จะทำอย่างไรดีคะ หากรู้ว่ากำลังหลง ในกามตัณหา อยากจะขจัดมันไป แต่ทำไม่ได้เสียที

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย cake45pueng, 19 มกราคม 2008.

  1. cake45pueng

    cake45pueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +251
    รู้ว่าหลงในกาม ตัณหา ราคะ แต่เวลาพบเจอกลับจัดการมันไม่ได้ พ่ายแพ้ต่อสิ่งเหล่านี้ทุกที อยากจะขจัดมันออกไป ท่านผู้รู้ โปรดช่วยชี้แนะ อุบาย หรือความคิด พิจารณาให้เห็นอย่างชัดแจ้ง จะต้องทำอย่างไร พิจารณาหรือควรคิดอย่างไรดีคะ ขอความกรุณาโปรดชี้แนะผู้มืดบอด ด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ
     
  2. อาคันตุกะนิรนาม

    อาคันตุกะนิรนาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +1,469
    กิเลสตัวนี้ น่ากลัวจริงๆครับ ระดับพระโสดาบัน ยังตัดไม่ได้เลย
    เเต่ท่านพอใจในเฉพาะคู่ของตน ก็ยังดีนะครับ ที่ยังรู้ว่าตัวเอง
    มีจริตด้านไหน มีครูบา-อาจารย์ ท่านหนึ่งให้อุบายสำหรับ
    จริตตัวนี้ว่า "ให้เเต่งงานไปเลย"ถ้ายังหาคู่ครองไม่ได้ ก็ลอง
    ใช้กรรมฐานกอง อสุภกรรมฐานไปก่อนครับ ต้องหักห้ามใจ
    ไม่เเย่งคนรักของคนอื่น มันจะได้ไม่เท่าเสีย...ได้ความสนุก
    เพียงชั่วประเดี๋ยวเดียว...เเต่ต้องไปปีนต้นงิ้วในนรกอีกยาวนาน...ไม่คุ้ม
     
  3. chinasungkia

    chinasungkia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +852
    ถูกต้องแล้วครับ ต้องใช้ อสุภะกรรมฐาน ช่วยครับ คือ พิจารณาซากศพ รูปภาพที่หมอกำลังผ่าชันสูตรศพ นะครับ และให้พิจารณาว่า ไม่ว่า หญิง หรือ ชาย สถาพภายในกาย ก็ไม่ต่างไปจากศพนี้ ถ้าไม่ได้มีเนื้อหนังมังสา มาห่อหุ้ม อยู่ ก็จะไม่มีอะไรหน้าดูเลย ไม่ใช่สิ่งสวยงาม หน้าเสน่หา แต่อย่างใด

    เวลาปฏิบัติสมาธิ ก็ให้พยายามพิจารณาสิ่งเหล่านี้ พิจารณาธาตุทั้ง 4 อันประกอบด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ พิจารณา ขันธ์ ทั้ง 5 อันประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ให้มาก ๆ พิจารณาร่างกายเราตั้งแต่หัวจรดเท้า พิจารณากลับไป กลับมา บ่อย ๆ เข้าจะเกิดความเบื่อหน่ายในสังขาร และการเกิด ครับ แล้วเรื่องกามตัณหา ก็จะค่อย ๆ ลดลงไปได้เองครับ....สาธุ
     
  4. แจ้งให้ทราบ

    แจ้งให้ทราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +691
    ประกาศสัจจะสาบาน หนึ่ง

    ระลึกถึงความเพียรของพระพุทธเจ้า หนึ่ง

    ระลึกถึงพระธรรมของพระพุทธเจ้า หนึ่ง

    รู้โทษของการข้องเกี่ยวในสิ่งนั้น หนึ่ง

    รู้ถึงความไม่เที่ยงในสิ่งนั้น หนึ่ง

    รู้ว่าสิ่งนั้นย่อมถึงความเบื่อหน่ายอยู่เสมอ หนึ่ง

    รู้ว่ายังมีสิ่งอื่นที่ควรข้องเกี่ยวมากกว่าสิ่งนั้น หนึ่ง

    การตั้งสัจสาบานไว้อย่างเป็นแม่นมั่น แก่สถานที่อันศักสิทธิ์ แก่อัฐิของภิกษุผู้ควรให้การเคารพสักการะ จะเป็นประโยชน์มาก สำหรับการขจัดกิเลส เพราะจะทำให้ระลึกอยู่เสมอว่า หากไม่สำเร็จในการนั้นแล้ว คำสัตย์สาบานที่ให้ไป จะกลายเป็นหอกกลับมาสร้างความพินาศ ให้กับผู้เปล่งวาจาสัตย์นั้น

    อนุโมทนาครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2008
  5. 道教พินอิน

    道教พินอิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +510
    นาสงสารหนอ มันยากแท้จะอดทนไหว ขันติ ทมะ อันเป็นเครื่องแผด

    เผากิเลสอย่างยิ่งจงบำเพ็ญให้มากให้หนัก สัจจะของตนที่ตั้งเอาไว้จงทำเสีย

    ให้ได้ ยากหนอ ยากหนอ เฮ้ย สาธุ
     
  6. cake45pueng

    cake45pueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +251
    ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชี้แนะหนทางนะคะ เนื่องจากยังอ่อนด้อยนัก อยากถามว่า การพิจารณาอสุภะ เวลานั่งปฏิบัตินั้น ควรจะพิจารณาอย่างไรคะ หรือว่า ต้องดูภาพ หรือว่าเห็นของจริงๆ ดิฉันยังอ่อนด้อยอยู่มาก เพิ่งจะเริ่มปฏิบัติเท่านั้น ขอความกรุณาอธิบายให้ลึกซึ้งทีเถิดค่ะ เจริญในธรรมทุกๆท่านนะคะ
     
  7. อาคันตุกะนิรนาม

    อาคันตุกะนิรนาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +1,469
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2008
  8. ไอน์สไตน์

    ไอน์สไตน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2007
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +79
    มหา

    การการพิจารณาอสุภคงจะยากสัมหรับท่านที่ไม่เคิยปติบัตรมาเพราะต้องพิจารณาซากศพ.......................ถ้าผมขอแนะนำให้พิจารณาของเสียของร่างกายที่ออกมาเช่น........ของเสียต่างๆเช่นเวลาถ่าย...ขี้หู..ขี้ตา
    น้ำมูกของเสียต่างๆนี้ก็เป็นอุบายหนึ่งที่พอจะกำจัดโลกียารมได้บางไม่มากก็น้อยนะครับ:boo:
     
  9. HippY Thong

    HippY Thong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +143
    ปลงอสุภะ
    งดเนื้อสัตว์และอาหารกระตุ้นกาม
    งดการสำเร็จความใคร่รวมถึงพยายามปราบปรามจินตนาการทางเพศให้ราบคาบ
    ระลึกถึงประสบการณ์ทางเพศที่เลวร้ายเช่น การถูกถากถาง การถูกทำร้าย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2008
  10. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    สมาทานศีล 8 ทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือน นะครับ

    ใช้เวลาว่างพิจารณาธรรม อ่านหนังสือธรรมะ แล้วอยู่ห่างจากสื่อ อินเตอร์เนท หรืออะไรที่จะชักนำพาเราไปในทางนั้น ครับ
     
  11. MegaFM

    MegaFM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,446
    นั่งดูของเน่าเสีย หรือหาภาพที่เขาใช้ชันสูตรศพอ่ะครับ จะช่วยได้มาก
     
  12. golf135

    golf135 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +652
    อนุโมทนากับผู้ปฏิบัติทุกท่านคับ เรื่องทำให้กามเบาบางลงยังไง ท่านอื่นๆได้ตอบไว้เยอะแล้ว ...ผมเองก็พยายามอยู่คับ เป็นกำลังใจให้นะคับ
     
  13. Mettigo

    Mettigo ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +690
    ต้องควบคุมจิตใจตัวเองครับ ตามดูจิตเมื่อเกิดต้องพยายามดับให้ได้
    เป็นกำลังใจให้นะครับ
     
  14. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ลองใช้ความนิ่งสงบความเคลื่อนไหวดูมั๊ยครับ คือเวลาเกิดความรู้สึกนั้นขึ้นมาก็ให้เรานิ่งเอาสติมาระลึกรู้อยู่ในกาย สังเกตอารมณ์และความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับกาย อย่าไปตามความคิดหรือปรุงแต่งเสริมต่อความคิดที่เกิดขึ้นนะครับ ให้ดูที่ความรู้สึก สังเกตได้ว่าถ้าสติเราระลึกรู้อยู่ที่ความรู้สึกที่เกิดในกายไม่ไปตามความคิด เราก็จะเห็นแต่สภาวะธรรมหรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นแต่ไม่มีความคิดที่จะไปลงมือกระทำ

