แก้ไขความเข้าใจผิดของลูกศิษย์หลวงตามหาบัว(บางคน)และเรื่องนิพพานอนัตตา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้, 13 พฤศจิกายน 2014.

  1. ธรรมแท้

    ธรรมแท้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +200
    เนื่องจากมีผู้ที่อ้างว่าเป็นลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัว
    ได้แอบอ้างว่า พระพรหมคุณภรณ์ (ปยุต ปยุตโต , ปธ.9)
    ได้ไปหาหลวงตามหาบัว และยอมรับเรื่องนิพพานคือนิพพาน นิพพานไม่ใช่อนัตตา

    ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง จึงขอให้ผู้ที่อ้างว่าเป็นลูกศิษย์หลวงตามหาบัวนั้น อย่าได้นำ เทศนาที่พาดพิง เรื่องเจ้าคุณประยุทธ
    ไปแอบอ้าง

    เพราะไม่เป็นความจริงและจะนำความเสื่อมเสียมาสู่ตัวท่านเอง และอาจารย์ที่ท่านนับถือคือหลวงตามหาบัว

    พระพรหมคุณภรณ์ (ท่านเจ้าคุณ ปยุต ปยุตโต)

    ได้ชี้แจงเรื่องเข้าใจผิดของ ลูกศิษย์หลวงตามหาบัวที่ แอบอ้างว่า เจ้าคุณประยุทธ ไปหาหลวงตามหาบัว ในหนังสือ พระไทยใช่เขาใช่เรา นิพพาน อนัตตา ดังนี้
     
  2. ธรรมแท้

    ธรรมแท้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +200
    ลูกศิษย์ควรรักษาพระอาจารย์ตามธรรม

    ลูกศิษย์ควรรักษาพระอาจารย์ตามธรรม

    ทีนี้ ที่ว่าเขียนความนี้ไว้เพียงเพื่อเป็นการไม่ประมาทนั้น ก็ดังที่กล่าวแล้ว คือ จะต้องไม่ละเลยการส่งเสริมและรักษาประโยชน์ทางธรรมทางปัญญาของประชาชน อย่างน้อยก็ไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดที่จะทำให้เขวในการศึกษาปฏิบัติธรรม

    ความเข้าใจผิดตามข้อเขียนที่กล่าวถึงพระพรหมคุณาภรณ์โดยโยงไปถึงหลักธรรมนั้น ก็ยังเป็นเรื่องกว้าง* แต่ในกรณีนี้ มีความเข้าใจผิดที่จำเพาะเจาะจงกว่านั้น

    เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ขอเล่าเรื่องให้รู้และตระหนักกันไว้

    เมื่อเดือนมกราคม ๒๕๔๙ วันหนึ่ง ได้รับเอกสารส่งมาทางไปรษณีย์ (คงสอดใส่มาในซองจดหมาย) เป็นใบบันทึก "เทศน์อบรมฆราวาส ที่วัดป่าบ้านตาด" มีเพียงใบบันทึกคำเทศน์นั้น ไม่บอกว่าใครส่งมา แต่แน่ใจว่าเป็นผู้หวังดีส่งมาเพื่อให้ทราบเรื่อง

    ใบบันทึกนั้น ซึ่งมีข้อความ ที่แสดงว่าเป็นเอกสารของวัดหรือองค์กรที่สนองงานของหลวงตามหาบัวนั่นเอง (เช่นบอกสถานีวิทยุ และ web site ที่จะชมจะฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา) ดังที่บอกแล้วว่า เป็นบันทึก "เทศน์อบรมฆราวาส ที่วัดป่าบ้านตาด" มีคำเล่าของหลวงตา พร้อมทั้งคำแทรกเสริมของผู้ฟัง



    ในบันทึกเทศน์นั้น ตอนหนึ่ง (ท่านที่ส่ง ปณ. มา ทำเครื่องหมายไว้เป็นพิเศษ) บอกความทำนองว่าพระพรหมคุณาภรณ์ได้ไปหาที่วัดหลวงตา และไปยอมรับคำเทศน์ของหลวงตาที่ว่านิพพานเป็นนิพพาน ไม่เป็นอัตตา ไม่เป็นอนัตตา

    เนื่องจากข้อความในบันทึกเทศน์นั้น บอกเรื่องราวที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง

    ที่ว่า "เจ้าคุณประยุทธ์" ไปหาที่วัดหลวงตา ในปี ๔๙ ก็ไม่เป็นจริง

    และที่ว่า "เจ้าคุณประยุทธ์" ยอมรับตามที่หลวงตากล่าว ก็ไม่เป็นความจริง

    แต่ความผิดพลาดนี้คงเกิดจากลูกศิษย์ของหลวงตา

    (ตั้งแต่ปีถัดจากรับการผ่าตัดใหญ่ใน พ.ศ. ๒๕๔๐ แล้ว พระพรหมคุณาภรณ์ มีสภาพร่างกายที่ทำให้ไม่ได้ไปในสถานที่สำคัญนอกวัดเลย แม้แต่พระมหาเถระที่เคารพนับถือ ซึ่งเคยไปนมัสการอย่างน้อยเมื่อเข้าสู่เทศกาลพรรษาทุกปี ก็หยุดหมดตั้งแต่นั้นมา จึงไม่มีทางเป็นไปได้ ที่จะไปหาที่วัดหลวงตามหาบัว หรือไปหาหลวงตามหาบัวในที่ไหนๆ)

    เพื่อไม่ประมาท ไม่ควรปล่อยให้คนเข้าใจผิด ถึงจะไม่ต้องการให้เป็นเรื่องราวเอะอะไป อย่างน้อยก็ควรทำอะไรให้มีเป็นหลักฐานแสดงความจริงไว้

    จึงตกลงว่าให้ทำคำ "ชี้แจงข่าว" พิมพ์ไว้ใน ข่าวสารญาณเวศก์ ซึ่งเผยแพร่อยู่ในวงแคบๆ ดังความในเอกสารนั้น ปีที่ ๒ ฉบับที่ ๗ (มกราคม ๒๕๔๙) ดังนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2014
  3. ธรรมแท้

    ธรรมแท้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +200
    ชี้แจงข่าว

    ชี้แจงข่าว



    มีผู้ส่งคำเทศน์ของหลวงตามหาบัวทางไปรษณีย์ (แต่ไม่ได้บอกชื่อที่อยู่ของผู้ส่ง คงจะส่งด้วยความหวังดีให้ทราบข่าว) เป็นคำเทศน์เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๔๙ นี้เอง ในตอนท้ายมีความตอนหนึ่งว่าดังนี้




    แต่ตามความเป็นจริง ท่านเจ้าคุณไม่ได้ไปหาหลวงตามหาบัว ตามข้อความที่คัดมาข้างต้นนี้ เมื่ออ่านดูก็เห็นได้ว่า คงเป็นเสียงของลูกศิษย์ พูดแทรกบอกหลวงตา (สังเกตจากข้อความที่ใส่ในเครื่องหมายวงเล็บ) หลวงตาท่านก็คงเชื่อ หรือว่าไปตามลูกศิษย์ อย่าเพิ่งไปด่วนว่าท่าน

    เรื่องนิพพานไม่เป็นอัตตานั้น ท่านเจ้าคุณบอกว่าเอาหลักที่เป็นของกลางมาบอกให้ทราบไว้ หลักว่าอย่างไร ก็ว่าไปตามนั้น ไม่ใช่เป็นความเห็นส่วนตัวของท่านเจ้าคุณเอง จึงไม่ต้องไปที่ไหนหรือรอฟังใครอีก


    จบคำชี้แจงใน ข่าวสารญาณเวศก์ แค่นี้ คราวนี้ก็ควรนำคำชี้แจงนั้นมาลงไว้ที่นี่ด้วย เพราะ ข่าวสารญาณเวศก์ นั้นอยู่ในวงจำกัด เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่พระคึกฤทธิ์พูดเรื่องนิพพาน - อัตตา - อนัตตา ขึ้น โดยโยงไปถึงทั้งหลวงตามหาบัว และพระพรหมคุณาภรณ์ ก็อาจจะมีลูกศิษย์ของหลวงตา หรือใครที่ไม่ได้อ่าน ข่าวสารญาณเวศก์ นั้น และตั้งแต่ฟังหรืออ่านคำเทศน์ของหลวงตาคราวนั้น ก็ไม่ได้ทราบอะไรที่จะแก้ความเข้าใจผิด ยังคงเข้าใจผิดอยู่ ก็จะยกเอาคำเทศน์ของหลวงตาคราวนั้นขึ้นมารับสมอ้าง ก็จะขยายความเข้าใจผิดไปกันใหญ่ จึงต้องนำมาลงไว้

