วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ pattarawat
ความรู้สึกของผม

ผมไม่รู้ว่าเพื่อนๆ จะรู้สึกเหมือนกันรึเปล่า ผมรู้สึกว่าช่วงนี้จะมีพี่น้องเข้ามาร่วมพันธกิจกันมากขึ้น และพยายามฝึกฝนตนเองกันมากขึ้น แต่ละคนไม่ยอมปล่อยตัวเองไปตามอำนาจกิเลส แต่ต่อสู้ฝ่าฟันเอาชนะกันให้ได้ เรียกได้ว่า เตรียมตัวเตรียมจิตให้พร้อมต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า

พี่คณานันท์พี่ใหญ่ของเรา ก็มีความวิริยะอุตสาหะ ให้คำปรึกษากับพี่ๆ น้องๆ แบบไม่ยอมเหน็ดเหนื่อย (ทั้งๆ ที่ในระหว่างวันก็คงเหนื่อยมากพอแล้ว) ทำให้เห็นถึงความเพียรของพี่คณานันท์ที่มีต่อกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยฯ และเห็นถึงแบบอย่างของการมีพรหมวิหารสี่ของพี่คณานันท์ ที่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่สมาชิกในกลุ่มได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์

ในขณะเดียวกัน ก็จะมีคนบางกลุ่ม ที่คอยยุแหย่ ค่อนแคะ ดูถูก ให้มาทดสอบจิตอยู่เรื่อย ซึ่งผมเชื่อเหลือเกินว่า ผู้ที่ติดตามข่าวสารในกลุ่มของเราอย่างสม่ำเสมอนั้นมีความหนักแน่นพอ และมีจิตรับสัมผัสรู้ว่าใครมาดีมาร้าย

ผมเอง เป็นคนที่สมัครเข้าร่วมกลุ่มตั้งแต่ต้น แต่ด้วยความที่อยู่ไกลและมีภาระต้องเรียนหนังสือหนัก จึงไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เห็นกลุ่มเดินหน้าไปไกลเรื่อยๆ ก็ได้แต่นั่งมองและให้กำลังใจอยู่ตลอด ผมเองหวังว่าจะสำเร็จการศึกษาในเดือน ต.ค.ปีนี้ และคงจะได้ช่วยงานอะไรได้มากขึ้น

ขอให้พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกคนเดินหน้าต่อไปด้วยใจมุ่งมั่น เราจะเดินไปพร้อมกัน วันหนึ่งคงได้เจอกัน

โมทนากับทุกท่านด้วยนะครับ สาธุ
</td> </tr> </tbody></table>

แนบ chart ให้ดูครับ ความเห็นด้านภัยพิบัติ กับบุคคล 4 กลุ่มใหญ่

 

ขอโมทนาในความตั้งใจที่ดีงามต่อส่วนรวมของทุกๆคนครับ

การร่วมกันสร้างสังคมที่สันติสุขได้นั้น เราเองทุกๆคนต้องเริ่มจากตัวเองก่อน ในเมตตาไมตรีปรารถนาต่อกัน เป็นกัลยามิตรกันทั้งทางโลกทางธรรม

ชื่นใจเกิดปิติเมื่อได้เห็นความก้าวหน้า ความเจริญในธรรมของท่านผู้อื่น

ในช่วงเวลาหลังจากต้นปีใหม่มานี้ พระท่านบอกผมว่า ต้องเร่งสอนคนให้เข้าถึงความดีในทุกระดับให้มากที่สุด และต้องเร่งสร้างครู ที่จะมาช่วยพาจิตใจผู้คนให้พบกับความดีงามภายในจิตใจของพวกเขากันด้วย

ซึ่งก็ปรากฏว่าจริงตามที่พระท่านได้บอกเอาไว้ หลังจากปีใหม่เป็นต้นมา พวกเราหลายๆท่าน ได้ก้าวหน้าในการปฏิบัติขึ้นไปอย่างมาก

และที่สำคัญก็คือได้มีหลายๆท่านได้ฉายแววความเป็นครู ที่จะช่วยถ่ายทอดสืบทอดธรรมมะให้กระจายสู่สังคมให้มากยิ่งขึ้น สร้างกระแสการฟื้นฟูศีลธรรม จริยธรรมสู่สังคมให้เร็วที่สุด

ยิ่งสังคมมีคนดีมากเท่าไร ความสุข สงบ ความเจริญก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

คนดีๆ ต้องรวมตัวกัน ร่วมใจกันสร้างบารมีความดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเร่งทำเร่งสร้างในส่วนที่ส่งผลและมีอานิสงค์สูง ปรากฏผลทั้งด้านนามธรรมและรูปธรรมชัดเจน

