อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

**

พระกริ่งไพรีพินาศ ที่ระลึกครบรอบ 30 ปี ธนาคารทหารไทย











​

พระกริ่งไพรีพินาศ รุ่นครบรอบ 30 ปี ธนาคารทหารไทยจัดสร้าง พ.ศ.2530

พระกริ่งไพรีพินาศรุ่นนี้ ถอดแบบจากพระกริ่งไพรีพินาศของวัดบวรนิเวศวิหาร มีชนวนเก่าของปี 2495 และชนวนเก่าที่สำคัญอีกมากมาย เป็นเนื้อทองเหลืองทองผสม ตอกโค้ดตราธนาคารทหารไทยใต้ฐาน จัดสร้างโดยธนาคารทหารไทย ถือว่าเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมรองจากรุ่นแรก ปี 2495 และรุ่นผ้าป่าสิงห์บุรี ปี 2528 เพราะมีชนวนในรุ่นแรกๆ ผสมอยู่นั่นเอง

ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงประกอบพิธีเททองหล่อและพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อครั้งนั้น

ผู้ที่เปิดบัญชีกับธนาคารทหารไทยตั้งแต่ 60,000 บาทขึ้นไป จึงจะได้รับพระกริ่งไพรีพินาศสมนาคุณ 1 องค์ เริ่มออกให้บูชา วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2530

***​

 

รูปเหมือนลอยองค์รุ่นแรก พระอาจารย์ไพรวัลย์ ชยทตฺโต

ที่พักสงฆ์หาดทรายแดง จ.ตราด







​

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เอกพระเครื่อง ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
http://www.akefuture.com/know_detail.asp?id=28
รายละเอียด
พระกริ่ง – พระชัยวัฒน์ ปวเรศ วัดบวรนิเวศวิหาร

พระกริ่งปวเรศ เป็นสมัญญานามของพระกริ่งที่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงสร้างขึ้น ทราบกันมาว่า ทรงสร้างขึ้นเพื่อประทานแก่เจ้านายที่ทรงคุ้นเคยสนิทสนม และ เจ้านายที่ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ มีจำนวนน้อยมาก ไม่เกิน 30 องค์ ทรงสร้างด้วยเนื้อนวะโลหะ
พุทธลักษณะ พระกริ่งปวเรศนั้น สันนิษฐานว่า ทรงสร้างขึ้นโดยอาศัยเค้าจากพระกริ่งจีนที่นิยมเรียกกันว่าพระกริ่งใหญ่ในปัจจุบัน พระองค์ท่านจะทรงสร้างขึ้นในปีใดนั้นปัจจุบันไม่มีผู้ใดทราบ ภายหลังหลวงชำนาญเลขา (หุ่น) สมุห์บัญชีในกรมของพระองค์ ได้ขอประทานอนุญาตนำแบบพิมพ์ไปสร้างขึ้นอีกมีจำนวนเท่าไรไม่ปรากฎ โดยที่พระกริ่งนี้สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ทรงสร้างขึ้นจึงนิยมเรียกกันทั่วไปว่า พระกริ่งปวเรศ ในอาณาจักรพระเครื่องนับถือกันว่า พระกริ่งปวเรศเป็นพระโลหะที่มีค่านิยมสูงและยากยิ่งที่จะเสาะแสวงหาไว้สักการะบูชา จึงเป็นปูชนียวัตถุที่มีคุณค่าทางพุทธศิลป์และทางจิตใจ กล่าวได้ว่า พระกริ่งปวเรศเป็นพระกริ่งรุ่นแรกที่สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ อีกทั้งยังมีส่วนส่งเสริมให้เกิดความนิยมสร้างพระพุทธปฏิมาในลักษณะเดียวกันนี้ ในเวลาต่อมาอย่างแพร่หลายด้วย

พระกริ่ง – พระชัยวัฒน์ ปวเรศ
เนื่องในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดชมหาราช เจริญพระชนมพรรษา 5 รอบนักษัตริย์ ในปี 2530 วัดบวรนิเวศวิหาร ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้จำลองแบบ พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ปวเรศ ขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองศุภมงคลสมัย และ เทิดพระเกียรติในมหามงคลวโรกาสนี้ พร้อมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผงจิตรลดา เพื่อบรรจุในองค์พระกริ่งปวเรศที่สร้างใหม่นี้ ทุกองค์ด้วย

วัตถุประสงค์
1.ทูลเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลส่วนพระองค์
2.ถวายวัดบวรนิเวศวิหาร
3.ถวายวัดญาณสังวรารามมหาวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์
4.เป็นทุนใช้จ่ายในการแกะสลักพระพุทธรูปใหญ่ ณ เขาชีจรรย์
5.เป็นทุนบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา และสมทบทุนส่วนหนึ่งเพื่อสร้างตึก ภปร. 72 ปี สภากาชาดไทย

