เพื่อการกุศล เปิดจองรุ่นของขวัญปีใหม่ ลพ.หนุน สุวิชโย วัดพุทธโมกข์อธิฐานจิตสร้างโดยวัดป่าศรีสำราญน.ท้าย

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย rs83, 18 มิถุนายน 2014.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ขอโมทนาสาธุล่วงหน้าเลยครับ ได้ก็ดีหรือไม่ได้ก็ดี จิตที่เป็นกุศศลย่อมเป็นบุญใหญ่ครับ
     
  2. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    จำนวนการสร้างพระกริ่งไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต 70 องค์​




    เปิดจองวันที่ 12 ตุลาคม 2557 เวลา 09.00 น.


    เปิดจองจำนวน 50 องค์ องค์ละราคา 1000 บาท
     
  3. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    จำนวนการสร้างพระกริ่งไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต 70 องค์



    เปิดจองวันที่ 12 ตุลาคม 2557 เวลา 09.00 น.


    เปิดจองจำนวน 50 องค์ องค์ละราคา 1000 บาท​
     
  4. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ยังมียาจินดามณีของหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว อีก 2 แท่ง​


    กล่าวถึงอานุภาพของการใช้ยาจินดามณีไว้ ดังนี้

    หากใครได้รับประทานแล้วจะบันดาลให้เกิดสิริสวัสดีและลาภผล

    หากบูชาเอาไว้จะป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ แม้แต่อหิวาตกโรค

    ผู้ใดมีไว้จะปราศจากอันตรายใด ๆ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง หรือนอน

    ผู้ใดต้องโทษทัณฑ์ใด ๆ ก็บรรเทาเบาบางลงได้

    ผู้ใดที่ป่วยหนักแม้แทบจะสิ้นชีวิต หาได้รับประทานยาจินดามณีแล้วก็จักรรอดตายฟื้นหายจากโรคนั้น ๆ​
     
  5. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ยาจินดามณี​


    สำหรับวิธีการใช้ได้กล่าวไว้ในส่วนท้ายตำราของยกเอาเพียงบางส่วนดังนี้

    ถ้าใช้รักษาอหิวาตกโรค หรือท้องเดิน ให้เอายอดทับทิมต้มผสมกับกานพลูแลน้ำปูนใสแล้วฝนเม็ดยาใส่ลงไป ดื่มรับประทานหายจากโรคแล

    แก้โรคเสมหะดีขึ้น ให้ใช้ดีหมีผสมน้ำร้อนแล้วใส่ยาหอมจินดามณีฝนผสมลงไปรับประทาน

    ถ้าเกิดคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลให้เอายาใส่น้ำเสกด้วย “ เอกัง จินดามณีมันตัง ” เป็นเมตตามหานิยมแล้วเอาน้ำประพรมศีรษะแล้วอมเม็ดยาไว้ตลอดเวลาจะชนะความ สิ้นแล และเป็นเมตตามหานิยมแก่คนทั้งปวง

    ให้มีปัญญาดี เสกด้วยพระคาถานี้ ๓ จบ

    “ ตะโตโส ปัณฑิโต ปีหิโล อัตถะ ทัสสีมะ โหสะโถ ” แล้วอมยา จะเล่าบ่นมนตร์คาถา สารพัดวิชาจำได้สิ้นที่ลืมหลงก็จะรำลึกได้แล

    ให้เสกด้วย “ เอกัง จินดามณี นาคา มันตัง ” ไปในที่ไหน ๆ งูมิกัด

    ให้ภาวนาด้วย “ อุ อา กะ สะ ” ทำไร่ทำนาทำการงานมิรู้เหน็ดเหนื่อยแล

    ให้ภาวนาด้วย “ บทยันทุนนิมิตตัง อามังคะ สัญจะ ๆ ” จบหนึ่งเอายาติดตัวไว้จะกลับลางนิมิตร้ายให้กลายเป็นดีแล

    ให้อมเม็ดยาเอาไว้แล้วนั่งเหนือลม ภาวนาว่า “ อิตถี จิตตัง ปิยัง มะมะ ”หญิงคนรักจะรักและหลงเรามิหนีห่างกายไปไหนได้เลยแล

    เมื่อจะเดินทางไปสารทิศไหน เข้าหาเจ้านายผู้ใหญ่ให้เอายาแช่น้ำ ใช้น้ำมนต์สระหัว อมเม็ดยาและภาวนาว่า “ สัตถาเทวะมนุสานัง พุทโธภะคะวาติ ” ๗ ครั้งผู้ใหญ่ เจ้านายหายโกรธช่วยเหลือเราทุกทางแล

    ถ้าเผอิญด้วยหมู่ศัตรูคิดร้ายให้อมเม็ดยาแล้วภาวนาว่า “ พามานา อุ กะ สะ นะ ทุ ” ๘ คาบ ชนะศัตรู ศัตรูทำร้ายเรามิได้ แคล้วคลาดสารพัดแล

    เอาเม็ดยาติดตัวไว้ป้องกันสรรพโรคภัย ป้องกันเสนียดจังไร กันยายีด้วยคุณไสย คุณผี คุณคน สารพัดพิษ ผิดสำแดง เมื่อต้องยาเบื่อยาเมา เอารากมะนาวหนึ่ง มะปรางหนึ่ง หัวหนุมานกระทืบแท่นหนึ่ง ฝนทำน้ำกระสายกินเถิดมิเป็นไร อย่าประมาทเลย เคยแก้ยาสั่งมาแล้วถ้าติดเม็ดยากับตัวไปมิต้องเราเลยแล

