ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

บารมี สมเด็จเจ้า ๔







​

 

กราบ สมเด็จหลวงพ่อทวด







​

หลวงปู่ทวด หลังหนังสือวัดช้างให้ พิมพ์เล็บมือ ปี 2508​

​

 

***สวัสดีครับ อ.จงอาง คุณนวล เสี่ยล้าง ภัทร. และ ทุกๆท่าน ครับ
รวย รวย รวย
08 พิมพ์นี้ งามครับ ท่าน***

 

บารมี สมเด็จเจ้า ๑



​

 

บารมี สมเด็จเจ้า ๒



​

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ

สวัสดียามเที่ยงค่ะ....

เรื่องเล่าเมื่อวันเสาร์....ฟังเป็นเรื่องเล่านะคะ...


เดินทางไปร่วมทำบุญ และร่วมพิธีเททองหลวงพ่อทวดที่สวนประวัติศาสตร์....สงขลา

ทั้งๆ ที่ตื่นตั้งแต่ 6.00 น.กว่าจะได้ออกจากบ้าน 8.30 น.แล้ว เพราะมัวแต่ทำโน่นทำนี่กว่าจะได้ออกจากบ้าน....ขับไปได้ไม่กี่กิโล เห็นน้ำมันเหลือน้อย ก็แวะเต็มน้ำมัน....
ดูตามกำหนดการ แล้วพิธีก็จะเริ่มในเวลา 9.00 น. นึกว่าจะทันไม่นะ....ขับรถไปก็อธิษฐาน สวดคาถาหลวงพ่อทวด ว่าให้ไปทันพิธี......ไปถึงสวนประวัติศาสตร์9.05 น.

ประธานในพิธียังไม่มาแต่ มีตำรวจจราจร เต็มไปหมด.....หาที่จอดรถได้ ก็เิดินไปยัง
เต็นพิธีที่จัดไว้ (วันนั้นแต่งตัวไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ค่ะ ก็เลยไม่ได้เดินไปเก็บภาพที่ตรงพิธี)

เห็นโต๊ะรับบริจาค และโต๊ะให้ร่วมทำบุญ ก็ตั้งใจจะไปร่วมบุญ แต่สายตากับไปเห็น
ให้จองพระหลวงพ่อทวด..... ทั้งๆ ที่ไม่ได้นำเงินติดตัวไปมากนัก แต่เพราะกิเลส ซึ่งในใจเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่า พอแล้ว เพราะบูชาไปก็คงจะเก็บท่านไว้บนหิ้งพระ....
เคยบอกกับตัวเองว่าจะไม่บูชาพระเหรียญอีกเพราะเต็มบ้านหมดแล้ว ที่บ้านก็สองห้องที่เก็บพระ (เป็นของตัวเองคนเดียว จนคนที่บ้านบอกว่า จะเนรเทศให้ไปอยู่ห้องใดห้องห้องหนึ่งที่เก็บพระไว้....พร้อมทั้งพูดเหน็บแนมนิดๆ เชิงหยอก ) เด็กๆที่บ้านก็ร่วมลงเรือลำเดียวกับผู้ใหญ่ที่บ้าน ว่า ของคุณหญิง อย่าล้นมาห้องพวกหนูนะ ).....

* นึกถึงภาพพระที่บ้าน แต่ใจก็ยังไม่พอค่ะ ทีแรกว่าจะร่วมทำบุญเล็กน้อย ....
แต่เห็นเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ของหลวงพ่อทวด ก็อยากบูชาเก็บพระของหลวงปู่ไว้ สักองค์ 2 องค์ พอเจ้าหน้าที่บอกว่า สามารถรูดบัตรได้นะคะ....คราวนี้ค่ะอย่างละองค์ 2สององค์.....เจ้าหน้าที่คิดไปคิดมา [Embarrass สี่พันกว่าบาทค่ะ.....

เมื่อบูชาและบริจาคร่วมทำบุญเสร็จก็ไปนั่งร่วมพิธีในเต็นค่ะ สักครู่ ประธาน ท่านองคมนตรีก็มาถึงพิธี....และได้ทำพิธีเททองหลวงพ่อทวด ....พระเกจิ หลายรูปที่มาร่วมพิธีประจำที่ ซึ่งก็นั่งมองในระยะไกล พิธีก็ดำเนิน ไปตามกำหนดการ....