การดำเนินการ
พระกริ่ง –พระชัยวัฒน์ ปวเรศ เป็นพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ของวัดบวรนิเวศวิหารโดยตรงอีกรุ่นหนึ่ง ที่สร้างขึ้นในมหาศุภมงคลสมัยพิเศษสุดที่ปวงประชาชาวไทยปลาบปลื้มปิติอย่างยิ่ง ดำเนินการสร้างโดยวัดบวรนิเวศวิหาร พร้อมทั้งวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหารฯ ด้วยความร่วมมือของกระทรวงมหาดไทย
รูปแบบองค์พระ คณะกรรมการดำเนินงานได้ทำการถอดพิมพ์พระกริ่งปวเรศองค์เดิมของวัดบวรนิเวศวิหารเพื่อเป็นแม่พิมพ์พระกริ่งปวเรศที่สร้างใหม่ ส่วนพระชัยวัฒน์ปวเรศ ได้มอบให้ปฏิมากร มนตรี พัฒนางกูร เป็นผู้ปั้นหุ่นขี้ผึ้งเป็นแม่พิมพ์
พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ปวเรศ วัดบวรนิเวศวิหาร จัดสร้างโดยกรรมวิธีเททองหล่อพระแบบโบราณของไทยที่สืบทอดกันต่อมาจนปัจจุบัน ทำการเททองหล่อพระทั้งหมดในกำหนดพิธี ณ วัดบวรนิเวศวิหาร และ ทำการตกแต่งองค์พระทั้งหมดที่วัดบวรนิเวศวิหาร ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดของคณะกรรมการ คือ คงสภาพผิวองค์พระไว้ตามสภาพเดิมที่เททองหล่อพระเสร็จแล้ว ดังนั้น ผิวองค์พระตามธรรมชาตินี้มีจำนวนหนึ่งที่ผิวไม่เรียบ จึงเห็นสมควรให้ช่างทำการตกแต่งขัดผิวองค์พระใหม่อีกครั้งหนึ่ง มิได้มีการหล่อพระเสริมเพิ่มเติมแต่อย่างใดทั้งสิ้น

โลหะ ทองชนวน และ แผ่นยันต์หล่อพระ
พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ วัดบวรนิเวศวิหาร สร้างด้วยเนื้อนวโลหะ ซึ่งประกอบด้วยทองคำ เงิน ทองแดง สังกะสี ชิน เจ้าน้ำเงิน( แร่ชนิดหนึ่ง) เหล็กละลายตัวบริสุทธิ์ และ ปรอทสะตุ ซึ่งนับเป็นโลหะธาตุต่างๆ ที่สำคัญ และหายาก ตามตำรับวิธีการหล่อพระกริ่งแต่เก่าก่อน เมื่อได้อายุตามควรแล้ว ผิวองค์พระจะมีสีดำ ที่นิยมเรียกว่า “เนื้อกลับ”

ทองชนวนหล่อพระ ประกอบด้วย
- ทองชนวนพระกริ่งรุ่นเก่าที่สำคัญๆ ของวัดบวรนิเวศวิหาร
- ทองชนวนหล่อพระพทุธรูป ภปร. วัดบวรนิเวศวิหาร
- ทองชนวนหลวงพ่อมงคลบพิตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ที่ยังคงเหลืออยู่)
- ทองชนวนรุ่นเก่าของวัดสุทัศนเทพวราราม
- ทองชนวนพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
- ทองชนวนพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ ภปร. ที่ระลึก 50 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ทองชนวน อื่นๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาค
แผ่นยันต์พระอาจารย์จำนวนมาก ซึ่งกระทรวงมหาดไทย และ คณะศิษย์ในสมเด็จพระญาณสังวร รวบรวมจากจังหวัดต่างๆ ของประเทศ ประกอบด้วย พระอาจารย์ในปี 2528 จำนวนมากกว่า 108 รูป และ พระอาจารย์มีชื่อเสียงที่มรณภาพไปก่อนแล้วอีกหลายสิบรูป



จำนวนพระที่สร้าง
ตามโครงการสร้างพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ ปวเรศ วัดบวรนิเวศวิหาร กำหนดสร้าง จำนวน 25,000 ชุด แต่เนื่องจากกำหนดให้ช่างเททองหล่อพระทุกองค์ในพิธี ณ วัดบวรนิเวศวิหาร จึงทำการเททองหล่อพระตามกรรมวิธีแบบโบราณของไทย ซึ่งก็เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดต่อการเททองหล่อพระในกำหนดพิธี ดังนั้น ช่างจึงต้องทำหุ่นองค์พระเพิ่มขึ้นเผื่อเสียไว้ตั้งแต่แรก เพื่อจะได้ทำการเททองหล่อพระทั้งหมดอย่างต่อเนื่องในกำหนดพิธี การเททองหล่อพระในครั้งนี้ ได้พระกริ่ง และพระชัยวัฒน์ เป็นองค์พระครบทุกองค์ตามจำนวนหุ่นพระที่เตรียมไว้ ปรากฎเป็นอัศจรรย์ประการหนึ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ พระที่เห็นสมควรคงไว้เป็นช่อ มีดังนี้
พระกริ่งปวเรศ จำนวน 15 ช่อ
พระชัยวัฒน์ ปวเรศ จำนวน 32 ช่อ

พิธีเททองหล่อพระ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ โปรดเกล้าฯ ทรงรับเชิญเสด็จพระราชดำเนินเททองหล่อพระกริ่ง และ พระชัยวัฒน์ ปวเรศ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2528 เป็นปฐมมหามงคลฤกษ์ ของพิธีเททองหล่อพระ ทองชนวนจากปฐมพิธีนี้จักเป็นทองชนวนในการหล่อพระสืบต่อไป ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธานพิธีการเททองหล่อพระ ณ วัดบวรนิเวศวิหารให้เสร็จทั้งหมดก่อนประกอบพิธีพุทธาภิเษก

พิธีพุทธาภิเษก
การประกอบพิธีพุทธาภิเษก พระกริ่ง และ พระชัยวัฒน์ ปวเรศ วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ประกอบพิธีรวม 3 ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1 พิธีพุทธาภิเษกในคืนวันเสาร์ที่ 12 เมษายน 2529 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานประกอบพิธี
สมเด็จพระญาณสังวร ประธานพิธีอธิษฐานจิต
ครั้งที่2 พิธีวันวิสาขบูชา วันพุธ – พฤหัสบดี ที่ 21-22 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร
สมเด็จพระญาณสังวร ประธานประกอบพิธี
ครั้งที่3 พิธีพุทธาภิเษก พระกริ่ง และ พระชัยวัฒน์ ปวเรศ วันอาทิตย์ ที่ 28 มิถุนายน 2530 ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธี
สมเด็จพระสังฆราช ทรงจุดเทียนชัย
สมเด็จพระญาณสังวร ประธานพิธีอธิษฐานจิต

