เมื่อพระยามัจจุราชมาทวงชีวิตข้าพเจ้า

=================

เทพผู้ดูแลรักษาจะมีท่านพระราหู ท่านพระนางสุชาดาภริยาขององค์อินทร์ มีท่านองค์อินทร์ ครับ และมีนางไม้ผู้หนึ่งชื่อนางกฤษนา ครับ

ทุกครั้งที่ทำบุญหรือความดี เขาจะร่วมอนุโมทนาทุกครั้งครับ

 

สอบถามตั้งแต่หน้า 62ครับ รอคำตอบทุกวันครับบ

 

==============

1 ควรปฏิบัติธรรมสายอภิญญา คือสายหลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษี หรือหากเป็นสายพระโพธิสัตว์ ก็ได้ครับ เพราะมีวาสนาบารมีเดิมทำไว้อย่างนี้ครับ

2 ส่วนชะตาชีวิต ในอดีตเคยเป็นเจ้านาย เป็นนายคน แต่ก็ได้เคยสร้างกรรมเบียดเบียนผู้อื่นไว้รอบด้านเพราะหน้าที่บีบบังคับ

การแก้ไขกรรมส่วนนี้ ต้องให้ทานชีวิตสัตว์เยอะๆ ถ่ายชีวิตสัตว์ ปล่อยปลา ปล่อยโค ปล่อยนก ทำได้หมด แล้วให้ถวายสังฆทานทำบุญทุกปี โดยเฉพาะปีเกิดและปีชง อันได้แก่ปีฉลู ขาล มะเส็ง ระกา และปีกุน ครับ
นอกจากนี้การสวดมนต์ภาวนา รักษาศีลจะช่วยได้มากครับหากทำทุกวัน
มีโอกาสในปีที่ไม่ดี หากได้ทำบุญถวายพระพุทธรูป ร่วมสร้างพระก็จะดีมาก ผ่าป่ากฐินก็มีอานิสงค์มากครับ ขอให้วางแผนในการทำบุญค่อยๆแก้ไขไปก็จะดีขึ้นผ่านอุปสรรคไปได้ครับ

อีกนิดครับคือขอให้ดูแลบุพการีให้ดีนะครับจะเป็นกำลังบุญที่สำคัญในการช่วยหนุนตนเองไม่ให้ตกต่ำครับ สาธุ

 

รอคำตอบค่ะ คำถามอยู่หน้า 62 ค่ะ

 

มีคำถามดังนี้ค่ะ
1ช่วงนี้สวดมนต์ทุกวันแล้วค่ะ วันไหนมีเวลาตอนเช้าก็สวดทั้งเช้าทั้งเย็น ส่วนเรื่องวิปัสนาก็พยายามระลึกว่าเราต้องตาย บางวันมากบางวันน้อย อยากทราบว่าทำถูกคิดถูกไหมคะ
2อยากทราบว่าถ้าพยายามสวดไปเรื่อยๆและคิดเช่นนี้ทุกวันไม่ขาด จะหมดวาระกรรมที่ทำให้จิตวิปริตที่ต้องชดใช้ในชาตินี้เมื่อไหร่คะ
3ครูบาอาจาร์ยของเมย์มีท่านใดบ้างคะ

 

สวัสดีครับคุณ tjs วันนี้ผมมีคำถามข้องใจมารบกวนให้ตอบครับ

สืบเนื่องจากผมที่เป็นคนนิสัยไม่ค่อยเอาโลก คือว่าการงานทางโลกผมไม่ก้าวหน้าไม่เจริญเลยว่างั้น ตั้งแต่เรียนจบมาทำงานผมย้ายที่ทำงานไม่ต่ำกว่า 5 ที่เข้าไปแล้ว ไปทำงานที่ไหนก็ไม่รอดอยู่ได้ไม่ถึงปีสักที่ บางที่อยู่ได้วันเดียวก็ต้องออก ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนที่เบื่องานทางโลกมากๆ เบื่อที่ต้องทำงานหาเงิน แต่ที่ทำอยู่ทุกวันก็เพราะจำใจทำ จะไม่ทำก็ไม่ได้ ดูแล้วอนาคตทางโลกของผมมืดมนแน่นอน เพราะผมไม่ชอบเป็นลูกน้องคน ไปเป็นลูกน้องเขาผมก็เครียด แต่ทุกวันนี้ผมก็ต้องจำทนไปทำงานเป็นลูกน้องเขานั่นแหละค่าแรงวันละ 300 ผมละเบื่อกับชีวิตแบบนี้ ที่ต้องทำงานหาเงิน มาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตนเองและครอบครัว ครั้นผมจะคิดหาทางทำกิจการของตนเองผมก็คิดไม่ออกเรื่องการงานทางโลกผมยอมรับเลยว่าโง่ที่สุด ขนาดเรียนจบอิเล็กทรอนิกส์ราชมงคลล้านนามาแล้ว พ่อแม่ส่งเสียให้เรียนหมดเงินกว่าครึ่งล้าน แต่ผมเรียนจบแล้วก็ไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาด้วยเลย นอกจากวุฒิหนึ่งใบ ตอนนี้ผมรู้ตัวว่าผมไม่ชอบอาชีพช่าง เพราะผมไม่ชอบคิดเรื่องทางโลกเลย หัวสมองเรื่องทางโลกผมเลยทื่อซื่อบื้อ ผมเลยเรียนได้วุฒิมาเสียเปล่า แต่มาทำงานเป็นพนักงานรายวัน ที่ไม่เกี่ยวกับช่างหรือวุฒิที่เรียนจบมาเลย เพราะงั้นแล้วชีวิตผมจึงลุ่มๆดอนๆเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ แค่ในรอบปี 57 กับ 58 นี้ผมเปลี่ยนงานมาแล้ว 3 ท่ี่ ไปทำงานที่ไหนก็ไม่รอดไม่ผ่าน ทะเลาะกับหัวหน้าบ้าง งานไม่ถูกใจบ้าง สารพัดปัญหาที่จะทำให้ผมเปลี่ยนงานใหม่อีก ซึ่งผมก็เบื่อกับชีวิตอย่างนี้มากๆ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร

สองสามวันก่อนเลยปรึกษากับแม่ ความจริงแม่ผมท่านอยากให้ผมเจริญก้าวหน้าในชีวิตทางโลกมากๆอยู่แล้ว ท่านบอกให้ผมไปสอบปูนซีเมนต์ไทย ผมก็ไม่ไป ให้ไปสอบการไฟฟ้า ผมก็เลี่ยงมาโดยตลอด บอกท่านว่าเขาสอบกรุงเทพ ผมไม่เคยไปกรุงเทพผมขี้เกียจไป ถ้าไปแล้วสอบไม่ได้ก็เสียเงินค่ารถหลายพันไม่คุ้ม น้าผมเป็นตำรวจ บอกให้ไปสอบตำรวจดูเขาเอาคนที่ผ่านการเป็นทหารเกณฑ์มาโดยเฉพาะ ผมก็ไม่เอาอีก เพราะถ้าสอบได้ตำรวจจริงๆ ผมก็มองเห็นอนาคตของตนเลยว่า ต้องเหนื่อยแน่นอน เพราะขนาดตอนฝึกตอนเป็นทหารเกณฑ์ก็เหนื่อยเกือบตายมาแล้ว ดีไม่ดีหน้าที่การงานอาจทำให้ศีลของเราจะมีปัญหาอีกด้วย ผมก็เลยปฏิเสธ ทุกอย่างไป และขอทำงานเป็นลูกจ้างรายวันๆละ 300 นี้ก็พอ เพราะผมเป็นพวกขี้เกียจทำงานทางโลก ผมมีความรู้สึกว่าทำไปเท่าไรมันก็ไม่พ้นทุกข์ ยิ่งทำมากก็ยิ่งทุกข์มาก เงินยิ่งอยากมีมากก็ยิ่งทุกข์มาก เพราะกว่าจะได้มาเราต้องไปทำงานแลกเงินนั้นมา ได้เงินมาเดี๋ยวมันก็หมดไม่ได้จะงอกเงยขึ้น วันที่เราดีใจก็มีแค่วันเดียวคือวันเงินเดือนออก แต่อีก29 วันที่เหลือคือวันที่เราต้องทนทุกข์ทำงานเพื่อแลกกับเงิน ตัวนำความทุกข์มาสู่เรา แต่ทุกวันนี้ผมก็ต้องทำงานหาเงินนั่นแหละ ถ้าไม่ทำงานก็ไม่ได้อีกเงินไม่มีกินก็มีปัญหาอีก เพราะเจ้าร่างกายมันต้องการอาหาร ผมละเบื่อมันจริงๆ เพราะไอ้ความคิดของผมมันสวนทางกับชาวโลกเขาอย่างนี้ผมเลยเบื่อที่จะต้องทำงานหาเงิน แต่ก็ต้องทนทำใจทำงานไปอย่างเซงๆทุกวัน คิดว่าเมื่อไรเราจะพ้นหรือเป็นอิสระจากสิ่งระยำเหล่านี้สักที