กำลังใจของทุกๆท่าน ก้าวสูงขึ้นไปเป็นลำดับ ซึ่งแต่เดิมผมต้องรอเนื่องจากวิชชาบางส่วนก็ใช้กำลังใจที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงต้องปูพื้นฐานให้แน่นกันก่อน อย่างเรื่องสัมมาทิษฐินั้นย้ำนักย้ำหนา เพราะพระท่านให้ย้ำ ไม่อย่างนั้นหากฝึกขั้นสูงไปแล้วเป็นมิจฉาทิษฐิ จะพลอยพาตัวพลาดจากความดีเอาได้ง่ายๆ

ตอนนี้ก็นับว่าได้มีความเข้าใจกันชัดเจนมั่นคงและเห็นความสำคัญกันเป็นส่วนใหญ่แล้วครับ ก็ขอโมทนาบุญด้วย

ช่วงนี้ท่านที่เคยฝึกมาแต่เดิม หรือเคยมาฝึกกับผมแล้ว หากมีเวลามีโอกาส อยากให้กลับมาต่อขั้นแอดวานซ์กัน เพราะได้วาระแล้วครับ จะได้ก้าวหน้ากันยิ่งขึ้นไปอีก

การที่เราโมทนาบุญกับความก้าวหน้าของเพื่อนๆ จะเป็นบุญหนุนเนื่องต่อกันไป ดันกันขึ้นไปให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นทั้งกลุ่มครับ

หากใจเราไปเกิดการเปรีบเทียบกันเอง ใจเราจะเกิดจิตที่ริษยาที่บ้างครั้งเราเองก็ไม่ทันมองเห็น และพาให้เราเองที่ถอยหลังจากความดีเสียเอง

คำว่า"กัลยาณมิตร"นั้นหมายถึงเพื่อนผู้มีธรรม ผู้หวังดี ปรารถนาดีต่อมิตร ใคร่หวังให้มิตรเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลก ก็ดี ทางธรรมก็ดี

หากเรามีเพื่อนแบบนี้มากเท่าไร เราก็ยิ่งรุ่งเรืองมีความสุข ความเจริญ มีผู้ชี้ทางเจริญ ป้องกันแก้ไขปิดทางเสื่อมให้เรา

สิ่งสำคัญก็คือ ตัวเราเองต้องเป็นกัลยาณมิตร ของผู้อื่นและทุกๆคน(ตามกำลัง ตามวาระ ตามวาสนาผูกพัน)ให้ได้เสียก่อน จากนั้น ความดีงามก็จะดึงดูดคนดีให้มารวมกัน สงเคราะห์กัน สร้างบารมีร่วมกัน โดยความดีนั้นเอง


ขอให้ทุกท่านจงเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน มีจิตที่สะอาดบริสุทธิ์มองเห็นจิตใจที่ดีงามของผู้อื่น และขอให้ความดีงามของทุกคนยิ่งดึงดูด คนดีๆ จากที่ต่างๆให้มารวมตัวกันเพื่อสร้างคุณความดีที่ยิ่งใหญ่ทับเท่าพันทวียิ่งๆขึ้นไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

 

วันอาทิตย์ที่ 20มกรานี้ มีประชุมกันที่สวนลุมพินี บริเวณ ศาลาหกเหลี่ยมเกาะลอย ครับ


และในช่วงเช้าเราจะมีติวเข้มกัน ท่านที่สนใจไปฝึกสมาธิด้วยกันครับ ไปพบกันตอน 9.00 น.สำหรับท่านที่มาใหม่ มีปูพื้นฐานให้ครับ

ส่วนท่านที่เคยมาแล้วจะต่อญาณแปดควบวิปัสนาญาณให้ครับ

ขอเชิญมาฝึกกันได้ครับ ไม่มีค่าใช้จ่าย เอาน้ำเอาขนมมาแบ่งปันกันครับ

 

ผมรู้สึกว่าปัจจุบันโลกของเราใกล้ถึงจุดอิ่มตัวเต็มทีแล้วครับ พูดตรงๆว่า ผมจะแปลกใจมาก หากมันจะยังอยู่ไปได้อีก 1ปี เพราะว่าสัญญาณแห่งภัยพิบัติเริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ นานาประเทศเกิดปรากฏการณ์แปลกๆที่ไม่เคยเจอมาก่อน ในรอบหลายพันปี คิดว่าถึงเวลาแล้วครับที่เราควรจะรวมตัวกันอย่างเต็มที่ซักครั้ง เพื่อวางแผนการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อที่จะได้ช่วยให้ส่วนรวมมีความสุขครับ ผ่านไป1วันมีผู้ได้รับความเดือดร้อนเพิ่มอีกหลายคน http://www.universal-signal.com/html/worldnews/worldcriticalnews_jan08.html
และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นทวีคูณ

 

