ได้ท่องสมาทานรักษาศีล 5 ประการ กันทุกวันหรือเปล่าครับ

ได้ท่องสมาทานรักษาศีล 5 ประการ กันทุกวันหรือเปล่าครับ

บางคนอาจบอกว่าไม่จำเป็นหรอกอยู่ที่ใจ แต่ผมชอบท่องสมาทานรักษาศีล 5
ประการ ควบกับ กรรม 10 ประการ ทั้งบาลีและแปลไทย เวลาสวดมนต์เช้า-เย็น
ทุกวันครับ ถ้าวันไหนไม่ได้ท่องสมาทานศีลเลย ถึงแม้ว่าวันนั้นจะไม่ทำผิดศีลก็ตาม
แต่รู้สึกเหมือนชีวิตวันนั้นมันขาดๆ เกราะคุ้มกันอะไรไปสักอย่างหนึ่ง เคยรู้สึกกันไหมครับ

 

ท่องแล้วรักษาศีลไม่ให้ขาดหรือป่าวละครับ ^^

 

อืม ถ้าพูดถึงผู้ที่เน้นเรื่องการสมาทานศีล เท่าที่ผมจำได้ ก็ต้องแม่ชีอ่ะครับ


ทำผิดศีลไม่กล้าสวดมนต์

รายละเอียด
“ศีล 5 รักษาให้เคร่งครัด เจริญแน่ แต่ถ้าเกิดโยมทำผิดอะไรไปข้อหนึ่ง ศีลอีกสี่ข้อมันยังค้ำโยมอยู่นะ”

บางคนบอกว่า เพิ่งกินเหล้ามาจะไปสวดมนต์ได้อย่างไร มันรู้สึกผิดในใจ เพราะว่าเพิ่งทำผิดมาหมาด ๆ กลัวทำไม่ได้ มันจะบาปหนักขึ้นไปอีก แต่มันไม่ใช่ ในนาทีนั้น นาทีที่สมาทานศีล โยมไม่ทำบาปแน่ โยมบริสุทธิ์ในนาทีนั้น ชั่วโมงนั้น ขอให้สมาทานไว้ ถึงแม้วันรุ่งขึ้นจะทำผิดอะไรไปข้อหนึ่ง สิ่งที่สมาทานไว้ก็ยังเหลืออีกสี่ข้อ ศีลอีกสี่ข้อมันยังค้ำอยู่นะ ก่อนบวชแม่ชีเป็นคนที่เมา แต่แม่ชีก็สวดมนต์ แม่ชียังมีจิตใต้สำนึก มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน ถ้าวันไหน ไม่ได้สวดมนต์ ก็จะนอนไม่ได้เหมือนกัน มันเป็นนิสัยถึงจะเมาอย่างไรก็ลุกขึ้นมาสวด อิติปิโส 108 จบ สวดอิติสุคโต 108 จบ สวดยอดพระไตรปิฎก สวดชินบัญชร สวดทุกอย่างเลย สวดธรรมจักรด้วย แต่ก็เจอกรรม เพราะไม่ได้สมาทานศีล 5 ทุกคนก็เลยปฏิเสธ ไม่มีใครทำผิดพร้อม ๆ กันทีเดียวห้าข้อหรอก ฉะนั้นอย่ากลัวที่จะสวดมนต์

แต่มันจะยากสำหรับคนที่มีทิฐิในใจ ยังไม่ทันจะสวดเลยตั้งป้อมแล้ว ตั้งมุมแล้ว ตั้งมุมสู้แล้ว แต่เรื่องที่จะมาขัดแย้งกับศีลนะ เรื่องที่มันเป็นอบาย พูดเรื่องคนอื่นทั้งคืน ประจานคนอื่นทั้งคืนไม่รู้สึกอะไร ทำไมพูดด่าแช่งคนอื่นพูดได้ เรื่องไม่ดีจะด่าใครไม่ต้องจดไม่ต้องจำ มันออกมาจากจิตใต้สำนึกเลยนะ เรื่องของภูมิของเดรัจฉานคือ มันออกมาแบบเป็นสเต็ปเลย คนมักจะไม่เข้าใจเรื่องดีหรอก เพราะเรื่องดีมันต้องใช้ทั้งจดและทั้งจำ แต่พอจะทำดี ศีลแค่ห้าข้อเนี่ย มันสงสัยเสียจนแบบว่าแทบจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้

