ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

สวัสดีครับคุณอา... มาตามอ่านบทความดีๆตอนต่อไปครับ

 

.............ครบ..๓ ตามกติกา
..ต่อตามที่ขอ...(ผู้ขอ..STONE1..หลานเขม..และ..เฉียวฟงหลานรัก)

............แบบแรกที่..เนื้อหาไม่ได้..ผสมอะไรลงไปเป็นพิเศษนั้น..อาจจะเลือกจาก
..ดินที่อยู่ในที่เป็นพิเศษ..หรือ..เป็นดินอาถรรพณ์..อะไรซักอย่างที่ต้องแฝงเคล็ด
เพื่อเสริม..อานุภาพ...เพียงแต่ผมว่า..ในสมัยเริ่มต้นนั้น..ก็คงเป็น..ดินธรรมดานี่แหละ
.....ผมทราบจากคนรุ่นเก่าว่า...คนไทยนั้น..เล่นลูกหิน..นับย้อนไปได้ถึง..อยุธยา..เลย
.....ก็คง..มีสิทธิ์..ที่จะเริ่มจาก..ลูกหิน..เพราะที่ไหน..มีบ้าน..มีเด็ก..ก็ต้องมีลูกหิน..
..สำหรับผม..ยอมรับเลยว่า..เป็นเครื่องเล่นที่ต้องแข็งขันกัน..ที่รู้จัก..ก่อนเป่ากบอีก..
..โรงเรียนผม..เรียกว่า..หลุม..เต็มไปหมด..เหมือน..เตาขนมครก...เป็น..ร้อยๆหลุม..
...นักการภารโรง..ไม่ต้องเหนื่อย..ตัดหญ้า...เพราะไม่มีสิทธิ์ขึ้น....
.....สำหรับข้อสันนิษฐานอีกอัน..ที่มีสิทธิจะเป็น..รุ่นแรกๆ..เลย..นี่เก่ากว่าอีก..เพราะ
ย้อนไปถึง..สุโขทัย..หรือ..เก่ากว่านั้นอีก..คือ...
.........ลูกกระสุน..สำหรับล่าสัตว์..โดยใช้คันธนู...เป็นเครื่องยิง..(ที่กลางสายธนู..จะ
ใช้แผ่นหนัง..ยึดติดไว้..สำหรับจับ..ลูกกระสุนดิน)..ส่วนใหญ่ก็จะเป็น..ดินเหนียวปั้น
กลม..แล้วเอาไปตากแห้ง...ในเมืองไทย..เคยได้พบคันกระสุนนี่..ย้อนไปถึงยุคสัมฤทธิ์
เลย(..มีอาจารย์จากคณะโบราณคดี ม.ศิลปากร..เล่าให้ฟังเองกับ..หู).......
..มันเป็นอุปกรณ์..ทำมาหากิน..ล่าได้ทั้ง..นก..กระต่าย..อีเห็น..หรือ..กระจง..กะรอก..และ
ลูกกวาง..คือ..ยิงเข้ากบาล..เป็นไม่รอด...สมัยก่อนนั้น..เราไม่มีหนังสติ้ก..นะครับ..
..หนังสติ้ก..พึ่งมีมายุค..ที่เรารู้จักใช้ยาง...
.....มันเป็นของประจำบ้านเช่นกัน..สำหรับคนโบราณ..เพราะทั่วไป..แม้เราเป็นสังคม
เกษตร..แต่เราก็ล่าสัตว์ด้วย.....
....ดังนั้น..คนโบราณใครๆ..ก็ต้องรู้จักของทั้งสองอย่างนี้...อาจารย์ผู้ค้นคิด..ก็คงนึกได้
..และเป็น..ของที่บ้านไหนก็มี..ไม่ต้องไปนั่งทำให้เมื่อย..ใครอยากได้ของขลัง..
..ก็..ไปเอามา..แล้วหลวงพ่อก็จารคาถา..กำกับปลุกเสก..เท่านี้ก็เสร็จ...
..(..เรื่อง..ลูกกระสุนดิน..นี่ผมเคยเขียนไปแล้วนะครับ..เพราะเป็นของขลัง..ของ..
เจ้าคุณอินทร์ วัดยาง เพชรบุรี..คนเมืองเพชรรู้จักกันดี..ลองกลับไปหาอ่านรายละเอียด
เอาเอง..ผมจะไม่เขียนซ้ำ)
.....ดังนั้น..ผมจึง..สันนิษฐานตามเหตุตามผล..ว่า..ลูกอมแบบนี้..เกิดขึ้นก่อน...
...เพราะทำง่าย..หาง่าย..วัสดุ..ก็มีเรียบร้อยอยู่แล้ว....
....ผมมีลูกอมแบบแรกนี่ ๑ ลูกคือ..ลูกอมกระสุนดิน..ที่หล่นอยู่ในป่าช้า..ลงอักขระ
ด้วยดินสอล้อม..ทั้งลูก..ของเจ้าคุณ(อินทร์) วัดยาง เพชรบุรี..(เคยลงเรื่องไปแล้ว
สนใจก้กลับไปย้อนหาอ่านเอาเอง...
........
...ลูกอมแบบที่สอง..นี่..ไม่ใช่ชาวบ้านทำ..แต่ต้องเป็นพระอาจารย์ที่ปลุกเสกทำเอง..
..เป็นการพัฒนา..มาจากแบบแรกอีกที..เพราะทำให้อานุภาพ..หลากหลาย..และ..
ครอบคลุมกว่า..เพราะ..มาจากที่..เนื้อที่บนลูกอมที่จะ..ลงจาร..น้อย..ทำให้คาถาที่ใช้
นั้น..ไม่หลากหลาย..และ..ใช้ได้หนักไปทางเดียว..(สมัยนั้น..ก็..คงกะพัน..มหาอุตม์..
เป็นหลัก..แน่นอน..)