    อย่างที่ว่าแล้ว อย่างน้อยก็เพื่อความไม่ประมาท พร้อมกันนั้นก็ขออภัยท่านด้วยที่กลายเป็นการพาดพิงไปถึงหลวงตา ด้วยเหตุผลที่เป็นความสมควรอันจำเป็น

    อย่างที่บอกแล้วว่า ตามบันทึกเทศน์ของท่านนั้น หลวงตามหาบัวก็คงเชื่อหรือว่าไปตามลูกศิษย์ คือพูดไปตามเสียงของลูกศิษย์ ที่พูดแทรกหรือแซงขึ้นมา จึงไม่ควรไปด่วนว่าท่าน เป็นปัญหาจากลูกศิษย์ของท่านที่ว่า จะด้วยการพูดโดยไม่ดูให้ชัด พูดเรื่อยเปื่อย หรือเจตนาพูดเท็จก็ตาม ก็เป็นการทำความผิดความเสียหาย ซึ่งถ้าไม่ระวังให้ดี ก็จะทำให้หลวงตาเสียได้ (สำคัญที่ลูกศิษย์)

    หลวงตาท่านเป็นพระมหาเถระผู้เฒ่าปูนนี้แล้ว ควรช่วยกันถนอมรักษาท่านไว้ให้ดี เมื่อเคารพรักท่านจริง ก็ต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง

    อย่างในกรณีนี้ ก็ต้องบอกว่าหลวงตาพูดไปตามเสียงที่ลูกศิษย์บอกว่าอย่างนั้นๆ เมื่อท่านพูดเผลอพูดพลาดไป ก็ควรจะให้อภัย แต่ถ้าพูดว่า หลวงตามหาบัวบอกว่าเจ้าคุณประยุทธ์ไปยอมรับกับท่าน หรือแม้แต่ว่าไปหาหลวงตา ก็จะกลายเป็นว่าหลวงตาพูดไม่จริง นี่ก็คือการที่ลูกศิษย์กลายเป็นผู้ประทุษร้ายหลวงตาเสียเอง

    เพราะฉะนั้น จึงควรถือเป็นหน้าที่อันสำคัญ ที่จะต้องช่วยกันทะนุถนอมรักษาท่านไว้ให้ถูกต้องตามวิถีทางแห่งธรรม ตั้งแต่ไม่นำท่านไปอ้างอย่างไม่ระมัดระวัง อย่างที่กล่าวมาแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2014
  4. ธรรมแท้

    ธรรมแท้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +200
    ลูกศิษย์ที่ไม่ใช้ปัญญาพิจารณาอย่างแยบคาย
    ย่อมเอาแต่ copy and paste โดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าอะไรถูกอะไรผิด
     
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    คุณ ธรรมแท้ ไม่ทราบว่าข้อมูลข้างบนที่กล่าวถึง แม้แต่ที่อ้างว่า ท่านอาจารย์ประยุต กล่าวถึง ตลอดจนข้อมูลที่เกี่ยวข้อง พอที่จะมีข้อมูลหลักฐาน หรือ พอจะบ่งชี้ถึงที่มา ที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่หน้าเชื่อถือ มีบ้างหรือไม่ครับ.....
     
  6. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ความเป็นอัตตา และอนัตตา มีอะไรเป็นเครื่องแบ่งแยกหรือชี้วัดครับ

    การกล่าวถึงพระนิพพาน ในแต่ละโอกาส สื่อความอย่างไร

    แท้จริงแล้วพระนิพพาน เป็นอัตตา หรืออนัตตา หรือไม่ใช่ทั้สองอย่าง หรืออย่างไรครับ


    ==================

    แล้วแท้จริงนิพพานคืออะไร คำตอบ นิพพานคือนิพพาน ไม่เป็นอย่างอื่น ไม่เป็นอัตตา ไม่เป็นอนัตตา