ที่ย้ำให้สวดมนต์ก่อนนอนเพราะว่าคืนนี้โยมนอนไป โยมไม่ไปทำผิดแน่ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง หมายถึง ขอรับเป็นข้อ ๆ นะ มันลักษณะห้าอย่างเป็นข้อ ๆ พอวันรุ่งขึ้นอานิสงส์ที่สมาทานไว้ จะส่งผลว่าโยมไม่ต้องตัดสินใจในเรื่องของความโลภเลย

หนังสือ ทำอะไรก็เจริญ (แม่ชีทศพร บุญเทวาพิทักษ์)

 

ทำประจำคะ รู้สึกสวดแล้วชีวิตมีแต่ความสุข ฝันแต่สิ่งดีๆ วันไหนไม่ได้สวดหรือลืม ฝันอะไรก็จำไม่ได้ เวลาเจอเรื่องไม่ดีๆเข้ามา ชอบเกิดตอนลืมสวดสมาทานศีล5 เพราะฉะนั้น สวดแล้วเหมือนทาโลชั่นเคลือบผิว ทุกครั้งที่สวดสมาทานศีล5แผ่เมตตาเสร็จ จะขอให้ผลบุญที่สวดขอให้จิตใจผ่องใส จิตบริสุจน์ เป็นคนคิดดี พูดดี ทำดี ไม่รู้เกี่ยวไหม ทุกวันนี้ผิวขาวผ่องเวอร์มากมีออร่ากระจาย เลยเชื่อคะ ว่ามีศีลทำให้สวย อยากรวยให้ทำทานคะ ตอนนี้สวยแล้ว เหลือรวย เลยพยายามทำบุญทำทานเรื่อยๆคะ อิอิ

 

สำหรับผู้ที่ชอบสงสัยความดีของผู้อื่นนะครับ

ผมตั้งหน้าตั้งตาท่องสมาทานศีล 5 ควบกับ กรรมบท 10 ประการ ทั้ง บาลี
และ แปลไทย ทุกๆวันก็เพื่อรักษาศีลธรรมทุกข้อ ให้บริสุทธิ์ผุดผ่องที่สุดเท่าที่
ผมจะพึงกระทำรักษาไว้ได้

ไม่ทำผิดศีลเอง ไม่ยุยงให้ผู้อื่นทำผิดศีล และไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อืื่นผิดศีลแล้ว
ผมเห็นว่าไม่มีเหตุจำเป็นและไม่มีประโยชน์อะไรเลย ที่ผมจะสมาทานศีลมาเพื่อ
โอ้อวดผู้อื่นว่าผมเคร่งครัดรักษาศีลนะ แต่สุดท้ายแล้วรักษาไม่ได้สักข้อ หรือว่า
รักษาบ้างไม่รักษาบ้างกระท่อนกระแท่น ผมไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน

เพราะผมเคารพหลวงพ่อ ผมเชื่อในธรรมคำสั่งสอนของหลวงพ่อ ผมเชื่อในการ
ทำความดี มี ทาน ศีล สมาธิ และปัญญา ว่าเป็นเหตุแห่งการปิดอบายภูมิทั้ง 4
ได้ถาวรจริง ดังที่หลวงพ่อท่านได้เมตตาสอนผมไว้นี้

ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย ตอนนี้เป็นตอนที่ ๒ ก็มาพูดถึงลักษณะแห่ง
การหนีบาปกันต่อไป แต่ขอย้ำไว้ก่อนว่าการที่จะหนีอบายภูมิทั้ง ๔ คือการไม่
เกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัชฉาน ต่อไปนั้น ต้อง
กำจัดสังโยชน์ คือ อารมณ์ชั่ว ๓ ประการ ให้พ้นจากใจ อารมณ์ชั่วทั้ง ๓
ประการ ขอย้ำไว้ตอนนี้ก่อนตอนต้นจะได้ไม่เฝือ

๑. ที่มีความรู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่ตายตัดทิ้งไป ให้มีความรู้สึกว่ามันจะต้องตายแน่
และไม่ประมาทในชีวิต คิดทำความดีต่อไป

