ผีเทศน์ในงานศพ โดย หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ชนะ สิริไพโรจน์, 15 มีนาคม 2014.

  1. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    ผีเทศน์ในงานศพ
    โดย หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

    ที่จังหวัดสมุทรสาครกับอำเภอบ้านแพ้ว อาตมากับเพื่อน
    อีกสององค์ไปเทศน์ เขานิมนต์เทศน์สองวัน วันแรกไม่ทราบว่า
    จะเทศน์เรื่องอะไรดีเพราะเขาไม่กำหนดเรื่องเทศน์ให้ ...
    ก็ต้องหาเรื่องเทศน์กันเอาเอง เลยเทศน์เรื่อง ตายแล้วไปไหน
    ก็พูดกันเรื่องทำบุญทำบาป ทำบุญตายแล้วไปสู่สุขติ
    ทำบาปตายแล้วไปสู่ทุคติ ว่ากันอย่างย่อๆนะ

    ตานี้พอลงมายายซิ้มคนหนึ่งแกถือพานดอกไม้ธูปเทียนมาส่งให้
    พอส่งให้อาตมาก็รับ แกก็ถามว่าเตี่ยของดิฉันน่ะ ตายไปแล้ว
    เวลานี้อยู่ที่ไหนเจ้าค่ะ โดนดีเข้าแล้วสมัยเมื่อเป็นฆราวาส
    พระเทศน์แบบนี้ชอบถามพระ ไอ้กรรมของตัวเองมันสนอง
    ตัวเองเข้าแล้ว แกถามเข้าแบบนั้นก็คิดว่า ความจริงถ้าจะบอก
    ก็บอกได้ ไม่ยาก พอบอกยายซิ้มคนนั้นแกจะไปติดตามสอบสวนได้ยังไง
    ถามเรื่องผีนี่โกหกได้ไม่ยาก ก็เลยคิดว่าเราไม่ควรจะตอบเอง
    ส่งให้พระที่เป็นหัวหน้า เวลานี้ยังมีชีวิตอยู่ แล้วเขาเป็นพระสังฆาธิการ
    ไม่บอกชื่อล่ะ ถ้าขื่นบอกชื่อประเดี๋ยวชาวบ้านจะไปกวนเขา เขาปิดๆ
    เขาปกปิดความจริงอยู่เพราะว่าชาวบ้านนี่ไม่ค่อยได้ความจริงจากเขา
    มักจะไปขอหวยบ้าง

    จะเห็นเขาอย่างนั้นอย่างนี้ เขาก็บ่นๆถ้าไปบอกความจริงเรื่องนี้เข้า
    ประเดี๋ยวจะไปหาเขาดูผีที่ตาย เขาจะกลุ้ม เขาจะรำคาญ ไม่บอก
    เวลานี้เป็นพระสังฆาธิการอยู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอไหนไม่บอก
    ก็เลยให้พระองค์นั้นเป็นหัวหน้า ความจริงบวชพรรษาเดียวกัน เขาได้กสิณตั้งแต่เป็นเณร
    เลยย้ายไป บอกโน้น ไปถวายองค์โน้น ไปประเคนองค์โน้น
    โยมก็ย้ายไปประเคน ไอ้เจ้านั่นหันมาค้อน บอกเฮ้ย แกเป็น
    หัวหน้านี่หว่า แกก็ต้องบอกเขาสิ เรื่องอะไรมันเป็นเรื่องของ
    หัวหน้าที่จะต้องบอก ถ้าปัญหามันเกิดขึ้น เขาก็ไม่เถียง
    เขาคว้าดอกไม้มาได้เขาก็บอกยายซิ้ม ว่าขอเข้าห้องสมุด
    สักสามนาที แล้วก็ลุกเข้าไปในห้องสมุด ประมาณไม่ถึง
    สามนาทีดีเขาก็ออกมา เขาก็ถามโยมเตี่ยของโยม เมื่อจะตาย
    ก่อนจะตายมีกำลังกายดี เป็นคนใหญ่โตมีเสียงดังแข็งแรงใช่ไหม
    ยายซิ้มก็บอกว่าใช่ บอกว่าเวลาที่โยมทำศพเตี่ยน่ะหมดไปประมาณ
    สามหมื่นบาทเศษๆ ใช่ไหม ยายซิ้มก็บอกว่าใช่