    นิพพานคือนิพพาน ภาษาพระท่านเรียก เป็นสภาวะธรรมธาตุ

    หรือจิตนิพพาน ตัวจิตนี้มันไม่มี มันกลายเป็นธรรมธาตุ ที่อาศัยใสอยู่ในสภาวะธรรมธาตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2014
  7. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    สำหรับผม พระนิพพาน เป็นได้ทั้งอัตตา อนัตตา และไม่ใช่อัตตา และไม่ใช่อนัตตา ขึ้นอยู่กับสภาวะ หรือเหตุปัจจัยประกอบในขณะนั้นว่าเรากล่าวสภาวะที่เกี่ยวกับอะไร กล่าวกับใคร กำลังสื่ออะไรให้เขาเข้าใจหรือเขาสนใจอะไร ในขณะนั้น

    ทุกครั้งที่ใครกล่าวอะไร ผมจะไม่ชี้ชัดด้วยความจำได้หมายรู้แต่ผมจะชี้ชัดด้วยปัญญา ปัญญารู้ได้เพราะอาศัยปัจจัยมูลเหตุ สภาวะ ผลที่ได้รับ รวมทั้งภูมิรู้ที่ต้องนำมาประมวลครับ คือเครื่องชี้ชัดแบ่งแยกบ่งบอกครับ
     
  8. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    ของจริง กับ ของปลอม เถียงกันไม่รู้จักจบสิ้น
    เช่นเดียวกับ "รู้จริง" กับ "รู้จำ" จะคุยกันรู้เรื่องได้เหรอ 555+ คนจำมะจาาา
     
  9. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นอนัตตา คือไม่ควรยึดมั่น

    สิ่งใดเที่ยง สิ่งนั้น เป็นอัตตา คือควรยึดมั่น อย่างนั่นหรือ

    นิพพาน ละ เที่ยง หรือไม่เที่ยง
    ถ้าเที่ยง ควรยึดมั่น หรือไม่ควรยึดมั่น
    ถ้าไม่เที่ยง ละ ควรไม่ยึดมั่น หรือควรยึดมั่น

    ถ้ากล่าวในสภาวะโลกิยะเป็นแบบไหน
    ถ้ากล่าวในสภาวะโลกุตระเป็นแบบไหน

    ถ้ากล่าวกับปุถุชนต้องกล่าวอย่างไรแบบไหน
    ถ้ากล่าวกับอริยะบุคคล อรหันตบุคคล ต้องกล่าวแบบไหนอย่างไร

    หรือถ้ากล่าวกับผู้ยังไม่รู้ไม่บรรลุต้องกล่าวอย่างไร
    ถ้ากล่าวกับผู้รู้คือผู้บรรลุแล้ว ต้องกล่าวอย่างไรแบบใด

    การชี้ชัดในความถูกต้องของการกล่าว จึงไม่ใช่การจำได้หมายรู้ หากแต่การกล่าวจึงขึ้นอยู่กับสภาวะ เหตุปัจจัยประกอบ บุคคล สถานะ ภูมิรู้ประสพการณ์ประมวลผล เป็นต้นครับ
     
  10. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    tjs ฌาน สมาธิ คุณยังไม่ได้ เมื่อยังไม่ได้ จะเอาอะไรมายึด เมื่อไม่มีที่ยึด จะเอาอะไรมาละ

    เม้าส์..เหนียวไก่ ไปเรื่อย
     
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ===============

    ที่ไม่ได้ฌาณ เป็นเพราะผมมีแล้วแต่ไม่ได้ยึดในฌาณที่มี ที่ไม่ยึดฌาณที่มี เป็นเพราะมีญาณเป็นกำลัง ไม่เหมือนบางท่านครับ

    ว่าแต่บางท่านเห็นมีทั้งฌาณและญาณ แถมบินสูง จนน่ากลัว ครับ

    แปลกนะครับ แปลกแต่จริงครับ
     
  12. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    จะของใครอ้าง ผมว่ามันก็สืบสาวหาความจริงไม่ได้หรอก เพราะมันก็ต่างฝ่ายต่างอ้าง
    เอาเป็นว่า มาทำความเข้าใจความหมายของคำว่า อนัตตา ก่อน แล้วก็พิจารณานิพพานกันเอาเอง น่าจะได้ข้อสรุป
    ปัญหาพวกนี้มันเกิดขึ้นแค่เพียงเพราะ การตีความคำว่า อนัตตา ที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง
     
  13. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    สรรพสิ่งล้วนแปรเปลี่ยนสภาพไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา นี่คือความเป็นอนิจจังของสังขารโลก