ผมเลยปรึกษาแม่ให้ไปถามท่านที่เขาทรงเจ้า เพราะท่านนี้มีเทวดามาบำเพ็ญบารมีกับท่าน เทวดาท่านพูดตรงไปตรงมา แม่นอย่างกับตาเห็น ทักไม่เคยผิด ก็แหงล่ะเทวดาท่านมีทิพย์ท่านเห็นได้ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งอดีตอนาคตได้สบายๆอยู่แล้วนี่ ผมเลยรบกวนให้แม่ไปถามท่านที่ทรงเจ้าให้หน่อยว่า เป็นเพราะอะไรชีวิตทางโลกถึงไม่ราบรื่น ทำงานที่ไหนก็ไม่เป็นท่า เงินก็ขาดแคลน อนาคตดูแล้วไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลย สงสารครอบครัว ถ้ามีวิธีแก้ไขได้ก็จะแก้ไขกัน แม่ก็สงสัยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วว่า ไอ้ลูกคนนี้มันไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรเลย บอกให้ไปทำงานดีๆมันก็ไม่เอา ทำงานที่ไหนก็ไม่รอด ชีวิตครอบครัวก็ง่อนแง่นคลอนแคลน ท่านจึงไปถามคนทรงเจ้าให้

ได้ความมาว่า "เทวดาที่มาบำเพ็ญบารมีกับคนทรงเจ้าได้บอกแม่ว่า มันเป็นกรรมของเขา เขามีกรรมมาอย่างนี้ เขายังชดใช้กรรมเหล่านี้ยังไม่หมด ถ้ากรรมหมดเมื่อไรเขาก็จะเป็นอิสระจากทางโลก ท่านบอกว่า นี่แม่ผมเล่าให้ผมฟังอีกทีนะ ท่านบอกว่า ท่านเห็นผม(กายทิพย์ของผม) นุ่งขาวห่มขาวอยู่ ท่านดูและได้กำหนดจิตดูถึงสองครั้งสองครา กายทิพย์ของผมก็ยังนุ่งขาวห่มขาวอยู่เหมือนเดิม ท่านบอกว่า คนๆนี้กำลังรอบวช แม่ผมก็ท้วงท่านไปว่า ลูกมันบวชไปแล้วรอบหนึ่งแล้วนี่ แต่เทวดาท่านทรงเจ้าก็บอกกลับมาว่า บวชแล้วรอบแต่กรรมไม่หมดจะต้องได้ไปบวชอีกแน่นอน เพราะใจเขาไปทางนั้นเป็นส่วนใหญแล้ว หมายถึงใจผมอยากละทางโลกที่สุดแล้ว ถ้าได้บวชอีกครั้งแล้วจะไปยาวเลยไม่มีกำหนดสึก ถึงกับเข้าป่าธุดงค์เลย ตอนนี้เหมือนเขารอเวลาอยู่ จิตใจของเขาไม่ได้มุ่งหวังทางโลกเลย เขาเลยทำงานหรือทำอะไรก็ติดขัดไปหมด ท่านพูดอย่างนี้ แม่ผมก็เล่าให้ผมฟังอีกทีหนึ่ง แล้วแม่ผมก็เป็นห่วงเรื่องครอบครัวของผม จึงถามท่านต่อไปว่า แล้วครอบครัวของมันล่ะ มันพึ่งมีครอบมีครัว ท่านบอกว่า ถ้าถึงเวลาเขาก็จากกันไปเอง เพราะลูกของแม่มีจิตใจไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางโลก แล้วแม่ผมก็ถามไปอีกว่าจะมีวิธีแก้ไขได้ไหมให้ชีวิตทางโลกเขาดีขึ้น ท่านบอกว่าไม่มีวิธีแก้เพราะมันเป็นเรื่องของกรรม

แม่ผมเล่าให้ผมฟังจนจบผมก็ทบทวนความเข้าใจตามไปด้วย ผมก็ทึ่งเลย เพราะทุกอย่างที่เทวดาท่านพูดบอกแม่ผมมาตรงกับใจตรงกับความคิดความรู้สึกของผมที่เป็นอยู่ในตอนนี้ทุกอย่างทุกประการเลย ผมเลยไม่มีอะไรค้างคาใจอีกว่าทำไมเรื่องทางโลกผมถึงมีปัญหาเยอะมากจัง เพราะผมต้องใช้กรรมให้หมดนั่นเอง

แต่มีข้อสงสัยอยู่ประการหนึ่งที่จะรบกวนถามคุณ tjs ที่เทวดาท่านเข้าทรงทักมาว่า "เห็นกายทิพย์ของผมนุ่งขาวห่มขาวอยู่นั้น หมายถึงอะไร ขนาดท่านกำหนดจิตดูตั้งสองรอบ ท่านบอกแม่ผมมาอย่างนี้ ดูแล้วก็ยังเห็นกายทิพย์ของผมนุ่งขาวห่มขาวเพื่อรอบวชอยู่อย่างเดิม" ผมสงสัยว่า จิตผมมันนุ่งขาวห่มขาวเองได้อย่างไร ทั้งๆที่ผมก็ไม่เคยคิดจะนุ่งขาวห่มขาวอะไรเลย หรือเป็นเพราะว่าผมเป็นคนรักษาศีลธรรม เพราะทุกวันนี้ผมรักษาศีล 5 ประการได้ครบถ้วนบริบูรณ์ เรื่องศีลนี้ผมทำได้ ผมสบายใจไร้กังวล เป็นเพราะเรื่องนี้หรือเปล่าจิตใจกายทิพย์ของผมมันเลยกลายเป็นคนนุ่งขาวห่มขาวไปเองโดยอัตโนมัติ ผมละสงสัยจริงๆเลย ขอรบกวนคุณ tjs ช่วยดูและตอบให้ผมด้วยครับ มันเป็นเพราะอะไร มันเกิดขึ้นได้อย่างไร รบกวนตอบให้หายสงสัยด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากๆครับ

 

อนุโมทนาสาธุบุญกับทุกๆท่านทุกๆประการครับ

สอบถามเพิ่มเติมครับ
1.มีเทพท่านใดรักษาอยู่ครับ
2.ตอนนี้ก็ปฏิบัติสายหลวงปู่ดู หลวงปู่ฤาษี สลับกันอยู่ครับ เลยสับสนเล็กน้อยว่าจะไปทางไหนดี
3.ทำงานด้านไหนจะดีครับ

 

พี่ครับพอดีผมมีคำถามครับ ผมเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้าครับ พระหลวงตาที่ผมลงรูปนี่ใช้ทำสมาธิได้ใช่ไหมครับเพราะเคยได้ยินมาอะครับว่าพระท่านใช้ช่วยทำสมาธิได้อะครับแล้วถ้าไม่ล่วงเกินจนเกินไปพี่ช่วยบอกพถทธคุณได้ไหมครับ ขอบคุณครับ

 

ก่อนอื่นขออนุโมทนากับท่านเจ้าของกระทู้ที่ได้แบ่งปันเรื่องราวดีๆให้กับทุกคนนะคะ ดิฉันอ่านแล้วใจนึงก็รู้สึกปิติยินดีไปกับท่านด้วยจริงๆที่สามารถพัฒนาการปฏิบัติได้ถึงระดับนี้ อีกใจนึงก็แอบรู้สึกหดหู่กับตัวเองเหลือเกินที่การปฎิบัติไม่ค่อยจะพัฒนาเอาเสียเลย แถมช่วงนี้ยังขี้หงุดหงิดขี้วีนขี้โมโห คิดอะไรก็พูดเหมือนผีเจาะปากมาพูดยังไงอย่างนั้นเลย ทั้งที่ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะพยายามสวดมนต์นั่งสมาธิไม่ให้ขาด(เพิ่งเริ่มนั่งสมาธิที่บ้านอย่างจริงจังเมื่อต้นปีนี้ค่ะ) ทั้งที่ตั้งใจจะเป็นคนดี แต่ทำไมบางครั้งความประพฤติของตัวดิฉันเองมันยังคงสวนทางกับความตั้งใจ ถ้าเทียบกับท่านจขกทแล้ว ท่านเปรียบเสมือนกับผู้ประสบความสำเร็จอยู่ในขั้นด๊อกเตอร์ ส่วนดิฉันยังไม่ออกจากครรภ์มารดาเลย ทำไมรู้สึกท้อแท้กับความประพฤติของตัวเองแบบนี้ก็ไม่ทราบค่ะ แต่อย่างไรเสีย ดิฉันจะนำประสบการณ์ที่ได้อ่านเรื่องราวของท่านแล้วจะค่อยๆเดินตามท่านไปทีละก้าวนะคะ ถึงจะค่อยๆเตาะแตะไปทีละก้าว แต่คงดีกว่าวันๆสร้างแต่บาปแต่กรรมให้ตนเองไม่รู้จักจบสิ้น

 