    เขาก็เลยบอกว่า ถ้าสามอย่างนี้ถูก ก็เป็น อันว่าเตี่ยของโยม
    เวลานี้ไม่มีความสุข เพราะว่าไม่มีผลจากการบำเพ็ญกุศลที่โยมทำไปเลย
    ยายซิ้มร้องไห้ ถามว่าทำไม แกเลยบอกว่าผีมาบอก
    แกบอกว่าการทำบุญของลูกนี่ไม่มีผลสำหรับผู้ตายเพราะว่า
    เวลาทำน่ะ มุ่งปรารภคนเป็นสำคัญ ไม่ได้มุ่งปรารภผีเพราะว่า
    เวลาทำนี่ไม่ได้แสดงคารวะ ในสิ่งที่เป็นบุญ ไม่ได้ตั้งใจทำบุญจริงๆ
    ห่วงแขกเหรื่อเสียมาก แล้วเวลาทำบุญก็เลี้ยงเหล้ายา
    ปลาปิ้งกันเต็มที่สิ่งที่เป็นบาปเยอะกว่าสิ่งที่เป็นบุญเวลาพระให้ศีล
    ลูกก็ไม่มีโอกาสที่จะสมาทานศีลโดยเคารพ เพราะห่วงแขกผู้มา
    เวลาถวายทาน ก็ไม่มีการตั้งใจโดยเคารพ เวลาฟังเทศน์
    ก็ไม่ได้ตั้งใจฟังเทศน์โดยเคารพ เวลาทำบุญลูกจึงไม่มีบุญ

    เวลาที่บุญหลั่งไหลเข้ามาน่ะ ลูกไม่ได้รับ มีอุปมาคล้ายๆกับ
    ฝนตกแต่เราไม่ได้รอง เอาตุ่มเอาถังไปรองในขณะที่ฝนหายแล้ว
    ไม่เกิดประโยชน์หรือว่าเวลาฝนตกคิดว่าฝนจะหลั่งไหลเข้ามา
    เต็มช่องเต็มตุ่ม แต่เมื่อตุ่มไม่ได้รองรับอยู่ภายใน ฝนก็ไม่เข้า
    ไปขังในตุ่มฉันใดเวลาที่ลูกทำบุญก็เหมือนกัน

    เวลาพระมาสวดก็ไม่มีเวลาตั้งใจฟังพระสวดโดยเคารพ
    เวลาพระให้ศีลก็ไม่ได้สมาทานศีลโดยเคารพ
    จะฟังพระเทศน์ก็ไม่ได้มีโอกาสฟังโดยเคารพเพราะอะไร
    ห่วงแขก แขกที่มาน่ะ เป็นแขกใหญ่ เรียกว่าเป็นคนหน้าใหญ่
    ความจริงน่ะหน้ามันไม่ได้ใหญ่นะ เท่าเดิม ใจใหญ่เลยไม่ได้บุญ
    แกก็เลยร้องเรียนมาบอกว่าเวลานี้น่ะ มีความหนาวมาก
    ได้รับทุกขเวทนามาก หิวโหยมาก

