♥ มาแต่งกลอนแก้เหงากันนะ ♥

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย kib_jang, 21 มีนาคม 2008.

  1. บุษบรรณ

    บุษบรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    2,212
    ค่าพลัง:
    +8,603
    ข้อความแซวแมวเหมียวเดี๋ยวเพื่อนหลบ
    แค่ประจบท่านระลึกนึกความหลัง
    เคยอยากรู้เรื่องราวคราวนั้นจัง
    เข้าภวังค์หลายทีไม่มีเลย......:'(
     
  2. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ
    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง
    กลอนบทนี้มีความประสงค์เพื่อ...เชิญชวนให้ศึกษา อัสสกชาดก โดยได้กล่าวเป็นบทกลอนไว้เบื้องต้น"เป็นการแนะนำเท่านั้น" เนื้อความยังไม่สมบูรณ์ โปรดอ่านอัสสกชาดก ฉบับเต็มได้ตามลิ้งนี้ครับ
    อัสสกชาดก
    (ว่าด้วย ไม่รู้ของจริงเพราะมีสิ่งใหม่ๆ ปิดไว้)

    @อดีตกาล ราชานาม อัสสกะ
    ครองราช สมบัติ นครชื่อมี
    ปาฏลิแคว้น กาสี มเหสี
    นามอุพพรี ที่รัก ของ<WBR>พระ<WBR>องค์
    @ รูปโฉมทรง งดงาม น่าดูมี
    พระฉวี เหนือมนุษย์ เว้นวรรณทิพย์
    พระนางสิ้น พระชนม์ พระญาติมิตร
    ต่างสถิต โทมนัส โศกาดูร
    @ พาทูลปลอบ ราชา อย่าทรงเศร้า
    สยายเกล้า เกศา ปริเทวนา
    พระราชมารดาพระราชบิดา
    เสวนา พาปลอบ มิเป็นผล
    @ทรงบรรทม กันแสง เช่นนั้นนาน
    จนล่วงกาล เจ็ดวัน ทุกข์ระทม…..
    @ในกาลนั้น ดาบส พระโพธิสัตว์
    ปฏิบัติ หิมวัน-ตประเทศ
    ทิพยจักษุ ออกตรวจ อาณาเขต
    ทรงเห็นเหตุ ราชา โศกาดูร<O:p</O:p
    @ ดำริว่า เราควร เป็นที่พึ่ง
    ราชาซึ่ง โศกา พระองค์นั้น
    จึงเสด็จออก จากเขต หิมวันต์
    โดยพลัน ด้วยฤทธิ์ อภิญญา
    @ เหนือมงคล สิลาทรงประทับ
    ราวกะพระ ปฏิมา ทองคำงาม
    สถิตอยู่ ในพระ อุทยาน
    คงรอกาล อันเหมาะ พบราชา
    @ยังมีหนุ่ม มาณพ พราหมณ์ชาวเมือง
    อันรุ่งเรือง ชื่อพา-ราณาสี
    เดินผ่านพบ ดาบส เหมาะพอดี
    อัญชุลี หมอบกราบ โพธิองค์
    @จึงกระทำปฏิสันถารพบ<O:p</O:p
    กับมาณพ ถึงเรื่อง พระราชา
    ว่าพระองค์ ดำรง ฤาธรรมมา
    วิสัชนา พระองค์ ดำรงธรรม
    @ มาณพกล่าว ถึงเรื่อง สิ้นชีวี
    มเหสี ที่รัก องค์วายชน
    ทำให้พระ ราชา ทุกข์ระทม
    ทรงบรรทม กรรแสง เพ้อรำพัน
    @ มุนีกล่าว ดูก่อน มาณพ
    ไม่รู้พบ ราชา ใครคนไหน
    หากราชา เสด็จมา เราจักไข
    ทูลบอกไป ที่เกิด มเหสีองค์
    @จงจักให้ พระนาง สนทนา
    กับราชา ที่นี้ ณ อุทยาน
    มาณพตอบ เชิญราชา ไปไม่นาน