*จำได้ว่า พระท่านยังไม่ได้กรวดน้ำ คนในเต็นส์ก็ลงมือตัดสายสินจ์ ที่โยงจากตรงที่พิธีมาที่เต็นกันแล้ว.....ก็นั่งมอง.... ได้รับมาส่วนหนึ่งเหมือนกันค่ะ.....จากที่เขาตัดกันตกมาเส้นยาวทั้งเส้น....

ช่วงกรวดน้ำเสร็จ พระสงฆ์พรมน้ำมนต์เสร็จ.....คนก็เริ่มมาเข้าแถวรับของมงคลซึ่งจะแจกเมื่อเสร็จพิธี....นั่งอยู่ใกล้กับที่เขามอบวัตถุมงคลหลังเสร็จพิธี ก็เดินไปเข้าแถวรับด้วยค่ะ

เป็นสายสินจ์ซึ่งนำมาแจกให้กับผู้มาร่วมพิธี

*จากนั้นก็เดินไปที่เต็นส์ แขกผู้มีเกียรติ ก็ได้ถ่ายภาพตรงนั้นมาบางส่วน....
และขอถ่ายภาพกับท่านวิษณุ เครืองาม ค่ะ เพราะเคยได้อ่านประวัติของท่านเกี่ยวกับ
ที่ท่าน มีประสบการณ์เรื่องของหลวงพ่อทวด....



งานบรรยายพิเศษหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด จังหวัดสงขลา

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม ประธานกรรมการ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติบรรยายพิเศษในหัวข้อเรื่อง"สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ (หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด) จังหวัดสงขลา เมื่อวันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2556 โดยมูลนิธิสวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ร่วมกับชาวจังหวัดสงขลา เล็งเห็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันเป็นที่เคารพบูชาของคนไทยทั้งประเทศ จึงได้จัดสร้าง "โครงการเรียนรู้สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ (หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด)จังหวัดสงขลา" ณ สวนประวัติศาสตร์ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ โดย

มีวัตถุประสงค์
1.เพื่อเป็นแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์และเกียรติคุณหลวงพ่อทวด พระมหาเถระผู้มีชาติกำเนิดที่เมืองสงขลาเมื่อ 400 ปีก่อน
2.เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลแสดงวัฒนธรรมและเส้นทางธรรมของคาบสมุทรสทิงพระ
3.เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมของชุมชนเมืองแถบลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
4.เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิชาการที่สำคัญของจังหวัดสงขลา

ที่มา..
http://xn--22cja5co5b8bgld8ae4a1f7q.com/index.php/home

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ
สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ (หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด)

เล่าเรื่องฝันค่ะ

เหมือนได้อยู่ในพิธีปลุกเสกพระ ของหลวงพ่อทวด ขณะที่เดินอยู่ภายในพิธีเห็นมีพระสงฆ์หลายรูป มีคนใส่ชุดขาว งานที่จัดขึ้นนั้นเป็นงานกุศล เห็นพราหมณ์ทำพิธี และเมื่อพิธีเสร็จ ก็ได้พบกับพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง ท่านเองก็สวมชุดขาวหันมายิ้มทักทาย และได้คุยกัน และพวกเราก็ได้พูดคุยเรื่องหลวงพ่อทวด ซึ่งเราก็ต่างเคารพและศรัทธาหลวงพ่อทวดเหมือนกัน คุยกันสักพักใหญ่

พี่ผู้หญิงคนนี้ก็ถามว่าแล้วน้องจะไปที่ไหนต่อ ตอนนั้นบอกพี่เขาไปว่าเดี่ยวจะไปอีกสถานที่หนึ่งซึ่งยังไม่เคยไปเลย และจะนำผ้ายันต์และวัตถุมงคลไปให้กับพี่ผู้ชายอีกคน (ผ้ายันต์ที่จะเอาไปให้พี่ผู้ชายคนนั้น ก็คือผ้ายันต์ที่จัดสร้างขึ้นมาผืนแรก) ได้เล่าให้พี่ผู้หญิงคนนั้นฟัง ถึงเหตุที่ได้จัดสร้างผ้ายันต์ ของหลวงปู่ทวดผืนแรกขึ้น
แล้วพี่ผู้หญิงคนนี้ก็พูดว่า น้องพี่อยากได้ไว้สักผืน แปลกมากค่ะ ในตอนนั้นก็เลยตอบพี่เขาไปว่า ได้เดี่ยวที่เตรียมให้พี่ผู้ชาย ให้พี่ผู้หญิงคนนี้ไปก่อน พี่เขาก็เดินตามไปที่รถ เมื่อไปถึงรถก็หยิบผ้ายันต์ผืนนั้น จำได้ว่ามีลูกแก้วมีภาพหลวงปู่ทวดและสติกเกอร์ด้วย พี่ผู้หญิงท่านนั้นดีใจมาก