    ให้มีเม็ดยาติดตน ถึงคราวอับจนจะได้ใช้ ตามืดหูมืดได้ใช้ทุกเมื่อ มีอำนาจวิเศษ คุณมากนัก ตีค่าไว้ถึง ๘ ตำลึงทองแล
    “ ยาจินดามณี ” นอกจากจะเป็นยาใช้บำบัดรักษาโรคอันมีอานุภาพอัศจรรย์แล้ว ยังถือได้ว่าเป็นของขลังที่มีพุทธานุภาพอย่างยิ่ง เหตุที่เรียกว่ามี “ พุทธานุภาพ ” ก็เนื่องจากการประกอบยาจินดามณีทุกขั้นทุกตอนนั้นประกอบขึ้นด้วยพุทธมนต์ของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นการประกอบในพระอุโบสถเบื้องหน้าองค์พระประธานอันเป็นสัญลักษณ์ของพระ พุทธองค์เป็นสำคัญเหตุที่ “ ยาจินดามณี ” โด่งดังเป็นที่รู้จักกันทั่วไปนั้นก็สืบเนื่องจาก “ ยาจินดามณี ” มีประสบการณ์จากผู้ที่นำไปใช้มากมายได้ผลดีจนแทบไม่น่าเชื่อนั่นเอง ยาจินดามณีของหลวงปู่บุญ ผู้ที่นำไปใช้ในทางต่าง ๆ ล้วนแต่มีเรื่องเล่าสู่กันฟังถึงประสบการณ์ที่แปลก ๆ มากมาย ผู้เขียนได้ฟังเรื่องราวเหล่านั้นมาตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ และจำความได้ติดตาตรึงใจอยู่เสมอ

    ในสมัยอดีต คนนครชัยศรีเรียก “ ยาจินดามณี ” หลวงปู่บุญ “ ยาหอมหลวงปู่บุญ ” ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันว่ายาดังกล่าวนั้น หมายถึงยาจินดามณี หรือ “ ยาวาสนาเม็ดดำ ” นั่นเอง สมัยนั้นจะหาคนเรียกชื่อว่ายาจินดามณีมีน้อยเหลือเกิน ส่วนใหญ่พอกล่าวว่า “ ยาหอมหลวงปู่บุญ ” ก็เป็นที่รู้จักกันอย่างดี แม้กระทั่งหลวงปู่เพิ่มเองท่านก็เรียกว่า “ ยาหอมหลวงปู่บุญ ” เมื่อคราวที่ผู้เขียนไปลาสิกขากับท่าน ท่านหยิบเอาพระพิมพ์นาคปรกเล็กมาส่งให้ผู้เขียนองค์หนึ่ง แล้วท่านก็บอกว่า

    “ เก็บไว้ให้ดีน่ะ นี่เป็นพระยาหอมของหลวงปู่เก่า ”​
     
  6. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต
    (จีน: 藥師佛/薬師; พินอิน: Yàoshīfó; ญี่ปุ่น: 薬師瑠璃光如来 Yakushi หรือ Yakushirurikō nyorai ?)
    เป็นพระพุทธเจ้าที่พบเฉพาะในนิกายมหายาน ไม่พบในฝ่ายเถรวาท พระนามของท่านหมายถึงพระตถาคตเจ้าผู้เป็นบรมครูแห่งยารักษาโรค ผู้มีรัศมีสีน้ำเงินดังไพฑูรย์ พระนามอื่นๆของท่านคือ พระไภษัชยคุรุตถาคต พระมหาแพทย์ราชาพุทธเจ้า พระมหาไภษัชยราชพุทธเจ้า เป็นที่นิยมนับถือในหมู่ชาวจีนและชาวทิเบต


    ในความเชื่อของชาวจีน รูปของพระองค์อยู่ในท่านั่งสมาธิ มีรัตนเจดีย์วางบนพระหัตถ์ บ้างถือกระปุกยา ส่วนในความเชื่อของชาวทิเบต พระองค์มีกายสีน้ำเงินเข้ม นั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ขวาถือยาสมุนไพร (ทางจีนนิยมเป็นเห็ดหลินจือ) พระหัตถ์ซ้ายถือบาตรวางบนพระเพลา ถือกันว่าเป็นพระพุทธเจ้าที่สามารถรักษาโรคทางกายและโรคทางกรรมของสัตว์โลก
     
  7. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ทุกวันนี้โรคอะไรต่ออะไรมากมายครับ แถมกลายพันธ์อีก เป็นสาเหตุนึงที่สร้าง พระกริ่งไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต
    รุ่นจงสำเร็จทุกประการ​
     
  8. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    พระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุ
    พระบรมสารีริกธาตุ หมายถึง พระธาตุที่เป็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นปูชนียธาตุอังทรงคุณค่าอย่างสูงสุดในโลกสำหรับพุทธศาสนิกชน เกิดจากการถวายพระเพลิงพระสรีระของพระพุทธเจ้าภายหลังจากที่ได้ทรงดับขันธ์ปรินิพพาน ส่วนพระธาตุที่เป็นของพระอรหันตสาวกจะเรียกว่า “พระธาตุหรือพระอรหันตสาวกธาตุ”

    จากตำนานกล่าวว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเล็งเห็นว่า พระองค์มีเวลาปฏิบัติพุทธกิจเพียง ๔๕ ปี ซึ่งนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ศาสนาของพระองค์ยังไม่แพร่หลายและหมู่สัตว์ทั้งหลายเกิดมาไม่ทันสมัยพระองค์มีมากนัก หากได้อัฐิธาตุของพระองค์ไปอุปัฏฐากบูชา จะได้บุญกุศลเป็นอันมาก จึงทรงอธิษฐานให้พระบรมสารีริกธาตุ ของพระองค์แตกย่อยออกเป็น ๓ สัณฐาน ยกเว้นธาตุทั้ง ๗ ประการ คือกระดูกหน้าผาก ๑ (พระนลาฏ) พระเขี้ยวแก้ว ๔ และกระดูกไหปลาร้า ๒ (พระรากขวัญ) นอกจากนั้นให้กระจายไปทั่วทุกสารทิศเพื่อยังประโยชน์แก่หมู่สัตว์โลกต่อไป