...ต่อเมื่อขอมา....

 

มารอติดตามรับความรู้ดีๆต่อไปครับ....สนใจเรื่องตะกรุดลูกอมหลวงปู่ใจ อยากทราบว่าตอนนี้ยังมีใครสืบทอดวิชาอยู่รึเปล่าครับ

 

ขอบคุณนะครับคุณอา สำหรับความรู้ดีๆ ถึงแม้ไม่ถูกนับเป็นมิตรแท้ แต่ก็ยังรอติดตามอ่านเสมอ

 

ขอบคุณครับพี่ ช่วงนี้จะเปลี่ยนเป็นหน้าหนาวแล้ว รักษาสุขภาพด้วยครับ

 

น่าจะมาจากภูมิปัญญาครับอ้าย
เพราะบางพื้นที่ หาวัสดุได้ง่าย
บางพื้่นที่หาวัสดุได้ยาก
เลยมีการนำเอาภูมิปัญญามาประยุกต์ใช้
เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์
อย่างเช่น
ไปงานพระราชเพลิงศพพระอาจารย์ของผมที่สุรินทร์
ไปได้ดินปั้นลูกกลมๆ มาจำนวนหนึ่ง
ทีแรกไม่รู้จักครับ ไปกราบพระอาจารย์ทางภาคกลางมา
ท่านเมตตาบอกให้ครับ
เป็นเบี้ยแก้ชนิดหนึ่งตามภูมิปัญญาท้องถิ่นครับ

 

