สงสัยจังว่าเป็นบ้านผีสิงหรือเปล่า

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปีก่อนๆนี่ละค่ะ หลังจากไปงานแต่เพื่อนพี่คนหนึ่งแกสนใจบ้านสองชั้นหลังหนึ่งที่อยู่ในซอยใกล้มหาวิทยาลัย.... ซึ่งเปิดให้เช่าค่ะ จู่ๆเลยถามดีฉันว่าเอ้อน้องบ้านหลังนี้ีมีผีสิงหรอ เลยตอบแกไปว่าไม่นี่พี่แต่ก่อนเคยมีคนมาเช่าอยู่ก็ไม่เห็นมีไรนะ หลังจากนั้นบ้านก็ทิ้งร้างไปก็มี ดร ในมหาวิทยาลัยมาซื้อและปรับปรุงบ้านอยู่บ้างไม่อยู่บ้างค่ะ หลังจากนั้นดิฉันก็เลยเกิดความสงสัยค่ะว่ามันจริงหรือเปล่า แหล่งข้อมูลแรกแม่ค่ะถามแล้วข้อมูลเหมือนกันตามที่รู้มา
แหล่งข้อมูลที่สองพี่สาว ลองถามฉุนแฮะโถ่ไม่เล่าให้ฟังเลยงกชะมัด วันถัดมาเลยรู้ว่าที่พี่และเพื่อนๆไปเยี่ยมอาจารย์คือ ดร คนนี้ เขาว่าแกโดนผีแกล้งแช่งให้ป่วย โดนรังควาญ ต้องใส่บาตรทุกเช้าไม่งั้นโดนดึงขา มิน่าละ แต่นอกจากนี้แล้วแกยังมีปัญหาเกี่ยวกับญาติต้องการสมบัติแก บ้างก็มีคนว่าแกโดนทำคุณไสย์ เจ็บออดๆแอดๆบ่อย นอกจากบ้านที่มีในซอยแล้วเยื้องๆกันก็จะทำหอพักขึ้นอีกค่ะแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะโดนยกเลิกไปก่อน ช่วงที่เกิดปัญหาเยอะดร แกไปดูหมอ หมอดูทักว่า ดร โดนทำของใส่ ใครที่อยู่ซอยนี้เป็นคนมีกรรม อย่างบ้านตรงข้ามต้องทำงานไม่ได้พัก(ก็แหงล่ะ จ-ศ สอน รรในเมือง ส-อ สอนพิเศษ เขาเลือกเอง) อีกบ้านหลังนึงก็มีคนตกงานอยู่จะทำงานต้องไปทำงานไกลบ้าน (เกี่ยวอะไรกะฉันนี่แค่ตกงานนั่งหางานหาที่สอบอยู่บ้านไม่บอกใครรู้ได้ไง) สงสัยกรรมอะไรของคุณหมอดู หมอดูก็ว่าที่บริเวณแถบนี้เป็นอุทยานพระนางนารายณ์เจงเวงเดิม ถ้าไม่ใช่ลูกหลานหรือคนเกิดใน จังหวัดนี้โดยกำเนิดจะอยู่ไม่ได้ หลังจากนั้นมีคนเล่าให้ฟังว่า ดร อัญเชิญพระไว้ชั้นสองและเริ่มสร้างหอพัก แต่ก็ล้มป่วยอีก เพราะผีได้แช่งให้ป่วย เป็นเพราะ ดร แกเอาพระมาไว้ผีเลยออกไปไหนไม่ได้เลยแค้น ดร เลยหาศาลพระภูมิมาให้สองหลังใหญ่บูชาทุกวันพระแต่ผีก็ไม่ยอมมาอยู่ จน ดร เลยซื้อบ้านหลังใหม่หน้าค่าย และย้ายไปอยู่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินข่าวการป่วยของ ดร ค่ะ

แต่ถามญาติที่แกศึกษาเรื่องนี้ดิฉันก็ถามว่าจริงป่าวที่ ดร เจอผีไม่ใช่ศึกชิงมรดก แกดันเล่าว่าผีในบ้านเป็นผีอิสลามเอาไงแน่นี่ ตามประวัติตามตำนานสองพันปีก่อนแถบนี้ขอมเป็นใหญ่หลังจากนั้นล่มสลายต้่อมาอาณาจักรล้านช้างมาครอบครอง และเมืองร้างไปพักนึงตอนศึกเวียงจันทน์ ต่อมาทางกทม ให้เจ้าเมืองจากทางกาฬสินธุ์มาปกครอง ส่วนมากนับถือพุทธและผีค่ะ งง ว่าผีอิสลามมาได้ไงหนอฮ่าๆๆ งง

