ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ขณะนี้เวลา สี่ทุ่มครึ่ง ผมไม่บอกว่าอยู่ที่ไหนละกัน แต่ท้องฟ้าตอนนี้เป็นสีม่วงแดง (ม่วงเปลือกมังคุดอะ) น่าจะมีเมฆบางๆไม่มาก เพราะเห็นดาวด้วย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเปลวเพลิงสีม่วงที่อยู่ในแสงพระอาทิตย์หรือเปล่านะครับ เพราะตอนนี้ขั้นตอนของแสงสว่างกำลังเกิดสิ่งนี้นะครับ

    Crystalline Solar Light หรือ Purple Flame ลองอ่านข้อความจากท่านนี้ดูนะครับ
    Divine Alchemy - We Are Becoming 5th-Dimensional Crystalline Solar Light Beings > Era of Peace

    พอดีผมไม่ได้แปลมานะ ช่วงนี้ง่วงนอนเร็วอะครับ เวลาหายใจเข้าให้รู้สึกถึงอนูธาตุในร่างกายดูนะครับ ช่วงนี้จะรู้สึกได้ง่ายนะ
     
  2. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ผู้แปล : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อความแปลข้างล่าง

    บางส่วนจากข้อความ Divine Alchemy - We Are Becoming 5th-Dimensional Crystalline Solar Light Beings

    การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้สัมผัสถึงพลังงานพระเจ้าได้มากขึ้น - เราทั้งหลายกำลังกลายเป็นรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างโดยเกิดจากการเพิ่มเข้ามาของพลังงานแสงอาทิตย์แห่งคริสตัลไลน์

    a message from Patricia Diane Cota-Robles ,Sunday, 2 February, 2014 (posted 27 February, 2014)

    (ผู้แปล : ผมขอแปลแบบย่อๆละกันนะครับ)

    ขั้นตอนที่กำลังเกิดขึ้นของแสงสว่างตอนนี้คือการยกระดับเราทั้งหลายไปสู่โลกยุคใหม่ ซึ่งมีความถี่ต่างๆที่อยู่บนพื้นฐานของคริสตอลไลน์ในแบบมิติที่ 5. ซึ่งคริสตอลไลน์ที่ว่านี้ก็คือทุ่งสนามพลังงานที่ส่งมาจากพระอาทิตย์ซึ่งเป็นส่วนของเปลวไฟที่เป็นสีม่วง (Purple Flame) และโลกยังได้รับพลังงานจากอารยธรรมอื่นๆในกาแล๊กซี่นี้ที่ส่งมาเพื่อช่วยยกระดับให้กับดาวเคราะห์โลกอีกด้วย. มันคือช่วงเวลาที่ทุกคนควรใส่ใจกับลมหายใจเข้าออกของตัวเอง เพราะตอนนี้คุณจะเริ่มสัมผัสได้ถึงกายภายในที่เชื่อมยึดกับแสงแห่งคริสตอลไลน์ไว้แล้ว, ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกถึงอณูธาตุต่างๆของอากาศรอบตัวคุณ ผ่านทางความรู้สึกของร่างกายได้ด้วย, โดยให้สังเกตุขณะที่มีสติอยู่กับลมหายใจ

    ขณะที่เรามีสติอย่างรอบคอบกับการเพิ่มพลังงานของแสงสว่างในแต่ละวัน, การผันแปรให้เกิดพลังงานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มากขึ้นนี้จะขยายตัวไปเรื่อยๆ และซึมซับเข้าสู่ร่างกายของมนุษยชาติและรวมถึงดาวเคราะห์โลกด้วย, ซึ่งทุกชีวิตที่เกี่ยวของกับโลกนี้จะถูกเลื่อนระดับไปสู่มิติที่ 5 ด้วยการเชื่อมโยงกับแสงสว่างแห่งคริสตอลไลน์, ดังนั้นในช่วงนี้ที่โลกได้เข้าสู่พลังงานความรักอันศักดิ์สิทธิ์จากพระเจ้าแล้ว, กระบวนการฟื้นฟูของทุกชีวิตจึงเกิดขึ้น, เพื่อจะสามารถเชื่อมยึดกับทุ่งสนามพลังงานแห่งคริสตอลไลน์ในการเลื่อนระดับนี้, โดยแต่ละชีวิตนั้นใช้เวลาช้าเร็วต่างกัน, ในการปรับจูนพลังงานตัวเองให้เชื่อมกับสนามพลังงานใหม่นี้ (สนามพลังงานแห่งเปลวไฟสีม่วง purple flame), แต่สุดท้ายแล้วระบบภายในของแต่ละชีวิตก็จะค่อยๆปรับจนสามารถเข้าสู่ระยะของการเลื่อนระดับไปได้ทั้งโลก.