ยังติดตามอยู่ครับ 1 post........1คำขอ.........1คำขอบคุณครับ...พี่ modpong.....
จากที่มีผู้ถามเรื่องตะกรุดลูกอมหลวงปู่ใจผมขอตอบเบื้องต้นครับไม่เคยได้ยินว่าท่านให้ใครสืบทอดต่อ.....ทางคุณยายบอก(แม่ของแม่แฟนครับ)...แต่ทางแม่ฟนบอกหลังหลวงปู่ใจเสียแล้วถ้าทำต่อคงเป็นใบฏีกาทำต่อเพราะอย่างที่เล่าแล้วคือตะกรุดหลวงปู่ใจสั่งทำที่ร้านทองฉะนั้นรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกันครับ......... ตอนสมัยท่านทำมีคนเห็นว่าท่านเดินลงไปจารในแม่น้ำแม่กลองครับแถมขึ้นมายังไม่เปียกด้วย.........(ที่ทางแม่ของแม่แฟนและแม่แฟนเล่าให้ฟังครับ)....ผมขออนูญาติ พี่ modpong เล่าประสบการณ์เกี่ยวกับตะกรุดลูกอมที่ผมใส่อยู่..........คือเมื่อซัก 5 ปีที่แล้วผมขี่รถมอเตอร์ไซด์ไปทำงานแล้วสร้อยที่ใส่ตะกรุดขาดไม่รู้ตัวเมือจอดรถเข้าที่ทำงานรู้ว่าสร้อยขาดผมก็เดินหาจากที่จอดรถ(จอดนอกที่ทำงาน)หาเท่าไรก็ไม่เจอจริงจริงแล้วไม่รู้ว่าขาดตั้งแต่เมื่อไรด้วยซ้ำและระยะทางจากบ้านไปที่ทำงานประมาณ 50 กม.(จากฝั่งธนไปมหาชัยเมืองใหม่)ทั้งที่จอดเป็นลานโล่งๆ ครับ พอหาไม่เจอก็ถึงหงอยเลยครับ.......เลยโทรหาแม่แฟนที่ให้ตะกรุดผมมาบอกท่านว่าผมทำตะกรุดหลวงปู่ใจหาย............ท่านบอกผมว่าท่านไม่ให้ใครแต่ให้ผมท่านพูดทางโทรศัพท์แล้วท่านบอกว่าจะไปจุดธูปไหว้พระแล้วอธิฐานบอกหลวงปู่ใจให้ผมใจเย็นทำงานตามปกติ......พอถึงช่วงเย็นมาที่จอดจะกลับบ้านก็มาเจอป้าที่แกอยู่ที่จอดรถแกบอกเจอแล้วอยู่โคนต้นเข็ม(ต้นใหญ่พอสมควร)โดยหลานแกอายุประมาณ 5 - 6 ขวบ เป็นคนเจอ.........(ตอนเช้าที่หายแกก็ช่วยผมเดินหาแต่ก็หาไม่เจอ).....แกเลยเก็บไว้ให้.....พอกลับมาถึงบ้านเจอแม่แฟนบอกท่านว่าได้มาแล้วแต่แปลกมากว่าไปอยู่ใต้ต้นเข็มได้อย่างไรในเมื่อที่จอดรถกับต้นเข็มที่เด็กเจอคนละที่กันเลยแล้วถ้าตกไปแล้วจะกระเด็นเข้าไปอยู่ใต้โคนต้นเข็มได้อย่างไรท่าน(แม่แฟน)ก็บอกว่าไปอธิฐานบอกแล้วไม่ให้ใครไง......ท่านเชื่อมั่นของท่านมากท่านบอกสมัยเด็กลูกขนุนลูกใหญ่ตกใส่หัวสลบไป 2 วันคนในบ้านนึกว่าจะตายแล้วแต่ก็ฟื้นขึ้นมาไม่เป็นอะไรแถมสมัยก่อนท่านขึ้นพะองค์(ไม้ไผ่ที่ลำยาวทำที่เหยียบเพื่อไปกรีดต้นมะพร้าวทำน้ำตาลปี๊ป).........ตกก็บ่อยเพราะไม่พะองค์หักหรือขึ้นไปเจองูบนยอดตกใจถอยพลาดตกลงมาไม่เป็นไรครับก็ได้ตะกรุดของหลวงปู่ใจนี่แหละครับท่านเล่าให้ฟัง(แม่แฟน)....ท่านยังมีล็อคเก็ตของหลวงปู่ใจด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธสิหิงค์ด้านหลังเป็นรูปหลวงปู่ใจไปวิ่งลอดราวตากผ้าเท่านั้นแหละครับรูปหลวงปู่ใจหายไปเลย(ล้อคเก็ตอันนี้ยังอยู่ที่ผมครับ)...ประสบการณ์ตรงเล็กๆ น้อยๆครับ...เดี๋ยวรอเจอพี่ modpong ดีกว่าครับ..........

