มหาวิบัติใหญ่ ของประเทศไทยจะเกิดขึ้นในไม่เกิน 90 วันนี้แล้ว

ผมมี Sense อย่างหนึ่ง ใครขยับนิดหน่อย รู้ไปยันไส้

แค่นี้ล่ะ ^^

 

ดีครับ ทะลุให้หมดใส้ ปอด ตับ ม้าม กึ๊น หัวใจด้วย


คสช.ทำอะไรไม่ค่อยรู้รายละเอียด
แต่รู้ว่า คสช.จะไม่ทำให้ประชาชนต้องเงิบ
เหมือนบิ๊กบัง แค่นั้นครับ

 

คิดงั้นได้ก็ดี ตอนนี้มองไปทางไหนเห็นแต่ความอึดอัด ถ้าเทียบกับการพิจารณาดับกิเลส คือ ใช้ธรรมข่มกิเลส ไม่ใช่ใช้ธรรม ขจัดกิเลส
แต่บุคคลไม่ใช่กิเลส เลยต้องหาทางอยู่ร่วมกันโดยต้องสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันแทน


สังคมต้องการเรื่องจริง ไม่ใช่ ข่าวลือ ถึงจะน่าเชื่อถือแค่ไหน ถ้าไม่จับได้คาหนังคาเขามันก็แค่ข่าวลือ(เพราะพิสูจน์ไม่ได้)

ป๋าแกห้ามพูดเรื่องการเมือง ห้ามให้ข่าวเรื่องการเมือง แล้วบางคนที่มองว่าบางฝ่ายตาบอด ก็ดีใจใหญ่ บอกว่าประเทศไทยรอดแล้ว ผมบอกตรง ๆ ผมเห็นแต่ความอึดอัด เหมือนภูเขาไฟรอวันระเบิด หรือทะเลก่อนเกิดสึนามิ หรือลมสงบก่อนเกิดฝนฟ้าพายุคะนองกระจายเป็นหย่อม ๆ เพราะคนในสังคมไทยมันมีแต่ความ "คาใจ" เพราะไม่มีอะไรคาหนังคาเขา


อย่าไปมองว่าใครไร้เดียงสาครับ ทุกฝ่ายมีสิทธิ์พลาด ลองคุยกับคนที่คิดว่าไร้เดียงสาดู เสพข้อมูล อย่าเสพอารมณ์
ผมฟังธรรมหลวงพ่อเกษมก็ไม่ได้ฟังท่านพูด เรื่องอะไรที่หลาย ๆ คนฟังท่านพูดแล้วไม่เข้าหู ผมก็ฟังเข้าหูอยู่แต่ไม่คาใจ เพราะผมฟังธรรมของแก ไม่ได้ฟังเรื่องอื่นที่ท่านพูด

ถ้าใครฟังธรรมหลวงพ่อเกษมได้เฉย ๆ เหมือนผมก็หัดฟังความเห็นฝั่งตรงข้ามบ้างก็ได้

แอ๊บเป็นพวกก็ได้

จะดีใจตอนนี้มันเร็วไป ต้องรอ "ผล" ปรากฏก่อน ฝ่ายที่โกหกเราได้ดีที่สุดคือฝ่ายของพวกเราเอง หรือฝ่ายที่พวกเราอยู่ข้างนั่นแหละ ผมถึงบอกให้ ปชช คุยกันเอง อย่าเชื่อแกนนำ ในหลาย ๆ โพสของผม

ส่วนผมจะเข้าข้างฝ่ายไหนบ้าง
ก็เพราะ
ผมคิดว่าคนเรามีกรรมเป็นของตัวเอง กรรมที่ใครก่อคนนั้นย่อมได้รับผล
แต่บางฝ่ายที่ทำกรรมบางอย่าง โทษที่สังคมพิพากษาให้เขาหรือคิดว่าเขาสมควรได้รับมันหนักเกินไป(และโทษนั้นมีผลเสียมากกว่าผลดี ต่อ ฝ่ายที่โดย และฝ่ายที่ถูกปกป้อง เพาะมันสร้างเสริมความคิดต่อต้าน ธรรมชาติของความคิดเป็นอย่างไร ทุกท่านคงเข้าใจ)