๒. วิจิกิจฉา ความสงสัยในความดีของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์
ตอนนี้ตัดทิ้งไป ยอมรับนับถือพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์

๓. สีลัพพตปรามาส มีการปฏิบัติในศีลไม่แน่นอน ไม่จริงจัง อันนี้ต้องทิ้งไปหัน
มากลับมาปฎิบัติในศีลให้แน่นอนและจริงจัง ฆราวาสเพียงแค่ศีลห้า หรือว่า
กรรมบถ ๑๐ ใช้ได้แล้ว สำหรับภิกษุสามเณรก็มีศีลของท่าน

ถ้าปฏิบัติได้อย่างนี้ทุกคนขอบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนมีความมั่นใจได้ว่าจะ
ตายเมื่อไหร่ก็ตามที เราไม่ลงอบายภูมิกันแน่

กราบสาธุหลวงพ่อฤๅษีผู้ให้ชีวิตใหม่ที่ดีและอยู่ในขอบเขตของศีลธรรมแก่ลูก
ลูกเป็นคนมีศีลธรรมผุดผ่องได้เพราะหลวงพ่อจริงๆ ขอกราบสาธุหลวงพ่อด้วย
ความเคารพเลื่อมใสศรัทธาที่สุด บุญคุณนี้ลูกจะไม่มีวันลืมหลวงพ่อเด็ดขาด สาธุ สาธุ สาธุ:'(

 

ขอกราบอนุโมทนากับผู้รักษาศีลและสมาทานศีล 5 ทุกวันด้วยค่ะ ขอให้เจริญในธรรม

 

5555+. Saber ผู้ชอบตอบแบบยั่วประสาทผู้อื่น
สุดท้ายจบด้วยการถูกด่ากลับเสมอ
: P

 

อนุโมทนาบุญด้วยครับ

ผมก็กำลังสนใจในคำสอนของหลวงพ่อเหมือนกันครับ

 

ผมอาศัยท่องสมาทานและสวดมนต์ก่อนนอนครับ เพราะหลีกเลี่ยงการทำผิดศีลได้มากกว่าตอนเช้าครับ วันพระสมาทานศีลแปดเลย เพราะนอนคนเดียวอยู่แล้ว แฟนแยกนอนกับผมวันโกนวันพระครับ

 

ผมก็เป็นนะครับ สมาทานทุกๆวันโดยเฉพาะก่อนจะสวดมนต์ไหว้พระ ก่อนจะนอน เหมือนติดครับ สมาทานก่อนสวดมนต์ทุกครั้งเลย หรือถ้าเผลอแบบเพ้อเจ้อเกินไป มีสติก็สมาทานใหม่ทันทีครับ ติดครับติด สมาทานไปเถอะครับไม่เสียหาย เราได้ทบทวนศีลของเรา ขาด พร้อย ทะลุ ไหม ถ้าเรารักษาได้ตามนึกถึงศีล ก็เป็น สีลานุสติกรรมฐาน เป็นกรรมฐานกองหนึ่งอีกด้วยครับ ทำทุกวันจนชิน ยิ่งดีครับผม

 

สมาทานเช้าเย็นเลยผม ก่อนสวดมนต์ตอนเย็น ตื่นนอนใหม่ๆๆก่อนนั่งทำจิตสงบ ขอขมาพระก่อน แล้วต่อด้วยสมาทานศีล

 

สมาทานจนเคย วันไหนไม่สมาทาน หรือยุ่งจนไม่มีเวลาไปไหว้พระสวดมนต์สมาทานศีล พาลใจขุ่นได้นะ กลายเป็นทุกข์ไปเสีย
ยึดมั่นได้ แต่อย่าให้มันทำให้เป็นเรื่องขึ้นมาครับ
การสมาทานศีล ไม่ได้ทำให้เป็นคนมีบุญ ไม่ได้ทำให้เป็นคนดี
คนดีเขาก็ดีอยู่ของเขาอยู่แล้ว คิดดี ทำดี พูดดี อย่างนี้ก็เรียกได้ว่า เป็นคนดีมีศีลแล้วครับ

 

สาธุๆๆ อนุโมทามิ สำหรับการถือศีลทั้งหลาย

 