พิธีครั้งนี้นับว่า เป็นพิธีพุทธาภิเษก พระกริ่งและพระชัยวัฒน์ ที่เป็นทางการครั้งแรก ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พระกริ่งปวเรศที่สร้างครั้งนี้ ทุกองค์บรรจุผงจิตรลดา
องค์ประกอบการสร้างพระล้วนแต่สำคัญอย่างยิ่งยวด จะเสาะแสวงหาได้ยากยิ่ง
สมเด็จพระญาณสังวร ประธานพิธีอธิษฐานจิต จึงอุดมด้วยสิริมงคลอย่างสูง



รายนามพระภาวนาจารย์
พิธีพุทธาภิเษกพระกริ่ง – พระชัยวัฒน์ ปวเรศ ครั้งที่ 1
วันเสาร์ที่ 12 เมษายน 2529
ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร

สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร ประธานพิธีนั่งปรกอธิษฐานจิต และไ ด้อาราธนาพระภาวนาจารย์อีก 36 รูป จากภาคต่างๆ นั่งปรกอธิษฐานจิต มีรายนามดังต่อไปนี้
1.พระญาณโพธิ (เข็ม) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร
2.หลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน กรุงเทพมหานคร
3.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังค์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
4.พระครูอาคมวิสุทธิ (คง) วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี
5.พระครูญาณวรกิจ (กล้วย) วัดหมูคุด จ.จันทบุรี
6.พระรัตนคุณากร (แช่ม) วัดบ่อพุ จ.จันทบุรี
7.พระครูสันติวรญาณ (สิม) วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
8.พระครูเมธีธรรมสาธก (หนู) วัดสุนทรพิชิตาราม จ.นครนายก
9.หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม จ.นครปฐม
10.พระภาวนาพิศาลเถร (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา
11.พระอาจารย์นก วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์
12.พระครูนนทสมณวัตร (เหรียญ) วัดบางระหงษ์ จ.นนทบุรี
13.พระครูนนทสมณวัตร (เหรียญ) วัดบางระหงษ์ จ.นนทบุรี(ซ้ำ)
14.พระครูวิเศษภัทรกิจ (ทองใบ) วัดสายไหม จ.ปทุมธานี
15.พระอาจารย์ฟัก วัดนิคมประชาสรรค์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
16.พระวิสุทธาจารคุณ (เกตุ) วัดเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์
17.พระครูปลัดพรหม วัดขนอนเหนือ จ.พระนครศรีอยุธยา
18.พระอาจารย์ศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม จ.ร้อยเอ็ด
19.พระครูอนุรักษ์วรคุณ (สง่า) วัดหนองม่วง จ.ราชบุรี
20.พระครูสมุทรวิจารณ์ (คลี่) วัดประชาโฆศิตาราม จ.สมุทรสงคราม
21.พระครูอาทรธรรมนิเทศก์ (ทองอยู่) วัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร
22.พระครูสุนทรธรรมกิจ (หยอด) วัดแก้วเจริญ จ.สมุทรสงคราม
23.พระครูสังวรธรรมานุวัตร (พล) วัดหนองคณฑี จ.สระบุรี
24.พระครูสรกิจพิจารณ์ (ผัน) วัดราษฎร์เจริญ จ.สระบุรี
25.พระครูสาธุกิจวิมล (เล็ก) วัดหนองดินแดง จ.นครปฐม
26.หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร จ.นครปฐม
27.หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม
28.พระครูเกษมธรรมานันท์ (แช่ม) วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
29.พระครูนนทสิทธิการ เจ้าอาวาสวัดไทรน้อย จ.นนทบุรี
30.พระครูวิจิตรธรรมานุวัตร วัดหนองกระบอก จ.ระยอง
31.พระวัชรธรรมาภรณ์ (สุรพงษ์) วัดตรีทศเทพ
32.พระครูปริยัติคุณาธาร วัดชนะสงคราม
33.พระญาณสมโพธิ (ขวัญ) วัดอรุณราชวราราม
34.พระปริยัติมุนี ( ชูศักดิ์ ) วัดหงส์รัตนาราม
35.พระครูมงคลญาณสุนทร (ผ่อง) วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส
36.พระโพธิสังวรเถร (ไพฑูรย์) วัดโพธินิมิตร


รายนามพระภาวนาจารย์นั่งปรก
พิธีมหามงคลพุทธาภิเษกพระกริ่ง – พระชัยวัฒน์ ปวเรศ
ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ครั้งที่ 3
วันอาทิตย์ ที่ 28 มิถุนายน 2530
1.สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร
2.พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดพิชยญาติการาม กรุงเทพมหานคร
3.พระมงคลราชมุนี วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร
4.พระราชพุทธิรังษี วัดเครือวัลย์ จังหวัดชลบุรี
5.พระสุนทรธรรมภาณี วัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี
6.พระญาณสิทธาจารย์ วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม จ.นครราชสีมา
7.พระโพธิสังวรเถร วัดโพธินิมิตร กรุงเทพมหานคร
8.พระอุดมสังวรเถร วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
9.พระภาวนาพิศาลเถร วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา
10.พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร วัดประชาคมวนาราม จ.ร้อยเอ็ด
11.พระภาวนาโกศลเถร วัดปากน้ำ กรุงเทพมหานคร
12.พระสุธรรมยานเถร วัดจันทาราม จ.อุทัยธานี
13.พระครูสุนทรธรรมวัตร วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร
14.พระครูประสิทธิ์ภาวนาคุณ วัดนิคมประชาสรรค์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
15.พระครูสังวรสมาธิวัตร วัดเภตราสุขารมณ์ จ.ระยอง
16.พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี
17.พระครูสันติวรญาณ (สิม) วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
18.พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี

** สำหรับการอธิษฐานจิตครั้งที่ 2 สมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธานประกอบพิธี ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันวิสาขบูชา 21-22 พฤษภาคม 2529 **





ข่าวพระปลอม

วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5720

แจ้งจับ-ปลอม"พระกริ่งปวเรศ"

มูลนิธิดังเปิดให้เช่าปนของแท้

โวยพระเก๊ - เซียนพระและชาวบ้านบุกสำนักงานมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ วัดบวรนิเวศ เพื่อทวงเงินคืน หลังแจ้งความดำเนินคดี โดยอ้างว่านำพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ ปวเรศ วัดบวรนิเวศ รุ่นปี พ.ศ.2530 ที่ทำปลอมขึ้นมาให้เช่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค.

แจ้งจับจนท.มูลนิธิมหามกุฏฯปลอมพระกริ่งปวเรศ สอดไส้ให้เช่ากับของจริง เซียนพระแห่เช่าบูชาจับได้บุกไปสอบถามถูกตอกใส่หน้าว่า เอาของปลอมมาเปลี่ยน เลยแจ้งความจับจนท.ให้เช่าเผ่นแน่บหยุดให้เช่าชั่วคราว เผยอ้างว่าทำรุ่นเดียวกับของแท้เมื่อ 20 กว่าปีก่อน และเหลืออยู่เพียง 5 พันชุด จะเปิดให้เช่าในปีมหามงคล แต่พอไปเช่ากลับพบไม่เหมือนกับที่เปิดให้เช่าเมื่อ 2 วันแรก ด้านมูลนิธิอ้างไม่มีผู้ใหญ่อยู่ตอบอะไรไม่ได้ แต่จะดำเนินการสอบสวนโดยเร็ว หากรู้ว่าใครทำผิดจะลงโทษอย่างร้ายแรงและให้ดำเนินคดีอาญาด้วย

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 27 ก.ค. ร.ต.ท.สรรชัย เพียรมงคล ร้อยเวรสน.ชนะสงคราม รับแจ้งจากนายธีรเดช สิงหวุฒิชัย อายุ 58 ปี แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบฯ กรุงเทพฯ พร้อมด้วยเซียนพระและชาวบ้านกว่า 50 คนว่า ให้มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ แสดงรับผิดชอบกรณีที่เปิดให้เช่าบูชาพระกริ่งปวเรศ เนื่องจากพบว่าเป็นพระที่ถูกทำขึ้นมาใหม่ไม่ใช่ของจริง แต่เลียนแบบจากต้นฉบับที่มีการสร้างขึ้นเมื่อปี 2529 จำนวน 25,000 องค์ ทำให้ผู้มาเช่าพระได้รับความเสียหาย ภายหลังรับแจ้งได้ลงบันทึกประจำวัน พร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นายรุดไปตรวจสอบยังมูลนิธิมหามกุฏฯ

นายธีรเดชกล่าวว่าได้รับทราบจากหนังสือพิมพ์ลงข้อความว่าทางมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ ได้เปิดให้เช่าพระกริ่งปวเรศวัดบวรนิเวศวิหาร รุ่นปี พ.ศ. 2529 จำนวน 5,000 ชุด ตั้งราคาเช่าชุดละ 5,000 บาท โดยพระกริ่งชุดดังกล่าวเป็นชุดที่หายาก สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ และวัดบวรนิเวศวิหารได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสดังกล่าว และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานผงจิตรลดา เพื่อบรรจุในองค์พระกริ่งปวเรศด้วย ขณะเดียวกัน พระองค์ท่านได้เสด็จเป็นประธานในพิธีทรงหย่อนแผ่นทองคำลงในเบ้าหล่อพระกริ่งด้วยพระองค์เอง รวมทั้งมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และพระเกจิชื่อดังอีกมากมาย ทำพิธีพุทธาภิเษกที่พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร ทำให้บรรดาเซียนพระและประชาชนทั่วไปที่ได้รับทราบเกิดความสนใจมาขอเช่าบูชาเป็นจำนวนมาก เพราะรุ่นที่เปิดให้เช่าบูชาอีกครั้งจำนวน 5,000 องค์ เป็นจำนวนที่สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันความเสียหายในการสร้างพระดังกล่าว โดยเปิดให้เช่าบูชาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 ก.ค.เป็นต้นมา

นายธีรเดชกล่าวต่อว่า ในช่วงแรกยังไม่เกิดปัญหาแต่อย่างใด จนกระทั่งในช่วงบ่ายวันพุธที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์ให้เช่าบูชาพระเครื่องแจ้งว่า มีคนมาเช่าบูชาพระกริ่งปวเรศ รุ่นปีพ.ศ. 2529 เป็นจำนวนมาก เพื่อให้เกิดความสะดวกคล่องตัว ขอให้ผู้ที่มาเช่าจ่ายเงินและรับพระเครื่องที่บรรจุลงกล่องทันที โดยไม่ให้นำแว่นมาส่องพระบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ นอกจากนี้ยังไม่มีการออกใบเสร็จรับเงินด้วย สร้างความกังขาให้ประชาชนทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่ได้องค์พระกริ่งปวเรศมาไว้ในครอบครองแล้วจึงนำมาตรวจสอบทันที พบว่ามีความผิดปกติหลายแห่ง ด้วยองค์พระกริ่งปวเรศองค์จริงจะมีสีผิวเป็นประกายสวยงาม องค์พระล่ำสัน เนื้อโลหะออกขาว แต่ส่วนองค์ปลอมจะมีขนาดเล็กกว่าองค์จริงเล็กน้อย เนื้อด้าน การตอกเบอร์โค้ดไม่ชัดเจน เป็นต้น

