เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

​

 

ครับ นัดกับท่านนวลพันธ์ เอาไว้ เจอกันครึ่งทาง พระที่จะนำไปมอบจำนวนประมาณ 3,000 องค์ ท่านฌานธรรม อย่าตกใจนะครับ ว่าทำไม เกิน จำนวน 10,000 องค์ เพราะส่วนเกิน ข้าพเจ้าและครอบครัว ขอเป็นเจ้าภาพ อาจจะเกินไปบ้างประมาณ 1,000- 2,000 องค์ หรือ ประมาณ 6,000 บาท อย่าตกใจ บางครั้ง ก็ขี้เกียจนับ ประมาณ เอา อย่างท่านนวลพันธ์ ก็ประมาณ 3,000 องค์ ต้องให้ท่านนวลพัน ช่วยนับอีกครั้ง ว่าเท่าไหร่ จะได้บันทึกเอาไว้
ขอบพระคุณ อย่างสูง ท่าน พี เสาวภา ช่วยเหลือ ค่าเดินทาง จำนวน ๓,๐๐๐ บาท เป็นค่าน้ำมัน ไอ้เรื่องตั้งใจทำแล้ว มาเลิกกลางทาง ขอบอกว่า ชาติหน้า ตอนบ่าย ๆ ถึงอย่างไร ก็ต้องถึงเป้าหมาย และความสำเร็จ มาดูกัน

 

​

ดูจากสีฟิมพ์ เป็นภาพสียุคต้น น่าจะประมาณปี 2520 ต้นๆครับ

 

ช่วยกันมาตั้งแต่ แพโบถส์น้ำ และช่วยกันไปตลอดครับ

การทำบุญ ถ้าทำแล้วเครียด บุญได้ไม่เต็ม ทำบุญต้องสบายๆ ใจฟูๆ มากันเป็นหมู่ มีกำลังก็ทำ ไม่มีก็รอ หรือ เลิก ไม่เบียดเบียนคนอื่นและ ตัวเอง มีเงินก็ทำต่อ ...แค่นั้นกับชีวิตครับ สัจจะที่เกิดยังเป็นสัจจะอยู่เสมอ เพราะเราทำบุญ เป็นบุญวัตถุ เป็นอามิสวัตถุ ไม่ใช่ บุญ จากการขยับ เลื่อนสภาวะของจิต เพราะถ้าเครียด ไม่มีทางขยับจิตได้

แต่ถ้าเป็นเรื่องทำจิต ( เนกขัมมะ บารมี ) ตั้งสัจจะไว้ว่า จิตจะไปแนวนี้ ตามเวลานี้ ตามข้อกำหนดนี้ อันนี้ต้องทำ ทำแบบว่า ถ้าไม่ได้ก็ตายไป เอาชีวิตเดิมพัน บุญกิริยานี้ จำเป็นสำหรับการหลุดพ้น พระโพธิสัตว์ ทุกพระองค์ ทำแบบนี้ทั้งสิ้น

อามิสบูชาแค่เป็นตัวช่วย เมื่อเป็นแค่ตัวช่วย ต้องช่วยให้สบาย ถ้าเครียดเมื่อไหร่ ไม่ใช่ตัวช่วยของจิต ไม่ใช่ทางบุญ เป็นการเอาอามิสมาเป็นตัวถ่วง เสียมากกว่า

สำหรับการประมูลผมเคยบอกไว้ก่อนหน้า อนาคต มันเปลี่ยนกันได้ ถ้าหมดความนิยมก็เลิกกัน ทุกอย่างมีเกิด มีดับ ถึงจะเลิก หรือ ไม่เลิก ผมก็ยังทำบุญของผมต่อไปครับ ไม่คิดจะเลิกแต่อย่างไร เพื่อนฝูงพวกฟ้องที่มี ก็ยังชักชวนกันทำตามปกติ

ที่เขียนนี้ มิได้สอนใคร แต่ สอนตัวเอง และเอาเผื่อแผ่ พี่น้องบ้านเหรียญบินตามสมควร

 