    เราประคองสติดูความรู้สึกในกายไปเรื่อยๆด้วยความสงบ ไม่นานความรู้สึกนั้นจะค่อยๆเบาบางและดับไปเองครับ ทั้งนี้เนื่องจากเราไม่ได้ไปคิดปรุงเสริมเติมแต่งเรื่องราว สติจึงสามารถตามเห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ของอารมณ์ความรู้สึกนั้นได้ตลอดสาย

    ทำเช่นนี้เรื่อยๆ มีสติให้ต่อเนื่องเกิดความรู้สึกอะไรก็ดูไปแต่ไม่ปรุงแต่งตาม ที่สุดแล้วอารมณ์ความรู้สึกในด้านนั้นจะเบาบางลง หรืออย่างน้อยจิตเราจะมั่นคงขึ้นจนสามารถควบคุมอารมณ์ได้ตามต้องการ(เช่น ถ้าอยากให้มีอารมณ์ความรู้สึกก็ปรุงแต่ความคิดเข้าไป แต่ถ้าไม่อยากให้เกิดอารมณ์ก็วางเฉยหรือกำหนดเจตนาว่าไม่ต้องการให้เกิดอารมณ์ขึ้นน่ะครับ)

    ปล.นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่า อริยสัจ4 ข้อแรก ทำไมจึงต้องเห็นทุกข์ก่อน เพราะเมื่อเห็นว่าเป็นทุกข์จึงค่อยเกิดความคิดที่จะละหรือสละทิ้งไปน่ะครับ ความเห็นจึงเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดแนวทางของกรรมฐานทุกวิธีครับ
     
  15. 道教พินอิน

    道教พินอิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +510
    <DIR>คำสอนของหลวงพ่อชา สุภัทโท
    เธอจงระวัง ความคิด ของเธอ
    เพราะความคิดของเธอ
    จะกลายเป็น ความประพฤติ ของเธอ
    เธอจงระวัง ความประพฤติ ของเธอ
    เพราะความประพฤติของเธอ
    จะกลายเป็น ความเคยชิน ของเธอ
    เธอจงระวัง ความเคยชิน ของเธอ
    เพราะความเคยชินของเธอ
    จะกลายเป็น อุปนิสัย ของเธอ
    เธอจงระวัง อุปนิสัย ของเธอ
    เพราะอุปนิสัยของเธอ
    จะกำหนด ชะตากรรม ของเธอชั่วชีวิต
    </DIR>
     
  16. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,561
    ค่าพลัง:
    +2,122
    มันยากอะนะ กาม มันมาทุกอย่างเลย รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
    เป็นกำลังใจไห้ละกันนะ อสุพะนั้นหละพิจบ่อยๆ เห็นคนถูกใจก็คิดๆๆๆ
     
  17. แท้จริง

    แท้จริง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2008
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +989
    วิธีนอกตำรา นะครับ
    1.งดเนื้อสัตว์นะ ในเนื้อสัตว์มีสารกระตุ้นฮอร์โมนเพศเยอะแยะ
    2.งดผลไม้ที่เป็นมหาผล คือลูกใหญ่กว่ามะตูมสรุปว่า
    ให้ทานได้แต่ผลไม้ลูกเล็กว่างั้นเถอะ เพราะมีสารเหมือนข้อแรก
    3.อย่าดู ฟัง อ่าน หรือทำ อะไรที่เข้าข่ายเรื่องเพศ
    ถ้าคิดว่ายังไม่พร้อมคือใจยังไม่แข็งพอ
    4.ออกกำลังกายให้มันหมดแรงไปข้าง ความคิดมันจะโล่งและคิด
    เรื่องอย่างว่าน้อยลง
    5.อย่าอยู่ตามลำพังกับแฟน
    6.ถ้าไม่ไหวก็อย่างที่ข้างบนเขาว่า แต่งงานมันไปซะเลย
    หมดเรื่องถ้าถึงวัยแล้วนะ ถ้ายังไม่ถึงเวลาก็อย่าเลย
    แต่งงานแล้วปวดเฮด