ถ้ากรรมมันจะส่งผลของมันไม่มีใครห้ามได้ เขาก็จะได้รับผลกรรมนั้นของเขาอยู่แล้วไม่วันใดก็วันหนึ่ง
แต่ มีหลายคนไปยุ่งอีรุงตุงนังกับเขา แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะทีนี้

แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แล้วทะเลาะกัน กรรมที่เหมือนว่าเขาจะทำฝ่ายเดียว ท่านก็ลงไปร่วมทำกับเขาด้วย
โดยการทำให้เขายิ่งทำ(ในที่นี้มีทั้งพวกที่ทำจริง ๆ และพวกทนเห็นความอยุติธรรมไม่ได้อยู่ด้วย) เพราะเขาถูกกดดันมาก่อนแล้ว

ผมถึงบอกว่า ถ้าภัยมา เราต้องโดนกันหมดไง เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีส่วนร่วมในสถานการณ์
มีส่วนร่วมโดยกรรมที่เราได้้กระทำลงไปเพราะไม่รู้ว่ามันจะส่งผลยังไง


ทางลง คุยกับทุกฝ่าย.................... ห้ามคนพูดว่าฝ่ายไหนจะล้มดีกว่าการที่จะห้ามพูดเรื่องการเมือง
คุณลองคิดเองละกัน ว่าถ้ามีคนพูดว่าคุณจะล้มโดยที่คุณไม่ได้ล้มน่ะ คุณจะรู้สึกยังไง

ยิ่งพูดมันยิ่งคาใจ เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่มีหนังไม่มีเขาให้รู้ให้เห็น

หาทางลงที่ไม่ทำให้บัวช้ำน้ำขุ่น ด้วยการเจรจากันเองของ ปชช ดีกว่าที่ คสช ทำตอนนี้เยอะ

สถานการณ์ตอนนี้ไม่มีฝ่ายไหนเหมาะกับการบริหารประเทศทั้งนั้น ฟันธง
อย่าไปถือโทษโกรธใครเลย ถ้าไม่รู้ว่ามันจะส่งผลยังไง ปล่อยกรรมทำเรื่องของมัน

ปกป้องพ่อได้ แต่อย่าใส่ร้ายใครว่าเขาไม่รักพ่อ เพราะจะเป็นการทำลายพ่อทางอ้อม ทุกคนมีพ่อองค์เดียวกัน
เท่าที่รู้เสื้อแดงสนับสนุนให้พระบรมโอรสาธิราชขึ้นครองราชสมบัติ ตามราชประเพณีนะ
หาดูคลิปเองละกัน หลักฐานที่คุณหาเจอเองและไม่ได้ตัดต่อใด ๆ น่าเชื่อถือที่สุด ไม่ใช่หลักฐานที่ฝ่ายคุณตัดต่อมาแล้วเอามาให้พวกคุณดู

ฤาษีแปลงสาร
1.แปลงเนื้อสาร ไม่ให้เป็นของเดิม แต่คล้ายของเดิม (จริงปนเท็จ)
2.คงเนื้อสารไว้ แต่ใส่จุดประสงค์ใหม่หรือเบี่ยงเบนประเด็นความจริงไปอีกทาง
3.แปลงสารทั้งหมด(สะตอ 100 เปอร์เซ็นต์)
4.ส่งสารปลอมทั้งๆที่มันไม่มีอยู่จริง คือ คนส่งไม่เคยส่ง มันไม่เคยมีเรื่องนี้อยู่จริง ๆ ทั้งนี้เพื่อจุดประสงค์ใดจุดประสงค์หนึ่ง

เรื่องพวกนี้มันมีจริง
อย่าเชื่อใครง่าย ๆ แม้แต่ฝ่ายตัวเอง แดง เหลือง ทหาร


ทำความเข้าใจธรรมชาติและธรรมดา(ของคน และทุกสรรพสิ่ง) แล้วจะเห็นสัจธรรม
คิดให้ผมอยู่ข้างแดงก็แดง คิดให้ผมเป็นกลางก็กลางนั่นคืออุปปาทานของพวกคุณ อุปปาทานกันเองละกัน

 

ติดกับดักด้วยคิดของตัวเองแล้วผู้พัน

สวดขอขมากรรมทุกวันซิ ด้วยบทนี้ก็ได้ สัพพัง อัปราทัง ขะมะถะเมภันเต อุกาสะทะวาระตะเยนะ กะตัง.....(หาเต็มในกูเกิ้ลครับผม)


เรื่องใครหนุนใครตั้งใคร
นั่นเป็นเรื่องที่ชาวบ้านควรเอาสมองเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่??