    การกราบไหว้บูชาพระบรมสารีริกธาตุที่บ้าน วัด หรือในพระเจดีย์ เป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน เท่ากับเราได้เข้าเฝ้าต่อพระพักตร์พระพุทธเจ้าโดยตรง อานิสงส์นั้นมีมากมายมหาศาล ทำให้จิตใจเราเบิกบาน แจ่มใส เป็นกุศล จิตจะสะอาดผ่องใสขึ้นเรื่อยๆ บ้านที่มีพระบรมสารีริกธาตุบูชาและมีการปฏิบัติบูชา อยู่ในศีลในธรรมเป็นประจำ บนหลังคาบ้านจะสว่างไสว มีเทพ พรหมเทวดา มาร่วมกราบไหว้โมทนาบุญ คอยดูแลรักษาคุ้มครองพระบรมสารีริกธาตุและคนในบ้าน ให้อยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญก้าวหน้าทั้งในทางโลกและทางธรรม
     
  9. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ปฐวีธาตุ คือหินที่อยู่ในน้ำที่ผ่านการเจียรไนจากธรรมชาติเป็นร้อยเป็นพันปี จนใสแสงผ่านได้ เมื่อเอามือไปบังที่ก้อนปฐวีธาตุจะแลเห็นและต้องเป็นหินจากใต้แม่น้ำโขง ณ ตำแหน่งบริเวณที่ท่านได้กำหนดบอกให้ไปเก็บเท่านั้น เนื่องจากพญานาคราชได้ถวายให้ท่านดุจเดียวกัน หินที่ได้รับการถวายจากพญานาคราชนี้ถือเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุลมมีกายสิทธิ์ฝ่ายสัมมาทิฐิเข้าครองซึ่งส่วนใหญ่กายสิทธิ์เหล่านี้จะบรรลุธรรมขั้นสูงอีกทั้งได้รับการอธิษฐานจิตจากพระเถระเจ้าที่ทรงคุณวิเศษจึงกล่าวได้ว่ามี อิทธิปาฎิหาริย์และพุทธานุภาพ เหนือชั้นกว่าเหล็กไหลและให้คุณแก่ผู้ครอบครอง ล้วนแล้วแต่สร้างอภินิหารและประสบการณ์ให้กับผู้บูชานับจำนวนไม่ถ้วนทั้งเรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน ปลอดภัย โชคลาภ และเมตตามหานิยม นิยมนำไปแช่น้ำทำน้ำมนต์แก้คุณไสยได้ ถ้าจะให้ได้ผลดีควรให้ได้สัมผัสไอตัวผู้ใช้ให้มากที่สุด

    ปฐวี ธาตุต่างจากพระเครื่องตรงที่กรวดจากแม่น้ำโขงซึ่งหลวงปู่นำมาอธิษฐานเหล่า นั้น พวกนาคเขาถือว่าเป็นสมบัติอย่างหนึ่งของเขา กรวดเหล่านั้นจึงมีพลังงานของพวกเขาติดมาด้วย และเมื่อได้รับการอธิษฐานด้วยกระบวนการทางจิตที่ซับซ้อนอย่างยากที่เราจะ เข้าใจ ก็จะทำให้กรวดเหล่านั้นเกิดพลังงานมหาศาลชนิดที่เราก็ไม่เข้าใจอีกอยู่ดีว่า เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร

    พลังงานมหาศาลที่ว่านี้ "หลวงปู่คำพันธ์"รับรองว่า กันนิวเคลียร์ได้

    เมื่อ ปฐวีธาตุซึ่งมีพลังงานแฝงอยู่แล้ว ได้รับการอธิษฐานจากจิตที่มีพลังงานมหาศาลเพราะได้รับการฝึกฝนมาดีเยี่ยม พุ่งกระแสลงไปสู่หินเป็นจุดเดียว กระแสจิตที่แรงกล้าเกิดกระทบกับพลังงานที่อยู่ในหินแล้วกระจายตัวออกเป็นวง กว้าง เป็นคลื่นรังสีที่มีพลัง งานแรงสูง พอที่จะให้ความคุ้มครองผู้บูชาตามที่ผู้อธิษฐานได้ "ตั้งโปรแกรม” ไว้

    นอกเหนือไปจากหมู่นาคทั้งหลายที่จะขึ้นมาพิทักษ์รักษาผู้ครอบครองปฐวีธาตุ เมื่อยามเกิดภัยพิบัติตามคำทำนาย ชนิดปฐวีธาตุ 1 องค์ ต่อพญานาค 1 ตน ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวไม่อาจมีในพระเครื่องที่ถูก "สร้าง" ขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์ ผิดกับ "ปฐวีธาตุ" ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นจากผลงานของธรรมชาติ จึงเก็บประจุพลังงานจากธาตุทั้งสี่และรังสีจากจักรวาลมาเนิ่นนานนับได้เป็น ล้านๆปี

    ธาตุกายสิทธิ์ จะปรากฏต่อเมื่อมีผู้ทรงคุณวิเศษปฏิบัติได้ถึงขั้นกายสิทธิ์ อย่างเช่น ปฐวีธาตุ ของท่านเจ้าคุณนร ท่านให้ไปเก็บหินใต้น้ำที่บางบ่อเท่านั้น ห้ามเก็บจากที่อื่น เนื่องจากที่นั่นได้มีพญานาคราชได้ถวายกายสิทธิ์ให้แก่ท่าน เช่นเดียวกันกับปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ ที่ต้องเป็นหินจากใต้แม่น้ำโขง ณ ตำแหน่งบริเวณที่ท่านได้กำหนดบอกให้ไปเก็บ เนื่องจากพญานาคราชได้ถวายให้ท่านดุจเดียวกัน หินที่ได้รับการถวายจากพญานาคราชนี้ ถือเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุลม มีกายสิทธิ์ฝ่ายสัมมาทิฐิเข้าครอง ซึ่งส่วนใหญ่กายสิทธิ์เหล่านี้จะบรรลุธรรมขั้นสูง อีกทั้งได้รับการอธิษฐานจิตจากพระเถระเจ้าที่ทรงคุณวิเศษ จึงกล่าวได้ว่ามีอิทธิปาฎิหาริย์ และพุทธานุภาพ เหนือชั้นกว่าเหล็กไหล และให้คุณแก่ผู้ครอบครอง