[FONT=&quot]พี่ผมไปวัดสร้อยทอง เจอพระป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษี[/FONT] [FONT=&quot]ว่าวันเกิดภัยพิบัติเกิดปีนี้กลางเดือนหก ท่านว่าให้ถือศีล[/FONT]5 [FONT=&quot]กรรมบท[/FONT]10[FONT=&quot]ท่านว่าเดี๋ยวว่าท่านไม่เตือน[/FONT]
[FONT=&quot]ความเห็นผมยังไงผมว่าไม่ควรประมาท[/FONT]
[FONT=&quot]ทาน ศีล ภาวนา ควรทำกันให้พร้อม ทุกๆอย่างในโลกนี้ล้วนเป็นทุกข์[/FONT]
[FONT=&quot]เกิดขึ้น ตั้งอยูู๋่ เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง[/FONT] [FONT=&quot]สลายไปในที่สุดมันไม่มีอะไรเป็นของเราอยู๋แล้วความตายถือเป็นสิ่งควรยินดี[/FONT] [FONT=&quot]อย่างน้อยไม่ควรทำใจให้เศร้าหมองหมกหมุ่นกามคุณ[/FONT]5[FONT=&quot]รูป[/FONT],[FONT=&quot]รส[/FONT],[FONT=&quot]กลิ่น[/FONT],[FONT=&quot]เสียง[/FONT],[FONT=&quot]สัมผัสระหว่างเพศ[/FONT] [FONT=&quot]นิวร[/FONT]5[FONT=&quot]จนเกินไปทำความดีให้มากที่สุดวันละ[/FONT]1[FONT=&quot]นาที-[/FONT]24[FONT=&quot]ชั่วโมง[/FONT]
[FONT=&quot]อย่างน้อยท่านทั้งหลายได้ไปสุคติภูมิ ถ้ามีณานสมาบัติไปเป็นพรหม[/FONT]
[FONT=&quot]เบื่อร่างกาย เบื่อเกิดไปนิพพานแต่จริงๆผมว่าพี่ๆน้องๆในห้องนี้ทรงความดีกันอยู่แล้ว ยำ้้เพื่อความไม่ประมาทครับ
โดยเฉพาะตัวผมเองมีเลวอยู่เยอะมากๆๆๆ[/FONT]
<!--[if gte vml 1]><v:shapetype id="_x0000_t75" coordsize="21600,21600" o:spt="75" oreferrelative="t" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" filled="f" stroked="f"> <v:stroke joinstyle="miter"/> <v:formulas> <v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"/> <v:f eqn="sum @0 1 0"/> <v:f eqn="sum 0 0 @1"/> <v:f eqn="prod @2 1 2"/> <v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"/> <v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"/> <v:f eqn="sum @0 0 1"/> <v:f eqn="prod @6 1 2"/> <v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"/> <v:f eqn="sum @8 21600 0"/> <v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"/> <v:f eqn="sum @10 21600 0"/> </v:formulas> <vath o:extrusionok="f" gradientshapeok="t" o:connecttype="rect"/> <o:lock v:ext="edit" aspectratio="t"/> </v:shapetype><v:shape id="_x0000_i1025" type="#_x0000_t75" alt="" style='width:49.5pt; height:49.5pt'> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ABAT\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/b2-good.gif"/> </v:shape><![endif]--><!--[if !vml]-->
<!--[endif]-->

 

มาสุพรรณตั้งแต่วันที่10 มค.
นอนวัดบางแม่หม้าย อยู่กับนศ. แพทย์ 57 คน
กลับมาจากวัดท่าขนุนวันเสาร์ วันอาทิตย์ทานข้าวเย็นแล้วไม่สบายเพราะแม่ครัวทำอาหารออกเค็ม ความดันจะกำเริบเอา
วันจันทร์เลยถือศีลแปด และจะถือจนวันเสาร์นี้

พบญาติธรรมสายวัดท่าซุง 3 ท่าน (จริงๆพบคณะถาวรทั้งคณะ กลุ่มสาวน้อยอายุเยอะศิษย์หลวงพ่อพระราชพรหมยานฯ)
หนึ่งท่านพบที่วัดท่าขนุน ท่านมีนิมิตรเห็นงูเป็นพันๆตัวล้อมท่าน ในวันพฤหัสก่อนงานพุทธาภิเษก คืนวันศุกร์ท่านมาช่วยเอาพระพุทธไตรโลกนาถใส่ซอง จึงอุทานว่า "ผมต้องมาพบอาจารย์นี่เอง" และบอกว่า "พระที่ยังไม่เข้าพิธีนี้มีพลังมากแล้ว เป็นพลังเย็น"

วันพุทธาภิเศกบายศรีเป็นช้างเอราวัณใหญ่โตและอลังการมาก มีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าทองคำขี่คอทั้งสามเศียร "ช่วยบ้านเมืองและช่วยในหลวง" หลวงพี่เล็กว่า ปีนี้เน้นทางลาภเพื่อช่วยลูกศิษย์ ส่วนพระพุทธไตรโลกนาถท่านเน้นแคล้วคลาดให้เป็นพิเศษ ขอให้ผู้ครอบครองมีกำลังใจเต็มเท่านั้นเอง

วันพุทธาภิเษกเสร็จแล้วญาติธรรมท่านนี้มาบอกว่า "ผมเห็นองค์ปฐมเสด็จ องค์อื่นๆมากันเยอะเลย พระของอาจารย์นี้มีเทวดาคุมอยู่ทุกองค์" ดิฉันไม่สามารถสัมผัสได้ตามเคย...