มัวแต่สาธยายความอัดอั้นตันใจของตนจนลืมสอบถาม ขอรบกวนด้วยนะคะ
1.คือดิฉัน(เกิด25กย22)จะจิตเป็นสมาธิเมื่อเวลาตั้งใจสวดมนต์แล้วจิตรู้สึกนิ่งมากๆ นิ่งขนาดที่ว่าในขณะสวดมนต์ ดิฉันนิมิตเห็นอนาคตอันใกล้และเกิดขึ้นจริง และมีปาฎิหารย์อื่นๆเกิดขึ้นอีกหลายครั้งในช่วงที่สวดมนต์หนักอย่างบ้าคลั่ง แต่เวลานั่งสมาธิจิตกลับไม่นิ่ง ถึงแม้จะบริกรรมใดๆอยู่แต่เหมือนเราจะชอบพูดโน่นพูดนี่อยู่ในใจทั้งที่บริกรรมอยู่ เช่นกำลังบริกรรม พุทโธ ในขณะเดียวกันก็เหมือนตัวเราอีกคนคอยภาคโน่นภาคนี่แทรก เช่น "พุท อืมทำดีแล้วล่ะอย่างนั้นล่ะหายใจเข้าแล้วก็หายใจออก" คือ..รู้สึกเหมือนตัวเองเหมือนคนบ้าค่ะ ทำไมเป็นแบบนี้ไม่ทราบ ในทุกๆวันที่นั่งสมาธิก็เลยจะทำได้ไม่นานก็ต้องรีบออกจากสมาธิ จะเป็นไปได้มั้ยคะถ้าดิฉันจะใช้วิธีสวดมนต์อย่างเดียวแทน แล้วหากจิตนิ่งในระหว่างสวดมนต์จะได้บุญเหมือนกันกับการนั่งสมาธิธรรมดามั้ยคะ
2.สับสนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยคุ้มครองเรานั้นสามารถมีได้หลายๆองค์หรือไม่คะ แต่ละองค์จะมาในเวลาอันสมควรด้วยหรือเปล่าคะ คือเริ่มฝันเห็นสิ่งศักดิ์สิทธ์องค์แรกตอนดวงตกหนักที่สุดในชีวิ ก็คือรัชกาลที่5 พระพิฆเนตร ต่อมาก็เป็นสมเด็จพุฒาจารย์โตให้สวดชินบัญชร หลวงปู่ทวด เจ้าแม่กวนอิม ล่าสุด2ปีนี่ฝันเห็นแต่พญานาคราชบ่อยมากจนรู้สึกหลอนค่ะคือกลัวๆท่านน่ะค่ะเพราะในฝันท่านว่ายน้ำตามด้วย(เมื่อก่อนไม่เชื่อว่าท่านมีอยู่จริง)เลยงงว่า แต่ละองค์จะสลับกันมาในฝัน แต่ที่เห็นทุกปีคือพระพิฆเนตรค่ะ ที่ฝันเห็นท่านทั้งหลายเหล่านี้เพราะท่านมาคุ้มครองหรือเปล่าคะ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้สับสนว่าเราคิดไปเองหรือเปล่าเพราะคิดเสมอว่าเราเองก็ไม่ได้เป็นคนดีมากพอที่จะมีใครมาคุ้มครองเยอะแยะ และดิฉันก็เพิ่งจะเริ่มสวดมนต์และสนใจธรรมมะมาได้5-6ปีมานี้เองค่ะ(แต่ดิฉันเกิดมาได้เพราะแม่
ขอมาจากพระพรหมค่ะเพราะจริงๆแม่มีลูกไม่ได้เพราะร่างกายอ่อนแอมากพอเกิดมาแม่ก็ต้องยกให้เป็นลูกพระหลายวัดจนนับไม่ถ้วนเพราะดิฉันก็ขี้โรคและคนทักเยอะว่าไม่รอดจนมาจบลงที่หลวงพ่อโสธรค่ะ)
3.ตั้งแต่หันมาศึกษาธรรมมะ สวดมนต์ และปฎิบัติธรรม ชีวิตก็แย่ลงมากค่ะ แทบจะกินน้ำตาต่างข้าวเลย ที่บ้านโดนโกง ตกงานเพราะต้องดูแลแม่ที่ป่วยและตัวดิฉันก็ป่วยหลายโรคเช่นกัน หนี้สินล้นพ้นจนหมุนไม่ทันเพราะรายจ่ายต่อเดือนมากกว่ารายได้ แต่ก็ทราบแหละค่ะว่ากรรมเก่าคงเยอะเลยต้องใช้ให้เค้าไป แต่อยากสอบถามให้แน่ใจว่าดิฉันมาถูกทางแน่ๆแล้วใช่มั้ยคะหรือผิดพลาดตรงไหน แล้วชีวิตยังมีโอกาสกลับมาดีมั้ยคะคือไม่ต้อง มีเงินเหลือเฟือเหมือนเมื่อก่อนแต่ขอแค่ไม่มีหนี้สินและสามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ก็พอค่ะ
4.เพิ่งรู้จักกับบทสวดพญายม(ปะโตเมตังฯ)และสวดมาอาทิตนึง แต่แอบสงสัยว่า บทสวดนี้เป็นบทสวดที่ได้มาจากท่านพญายมราชจริงหรือไม่คะ เห็นบางเวปไซส์ก็มีบางคนที่มีความเห็นเกี่ยวกับบทสวดไปในทางลบ

ขอประทานโทษที่ต้องรบกวนให้อ่านจนยืดยาวนะคะ และขอบพระคุณสำหรับความเมตตาที่ช่วยชี้นำหนทางแห่งแสงสว่างให้กับเพื่อนๆทุกคนค่ะ ขอให้ท่านจขกทเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ

 

รอคำตอบเหมือนกันค่ะ อยู่หน้า 64 ขอบพระคุณค่ะ

 