พ.ศ. ๒๕๒๐ ตอนนั้นท่านก็ชันษา ห้าสิบ ปลายๆ ถ้าหลวงปู่เล็ก ท่านเน้นสงเคราะห์ คนด้านคาถาอาคม เครื่องรางของขลัง จะเป็นพระเกจิวิเศษชัยชาญ ที่ดังที่สุดในยุค ...เบอร์หนึ่งแน่นอน..กล้า ฟันธงเลยล่ะ

แต่ท่านเลือก มาทางพระวินัย จิตภาวนา มหาสติ และ ความหลุดพ้น เราถึงได้มากราบพระดีๆ ถือว่าเป็นบุญอันหาได้ยากยิ่ง

กราบ ๆ ๆ

หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ ด้วยความเคารพอย่างสูง

 

เรื่องที่พี่พีกล่าวมานี้ผมไม่มีความสงสัยในใจเลยแม้แต่น้อยครับ เห็นด้วยกับพี่พีทุกประการ ถ้าคนทั่วไปได้รับทราบว่าหลวงปู่ท่าน บารมีมาก และคนพบเจอ อะไรกับหลวงปู่ท่านมาบ้าง แบบคนท้องที่ทำนบเอง และที่ผมได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ จะทั้งเกรง และทั้งกลัว และสุดท่้าย คือความเคารพศรัทธาในบารมีของหลวงปู่ท่านอย่างมากครับ

 

ตัวจริงเสียงจริงเป็นแบบนี้แหละครับ ....ที่โฆษณา โม้ซ่ะมากกว่า

 

​

ถนนพระราม ๒ จากดอนหอยหลอด ข้ามสะพานไปประมาณ ๖ กม.ซ้ายมือปั้ม ปตท.เข้าไปทางคลองโคน ๒๐ กม. ผ่านไปแถวนั้นอย่างลืมไปกราบ ไปไหว้ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และทหารเสือคู่พระทัย ๔ ท่าน

ศักดิ์สิทธิ์มาก บนอะไรได้อย่างนั่้น ชาวบ้านมาแก้บนกันทุกวัน ส่วนมากแล้วเป็นคนจากต่างจังหวัดที่มาแก้บน มีทั้งจากภาคเหนือ อีสาน และภาคใต้ วัดในกลาง แห่งนี้เป็นที่อาศัยของพระมารดาในสมัยอยุธยา ก่อนกรุงแตก ได้อพยพมาทางเรือ ทางปากอ่าวไทย หลบซ่อนในเขตป่าโกงกาง จากพวกพม่า แถวนั้นจึงมีพระสมัยอยุธยา จำนวนมาก ถูกปล้นไปก็มาก แต่ก็ยังมีเหลืออยู่ให้เห็น

พระเจ้าตากสินมหาราช ได้สร้างศาลาการเปรียญ เอาไว้ ๑ หลังให้พระมารดา สวยงาม กรมศิลปากร ได้ลงทะเบียนเอาไว้แล้ว เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้เห็นความสำคัญ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณของพระเจ้าตากสิน และทหารเสือทั้ง ๔ ท่าน จึงได้สร้างวิหาร
เพื่อบูชา กราบไหว้

ผ่านไปแถวนั้น ก็อย่าลืมแวะไปกราบเอาฤกษ์ เอาชัย นะครับ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ ๙๐ กม.เท่านั้น

 

พระประธานองค์นี้ สวยงามมาก เป็นพระพุทธรูป สมัยอยุธยา ขนมาทางเรือก่อนกรุงศรีอยุธยาจะแตก ขนมาจำนวนมาก บางองค์ล้่ำยุค ล่ำสมัยมาก
กล่าว คือ เป็นพระพุทธรูปโลหะ สร้างเป็น ชิ้น ๆ สามารถถอดออกมาเป็นชิ้น ๆ แล้วนำมาประกอบเป็นองค์พระได้ ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อถอด ​

 