โมทนาครับ
ดีแล้วครับ
ทำได้ก็เท่ากับเรายินดีปฎิบัติในศีลห้า
เมื่อยินดีแล้ว เราก็ตั้งใจไม่ละเมิดศีล
สวดมนต์เสร็จ ก็ตั้งใจรักษาศีลไว้จนถึงเช้า
ตื่นมาก็ทวนศีล ว่าเรายังรักษาศีลได้บริสุทธิ์อยู่หรือไม่

โอ้โห กำไรล้วนๆเลย

 

ตอนผมบวชเรียน อาจารย์บอกว่า การสมาทานรักษาศีล 5
โดยการออกเสียงเป็นการ แสดงเจตนาที่จะไม่ทำสิ่งนั้น โดยมี ทวารกาย และทวารปากคือวจีทวาร ทวารใจคือมโนทวาร คือ กาย วาจา ใจ

เป็นการแสดงเจตนาออกมา อาจารย์ผมยังบอกอีกว่าต้อง สมาทานรักษาศีล 5 ทุกวันเพราะการอยุ่ในเพศฆราวาสย่อมทำผิดศีลได้มากกว่า เพราะการสำรวมกาย วาจา ใจ นั้นย่อมเทียบไม่ได้เลยกับผู้ที่มีศีลมากกว่า

ผมขออนุโมทนา กับผู้ปฎิบัติดี ประพฤติได้ด้วยครับ

 

เคยสมาทานศีล 5 ก่อนนอน แล้วฝันร้ายค่ะ เป็นเพราะอะไรคะ

 

เคยเป็นคะ เพราะตอนสวดจิตไม่เป็นสมาธิคะ คือสวดแล้วจิตไปคิดถึงแต่เรื่องทุกข์ใจ ทำให้สวดไปแบบนกแก้วนกขุนทอง แต่ไม่แปลกนะคะ ใครๆก็เป็น อีกวันเราก็สวดใหม่ ทำไปทุกวัน จนสวดมีสมาธิคิดถึงแต่บทสวด มีสติตลอด ทีนี้ก็ฝันแต่ดีๆ พยายามดึงจิตเข้าบทสวดมนคะ ทำทุกวันก็หายเองคะ

 

สมาทานศีล ๕ ขึ้นกองกรรมฐานแล้วนั่งสมาธิครับ เกือบทุกวันก่อนนอน ^^

 

จขกท เก่งจังคะ ทำสม่ำเสมอทุกวันดีแล้วคะ ชื่นชม ๆ อนุโมทนาด้วยนะคะ ดิฉันไม่ค่อยได้สมาทานเลย ตอนกลางคืนก็ชี้เกียจอยากแต่จะนอนนน ..... แต่ก็พยายามรักษาศีลนะคะยังได้ไม่เต็มร้อย เวลาผิดศีลก็รู้สึกผิดแอบตำหนิตัวเองเบาๆ คิดว่าหากตายไปเมื่อกี้ตกนรกแน่ๆ ศีลขาดไปเมื่อกี้ก็ตั้งใจใหม่ แต่ทำสงสัยความชั่วเยอะขัดเท่าไรก็ไม่ขาวสักที เฮ้อ...เพลีย +_+

 

ดิฉันก็เพิ่งเริ่มสมาทานศีลทุกวันเมื่อต้นปีนี้เองค่ะ เมื่อก่อนนี้สวดมนต์หลายบทมากๆ อิติปิโส พาหุงฯ ชินบัญชร ธรรมจักกัปวัตนสูตรฯ แต่แปลกจังทำไมถึงพยายามเลี่ยงที่จะสมาทานศีลก็ไม่ทราบ แต่เมื่อได้เข้ามาในเว็บพลังจิตช่วงหลังๆนี้เห็นมีท่านผู้รู้มากมายแนะนำว่าควรจะสวดสมาทานศีลด้วยไม่งั้นจะไม่สมบูรณ์ ดิฉันจึงลองสมาทานศีลจนตอนนี้รู้สึกชิน เหมือนเป็นการเติมเป็นกระบวนการสวดมนต์ในแต่ละวัน พอสวดแล้วรู้สึกสบายใจจริงๆค่ะ