เราเกิดมามีวาสนาได้เป็นแค่นกแก้วบินไปบินมาหากินได้เสรี
พญาอินทรีย์แม้จะมีพลังมากกว่า แต่ก็ไม่ได้มากีดกันการหากินของนก
แก้วอย่างเรา รวมถึงนกตัวเล็กตัวน้อยอื่นๆ ที่อยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน


คราวเคราะห์ร้าย ดวงจะจู๋ หากินพอเพียงไม่ได้
อาจหาญสามัคคีกันจะไปบริหารนกอินทรีย์ ให้
มาช่วยหากิน เพียงคาดว่าจะได้กินอิ่มนอนอุ่นกว่า
(ชั่งคิดชั่งทำกันไปได้)
เช่นเดียวกัน ถ้าเราเคารพในองค์พระสัมมาฯด้วย
จิตด้วยใจ การติเตียนสงฆ์สาวกของพระองค์ท่าน
ก็ไม่ควรพึงคิด พึงทำ เพราะเราอยู่ได้เป็นปกติภาย
ใต้บารมีพระองค์ท่าน ใช่หรือไม่!!

 

คุมจิตให้เป็นปกติ เป็นเรื่องยาก
คนที่เจริญสติเก่ง และเนืองๆ
เท่านั้นที่ทำได้

เมื่อจิตมันฮิปฮอป กาย วาจา ก็ฮิปฮอปไปด้วย
เอาไม่อยู่หรอก เลยออกจะเลอะๆไปหน่อย
ขอขมากรรมค่ำเช้า เป็นการสารภาพบาป
ทุกภาคส่วน ตั้งแต่องค์สัมมาฯลงมาถึงเจ้ากรรมนายเวร
ทุกรูปนาม

แต่ถ้าเราดื้อ เราก็จะไม่ว่าตัวเองเพี้ยน เราก็เลอะแบบเดิมๆ

 

วาจาของผู้นำวันนี้ ที่มองมายังระบสังคมไทยได้อย่างทะลุถึงความจริง
"ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ประเทศไทยมีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดจากจากระบอบทุนนิยมธรรมดา กลายพันธุ์มาเป็น "ทุนนิยมสามานย์" ที่ผูกขาด เอาเปรียบ จนในที่สุดระบบเศรษฐกิจในบ้านเรามีความร่ำรวยกระจุกตัวอยู่เพียงไม่กี่ครอบครัว"โดยผู้นำจากคสช.

 

นีโอมีทีวีดาวเทียม ตั้งแต่ คสช.ระงับการออกอากาศ
บอกตามตรงดีใจมาก เลยไม่เปิดดูสักช่องเดียว

ลองดูว่าไม่ดูทีวีมันจะโง่มากกว่าดูทีวีจริงไหม?
(จริงๆน่าโง่พอๆกัน)

ติดตามความคืบหน้าของการบริหาร ของคสช.
ทาง เวบไซต์ เห็นดีวันดีคืน

ตอนนี้กะลังแอบดีใจ ที่คสช.จะรื้อโครงสร้าง
ปตท.จัดการใหม่เรื่องผลประโยชน์ชาติ ให้มาก่อน
ตามด้วยผลประโยชน์ประชาชน และสุดท้ายผู้บริหาร
องค์กร ปตท.ดีใจเพราะตัวเองก็ถูกขูดรีดมานาน
ในขณะที่อีกหลายคนเข้าใจว่าราคาน้ำมันเป็นไปตาม
กลไกตลาด (เพราะดูทีวีมาก)

โชคดีที่ผู้นำขณะนี้ ฉลาดในการจะปฎิวัติสังคมไทยให้มีความสุขจริงๆ

 