กลับจากวัดพบญาติธรรม เป็นเจ้าหน้าที่ อปพร มาเฝ้ายามให้ สามีบวชช่วงก่อนหลวงพ่อสิ้นไม่นาน รู้จักหลวงพี่เล็กตั้งแต่สมัยนั้น ภรรยามโนมยิทธิได้ดี

งานนี้นอนศาลาหน้าเมรุ ต้องเดินผ่านเจดีย์เก็บกระดูก และต้องแต่งดำ วันแรกแต่งน้ำเงินเข้มไม่เห็นอะไร วันจันทร์แต่งดำเดินผ่านเจดีย์ วันรุ่งขึ้นเดี้ยงจริงๆลุกไม่ขึ้น คุณอปพร กรุณาบอกว่าถูกดูดพลัง จึงต้องดื่มและอาบน้ำมนต์ โชคดีได้จากงานเป่ายันต์ของหลวงพี่เล็กมาขวดใหญ่

ทำให้รู้ว่าถึงตัวไม่รู้ไม่เห็นแต่ที่ไปรับพลังจักรวาลมานั้นได้มาจริงๆ (แต่ใช้ไม่เป็นตามเคย)

สอนธรรมะระดับต้นให้นศ. เรื่องศีลกับพรหมวิหาร 4 อธิบายภพภูมิทั้ง 31 พอเป็นสังเขป พาไปถวายภัตตาหารเพลกับพระทั้งวัดเมื่อวันพระที่ผ่านมา

สาว อปพร เห็นแสงสีรุ้งจากนศ. 2 คนและอาจารย์ 1 คนตอนพระสวดยถาสัพพีและให้พร ของนศ. คนหนึ่ง (กรรมฐานแบบสวนโมกข์) สีสวย ของอาจารย์กับอีกคนจางกว่า

แปลว่าอะไรก็ไม่รู้ จึงมาเล่าให้ฟังเฉยๆ

เดี๋ยวนี้รับอารมณ์คนได้ อารมณ์แรงๆจะมาเป็นคลื่นกระทบใจ เป็นพลังงานชัดเลย

สาวอปพร พบพระอาจารย์ (เป็นสงฆ์) ที่สระบุรี ท่านบอกว่าไฟจะมา (เมื่อสองปีที่แล้วก็ไฟเยอะ) แล้วน้ำจะมา (ตอนนี้ไง) ข้างหน้าภูเขาจะถูกทะเลท่วม เสร็จแล้วน้ำลดจะกลายเป็นทะเลทราย ส่วนทะเลก็จะมีภูเขาโผล่ขึ้นมา

อาจจะผิดกระทู้ แต่ไม่รู้จะคุยที่ไหนค่ะ ขออนุโมทนาทุกท่านที่พัฒนาวิชาและอาจารย์คณานันท์นะคะ

 

ใจตรงกัน ได้คิดก่อนมาสุพรรณ ว่าจะเอา MP 3 ไปอัดคำพูดคุณคณานันท์ ขอเวลานิดนะคะพี่เกษม

 

ผมเกิดคิดอะไรขึ้นมาได้ครับ ปัจจุบันโลกของเรานั้น พยายามสกัดกั้นโรคไข้หวัดนกด้วยการ ทำลายชีวิตของสัตว์ปีกมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้วิญญาณยิ่งโกรธแค้น แล้วเราก็ยิ่งทำลายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ในที่สุดแล้วจะต้องถึงจุดหนึ่ง ที่กฏแห่งกรรมต้องส่งผลให้เกิดโรคระบาดขึ้นแน่นอนครับ และจะต้องเป็นในรูปแบบที่ไม่สามารถป้องกันได้ ทั้งหมดก็เพราะว่าพวกเราไปฆ่าสัตว์มากมายมากิน นึกย้อนดูแล้วก็น่าสงสารครับ

 

<TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">
ถ้าไม่เจอปัญหา จะมานั่งปฏิบัติอย่างเดียว บารมีไม่เต็ม

<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->จากหนังสือลูกศิษย์บันทึก เล่ม 3 หน้า 1-2 บันทึกโดย พระปลัดวิรัช โอภาโส

พิมพ์โดย : คุณมหาหิน มีเนตรขำ

​

หลวงพ่อ เคยปรารภไว้ว่า....


