังพี่นพการณ์พิจรณาส่วนเบื้องลึกเพิ่มเติม ว่าเป็นแบบไหนขอบคุณครับ

 

อืมถามมาเด่วจัดให้ฟังคับ. และที่ท่านพูดว่าทางมหาปราบ
ช่วยประกันด้วยอีกเสียงว่าไม่ผิดครับ
เด่วจะเล่าให้ฟังทีหลังว่าเพราะอะไรนะครับ.
เอาทั่วๆไปนะ ถ้าเอาในวงการสำหรับท่านที่สามารถ
บรรจุพลังงานในวัตถุได้นั้น
การบรรจุพลังงานแล้วออกมาทางด้านเมตตาได้ถือว่าสุดๆแล้วครับ
เรื่องอื่นๆนะครับถือว่าง่ายมากและเป็นเรื่องรองลงมาครับ.
เพราะท่านที่จะทำได้ ประกันได้ว่าท่านจะมากมายด้วยพันธ์มิตร
ทางภพภูมิที่พร้อมจะมาร่วมสร้างบารมีกับท่าน การที่ห้อยวัตถุของ
ท่านแล้วประสบความสำเร็จเรื่องใดๆก็ตาม แล้วเราทำบุญอุทิศส่วน
กุศลกะแสพลังงานในวัตถุก็จะมีการปรับเปลี่ยนตรงนี้ไปตามวาระ
และวัตถุใดๆก็ตามที่เราถือว่าเป็นวัตถุมงคลนั้น. กะแสพลังงานที่ออก
จากตัววัถตุนั้นจะต้องมีกะแสเชื่อมกับข้างบนครับ. และกะแสที่เชื่อมข้างบนนั้น
ก็จะมี ๒ สายคือ ๑.กะแสเชื่อมจิตครูบาร์อาจารย์ท่านนั้นหรือท่านที่ตั้งต้น
ไว้ตั้งแต่แรก. เช่น เชื่อมห่มเหลืองท่านนั้นท่านนี้. หรือ เชื่อมระดับพระพุทธฯ
ท่านใดๆก็ได้ ขึ้นอยูกับเจตจำนงครับ.
๒.กะแสด้านพลังงานครับ. โดยปกติถ้ามี ๑.และท่านที่ทำมีพื้นฐานของจิต
ด้านความสามารถพิเศษไม่ว่าภายในหรือภายนอก จะมีกะแสที่ ๒
ติดมาปกติครับ. แต่ท่านมีฐานกรรมฐานพิเศษกะแสจะเด่นชัดกว่าครับ
ส่วนมากท่านที่เด่นทาง ๑ มักจะขอบารมีส่วนท่านที่มีทั้ง ๒
กะแสท่านก็ขอบารมีแต่ติดพลัง
งานจากที่มีที่สร้างจากตัวจิตเองอัตโนมัติครับและเป็นเรื่องปกติ
บางท่านก็มีวิชาเฉพาะทางมันก็จะติดมาด้วยเช่นกันครับ