 

............
...อีกสักหลายพัก..ก็จะถึงเรื่อง..เบี้ยแก้..

 

ขอให้พี่เขียนตอนต่อไปครับ ผมรออ่านครับ

เรื่องคันธนู ที่ใช้ลูกกระสุนดินนี่ผมเกิดทัน มีพระหลวงน้าองค์หนึ่ง ยิงแม่นมาก ใครหาปลาผ่านหน้าวัด ไม่วางฉมวกนี่โป๊ะ ตะเกียงเจ้าพายุ ถูกยิงแตกผมโดนมาแล้ว 5555

 

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับอา รอติดตามตอนต่อไปครับ

ประสบการณ์ของแม่ยายพี่ stone1 นี่มันส์มากเลยครับ

ขอบคุณพี่พลศิริที่นำของแปลกมาให้ดูครับ

 

.....................................
...แล้วถ้าแม่ยาย..ตายแล้ว..มาหาย..อีกที..ทำยังไง
......แกผูกพันกับ..หลวงปู่ใจมาก..ก็เลยได้ของคืน..
..แล้วน้องSTONE..ถ้าไม่ทำจิตให้ผูกพันได้อย่างแก
..จะได้คืนมั้ย..ดังนั้นต้องทบทวนให้ดี..นั่นเพราะบารมี..ของ..แม่ยายคุ้มครองอยู่..เราต้องสร้างบารมีศรัทธาและ..ความเชื่อมั่นให้เต็มเปี่ยม..จึงจะวางใจได้...

 

