ลูกเทวดาดื้อรั้นจริงหรือไม่

ลูกเทวดาที่เราไปขอมาเกิดนิสัยดื้อรั้นจริงหรือไม่ แล้วอุปนิสัยลูกเทวดาเก่าที่ติดมาเป็นอย่างไร

 

เลี้ยงง่ายมากๆ ไม่งอแง อ่อนโยน สุขุม อารมณ์ดีมากๆ ค่ะ

แชร์จากประสบการณ์นะค่ะ ดิฉันเป็นคุณแม่ลูก 1 ลูกสาวอายุ 9 ขวบแล้วค่ะ
ตอนที่แต่งงานไปแล้ว รอถึง 3 ปี ก็ไม่มีลูกค่ะ มีลูกยาก วันหนึ่งพี่ชายพาลูกสาววัย 3 เดือนของเขาไปทำพิธียกให้เป็นลูกพระตามความเชื่อ เพราะลูกของพี่ชายเกือบเสียชีวิตหลายครั้ง ตอนนั้นไปทำพิธีกับพระอาจารย์รูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากในภาคเหนือค่ะ เราไปกันทั้งบ้านครอบครัวของพี่ชาย ครอบครัวดิฉัน และพ่อแม่ดิฉันด้วย ระหว่างที่พระอาจารย์รับขวัญหลานน้อย พระอาจารย์ที่นั่งอยู่ด้านหน้าของทุกๆ คน ก็ถามดิฉันขึ้นมาว่าอยากได้ลูกบ้างไหม? ดิฉันตอบรับทันทีเลยค่ะ ว่าอยากได้ แฟนก็อยากได้ พระอาจารย์ท่ายบอกกลับมาว่า พระอาจารย์จะอฐิษฐานให้นะ

ตอนนั้นครอบครัวเราทุกคนก็นั่งสนธนากับพระอาจารย์ไปเรื่อยๆ นะค่ะ ท่านเองก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากสนธนากับครอบครัวดิฉันค่ะ แต่สักพัก ท่านก็แหงนมองไปข้างบนแล้วก็พูดขึ้นว่า โห๋....มากันเต็มไปหมด ทิศนั้นก็มา ทิศนี้ก็มา ... แล้วท่านบอกว่า ท่านได้อฐิษฐานไปยังเทวดาที่สถิตย์เบื้องบน ว่าเทวดาท่านไหนที่มีกรรมดีกับคุณผู้หญิงท่านนี้(ดิฉัน) ได้เคยทำบุญ ทำดีร่วมกันมา และอยากมาเกิด ตอนนี้คุณผู้หญิงท่านนี้(ดิฉัน)พร้อมแล้ว ขอให้มาเกิดกับเธอ(ดิฉัน)ได้....พระอาจารย์ท่านว่าผู้ที่จะมาเกิดเป็นเทวดามา เป็นเทวดาผู้ปฏิบัติดีมาก....ดิฉันรู้สึกดีใจค่ะ แม้จะมองไม่เห็นเหมือนที่ท่านเห็น

หลังจากนั้น 3 อาทิตย์ ดิฉัน แฟน และคุณแม่ต้องเดินทางไปธุระที่ฮ่องกงประมาณ 5 วัน ช่วงนั้น ดิฉันรู้สึกมีความสุข สนุก และอารมณ์ดีค่ะ มันเหมือนสบายใจมากๆ ทั้งที่ไปเรื่องงาน ปกติจะเหนื่อง เครียด ค่ะ....พอกลับมาเมืองไทย พี่สาวที่รู้จักกันโทรมาหาบอกว่าเขาฝันว่าเราท้อง ให้ไปตรวจเดี๋ยวนั้นเลย เพราะเขาไม่เคยพลาดเรื่องฝันแบบนี้ ดฉันซื้อชุดตรวจมาตรวจ ท้อง จริงๆ ค่ะ ..... โอว์ ดีใจมากๆ