    ซึ่งก็ตรงตามที่หลวงปู่คำพันเคยบอก ว่า "ผู้ที่จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้น ต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้ที่มาทางสายวิชาอาคมไม่ได้เลย"

    และนี่คือสาเหตุที่ว่าทำไม "ปฐวีธาตุ" จึงมีความแตกต่างจากพระเครื่องมากมายนัก

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ แห่งวัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม คือหินที่อยู่ในน้ำที่ผ่านการเจียรไนจากธรรมชาติเป็นร้อยเป็นพันปี จนใสแสงผ่านได้ เมื่อเอามือไปบังที่ก้อนปฐวีธาตุจะแลเห็นและต้องเป็นหินจากใต้แม่น้ำโขง ณ ตำแหน่งบริเวณที่ท่านได้กำหนดบอกให้ไปเก็บเท่านั้น เนื่องจากพญานาคราชได้ถวายให้ท่านดุจเดียวกัน หินที่ได้รับการถวายจากพญานาคราชนี้ถือเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุลมมี กายสิทธิ์ฝ่ายสัมมาทิฐิเข้าครองซึ่งส่วนใหญ่กายสิทธิ์เหล่านี้จะบรรลุธรรม ขั้นสูงอีกทั้งได้รับการอธิษฐานจิตจากพระเถระเจ้าที่ทรงคุณวิเศษจึงกล่าวได้ ว่ามี อิทธิปาฎิหาริย์ และพุทธานุภาพ เหนือชั้นกว่าเหล็กไหลและให้คุณแก่ผู้ครอบครอง ล้วนแล้วแต่สร้างอภินิหารและประสบการณ์ให้กับผู้บูชานับจำนวนไม่ถ้วนทั้ง เรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน ปลอดภัย โชคลาภ และเมตตามหานิยม นำไปแช่น้ำทำน้ำมนต์แก้คุณไสยได้ ถ้าจะให้ได้ผลดีควรให้ได้สัมผัสไอตัวผู้ใช้ให้มากที่สุด

    พระมหาปฐวีธาตุ
    หลวงปู่ท่านเรียกธาตุจาก หินน้ำโขง๑ จากอัญมณี๑ จากรัตนชาติ๑ (ที่มีลักษณะใส)

    ปฐวีธาตุ
    หลวงปู่ท่านเรียกธาตุจาก หินน้ำโขง ๑ จากอัญมณี๑ จากรัตนชาติ๑ (ทีมีลักษณะไม่ใส)

    แต่ประการสำคัญคือผู้ที่ได้รับต่อกันมาเพื่อนำไปบูชา "จะรู้ได้อย่างไร"..ว่าเป็นมหาปฐวีธาตุ ที่หลวงปู่คำพันธ์ท่านเมตตาให้

    การบูชาปฐวีธาตุ
    หลวงปู่สั่งว่า เมื่อได้มาแล้วถ้าจะบูชาติดตัวก็พยายามเลี่ยมแบบเปิดหน้า เปิดหลังให้ปฐวีธาตุได้สัมผัสกับไอของร่างกาย ธาตุจะดึงดูดซึ่งกันและกันปรารถนาสิ่งใดก็ให้ตั้งจิตเอา ปฐวีธาตุช่วยได้ แต่ถ้าบูชาอยู่กับบ้าน ให้เอาปฐวีธาตุแช่น้ำสะอาดตั้งบูชาไว้บนที่สูง ใส่น้ำอบ น้ำหอมผสมลงในน้ำเป็นการบูชา ลอยด้วยดอกมะลิหรือดอกไม้หอมอื่นก็ได้ จุดธูปบูชา 7 ดอก ให้น้อมรำลึกถึงคุณ พระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ สวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วต่อด้วยพระคาถานี้ แล้วตั้งนะโม 3 จบ
    "หิตะหิรา มันทิโล กะสิรา กะละลาสติ โสจะถิโห คะเนตะเน" (3 จบ )
    แล้วตั้งจิตระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณมารดาบิดาคุณครูบาอาจารย์ พระคุณของหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ หมู่เทพยดา เหล่าพญานาคผู้รักษาองค์พระธาตุพนมและพระธาตุมหาชัยและที่รักษาปฐวีธาตุและทั้งที่สถิตอยู่ในลำน้ำโขงปรารถนาสิ่งใดก็อธิษฐานเอาด้วยจิตที่มุ่งมั่นต่อพระรัตนตรัยและเดชานุภาพของปฐวีธาตุจักบันดาลให้เกิด ความสำเร็จในไม่ช้า หลวงปู่บอกว่าปฐวีธาตุมีคุณวิเศษครอบจักรวาลมีทุกข์ร้อนสิ่งใดก็ให้บอกกล่าว สามารถช่วยเหลือได้จริง