    ที่มา : Divine Alchemy - We Are Becoming 5th-Dimensional Crystalline Solar Light Beings > Era of Peace
     
  3. L-Walkers

    L-Walkers เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2013
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +176
    ผมมาที่นี้ เพื่อจะบอกกับ Light Worker อันเป็นที่รักทั้งหลายว่า มันคือของจริง เพราะตอนนี้ผมเริ่มจะแยกแยะความผิดปกติเหล่านั้นจนจะไม่สามารถพิมพ์ข้อความสารสื่อกับพวกคุณได้แล้ว ตอนนี้เวลา 7:37 วันศุกร์ ที่ 28 กุมพาพันธ์ 2014 ผมไม่ได้เพลิดเพลินได้กับหม่านพลังเหล่านี้สักเท่าไรผมใช้วิธีแค่รับรู้ที่ลมหายใจเข้าออก กำหนดรู้ให้มากที่สุดเท่านั้นดูและสักเกตการเปลี่ยนของสิ่งที่เห็นเหล่านั้นสำหรับผมนั้นรู้สึกมีหม่านพลังที่รุ่นแรงมากสำหรับผู้ที่รู้สึกถึงความสว่างคุณมาถูกวาระแล้วยิ่งใครเคยฝึกโอทากสิณ ที่เป็นกสิณสว่างมาด้วยยิ่งทรงพลังมาก เพราะการเข้าฌาณด้วยโอทากสิณมีผลในทันทีทันใด เปลี่ยนมิติในทันทีผมมีความรักในศาสนาและมิติต่างๆมากเราเรียนรู้และทราบมันได้ มันทำให้มีความสุขมาก สุขที่ไม่ต้องการวัตถุใดอีกแล้ว ผมคงเข้ามาเพื่ออ่านกระทู้หน้านี้ได้หน้าเดียวซึ่งหน้าอื่นผมก็ไม่ได้กลับไปอ่านมาหน้าสุดท้ายหน้าเดียวก็เพราะเหตุเรื่องหม่านพลังนี้
    เพราะผมไม่ได้เข้ามานานหลังจากที่มีช่วง พูดจายกตนข่มท่านกันในกระทู้เพราะผมไม่ชอบพลังงานความขัดแย้งกันเห็นคุณ Chayutt ไปวิวาทะกับพวกเขาด้วยแล้วยิ่งท้อไปเลย และผมก็ไม่ได้เข้ามาอีกจนผมเบื่อกับการที่ทุกคนมานั่งทะเลาะกัน ผมเลยทิ้งมันและปล่อยวางมันไม่เก็บเอามาคิดอะไรเลยและหลังจากที่ผมเริ่มวางแล้วหลายวันที่ผ่านมาเริ่มมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นมากมายผมว่าจะเข้ามาดูในกระทู้ว่าเกิดอะไรขึ้นรึป่าว ก็ไม่ได้มาจนรู้สึกเป็นหนักขึ้นทั้งๆที่ผมก็รู้สึกดีมาก และมันดีมาก ผมมีความสุขแบบบอกไม่ถูกไม่อยากเอาอะไรอีกแล้ว มิติของผมมันเริ่มเปลี่ยนไปมีความสุขมากที่สุดในชีวิตที่ผ่านมาเพราะผมเจอเรื่องเลวร้ายมาเยอะ มีเรื่องน่าตลกอย่างหนึ่งผมกลัวว่าจะไม่ได้มาพูดกับ Light Worker ทั้งหลายคือความรู้สึกมันบอกมาผมจึงมาเพื่อมิติอาจเปลี่ยนไปเป็นความสวยงามแหละความสุขนิรันด์กาล ผมมาเพื่อบอกแค่นี้และ Light Worker ที่รักทั่งหลายเพราะเห็นแค่ข้อความของคุณ Chayutt เพื่อให้รู้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานแสงก็พอแล้ว ผมจะไม่กลับไปดูข้อความของผมนะว่าผมพิมพ์ออกมาผิดถูกหรือไม่ ผมไม่อยากกับไปใช้พลังงานเดิมมันทำให้ไม่มีความสุขอย่างบอกไม่ถูกอย่างไรก็ ขอบคุณผู้นำสารอันเป็นที่รักทั้งหลายแล้วกัน และอีกอย่าง คุณ Chayutt และคนทำงานแสงหลายคนมีส่วนสำคัญ ในการเปลี่ยนแปลงของผมครั้งนี้มาก ผมขอบคุณมากและรักทุกคน
    _heart+love_ _heart+love_ _heart+love_ _heart+love_
     