ทหารเสือพระเจ้าตากสินมหาราช ท่านที่ ๑ ตั้งใจเอาไว้ว่าจะนำพระไปถวายจำนวน ๑,๐๐๐ องค์ ร่วมทำบุญทุกอย่างอุทิศ ส่วนบุญ ส่วนกุศลให้กับทหารกล้า ทั้งหลาย ​

 

ทหารเสือพระเจ้าตากสินมหาราช ท่านที่ ๒​

 

ทหารเสือพระเจ้าตากสินมหาราช ท่านที่ ๓ ท่านพระยาพิชัยดาบหัก
ก่อนสร้างพระหลวงปู่ทวด ก็ได้ไปบวงสรวงบอกกล่าว เจตนาในการสร้างพระใหท่านทราบที่่ จ.อุตรดิตถ์ ในที่สุด ก็ได้มาพบกับท่านอีก ที่ จ.เพชรบุรี ​

 

ทหารเสือพระเจ้าตากสินมหาราช ท่านที่ ๔ ท่านหลวงพรหมเสนา ​

 

ต้องไปกราบแน่นอน

ตามประวัติ สมเด็จพระเจ้าตากสิน ท่านเป็นดองกับต้นตระกูล โรจนวิภาต ตระกูลหนึ่ง ( มีหลายตระกูล ) ต้นตระกูลนี้ที่ยังสืบทราบขึ้นไปได้ คือ ท่านเป็น ตำแหน่ง พระยาราชวังเมือง ในยุคกรุงแตก ทำหน้าที่ดูแลช้างศึก และ ช้างใช้งาน และ สิ้นชีพในหน้าที่ ในคราวกรุงแตก

ท่านมีลูก คือ นายปราบไตรภพ ( โชติ ) ถูกจับไปคราวกรุงแตก แต่ความที่มีเชื้อสายมอญและ พูดภาษามอญได้ นายกองที่คุมนักโทษเป็นมอญ ( ในคราวกรุงแตก พม่าเกณฑ์ พลมาหลาย เผ่า มาถล่มกรุงศรีอยุธยาให้ สิ้น ไปจากโลกนี้ ไม่ให้เป็นเสี้ยนหนาม แต่บรรพบุรุษเรา ดี และ เก่ง กลับมาเจริญกว่ามันซ่ะอีก )

นายกองมอญเลยปล่อยตัวนายปราบไตรภพโชติ กลับมา เพราะเห็นว่าเป็นมอญเหมือนกัน มอญไม่ชอบพม่า แต่ถูกบังคับมา จำใจมารบ นายปราบไตรภพ ท่านมี มีบุตรและ หลานอีกสองชั้น คือ ท่านฉิม ท่านฉิมมีบุตร คือ หลวงพลสงคราม ( รุ่ง โรจนวิภาต )

หลวงพลสงคราม ( รุ่ง ) มาได้แต่งงานกับ คุณพุ่ม อินทรกำแหง ณ ราชสีมา ซึ่งเป็นบุตร เจ้าพระยาราชสีมา ( ทองอินทร์ ) และ หม่อม บุนนาค สิงหเสนี

ท่าน เจ้าพระยา ราชสีมา ท่านนี้สำคัญมาก เพราะ ประสูติมา จาก ท่านหญิง ยวน หรือ จวน ซึ่งเป็นพระภริยา ลับของ สมเด็จพระเจ้าตากสิน ( ว่าตามเอกสาร ) เป็นบุตรี ของท่านเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช

ท่านหลวงพลสงคราม ( รุ่ง ) เป็นพี่น้องกับ ท่านหลวงบุรินทรักษา ( เรือง )

ท่านหลวงบุรินทรักษา ( เรือง ) ได้มีบุตร คือท่าน หลวงพิจารณาคดีราษฎร์ (สมบุญ )

ท่านหลวงพิจารณาคดีราษฎร์ ( สมบุญ ) ได้มีบุตรคือ พระชัยปริญญา ( เชื้อ พันธุ์สมบุญ )

พระชัยปริญญา ( เชื้อ พันธุ์สมบุญ ) คือ คุณตาผมนี่เอง

( ตามเอกสาร ที่รวบรวมโดย สกุลโรจนวิภาต )