    การลอยดอกไม้ในน้ำให้ทำเฉพาะวันพระ เมื่อหมดวันพระแล้วให้ช้อนดอกไม้ออกอย่าให้เน่าเสียคาภาชนะเด็ดขาด น้ำหล่อปฐวีธาตุถ้าจะเปลี่ยนให้นำไปประพรมบ้านเรือนหรือสาดขึ้นหลังคาบ้านเป็นสิริมงคลนัก กันภัยนานาชนิดหมายเหตุ การที่หลวงปู่ท่านให้แขวนแบบเปิด ไม่ได้หมายความว่ากลัวพุทธคุณจะออกมาไม่ได้ แต่เป็นวิธีการ "ใช้งาน" ในแบบเฉพาะของวัตถุมงคลประเภทนี้ ที่ทำแบบนั้นก็เพราะต้องการให้กระแสธาตุในร่างกายเราได้สัมผัสกระแสธาตุในองค์ปฐวีธาตุพลังงานในปฐวีธาตุน่ะออกมาหาเราได้ แต่พลังงานในกายเราเข้าไปหาเขาไม่ได้ จึงจำเป็นที่จะต้อง "เลี่ยมเปิด" เพื่อสงเคราะห์ตัวเราเองไม่ใช่เพื่อช่วยเหลือท่านแต่อย่างใด

    ปฐวีธาตุชุดนี้พิเศษเป็นเหล็กไหลครับและเสกเดี่ยวทั้ง 3 องค์รับรองความสุดยอดครับ​
     
  10. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  11. jamesstar

    jamesstar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +650
    คตปลากระเบนครับ พบเพียงไม่กี่ชิ้นจากที่ทำอาชีพแพปลามาตั้งแต่รุ่นยาย มักจะพบในตัวปลาที่ตัวใหญ่อายุมากผิดปกติแต่ก็ไม่ได้มีอย่างงี้ทุกตัว ตลอดสามรุ่นครอบครัวเราพบเพียง 5 ลูกเท่านั้น ที่เก็บไว้เพราะเห็นว่าแปลกดีเท่านั้นครับ ไม่ทราบเลยว่าเป็นอะไรและมีประโยชน์หรือมีผลเสียอย่างไรจากการเก็บรักษาไว้ แต่บางทีอาจเป็นแค่เพียงสิ่งผิดปกติในร่างกายปลาก็ได้ แต่ผมสังเกตเห็นเป็นลักษณะเหมือนมันงอกออกมาจากตัวมันเองเลยคิดว่าบางทีอาจเป็นการสะสมตัวเองและโตขึ้นคล้อยๆกับมุกที่เกิดขึ้นในตัวหอยมุกน่ะครับ

    ใครพอจะทราบก็รบกวนช่วยบอกด้วยนะครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง

    รบกวนขอที่อยู่อาจารย์ด้วยครับ ผมจะจัดส่งไปร่วมบุญครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    เครื่องขลังจากสัตว์
    มีฤทธิ์ในตัวเองโดยไม่ต้องปลุกเสก

    เครื่องรางที่มนุษย์เรานำมาจากสัตว์ ส่วนใหญ่ถือเป็นของ “ทนสิทธิ์” มีฤทธิ์ในตัวเองโดยไม่ต้องปลุกเสก

    ครูบาอาจารย์บางท่านเล่าไว้ว่า เหตุที่สิ่งกายสิทธิ์เหล่านี้ไปเกิดอยู่กับตัวสัตว์นั้น เนื่องมาจากในอดีตชาติสัตว์เหล่านั้นผ่านการบำเพ็ญเพียรภาวนา หรือเป็นผู้มีวิชาอาคม เป็นผู้มีฤทธิ์ แต่วิบากกรรมนำพาให้ต้องมาเกิดเป็นสัตว์ในชาติภพนี้ ฤทธิ์อภิญญาที่ติดตัวมาแต่ชาติปางก่อน จึงทำให้อวัยวะบางส่วน อาทิ เขี้ยว เขา กลายเป็นของขลังคุ้มครองสัตว์นั้นๆ
     
  13. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ของขลังจากสัตว์และธรรมชาติ มีฤทธิ์ในตัวเองโดยไม่ต้องปลุกเสก
    กระเบนท้องน้ำ
    กระเบนท้องน้ำ

    กระเบนท้องน้ำ หรือหัวกระเบนท้องน้ำ หรือคดกระเบน ของขลังที่นิยมทางภาคใต้ มีอำนาจด้านป้องกันภัยทางน้ำ คุณไสย ลมเพลมพัด​
     
  14. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    พบเจออยู่ตรงส่วนไหนของตัวปลาครับ​
     
  15. ศิริยะ

    ศิริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +2,760
    แจ้งการโอนเงิน
    - เหรียญหนุนดวงฯ ลำดับที่ 9 ในตาราง โอนส่วนที่เหลือ 700 บาท
    - เศียรพ่อแก่ฯ และลูกสะกด ลำดับที่ 23 โอนครั้งที่ 1 จำนวน 500 บาท

    โดยผมได้โอนทั้งสองรายการนี้ รวมมาในสลิปเดียวกัน จำนวน 1,200 บาท วันนี้ 8/10/57 เวลา 17.48 ตามสลิปที่แนบมาครับ :cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2785.jpg
      IMG_2785.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.2 KB
      เปิดดู:
      30
  16. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ความเชื่อ


    พระไภษัชยคุรุเป็นที่นับถืออย่างแพร่หลายในหมู่ชาวพุทธมหายาน แต่ไม่มีนิกายเป็นของตนเองอย่างพระอมิตาภะพุทธะ ทรงมีแดนศุทธิไวฑูรย์ที่เหมือนกับแดนสุขาวดีของพระอมิตาภะ นอกจากนี้ในคัมภีร์ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาสัปตพุทธปูรวปณิธานสูตร กล่าวว่าทรงเป็นหนึ่งในพระไภษัชยคุรุทั้ง 7 มีพระโพธิสัตว์เป็นสาวก 2 องค์ คือ พระสุริยประภาโพธิสัตว์และพระจันทรประภาโพธิสัตว์

    ดังนั้น จึงเป็นที่มาของพระกริ่งปวเรศ ที่มีการจัดสร้างขึ้นเฉพาะในราชอาณาจักรไทยแต่เพียงผู้เดียว เพราะพุทธลักษณะของพระกริ่งคล้ายคลึงกับพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้ามาก​
     