//5555 ไม่ใช่ และไม่ใช่เป็นอย่างยิ่ง
เพราะเคารพในคำสั่งสอนของพระองค์ เห็นพระภิกษุไม่ทำตามคำสอนของพระองค์ก็ยิ่งควรติเตียน
ไม่งั้นมันก็เป็นอย่างทุกวันนี้ พระตุ๊ด เณรแต๋ว ตุ๋ยเด็ก เสพขายยา มั่วสีกา
//เคารพ แต่ไม่ใช่เอาความเคารพบารมีของพระองค์ มากีดกันสิทธิประโยชน์ของผู้อื่น การติเตียนพระสงฆ์สาวกของพระองค์ท่าน สมัยพุทธการยังมี
มีพระรูปหนึ่ง ไม่รับบิณทบาตรของโยมคนหนึ่งที่อาหารใส่บาตรไม่หรูหรา
พระพุทธเจ้าท่านยังไล่พระรูปนั้นไปขอโทษโยมเลย

ติให้ถูกก็ไม่บาป แล้วเรื่องอะไรที่จะติไม่ได้ ผมเนี่ย มีเรื่องกับพระมาแล้ว
เพราะพระรูปนั้นทำตัวไม่สมพระ ไม่ทำตัวตามพระวินัย ไม่ใช่ครั้งสองครั้ง แต่ ถี่ ๆ เลย
ซ้ำยังใช้ผมทำเรื่องไม่ถูกวินัยด้วย ซึ่งผมไม่ทำเพราะรู้ว่าไม่ควรทำ
เกิดขัดแย้งกันหนักเข้า เรื่องหนักจนต้องให้พระอาจารย์มาเคลียร์
พระอาจารย์ผมตักเตือนพระรูปนั้นจนพระรูปนั้นหงอไปเลย ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าผมตรง ๆ
เพราะผมถูกกว่า ดังนั้น ผมเชื่อว่า การตักเตือน ถ้าตักเตือนถูกต้องย่อมทำได้

ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนในนี้ไม่เชื่อหรอก
เพียงแต่อย่างน้อยก็เอาความคิดผมไปพิจารณาสักข้อสองข้อก็ได้ ไม่เห็นเสียหาย
ผมไม่ได้บอกให้เชื่อ แค่เอาความคิดมาแชร์ นั่นคือจุดยืนของผม

 

นีโอคงไม่สามารถ อธิบายอะไรให้กระจ่างได้หรอก
เพราะคนที่บังอาจทะเลาะกับพระได้เนี่ย ก็ไม่ใช่ธรรมดา
เทศน์ได้สอนได้ แต่พูดจาเหมือนว่า โลกนี้มันเที่ยงแท้
แน่นอน แล้วก็มีความเข้าใจว่า ประสบการณ์ตัวเอง
ก็เที่ยงแท้แน่นอน ด้วย
แต่อยากบอกว่าศรัทธาที่ถูกต้อง มีแต่จะทำให้อ่อนโยน
และมองโลก มองชีวิต เป็นสิ่งไม่แน่นอน
ชีวิตที่เลิศเลอมีความสุขปราศจากความมัวหมอง
หรือชีวิตที่ทุกข์เข็ญ เต็มไปด้วยความอึดอัดขัดข้อง
ล้วนแต่ เจ้าของชีวิตสั่งสมเหตุปัจจัยมาเองทั้งสิ้น

การเรียกร้องให้ผู้มีบุญญาบารมีโปรด แต่เขาไม่มา
หรือเขามาโปรด แต่หลอกลวงไปพร้อมกันด้วย
แต่ยังไม่รู้เท่าทัน เหมือนมีอะไรมาปิดบังให้ไม่เห็น
ไม่เข้าใจความจริงในเล่ห์กลนั้นๆ ทั้งที่คนอื่นเขาตาสว่างกันแล้ว
ก็เป็นเวรเป็นกรรมของแต่ละบุคคล ต้องพิจารณากันเอาเองนะจ๊ะ

 