    วิธีในตำรา ...
    1.ศีล ใช้ศีลเป็นกรอบชีวิต เพื่อไม่ใช่เรานอกลู่นอกทาง
    และศีลทำให้จิตใจสงบระงับ แน่นอนครับยืนยัน
    แต่อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย
    2.ภาวนา อสุภอย่างข้างบนก็ดีครับ ตรงจริตดี การหมั่นภาวนาบ่อยๆ
    จะทำให้จิตใจเยือกเย็น และคิดเรื่องนี้น้อยลงอย่างเห็นได้ชัดครับ
    3.ให้นึกเสมอว่าเราต้องตาย แน่ๆ ให้รีบทำสิ่งที่ดีกว่า กามซะ
    เพราะไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ควรใช้เวลาทำความดีดีกว่า
    4.ทำความเห็นให้ตรงกับสัจจะ คือ ชีวิตเป็นของเที่ยง ไม่ใช่ของเรา
    และเต็มไปด้วยความทุกข์(ดูอย่างตอนนี้ซิ ต้องวุ่นวายกับเรื่องกาม
    นิยมกามก็ได้รักเทียมๆ ครั้นจะไม่นิยมก็อยู่อย่างแห้งๆ ทุกข์แท้ๆ)

    เป็นกำลังใจให้ครับ
     
  18. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    เล่าประสบการณ์ตรง จริง ๆ เลยนะ

    เมื่อหลายปีก่อนมีเหตุให้นั่งสมาธิอย่างจริงจังติดตอ่กันทุกคืน ครึ่งชั่วโมงบ้าง หนึ่งชั่วโมงบ้าง สองชั่งโมงบ้าง แรก ๆ ไมไค่อยได้ผลเพราะทิ้งมานาน (เคยนั่งครั้งแรก นั่งเองอ่านจากตำราตอนอาย 17 ไม่มีใครสอน ได้ผลบ้างไม่ได้บ้าง แต่ได้หวย ไม่สนใจอะไร จากนั้นทิ้งไปนาน) ตอนที่นั่งติดต่อกันเราเริ่มรู้เองว่าสมาธิกำลังก้าวหน้าดีขึ้น ๆ แล้ววันหนึ่งจิตก็รวมดิ่งอยู่อย่างนั้นมีความรู้สึกว่าแป๊บเดียวแต่ความจริงเวลาผ่านไปนานกว่านั้นมาก ตอนจิตรวม ความสุขจะหาอะไรเปรียบไม่มี ต่อ ๆ มาทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่สังเกตตัวเองว่า ไม่ปรารถนาในกามราคะ ด้วยความสติน้อยจึงบอกเพื่อนว่าออกจากกามแล้ว ทำได้นานอยู่ หลายเดือน ต่อมาเมื่องานยุ่งไม่ได้ทำสมาธิ ฌานก็เสื่อม กามราคะก็กลับมา สู้กัน แต่เราแพ้นะ เพราะไม่มีอาวุธิ และวิธีการสู้อย่างถูกวิธี แต่ไม่เสียหลาย ร้แล้วว่าฌานระงับกามได้ พอไปอ่านหนังสือถึงได้รู้ว่าในหนังสือก็กล่าวว่าสมาธิระดับฌานสามารถระงับกามราคะได้เช่นเดียวกัน

    ต่อมาลองอีกครูบาอาจารย์บอว่าให้พิจารณาอสุภะทั้งภายนอกภายในทั้งของตนเองและผู้อื่น เข้าสมาธิแล้วพิจารณาเลยตรองไป จิตก็จะสงบเอง ช่วงนั้นทำบ่อยบางทีก็ติดต่อกันหลายวัน แล้วสังเกตตนเองว่ากามระคะไม่กำเริบ แต่ยังไม่ชนะมันขาด


    ไม่นานมานี้บางครั้งก็พิจารณาอสุภะบ้างภายในตนเองนอกตนเอง คนอื่นบ้าง ใช้ได้ดีอยู่ สังเกตตนเอง แต่ยังไม่ขาด

    ต่อมาเพิ่มวิธีเข้าไปอีกคือตั้งเป้าว่าเราต้องชนะ ระหว่าง กามราคะกับจิตใจเรานี้ โดยตั้งจิตไว้แน่นหนาว่าเราจะไม่ยอมแพ้และเป็นทาสมันอย่างเด็ดขาด ถ้าเรายอมทำตามกิเลสกามแสดงว่าเราแพ้ เมื่อมีครั้งที่ 1 ก็ต้องแพ้ครั้งที่สอง เราจึงประคองสู้กันรบกันในใจทุกครั้ง แล้วเราก็ชนะทุกครั้ง เรื่องอะไรจะให้กามราคะมาเป็นนายเหนือหัวใจ ลากเราถูไถไปมาให้เดือดร้อนดิ้นรน คิดอย่างเดียวไม่ยอมเป็นทาสมันอีกต่อไป