นายธีรเดชกล่าวต่อว่า เมื่อพบความผิดปกติไม่ชอบมาพากล จึงได้เข้าไปหาเจ้าหน้าที่บริเวณเคาน์เตอร์ให้เช่าพระ เพื่อขอเปลี่ยนองค์พระ แต่ได้รับการปฏิเสธ พร้อมทั้งถูกกล่าวหาว่าตนได้แอบอ้างสับเปลี่ยนองค์จริงไปเก็บไว้ และนำองค์ปลอมมาขอแลกซ้ำอีกครั้ง สร้างความไม่พอใจให้ตนเป็นอย่างมาก ประกอบกับตนไม่ได้ประสบเหตุแต่เพียงผู้เดียว ยังมีเซียนพระและประชาชนอีกหลายรายได้รับพระกริ่งปวเรศปลอมไปเช่นกัน ในช่วงเย็นจึงเดินทางไปแจ้งความที่สน.ชนะสงคราม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาไกล่เกลี่ยกันเสียก่อน

กระทั่งเช้าวันเดียวกันนี้มีเซียนพระและชาวบ้านที่ถูกต้มตุ๋นพระกริ่งปวเรศ เดินทางมารอที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารมูลนิธิมหามกุฏฯ เป็นจำนวนมาก ปรากฏว่าทางมูลนิธิได้นำกระดาษมาติดไว้หน้าประตูและหน้าเคาน์เตอร์ให้เช่าพระว่า "งดบูชาพระกริ่งปวเรศชั่วคราว" ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์ที่มาทำงานทุกวันก็ไม่มีใครมาอยู่ประจำ เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ในมูลนิธิเรื่องความชัดเจนของพระกริ่ง ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้มาชุมนุม จึงมีการเรียกร้องให้ทางมูลนิธิออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่ไม่ได้รับการตอบสนองข้อเรียกร้อง ผู้มาเรียกร้องทั้งหมดจึงไปแจ้งความที่สน.ชนะสงครามดังกล่าว

"ประชาชนที่มาเช่าพระกริ่งปวเรศรุ่นนี้ ในวันแรกๆก็ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น แต่พอถึงช่วงบ่ายของวันที่ 26 ก.ค. พบว่าเมื่อนำพระไปเทียบกับพระที่เช่ามาใน 2 วันแรก ปรากฏว่าเป็นพระปลอมที่ทำเลียนแบบขึ้นมา จึงต้องการมาแลกคืน" นายธีรเดชกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่บริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นสถานที่เปิดให้เช่าบูชาพระเครื่องพระบูชาเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิออกมาชี้แจงกลุ่มผู้ชุมนุมว่า เรื่องที่เกิดขึ้นผู้บริหารมูลนิธิทราบเรื่องแล้ว และตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นชุดหนึ่งเพื่อคลี่คลายปัญหาดังกล่าว โดยคณะกรรมการสอบสวนประกอบด้วย พระเถระชั้นผู้ใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ในวันที่ 28 ก.ค.นี้ เมื่อได้ข้อสรุปจะได้มีการแถลงให้ทราบอย่างเป็นทางการทันที หากตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่มูลนิธิคนใดทำผิดจริงจะถูกลงโทษถึงขั้นไล่ออก และดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายบ้านเมืองต่อไป อย่างไรก็ตามในวันที่ 28 ก.ค.พวกเซียนพระและชาวบ้านจะมาชุมนุมกันอีกครั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของทางมูลนิธิชี้แจงและหาทางออกในกรณีดังกล่าว คาดว่ามีคนที่ถูกหลอกให้เช่าพระกริ่งปวเรศปลอมไม่ต่ำกว่า 500 องค์ รวมเป็นเงินประมาณ 2,500,000 บาท

ด้านร.ต.ท.สรรชัยกล่าวว่า เนื่องจากเป็นช่วงเย็นทำให้ไม่มีผู้บริหารระดับสูงอยู่ในมูลนิธิ จึงได้สอบถามข้อมูลทั่วไปจากเจ้าหน้าที่ ได้รับคำตอบว่ามูลนิธิมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาแล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ในมูลนิธินำพระปลอมออกมาให้ประชาชนเช่า จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา ฐานฉ้อโกงประชาชน นอกจากนี้ประชาชนที่มาเช่าพระกริ่งปวเรศในช่วงเวลาดังกล่าว ขอให้รีบตรวจสอบทันที ถ้าพบเป็นพระกริ่งปลอมให้รีบมาแจ้งความและทำความตกลงกับมูลนิธิโดยเร็วที่สุด

สำหรับพระกริ่งปวเรศที่มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย เปิดให้เช่าเป็นชุดพร้อมกับพระชัยวัฒน์ในราคาชุดละ 5,000 บาท โดยสร้างขึ้นด้วยเนื้อนวโลหะ ผิวองค์พระจะเป็นเนื้อกลับ และในวันที่เททองหล่อพระ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเททองหล่อพระกริ่งปวเรศและพระชัยวัฒน์ ที่วัดบวรนิเวศ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2528 ด้วยพระองค์เอง แต่เดิมเข้าใจกันว่ามีการสร้างขึ้นมาเพียง 25,000 ชุด แต่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านทางหนังสือพิมพ์ว่า ยังมีพระชุดดังกล่าวอยู่อีก 5,000 ชุด และทางมูลนิธิมหามกุฏฯจะเปิดให้เช่า จึงมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