  4. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    ภาวะ ผีอำที่ว่า มีหลายๆคนรู้สึกบ่อย ขอย่ำว่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติของจิต เวลาจิตเปลี่ยนวิถีการจดจ่อ จะเกิดภาวะ ผีอำขึ้น ภาะวเช่นนี้เกิดได้กับทุกๆคน เรื่องนี้เคยสนทนา ในกระทู้ โนวาอนาลัย นานมาแล้วนะครับ ไปหาอ่านได้ แต่ไม่รู้หน้าไหน อิอิอิ

    อีกอย่าง ตอนไปอบรมทำวิปัสสนากรรมฐาน หลวงพ่อท่านก็ได้อธิบายเรื่อง ภาวะ ผีอำ ให้แก่ ผู้ที่เข้าอบรม (หลายคนเคยมีประสบการณ์) ที่จำได้ หล่วงพ่อแท่นว่า เป็นภาวะของจิต ช่วงหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ใช่ผีอำ ตัวเราอำเราเอง ท่านว่าอย่างนั้น เพราะท่านก็เคยมีประสบการณ์ ไม่มีอะไรต้องกังวล


    สว่นตัวก็มีประสบการณืบ่อยๆ อิอิอิ ชินแล้ว
     
  5. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    เห็นด้วยที่บอกว่าจิตเปลี่ยนวิถีการจดจ่อ เพราะส่วนใหญ่จะเกิดตอนที่กำลังฝันถึงอะไรซักอย่าง แล้วจิตมันก็เปลื่อนเรื่องฝันกระทันหัน หรือไม่ก็รู้ตัวว่ากำลังฝันขึ้นมาน่ะครับ ชินแล้วเหมือนกันครับ แต่บางทีก็คิดนะ ถ้าดิ้นไม่หลุดซักทีแล้วหายใจก็ไม่ได้ มันจะเป็นไงต่อนะ
     
  6. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    ไม่ต้องดิ้น ครับ ทำจิต สงบนิ่ง มันจะค่อยเปลี่ยนการจดจ่อเอง ยิ่งกลัว ยิ่งดิ้น มันก็ยิ่งเหนื่อย แต่การหายใจ ร่างกายช่วงนั้น จะหายใจโดนอัตโนมัตอยู่แล้วเพี่ยงแต่เราไม่รู้สึกตัวว่าหายใจเท่านั้นเอง

    แต่ถ้ามีสติพอ เมื่ออยู่ในภาวะนี้ ก็ให้ถือโอกาส วิปัสนา เสียเลย เพราะจิต เตรียมพร้อมอยู่แล้ว ขาดแต่จุดประสงค์ว่าจะเปลี่ยนไปจดจ่อ หรือ ทำอะไร ^^
     
  7. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ผู้แปล : โปรดใช้วิจารณญารในการอ่านข้อความแปลข้างล่าง

    SaLuSa, February 28, 2014

    Dear Ones, we come with good news to inform you that the dedicated work you have put in, is about to bring the rewards that you have deservedly earnt. Our combined efforts have brought about a speeding up of the necessary work needed to bring about a notable stage in the progress required to bring the changes about. Your efforts have brought about a review of the progress made, and the decision was taken to rapidly move ahead. It means that specific events will occur that you will become aware of that will clearly reveal the commencement of another stage leading to "The Event". Within a relatively short period you will be given irrefutable proof of the advances being made, but do not expect them to be broadcast by the main media. The dark Ones will suppress the truth and will do anything to stop progress, and that means you may have to search around to find evidence of what is happening.