  17. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต​



    พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต (藥師琉璃光如來)

    พระไภษัชยคุรุพุทธะ หรือ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต( เอี๊ยะซือฮุก)
    藥師琉璃光如來, 藥師佛, 藥師佛, 薬師, 药师佛
    भैषज्यगुरुबुद्ध – Bhaisajyaguru Buddha

    พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต หรือ พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า (เอี๊ยะซือฮุก หรือ ยกเหล่าซือฮุกโจ๊ว) เป็นพระพุทธเจ้าที่พบเฉพาะในนิกายมหายานเท่านั้น

    พระนามของพระองค์ หมายถึง พระพุทธเจ้าผู้เป็นบรมครูแห่งยารักษาโรค ผู้มีรัศมีงดงามสีน้ำเงินดังไพฑูรย์ พระนามอื่นๆ ของท่านคือ พระไภษัชยคุรุตถาคต พระมหาแพทย์ราชาพุทธเจ้า พระมหาไภษัชยราชพุทธเจ้า ทรงเป็นที่นิยมนับถือในหมู่ชาวจีนและชาวทิเบต

    พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต มาทางจีนจะแปลความหมายของพระองค์ว่า เอียะ ซือ หยูไล (藥師如來)

    หากจะแปลทับศัพท์ก็คือ ปี ซา แซ ลิว ลู เผก ลิว ลี ปอ ลา พอ ออ ลา แซ แย (鞞殺社窶嚕薜琉璃鉢喇婆喝囉闍也)

    เพราะหากจะแปลทับศัพท์แล้วจะมิอาจทราบได้เลยว่า คือ พระพุทธเจ้าพระองค์ใด พระนามของพระองค์มีความหมายว่า

    ไภษัชย (藥) คือ ยา,โอสถรักษาโรค
    คุรุ (師) คือ ครูอาจารย์,ผู้เชี่ยวชาญ
    ไวฑูรย (琉璃) คือ แก้วรัตนะชนิดหนึ่งมีสีน้ำเงินใส ไทยเรียกว่า
    ไพฑูรย์ประภา (光) คือ แสงรัศมีที่ส่องสว่าง
    ตถาคต (如來) คือ คำเรียกหมายถึงพระผู้เสด็จมาแล้วด้วยดีอย่างนั้น

    ซึ่งหมายถึงการเรียกขานพระพุทธเจ้า คล้ายๆกับการเรียกว่า พระพุทธเจ้า (佛) พระโลกนาถ(世尊) เป็นต้น

    สรุปความหมายพระนามโดยรวมคือ “พระตถาคตเจ้าผู้เป็นคุรุผู้เชี่ยวชาญทางโอสถรักษาโรค ผู้มีแสงรัศมีสีน้ำ เงินบริสุทธิ์ประดุจแก้วไวฑูรย์”

    พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าทรงมีพุทธเกษตรของพระองค์เองอยู่ทางด้านทิศตะวันออก ของโลกเราแห่งนี้ออกไปไกลแสนไกลชื่อว่า “ศุทธิไวฑูรย์”(淨琉璃世界) ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับแดนสุขาวดีที่อยู่ทางทิศ ตะวันตก

    ในพระสูตรบรรยายว่าดินแดนของพระองค์นั้นมีความสวยงามอลังการและวิเศษเสมือนกับแดนสุขาวดี ทุกประการมิแตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย ผู้ที่ไปเกิดก็จะปราศจากความทุกข์ทรมานทั้งปวง ทั้งจะเป็นผู้มิเสื่อมถอย จากกุศลและภูมิธรรม จะได้บำเพ็ญตนสำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์เพื่อกลับมาช่วยสรรพสัตว์ จนสำเร็จพระพุทธมรรค ได้ยังศุทธิไวฑูรย์พุทธเกษตรแห่งนั้น การจะไปเกิดก็โดยการตั้งปณิธานอธิษฐานจิตต่อพระองค์ และประกอบกุศล กรรมบำเพ็ญธรรมดีงามเพื่อมุ่งไปเกิด พร้อมกับการภาวนาพระนามของพระองค์โดยสม่ำเสมอว่า

    ขอนอบน้อมแด่ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต เป็นจีนว่า
    "นำ มอ หยก ซือ ลิว ลี กวง ยู ไล" (南無藥師琉璃光如來) หรือ

    ขอนอบน้อมแด่พระนิรันตรายจิรายุวัฒนาไภษัชยคุรุพุทธเจ้า
    เป็นจีนว่า "นำ มอ เซียว ไจ เอียง ซิว หยก ซือ ฟู" (南無消災延壽藥師佛)

    ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ที่หมั่นภาวนามีสุขภาพแข็งแรง อายุมั่นขวัญยืน มิต้องประสบกับโรคร้ายเบียดเบียนทั้งโรคกรรมโรคปีศาจทั้งปวงให้ได้สมหวังดังปรารถนาทุกประการ

    พระปฏิมาของพระองค์จะประดิษฐานทางเบื้องซ้ายของพระศากยมุนีพุทธเจ้า ทรงถือรัตนเจดีย์ หรือบาตรบรรจุทิพยโอสถ หรือ บ้างก็ถือแจกันในพระหัตถ์ที่ประสานกันในท่าสมาธิ

    บางแห่งจะให้แบพระหัตถ์ขวาออกในกิริยารับดวงวิญญาณไปเกิด ธิเบตจะทรงถือต้นยาวิเศษชื่อ “อคทะ” ส่วนทางจีนนั้นจะทรงถือเห็ดหลินจือ ซึ่งชาวจีนโบราณเชื่อว่า เห็ดหลินจือเป็นของหายากที่สุดและเป็นยาอายุวัฒนะของเซียน