ดิฉันแพ้ท้องหนักมากช่วงเดือนที่สองไปจนถึงท้องได้ 5 เดือน.....แต่พแคลอดน้องออกมา เป็นลูกสาว ผิวขาวนวลเนียบปากแดงชมพู น่ารักน่าชังมากค่ะ คุณยายและหมอพยาบาลบอกว่าเสียงร้องของน้อง เพราะมาก น้องร้องไม่หนักเสียงนุ่มๆ กลางๆ ดิฉันผ่าคลอดค่ะ ต้องวางยาสลบจึงไม่ได้ยินเสียงร้องแรกของน้อง ต่อมาก็ยอมรับจริงๆนะค่ะว่าน้องมีเสียงเพราะมากแม้เวลาร้องค่ะ เลี้ยงง่ายมากๆ ไม่งอแง ไม่ร้องรุนแรง อารมณ์ดีมากๆ ค่ะ อ้วนท้วน ขาวชมพูไปทั้งตัว ทานง่าย ถ่ายงาย หัวเราะ ยิ้มแย้ม หลับสบาย ทุกคนต่างบอกว่าดิฉันโชคดีลูกเลี้ยงง่ายมากๆ ค่ะ คงจะทดแทนที่เราแพ้ท้องหนักมากๆ ช่วงเดือนที่ 2 -5 ค่ะ

พอโตมา ก็ไม่ได้ทำอะไรให้เราหนักใจเลยค่ะ อยากได้อะไรถ้าเราไม่ได้ซื้อให้เราจะอธิบายว่า แม่ไม่ได้เอาเงินมามากมายขอให้หนู่ช่วยแม่ ช่วยประหยัดกันนะค่ะ เท่านี้เขาจะเข้าใจเลยค่ะ แล้วก็ตัดใจได้ เขาเข้าใจค่ัะ เป็นเด็กสุภาพ เรียบร้อย อารมณ์ดีค่ะ เขามีความคิดที่ดีงามและน่ารัก เขาจะชอบเอาเสื้อผ้า เครื่องเขียน นม ขนม เก็บมาให้น้องๆ ลูกหลานของแม่บ้าน เขามักคิดถึงคนอื่นเสมอนะค่ะ แม่ ยาย ครู อาจเพราะเขาค่อนข้างสนิดกับคุณยาย เขาไปโรงเรียนเวลามีใครมาแจกขนมเด็กๆ เขาจะเอาไปให้ครูก่อน จะดูแลผู้ใหญ่ค่ะ ดูแลเพื่อนๆ ทั้งครู ทั้งผู้ปกครองเด็กที่เป็นเพื่อนเขาชมกันจนแม่ลอยเลยหละค่ะ เรียนดีค่ะ เวลาตั้งใจทำอะไรจะจริงจังนะค่ะ ร่าเริง อ๋อ เขาชอบอ่านหนังสือมากๆ ค่ะ เข้าห้องสมดประจำ ชอบเล่นเปียโน ชอบร้องเพลง เขาใจเย็นมากๆ สุขุม ค่ะ.....ทั้งแม่ทั้งยาย ภููมิใจมากค่ะ จนตอนนี้มา 9 ขวบแล้ว เขายังเป็นเด็กดี อารมณ์ดี ไม่มีอะไรให้เราหนักใจเลยค่ะ

ส่วนตัวแล้วดิฉันเชื่อว่า เด็กที่เป็นเทวดามาเกิด จะไม่ทำความเดือดร้อนค่ะ .... เด็กบางคนอาจมีดื้อซนไปตามประสา แต่มีจิตใจดีงาม มีความคิดอ่านที่ดีเป็นแกนสำคัญก็ถือว่า เขามาจากที่ๆ ดีงามแล้วหละค่ะ

 

ยินดีด้วยครับ อยากให้เทวดาดีๆลงมาเกิดมากๆครับ ไปได้มาทางภาคเหนือที่จ.อะไรครับช่วยแจ้งให้ทราบที ขอบคุณครับ(k)({)(k)

 

ขอบคุณนะค่ะ ดิฉันไปที่จังหวัดเชียงใหม่ค่ะ :z10

 

สวัสดีครับ มีความเห็นส่วนตัวขอแยกเป็น 2 ประเด็นนะครับ
1. ทางจิตวิทยาและสังคมศาสตร์
ผมเชื่อว่า ศาสตร์ในการทำนายอนาคตอดีตหลายทฤษฎีมักศึกษาเรื่องอดีต จะทำให้เราสามารถพยากรณ์อนาคตได้
เพราะหลายๆ เรื่องมักจะเกิดซ้ำๆ เช่น ทฤษฎีศึกษาอดีต + การฝึกสมาธิที่นอสตราดามุสใช้ หรือทฤษฎีศึกษาอดีต + การคำนวณทางคณิตศาสตร์ของ
Bruce Bueno De Mesquita ใช้พยากรณ์โลก ซึ่งมีความสอดคล้องอย่างมากกับคำพังเพยในอดีตของไทยเราที่ว่า "ดูนางให้ดูแม่" เพราะเด็กหญิงส่วนใหญ่มักจะใกล้ชิดกับแม่ทำให้ได้เรียนรู้ลักษณะนิสัยหลายๆ อย่างจากแม่นั่นเอง และเมื่อเราศึกษาอดีตของพ่อแม่ ครอบครัว คนรอบข้างก็สามารถที่จะพยากรณ์อนาคตของเด็กได้ว่า โตขึ้นจะมีลักษณะนิสัยอย่างไร เป็นต้น