และบอกกลับมาว่า น้องชอบดูดวงไหม พี่มีคนที่รู้จักเดี่ยวจะพาไป น้องตั้งจิตอธิษฐานสิ แล้วจะได้เจอ

 

ถามเขาไปว่า
ไกลไหมพี่ เขาจะพาไป ถามพี่ผู้หญิงคนนั้นว่าแล้วพี่ไม่มีธุระอะไรที่ไหนหรือ พี่เขาก็บอกไม่เป็นไร ถึงมีธุระแต่จะพาไปได้

เราก็ขับรถไปกับพี่ผู้หญิงคนนั้น

ระหว่างที่นั่งรถ ก็ได้เล่าเรื่องเรื่องหนึ่งให้พี่ผู้หญิงคนนั้นฟังว่า
ผ้ายันต์ที่มอบให้เขา เราไม่ได้ออกแบบเอง แต่ได้อธิษฐานขอหลวงพ่อทวด
ไม่นานก็มีคนนำมายันต์ของหลวงพ่อทวดมาให้ถอดแบบ

ในฝัน เล่าให้พี่ผู้หญิงคนนี้ฟังว่า
เรารู้สึกแย่มาก เพราะเคยมอบผ้ายันต์ไปให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเขาคิดไม่ดี
เขาว่า ผ้ายันต์ที่เราทำขึ้น (ซึ่งเป็นผ้ายันต์หลวงพ่อทวดที่เราเคารพรักและศรัทธาท่าน คนนั้นเขาบอกว่าผ้ายันต์หลวงปู่มีมนต์ดำ ซึ่งเรากับผู้หญิงคนนั้น เลิกคบหากันไปนานแล้ว เพราะจิตเขาสกปรก เขาคิดไม่ดี เรายังโกรธเขาอยู่และไม่ให้อภัย และไม่อโหสิกรรมในสิ่งที่เขา พูดลบหลู่ และการกระทำที่ปรามาสพระท่าน )

พี่ผู้หญิงคนนั้นฟัง ก็บอกว่า เลิกคบไปเลยคนแบบนี้

เมื่อขับรถมาได้สักพัก พี่เขาก็บอกว่าให้เลี้ยวซ้ายข้างหน้า มันเป็นซอยแคบมาก
รถวิ่งได้ทางเดียว แล้วเขาก็บอกว่าให้จอดแล้วเดินไป
แต่ก็ดันทุรังขับเข้าไปจนเกือบสุดซอย เพราะอยากลองขับเข้าไป ทั้งๆที่ไม่เคยมา ขับผ่านมาบ้านหลังหนึ่งเห็นรถมอเตอร์ไซด์จอดอยู่หน้าบ้านหลายคัน
พี่ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่าบ้านหลังนี้แหละที่จะพามา
ขับผ่านบ้านหลังนั้นเพื่อไปกลับรถข้างหน้า เจ้าของบ้านนั้นก็บอกว่าตรงนี้กลับรถไม่ได้ เดี่ยวพื้นหน้าบ้านจะทรุด

ก็เลยต้องถอยหลัง สักพักบ้านหลังที่พี่เขาพาไปก็เปิดประตูให้ ก็เลยได้ถอยหลังรถเข้าบ้านหลังนั้น

มีคนออกมารับ และพูดว่าโชคดีนะที่มาถึงที่นี่ได้

เมื่อเดินเข้าไปสิ่งแรกที่เห็น คือรูปปั้นท้าวมหาพรมองค์ใหญ่อยู่หน้าบ้าน
เดินเข้าไปเห็น สามเณรนั่งอยู่ 1 องค์ ภายในบ้านนี้มีวัตถุมงคลมากมาย
เห็นคนภายในบ้านหลังนี้หลายคน เหมือนกับมาดูหมอ

มีผู้หญิงเป็นประธานนั่งอยู่บนเก้าอี้

 