    ยายซิ้มก็ถามว่าเวลานี้เตี่ยอยู่สวรรค์หรือนรก พระองค์นั้น
    ก็บอกว่าไม่ได้ไปนรกหรอกแต่ก็อยู่เฉียดนรก แต่พอมีโอกาส
    จะได้รับโมทนาส่วนบุญได้ ยายซิ้มแกก็หายจากอาการร้องไห้
    แล้วถามว่า จะทำบุญอะไรจึงจะถึงเตี่ย ท่านผู้นั้นก็บอกว่า
    ตามที่ผีบอกมานะ แกบอกให้จัดของถวายสังฆทานธรรมดาๆ
    มีผ้าไตร หนึ่งไตร พระพุทธรูปหน้าตักไม่น้อยกว่า ห้านิ้ว
    โตกว่านั้นได้ เล็กกว่านั้นไม่ได้ แล้วก็อุทิศส่วนกุศล
    ไม่ให้ว่ายาวๆตามที่เขาสอน ให้ว่าเป็นภาษาของตัวเอง
    จะว่าเป็นภาษาเจ๊กหรือภาษาไทยก็ได้

    ว่าตรงๆ ว่าผลที่ข้าพเจ้า ได้ทำแล้วในคราวนี้ คือ หนึ่ง ในการ
    มีการบูชาพระรัตนตรัยก็ดี สมาทานศีลโดยเคารพก็ดี ถวายทาน
    กับบรรดาพระสงฆ์ ในพระพุทธศาสนาก็ดี ถวายผ้าไตรจีวร
    กับสงฆ์ในพระพุทธศาสนาก็ดี ถวายพระพุทธรูปไว้สำหรับสงฆ์
    ในพระพุทธศาสนาก็ดี บุญทั้งหลายเหล่านี้จะพึงมีแก่แก่ข้าพเจ้า
    เพียงใด ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เตี่ยของข้าพเจ้า
    ชื่อนั้น ชื่ออะไรจำไม่ได้ ขอให้มาอนุโมทนาและได้รับผลบุญ
    คือประโยชน์และความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ
    ณ กาลบัดนี้

    นี่ท่านผู้นั้นบอกว่าผีเขาสอนมาอย่างนี้ ขอให้ว่าเท่านี้
    แกก็ขอให้จด ท่านก็จดให้ แล้วต่อจากนั้นแกก็กลับไป
    พอรุ่งขึ้นเช้า แกก็จัดของทุกอย่างตามที่พระองค์นั้นบอก
    มาถวายสังฆทานรีบทำ รีบนำมาถวายสังฆทานตอนนี้
    พอเวลาเทศน์จบก็เอาอีกนั่นแหละ เอาดอกไม้ธูปเทียนมา
    เอาดอกไม้ธูปเทียนมาถามว่าเวลานี้เตี่ยสบายหรือไม่สบาย
    ท่านองค์นั้นก็มองหน้า ความจริงเขามีฤทธิ์นะ ความจริงเขา
    มีฤทธิ์อยู่นิดนึง ไม่มากหรอก ไม่ใช่ว่าฤทธิ์มาก ฤทธิ์เล็ก
    ไม่ใช่ฤทธิ์ใหญ่ เขาก็มองไปมองมามองหาคน

    บอกประเดี๋ยวซิโยม จะทำอะไรให้ดู แต่ว่าพระองค์นี้อย่าไป
    หาตัวเขานะ เขาไม่รับแขก ใครได้ยินได้ฟังแล้ว จะมาเกณฑ์
    ให้อาตมาพาไปหาเขาไม่เอานะ ประเดี๋ยวเขาจะด่าเอา
    เวลานี้เขากำลังฟิตตัวใหญ่ เขาบอกว่าเขาดับไฟยังไม่หมด
    เขาจะพยายามดับไฟให้หมดไป อย่าไปยุ่งกับเรื่องของชาวบ้าน
    เขาไม่เอา เขาเกรงว่าเขาจะตายก่อนที่เขาจะดับไฟหมด
    นั่นเรื่องของเขา ปล่อยเขาไป เราอยากจะดีเราก็ทำตามเขา