==========

การเจริญสมาธิของคุณ ต้องฝึกแบบสมาธิแบบสติปัฏฐาน4 ตามแบบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ครับ เน้นกรรมฐานและสติปัฏฐาน4 แล้วจะดีมากครับ จะก้าวหน้าในสมาธิและในธรรมสูงขึ้นเร็วขึ้นครับ ส่วนการปฏิบัติที่ผ่านมาก็ถือว่าทำได้ดีพอสมควรแล้วครับ ให้ฝึกต่อยอดให้ดีนะครับแล้วจะก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นครับ

เทพพรหมที่คุ้มครอง มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นำปฏิบัติ เป็นแม่ชีปะขาวท่านหนึ่ง ครับ เทพมีพระแม่คงคา และพระแม่ธรณี คุ้มครองครับ นอกกจากนี้ ยังมีบรรพบุรุษ คุ้มครองครับ เป็นชายแก่วาสนาดีมีบุญมากท่านหนึ่งคุ้มครองครับ

การปฏิบัติธรรม การกระทำทั้งปวงที่ดีงามเป็นกุศล เทพพรหม เขาจะชักนำให้สร้างและร่วมอนุโมทนาเสมอครับ

ปั้นปลายชีวิตจะพบกับความสุข ทางโลกและทางธรรมครับ

 

ขอบคุณคุณ tjs มากมากเลยคะ ถ้ามีข้อสงสัยอะไรจะรบกวนอีกนะคะ

 

==================

ผมได้ตอบคำถามให้แล้วนะครับ ขอให้มีความเจริญยิ่งๆขึ้นไปทั้งทางโลกและทางธรรม อนึ่งด้วยเห็นว่าเป็นผู้มีวาสนาร่วมกับหลวงปู่ทวด จึงส่งพระหลวงปู่ทวดให้ไว้บูชาตามรูปที่แนบมาให้ครับ เป็นเหรียญหลวงปู่ทวดปี2505 รุ่นสี่พิมพ์ช้างปล้องเดิมกะไหล่ทอง แต่กะไหล่ได้จางไปมากแล้วครับ ถือว่าเป็นวาสนาของคุณนะครับ ปู่ท่านสื่อมา เพราะคุณทำบุญทานสั่งสมมามาก จึงมอบให้คุณไว้เพื่อบูชาครับ

สาธุ

 

อนุโมทนาบุญด้วยครับ ผมก็โดนคนทรงเจ้าทักคล้ายๆ แบบคุณนิพพานสุขเลยครับ
องค์เทพที่ทรง ท่านบอกกับแฟนผมว่า สุดท้ายผมก็ต้องไปบวชและธุดงค์ เพราะบารมีผมไปทางนั้น อาจไปถึงอินเดียโน่นเลย ผมฟังก็แปลกใจเหมือนกันครับ ท่านก็รู้ว่าเราถือศีลอยู่ เรื่องทางโลกตอนนี้ผมก็ลุ่มๆ ดอนๆ เหมือนกัน แต่อย่างน้อยแฟนผมก็รับช่วงธุรกิจจากแม่ผมต่อไป และยังทักอีกว่า หากผมถือศีล ภาวนา ก็จะทำให้การงานของแฟนก็ดีขึ้นไปเรื่อยๆ และยังทักอีกหลายๆ เรื่องครับ
เรื่องของอนาคตไม่อาจคาดหวังอะไร หากวาสนาไปทางนั้นจริงๆ ก็พร้อมเสมอทั้งกายและใจครับ แต่เรื่องสมาธิผมยังไม่ไปไหนเลยครับ 55555

หากถึงเวลาที่คุณนิพพานสุขได้ครองผ้าเหลืองตลอดชีวิต ผมก็ขออนุโมทนาบุญด้วยใจจริงๆ นะครับ

 

==================

ขออนุโมทนาในสัมมาทิฏฐิ คิดดีแล้วครับ ทำก็ทำดีแล้วครับขอให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปครับ

 

================

ขออนุโมทนาครับ ท่านใดที่ปราถนา สละทางโลก ตั้งใจบรรพชา ในอนาคตกาลอันใกล้นี้ ขอให้สมปราถนาทุกประการครับ อุปสรรคใดๆขอให้มลายหายหมดสิ้นไปครับ ขอให้ก้าวสู่ทางธรรม ได้สำเร็จครับ

สำหรับกระผมก็ปราถนาออกบรรพชาเหมือนกันครับ วาสนาเรามีร่วมกันแน่นอน ถึงเวลานั้นผมเชื่อว่าเราจะได้พบกันแน่นอนครับ นอกจากนี้ยังมีสหายธรรมผมอีกมากมายครับ เป็นกลุ่มใหญ่หลายท่านครับ
เพราะเรามีหน้าที่อันเดียวกันครับ เป็นบารมีเดิมที่ตั้งไว้ดีแล้วตั้งแต่อดีตชาติครับ