พี่ผู้หญิงที่พามาให้เราเขียนวันเดือนปีเกิดไว้ และยื่นซองให้ใส่เงินทำบุญ

เราก็นั่งรอ และมองไปที่ผู้หญิงที่เป็นประธานนั่งอยู่ด้านหน้า

ดูใบหน้าของท่านอิ่มบุญมากสักครู่ท่านก็ยกมือขึ้นไปข้างหน้าด้านที่มีวัตถุมงคลตั้งไว้
แล้วท่านก็พูดเป็นภาษาจีน ร่ายรำ ความรู้สึกที่เห็นเหมือนองค์พระแม่กวนอิม
และท่านก็มาให้พรคนที่อยู่ข้างหน้าซึ่งนั่งรออยู่ พูดคุยกัน

เมื่อท่านคุยเสร็จ แล้วท่านก็เอ่ยว่ามีใครอยากขอพรท่านบ้าง
ก็เลยเข้าไปหาท่าน ท่านก็ยิ้ม ก็เลยบอกว่ามาขอพรท่าน
จำได้ว่าบอกกลับพระแม่กวนอิมไปว่า อยากปักภาพท่านแต่ไม่มีเวลาเลย
จะมาขอพรจากท่านให้ได้ทำภาพของท่านให้เสร็จ ท่านก็ยิ้ม และให้ยกมือ
แบบมือทั้งสองข้าง แล้วท่านก็เอาผงสีขาวมาเขียนให้ในมือ

และบอกว่า ต่อไปเจ้าจะทำสำเร็จและปักได้สวยงาม
ตอนนั้นรู้สึกดีใจมาก ว่าจะได้ทำภาพของท่านได้เสร็จ

สักพักท่านก็บอกว่าถึงเวลาแล้ว ที่ท่านต้องไป

 

สักพัก ก็มีผู้หญิง มาบอกให้เข้าไปพร้อมทั้งมีดอกไม้ธูปเทียนให้

ก็เลยเข้าไปนั่งตรงผู้หญิงที่เป็นประธาน ท่านก็ถามว่าวันนี้มาทำไม
อยากเจอใคร อธิษฐานนะ ตั้งจิตให้ดี รู้ใช่ไหมว่าอยากเจอใคร

เราก็หลับตา ตั้งนโม สามจบ และต่อด้วยคาถาหลวงพ่อทวด
หากมีบุญกุศลที่ลูกเคยทำไว้ทุกภพทุกชาติ ขอบารมีหลวงพ่อทวด
ลูกขอเบิกบุญให้ได้พบกับหลวงพ่อทวดด้วยเถอะ

อธิษฐานเสร็จพอลืมตา ก็เห็นผู้คนนั้นท่านนั่งหลังงอลง
และพูดใต้ว่า อธิษฐานแล้ว ก็ได้พบ

ท่านพูดว่า ให้หมั่นสวดมนต์นั่งสมาธิบ่อยๆ
จะได้มีครูบาอาจารย์ปกปักรักษา
และบอกว่าไปขอพรที่กรมหลวงชุมพรใช่ไหม
เราพยักหน้า ท่านบอกว่าท่านกรมหลวงชุมพรท่านรับแล้วนะ

ท่านบอกท่านดีใจที่มีคนเคารพศรัทธา
ให้ตั้งมั่นอยู่ในกุศล สร้างกุศล ถึงจะล้มลุกคลุกคลาน
ก็ให้บำเพ็ญเพียร ให้ดี ใจคนอื่นไม่รู้

อย่าไปโกรธเขา ให้ดวงจิตของเราสว่าง
เวลาช่วยใครก็ช่วยสุดๆ เต็มร้อยมีก็ให้หมด
ท่านโปรดคนสร้างบุญ
มารต่างๆมันมี เวลาเราสร้างบุญ บางครั้งก็เจอมาก
บางครั้งก็เจอน้อย บางครั้งก็มาด้วยวาจาทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ
ต้องอยู่ด้วยเหตุผล ใช้ปัญญา

เหตุผลต่างกัน พิจารณาคน ว่าคนนี้เป็นแบบไหน ไม่เหมือนกัน
กี่ชาติบุญกรรมไม่เหมือนกัน ขอให้ได้เจอคนดีมีศีลธรรม
บุญเก่าบุญใหม่ เป็นทรัพย์ภายในตัว
อย่าไปโกรธ ให้อโหสิกรรม