    หากเป็นภาพวาดของธิเบตจะวาดพระวรกายของพระองค์เป็นสีน้ำเงินเข้ม และพระกริ่งที่นิยมกันแพร่หลายในประเทศไทยก็ได้แบบอย่างมาจากพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้านั่นเอง

    พระพุทธเจ้าแห่งทิศตะวันออกจอมราชันย์แห่งศาสตร์การแพทย์ พระวรกายสีน้ำเงินประดุจท้องฟ้าอันมหาศาลพระหัตถ์ขวาในท่าภาวนา พระหัตถ์ซ้ายถือบาตรยาหรือหม้อยาพระกริ่งที่สร้างกันในประเทศไทยก็คือพระพุทธเจ้าพระองค์นี้
    ศาสตร์การแพทย์คือศาสตร์ที่พระศากยะมุนีพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า เป็นสุดยอดแห่งศาสตร์ทั้งปวง การแพทย์แห่งพุทธเน้นแนวทางในการรักษาแบบองค์รวมนั้นคือเน้นความสัมพันธ์ในการรักษาทั้ง กาย วาจา ใจไปพร้อมกัน โดยใช้สมุนไพรใบยาการภาวนามนตรา สมาธิจิตความอ่อนแอในทางสุขอนามัยของสรรพสัตว์ ซึ่งเป็นตัวขัดขวางการบำเพ็ญเพียรเพื่อสู่การหลุดพ้นเป็นเหตุให้พระไภษัชยพุทธเจ้าต้องเสด็จมาเพื่อโปรดสรรพสัตว์ พระองค์ทรงเข้าร่วมในกิจกรรมทางการแพทย์ทุกขั้นตอนพิธีกรรมในการปรุงยา พระองค์ทรงเป็นประธานและผู้ลงมือกระทำการเพื่อความมีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งยาในการรักษาการภาวนา พระองค์ทรงประทานคาถาในการภาวนาเพื่อความเชื่อมั่นแน่วแน่ในการสู่สุขภาพที่ดี การทำสมาธิน้อมอัญเชิญพระองค์เข้าสู่ตัวเราหลอมรวมพระองค์และเราเป็นหนึ่งเดียว ความเจ็บป่วยทั้งปวงถูกหลอมละลายเป็นอากาศธาตุพระองค์และเราเข้าสู่ศูนยตาสภาวะ เราออกจากสมาธิในสภาวะว่างเปล่านั่นคือโรคภัยไข้เจ็บต่างๆมลายหายไปด้วย

    ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันในวงการแพทย์อย่างกว้างขวางว่าสมาธิจิตเป็นยาวิเศษชนิดหนึ่งในการบำบัดความเจ็บป่วยการรักษาในแนวทางแห่งพุทธนี้ไม่เพียงได้ความสุขทางกายเพียงประการเดียวสมาธิจิตที่ได้เป็นยานพาหนะนำพาเราเข้าสู่การหลุดพ้น สู่ความเป็นพุทธะในที่สุดบังเกิดความสุขอันนิรันดร

    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแก่พระอานนท์ว่า " หากสรรพสัตว์ที่ยังมีกรรมหนักอยู่ ได้ยินพระนามของพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตเจ้า ท่องพระนามนี้ด้วยจิตแน่วแน่และแนบแน่นอยู่กับพระนาม โดยไม่มีความเคลือบแคลงสงสัยเลยแม้เพียงหนึ่งเดียวแล้วไซร้ ก็เป็นอันว่าสัตว์เหล่านั้นจะไม่มีทางจะจมลงสู่อบายภูมิเป็นแน่แท้ ดูกรอานนท์การปฏิบัติอันสูงยิ่งของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นเรื่องที่ยากที่จะเชื่อยากที่จะเข้าใจ แต่หากเธอสามารถมีจิดตั้งมั่นอยู่กับการปฎิบัตินี้ได้เธอก็จงรู้เถิดว่า นี่เกิดจากพลังอำนาจอันใหญ่ยิ่งของเหล่าพระตถาคตเจ้าทั้งหลาย "

    วันคล้ายวันพุทธสมภพคือ วันที่ ๓๐ เดือน ๙ จีน

    พระโพธิสัตว์คู่บารมี พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต

    พระสุริยประภาโพธิสัตว์(日光遍照菩薩) พระจันทรประภาโพธิสัตว์(月光遍照菩薩) ซึ่งเป็นคนละองค์กับพระสุริยเทพและจันทรเทพ

    ๑ .พระสุริยประภาโพธิสัตว์ “ยิก กวง ผ่อ สัก” (南無日光王菩薩) ทรงเปรียบเสมือน แสงแห่งปัญญาญาณที่เจิดจรัสและอบอุ่นยังให้สรรพสัตว์ตื่นขึ้นและรู้แจ้งเหมือนพระอาทิตย์ และ

    ๒. พระจันทรประภาโพธิสัตว์ “ว๊วย กวง ผ่อ สัก” (南無月光王菩薩)
    ทรงเปรียบกับ แสงแห่งความเมตตาและกรุณา ที่ร่มเย็นใสสะอาด สามารถเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด ยังให้สรรพสัตว์ที่หลงผิดได้รู้แจ้งเหมือนดังได้พบความสว่างในความมืดยามราตรี
     
  18. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  19. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ขอเชิญร่วมกิจกรรมตอบคำถาม
    ตั้งแต่วันนี้-๑๕ พย. ๕๗


    วัตถุมงคลทั้งหมด ที่จะจัดสร้างในรุ่นหน้า
    ๑. มีกี่อย่าง
    ๒. มีอะไรบ้าง

    - ๑ ท่าน สามารถส่งคำตอบได้ครั้งเดียว
    - ท่านที่ตอบถูกทั้งหมด จะมีของสมนาคุณพิเศษ