การก่อสร้างการเลี้ยงคน ต้องต่อสู้กับอารมณ์ทุกอย่าง

ต้องใช้ปัญญาใคร่ครวญ ทำให้บารมีเต็มเร็ว

หลวงพ่อ พูดว่า “มาคิดว่าสมัยหนุ่ม ๆ บวชแล้ว มัวแต่สร้างวัดมากมาย
คิดแล้วเสียเวลา มาคิดว่า รู้อย่างนี้ ไม่สร้างก็ดี เสียเวลา
เอาเวลามานั่งชำระจิต ตัดกิเลสอย่างเดียว ให้จบ ๆ ไป จะดีกว่า”​

​

ปรากฏว่า....

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมา ตรัสกับองค์หลวงพ่อว่า

“ไม่มีทาง.... ถ้าไม่ทำอย่างนี้ บารมีไม่เต็ม
เมื่อบารมีไม่เต็ม การตัดกิเลสก็ไม่มีผล”

ถ้าไม่เจอปัญหา จะมานั่งปฏิบัติอย่างเดียว บารมีไม่เต็ม

เจอปัญหามาก ๆ มันตัดของมันเอง แล้วจะเบา
ต้องเอาใจคนหลายประเภท บารมีเต็มเร็ว



ที่มา : http://palungjit.org/showthread.php?t=99009​

<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>
ธรรมทานจากพี่มหาหินและคุณแอน Mbny ครับ

และด้วยเหตุผลนี้พวกเราทุกคนจึงต้องทั้งปฏิบัติทางจิต และก็ต้องสร้างงานเพื่อส่วนรวมที่เป็นของวัตถุทางโลกครับ

หลวงพ่อท่านเน้นและเข็นให้ลูกหลาน ทำบารมีให้เต็มกันให้เร็วที่สุด มากที่สุด บริบูรณ์ที่สุด เท่าที่จะทำได้ได้ครับ

ต่อไปงานของพวกเราในส่วนที่เป็นการเร่งรัดบารมี กำลังใจให้เต็ม และที่ช่วยยก ช่วยรวมบุญกุศลให้รวมตัวกันให้มีพลังเข้มข้น จะออกมาเรื่อยๆครับ


มีที่จะจัดเป็นกิจกรรมประจำในต่อไป ก็คือ

-การถวายมหาสังฆทานใหญ่ที่บ้านสายลมเป็นประจำทุกๆเดือน โดยจะมีการนัดหมายให้พวกเราได้ไปร่วมกันถวาย ด้วยสามัคคีธรรม

เหตุผลส่วนหนึ่งก็คือ สังฆทานใหญ่พระ สามศอกปิดทองแท้นั้น โอกาสที่หลายๆคนจะได้ถวายนั้นอาจจะยาก ทั้งจากที่อยู่ไกลบ้าง อยู่ต่างประเทศบ้าง ติดขัดด้านทุนทรัพย์บ้าง ดังนั้นการจัดถวายเป็นมหาสังฆทาน เอื้อเฟื้อกันในการสร้างบารมี ให้ทุกๆคนได้รับอานิสงค์สูงสุดเช่นเดียวกันไม่ว่า จะร่วมทำ เพียงบาทเดียว สลึงเดียวก็ตาม สำคัญที่ กำลังใจ การอธิฐานจิต และความสามัคคีครับ


ตอนนี้กำลังใจกำลังฌานเราก็ได้กันหลายท่านแล้ว

นอกจากบุญกิริยาวัตถุทาน และการร่วมใจกันประเคนถวายแล้ว

ในการถวายมหาสังฆทานนี้ ขอให้ท่านที่ทำได้ใช้กำลังฌาน กำหนดจิตอธิฐาน ใช้อารมณ์พระนิพพานถวาย แด่ทุกท่านบนพระนิพพานโดยมีสมเด็จองค์ปฐมท่านเป็นประธาน พร้อมกับใช้กำลังฌานขอบารมีพระดึงอาทิสมานกายของท่านอื่นๆขึ้นไปร่วมถวายบนพระนิพพานด้วย

อานิสงค์ที่ได้จะช่วยให้บารมีเต็มเร็วขึ้นทั้งคนสงเคราะห์และผู้ที่ได้รับการสงเคราะห์เนื่องจากอาทิสมานกายถูกดึงขึ้นสู่พระนิพพาน และในไม่ช้าที่ปฏิบัติยังไม่ได้ ก็จะพลอยได้ ก้าวหน้ากันยิ่งขึ้นไปอีก

สำหรับการถวายมหาสังฆทานในทุกเดือนนั้น ทางกองทุนพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจะจัดให้ครับขอให้พวกเราได้ไปร่วมกันถวาย เพื่อเป็นการยกบารมีของทุกๆคนครับ สร้างโอกาสในการทำบุญใหญ่ให้ทุกๆคนครับ

กำหนดการนัดหมายจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่าจะไปถวายเมื่อไรครับ

 