"ฟังคำนี้ น้ำตามันร่วง"ค่ะ เพราะผูกใจเจ็บ

ท่านพูดถึงบัว 4 เหล่า
บัวบาน
เคียงคู่ดอกบัวบาน
พ้นน้ำไม่พ้นน้ำ
อยู่ในโคน พวกนี้หนัก

เดินในสายบุญ จิตใจต้องนิ่ง ต้องคิดแต่สิ่งดี
เมื่อตั้งใจทำบุญ ท่านก็จะส่งให้

ท่านพูดถึงปางสำเร็จ
(หมายถึง ท่าที่ท่านนั่งในเรือแล้วเอาท้าวจุ่มน้ำทะเล)
ได้ทำให้เป็นน้ำจืด ได้ช่วยเหลือคน

และบอกว่าให้มีเหตุผล
การให้อภัยทาน ทุกข์ต้องมีเหตุผล
ให้ใจเราเป็นใหญ่

จากนั้นเราก็เข้าไปกราบท่าน
และขอพรว่าอยากได้ยันต์จากหลวงปู่
ท่านก็ถามว่าเอาไปทำไม
หากตอบได้ท่านจะมอบให้

ก็ตอบท่านไปว่า ให้เป็นเกราะป้องกันตัว
และนำไปสร้างบุญกุศล เผยแพร่ธรรมะของหลวงปู่
ท่านก็บอกว่า ได้ท่านให้แต่ให้เฉพาะคน

แล้วท่านก็ให้ท่องนโมพุทธายะ 3 ครั้ง
ท่านก็เอาดอกบัว เขียนที่หน้าผากให้
เมื่อกำหนดจิตมอง เป็นอักษรคล้ายตัวนะ

รู้สึกปิติมากค่ะ

 

ตำนาน พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ (นะ โม พุท ธา ยะ)




ในสมัย ต้นปฐมกัป มีพญากาเผือกสองตัวผัวเมีย ทำรังอยู่ที่ต้นมะเดื่อริมฝั่งแม่น้ำคงคาอันเป็นธรรมชาติสถาน รื่นรมย์

ในเวลาต่อมาต่อมา พระโพธิสัตว์ ได้ทรงปฏิสนธิเกิดในครรภ์แม่พญากาเผือก พร้อมกันถึง ๕ พระองค์ เมื่อครบทศมาส แม่กาเผือกก็ออกไข่ ณ ที่รังต้นมะเดื่อ จำนวน ๕ ฟอง (สถานที่นี้ในกาลต่อมาเรียกว่า วัดพระเกิด) และคอยเฝ้า ดูแลรักษาไข่ด้วยความทะนุถนอมเป็นอย่างดี อยู่ มาวันหนึ่งพญากาเผือกออกไปหากินถิ่นแดนไกลไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งอันสมบูรณ์ ด้วยธรรมชาติ แม่กาเผือกเพลินหากินอาหาร ชื่นชมกับธรรมชาติจนมืดค่ำ เกิดลมพายุใหญ่พัดกระหน่ำมืดครึ้มทั่วไปหมด ทำให้หาหนทางออก ไม่ถูก จึงหลงอยู่ในบริเวณสถานที่นั้น (สถานที่นั้นในกาลต่อมาเรียกว่า เวียงกาหลง) แม่กาเผือกได้อยู่ที่เวียงกาหลง คืนหนึ่ง จนเช้าจึงรีบถลาบินกลับที่พัก แต่ปรากฏว่ากิ่งไม้มะเดื่อที่ทำรังอยู่ถูกลมพายุใหญ่พัดหักล้มลงไปในแม่น้ำ แม่กาเผือกตกใจรีบบินถลาหาลูกที่ยังอยู่ในไข่ แต่หาเท่าไรก็ไม่พบ ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ในที่สุดก็สิ้นใจตายอย่างน่าสงสาร