    พระทรงญาณ นิมนต์ อยู่ที่นี้
    @เมื่อชี้ทูล ราชา ดีพระทัย
    เสด็จไป อุทยาน ตามทูลเชิญ
    หวังได้เห็น อุพพรี ผู้งามเพลิน
    ด้วยฤทธิ์เจริญ วิเศษ มุนีมี
    @เสด็จถึง อุทยาน กราบพระองค์
    แล้วนั่งลง ณ ส่วนหนึ่ง อาราธนา
    พระคุณเจ้า บอกว่า จักแสดงพา
    ให้ทัศนา พระนาง เกิดแห่งใด
    @ดาบสทูล ข้าแต่ มหาราช
    พระนางชาติ มัวเมา ในรูปเชิด
    ไม่ทรงทำ กรรมดี จึงกำเนิด
    เป็นหนอนเกิด มูลโค ตามกฎกรรม
    @พระโพธิสัตว์ อธิษฐาน
    จงบันดาล ให้หนอน ทั้งสองลับ
    แทรกมูลโค แสดงตัว เบื้องพระพักตร์
    นางที่รัก ที่เกิด เป็นหนอนมูล......(เชิญอ่านต่อ)
    ....พระโพธิสัตว์ได้ทำให้หนอนสองตัวมาด้วยอานุภาพของตน โดยอธิษฐานว่า ขอให้หนอนสองตัวจงชำแรกก้อนโคมัยออกมาเบื้องพระพักตร์ของพระราชา หนอนสองตัวก็ออกมาตามนั้น. พระโพธิสัตว์ เมื่อจะแสดงพระเทวี จึงกราบทูลว่า ข้าแต่มหาราช พระเทวีอุพพรีนี้จากพระองค์ไปแล้ว เดินตามหลังหนอนโคมัยมา ขอพระองค์จงทอดพระเนตรเถิด. พระราชาตรัสว่า พระคุณเจ้า ข้าพเจ้าไม่เชื่อว่า สัตว์ที่เกิดในกำเนิดหนอนโคมัยชื่อ<WBR>อุพพรี พระโพธิสัตว์ทูลว่า มหาบพิตร อาตมาภาพจะให้หนอนนั้นพูด. ตรัสว่า ให้พูดเถิดพระคุณเจ้า.
    พระโพธิสัตว์ เมื่อจะให้หนอนพูดด้วยอานุภาพของตนจึงเรียกว่า แน่ะนาง<WBR>อุพพรี นางหนอนพูดเป็นภาษามนุษย์ว่า อะไรเจ้าคะ.
    พระโพธิสัตว์ถามว่า ในอัตภาพที่ล่วงแล้ว ท่านเป็นอะไร. ตอบว่า ข้าพเจ้าเป็นมเหสีของพระเจ้าอัสสกะ ชื่ออุพพรีเจ้าคะ.
    ถามว่า ก็เดี๋ยวนี้พระราชาอัสสกะยังเป็นที่รักของเจ้า หรือว่าหนอนโคมัยเป็นที่รักของเจ้า. ตอบว่า ท่านเจ้าขา พระราชาเป็นพระสวามีของข้าพเจ้าในชาติก่อน ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเที่ยวชื่นชมรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะกับพระราชานั้นในอุทยานนี้ แต่เดี๋ยวนี้ ตั้งแต่ข้าพเจ้าไปต่างภพกันแล้ว พระราชาอัสสกะจะเป็นอะไรกับข้าพเจ้าเล่า บัดนี้ ข้าพเจ้าจะสังหารพระเจ้าอัสสกะ เอาพระโลหิตในพระศอของพระองค์ มาล้างเท้าของหนอนโคมัยผัวของข้าพเจ้าเสีย แล้วได้กล่าวคาถาเหล่านี้ด้วยภาษามนุษย์ ในท่าม<WBR>กลาง<WBR>บริษัท<WBR>ว่า :-


    ประเทศนี้ เราผู้มีความจงรัก ได้เที่ยวเล่นอยู่กับพระเจ้าอัสสกะผู้เป็นพระสวามีที่รัก ผู้มีความประสงค์ตามความใคร่.

    ความสุขและความทุกข์เก่า ถูกความสุขและความทุกข์ใหม่ปกปิดไว้ เพราะฉะนั้น หนอนจึงเป็นที่รักของเรายิ่งกว่าพระเจ้าอัสสกะอีก.