    หากเราไปยึดไว้ว่ามันมีอยู่ หรือ มันเป็นของเรา เรียกว่า มีความเป็นอัตตาตัวตน เกิดจากอุปาทาน ความเข้าใจผิด
    การที่เราเห็นเช่นนี้ เป็นเพราะยังมีมิจฉาทิฏฐิ ยังไม่อาจมองเห็นโลกตามความเป็นจริงได้
    เมื่อไหร่ก็ตามที่มองเห็นได้ตามจริง คือเห็นอนิจจัง ผู้นั่นจะเกิดสัมมาทิฏฐิ หรือดวงตาเห็นธรรม เป็นพระโสดาบันบุคคล ท่านมองเห็นแล้วซึ่งไตรลักษณ์ แต่ยังละได้ไม่หมด

    ความแปรเปลี่ยนสภาพไปเรื่อยๆ นี่เอง ทำให้สังขารไม่อาจทนอยู่ได้ตลอดไป ดังนั้น
    ความมีอยู่ก็เหมือนไม่มี เพราะหาความเที่ยงแท้จากสิ่งนี้ไม่ได้ จึงไม่เป็นอัตตา นั่นคือความเป็นอนัตตา

    นิพพานเป็นสภาวะที่ไม่อาจหาอัตตามาจับต้องได้ ต้องสัมผัสด้วยจิตอรหันต์เท่านั้น พระอริยะเบื้องล่างลงมา เห็นนิพพานเพียงแวบเดียว แต่นั่นก็เพียงพอให้รู้ว่าสภาพธรรมที่ไร้ทุกข์สิ้นเชิงนี้มีอยู่ เพียงแต่ต้องเดินอริยะมรรคจนกว่าจะจบกิจ

    แต่จะกล่าวว่านิพพานเป็นอนัตตาก็ไม่ได้ เพราะสิ่งที่เป็นอนัตตามันไม่มีอยู่จริง แต่นิพพานมีอยู่ ดังนั้น ต้องพิจารณาโดยแยบคาย

    ข้อสรุปหาได้จากสิ่งเดียวเท่านั้นคือ รู้แจ้งด้วยตนเอง จะหมดสงสัย ไม่ต้องถามใครอีก ไม่ต้องศึกษาจากตำราหรือคำครูอาจารย์อีก เพราะสิ่งนั้นได้ปรากฎให้เห็นอยู่ตรงหน้านี้แล้ว
     
  14. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    มีสหายบอกว่า มีคนชอบเข้ามาอ่านธรรม กัน เวลาที่ผมและท่านที่เก่งในธรรมอีกหลายๆท่านโต้กระทู้ธรรม หรือเสวนาอธิบายธรรมกัน

    ผมก็ขออนุโมทนาครับ เพราะคนที่เปิดรับเหมือนแก้วเปล่านี่ เขา รับจริงๆคือเขาไม่จำเป็นต้องโต็แย้งอะไรมาก เขาอาจจะมีปัญญามากกว่าเราก็ได้ เขารับแล้วเขาฟังแล้วก็เพลิดเพลิน จำแนกแยกแยะได้ หรือไม่ก็นำกลับไปทบทวนด้วยตนเอง หรือภายในของเขา

    ความจริงไม่ได้มีแก่นสาระอะไรมามายในการโต้เถียงเสียดสีกัน

    ว่าไปแล้วเราก็ไม่ใช่คนเก่งอะไร แต่สำหรับความดีเรามีให้มากมายไม่จำกัด เพราะอาศัย คิดดี ทำดี พูดอาจจะมีบ้างที่ไม่ดีแต่ก็ไม่ได้เจตนาแบบนั้น แต่ที่พูดไม่ดีเพราะเจตนาดีให้เขาหลาบจำก็เท่านั้นเอง ครับ สาธุ
     
  15. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    เห็นด้วยบางส่วนครับ จะอัตตาหรืออนัตตา ก็คือคำสมมติบัญญัติมั้งนั้น อยู่ที่ว่าใครตีความหมายไปอย่างไร เขาก็สรุปได้อย่างนั้น
    แต่ถ้าเราไม่ยึดมั่นแล้ว นิพพานจะอนัตตาหรือไม่ ก็ช่างหัวนิพพานมันไป