แต่ด้วยอานิสงส์ที่มีความเมตตารักลูกอันบริสุทธิ์กับทั้งที่ลูกของแม่กา เผือกเป็นพระโพธิสัตว์ถึง ๕ พระองค์ จึงเป็นกุศลหนุนส่งให้แม่กาเผือกไปจุติยังแดนพรหมโลกชั้นสุทธาวาส ได้พระนามว่า “ฆติกามหาพรหม” จักได้เป็นผู้ถวาย อัฏฐะบริขาร บวชแก่ลูกทั้ง ๕ พระองค์ เมื่อจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนไข่ทั้ง ๕ ถูกลมพัดตกน้ำไหลไปในสถานที่ต่าง ๆ ไข่ฟองที่ ๑ แม่ไก่เก็บไปดูแลรักษา ไข่ฟองที่ ๒ แม่นาคราชเก็บไปดูแลรักษา ไข่ฟองที่ ๓ แม่เต่า เก็บไปดูแลรักษา ไข่ฟองที่ ๔ แม่โคเก็บไปดูแลรักษา ไข่ฟองที่ ๕ แม่ราชสีห์เก็บไปดูแลรักษา

ครั้นในกาลเวลาต่อมา พระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ ก็ประสูติออกจากไข่ ปรากฏเป็นมนุษย์บุรุษรูปงานทั้ง ๕ พระองค์ และเจริญเติบโตอยู่กับแม่เลี้ยงด้วยความกตัญญู รู้จักหน้าที่ ทดแทนบุญคุณจนถึงอายุได้ ๑๒ ปี ด้วยบุญกุศลเก่าหนุนส่งก็มีจิตคิดที่จะออกบวชบำเพ็ญเนกขัมมะบารมี เป็นฤาษีอยู่ในป่า จึงได้อำลาแม่เลี้ยงของตนเหมือนกันทั้ง ๕ พระองค์ ฝ่ายแม่เลี้ยงก็ไม่ขัดความประสงค์ อนุญาตให้ลูกไปบวช บำเพ็ญบารมีอยู่ในป่าด้วยความอนุโมทนา

แม่ เลี้ยงทั้ง ๕ เป็นปณิธานที่มุ่งมั่น จะบำเพ็ญบารมีพระโพธิญาณ เพื่อเป็นพระพุทธเจ้าโปรดสัตว์โลกให้พ้นจากกองทุกข์ในวัฏฏะสงสาร จึงฝากนามของแม่เลี้ยงไว้กับลูกเพื่อเป็นอนุสรณ์ตำนานไว้แก่โลกต่อไปในภาค หน้า เมื่อลูกได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าโปรดโลกแล้วตามลำดับพระนามดังต่อไปนี้

องค์ที่ ๑ มีพระนามว่า พระกกุสันโธ เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นไก่

องค์ที่ ๒ มีพระนามว่า พระโกนาคมโน เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นนาค

องค์ที่ ๓ มีพระนามว่า พระกัสสโป เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นเต่า

องค์ที่ ๔ มีพระนามว่า พระโคตโม เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นโค

องค์ที่ ๕ มีพระนามว่า พระศรีอาริยเมตไตรโย เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นราชสีห์

ในกัปนี้ชื่อว่า ภัททกัปเป็นกัปที่เจริญที่สุดเพราะมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกนี้ถึง ๕ พระองค์ จึงเป็นที่มาของ คำว่า “นโมพุทธายะ”
นะ คือ พระกกุสันโธ
โม คือ พระโกนาคมโน
พุท คือ พระกัสสโป
ธา คือ พระโคตโม
ยะ คือ พระศรีอาริยเมตไตรโย จนเป็นคาถาที่ใช้สืบต่อกันมา ฝ่าย พระโพธิสัตว์ ทั้ง ๕ เมื่อออกบวชเป็นฤาษีก็ได้บำเพ็ญเพียรพระกัมมัฏฐานจนสำเร็จญาณอภิญญาสมาบัติ อยู่มาวันหนึ่งได้เหาะมาหาอาหารผลไม้ และบำเพ็ญเพียรธรรมที่ป่าดอยสิงกุตตระ ณ ใต้ต้นนิโครธ อันร่มเย็นด้วยกิ่งไม้สาขาใหญ่ ฤาษีทั้ง ๕ ได้มาพบกัน ณ ที่นี้โดยไม่ได้นัดหมาย จึงสอบถามถึงความเป็นมาของกันและกันจนรู้ว่าแต่ละองค์ก็มีแต่แม่เลี้ยง ฤาษีทั้ง ๕ จึงร่วมกันตั้งสัจจะอธิษฐานขอให้ได้พบแม่บังเกิดเกล้า ด้วยอำนาจสัจจะอธิษฐานธรรมอันบริสุทธิ์ดังก้องไปถึงพรหมโลก ท้าวฆติกามหาพรหม ซึ่งเดิมคือ แม่กาเผือก ทราบเหตุการณ์ทั้งหมดจึงจำแลงเพศเป็นรูปเดิม ขนขาวสวยงาม มาปรากฏตัวอยู่ข้างหน้าของฤาษีทั้ง ๕ เมื่อลูกฤาษีได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด ก็รู้สึกสลดสังเวชใจและสำนึกบุญคุณอันใหญ่หลวงของแม่กาเผือก จึงน้อมนมัสการผู้เป็นแม่ กราบขอสัญลักษณ์อนุสรณ์ผู้บังเกิดเกล้าไว้บูชา ได้มาเป็นผ้าฝ้ายเป็นตีนกาสัญลักษณ์ของแม่กาเผือกให้แก่ลูกฤาษีทั้ง ๕ ไว้ใช้เป็นไส้ประทีปจุดบูชาทุกวันพระ และต่อมาได้กลายเป็นประเพณีจุดประทีปตีนกาบูชาแม่กาเผือก ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ลอยกระทง เป็นตำนานสืบไว้ตลอดกาลนาน