 

อืมมมมมม...๑.ถ้าถามว่าบ้านหลังนี้มีผีสิงหรือเปล่า..
และถ้าผีในที่นี้หมายถึงนามธรรมต่างๆหรือภพภูมิ..
ทุกๆบ้านก็จะมีเหมือนกันหมดทุกๆที่ครับ.ยิ่งระดับ
ที่อยู่ในอากาศเทียบจำนวนกับคนแล้วมากกว่าหลาย
ร้อยเท่าครับ..ขึ้นอยู่กับว่าจะเห็นหรือเปล่า..
และเค้าก็อยู่เป็นปกติ.จนเราแทบจะนึกว่ามีแต่มนุษย์เท่านั้นบนโลก
๒.ถ้าถามว่าบ้านหลังนี้ผีดุหรือเฮี้ยนหรือไม่..ก็ตอบว่าไม่ครับ..
๓.ถ้าพูดเรื่องกรรม.ไม่มีมนุษย์คนไหนๆบนดาวโลกนี้
.ไม่มีกรรมเป็นของตนเองครับ..
แม้แต่ผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพยังหนีไม่พ้นจะเอาอะไรกลับอย่างเราๆครับ..
๔.การเอาภาพบ้านเช่า.ลงหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับได้อย่างชัดเจนอย่างนี้
ต้องพิจารณาความเหมาะสมด้วยครับ.ควรพิจารณาด้วยครับ
.ยกเว้นว่าเป็นบ้านร้าง.ไม่มีใครอยู่อาศัยมานาน
ไม่ได้เปิดให้เช่าหรืออยู่ในช่วงของการประกาศขาย.
หรือเป็นบ้านปล่อยทิ้งร้างไม่มีการพื้นฟูเพื่อการอยู่อาศัย
หรือบ้านที่เป็นสาธารณะทั่วๆไปที่เคยออกสื่อเพื่อการณ์ใด
การหนึ่ง.แล้วไม่มีผลต่อผู้อยู่อาศัยหรือผู้ครอบครองในทางมิดี
อย่างนี้ไม่เป็นไรครับ.ประเด็นนี้พูดแบบใจเขาใจเราเนาะ.
๕.ผีย่อมคุยกับผีรู้เรื่องครับ..เลี้ยงผีไว้ก็ถามระดับผีเดียวกันได้ครับ..
๖.การเจ็บป่วยของร่างกายอาจมาจากสาเหตุอื่นๆได้
..เช่น การดูแลรักษาสุขภาพส่วนตน
ลักษณะการใช้ชีวิตประจำวัน ลักษณะการกิน สภาพแวดล้อมที่ทำงาน
รวมทั้งที่บ้าน ความเครียด หรืออื่นๆฯลฯ เป็นต้น

๗.การที่นำพระพุทธมาไว้ในบ้าน.การสร้างศาลพระภูมิเป็นการแก้ปัญหาภายนอก.
ถ้างั้นบ้านหลังไหนมีพระพุทธฯ.มีศาลคนในบ้านก็จะโดนผีแกล้ง ผีแช่งหรือครับ
ให้ลองพิจารณาดูด้วยว่า.เรื่องที่ได้ยินมาน่าเชื่อถือหรือเปล่า..
หรือมันมีอะไรแอบแฝงมากกว่านี้.แต่เค้าไม่เล่าให้เราฟัง..
ภพภูมิดีๆหรือคนทั่วๆไป..คิดว่าจะมีผลกระทบอะไรกับการมีพระพุทธไหมครับ
หรือเพราะสาเหตุอะไรแอบแฝงกันแน่ครับ..
๘.คนประเภทไหนครับ..ที่ทำบุญใส่บาตรทุกเช้าแล้วยังโดนดึงขา.หากวันไหน
ไม่ทำแล้วก็โดนดึงอีก.แถมยังโดนผีแช่งครับ..ตกลงที่เค้าป่วยเป็นโน้นเป็นนี้
เพราะผีแช่งหรือครับ..ขนาดใส่บาตรทุกๆวัน.
แล้วเค้าเล่าว่าเป็นผีอิสลาม.ถ้าไม่ใส่บาตรจะโดนดึงขาฟังแล้วมันขัดๆไหมครับ
๙.บ้านหลังนี้คนดีปกติอยู่ได้สบายๆครับ.ภพภูมิแถวนั้นก็อยู่ในระดับที่ใช้ได้
ไม่ได้นิสัยไม่ดีอะไร...ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน..
๑๐.เรื่องผ่านมานานแล้ว..เราก็ฟังหูไว้หู แต่สิ่งที่เราได้ยินได้ฟังมา มันจะค้านๆ
กับความเป็นจริงหรือสิ่งที่เราคิดๆไว้.
หรือขัดๆกับหลักความเป็นจริงได้เองครับ