ตกลง ว่าตามสายเลือด ต้นตระกูลผมก็รบพม่ามาจนกรุงแตกและ ท่าน ทวดของทวดของทวด ตายในคราวพม่าบุก เรียกว่าตายในหน้าที่ และ บุตรที่รอดได้รับใช้ ราชบัลลังค์ พระเจ้าตากสิน และ เป็นดองกัน และ รับราชการ รับใช้ ราชบัลลังค์ธนบุรี และ จักรีวงศ์ต่อมาตั้งแต่ต้นพระราชตระกูล จักรีวงศ์

อ่านแล้วจะงงน่ะครับ เอาว่า บรรพบุรุษของผม ท่านปน มอญ ปนจีน มา แต่ ได้ สละชีพเพื่อ ประเทศชาติมาตั้งแต่ต้นตระกูลยุคกรุงแตก

ส่วนประวัติก่อนกรุงแตก ว่าเป็นบุตรใคร สายใด มันเนิ่นนานมาก พม่ามหาโจร สันดานโจร เผาหลักฐานเสียสิ้น เลยสืบไม่ได้ มาจากสายใด แต่ก็น่าจะรับราชการ ในยุคกรุงศรีอยุธยามา เรื่อย และ เป็นคน อยุธยา กรุงเก่าโดยสายเลือด และติดตาม รับใช้ สมเด็จพระเจ้าตากสิน และ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มาที่กรุงธนบุรี จนมาถึงกรุงรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน

อันนี้จารย์ช้างนำรูป สมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราช มาลง นับถือท่านอยู่ภายใน เพราะเห็นคุณงามความดีของท่านที่มีต่อแผ่นดิน เลยเล่าให้ฟัง ไม่อยากยุ่งเรื่องการเมืองเพราะปวดกระโหลก แต่การที่มีคนอ้างว่าเป็น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกลับมาเกิดในยุคนี้ อ่านแล้วอึ้ง

คนที่เป็นลูก เป็นหลานท่านยังมี และมีหลักฐานอ้างอิงด้วย ไม่ได้ ฝันเอา ลูก หลาน เหลน โหลน เขามาฟังแล้วจะหมั่นใส้ กับคนที่อ้างว่าเป็นพระเจ้าตากสินมา มาเกิดใหม่ มันจะมากและเกินมนุษย์ไปหน่อย ที่ระลึกชาติได้

ของสูงของเคารพ เอาไว้ที่สูงน่ะดีแล้วน่ะ พ่อคุณ พ่อมหาจำเริญ...แหะๆ

เอาแค่นี้แหละครับ อดไม่ได้

 

ด้วยความยินดี


หลวงพ่อทวด ท่านไปอยู่กรุงศรีอยุธยามาตั้งแต่ก่อนกรุงแตก หลายร้อยปี มีความเกี่ยวข้องกัน เอาไปถวาย จะได้บุญ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงตาเล็ก วัดใหม่ฯ ค่ะ​

 

พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ แพโบสถ์น้ำหลวงตาเล็ก วัดใหม่ฯ​

 

​

ก่อนการถวาย พระศรีวิไล หรือพระศรีอาริย์-หลวงปู่ทวด และปัจจัย ข้าพเจ้าจุดธูปเทียน บวงสรวงบอกกล่าวพระดังนี้ ตั้งนะโม ๓ จบ

พุทธัง อาราธนานัง ธรรมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีพระที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในจักรวาล อนันตจักวาล พระศรีอาริยะเมตไตรย สมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระัองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย พระพรหมทุกชั้นฟ้า เทพเทวดาทุกชั้นฟ้า ตลอดจนครูบา อาจารย์ของข้าพเจ้าทั้งหลายสืบทอดต่อกันมา จนถึงหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ หลวงพ่อฤาษีลิงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน

ขอจงได้เสด็จมาร่วมรับรู้ ร่วมโมทนา ร่วมเป็นเจ้าภาพ ร่วมถวาย ร่วมรับ ร่วมได้รับประโยชน์ความสุขในบุญกุศลที่ข้าพเจ้า ได้ถวายปัจจัยรักษาสงฆ์อาพาต และถวายพระหลวงปู่ทวด จำนวน ๕๐๐ องค์ ให้กับวัด