ช่วงนี้รู้สึกอึดอัด ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ครับ อาจเป็นเพราะกดอารมณ์ความไม่พอใจ ความโกรธ มากไปรึเปล่าไม่แน่ใจครับ ใครว่าผม เสียดสีผมต่างๆ นา นา ทำให้ผมไม่พอใจ ผมก็เฉยๆ แต่ก็รู้สึกโกรธ แต่ไม่แสดงออกไป พอมากๆเข้ามันก็อึดอัด จนบางครั้งแทบทนไม่ไหว แต่จิตตัวเองห้ามไว้ทุกครั้งไม่รู้ทำไม ถ้าเป็นเมื่อก่อนผม...ไม่เหลือไม่ว่าใคร ทำไมยิ่งเราเป็นคนดีมากเท่าไหร่ กลับยิ่งได้รับการทดสอบมากขึ้น จนบางครั้งท้อแท้ เหนื่อย ไม่อยากทำ ใครเคยเป็นแบบนี้บอกผมบ้างน่ะครับ

 

ผมครับ เป็นแบบคุณ

และพวกเราเกือบทุกคนก็โดนเหมือนกันครับ

เป็นบทพิสูจน์ความมั่นคงในความดีครับ เราทำดีเพื่อให้คนยกย่องหรือไม่

และหากเราทำดีแล้วไม่ได้ดี เราจะเลิก เราจะละทิ้งความดี ไปหรือไม่



หากเราตั้งมั่นในความดี เพราะความดีนั้นยังประโยชน์เพื่อส่วนรวมแม้ว่าเราเองจะไม่ได้ปรากฏผลทางโลก หรือต้องเหนื่อยยากในการทำดี แต่กลับต้องโดนเสียดสี ด่าว่า กลั่นแกล้ง หมั่นไส้ และการริษยา

เราก็จะทำ เราก็เต็มใจหน้าชื่นตาบาน(หรืออกตรม)ทำความดีนั้นอย่างไม่ย่อท้อ

จนกำลังใจเราเต็มเป็นปรมัตถ์บารมีแล้ว ครั้นปรากฏผลสำเร็จแห่งความดีที่เราทำแล้ว ความปิติ ความชื่นใจในบุญที่เราได้ทำก็จะส่งผลกลับมาครับ

แต่หากเราทิ้งความดีไปเสีย คราวนี้มุมกลับสู่ความเป็นมิจฉาทิษฐิก็จะเริ่มเข้ามาช้าๆครับ

ของที่ได้มายาก ทำได้ยาก มีคุณค่ากว่าเสมอครับ

 

คุณนาย Rattanaporn ร่วมทำบุญในการถวายมหาสังฆทานครับ ซึ่งผมขอรวมกองให้เพื่อให้ได้อานิสงค์ในการถวายมหาสังฆทานของทุกๆเดือน และงานพระบรมสารีริกธาตุทุกจุดที่พวกเราจะทำต่อไปในอนาคตด้วยครับ

--------------------------------------------------------------

สวัสดีค่ะพี่ ๆ ทุกท่าน...

พี่เล็ก (kananun)ค่ะ...สืบเนื่องจากคราวที่แล้วที่น้อง*9*ฝากเงินพี่ทำบุญและยังคงค้างไว้ประมาณ 1200 บาทนั้น.......ตอนนี้น้องคิดออกแล้วค่ะว่าจะทำประการใดกับเงินจำนวนนี้.....เอาอย่างนี้ดีกว่าค่ะพี่เล็ก...น้องมีความประสงค์ที่อยากจะร่วมถวายสังฆทานที่พี่เล็กจะได้จัดขึ้นเร็ว ๆ นี้...และจะนำไปถวายที่วัด หรือ ที่บ้านซอยสายลมนั้น น้องขอใช้ปัจจัยที่เหลือคงค้างจำนวนนี้ (หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว) มาร่วมกับพี่ ๆ ถวายเป็นมหาสังฆทานใหญ่ในครั้งนี้นะคะ .......

**ในนามสมาชิกเวบพลังจิตทั้งหมดทุกท่านและที่ไม่ได้เป็นสมาชิกแต่ได้เคยเข้ามาที่เวบพลังจิตแห่งนี้....ค่ะ**......

หากแม้นผู้หนึ่งผู้ใดไม่ได้ทราบ ไม่รู้ ไม่เห็น แห่งมหากุศลผลบุญในครั้งนี้ ข้าพเจ้าขอให้เทพเจ้าทั้งหลาย และท่านพระยายมราช จงเป็นสักขีพยานบุญในครั้งนี้ด้วย เมื่อใดที่ได้เจอท่านทั้งหลายเหล่านี้ ขอให้บอกท่านทั้งหลายเหล่านี้ให้อนุโมทนาบุญด้วยเถิด........ให้ทุก ๆ ท่าน พึงได้รับประโยชน์และความสุข เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ....สาธุ....(ขอทุกท่านจงอนุโมทนาด้วยค่ะ)

น้องขอขอบพระคุณพี่เล็กมาก ๆ เลยค่ะ...ที่ช่วยเป็นธุระจัดการให้แก่น้องในทุก ๆ เรื่อง......(*ยิ้ม)...ขอบพระคุณมากค่ะ.......น้องขอให้พี่เจริญทั้งในทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปเรื่อย ๆ นะคะ.....ตอนนี้น้องขออนุญาตลาพี่ ๆ ออกไปปฏิบัติธรรมสักระยะหนึ่งก่อนนะค่ะ...แล้วพบกันใหม่ค่ะ..........