    ที่รักทั้งหลาย, เรามาพร้อมกับข่าวดี ที่จะแจ้งให้คุณทราบว่า งานที่คุณได้อุทิศตัวเองทำเพื่อแสงสว่างนั้น, กำลังจะนำมาซึ่งสิ่งตอบแทนที่คุณสมควรได้รับแล้ว. การพยายามมารวมกันของเรากำลังเร่งให้เร็วขึ้น, เพราะขั้นตอนนี้จำเป็นและสำคัญต่อความก้าวหน้าในการนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทั้งหลาย. ความพยายามต่างๆของคุณได้นำมาซึ่งความก้าวหน้าในการสำรวจตรวจสอบ, และการติดสันใจที่ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อก้าวไปข้างหน้า. มันหมายถึงเหตุการณ์ที่พิเศษทั้งหลายจะเกิดขึ้น, ซึ่งคุณจะรู้ถึงมัน, มันจะเปิดเผยอย่างชัดเจนถึงการเริ่มต้นของขั้นตอนต่อไปที่จะนำไปสู่ "เหตุการณ์นั้นๆ". ภายในช่วงเวลาสั้นๆ คุณจะได้เห็นถึงข้อพิสูจน์ที่แย้งไม่ออกสำหรับสิ่งที่ได้ทำไปล่วงหน้าแล้ว, แต่อย่าคาดหวังว่ามันจะถูกนำเสนอผ่านสื่อตามช่องทางหลักทั่วไป. เพราะฝ่ายมืดจะระงับความจริง และจะทำทุกอย่างเพื่อหยุดความก้าวหน้า, และนั่นหมายความว่าคุณอาจจะต้องค้นหาข้อมูลจากแหล่งอื่น เพื่อค้นหาหลักฐานของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น.

    After all this time of waiting every effort has been put into bringing the necessary changes about, and the stage has now been reached where the Light is in its ascendancy. No longer do the dark ones have the controlling power that they used to have. Instead the Light has suddenly moved into a commanding position and its progress will now accelerate. Lightworkers are asked to keep their focus on the goal that they are working towards. It still requires a focused dedication to keep the momentum going, as there is still a long way to go. However, the good news is that it is all downhill now and you will not find as many difficulties on your path as previously. By now most of you know what is required of you, and many have awaited this particular time to commence their tasks. If you are one who seems to be without a specific task, you can do good work by continuing to spread the Light.

    หลังช่วงเวลาที่ผ่านมาของการรอคอย, ทุกๆความพยายามได้ถูกป้อนเข้าสู่การนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นต่างๆ, และตอนนี้ขั้นตอนได้ไปถึงระดับที่แสงสว่างได้อยู่ในการเลื่อนระดับของมันแล้ว. ฝ่ายมืดไม่สามารถควบคุมอำนาจที่เขาเคยมีได้อีกต่อไปแล้ว. แสงสว่างได้เคลื่อนเข้าสู่ตำแหน่งของการกุมบังเหียนอย่างทันทีทันใด, และความก้าวหน้าของแสงสว่างจะสามารถเร่งเครื่องได้มากขึ้นไปอีก. Lightworkers กำลังถูกขอร้องให้ตั้งมั่นอยู่ในเป้าหมายทีพวกเขากำลังก้าวไปข้างหน้า. มันยังคงจำเป็นต้องได้รับการอุทิศในความพยายามที่จะรักษาโมเมนตั้มให้เคลื่อนไปข้างหน้า, ขณะที่มันยังมีทางอีกไกลให้ไปต่อ. อย่างไรก็ตาม, ข่าวดีก็คือทางที่เหลือทั้งหมดเป็นทางลงเขาแล้ว และคุณจะไม่ได้พบกับความยากลำบากต่างๆมากมายเหมือนกับเส้นทางที่คุณผ่านมาก่อนหน้านี้. ตอนนี้คุณหลายคนรู้แล้วว่าอะไรที่แสงสว่างต้องการจากคุณ, และหลายคนได้รอคอยช่วงเวลาที่พิเศษนี้เพื่อที่จะเริ่มต้นงานต่างๆของพวกเขา. ถ้าคุณคือหนึ่งในผู้ที่ดูเหมือนปราศจากงานที่พิเศษนั้น, คุณสามารถทำงานที่ดีนั้นด้วยการแพร่กระจายแสงสว่างต่อไป.

    You will find that as the Light continues to grow so your lives will flow more easily. The struggles you have encountered in the past will gradually become less and less, and a time will come when everything flows smoothly and satisfactorily. It is your destiny to experience the fulfillment of your expectations and enjoy the upliftment in your vibrations. As you do so, you will find that your consciousness will also expand and you will be far down the route to full consciousness. Your whole journey has been one of seeking your path back to what you were when you first started out on your journey millennia ago.