ขออานิสงส์ ผลบุญในครั้งนี้ข้าพเจ้าขอเจาะจงให้กับพระพรหมเจ้าที่ พระภูมิเจ้าที่ เจ่าที่ เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้่งหลาย ดวงวิญญาณทั้งหลาย ที่สถิตย์อยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ ดวงวิญญาณของอดีตเจ้าอาวาสทุก ๆ ท่าน ดวงวิญญาณของผู้ได้สร้างวัดแห่งนี้ ขึ้นมา และดวงวิญญาณของผู้ที่เคยมา สร้างบุญ สร้างกุศล ณ สถานที่แห่งนี้

ขอจงได้ร่วมรับรู้ร่วมโมทนา ร่วมเป็นเจ้าภาพ ได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับเทอญ "อิทธิ ฤทธิ พุทธ นิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดช เดชะ จงมาเป็นที่พึ่ง แก่ มะ อะ อุ นี้ด้วยเถิด "

หลังจากนั้นแล้วจึงได้ถวายอย่างตั้งใจ เพราะพระใหญ่จะมา่ร่วมถวาย และร่วมรับ บุญกุศลจะเกิดขึ้นทันที โมทนา สาธุการ ร่วมกัน

 

การบวงสรวงบอกกล่าว

​

ก่อนการถวาย พระศรีวิไล หรือพระศรีอาริย์-หลวงปู่ทวด และปัจจัย ข้าพเจ้าจุดธูปเทียน บวงสรวงบอกกล่าวพระดังนี้ ตั้งนะโม ๓ จบ

พุทธัง อาราธนานัง ธรรมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีพระที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในจักรวาล อนันตจักวาล พระศรีอาริยะเมตไตรย สมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระัองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย พระพรหมทุกชั้นฟ้า เทพเทวดาทุกชั้นฟ้า ตลอดจนครูบา อาจารย์ของข้าพเจ้าทั้งหลายสืบทอดต่อกันมา จนถึงหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ หลวงพ่อฤาษีลิงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน

ขอจงได้เสด็จมาร่วมรับรู้ ร่วมโมทนา ร่วมเป็นเจ้าภาพ ร่วมถวาย ร่วมรับ ร่วมได้รับประโยชน์ความสุขในบุญกุศลที่ข้าพเจ้า ได้ถวายปัจจัยรักษาสงฆ์อาพาต และถวายพระหลวงปู่ทวด จำนวน ๕๐๐ องค์ ให้กับวัด

ขออานิสงส์ ผลบุญในครั้งนี้ข้าพเจ้าขอเจาะจงให้กับพระพรหมเจ้าที่ พระภูมิเจ้าที่ เจ่าที่ เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้่งหลาย ดวงวิญญาณทั้งหลาย ที่สถิตย์อยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ ดวงวิญญาณของอดีตเจ้าอาวาสทุก ๆ ท่าน ดวงวิญญาณของผู้ได้สร้างวัดแห่งนี้ ขึ้นมา และดวงวิญญาณของผู้ที่เคยมา สร้างบุญ สร้างกุศล ณ สถานที่แห่งนี้

ขอจงได้ร่วมรับรู้ร่วมโมทนา ร่วมเป็นเจ้าภาพ ได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับเทอญ "อิทธิ ฤทธิ พุทธ นิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดช เดชะ จงมาเป็นที่พึ่ง แก่ มะ อะ อุ นี้ด้วยเถิด "

หลังจากนั้นแล้วจึงได้ถวายอย่างตั้งใจ เพราะพระใหญ่จะมา่ร่วมถวาย และร่วมรับ บุญกุศลจะเกิดขึ้นทันที โมทนา สาธุการ ร่วมกัน
​

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ
อย่าลืมกรวดน้ำหรือนึกถึงกุศลของการใส่บาตรกันนะครับ