    แต่สำหรับผม อาจเป็นอนัตตา หรือไม่เป็นอนัตตาก็ได้ แต่ที่แน่ๆ ไม่มีทางเป็นอัตตา กรณีที่ไม่เป็นอนัตตาต้องไม่ใช่อัตตา ไม่ใช่สิ่งที่ตรงข้ามกัน
    หากเป็นอนัตตา ก็หมายถึงไม่อยู่ในอำนาจเรา แม้นิพพานก็ไม่ใช่อะไรที่เราสั่งได้ จึงไม่ควรไปยึดมั่นเหมือนกัน คือพระพุทธเจ้าก็บอกอยู่แล้วว่า ทุกอย่างมันเป็นอนัตตา
    ว่ากันในสมมติ นิพพานก็เป็นอนัตตา
    ว่ากันแบบพ้นสมมติ ก็จะไม่บอกว่าเป็นอนัตตา ไม่ใช่ไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีสมมติ ก็ต้องบอกไม่ได้ว่าเป็นอะไร ถ้าบอกได้ นั่นเป็นสมมติแล้ว
     
  16. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ท่าน ป. ปยุตโต เป็นพระดีที่หาได้ยากยิ่งในยุคนี้
    แต่งตำราทางพุทธเถรวาทที่มีความสำคัญมากอย่างคัมภัร์ "พุทธธรรม"
    ผมเองก็เริ่มต้นมาจากสิ่งนี้
    โปรดเก็บท่านไว้เป็นที่เคารพบูชาดีกว่า
    เรื่องนิพพานจะเป็นอะไรก็ช่างมันเถอะ ไม่ใช่ประเด็นที่จะหาข้อสรุปได้ด้วยปัญญาของปุถุชน
     
  17. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    =============

    ขออนุโมทนาครับ อธิบายได้ดีครับ

    ของที่เที่ยง ก็ใช่ว่าควรยึดมั่น

    ว่าไปแล้ว มันไม่เกี่ยวด้วยอะไรเที่ยงไม่เที่ยง แต่มันเกี่ยวกับสิ่งที่ว่าคือ การไม่เข้าไปยึดถือกับสรรพสิ่ง นั่นเอง เพราะอาการเข้าไปยึดนั่นเองที่ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ส่วนของที่ถูกเข้าไปยึดมันก็เป็นเรื่องของมัน ตรงนี้เป็นธรรมารมณ์อย่างหนึ่งที่มีความสำคัญในการพิจารณาให้เข้าใจด้วยปัญญา ครับ สาธุ

     
  18. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    นิพพานคือนิพพาน

    หลวงตามหาบัว เทศน์สอนไว้ครับ

    ถ้าใครเข้าใจว่า นิพพาน คือ นิพพาน ก็เข้าใจถูกต้องตามที่หลวงตามหาบัวเทศน์สอนไว้ครับ
     
  19. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ===============

    เพราะเวลาผมกล่าวกับคนที่รู้น้อย เป็นการสร้างแรงจูงใจให้เขาเห็นว่า
    นิพพานนั้นเป็นสภาวะที่เที่ยงเพราะเป็นสภาวะที่ไม่เสื่อมถอยกลับมาทุกข์อีก เป็นสภาวะที่พ้นทุกข์โดยถาวร คือกล่าวแบบนี้เพื่อให้เกิดแรงจูงใจว่าถ้าท่านทำนิพพานได้จริง ท่านก็จะพ้นทุกข์ถาวรไม่เป็นอื่นนั่นเอง

    ทีนี้เมื่อเขาปฏิบัติไป เมื่อถึงที่สุดแห่งนิพพาน เขาก็ย่อมเข้าใจได้เอง เหมือนที่ท่านเข้าใจ แม้นิพพานจะเที่ยงหรือไม่เที่ยงมันก็เรื่องของนิพพาน มีเพียงจิตธรรมธาตุเท่านั้นปล่อยวางไม่ยึดมั่นอะไรใดๆ ปล่อยวางทุกสรรพสิ่ง ถึงตอนนั้น เมื่อเขาเป็นพระอรหันต์แล้ว ก็คงไม่ต้องไปสอนว่า นิพพานเที่ยงหรือไม่เที่ยงครับ

    กุศโลบายในการแสดงธรรมที่ต่างบุคคลต่างวาระกัน ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่เขาโดยบริสุทธิ์ ท่านท่านอื่นจะเข้าใจอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขาครับ สาธุ
     
  20. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    เห็นผิดไปเยอะ แล้วยังบินต่ำ ระวังโดนสอยน๊าาา
     

แชร์หน้านี้

Loading...