ศีล 5 ยังไม่สมบูรณ์ คิดไปอัดกับศีล 227
เลยนะพ่อมหาจำเริญ

มีเยอะคนไทยที่กล้าหาญ ปกป้องศาสนาแบบ
เอาตัวเข้าแลกแอยากเป็นแบบเนี๊ยะ แรงกว่านี้ก็มีแต่สุดท้าย
มันก็วิบัติไปทั้ง 2 ฝ่าย

ศีล(ข้อปฎิบัติตามพระวินัย)เปรียบเหมือนศาสตราวุธประจำกาย
เพื่อไว้ใช้สู้รบกับภัยในวัฎสงสารนั่นคือ ภัยเกิดแก่เจ็บตาย

ไม่ใช่เอาไว้ไปสอน ไปเถียง ไปอัด ไปลองดีกับพระ
โอย....คิดใหม่ทำใหม่เถอะชาวพุทธผู้เห็นผิดทั้งหลาย
หลบๆ หลีกๆ ไปก่อนเถอะ

ไปเสี่ยงทำไม บาปกรรมที่ทำไปแล้ว ทำให้ความเห็นผิด
ลามปามไปเรื่องอื่นๆ ทั้งหมด อย่างที่กำลังพูดเรื่องการเมืองอยู่นี่เป็นต้น

ขอขมากรรมด้วย บทสัพพัง อัปราทัง......ไปทุกเช้าค่ำ ใส่บาตรทุกเช้าด้วย
เผื่อได้บวชเป็นพระที่ควบคุมพระ จะได้ปลอดภัยไม่ไปอเวจีนรก

 

ก็เพราะมันไม่แน่นนอนไงลุง
คนเราถึงอยู่กับอะไรที่มันแน่นอนนาน ๆ เหมือนลุงไม่ได้

ผมก็ตาสว่าง ลุงก็ตาสว่าง คนอื่นก็ตาสว่าง ต่างฝ่ายต่างเถียงว่าตัวเองตาสว่าง
ทำไมแทนที่จะบอกว่าฝ่ายตัวเอง ตาสว่างจริง ๆ ไม่เอาความตาสว่างของแต่ละคนมาอยู่ด้วยกันซะเลย ลุงเองก็คิดว่า สิ่งที่รู้มา เห็นมาเที่ยงแท้ ผมก็เคิดว่าสิ่งที่รู้มาเห็นมาเที่ยงแท้ ลุงก็ยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองคิดพอ ๆ กับผมเหมือนกัน

ผมบังอาจทะเลาะกับพระ เพราะพระ บังอาจละเมิดคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าผมจะผิดก็ให้มันรู้ไป เพราะเขา สักแต่คิดว่าตัวเองเป็นพระเขาก็เลยคิดแบบนั้น บาปนี้ถ้ามันจะบาปก็ยินดีรับครับ เพราะผมมั่นใจว่าผมไม่ผิดเพราะมีหลักฐานตามตำรา
หรือลุงจะไม่ทะเลาะกับพระเลยครับ ถ้าสมมุติ พระเสพยา มั่วสีกา ตุ๋ยเด็ก พนันบอล ฯลฯ
ถ้าเป็นแบบนั้นคือลุงทำลายพระศาสนาทางอ้อมแล้วนะ แล้วแบบไหนจะบาปกว่า ระหว่างไปทะเลาะ เพราะเขาพยายามทำให้เราทำผิด กับ ไม่ทะเลาะเพราะมันเป็นเรื่องของเขา เขาจะทำตัวเหลวแหลกเละเทะยังไงก็เรื่องของเขา เขาจะพาเราเละเทะเหลวแหลกไปด้วยก็เรื่องของเขา

โลกนี้ไม่เที่ยงแท้แน่นอน ผมเข้าใจ ความไม่เที่ยงมันแน่นอนที่สุด แต่ที่ผมพูดว่ามันเหมือนจะเที่ยง เพราะ ธรรมดาของสิ่งที่มีเหตุปัจจัยให้เป็นไปอย่างไรมันย่อมเป็นไปอย่างนั้น