    แกมองไปมองมา มองมามองไป ปรากฏว่ามีหญิงแก่ๆ
    นั่งอยู่ท้ายศาลา ล้มตึงลงไป นั่งอยู่ก็ล้ม ไม่ใช่ยืนล้ม
    พอล้มลงไปแล้วก็ลุกขึ้นมา วิ่งเข้ามาที่หน้ายายซิ้ม
    ประกาศว่าเป็นเตี่ยยายซิ้ม แล้วก็เรียกยายซิ้มเรียกชื่อถูก
    บอกเรื่องราวในบ้านทั้งหมดถูก บอกว่าทองเตี่ยเก็บไว้ตรงนั้น
    ตรงนี้ เอ็งค้นไม่พบยังมีอยู่ ก็ปรากฏว่ายายซิ้มกลับไปก็ค้นพบ
    แล้วก็เงินที่เขากู้ไปน่ะ ยังมีอยู่ มีชื่อคนนั้นคนนี้ให้ไปดูสัญญา
    หนังสือสัญญายังมีอยู่

    เป็นอันว่าเรื่องราวนี้ตรงตามความเป็นจริงทั้งหมด ในขณะที่
    พูดอยู่ก็บอกให้ยายซิ้มเชื่อว่า ตัวแกเป็นเตี่ยแน่ เพราะชี้เหตุ
    ชี้ผลตั้งแต่ยายซิ้มยังเป็นเด็กๆ จนถึงเป็นสาว แต่งงานกับใคร
    มีใครมารักบ้าง คนรักคนแรกไม่ได้แต่งงานกัน เพราะขณะแค่เพียง
    มาสู่ขอกันคนรักก็ตาย ยายซิ้มก็ร้องไห้เสียเกือบตาย ต่อมา
    ก็แต่งงานกับเพื่อนของคนรัก เพราะว่าเจ้าเพื่อนคนนี้มากับคนรัก
    ของยายซิ้มเสมอ เรียกว่าเพื่อนเจ้าบ่าวก็แล้วกัน เพื่อนผู้รักษาการณ์
    ในตำแหน่งเจ้าบ่าว แต่ยังไม่เป็นเจ้าบ่าว มากันอยู่เสมอในที่สุดก็แต่งงานกัน
    ความเป็นมายังไงๆ แกก็เล่าละเอียดอยู่พักหนึ่ง ยายซิ้มก็เชื่อ
    ก้มลงกราบว่าคนนี้เป็นเตี่ยแน่
    <O:p</O:p

    ในที่สุดคนในศาลาฟังเทศน์ยังไม่ทันกลับ คนประมาณสัก หนึ่งพันคน
    ก็มานั่งล้อม ก็เลยบอกให้ผีคนนั้นที่มาเข้าคนแก่ ให้คนแก่ที่ผีเข้านั่งเก้าอี้
    แล้วก็เอาไมโครโฟน เครื่องขยายเสียงเข้าไปตั้งใกล้ๆ ผู้คนจะได้ยินถนัด
    แกก็ประกาศการบำเพ็ญกุศล บอกว่าเป็นบุญ แต่ว่าบุญคราวนี้มีอานิสงส์มาก
    คือถวายสังฆทาน ทำเงียบๆ แล้วเวลาถวายสังฆทานยายซิ้มก็ไม่ได้ทุบไข่
    แม้แต่ลูกเดียว แล้วสิ่งที่เป็นบาปยายซิ้มไม่ได้ทำเลย ทำมาแบบชนิดที่
    เป็นบุญจริงๆ ไม่เลี้ยงเหล้ายาปลาปิ้ง แล้วแกก็ประกาศผลบุญที่ยายซิ้ม
    ให้คราวนี้มีผลสมบูรณ์

