เวลามีผู้เข้ามาด่าว่าแม่ชี แม่ชีรู้สึกอย่างไรคะ?

กราบเรียนถามท่านอาจารย์แม่ชีค่ะ.......

เมื่อเวลามีผู้เข้ามาด่าว่าท่านอาจารย์แม่ชี ท่านอาจารย์มีความรู้สึกอย่างไรบ้างคะ ???????

 

คำถามไม่น่าถาม

สมมุติว่าผมเป็นแม่ชี...ผมจะยึดหลักธรรมะตามนี้ครับ

หลักธรรมะ

๑.บาปแม้แต่น้อยนิดก็อย่าได้ทำเลย
๒.ทำแต่ความดี หมั่นทำบุญกุศลให้มาก
๓.ทำจิตใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ

การทำจิตใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ คือต้องเชื่อเรื่องอดีตชาติ

คนที่ทำกรรมร่วมกันมา , เคยทำกรรมที่ไม่ดีไว้

ชาติปัจจุบันย่อมกลับมาสนองแม้จะเป็นพระอรหันต์แล้วก็ตาม

เช่น ชาติที่แล้วไปดุด่า ให้ร้ายเขาเอาไว้ ให้เขาได้เสียหาย

ชาติปัจจุบัน ก็ต้องได้รับบาปกรรมนั้น ซึ่งเมื่อโดนดุด่าว่าร้าย ก็ต้อง

โกรธโมโหเป็นธรรมดาซึ่งทำให้จิตใจขุ่นมัวหมอง ซึ่งเราก็ต้องทำใจให้ได้

ว่า ก็ชาติที่ผ่าน ๆ มา ไปด่าเขามาก่อน จะไปขุ่นมัวทำไม

คนที่มาด่าเรากลับ เป็นเพียงแค่พาหะนำคำด่ามาให้ เมื่อโดนด่าก็ต้อง

มามองดูตัวเองว่า อืม เมื่อชาติที่แล้วเราไปด่าเขาแบบนี้หรือนี่ มันก็จะ

ทำให้จิตใจของเรา ผ่องใสเลิกขุ่นมัว

และคนที่ด่าเรา เราก็ควรจะสงสารเขาเพราะเขาได้รับบาปกรรม ซึ่งเป็นกรรมที่หนัก เพราะมาด่าผู้ทรงศีล

 

เยี่ยมเรยครับ ท่านเฮียปอ
ถ้าเป็นผมก็จะ อุเบกขา

 

กระทู้ ฮอต ผมตอบเองนะ ไม่เกี่ยวกับใคร
ใครอยากด่าใคร ทะเลาะใคร สร้างความแตกแยก แตกต่าง จงใจหรือไม่ก็ตาม
กระทู้ฮอตแน่นอน (one-eye)

 

เจริญธรรม...

ต้องขอบอกว่าคำถามที่ถามมาสุดยอดมาก อาจจะดูเหมือนเป็นคำถามง่ายๆ คำถามง่ายๆนี่แหละที่ตอบยากที่สุด...

ขออธิบายเรื่องการโดนด่าว่า... แน่นอนที่สุดที่ไม่มีใครอยากให้ใครมาด่าว่า เมื่อโดนด่าว่าการฉุนเฉียวทางอารมณ์ย่อมมีขึ้น

แม่ชีไม่ชอบหลอกตัวเอง ต้องขอบอกว่า ฉุนนะ... แต่ว่าจับทางตัวฉุนนั้นได้เร็ว เนื่องจากมีความรู้และมีประสบการณ์มาก่อน เรียกว่าเป็นผู้ฝึกจิตมาดีพอสมควรแล้ว

จึงทำให้เกิดความเข้าใจ สภาวะจิตใจของผู้ด่าว่า "มีปัญหา"เมื่อเรารู้และเข้าใจว่าผู้กำลังด่าว่าเรามีปัญหา จะไปฉุนโกรธเขาก็ใช่ที่ จึงมีความเข้าใจ ตัวให้อภัยจึงตามมาสนับสนุน ตัวเมตตาก็มาร่วมด้วยช่วยกัน