ฤาษี โพธิสัตว์ทั้ง ๕ ต่างพากันตั้งหน้าบำเพ็ญเพียรรักษาศีลธรรมภาวนามิได้ขาดจนดับขันธ์ ได้ไปจุติบนเทวโลกชั้นดุสิตพิภพ และในกาลต่อมาก็วนเวียนบำเพ็ญเพียรบารมีทุกภพชาติที่กำเนิดเกิดในสงสารวัฏ นี้ จนบารมีเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ทั้ง 30 ทัศแล้ว ก็ ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ฆติกามหาพรหมผู้เป็นแม่ต้นกัปโลกา ก็จะนำเอาบริขาร คือ บาตรไตรจีวร มาถวายลูกโพธิสัตว์ทั้ง ๕ พระองค์ในชาติสุดท้ายที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้าโปรดโลกทุกพระองค์

กาลเวลาอันยาวนานผ่านไปจนถึงปัจจุบัน พระโพธิสัตว์ลูกแม่กาเผือก ก็ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าโปรดโลกไปแล้วถึง ๔ พระองค์ ตามลำดับดังนี้
พระกกุสันโธสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๔ หมื่นปี มีเขมวตีนนครของพระเจ้าเขมะเป็นราชธานี
พระโกนาคมโนสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๓ หมื่นปี มีโสภวตีนนครของพระเจ้าโสภะเป็นราชธานี
พระกัสสโปสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๒ หมื่นปี มีพาราณสีนครของพระเจ้ากิงกิเป็นราชธานี
พระโคตโมสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๘๐ ปี มีกบิลพัสดุ์นครของพระพุทธเจ้าสุทโธทนะเป็นราชธาน
ส่วน พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๕ อันเป็นลูกองค์สุดท้ายของแม่กาเผือก คือ พระศรีอริยเมตไตรย์ จักเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ ในภัททกัป จะมีอายุถึง ๘ หมื่นปี

ที่มาขอบคุณบทความจาก : PaLungJit.com
ตำนาน พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ (นะ โม พุท ธา ยะ) : ตำนานโลก

ตำนาน พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ (นะ โม พุท ธา ยะ)

 

กราบ สมเด็จหลวงพ่อทวด



​

 

บารมี สมเด็จ ๑



​

 

***องค์นี้ ขอจองครับ ท่าน อ.จงอาง***

 

หลวงปู่ทวด พิมพ์เตารีด หลังลายเซ็น ญสส.87 พรรษา สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2543 ครับ (เนื้อไม่แน่ใจบอกเป็น นวะแก่เงิน)ชี้แนะด้วยครับ

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ

เมื่อวานหลังเลิกงาน เจอเด็กผู้หญิงคนหนึ่งค่ะ
มาบอกบุญทอดผ้าป่า น่ารักมากค่ะ
ก็ร่วมทำบุญไปกับน้อง



(น้องแขวนพระหลายองค์)
อนุโมทนาบุญกับน้องด้วยค่ะ

 

พระหลวงพ่อทวดค่ะ

 

บารมี สมเด็จ ๒





​

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ

หลวงพ่อทวดเม็ดแตงวัดช้างให้ปี 2522

 

เหรียญหลวงพ่อทวด
เหรียญเม็ดแตงปี 37 } 39
เหรียญรศ. 200
เหรียญสามอาจารย์
เหรียญพระตำหนักปากพนัง