ด้านแทน ท่าพระจันทร์ คอลัมนิสต์หน้าพระเครื่องข่าวสด กล่าวว่าพระกริ่งปวเรศรุ่นแรก วัดบวรนิเวศซึ่งถือว่าเป็นต้นตระกูลของพระกริ่งในประเทศไทย ที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรนิเวศ ทรงสร้างไว้ไม่เกิน 30 องค์ และได้แจกจ่ายให้แก่เจ้านายที่สูงศักดิ์ ส่วนพระกริ่งปวเรศรุ่น 2 วัดบวรนิเวศได้จัดสร้างขึ้น เนื่องในวโรกาสมงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบนักษัตร เมื่อปี 2530 โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จำลอง "พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ปวเรศ" เพื่อเฉลิมฉลองศุภมงคลสมัยและเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในมหามงคลวโรกาสนี้ พร้อมทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จฯ ทรงประกอบพิธีเททองเป็นมหามงคลฤกษ์ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2528 บริเวณพระอุโบสถวัดบวรนิเวศ และที่ถือเป็นสุดยอดพระกริ่งก็คือ นอกจากเนื้อหาพิมพ์ทรงองค์พระจะมีความงดงามแล้ว ภายในองค์ยังบรรจุผงจิตรลดาและบรรจุเส้นพระเจ้า(พระเกศา) ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานบรรจุทั้ง 25,000 ชุดตามจำนวนที่จัดสร้าง หลังจากประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกแล้ว ทางวัดบวรนิเวศได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปร่วมบุญบูชาเมื่อปี 2530 รวมพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ในราคา 5,000 บาท โดยไม่มีการโปรโมตและโฆษณาแต่ประการใด ซึ่งผู้ที่ไปบูชาในขณะนั้นล้วนเป็นศิษย์สายตรงวัดบวรนิเวศ มาถึงปัจจุบันที่วัดได้มีเก็บรักษาไว้จำนวนหนึ่ง และเนื่องในปีมหามงคลที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ในปีนี้จึงมีผู้แสวงหาบูชากันมาก ตรงไปบูชาถึงที่มูลนิธิมหามกุฏฯแทบทุกวัน ซึ่งยังเปิดให้บูชาชุดละ 5,000 บาทเช่นเดิม

"สำหรับจุดให้เปิดบูชาอยู่ที่มูลนิธิมหามกุฏฯ วัดบวรนิเวศ แต่ปรากฏว่าพอมีผู้ให้ความสนใจเยอะก็มีของปลอมปะปนออกมาให้บูชา พอประชาชนที่ไปบูชารู้เข้าก็เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา โดยเฉพาะไปบูชาที่มูลนิธิมหามกุฏฯ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 ก.ค. อังคารที่ 25 ก.ค. และวันพุธที่ 26 ก.ค. โดยเฉพาะวันพุธมีของปลอมปะปนออกมาเยอะ สร้างความไม่พอใจแก่ผู้ที่ไปบูชาอย่างมาก ผู้ที่ได้ไปเช่าบูชามาในวันเวลาดังกล่าว ให้ตรวจสอบสังเกตดูพระที่ท่านได้มา ถ้าเป็นพระกริ่งให้หงายใต้ฐานขึ้นมาดู ถ้าเป็นของแท้ใต้ฐานจะเป็นการเทแบบเข้าไม้ ลักษณะก้นกลวงแบบพระบูชา แล้วจึงบรรจุกริ่ง และปิดด้วยแผ่นโลหะ ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นรอยปิดเป็นวงกว้าง ส่วนของปลอมใช้วิธีหล่อตันแล้วเจาะด้วยสว่านเพื่อบรรจุกริ่ง และโค้ดที่ด้านหลังบริเวณฐานขององค์พระบางองค์จะเห็นรอยโค้ดที่ใช้การถอด ไม่ใช่วิธีการตอกโค้ด ส่วนพระชัยวัฒน์โค้ดที่ใต้ฐานของปลอมเป็นโค้ดที่ถอดติดมากับองค์พระ ถ้าเป็นของแท้จะใช้วิธีการตอก ขนาดองค์พระกริ่งของแท้ให้วัดที่ใต้ฐานจะมีขนาด 2 เซนติเมตร ส่วนของปลอมจะมีขนาดเล็กกว่า ดังนั้นพระที่บรรจุอยู่ในกล่องจะหลวม ส่วนถ้าเป็นพระแท้องค์พระจะฟิตแน่นในกล่อง"

 

พระผงพิมพ์พระไพรีพินาศ ปี ๒๕๑๕ พิมพ์เล็ก กรรมการ

จัดสร้างในโอกาสที่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พระชนมายุครบ ๑๐๐ ปี พ.ศ. ๒๕๑๕
โดยวัดบวรนิเวศวิหาร โดยพระเทพวัชรธรรมาภรณ์ (สุรพงส์ ฐานวโร) สมัยเป็นพระครูฐานานุกรมที่พระครูประสิทธิพุทธมนต์
ได้ให้ยุวพุทธสมาคมชลบุรี มีคุณ อธึก สวัสดิ์มงคล เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง

การจัดสร้างในครั้งนั้น ได้จัดสร้างพระผงรูปเหมือนสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์โรยเส้นเกศาของท่าน
และมีพระผงไพรีพินาศ พระผงนิรันตราย รุ่นแรก

และนำพระผงพิมพ์รูปเหมือนสมเด็พระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
ออกมาให้ประชาชนได้เช่าบูชาทั่วไปใน ปี ๒๕๑๕
ส่วนพระผงพิมพ์ไพรีพินาศและพระผงพิมพ์นิรันตรายออกให้บูชาในปี ๒๕๑๖
จำนวนการสร้างพิมพ์ละประมาณ ๒๐,๐๐๐ องค์