เรื่องนี้จากการศึกษาแบบเด็กๆของผม ทำให้เชื่อว่า ลักษณะนิสัยของผู้ปกครอง ลักษณะทางครอบครัว และสังคมรอบข้างมีผลอย่างมากในพัฒนาการ การเรียนรู้ ลักษณะนิสัย ฯลฯ ของเด็กๆ

ส่วนผมอยู่ในสังคมต่างจังหวัด มีอิสระในการเล่น และซุกซนตามเพื่อนๆ ไปเรื่อยๆ ทำให้ดูเหมือนจะดื้อ(มากๆๆๆ) ในสมัยนั้นเลยล่ะ แต่เมื่อโตขึ้นก็ปรับปรุงตัวเองดีขึ้น เพราะพ่อมักจะพาเข้าวัดตลอดเลยทำให้เราจำเรื่องราวต่างๆ เหล่านั้นได้บ้าง

2. ทางความเชื่อและจิตวิญญาณ
ในฐานะที่ผมก็เป็นคนหนึ่งที่แม่เคยเล่าให้ฟังเมื่อเดือนที่แล้วว่า ขอจากเทวดา(ท่าจะบ๊องมั้ง 5555+) มาเหมือนกัน มีเหตุการณ์ช่วงคลอดคือ สายรกพันคอและรอบตัวเป็นสร้อยสังวาลย์ และแม่ฝันเห็นเทวดามาฝากไว้ รวมทั้งคลอดทางขา (ตอนเด็กๆก็งงอยู่ว่า อยู่ ตจว. ทำไมเวลามีชาวบ้านกินข้าวแล้วก้างปลาติดคอ มักจะมาให้เราเอาเท้าเขี่ยคอลงให้ ก็ได้ผลทุกที) แถมยังได้ชื่อมาด้วย หลวงพ่อบอกว่าต้องใช้ชื่อนี้เท่านั้น...

ผมมองว่าคนไทยส่วนใหญ่เชื่อในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดของดวงจิตที่ยังไม่สิ้นอาสวะ การขอลูกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงมีความเป็นไปได้ในทางความเชื่อ ซึ่งสิ่งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับบุญบารมีของพ่อแม่และลูกที่เกี่ยวเนื่องกันมาในอดีต และวาระของจิตที่จะมาเกิด แต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีพ้นในเรื่องกฎของกรรมไปได้ ลูกที่เกิดมาก็ยังต้องมาใช้กรรม และสร้างบุญบารมีต่อๆ กันไปอีกตามเหตุปัจจัย

ในการเลี้ยงลูก ไม่ว่าลูกเราขอมาหรือไม่ได้ขอ ควรตั้งจิตไว้เสมอว่าลูกเราจะเป็นคนดี เลี้ยงง่าย ฉลาด มีปัญญาดี ฯลฯ เพราะเป็นเหมือนการตั้งสัจจาธิษฐานซึ่งดวงจิตของเด็กหลายๆคน (โดยเฉพาะดวงจิตของเด็กที่มาจากภพภูมิเทวดา) เป็นดวงจิตที่ยังใสสะอาดอยู่จะสามารถรับรู้และสื่อสารระหว่างจิตได้โดยเฉพาะพ่อแม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเติบโตขึ้นเป็นคนดี ตามสัจจาธิษฐานของเราในอนาคตได้ ถึงแม้จะดื้อ และซุกซนตามวัย แต่เราก็ควรแนะนำสั่งสอนด้วยเหตุ และผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้เป็นตัวอย่าง เพราะเด็กเหล่านี้หลายๆ คน ดวงจิตมักจะมี Logic ในเรื่องของเหตุและผลเป็นพิเศษ ลองเอาข้อมูลไปพิจารณาและศึกษาเพิ่มเติมดูนะครับ อาจพอมีประโยชน์เล็กน้อยได้บ้าง