......ครบ ๓ ตามกติกา................
...ต่อให้ตามที่ขอ(เรื่องของมองโกล)...(ผู้ขอ...STONE1..คนบ้านสะแก..หลานเขม..)
............
...............ในการบุกยุโรป..ครั้งแรกนั้น..ยุโรปกลาง..และ..ตะวันตก..รวมถึงตะวันออกบาง
ประเทศ..ไม่ได้รับ..ผลกระทบโดยตรง..มีแต่รัสเซีย..อ่วมอรทัย..กว่าเพื่อน....
..โป๊บ..ก็ไม่ได้ออกโรงอะไร..เพราะถือว่า..จิ๊บจ้อย..ความจริงก็สมน้ำหน้ารัสเซียต่างหาก
..เพราะรัสเซียนั้น..กับ..ยุโรปตะวันออกหลายประเทศ..ไม่ได้เป็นคาธอลิค..เป็น..
ออร์โทด็อกซ์..(คริสต์แบบดั้งเดิม)...และ..ประเมินว่า..คงไม่ได้เข้ามาด้านในยุโรปด้วย..
....แต่พอการบุกครั้งที่ ๒ นี่..ยุโรปตะวันออกทั้งแถบ..และกลางโดนเกือบหมด..และ
..กำลังจะเข้าตี..อิตาลี..ที่ๆเป็นที่ตั้งของวาติกัน..ตั้งแต่..ฮังการี..รูมาเนีย..เช็ค..สโลวัค
บุลกาเรีย..เซิรบ์..โครอัท...(ซึ่ง..เช็ค..สโลวัค..โครอัท..ฮังการี..นั้น..เป็น..คาธอลิก)
..นั้น..สายของวาติกัน..พอทราบมาแล้วว่า..ต่อไปก็ถึงคิวแน่..โป๊บถึงกับเยี่ยวแตก..
เชิญ..จักรพรรดิอาณาจักรโรมัน(คาธอลิก)ที่..ตัวเองตั้งขึ้นมา..พร้อมกับทูตแต่ละ
ประเทศ..ให้มารับสาสน์จากโป๊บ..ไปให้กษัตริย์เพื่อร่วมกันปกป้อง..อาณาจักร..
และช่วยส่ง.กำลังมาที่อิตาลีด้วย..แต่ปรากฎว่า..ทุกชาติ..เหมือนกันหมด..คือ...
จากข่าวคราว..ทางทหารที่ได้รับมา..นั้น..น่ากลัวมาก..จนไม่มีใคร..สนใจจะช่วยใคร
..เพราะแค่..ชาติตัวเอง..จะรอดรึเปล่า..ยังไม่รู้..ทั้ง..ฝรั่งเศษ..เยอรมัน..ออสเตรีย..
...เงียบฉี่..โชคดี..ที่ข่านโอโกไตเดดซะมอเร่..กองทัพมองโกล..ส่วนใต้กำลัง..จะเข้าตี
อิตาลี..และ..ส่วนเหนือ..กำลังจะเข้าตีออสเตรียและเยอรมัน..ต้องทัพกลับบ้านเพื่อไป
ร่วมประชุมเลือกข่าน..องค์ใหม่..จึงรอดตัวไป...
....นักวิชาการที่ศึกษาเรื่องนี้มีความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า..ถ้า..โอโกไตข่านมีอายุยืน
ซัก ๕ ปี...ยุโรป..จะเหลือ..แต่อังกฤษ..เท่านั้น..ไม่ใช่..อังกฤษเก่ง..แต่เพราะ..
อังกฤษ..เป็นเกาะ..การยกทัพข้ามไปเป็นเรื่องลำบาก....อังกฤษสมัยยุคกลางนั้น..
กระจอกเทศมาก..ไม่เหลือบ่ากว่าแรง..ของสุโบไต..ไปได้....
........ที่ผมสาธยายมา..เพื่อให้เห็นว่า..พอถึงเวลาจริงๆ..ฝรั่งมันก็..ตัวใครตัวมัน
..ไม่มีใครมาช่วยใครหรอก..

......๙. ระบบการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม....

....หน่วยทหารมองโกล..ในแต่ละส่วนที่แยกออกไปจากทัพใหญ่..กองทัพเหนือ...
กองทัพใต้...กองทัพที่ตั้งมั่นที่เมืองสมาร์คันต์..จนถึง..อาณาจักรมองโกลที่จีน..
..มีโครงข่ายการข่าว..ที่เชื่อมโยงกันแบบใยแมงมุม..โดยอาศัย..การส่งข่าวด้วย
ม้าเร็ว...ถ้าคุณลองนึกถึงพื้นที่..ระยะทางที่ต้องทำการส่งข่าวนั้น..ห่างไกล
กันมหาศาล..เป็นหลายพันไมล์..ก็คงจะงง..แล้ว..ม้ามันจะวิ่งไหว..เรอะ..ต่อให้ใช้
รถยนต์..หรือ..รถไฟยังอ้วก....แต่ไม่ต้องแปลกใจครับ..เพราะ..มองโกลทำได้..

...ต่อให้เมื่อขอมา....