มีเสียงหนึ่ง...........ดังห้วง..........ในดวงจิต
ช่วงนิมิตร............พบแสง..........เปล่งไสว
ปรากฏรูป............สุดตื้น............ตันหทัย
เสียงเปล่งใส.........วาจา.............ที่ว่าคือ
"พบตถาคตแล้วหรือ"
"พบแล้วพระพุทธเจ้าข้า"


กิเลส...............ตัณหา............บันดาล
ให้ภพ..............ให้ชาติ............เราเกิด
ให้กาย..............อยู่คู่..............ผืนดิน
วนเวียน.............ผลัดเปลี่ยน.......ตามกาล

กิเลส................นั้นดิ้น............หาชาติ
ตัณหานั้น...........เล่าไซร้...........พากลับเกิด

เมื่อเรา......................หลงเพลิดเพลิน
เราก็จัก......................กลับมาเกิด
เป็นผู้มีความปราถนา.......ทุกภพ ทุกชาติ นิรันดร


หนทางสู่นิพพานนั้น.............สว่างตา
เพียงจิตค้นหา....................มามอง
ธรรมมะพระตถา..................แซ่ซ้อง
ดังกึกก้อง บันลือไกล.............แสงทิพย์ส่องทางสดใส
ส่งจิตสวยใส......................สู่นิพพานบ้านเดิม


น้องลาไปก่อนนะค่ะ....สวัสดีค่ะ
น้อง*9*
<!-- / message -->

 

ผลออกมาแล้วครับ คะแนนผิดคาดไปหน่อยครับ ได้ตำแหน่งที่4 แต่แบบนี้ก็ดีครับ เป็นทีมงาน จะได้ไม่ต้องยุ่งกับเรื่องที่ไม่ค่อยจะเกิดประโยชน์ครับ จะได้เน้นธรรมะตรงๆ แต่พูดตรงๆนะครับ ผมก็เริ่มรู้สึกว่า ผมยังไม่เห็นเลยว่าผมจะทำให้เพื่อนๆสนใจได้ยังไง หลายๆคนที่ผมสอนไปก็เริ่มเสื่อมแล้วครับ แต่บางคนก็ยังเหนียวแน่นอยู่ครับ พรุ่งนี้จะทำพิธีไหว้ครูครับ วันนี้ผมลืมครับ แต่ว่าผมยังไม่ยอมแพ้ครับ รู้สึกว่าการรักษาความดี จะยากกว่าการกระทำความดีมากครับ คิดว่าอาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการดู ถ้ายังไงวันอาทิตย์นี้ผมจะไปที่สวนลุม ก็ขอให้ช่วยกันแนะนำด้วยครับ เพราะว่างานนี้ต้องมีแผนการที่มั่นคงจริงๆ ประกอบกับผมคิดว่าเวลาเหลือไม่มากแล้วครับ ผมคิดว่าภัยพิบัติจะเป็นลักษณะของการเป่าลูกโป่งครับ คือว่ากว่าเราจะได้ยินเสียง ลูกโป่งก็แตกไปแล้วครับ ขอบพระคุณทุกๆท่านมากครับ ที่ช่วยกันลุ้น

 

ลองให้เพื่อนๆ ฝึกสมาธิด้วยวิธีนี้มั๊ยครับ ฝึกสมาธิด้วยการเล่นเกม หุหุ http://excommunicate.net/video-game-meditation

ไม่รู้เหมือนกันว่าจะ work หรือเปล่า

เคยได้ยินว่ามีเกมที่เล่นด้วยการทำใจให้นิ่ง โดยเกมจะมีเซนเซอร์วัดมาติดที่ตัวเรา ถ้าใจเรานิ่งเกมมันก็จะดำเนินไปได้

ส่วนอันนี้ mind ball ไม่รู้มีขายหรือเปล่า


เครื่องที่ครอบหัวจะวัดคลื่นสมองของเรา ถ้าคลื่นสมองเรานิ่งก็จะดันลูกบอลที่อยู่ในช่องตรงกลางไปอีกยังอีกฝ่าย ใครดันไปยังอีกฝ่ายได้ก็จะชนะ
http://www.bruceeisner.com/mindware/2006/03/relaxation_key_.html
http://www.mindball.se/