ทำพิธีปลุกเสก ณ อุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2515 โดยคณาจารย์ ดังนี้
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
พระราชมุนี วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ
พระราชญาณดิลก วัดเขาเต่า ประจวบคีรีขันธ์
พระศรีสัจจญาณมุนี(หลวงพ่อประหยัด) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
พระโพธิวรคุณ(โพธิ์) วัดโพธิ์นิมิต กรุงเทพฯ
พระญาณวิริยาภรณ์ วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ
พระอาจารย์ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร สกลนคร
พระอาจารย์มหาบัว วัดป่าเกษรศีลคุณ อุดรธานี
หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
หลวงพ่อสำเนียงฯ พระครูสุทธิธรรมรังษี วัดเขาแก้ว จันทบุรี
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
หลวงพ่อชื่น วัดตำหนัก นนทบุรี
พระครูญาณวิโรจน์ วัดทรายงาม จันทบุรี
พระครูญาณวิศิษฏ์ วัดพุทธมงคลนิมิต นครสวรรค์
พระอาจารย์สมชาย วัดเขาสุกิม จันทบุรี
พระอาจารย์สา วัดราชนัดดา กรุงเทพฯ
หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร



หลังจากสร้างเสร็จได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกหลายครั้ง โดยครั้งสุดท้ายได้นำเข้าร่วมพิธีพร้อมพระกริ่งปวเรศปี ๒๕๓๐

เมื่อวันที่ ๒๔-๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ที่ผ่านมา วัดบวรฯ ได้สำรวจพบพระนิรันตราย พระไพรีพินาศ
และพระผงรูปเหมือนสมเด็จพระสังฆราชเจ้า ณ ตำหนักบัญจบเบญจมา
ซึ่งทางวัดได้เปิดให้บุคคลทั่วไปได้บริจาคบูชาได้(ปัจจุบันหมดแล้ว) เพื่อโครงการบูรณปฏิสังขรณ์วัดบวรนิเวศวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์
รายการวัตถุมงคลที่พบ คือ
- พระผงรูปเหมือนสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ปี ๒๕๑๕ พิมพ์ใหญ่
- พระผงรูปเหมือนสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ปี ๒๕๑๕ พิมพ์เล็ก
- พระนิรันตราย เนื้องผง ปี ๒๕๑๕ พิมพ์ใหญ่ ขนาดสูง ๔ ซม. - พระนิรันตราย เนื้อผง ปี ๒๕๑๕ พิมพ์เล็ก ขนาดสูง ๓ ซม.
- พระไพรีพินาศ เนื้อผง พิมพ์ใหญ่ ปี ๒๕๑๕ ขนาดสูง ๓.๕ ซม. - พระไพรีพินาศ เนื้อผง พิมพ์เล็ก ปี ๒๕๑๕ ขนาดสูง ๒.๕ ซม.

พระนิรันตราย และพระไพรีพินาศ ปี ๒๕๑๕ เนื้อผงเกสร พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก เป็นพระเครื่องเนื้อผงวัดบวรนิเวศวิหารรุ่นแรกของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
ซึ่งด้านหลังขององค์พระไพรีพินาศและพระนิรันตรายจะมีสัญลักษณ์ตราวัดบวร นิเวศวิหาร
หมายเหตุ พิมพ์กรรมการจะลงรักปิดทอง หลังโรยผงตะไบ

 

สมเด็จพระญาณสังวร พระสมเด็จอรหัง 2519 วัดบวรนิเวศวิหาร
มีเกษาทั้งด้านหน้าและหลัง
สมเด็จอรหัง ปี ๑๙ สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร ด้านหลังมีลายเซ็นต์พร้อมเส้นพระเกศา
สร้างมงคลวโรกาสฉลองอายุ ๖๓ พรรษา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (3 ตุลาคม 2519)
เพื่อบูชาคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) ซึ่งมีพระราชทินนามเดียวกัน และเป็นผู้สร้างสมเด็จอรหังรุ่นแรก

สมเด็จอรหัง ปี ๑๙ สร้างจากมวลสารเก่าอาทิ ผงพระสมเด็จวัดระฆัง, วัดบางขุนพรหม, พระศาสดา ปี 16, พระไพรีพินาศ ปี 16, พระนิรันตราย ปี 16
และพระรูปเหมือนสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ปี 15 เป็นต้น
และบรรจุเส้นพระเกศาสมเด็จพระญาณสังวร ไว้ด้านหลังซึ่งมีลายเซ็นต์สมเด็จพระญาณสังวรกำกับทุกองค์
พุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร ถือว่าเป็นการสร้างสมเด็จอรหังรุ่นแรก ในยุคของสมเด็จพระญาณสังวรฯ
ส่วนใหญ่พระรุ่นนี้จะรานค่อนข้างหาสวยยาก










​

 

วัตถุมงคล พระครูประจักษ์ธรรมวิจารณ์ ( หลวงปู่ครูบาข่าย ขัตติโย )
วัดหมูเปิ้ง เพื่อร่วมก่อสร้างกำแพงวัดและปรับพื้นที่หน้าวัดหมูเปิ้ง
พระรอดเกศา เนื้อครั่ง



พระครูประจักษ์ธรรมวิจารณ์ (หลวงปู่ครูบาข่าย ขัตติโย) วัดหมูเปิ้ง ต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน หลวงปู่เป็นพระที่มีจริยาวัตรเคร่งครัดมาก โดยเฉพาะในเรื่องการจัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆนั้น มีลูกศิษย์ลูกหาเคยขออนุญาตอยู่หลายครั้งแต่ท่านก็ไม่เคยอนุญาต



หลวงปู่มีความต้องการจะสร้างกำแพงด้านหน้าวัดต่อออกไปให้ เต็มพื้นที่ของวัด เพื่อนำปัจจัยมาร่วมสร้างกำแพงตามเจตนา ของท่าน หลวงปู่ได้อนุญาตให้จัดสร้างอย่างเป็นทางการ "เป็นครั้งแรก" เมื่อสร้างเสร็จได้นำเข้าอธิษฐานจิตในวัดหมูเปิ้ง จากนั้นท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวอีกเป็นเวลา ๗ ราตรี(๗คืน) เป็นวาระที่สอง