    ในบทเหล่านั้น บทว่า อยมสฺสกราเชน เทโส วิจริโต มยา ความว่า อุทยาน<WBR>ประเทศ<WBR>อันน่ารื่นรมย์นี้ เราเคยเที่ยวไปกับพระเจ้าอัสสกะ. คำว่า อนุ ในบทว่า อนุกามยกาเมน เป็นเพียงนิบาต. ความว่า เราผู้มีความใคร่ต่อพระเจ้าอัสสกะนั้น ได้เที่ยวเล่นกับพระเจ้าอัสสกะผู้ใคร่เรา. บทว่า ปิเยน ได้แก่ เป็นที่รักในอัตภาพนั้น. บทว่า นเวน สุขทุกฺเขน โปราณํ อปิถิยฺยติ ความว่า นางหนอนกล่าวว่า ท่านเจ้าขา สุขเก่าถูกสุขใหม่ปกปิดครอบงำ ทุกข์เก่าถูกทุกข์ใหม่ปกปิดครอบงำ นี้เป็นธรรมดาของโลก. บทว่า ตสฺมา อสฺสกรญฺญาว กีโฏ ปิยตโร มมํ ความว่า เพราะสุขทุกข์เก่าถูกสุขทุกข์ใหม่ปกปิด ฉะนั้น หนอนจึงเป็นที่รักของข้าพเจ้ายิ่งกว่าพระเจ้าอัสสกะร้อยเท่าพันเท่า.

    พระเจ้าอัสสกะได้สดับดังนั้นแล้ว ทรงแค้นพระทัย ยังประทับอยู่ ณ ที่นั้น รับสั่งให้ย้ายศพพระเทวีออกไป ทรงสรงสนานพระเศียร แล้วไหว้พระโพธิสัตว์ เสด็จเข้าพระนคร ทรงอภิเษกสตรีอื่นเป็นอัครมเหสี ทรงครองราชสมบัติโดยธรรม.
    ฝ่ายพระโพธิสัตว์ถวายโอวาทพระราชาให้ทรงหายโศกแล้ว ก็ได้กลับไปยังป่า<WBR>หิมพานต์.

    พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว
    ทรงประกาศสัจธรรม ทรงประชุมชาดก.
    เมื่อจบสัจธรรม ภิกษุผู้กระสันได้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล.
    พระเทวีอุพพรีในครั้งนั้น ได้เป็น ภรรยาเก่า (ของภิกษุนั้น) ในครั้งนี้
    พระเจ้าอัสสกะได้เป็น ภิกษุกระสัน
    มาณพได้เป็น
    สาริบุตร
    ส่วนดาบส คือ
    เราตถาคต นี้แล.

    จบ อรรถกถาอัสสกชาดกที่ ๗





    .. อรรถกถา อัสสกชาดก ว่าด้วย ไม่รู้ของจริงเพราะมีสิ่งใหม่ๆ ปิดไว้ จบ.
    *****************************************************************
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2015
  3. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    เฮ่อ อ่านนิทานท่านแอ๊บแบ๊ว แล้วก็เห็นว่าวัฏสงสารนี้ช่างหาความแน่นอนใดๆไม่ได้เลย
    เป็นมเหสีอยู่ดีๆ ตายแล้วเกิดใหม่เป็นหนอนในมูลโค
    ขยาดการตาย-เกิด
    ชาตินี้โชคดีได้เกิดในพุทธเขต มีแสงสว่างนำทาง พอให้เดินถูกบ้าง
    แต่หากเกิดมาในสมัยไม่มีพุทธศาสนา จะเป็นอย่างไรหนอ?
     
  4. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    เป็นไปตาม อยากตาม วังวนกรรม
    ขอให้ธรรม สนิท ติดนิสัย
    บุญกุศล ทำไว้ เป็นปัจจัย
    เกิดชาติใด พ้นทุกข์ พบพุทธองค์._/\_
     
  5. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    ตามกรรมเพื่อให้รู้จักกรรม รู้จักเพื่อให้มีปัญญาละได้
    ละกรรม อย่างคนตาบอด ยังไม่รู้จักก็รีบปฏิเสธ จะละได้อย่างไร แบบนั้นมันหลอกตัวเอง
    มือถือสาก ปากถือศีลที่เขาว่า
     