    คุณจะพบว่า ขณะที่แสงสว่างเติบโตต่อไป, ดังนั้นชีวิตต่างๆของคุณจะลื่นไหลไปอย่างง่ายกว่าที่เคย. การดิ้นรนต่างๆที่คุณได้เผชิญมาในอดีตจะค่อยๆน้อยลงๆ, และเวลานั้นจะมาถึง เมื่อทุกๆสิ่งลื่นไหลอย่างคล่องแคล่วและน่าพอใจ. มันคือโชคชะตาของคุณที่จะได้เผชิญกับการเติมเต็มความคาดหวังต่างๆของคุณ, และเพลิดเพลินไปกับการเลื่อนระดับในความสั่นสะเทือนต่างๆของคุณ. ขณะที่คุณสั่นสะเทือน, คุณจะพบว่าความหยั่งรู้ของคุณจะขยายตัวมากขึ้นด้วย, และคุณจะไปสู่การตื่นรู้อย่างสมบูรณ์. การเดินทางทั้งหมดของคุณนั้นคือการเสาะหาเส้นทางกลับไปสู่สิ่งที่คุณเป็น, ตั้งแต่คุณเริ่มการเดินทางครั้งแรกเมื่อพันปีมาแล้ว.

    By now you should have realised that you are not your body, which is simply something you have "put on" to enable you to experience in the lower dimension. Neither are you true "Earthlings" and your home is amongst the stars where you will return and reside as a Being of Light. You are all to be honoured and respected for having taken on the task of living through the dense realms whilst carrying the Light. You have lifted up Beings who may otherwise have been completely overwhelmed by the lower vibrations. You eagerly and without thought for yourself took on the challenge of helping lost souls, knowing that you would not be allowed to lose your way indefinitely. At all times your lives would be followed and help given wherever possible.

    ตอนนี้คุณควรได้ตระหนักแล้วว่า คุณไม่ใช่เพียงร่างกายของคุณ, ซึ่งเป็นเพียงบางสิ่งที่คุณ "สวมใส่" เพื่อที่จะสามารถเผชิญกับมิติที่ต่ำกว่าได้. คุณไม่ใช่มนุษย์ของที่โลกนี้, และบ้านของคุณอยู่ท่างกลางดวงดาวทั้งหลาย ที่ซึ่งคุณจะกลับไปและอาศัยอยู่ในแบบของรูปธรรมแห่งแสงสว่าง. คุณทั้งหมดได้รับการยกย่องและเคารพนับถือ, สำหรับการรับภารกิจในการนำแสงสว่างมาให้โลก, และต้องมาอาศัยอยู่ในมิติที่หนาแน่นนี้. คุณพยายามอย่างมากในการช่วยเหลือจิตวิญญาณที่หลงทางทั้งหลาย . โปรดรู้ว่าคุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้สูญเสียเส้นทางของคุณอย่างไม่มีกำหนด. ทุกขณะที่คุณอาศัยอยู่นั้นจะถูกติดตามและให้ความช่วยเหลือเมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นไปได้.

    So please do not judge those who appear to have fallen from the Light. They need immense help and understanding to get them back on the path to it, and you have volunteered to help them do so. You do not know at this stage what experiences you have gone through to get where you are now. However, when your consciousness levels have been raised you will see yourself in the "Mirror of Truth" and will no doubt be pleased to find you have fulfilled your promises. The truth about you has to be revealed in stages as and when you are strong enough to accept it. There is nothing shocking about it, but it is simply most surprising and for many of you unbelievable.

    ดังนั้น โปรดอย่าพิพากษาชาวโลกทั้งหลายที่ตกลงมาจากแสงสว่าง. พวกเขาต้องการความช่วยเหลืออย่างกว้างใหญ่ และความเข้าใจต่างๆ เพื่อจะนำพวกเขากลับไปสู่เส้นทางกลับสู่แสงสว่าง, และคุณ (Lightworkers) ได้อาสามาช่วยพวกเขาเอง. คุณยังไม่รู้ว่าในขั้นตอนนั้น คุณได้เผชิญผ่านเข้าสู่อะไรมาบ้าง ที่ทำให้คุณได้มาอยู่ที่นี่. อย่างไรก็ตาม, เมื่อระดับต่างๆของความตื่นรู้ของคุณได้ถูกเลื่อนระดับขึ้น, คุณจะเห็นตัวเองใน "กระจกแห่งความจริง" และจะไม่สงสัยที่จะรู้สึกยินดี ที่จะค้นหาเพื่อบรรลุคำสัญญาต่างๆของคุณ. ความจริงเกี่ยวกับคุณต้องถูกเปิดเผยในขั้นตอนต่างๆต่อไป, และเมื่อคุณแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับมัน. ไม่มีอะไรให้ตกใจเกี่ยวกับเรื่องนี้, แต่เมื่อเวลานั้นมาถึง, มันจะเป็นเรื่องธรรมดาที่รู้สึกน่าประหลาดใจที่สุด, และคุณหลายคนไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซ้ำ.