เหตุปัจจัยบางอย่างจะส่งผลต่อพฤติกรรมของคนทำให้พฤติกรรมเกิดรูปแบบขึ้นมา

บางสิ่งบางอย่าง
ทำให้ผมอนุมานเอาได้ ว่าใครจะทำอะไรต่อไป

อย่างลุงผมอนุมานเอาได้ ว่าลุงจะตอบผมอีก
หรืออีกอย่าง คือไม่ตอบผม เพราะลุงจะอุเบกขาต่อผม คือ ปล่อยให้ผมบ้าไปคนเดียว กรูชนะ
ไม่ก็มีคนมาบอกลุงว่า อย่าเสียเวลาไปยุ่งกับมันเลย ปล่อยมันบ้าไปคนเดียว

นั่นคือตัวอย่างของการอนุมาน ลุงอย่าซีเรียสนะ

เพราะคนมีความยึดมั่นถือมั่นในบางสิ่ง เขาจึงต้องทำเพื่อให้ได้สิ่งนั้น เรารู้ว่าอะไรเป็นเหตุปัจจัยที่จะทำให้เขาทำอะไร เราก็สามารถคาดคะเนหรืออนุมานเอาได้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ถ้าเรารู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ทำไมเราจะบอกว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้

นี่คือวิธีที่ผมใช้พยากรณ์การเมือง ซึ่ง มันถูกต้องเสมอ 80 เปอร์เซ็น

 

เวรกรรมของเธอจริงๆ ที่ต้องไปรู้ไปเห็นและไปทำในสิ่งที่
มันเกินบารมี เกินบทบาทหน้าที่

พระศาสดาเคยบอกฝากให้เธอ
ทำหน้าที่นี้หรือ? พระอธิกรณ์ต่างหากที่สามารถทำหน้าที่โดย
ชอบธรรมและไม่เกิดบาป เพราะเป็นหน้าที่ ที่คณะสงฆ์เป็นฝ่ายกำหนด

แล้วใครกำหนดเธอให้ทำหน้าที่นี้??

 

ผมฟาดกับพระเพื่อความถูกต้อง ตามหลักพระศาสนา เพราะพระพยายามให้ผมทำบาปด้วย และไม่พอใจที่ผมไม่ทำกับเขาด้วย จะลงนรกก็ยอมล่ะครับแบบนี้
ลุงอุเบกขาก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องมั้งนะ การไปสวรรค์นรกมันอยู่ที่วิธีคิด และจิตสุดท้าย
อะไรที่ลุงทำแล้วสบายใจก็ทำไป

สิ่งที่ผมกำลังสร้างอยู่ คือ เรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกลัวตกนรก หรือการพอใจที่ได้ขึ้นสวรรค์เหมือนลุง

 

ตอบง่ายมาก แล้วใครกำหนดให้ลุงตอบคำถามผม
ไม่มี
ลุงอยากทำอะไรก็ทำเองฉันใด ผมอยากทำอะไรก็ทำเองฉันนั้น(และผมต้องทำเพราะจำเป็นต้องทำด้วย เพราะเขามาเกี่ยวข้องกับผมและผมไม่เต็มใจทำ) ผมบาปก็เรื่องของผม คนเราแค่ถูกกำหนดให้เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ก็เท่านั้น ส่วนเราจะทำอะไรที่อยู่ระหว่างที่เราตั้งอยู่ก็เรื่องของเรา

พระพุทธเจ้าไม่ได้สั่งให้ลุงนับถือศาสนาพุทธ แต่ลุงนับถือเอง

หน้าที่ของมนุษย์ ไม่ใช่การทำตาม แต่เป็นการเลือก ก็คิดดูแล้วกัน สัตว์ในโลกนี้มีเยอะแยะ ทำไมถึงมีแต่มนุษย์เท่านั้นที่สามารถบรรลุธรรมได้

ชีวิต พระเจ้าไม่ได้ลิขิต แต่เราลิขิตเอง

 

มันไม่มีใครเผด็จการใครได้หรอก แม้แต่ลุงเองก็เผด็จการตัวเองให้อยู่เฉย ๆ นาน ๆ ไม่ได้
เหมือนที่ลุงเป็นอยู่ตอนเนี้ย
อย่างลุงลองไม่ขี้เลยดูซิ ลองดูนะ ว่าถ้าลุงไม่ขี้ลุงจะทนอยู่ในสภาพที่ไม่ขี้ได้นานเท่าไหร่
คสช มาแบบ สั่งให้คนไทยทั้งประเทศไม่ขี้นั่นแหละครับ