  6. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    แว่วเสียงท่านแอ๊บอยากแต่งนิทาน
    เลยกังวลส่งเสียงมาเสนาะหู
    พอดีตัวเราใคร่อยากรู้
    จึงลงมาส่องกระทู้ ให้ท่านนั้นเปิดวจี (หุหุ มั่วไปนั่น)
    เอาละนะคะ รบกวนช่วยแจ้งแถลงไขด้วย

    " แดงสดกลิ่นหอมขจรไกล
    ยามสูดไซร้ ภาพรำลึกแต่หนหลัง
    แต่เหตุไฉน ใจว่าดอกหนา ขาวบุศงามตา
    จึงขอเอื้อนวจีถ้อยคำ
    หากแม้ไซร้ ใครใคร่เคยยล
    ช่วยเจราบอกเล่าที "

    ปล.เรื่องธรรมนั้นเราโง่เง่านัก แม้พยายามหนักหนา แต่มักวนออกนอกแนวทาง วันนี้อารมณ์กลุ่นยามชมธรรม-ชาติ จึงพานนึกมาให้ถาม....
     
  7. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    เปรยเหมือนไฟ ว่าร้อน จะลองเผา
    หรือมูลเอา ทาตัว จึงรู้เหม็น
    ดุจกรรมชั่ว ผลร้อน ลองทำเป็น
    ผลร้อนเย็น จะลอง เพื่อละฤา?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2015
  8. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    ^_^ ถาม Google ก่อนครับ....>>>>>
    มหากาพย์เทวภูมิ ชั้นที่ 2 ดาวดึงส์
    [​IMG]
    ....ดอกปาริชาติ ดอกไม้แห่งสวรรค์ กับความเชื่อระลึกชาติได้....
    "นอกเมืองดาวดึงส์ออกไป ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีอุทยานใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ชื่อว่า ปุณฑริกวัน มีกำแพงล้อมรอบทั้ง ๔ ด้าน กลางสวนมีไม้ทองหลางใหญ่ต้นหนึ่ง เป็นไม้ทิพย์ชื่อว่า ปาริชาติ ต้นปาริชาติ นี้ จะมีดอกบานครั้งหนึ่งต่อเมื่อครบหนึ่งร้อยปี พูดง่าย ๆ ว่าร้อยปีจะดอกบานครั้งหนึ่ง และขณะที่ดอกปาริชาตนี้บานจะมีรัศมีเรืองไปไกลถึงแปดแสนวา และเมื่อลมพัดไปทางทิศใด ลมมีกลิ่นหอมฟุ้งไปทิศนั้นไกลแสนไกล

    กลิ่นหอมนั้นจะตลบอบอวลอยู่ทั่วบริเวณสวรรค์ชั้นนี้นานเท่านาน กล่าวกันว่า ยามที่ดอกปาริชาตินี้บาน จะมีเหล่าเทพบุตรเทพธิดามาเล่นสนุกสนานใต้ต้นปาริชาตนี้เป็นจำนวนมากและกลิ่นปาริชาติที่โชยโรยรินมาต้องเทพบุตรเทพธิดาองค์ใด จะช่วยทำให้เทพบุตรเทพธิดาองค์นั้นระลึกชาติได้อย่างอัศจรรย์"
    ดอกปาริชาติ ประวัติดอกปาริชาติ
    ...........................................................
    บุณฑริกา อ่านว่า บุน-ทะ-ริ-กา หมายถึง ดอกบัวขาว.
    ...........................................................
    ปล. ถ้าอยากรู้จริงๆ ลองไปถามห้อง อภิญญา ดีกว่านะ...^_^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2015
  9. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    แง้ๆ อยากเห็นของจริง ในสวนบนสวรรค์ชั้นฟ้า เป็นภาพร่างตามจิตเห็น ส่วนอันนี้บ่มีกลิ่น (อยากรู้ว่าเหมือนรึต่างจากบนโลก) หากไปถามคนอื่น คงโดนสวนกลับมา ว่าบ้าตาบูดซิคะ แหะๆ เลยโยนโชคนั้นมาที่ท่านแอ๊บแทน (ไม่ได้มากวนนะคะ แต่มาสร้างบรรยากาศให้พิลึกพิลั่นก็เท่านั้น)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 กุมภาพันธ์ 2015
  10. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    ของจริงใน สวนบน สวรรค์ชั้นฟ้า
    อยากเห็นถ้า มีบุญ หมั่นสะสม
    มีวิธี ได้ยล สวรรค์ชม
    แค่กลั้นลม หยุดหายใจ สิบนาที...O.O!
    (^_^..หยอกเล่นนะ...อย่าทำเชียว...!)
     