จึงทำให้ตัวขุ่นมัววิ่งเข้าถึงใจลำบากหน่อย เรียกว่า โดนกระทบแต่ไม่กระเทือนหวั่นไหว ตัวกระแทกกลับจึงไม่มี

สิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือการวางเฉย ด้วยเชื่อในเรื่องของกฏแห่งกรรม คือ บุคคลทำเช่นใดย่อมได้รับเช่นนั้น

อีกอย่างต้องขอขอบคุณผู้ด่าว่าเราด้วยที่ทำให้เราได้เข้าใจธรรมชาติมากขึ้น จึงทำให้เราบรรลุธรรมขึ้นโดยลำดับ
เพราะการนั่งนิ่งๆอยู่เฉยๆการบรรลุธรรมย่อมเกิดขึ้นได้ยาก นี่จึงเป็นโอกาสงามสำหรับเรา ที่สามารถเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสงามได้

ต้องขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ที่ด่าว่าเรามาก่อนหน้าโน้น แทบกระอักเลือดตาย ยิ่งกว่าที่โดนคนอื่นด่าว่ามากกว่าหลายเท่าทวีคูณ ทำให้เราฝ่าฟันกับโลกธรรม ๘ มาได้
โลกธรรม๘ นี่แหละที่เป็นมายาธรรม หลอกล่อให้คนจมติดบ่วงอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ใครถอนออกได้นับว่า ยอดเยี่ยม

คนในโลกนี้มักชอบหลอกตัวเองด้วยการปฏิเสธความในใจ แม่ชีไม่ชอบปฏิเสธ จึงทำให้แก้ไขใจได้เร็วและไว

คนที่ถามมา...ถ้านำหลักนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ รับรองว่า การบรรลุย่อมเกิดมีแน่นอน
รู้ไว เข้าใจเร็ว ตัวโง่ก็เข้าแทรกซึมไม่ได้ การฉลาดที่จะทำให้ชีวิตเรามีความสุขอย่างที่ผู้อื่นทำได้อยาก นับว่าดี ไม่ใช่หรือ?

ขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับคำถามดีๆนะ...สิ่งดีๆคนไม่ค่อยชอบอ่าน เรื่องด่าว่ากัน แหม!!!ชอบกันนัก ชีวิตมันเลยวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น
สุดท้ายก็โทษผู้อื่นอยู่ร่ำไป การแก้ไขตัวเองก็ไม่มี นี่แหละวิถีของคนโง่ล่ะ...

บุญรักษา/ธรรมะสวัสดี

 

อนุโมทนา สาธุค่ะ กำลังรอคำตอบจากอาจารย์แม่ชีอยู่ค่ะ
คำด่าเค้าบางทีก็ช่วยให้เราได้คิดอะไรได้หลายอย่างนะคะ
เป็นสิ่งท้าทายอารมณ์ได้อย่างดีเลย ทำให้เรารู้ว่าเราสามารถจัด
การกับอารมณ์ของเราได้แค่ไหน

 

จำเป็นต้องมีความเข้าใจว่าเขามีปัญหาก่อนรึเปล่าขอรับ
ตัวอภัยกับเมตตาถึงจะทำงานได้

 

อนุโมทนาคำตอบของแม่ชีครับ ผมจะนำไปใช้ ขอบพระคุณมากครับ

 

เจริญธรรม...

คนธรรมดาเมื่อโดนด่า การให้อภัยก่อนนั้นย่อมไม่เกิดมี
การเข้าใจนั้น คือ เข้าใจความจริงของโลกโดยรวม ไม่ใช่เข้าใจเป็นรายบุคคล

เมื่อเข้าใจความจริงของโลก เราจะให้อภัยเป็น ตัวเมตตาก็จะทำงานพร้อมๆกันกับความเข้าใจและการให้อภัย

ส่วนจะเร็วหรือช้ามันขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของแต่ละบุคคลจ้า...
บุญรักษา/ธรรมะสวัสดี

 

ขอบพระคุณขอรับ

 

อนุโมทนาแม่ชีครับ ของคุณเจ้าของกระทู้มากๆครับที่ถามเรื่องที่เหมือนไร้สาระแต่มีสาระที่ดีมากๆ

 