 

==============

พระที่ลงรูปให้ชมนั้นเปี่ยมด้วยพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พร้อมด้วยอานุภาพรอบด้านครับ ดีมากๆครับ

หากจะใช้เป็นสังฆานุสติก็ได้ครับดีมากครับ ความจริงหลวงปู่ดู่ท่านเป็นบรมครูองค์หนึ่ง สายพระโพธิสัตว์ ทรงอารมณ์พระอาคามีเฉียดพระอรหันต์ รอบรู้ในธรรมเสมอเท่าพระอรหันต์ควรแก่การสักการะบูชาพระองค์หนึ่งครับ สาธุ

 

ตอบคุณ มหาเมตตา ครับ
======================


1. รูปปั้นสักการะพระพิฆเนศห้วยขวาง แท้จริงแล้วมีเทพเทวดากี่องค์วนเวียนมาดูแล? แต่ละองค์อยู่บนสวรรค์ชั้นใดบ้าง? แต่ละองค์มีความเป็นอริยะหรือไม่? ถ้าเป็นอริยะอยู่ในระดับใด?
=============
ศาลพระพิฆเนศ ที่ห้วยขวาง เป็นศาลที่มีเทพดูแลรักษาหลายพระองค์ครับ องค์บรมเทพคือท่านพ่อพระศิวะและพระแม่อุมาเทวีท่านคุ้มครอง มีเทพทั้งครุต นาคราชทั้งสี่ดูแล มีเทพพารักษ์เจ้าที่ดูแล นอกจากนี้ยังมีบริวารเทพและจิตเจ้าที่เจ้าพ่อดูแลด้วยส่วนหนึ่ง มีหลายจิตครับ
สายพระอริยะมีเกี่ยวข้องกับศาลแห่งนี้ท่านก็มีมาโปรด เช่นกันเป็นพระสงฆ์รูปหนึ่ง ชั้นพระอนาคามีครับ

2. ที่ศาลพระพิฆเนศห้วยขวาง โดยปกติมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสถิตอยู่จำนวนเท่าใด? แบ่งเป็นภูมิจิตอริยะจำนวนเท่าใด? แบ่งเป็นภูมิจิตธรรมดาไม่ใช่อริยะหรือจิตวิญญาณทั่วไปจำนวนเท่าใด?
=========================
แบ่งเป็นอรูปภูมิ 4พระองค์
รูปภูมิ 3-5พระองค์
เทวดากามจรหลายพระองค์ เทวดารบริวารหลายพระองต์
เทพารักษ์เจ้าที่อีกหลายองค์
และพระอนาคามี1องค์ที่มาโปรด แต่อาจจะมีมารกกว่านี้ก็ได้ไม่สามารถรู้ได้หมดครับ

3. ศาลพระพิฆเนศห้วยขวาง นอกจากเทพเทวดาแล้วยังมีพระอรหันต์และพระโพธิสัตว์วนเวียนมาสถิตดูแลหรือมาสร้างบารมีช่วยเหลือมนุษย์หรือไม่?
============================
มีพระโพธิสัตว์ หลายพระองค์ครับ มีพระแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์ทางอินเดีย พระอริยะสงฆ์ พระพรหม พระอินทร์ มีหลายพระองค์เคยมาครับ

4. ท่านพระพิฆเนศห้วยขวางหรือเทพเทวดาที่สถิตอยู่ในรูปปั้นสักการะพระพิฆเนศองค์ใดที่มีความเกี่ยวข้องกับผม และมีความเกี่ยวข้องอย่างไร?
=======================
เกี่ยวข้องหลายพระองค์ครับ ที่เกี่ยวข้องเพราะอดีตชาติเคยสั่งสมบารมีสร้างร่วมกันมา เป็นทั้งบุตร บริวารและศิษย์ และก่อนมาเกิดคุณก็เป็นเทพที่ได้ใกล้ชิดกับท่านเพราะท่านจะมาโปรดสายบุญของท่าน

5. วันที่ผมตั้งจิตยกท่านเป็นครูบาอาจารย์ ลมพัดแรงที่เกิดขึ้นนั้น ใช่เป็นเพราะฤทธิ์ของท่านพระพิฆเนศห้วยขวางหรือไม่? หรือเป็นเพียงลมพัดธรรมดาทั่วไป?
====================
เป็นจริงตามที่คุณรับรู้ครับ พระพิฆเนศท่านแสดงฤทธิ์ให้เห็นครับ

6. พระพิฆเนศห้วยขวาง ท่านใช้บารมีของท่านช่วยเปิดจิตชี้ทางให้ผมเข้าสู่ทางธรรมใช่หรือไม่? หรือว่า เป็นเพราะสิ่งศักด์สิทธิ์ท่านอื่น ถ้าเป็นท่านอื่น สรุปแล้ว เป็นท่านใด? ชื่ออะไรครับ?