เด็กๆ ก็ต้องเอาเกมเข้าล่อ หุหุ

 

โดยความเห็นส่วนตัว คุณอาจยังแผ่เมตตา ได้ไม่มากพอ

ความโกรธจึงยังค้างสะสมในใจ ลองแผ่เมตตา ด้วยจิตแห่งเมตตาจริงๆ ให้มากขึ้น เช่น หลังนั่งสมาธิแผ่เมตตาให้ครบ 108 รอบ

ส่วนการถูกทดสอบ เสียดสี เป็นเรื่องที่ทุกท่านจะต้องพบ และอื่นๆอีกมากมาย

ปลาว่ายทวนน้ำ ไม่ตามกระแสน้ำ ย่อมพบกระแสต่อต้าน

แต่มีแต่ ปลาเป็น เท่านั้นที่ว่ายทวนน้ำ ... ปลาตายจะลอยตามน้ำ

 

คิดว่าถ้าเล่นเกมสมัยนี้ ก็คงจะยิงกันสนั่นเมืองครับ เป็นค่านิยมที่เสริมความรุนแรงจนคนเสพความรุนแรงเป็นธรรมชาติไปแล้วครับ

 

กลับมารายงานตัวค่ะเพิ่งกลับจากเชียงใหม่เมื่อเช้านี้ค่ะ เมื่อวันที่15-16

ได้ไปถวายโต๊ะหมู่บูชาที่วัดน้ำแพร่ และได้ไปที่วัดถ้ำเมืองนะมาค่ะ ก็ขอ

บุญกุศลที่ได้ทำมาก็ขอให้พี่ๆน้องชาวเว๊บพลังจิตได้บุญถ้วนหน้ากันทุกคน

 

นั่นสินะครับ โพสไปแล้ว ก็มาคิดได้ว่า มันก็มีการแพ้มีการชนะ มีการเอาชนะคะคานกัน ถ้าจะเอาแต่แพ้ชนะกัน มันก็ไม่น่าดีสินะ

 

เครื่องที่ครอบหัวจะวัดคลื่นสมองของเรา ถ้าคลื่นสมองเรานิ่งก็จะดันลูกบอลที่อยู่ในช่องตรงกลางไปอีกยังอีกฝ่าย ใครดันไปยังอีกฝ่ายได้ก็จะชนะ
http://www.bruceeisner.com/mindware/...tion_key_.html
http://www.mindball.se/

-------------

การทำคลื่นสมองให้นิ่ง ก็คือการทำสมาธิ เมื่อจิตตั้งมั่นได้ดี สมาธิก็มีกำลัง ถ้ารู้จักกำหนดกสิณ ก็ไปถึงได้ตามความต้องการ เกมส์นี้ก็เป็นของฝรั่งมั่งค่า ที่คิดว่าทุกอย่างต้องออกมาแบบนี้ แต่ถ้าอยากมากๆ ก็เป็นกิเลส จิตก็จะฟุ้งซ่านไปตามตัวอยาก จะทำให้จิตนิ่งก็เป็นไปไม่ได้

อันนี้เป็นเพียงการแสดงออกมาให้เข้าใจได้ง่ายๆ การทำจิตให้นิ่งได้นั้นเป็นการแข่งกับตัวเองเป็นที่สุด คือต้องบังคับจิตให้อยู่ที่ศูนย์อย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นชาวพุทธก็ง่ายหน่อย พุท โธ หรือ สัมมาอะระหัง หรือ ยุบหนอ พองหนอ แล้วแต่ถนัด ถ้าเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักการทำสมาธิ หรือฟุ้งซ่านตลอดเวลาคงลำบากน่าดู ยิ่งพวกบ้าพลังแล้วใหญ่ จะให้นั่งนิ่งๆซัก 1 นาที ก็เห็นจะเกินทนรวมถึง ที่เรียกว่า สมาธิสั้น

จะกล่าวเหมารวมว่าการแข่งขัน สร้างให้เกิดมิจฉาทิฐิอย่างเดียวคงไม่ใช่ การแข่งขันในโลกนี้ มีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการแข่ง เช่น การแข่งกีฬาสร้างความสามัคคี แต่เรื่องผลประโยชน์น่ะสร้างกันขึ้นเอง การแข่งแรลลี่สนุกสนานสร้างสัมพันธ์ ในทั้งนี้ การแข่งที่ย่อมได้รับการสรรเสริญและเกิดประโยชน์สูงสุดคือ การแข่งกับกิเลสตนเอง เอาชนะความอยาก ความโลภ ความโกรธ ความหลง ของตนเองให้ได้ซักหลายขณะจิตย่อมเป็นผู้ชนะสิ่งทั้งมวล

ถามคำ ถ้ามัวแต่คิดอยากเอาชนะคนอื่น จิตมันจะตั้งมั่นไม๊ แล้วมันจะเป็นสมาธิไม๊?