 

พี่ modpong กล่าวได้ถูกต้องกับเพราะบารมีท่าน(แม่ยาย)จริงๆ ผมยังห่างไกลครับแม่ยายผมสวดมนต์ไหว้พระไม่ได้ขาดกำหนดจิตวิปัสนากรรมฐานทุกวัน(ไม่นั่งก็นอนกำหนดเดินไม่ไหวแล้วครับ) แผ่เมตา(หรือที่เรียกว่าบุญกุศล)ทุกครั้ง บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ผู้มีอุปการะคุณ เทพพรหม เจ้าที่เจ้าทาง เจ้ากรรมนายเวรหรือแม้กระทั้ง ผีต่างๆ ไม่ว่าผีราฏ.. ผีหลวง...ผีเร่รอน...ผีเปรต....ผีแขนขาครบก็ดีไม่ครบก็ดี .....เหล่าเทวดามิจฉาทิฎฐิต่างๆ...ท่านก็สอนผมทั้เป็นแม่ยายและครูบาอาจารย์ครับ....อยากทำให้ได้แต่ยังห่างไกลครับ....

 

สวัสดีครับพี่ๆ มาขอตามต่อเรื่องลูกอมครับ .... สมัยนี้ผมเห็นมีหลายแบบเลยครับ เช่น ที่ทำด้วยพวกว่านผสมกับผง บางที่ทำจากเทียนมาปั้นปิดทอง บางที่หล่อมาเลย อาจจะด้วยกรรมวิธีแบบโบราณทำได้ยาก และได้รับการถ่ายทอดมาน้อยด้วยมั้งครับ (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)

[ไล่ตามอ่านย้อนหลังหลายหน้าเลยครับ .... สำหรับบางคอมเม้นต์พี่modpong ไม่ต้องใส่ใจนะครับ คนที่อ่านกระทู้นี้มาตั้งแต่ต้น จะรู้ดีกันทุกคนครับ ว่าอะไรคืออะไร ....ผมเป็นกำลังใจให้ครับ]

 

post พอดีทีกับพี่ modpong เลย เรื่องของมองโกล ที่พี่ modpong เล่านี่ เค้าต้องมีระบบบริหารจัดการที่ดีเค้าถึงยิ่งใหญ่ ผมเคยอ่านหนังสือของ คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ เรื่องรัฐศาสตร์ ถังไท่จง ตอนที่มองโกลครอบครองแผ่นดินจีน น่าจะยุค กุปไลข่าน หลานเตมูจินไม่แน่ใจว่าเป็นราชวงศ์หยวนหรือเปล่า ครองได้อยู่ไม่แน่ใจว่า 93 หรือ 96 ปี เท่านั้นเอง แล้วโดนจูหยวนจาง(ราชวงศ์หมิง) ยึดคืนในหนังสือเค้ากล่าวว่าระบบการบริหารจัดการไม่ดี(อย่างว่าแหละก็หนังสือเค้าเขียนออกแนวบริหารจัดการ) พอใหญ๋แล้วสบายแล้วก็อ่อนแอลงมันเตือนใจตัวเองดีครับ.........พอได้อ่านเรื่องราวจากพี่มันทั้งได้ความรู้ทั้งยังได้เตือนตัวเองไปด้วย.........1 post ที่ยังตามต่อครับ ขอบคุณที่พี่ยังเป็นผู้นำทางเล่าเรื่องครับ และขอบคุณทุก post ที่ทำให้ไปต่อครับ.............

 

มารอติดตามตอนต่อไปครับครู

 

เรื่องมองโกลนี่สนุกมากเลยครับ นึกๆ ไปก็อยากเห็นมองโกลทะลวงวาติกัน เหมือนกันนะครับ

ขอบคุณครับอา รอติดตามตอนต่อไปครับ

 

เพิ่งได้มีเวลาเข้าเว็ป
มาตามอ่านความรู้ครับ
ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับคุณอา มาติดตามอ่านบทความต่อนต่อไปครับ

 

ชอบอ่านเรื่องแนวนี้ครับ ติดตามตั้งแต่แรก อ่าน กรุข่าจนมา มองโกล มารอรับความรู้และเป็นกำลังใจ ให้พี่สร้าสรรค์บทความดีๆ อย่างนี้อีกต่อไปครับ