ประมาณนี้ ครับ.ไม่ต้องให้บอกรายละเอียดหน้าตา
ระดับที่เค้าอยู่แถวนั้นเลย..เอาแค่พออ่านๆเล่นๆแล้วก็ลืมๆ
แล้วก็ทำเป็นไม่สนใจก็พอครับ.และคนส่วนมากครับที่
จะโทษว่าเหตุต่างๆมาจากภายนอกโดย
ที่ลืมมองหรือกล่าวโทษตนเองหรือลืมมองตนเองอย่าง
คาดไม่ถึงหรือไม่เคยมองครับ...
ประมาณนี้หละ...

.

 

ขอบพระคุณค่ะที่มาชี้แนะข้อสงสัยค่ะ ขอบคุณที่เตือนนะคะเพราะเอาแต่สงสัยโพสบ้านซะชัดขนาดนี้เดี๋ยวคนก็เข้าใจว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านผีสิงจริงๆ ขอบพระคุณมากๆค่ะ

 

ตัวเองเคยมีประสบการณ์ที่อยู่ในบ้านมีวิญญาณค่ะ เขาก็อยู่ส่วนเขา เราก็อยู่ของเรา ต่างคนต่างอยู่ บางทีเราก็อาจได้ยินเสียงบ้างอะไรบ้างก็เป็นธรรมดาค่ะ ที่จริงเขาน่าสงสารมากเพราะเป็นแค่นามธรรม มีดวงจิตแต่ไร้กายอาศัย เราเสียอีกมีจิตมีกายดีกว่าพวกเขามากมาย พวกเขายังมีกรรมที่ไม่ได้ไปเกิด ทำไมเราต้องไปรังเกียจเขา วิญญาณบางตนเขาก็ไม่ได้กลัวพระอย่างที่เราเข้าใจกันผิดๆ ว่าผีกลัวพระ พระที่เราคล้องคอก็แค่ให้สบายใจเท่านั้นเอง
มาเล่าสู่กันฟังนะคะ เป็นความเห็นส่วนตัว.. เป็นปัจจัตตังค่ะ

 

จริงค่ะ เวลาจิตตกโดนนั่งทับตัวเราไม่มีวิชาป้องกันแต่อย่างได ท่องบทสวดมนต์ เรียกหาครูบา อาจารย์พระที่เราเคารพมาช่วย กลับตนที่นั่งทับเราโยนพระเลี่ยมทองให้ซะอีก เลยให้วิธีของเพื่อนบอก [เอาอย่างนี้บุญกุศลที่เราทำยกให้หมดเลยจะได้ไปผุดไปเกิดจะไดัหมดเวรหมดกรรมที่มีต่อกัน]

 

ถูกค่ะ.. ผีไม่ได้กลัวพระอย่างที่เราเข้าใจ แต่ที่เขาให้เราสัมผัสได้เพราะแค่ต้องการให้เราส่งบุญไปให้ บางทีเขาก็บอกเราไม่ได้ พูดไม่ได้ น่าอึดอัด เข้าฝันก็ลำบาก ก็เลยทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เราเข้าใจเอง แต่เราก็มักจะเดาเหมาเอาเองว่า เขามาหลอกหลอนซะงั้น ...น่ากลัวจริง เอาข้าวสารเสกโยนใส่บ้าง เอาสายสินล้อมใส่บ้าง อัญเชิญพระเครื่องมาใส่เต็มคอ โธ่หนอ..คิดบ้าง จะบ้าไปใหญ่ ก็แค่วิญญาญอ่ะนะ เราเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐแล้ววางอุเบกขาแล้วจะกลัวอะไรกับผีไร้ตัวตน
ขอโทษนะคะมายืมกระทู้ตอบซะยาว