ส่วนวัถตุใดๆก็ตามหากท่านผู้ที่บรรจุมีความสามารถทางจิตมากมายเพียงใด
แต่หากว่าไม่มีกะแสพลังงานเชื่อมข้างบนเราจะยังไม่ถือว่าเป็นวัตถุมงคลคับ
เพราะวัตถุจะยังมีกะแสที่ดึง และนำพาให้จิตเราก่อเกิดและมีกิริยาไปทางสร้าง
อกุศลกรรมได้ครับ. ไม่เหมือนวัถตุมงคลที่จะน้อมให้จิตสร้างเหตุอะไรก็ตาม
ในทางกุศล.
ที่นี้ถ้าท่านสามารถบรรจุพลังงานออกเป็นเมตตานำ. มันก็จะง่ายในการที่จะเน้น
ไปทางวัถตุประสงค์ใดๆมันก็จะได้หมดครับ. ยิ่งท่านที่มีฐานกำลังจิตเป็นทุนจาก
กรรมฐานพิเศษ พวกเรื่อง เหนียว ป้องกัน กันภูต ค้าขาย โชคลาภ
กันสิ่งไม่ดีมันก็จะเกิดของมันเอง
อัตโนมัติครับ โดยมีเมตตานำนั่นหละครับ.
และหลายๆท่านที่ทำได้. ท่านก็เน้นเพื่อให้เป็นไปตามเจตนาที่ ญาติโยมแต่ละคน
ตั้งเป้าไว้ในใจ
เป็นไปตามกาล ตามวาระ ตามสภาพสังคม ณ เวลานั้น
จึงเกิด เป็น วัตถุรูปร่างต่างๆนาๆที่เรารู้ๆกันดี
และเรียกแตกต่างกันไปตามรูปร่างไงครับ แต่เรามักจะเข้าใจ
ว่าวัตถุนั้นวัตถุนี้เด่นด้านนั้นด้านนี้ ซึ่งถูกครับ แต่ในหลักการก็มาอย่างที่เล่าให้ฟัง
เพราะกำลังใจในการเข้าถึงเป้าหมายเพื่อการไม่ยึดไม่ติดและเพื่อปฎิบัติตามคำสอน
ของท่านทั้งหลายแตกต่างกัน จึงเป็นที่มาของวัตถุที่มีชื่อเรียกต่างๆกันไป
ก็เพื่อเป็นแนวทาง เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งครับ ส่วนตัวเรียกว่าวัตถุสืบ
เนื่องที่ทำให้จิตพึ่งระลึกถึงหนึ่งในพระรัตนตรัย นั่นหละครับ
๕๕๕ เล่ามาตั้งนานเมื่อไรจะถึงเรื่องที่ถามซักที ๕๕๕. ที่ผ่านมา
ถือว่าปรับความเข้าใจเรื่องพลังงานไปก่อนนะครับ
ทำไมถึงเป็นมหาปราบ เพราะโดยพื้นฐานของทางมหายานหรือ
พระโพธิสัตว์นั้น. เอกลักษณที่เด่น ของพลังงานด้านที่ ๒ คือ จะเร็ว แรง
และแน่นมีเมตตาเกิดแต่ขยายแบบแอบปนแรงบ้าง
. ส่วนท่านที่มาทางพระพุทธฯ. จะ เร็ว ลื่น และนิ่ม
มีเมตตาขยายออกไปข้างนอกไกลส่วนความเย็นและความหนาแน่น
ขึ้นอยู่กับบารมีท่านนั้นๆครับ เช่น บิดาของชาวไทยจะ
ความหนาแน่นมากและกว้าง ของห่มเหลืองมีอายุจะนิ่มเย็น
และกว้างเป็นต้นครับ.
และเอกลักษณของกะแสตรงที่เร็วแรงและแน่นนี้และครับ. มันจึงเป็นลักษณ
กะชากครับ กะชากตัวกะแสจิตเราให้ผลักขึ้นไปข้างบนอย่างเดียวไว้ก่อน
ยกตัวอย่างถ้าเราห้อยพระที่บรรจุพลังโดย สมเด็จ ต ของแท้นะครับ
๕๕๕. ให้คุณนึก
อยากจะทำเรื่องอกุศลมันก็จะนึกได้ยากครับ เพราะเอกลักษณ์ของ
กะแสตรงนี้นี่หละครับ.
และเอกลักษณ์ที่เด่นของทางด้านนี้ ก็คือ เรื่องของการป้องกันภัย
ในระดับที่มีกะแสพลังงานจะวนรอบตัวผู้ส่วมใส่ครับ และด้วยฐาน
ความสามารถทางจิตที่ติดมาด้วย การอฐิษฐานขอในด้านต่างๆตามเหตุและ
ปัจจัยของผู้ครอบครองจึงมักจะสำเร็จผลครับ
รูปแทนของพระกริ่งก็เป็นสิ่งสืบเนื่องทางสายพระโพธิสัตว์ลักษณะ
พลังงานก็เป็นเหมือนด้านที่ ๒ แล้วยิ่งด้วยฐานสัมผัส ฐานความสามารถ
ของผู้บรรจุแน่นซะขนาดนั้นและกะแสด้านที่ ๑ ก็เร็วปรู๊ดๆและนิ่มอีกด้วย
กะแสด้านที่ ๒ ของผู้บรรจุก็ไหลเร็วซะยังกับท่อระบายน้ำขนาดใหญ่
ขึ้นไปรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกะแสที่ ๑ ข้างบน จะไม่ให้เรียกว่ารุ่น
มหาปราบผมก็นึกไม่ออกว่าจะตั้งชื่อว่าอะไร รุ่นอะไรแล้วครับ ๕๕๕
เล่ามาตั้งนานคำตอบอยู่ช่วงสุดท้ายนี้หละครับ ๕๕๕

 

พี่นพการณ์นี่ไม่ธรรมดา จัดให้เต็มที่ แน่นสุดๆครับผม อย่างพี่บอกมาไม่ผิดเลยครับ
ขอบคุณครับที่ตอบให้ละเอียดเลย ผม1-2เดือนค่อยได้ไปกราบทำบุญกับท่าน