    ขณะนี้แกเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลก แล้วก็เป็นเทวดา
    มีวิมานทองคำเป็นที่อยู่ แกประกาศของแกเองนะ มีนางฟ้าหนึ่งพัน
    เป็นบริวาร แล้วแกก็ประกาศต่อไปว่า การทำบุญของเจ้าภาพในวันนี้
    ก็เหมือนกัน ความจริงก็นิมนต์พระมาถูกแล้ว การทำบุญทุกอย่างก็ถูกหมด
    ตรงตามความเป็นบุญ แต่ว่าผลของบุญน้อยไป แกก็ชี้ไปในห้องสมุด
    แกบอกว่าในห้องสมุดด้านม่านกั้นอยู่น่ะ มีเหล้าอยู่หลายลัง
    เหล้านี้เป็นบาป แกว่ายังงั้น สุราว่าเหล้านี้มันเป็นบาป ไม่ควรจะมี
    ในเวลาทำบุญ การทำบุญไม่ควรจะปรารภพวก เวลาทำบุญควรจะทำบุญ
    เวลาจะปรารภเพื่อนเลี้ยงเพื่อน ก็เลี้ยงเพื่อนต่างหาก ควรจะแยกกัน
    เป็นคนละเวลา ทำบุญให้เป็นความดีให้เสร็จสิ้นไปก่อน ต่อไปค่อยทำชั่วทีหลัง

    เป็นอันว่าวันนั้นผีเทศน์อยู่พักใหญ่ บังเอิญจริงๆคนที่เป็นเจ้าภาพวันนั้น
    ก็เป็นหลานของแก เขาทำศพแม่เขา รู้สึกว่าเป็นคนมีสตางค์มาก แต่ว่างาน
    วันนั้นก็วันจบเกม เป็นงานบำเพ็ญกุศลจบเกม เจ้าภาพก็มาหาผี ถามว่า
    การทำบุญวันนี้แม่ได้อะไรบ้าง แกก็บอกให้ฟังว่า แม่ไปนั่งร้องไห้อยู่
    แม่น่ะนั่งร้องไห้อยู่ขอบวัด ว่าการทำบุญวันนี้จะมีประโยขน์อะไรแก่ตนบ้าง
    แต่ว่าการทำบุญวันนี้สิ้นเงิน สิ้นทองไปตั้งหลายหมื่น ไม่ได้มีประโยชน์อะไร
    กับผีที่ตายเลย

    เป็นอันว่า ขอให้ทำใหม่ ทำแบบยายซิ้มนี่ เจ้าภาพก็รับคำ พอเสร็จจากพีธีกรรมนั้นแล้ว
    เขาเผาเสร็จ วันรุ่งขึ้นปรากฏว่า มีการถวายสังฆทานอีกครั้งหนึ่ง
    เป็นอันว่าพระเทศน์สามเตื้อ เทศน์ให้เขาฟังไม่มีผล แต่ว่าที่เทศน์มีผลอย่างยิ่ง
    คือผีที่ตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนแก่ที่ผีอาศัยนั่นแหละ ทำประโยชน์ให้แก่พุทธบริษัทมาก

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่านเพื่อเป็นธรรมทาน

    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com

    ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญ เว็บศูนย์พุทธศรัทธา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2014
  2. daowdeaw

    daowdeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    537
    ค่าพลัง:
    +1,558
    กราบอนุโมทนา สาธุ
    หลวงพ่อท่านเทศน์สอนไว้ดีจริง ๆ
    ทำบุญตายแล้วไปสู่สุขติ
    ทำบาปตายแล้วไปสู่ทุคติ
    หากสร้างบุญไว้มากแล้วตายไปเป็นผี
    จะได้มาเทศน์สอนให้มนุษย์ที่ไม่ชอบทำดีได้รับฟังบ้าง
     
  3. kunchan

    kunchan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2011
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +163
    กราบหลวงพ่อเเละขออนุโมทนาสาธุบุญเป็นอย่างสูงด้วยคนครับ.
     
  4. kittijit

    kittijit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +928
    กราบหลวงพ่อ เป็นที่สุด
     
  5. j-adirek

    j-adirek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +204
    สาธุครับ การสั่งสมบุญนำสุขมาให้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...