    Be open minded as you become more aware of the truth, and know that it will always have that special feeling that will not be denied. If it seems too much to believe, keep it in mind as in time you will accept it for what it is. If you knew what a wonderful time lies ahead you would not have any worries about the future, as your lives are now on a different track although that may be hard to accept in your present circumstances. These are times of turmoil as the necessary changes go ahead, yet out of them shall come the peace and harmony that you have been seeking.

    โปรดเปิดใจ, ขณะนี้ที่คุณกำลังตื่นรู้มากขึ้นสู่ความจริง, และโปรดรู้ว่า มันจะมีความรู้สึกพิเศษอย่างนี้เสมอซึ่งจะไม่ถูกปฏิเสธ. ถ้ามันดูเหมือนยากเกินไปที่จะเชื่อ, โปรดระลึกไว้ในใจถึงช่วงเวลาที่สวยงามซึ่งรออยู่ข้างหน้า, ถ้าคุณได้รู้ถึงสิ่งที่สวยงามนี้, คุณจะไม่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับอนาคตเลย, ขณะที่ชีวิตต่างๆของคุณตอนนี้อยู่บนเส้นทางที่แตกต่างกัน, ถึงแม้ว่าบางคนอาจยากที่จะรับมันขณะที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่คุณอยู่นั้น, ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาแห่งความยุ่งเหยิง, ขณะที่การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นต่างๆก้าวหน้าไปข้างหน้า, และผลลัพท์คือ จะเกิดความสงบและความปรองดองที่คุณได้ค้นหามาในที่สุด.

    From hereon life should be more easy on you and there will be no lack of encouragement. Indeed, many of you will need little if any as you will be spurred on by the developments that must come very soon. It will come in the form of confirmation of events taking place, that you would normally be unaware of but are now being revealed. Some will leave people feeling shocked but by and large they should be found uplifting. Lightworkers can be of immense help by gently enlightening people to the truth. Keep your attention on the developments as some will directly involve your activities. Be ready to adjust and always keep on the path to full consciousness. We are looking forward to making more contact with you, but it is not yet the time for more open contact. It will come of course, and even so is not too far into the future.

    ชีวิตของคุณจากนี้เป็นต้นไปจะง่ายขึ้น, และจะไม่มีการขาดแคลนความช่วยเหลือ. จริงๆแล้ว, คุณหลายคนต้องการความช่วยเหลือไม่มาก, ขณะที่คุณกำลังถูกกระตุ้นปลุกเร้าให้เกิดการพัฒนาต่างๆที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้. มันจะมาในรูปแบบของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อยืนยัน. ซึ่งโดยปรกติแล้วคุณจะไม่ทราบถึงมัน, แต่ตอนนี้จะถูกเปิดเผย. บางคนอาจถึงขั้นทำให้ผู้คนถึงกับอื้ง, ส่วนใหญ่แล้ว Lightworkers จะถูกพบอย่างน่าเบิกบานใจ. Lightworkers สามารถให้ความช่วยเหลือได้มากในการให้ความรู้กับผู้คนอย่างค่อยเป็นค่อยไปสำหรับความจริง. โปรดใส่ใจกับการพัฒนาการต่างๆของคุณด้วย และบางคนจะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่างๆของคุณโดยตรง. จงเตรียมพร้อมในการปรับ และรักษาให้อยู่บนเส้นทางของตัวเองที่ไปสู่การตื่นรู้ที่สมบูรณ์. เรากำลังรอที่จะทำการติดต่อกับพวกคุณมากขึ้น, แต่มันยังไม่ถึงเวลาที่จะติดต่อกับพวกคุณในตอนนี้. มันจะเกิดขึ้นแน่นอน, ในอนาคตอีกไม่นาน.