    ***ถ้าไม่มีท่านใดตอบถูกทั้งหมด
    เราจะตัดสินที่คำตอบถูกมากที่สุด เป็นท่านแรก

    ***คำตอบที่ส่งมาต้องไม่มีการแก้ไข ถ้ามีการแก้ไขถือเป็นโมฆะ

    ***จำนวนที่ท่านทาย จะต้องไม่เกินจำนวนที่เราสร้าง เราจะเช็คคำตอบตามความสำคัญลงมา ตั้งแต่ลำดับที่๑...ถีงจำนวนที่เราสร้าง
    ตย. ท่านทายว่า ๒๐ อย่าง แต่เราสร้าง ๘ อย่าง
    ดังนั้นดิฉันจะเช็คคำตอบ ที่ท่านส่ง ที่ลำดับ ๑-๘ เท่านั้น เกินจากนี้ไม่นับ เพื่อจะไม่เป็นการได้เปรียบด้วยค่ะ
    (มั่นใจว่าใช้ขึ้นอันดับ๑เลยค่ะ เรียงตามความมั่นใจค่ะ)


    สงสัยเหรียญหนุนดวงขึ้นอันดับ๑ ทุกท่านแน่เลย อิอิ


    ประกาศผล ๑๖ พย. ๕๗


    .ใจเย็นๆคิดให้ก่อนแล้วค่อยตอบครับ

    เดี่ยวมีเกมมาให้เล่นกันครับ พร้อมรางวัลครับ อย่าพึ่งทายนะครับ วัตถุมงคลชุดหน้า

    1.มีกี่อย่าง
    2.มีอะไรบ้าง

    1.ใบ้ให้ครับ เป็นสิ่งที่หลายๆคนอย่างจะได้กันมาก
    2.ใบ้ต่อเป็นอาวุธ ที่ไม่ใช่อาวุธ แต่มีอานุภาพเหนืออาวุธทั้งปวง
    3.55555เป็นการรวบรวมมวลสารสำคัญๆในสายหลวงพ่อหลวงปู่และคุณแม่ชีที่มาก และอานุภาพของมวลสารนั้นๆ ก็สุดจะบรรยายแล้วครับ มวลสารด้านเมตตาสุดๆๆ
    4.อย่าพึ่งทายนะครับรอเก็บข้อมูลไปก่อนครับ แล้วจะบอกอีกทีครับว่าให้ทายเมื่อไร ที่ใบ้นี้จะใบ้รวมๆกัน ไปเลยนะครับ
    ใบ้แล้วนะครับ เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
    5.ใบ้ เป็นอาวุธชนิดนึง ที่เรียกได้เต็มปากเลยว่า "ดาบฟ้าฟื้นฉบับย่อ"เล็กแต่คุณภาพคับแก้ว
    6.ใบ้เลยก็ได้ครับ เป็นของสมเด็จองค์ปฐมน่าจะเป็นการสร้างครั้งแรกเลยก็ว่าได้ มีถึง 2 อย่างด้วยกัน อย่างนึงเป็นของที่หลายๆคนอยากจะได้ เป็นเจ้าของ มีการถามมาหลายครั้งแล้ว อีกอย่างก็พึ่งทำผ่านมาไม่นานนี้เองแต่ใช้ชื่อ ที่พวกเราเคารพและยอมรับนับถือ
    7.ใบ้ต่ออีกนิดนะครับ เป็นพระที่ผู้ชายชอบมากกันเป็นส่วนมาก
    8.ใบ้ เวลาไหว้ครูเกี่ยวกับนักแสดงจะมีสิ่งนี้เป็นประธาน
    9.ใบ้อีกครับ หลวงปู่ทับ วัดทอง กรุงเทพฯ
    10.โบ้ เป็นเม็ดเล็กๆแต่มีอานุภาพมาก
    11.ใบ้ ทรงตั้งปณิธานเมื่อได้บรรลุในพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณไว้ 12 ประการ
    12.ใบ้ เอาใว้สำหรับทำน้ำที่เป็นมงคลและรักษาโรคโดนคุณคนคุณผี ลมเพลมพัด โดยเฉพาะเลย(คงรู้กัน 555)ทำน้อยมาก 12 ?
    13.ใบ้ สำหรับใช้ภาวนามีค่าเกินบรรยาย

    คนนึงจะทายได้แค่ 1 ครั้งเท่านั้น

    ใครที่พร้อมก็สามารถทายได้เลย ใครที่ทายถูกก่อนก็จะได้รับรางวัลเลยครับ

    ของรางวัลเป็นเหรียญหล่อโบราณที่ไม่มีให้บูชาครับ มวลสารพิเศษ555
    เหรียญหล่อมหาเศรษฐีเนื้อพิเศษสร้างน้อยมากๆเลยไม่ได้ให้บูชา(แจก)เป็นรางวัล


    ตอนนี้ที่รู้ๆมีอยู่ 7 อย่างแล้วครับคือ
    1.เหรียญหนุนดวงชนะมาร
    2.ปรกมะขามหนุนดวงชนะมาร
    3.พระพิฆเณศ
    4.พระปิดตายันต์ยุ่ง
    5.บาตรทำน้ำมนต์


    6.เศียรพ่อแก่บรมครูรวมบารมี 108 องค์
    7.ลูกสะกด
    8.พระกริ่งไภษชคุรุ

    วัตถุมงคลทั้งหมด ที่จะจัดสร้างในรุ่นหน้า
    ๑. มีกี่อย่าง
    ๒. มีอะไรบ้าง

    ใครที่ทายถูกคนนั้นก็ได้เลย ถูกก่อนได้ก่อน มีแค่ 1 รางวัล ถ้าไม่มีใครทายถูกทั้งหมดก็ จะดูใครทายถูกมากที่สุดครับ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2014
  20. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    (ping-love(ping-love(ping-love
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...