ธรรมชาติของคนเรามันเที่ยงตรงที่ทำตามความอยากของตัวเองอยู่เสมอ เว้นคนที่ฝึกตนดีแล้ว จึงสามารถหยุดธรรมชาตินี้ได้

 

ผู้นำของประเทศไทยวันนี้ ถ้าไม่ได้มาจากกองทัพไทย
พลเรือนหรือใครที่ไหน จะมีกองกำลังหรือศักยภาพ
ที่น่าเกรงขาม
เพียงพอ ที่จะจัดการกับพวกลิ่วล้อบริวารของเหล่านัก
การเมืองทะโมนเหล่านั้นให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยได้

เมื่อปราบกองทะโมนเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องจัดระบบ ระเบียบ
ด้านเศรษฐกิจ ด้านการกินการอยู่ให้แก่ประชาชน
ให้ทำหากิน หาเก็บกันด้วยความเท่าเทียม ไม่ปล่อย
ให้เกิดการเอาเปรียบเหยียบย่ำทำลาย กันอีกต่อไป

นี่เป็นหนึ่งในความคาดหวังของประชาชน
จากอีกหลาย ๆ ด้าน

 

เอ้าเริ่มจะเป็นฮาร์ดคอร์
แล้วหรือ
คุยธรรมดาก็ได้ทำท่าเหมือนจะปาอึ

 

ผมเกรงว่าแม้แต่คนที่ลุงว่าก็ยังควบคุมสถานการณ์ไม่ได้
ถ้าไม่แก้ปัญหาให้ตรงจุด ตาย 1 มันจะเกิด 100 ตาย 100 มันจะเกิดแสน กลัวจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า
ขี้ยิ่งกินก็ยิ่งมา แม้ไม่กินให้มันมามันก็ยังมีปัญหาท้องผูกถ้าไม่ขี้ ลุงลองไม่ขี้ดู

สิ่งแรกที่ต้องหยุดคือวาทกรรมที่ใส่ร้ายกัน อะไรจริงของอีกฝ่ายก็ควรรู้ อะไรที่ไม่จริงของอีกฝ่ายก็ควรรู้ หาทางออกร่วมกันว่าจะลดสิ่งที่เป็นความขัดแย้งให้มากที่สุดยังไง ไม่ใช่บอกว่าตัวเองจะเอาอย่างนั้น ๆ ๆ ๆ ๆ อย่างงงี้เถียงกันไม่จบ

 

ผมคิดว่าผมเข้าใจธรรมชาติถูกแล้ว
ธรรมชาติไม่เที่ยงจริง

แต่ ถ้าเรารู้ว่าเหตุปัจจุัยที่ทำให้เกิดสิ่งนั้น
เราก็พยากรณ์ได้ว่ามันจะเกิดสิ่งนั้น

อย่างลุงกินน้ำเยอะ ๆ สักพักลุงก็จะปวดฉี่ ยกเว้นแต่ลุงไม่มีกระเพาะปัสสาวะ หรือกระเพาะปัสสาวะรั่ว

มันเป็นความเที่ยงในสิ่งที่ไม่เที่ยง คือเที่ยงว่ามันจะเกิดด้วยเหตุนี้ เที่ยงว่ามันจะดับด้วยเหตุนี้
ผมไม่ได้ดูถูกธรรมเสียหน่อย เพียงแต่ลุงเข้าใจผมผิด หรือไม่เข้าใจผมเท่านั้น

ถ้าเราไม่รู้ว่ากำลังหลง เราก็ไม่รู้อะไรว่าจริง
ใช่ ผมเพี้ยน แต่ ข้อไหนผมพูดผิดก็บอกสิครัช

ในทางกลับกัน
ลุงก็ดื้อออยู่ในความคิดเห็นของลุงเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?
หรือไม่จริง?

 

เปล่า ยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุดให้ลุงคิดตาม ผมไม่ได้ใส่อารมณ์อะไรเลย ตอนที่พิมพ์