    ถึงแม้เราเป็นปุถุชนเป็นฆารวาสเราชนะกามราคะขาดมานานพอสมควรแล้ว ด้วยวิธีที่กล่าวมาแล้วข้างบน และสรุปได้อีกครั้งคือ

    1. ต้องทำสมาธิกรมฐานให้ได้ถึงจิตรวมจิตดิ่งเหรือฌานเข้าไปพักให้เข้มแข็ง ตอนแรก ๆ หาประสบการณ์และศึกษารสชาติของความสุขขณะจิตว่าง ความสุขจาการเสพกามก็สู้ไม่ได้ แล้วเราจะเลือกอะไร เลือกคามราคะก็โง่ นั่งหลับตา ตังค์ก็ไม่ต้องเสีย ไม่ต้องดินรนให้ร้อนใจ ไม่ต้องหา
    อีกอย่างมนุษย์เสพกามเมถุนใช้เวลาแต่ละครั้งนานเท่าไหร่ บางคนไม่ถึง 10 นาที เข้าฌานซิ จะอยู่ให้สุขนานเป็นวันๆ ยังได้

    ไม่แปลกใจเลยฤษีชีไพรไม่มีเมียก็เพราะอยู่ด้วยความสุขของฌาน

    ข้อระวัง อย่าหลงจติดสุขในฌานเพราะจะหลงทาง คือจะทำให้ไม่ก้าวหน้าในการรู้เห็นสัจธรรม เพราะไม่ใช่ทางให้เกิดปัญญา ฌานจึงเป็นเสมือนเครื่องมือ คือ
    (1) กำหลาบกาม คือความพอใจในรูป รส กลิ่น เสียง ทั้งหลาย
    (2) ใช้ฌานเป็นการพักผ่อน เมื่อยามเหนื่อยล้าทางใจและกายได้ดี
    (3) ใช้ฌานเป็นที่ชาร์จพลัง เวลาวิปัสนา บางทีกำลังตก ก็ต้องเข้าไปเติมพลังในฌานใหม่ ทำสลับกันไป แบนี้เรื่อย จนกว่าพลังวิปัสนาจะแข็งแรง
    (4) ใช้ฌานรักษาโรคภัยไข้เจ็บบางอย่างได้
    (5) เข้าฌานตาย ไม่เน่า

    2. เจริญอสุภกรรมฐานเนือง ๆ

    3. ตั้งเป้าตั้งป้อมรบกันแบบแตกหักกันไปข้าง ตั้งใจว่าแต่นี้ไปไม่ยอมแพ้และอ่อนข้อให้กามราคะแม้แต่ครั้งเดียว

    แค่ 3 ข้อนี้ได้ผลแล้วจนทุกวันนี้ แต่เราก็ไม่ควรประมาทในการตั้งรับหรือโต้ตอบโดย

    (1) ระวังทวารทั้ง 6 ตา หู จมูก ปาก กาย ใจ ถ้าต้องสัมผัสหรือเจอของที่สวยงามต้องรู้ทันไม่ใช่กามขึ้นเลย ถ้าขึ้นก็รู้ พอรู้แล้วหาทางหยุด ไม่ใช่หยุดกระโดดปล่ำเขานะ ติดคุกแน่ แถมจะถูกงิ้วหนามเหล็กทิ้มตำของลับเวลาลงนรก
    (2) เลี่ยงไม่ดูไม่รู้ไม่เห็นคนหรือสิ่งยวนใจ
    (3) เลี่ยงไม่ได้ถ้าต้องปะทะก็เอาอสุภะซากผีของเขาประกบร่างกายเขาปึ๊บเลย เหมือนเอาร่างผีซากเน่าวางซ้อนทับร่างสวยงามเขาเลย

    ทำตามนี้ และถ้าใจเข็งพอ รับรองชนะได้ขาด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2008
  19. Padmapani_AM

    Padmapani_AM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +158
    สติ
     
  20. backpack

    backpack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +104
    ผมเองก็พยายามสู้กับกาม ราคะอยู่แต่ว่ายากจัง แต่ว่าชอบคำสอนของหลวงพ่อชา ที่คุณเราไม่ต่างกันเอามาโพสมากเลย อนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...