    I am SaLuSa from Sirius, and so pleased that at last the news is more enlightening and positively uplifting. It should carry on at quite a fast pace and developments to your liking and upliftment. As always we will be monitoring the activities of the dark Ones, as even a small number of them can cause problems for you. We leave you with our love and blessings.

    ฉันคือ SaLuSa จาก Sirius , รู้สึกยินดีที่ในที่สุดก็มีข่าวที่ทำให้กระจ่างมากขึ้น และเบิกบานใจมากขึ้น. มันจะดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็วทีเดียว, และพัฒนาการต่างๆของคุณ ที่จะทำให้คุณรู้สึกพึงพอใจและเบิกบานใจ. เหมือนเช่นเคย, เราจะดูแลตรวจสอบกิจกรรมต่างๆที่ไม่สุ่มเสี่ยงของฝ่ายมืด, เพราะแม้แต่จำนวนเล็กน้อยของฝ่ายมืด ก็สามารถทำให้เกิดปัญหาต่างๆได้กับคุณ. เราจะจากกันวันนี้ด้วยความรักและการให้พรต่างๆจากเรา.

    Thank you SaLuSa.
    Mike Quinsey
    Website: Mike Quinsey - SaLuSa, February 28, 2014
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2014
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขออนุญาตโพสต์อธิบายความหมายของศัพท์ในข้อความจากต่างมิติต่อนะครับ
    ตามความเข้าใจของผมเอง ฮิฮิ..

    และก็พอดีเลย บังเอิญจริงๆ ที่มีคนกำลังพูดถึงเรื่องผีสิง หรือ ผีอำกันอยู่พอดี

    Thought และ Thought Form : ผู้แปลต้องเข้าใจหลักการณ์พื้นฐานตรงนี้ก่อน ว่ามันคืออะไร
    ถึงจะแปลออกมาได้ถูกต้องนะครับ เพราะว่าบางรูปธรรมชีวิต ก็จะใช้คำว่า thought form
    แต่ในบางบริบท ที่ใช้คำว่า Thought เฉยๆนี่ มันก็ไม่ได้แปลว่า "ความคิด" เฉยๆนะครับ ไม่เลย ระวังให้ดี

    ดังนั้น หลายครั้ง เพราะความที่ผมไม่รู้จะใช้คำไหนดี ที่จะพอสื่อให้มองเห็นภาพของมันได้ชัดๆ
    ผมก็จะแปล ดังนี้

    Thought = กระแสความคิด
    Thought form = กระแสจิต, หรือ บางทีก็ใช้คำว่ากระแสความคิด ปนๆกันไปบ้างก็มี


    แต่ความหมายของมันเป็นแบบนี้นะครับ...มันจะประมาณว่า ทุกๆความคิด และอารมณ์ความรู้สึก
    (ซึ่งทั้งความคิดและอารมณ์ความรู้สึก ต่างก็เป็นพลังงานรูปแบบหนึ่งทั้งคู่) ที่เราส่งออกไป
    มันจะกลายไปเป็น "รูปธรรมชีวิต" ขึ้นมาเสมอ และพอเราเพิ่มพลังงานให้กับความคิดนั้นๆมากขึ้นๆซ้ำแล้วซ้ำอีก
    เจ้ารูปธรรมชีวิตแห่งความคิดอันนั้น มันก็จะมีความเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย
    จนมันพัฒนากลายไปเป็น "สิ่ง" ต่างๆ และ "รูปธรรม" ต่างๆได้ต่อไป

    ซึ่งถ้ามันเป็นด้านบวก ก็ดีไป แต่ถ้ามันเป็นด้านลบ ก็จะกลายไปเป็น "หนอนทิพย์" หรือ "กาฝากทิพย์"
    ที่แอบแฝงอยู่ในสนามพลังงานออร่าของเรา คอยส่งผลกระทบด้านลบต่อเรา
    และกระตุ้นเราให้มีความคิดไปในทางลบมากขึ้น อะไรแบบนั้นหนะครับ

    มันเป็นกฎแห่งการเนรมิต (manifestation) ด้วย ที่ว่ากระแสความคิด บวก อารมณ์ความรู้สึก
    จะได้ผลลัพท์ออกมาเป็น "สิ่งที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา" (Creation)