7. ท่านพระพิฆเนศต้องการจะบอกกล่าวอะไรกับผู้ที่ศรัทธาและมากราบไหว้ท่านหรือไม่?
========================
ท่านปราถนาช่วยเหลือผู้อื่นตามหน้าที่ของท่าน และปราถนาให้พวกเราทั้งหลายพึงสร้างความดี สร้างบารมีของตนและช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อความเจริญ เพื่อความสุขสืบไป

8. “คุณมีสายทางทิเบตครับ” ข้อความนี้ ทำให้จิตผมรู้สึกได้ว่า ผมกับคุณ tjs ในอดีตชาตินั้น เคยเกิดและบำเพ็ญเพียรพร้อมกันในทิเบตยุคสมัยใด? และเรา 2 คนเกี่ยวข้องกันอย่างไร? จากผลการบำเพ็ญเพียรจิตในทิเบตนั้น เมื่อเรา 2 คนตายไปแล้ว แต่ละคนไปเกิดในภพภูมิใด? และชาติก่อนที่จะเกิดในทิเบตร่วมกันนั้น ผมกับคุณ tjs เกิดเป็นอะไรในภพภูมิไหน? ซึ่งพอผมเขียนถึงตรงนี้ ทำให้ผมรู้เพิ่มขึ้นมาอีกเกี่ยวกับคุณ tjs ว่า โดยปกติวิสัยของคุณ tjs นั้นไม่ชอบที่จะใช้คุณวิเศษเพื่อการดูที่พร่ำเพรื่อให้เกิดกิเลส ดังนั้น จึงเป็นเหตุอีกประการหนึ่ง ที่ครูบาอาจารย์ของคุณ tjs ต้องการดึงท่านให้มีส่วนร่วมในกิจหน้าที่ที่ผมกล่าวไว้ข้างต้นโดยไม่เกิดความรู้สึกผิดมาก ถึงแม้ว่า หลายครั้งที่คุณ tjs ก็ลำบากใจไม่อยากจะตอบไม่อยากจะยุ่งเช่นกัน ซึ่งผมก็เป็นเช่นกัน แต่ถ้าเราใช้จิตพิจารณาให้ดีแล้ว เราย่อมเห็นถึงคุณค่าที่ได้กระทำไป แม้มันจะถูกบ้างผิดบ้างก็ตาม ล้วนแล้วคือ “บททดสอบของจิต” ทั้งนั้น สิ่งที่ผมได้เอื้อนเอ่ยไปข้างต้นอาจเป็นเพียงความฟุ้งซ่านอุปทานเท่านั้น ขอท่านอย่าได้ใส่ใจเลยครับ
=============

ข้อที่8นี้มีความซับซ้อนของกรรม ในอดีต
ถูกต้องผมเคยเกิดที่ทิเบต เป็นคนจีน มาก่อน ย้อนไป5ชาติจากปัจจุบัน ผมเกิดที่ทิเบต เป็นนักบวชของทิเบต ส่วนคุณก็เช่นกันเราเคยเจอกันและเคยปฏิบัติธรรมในที่แห่งนั้น หลังจากตายไปก็ได้เกิดเป็นพระทรงศีล อยู่ชั้นรูปภูมิยามาวดี
แต่เราปราถนาพุทธภูมิ จึงยังต้องลงมาเกิดอีก เรามีเทพทั้ง ไทย พราหม จีน เป็นนายใหญ่ผู้ชี้แนะให้คำแนะนำ สั่งสอนครับ

หลังจากมาเกิดมาเราก็แยกย้ายกันไป แต่คุณยังกลับไปเกิดที่ทิเบตอีก ในชาติที่แล้วของคุณ ส่วนผมได้ไปเกิดในอยุธยา อินเดีย และละโว้คือลพบุรีในชาติสุดท้าย

แต่ด้วยวิบากกรรมที่เคยร่วมสร้างกันมาจะต้องทำให้ได้มาพบเจอรู้จักกันอีกครับ สาธุ

 

ขอความกรุณาด้วยครับผมโพสต์ ไว้ที่หน้า 62 เเละ 65 ยังไม่ได้ดูให้เลยครับ

รบกวนท่าน tjs ด้วยนะครับ

ผมเกิดวันที่ 22 เมษายน 2529
1.อยากรบกวนถามเรื่องกรรมเเละวิธีแก้ที่ทำให้ชีวิตดียิ่งๆขึ้นไปครับ

2.อยากถามเรื่องการปฏิบัติที่เหมาะกับตนเอง ตลอดจนครูบาอาจารย์ที่รักษาครับ
3.ต้องทำงานด้านไหนถึงจะดีครับ

ขอบคุณครับ