และเมื่อวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๓ ที่ผ่านมาทางวัดได้จัดพิธีปลุกเสกขึ้นอีกครั้งหนึ่งในวิหารวัดหมูเปิ้งเป็น วาระที่สาม โดยมีพระสงฆ์สวดเจริญพุทธมนต์และหลวงปู่อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวตลอดพิธี
รายการวัตถุมงคลที่จัดสร้าง...
๑. พระลือโขง ( พระจามเทวีเศรษฐีเรือนแก้ว ) เนื้อผงเกศา สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๖ แต่ไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ปัจจุบัน หลังจากที่ได้สำรวจแล้วเหลืออยู่เพียง 50 องค์ ปูชาองค์ละ 500 บ.
๒. พระลือโขง ( พระจามเทวีเศรษฐีเรือนแก้ว ) จำนวน 36 องค์ ปูชาองค์ละ 300 บ.
๓. พระรอดเกศา เนื้อครั้ง จำนวน 56 องค์ ปูชาองค์ละ 300 บ.
๔. ขุนแผนรุ่นแรกสีทอง เหลืออยู่เพียง 30 องค์ ปูชาองค์ละ 500 บ.
๕. ขุนแผนรุ่นแรกเนื้อดิน เหลืออยู่เพียง 120 องค์ ปูชาองค์ 300 บ.
๖. ตะกรุดเกศา ครูบาข่าย ปูชาดอกละ 200 บ.
๗. ตะกรุดไชยะปราบล้อม( หนังกลองแตก ) สร้างวันพญาวัน ปี 2553 ปูชาดอกละ 500 บ.
ปัจจุบันเหลือเพียง 21 ดอก พุทธคุณด้านป้องกันคุณไสย แคล้วคลาด
๘. เบี้ยกัน พอกครั้ง ปูชาตัวละ 300 บ.
๙. รูปภาพเล็กครูบาข่าย ด้านหลังมีเกศาและผ้าสังฆาฏิของครูบาข่าย ปูชาองค์ละ 100 บ.
รวมทั้งชุดบูชา 2,999 บาท (ข้อมูลและราคาเมื่อปี ๒๕๕๓ นะครับ)

 

​

 

พระนาคปรกพิมาย & รูปเหมือนลอยองค์ครูบาดวงดี


​

 

หลวงพ่อกวย







​

 

​

 

----> ---->

 

จัดมุมได้สวยงามครับ...

 

เนื้อหามวลสารล้วนๆ...สวยครับคุณโญ...

 

พักผ่อนเช่นกันครับ...

 

สวัสดีตอนเช้าครับทุกๆท่าน

 

สวัสดีครับ พี่ปู พี่เอ๊ะ พี่กูน พี่ตี๋ พี่โญ พี่ช้าง พี่รุ่ง พี่อ้วน พี่บอย พี่วรรณ น้องโอ๊ต คุณเหน่ง น้องเอ๋ น้องเขี้ยว พี่วุฒิ พี่กัน น้องกานต์ คุณแพน พี่ pp2 และทุกๆสมาชิกอัลบั้มพระด้วยครับผม

 

​

พระสมเด็จพิมพ์ฐานโต๊ะ 3 ชั้น เนื้อแร่เขาพรหมชะแง้ หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี

 

​

หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ อำเภอเมือง จังหวัดเลย เนื้อเรซิ่นลงดำ สร้างประมาณปี2524

หลวงปู่คำดี ปภาโส
วัดถ้ำผาปู่ อำเภอเมือง จังหวัดเลย
พระเดชพระคุณหลวงปู่คำดี ปภาโส พระอริยเจ้าศิษย์กรรมฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ท่านเป็นผู้มีความสมบุกสมบันทั้งภายนอกและภายใน สันโดษไม่ชอบการก่อสร้างเบื้องต้นท่านศึกษาธรรมจากพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตฺยาคโม ณ วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา จากนั้นท่านท่องเที่ยวไปตามป่าเขา จนกระทั่งวาระสุดท้ายท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดถ้ำผาปู่ และได้รับอุบายธรรมอันสำคัญจากหลวงตามมหาบัว จนถึงที่สุดแห่งทุกข์
ท่านมักกล่าวกับคนใกล้ชิดเสมอว่า “มหาบัวเป็นอาจารย์ของอาตมา” ท่านไม่ถืออายุพรรษา ท่านถือพรหมจรรย์คือพระอรหัตตผลเป็นที่ตั้ง ถ้าหากได้ธรรม แม้จะเอาสามเณรเป็นอาจารย์ท่านก็ยอม ท่านมีวิธีการและอุบายแปลกๆ เพื่อฝึกหัดทรมาน ท่านชอบแสวงหาที่อยู่อันน่ากลัวและชอบหาวิธีแก้ความกลัวเฉพาะหน้า อย่างเช่นท่านพักอาศัยอยู่ในถ้ำ เสือร้องคำรามอยู่หน้าถ้ำ ตัวสั่นแต่ใจสู้ไม่ถอย ภาวนาสอนตนเองว่า “พระกรรมฐานอะไรมากลัวเสือ เรากลัวเสือมันมากินเรา ก็เรากินสัตว์มาสักเท่าไหร่ กินมาจนเต็มพุง ถ้าเสือจะมากินเราเสียบ้างก็ไม่เห็นจะเป็นไร วันนี้เราต้องสู้” คิดอย่างนั้นแล้วท่านก็รีบเดินออกจากถ้ำไปตามหาเสือ พอเสือเห็นท่านเดินเข้าไปหาดุ่มๆ มันก็เผ่นแน่บเปิดหนีเข้าป่าหายเงียบไป
ข้อมูล santidham.com/tatu1st/tatu/present/p-kamdee/p-kamdee.html

 

​

หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ อำเภอเมือง จังหวัดเลย