สุดยอดขอคารวะสูงสุด(แต่ยังมีสูงกว่า)คุณแม่ชีณัฐทิพย์อย่าท้อคนดีสู้ต่อไป ส่วนเฮียปอ ตำมะลังเฉียบแหลมมากข้อมูลเพียบขอคารวะอีกหนึ่งจอก ชื่นใจเมืองไทยไม่ไร้คนดี

 

" ขอกราบขอบพระคุณแม่ชีณัฐทิพย์ ที่ให้การแสดงธรรม ครับ ถาสมมติว่าเป็นผม เมื่อก่อน จะระเบิดกลับเลย ถ้าคนๆนั้น หน้าไม่เหมือน พ่อ แม่ เราแล้ว เป็นเรื่อง... แต่ตอนนี้ผมหันหน้าเข้าธรรม...จะมองว่า เป็นกรรมเก่าของเรา ที่เราเคยด่า ว่าร้าย นินทา เข้ามาก่อน ในอดีตชาติ เราก็ต้องมาใช้กรรมที่เราทำไว้...เราต้องสงบนิ่ง ไม่โต้ตอบ อโหสิกรรม เพื่อเลิกแล้วต่อกัน ครับ "

​

 

ไอ้พวกโง่ อ่านอยู่ได้ ไร้สาระ...
.
.
.
.
..
.
..
ขออภัย อย่างสูง ถ้าทำให้ใครโกรธ แค่ต้องการทดลองว่า ถ้าได้ยินคำกล่าวแบบนี้ แรงๆ จะ ทำใจได้มากน้อย แค่ใหน.... ใครจะเห็นตัวจิต ของเราได้เร็วมาก น้อยแค่ใหน เท่านั้นเอง ขอโทษอีกครั้ง ไม่ได้มีเจตนาป่วน จริงๆ และ ขออนุโมทนา กับความเห็นของทุกท่าน สาธุ..

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ

 

การระงับอารมณ์โกรธ เกลียด เวลาที่คนมาด่าว่าเรา ไม่ว่าจะผิดหรือไม่ ก็จะโกรธ มีโทสะทันที แล้วต้องเดินหนี เพราะรู้ตัวว่าโกรธแล้ว ยากนะที่จะไม่ให้โกรธ ยามมากจริงๆ

 

คุณแม่ชีตอบได้เข้าใจง่ายดีค่ะ
กราบนมัสการสาธุ

 

1... เป็นแนวทางปฏิบัติเลยใช่ไหมคะ แค่รู้ว่าเรากำลังฉุน
2... สังคมในยุคนี้เป็นแบบนี้ค่ะ ชอบด่า ชอบว่ากัน สิ่งดีๆ ทำไมไม่สรรเสริญให้แรงๆ เหมือนกับด่ากันนะ

อนุโมทนา สาธุ ค่ะ ใช้คำนี้กับแม่ชีได้ไหมคะ

 

ธรรมสวัสดีค่ะ...

เรื่องด่ากันนี้มันมีมาตั้งนานแล้วค่ะ และมันก็ยังจะมีต่อไปไม่หยุดด่า
พระพุทธองค์จึงทรงกล่าวว่า "บุคคลผู้ไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก"
และนี้แหละคือ กรรม

บุคคลทั้งหลายหากยังด่าตำหนิติเตียนผู้อื่นและชอบให้คนอื่นสรรเสริญตนอยู่นั้น ยังไม่ผ่านโลกธรรม 8 จิตจึงยังติดไฟแดงอยู่อย่างนั้น

สำหรับผู้ที่อวดตนว่าปฎิบัติธรรมมานานแต่คำพูดคำเขียนยังด่าว่าตำหนิผู้อื่นอยู่นั้น
แค่พระโสดาบันเบื้องต้นก็ยังไม่ผ่าน แล้วไฉนจะได้เป็นอริยะขั้นสูงต่อไปล่ะคะ
จริงไหมล่ะโยม?

คำทางโลกนั้นขึ้นอยู่กับการสมมติกัน คนนี้ก็ว่าไม่ถูก คนโน้นก็ว่าไม่ได้
เอาเป็นว่าแล้วแต่ศรัทธาเถอะค่ะ

บุญรักษา/ธรรมสวัสดี