  11. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    สิบนาทีเองเหรอ ? ว่าจะหยุดซักหมื่นล้านกาล เมื่อถึงกาล แอบร้องไห้ ท่านแอ๊บไม่เปิดวจี พลางพลักไสข้าน้อยให้ไป ชมแค่สวรรค์ชั้นสี่ (555 ยังจะโลภอีก) .แต่ชื่ออุทยานบุณฑริกา ค่อยรู้สึกดีหน่อย บัวขาวชูช่อ มันน่าจะเป็นดอกคล้ายบัวขาว แต่ไฉนตำนานจึงว่าแดงสด .ไม่เข้าใจจจจจ (รึเขาไม่ได้ตั่งชื่อุทยานตามสิ่งที่เด่น) งงต่อไป....
     
  12. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    https://www.youtube.com/watch?v=7JmVDEh4fzo

    .....บอกแล้วให้ไปถามห้องอภิญญาโน้นนนน.....เคยไปแต่นครสวรรค์......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2015
  13. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    เมื่อคืนได้รับคำตอบจากใครผู้หนึ่ง นางก็เป็นผู้โชคดีได้รับบทกลอนถามเช่นกัน เช้านี้จึงเร่งมาดีดนิ้วพิมพ์กระทู้ เล่าให้ทุกท่านได้ฟัง หากใครว่าไม่ถูกต้องก็ขอให้เจรจาบอกเล่าที

    " ดอกปาริชาติรึ?
    กลิ่นมันเวียนหัว เหมือนน้องขะมุด(ละมุด)
    ดอกสีขาวคล้ายบัวบาน
    แต่เกสรไม่เหมือนดอกบัว
    เป็นดอกเดี่ยว ไม่มีช่อ
    บานแปะตามยอดกิ่ง
    เวลาร่วงโรยหลุดทั้งขั้วดิก
    ไม่ร่วงเป็นกลีบ
    หลุดทั้วขั้ว ทุกดอกที่ติดกับต้นจะเปล่งแสงสว่างในตัวเอง
    ปาริชาติขึ้นยืนต้นที่กลางสวนของพระอินทร์"

    จากคำตอบ ตอบคำถามได้อย่างชัดเจน ปล.ขอบคุณคำบอกเล่าด้วยค่ะ
     
  14. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    [​IMG]......................

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]
    http://akitia.com/magnolia-grandiflora-little-gem/30/08/2008/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2015
  15. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    สวยจัง อยากได้ อยากปลูก *#* ต้นอะไรคะ ?
     
  16. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2015
  17. ขุนวัง

    ขุนวัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2015
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +726
    ......
     
  18. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    คารวะ.....ท่านขุนวัง......ดังสะท้าน
    เป็นทหาร....เจ้านาย......ชั้นผู้ใหญ่
    สาวชาวบ้าน.....แอบหลิ่วตา.....ซ่อนข้างใน
    ยลยินให้......บารมี.........ที่ชื่นชม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2015
  19. ขุนวัง

    ขุนวัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2015
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +726
    อะไรอีก ล่ะท่าน "ยุพา"เอย
    จะเปรียบเปรย ขุนวัง ดังทหาร
    ยุชาวบ้าน หลิ่วตา สาวส่งสาร
    ส่งยิ้มหวาน สะท้าน ถึงขุนวัง ...^_^...

    ไปอ่านนิทาน มายัง กลอนนำไว้
    ไม่เห็น like ให้ชื่น สักหนึ่งเสียง
    ดีกว่ายุ สาวหว่าน ขุนวังเวียง
    นิทานเรียน ชาดก อิงพระธรรม...^_^...

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2015
  20. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    หมดใจแล้ว......รักลา.......พาหมุนเวียน
    เหมือนล้อเกวียน.....เคลื่อนคล้อย......ถอยทับที่
    ยุพานาง.......อ่านนิทาน......ซ่านฤดี
    หนอนน้อยรี่......คลานตาม.......ภัสดา เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้แล้วไป คริคริ
     

แชร์หน้านี้

Loading...