    ซึ่งคำว่า creation นี้ ผู้แปลก็ต้องดูให้ดีด้วยนะครับ ว่าเขากำลังใช้ในบริบทไหนอยู่
    เพราะมันไม่ได้แปลว่า "การสร้างสรรค์" เพียงอย่างเดียว แต่มันยังหมายถึง สิ่งที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา
    หรือ อาณาจักรแห่งการสร้างสรรค์ ก็ได้ด้วย

    เช่น ทั่วทั้ง creation นี้ ไม่มีใครเลยที่คุณควรจะรักไปมากกว่าตัวเอง นั่นก็หมายถึง อาณาจักรแห่งการสร้างสรรค์
    หรือ "สรรพสิ่งทั้งปวง" ที่มีอยู่เป็นอยู่ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา ตั้งแต่ต้นสายสกุล จนถึงปลายสุดของสายสกุลทั้งหมดนั่นเลยทีเดียว

    และคำว่าสิ่งมีชีวิต หรือ รูปธรรมชีวิต ในนิยามของต่างมิติ ก็ไม่เหมือนกับนิยามของมนุษย์โลกด้วยนะครับ
    เพราะว่ามันจะประมาณว่า หมายถึงสิ่งที่มีพลังงานชีวิต ที่มีความตระหนักรู้ ที่มีความคิดความอ่านเป็นของตัวเอง
    ที่มีวิวัฒนาการเป็นของตนเอง อะไรแบบนั้นหนะครับ ไม่ว่าจะมีรูปกายหรือไม่ก็ตาม
    (ซึ่งนิยามพวกนี้ ผมพูดตามความเข้าใจของผมเองนะครับ อาจจะไม่เป๊ะ อาจจะมีเกินมา หรือขาดไปก็ได้)
    ดังนั้น ในความหมายของต่างมิติแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่าง จึงคือสิ่งมีชีวิตทั้งสิ้น พลังงานทุกๆชนิด จึงคือสิ่งมีชีวิตทั้งสิ้น
    และทุกๆอะตอม รวมถึงอนุภาคระดับควอนตัมทั้งหมด จึงมีชีวิตด้วยกันทั้งสิ้น

    เนื้อหาบางส่วนจากบางกระทู้ ผมยกมาให้อ่านข้างล่างนี้นะครับ

    "ธาตุแท้ของกระแสความคิด คือ "พลาสม่า" แต่ก็ไม่ใช่พลาสม่า
    ในแบบที่เป็นอนุภาคของพลังงาน อย่างที่นักวิทยาศาสตร์บนโลกระบุไว้
    พลาสม่ามีความหนาแน่นของตัวมันเอง และมีคุณสมบัติยึดติดได้ ที่จะถูกดึงดูดได้โดยตรง
    โดยธาตุแท้ของกระแสความคิด และจินตนาการที่เข้ากันได้พอดี"


    ข้อความข้างบนนี้ จากกระทู้นี้นะครับ

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...t-form-ก่อเกิดทุกสรรพสิ่ง-vs-ความกลัว.326934/


    "แต่ต้องเข้าใจไว้ด้วยว่า ไม่มีปีศาจหรือภูติผีอยู่จริงๆหรอก
    ยกเว้นแต่พวกที่พวกคุณพากันสร้างพวกมันขึ้นมาเอง
    ด้วยความคิด และความเชื่อของพวกคุณเอง ที่อยู่ในทวิภาวะนี้เท่านั้น

    แต่ว่า “กระแสความคิด” หรือ “กระแสจิต” (Thought form) ด้านลบทั้งหลาย
    มันก็สามารถที่จะถูกสร้างขึ้นมาจากความกลัว
    และความโกรธของพวกคุณเองได้จริงๆ
    แล้วพวกมันก็สามารถที่จะสะสมพลังงานเพิ่มมากขึ้น
    จนกลายเป็นพลังงานลบรูปแบบต่างๆ ที่มีความเป็นอิสระ
    และมีความตระหนักรู้ขึ้นมาได้

    นั่นแหละคือพลังอำนาจของกระแสความคิดหละ"


    และข้อความข้างบนนี้ ก็มาจากกระทู้นี้นะครับ

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ข้าสิงมีจริงหรือไม่-และ-การถูกดูดพลัง.314856/

    ปล.ที่ท่านเมตาตรอนบอกว่า มันไม่มีอยู่จริงหรอก ผี ปีศาจหนะ มันแค่มาจาก "ความคิด" และ "ความเชื่อ" ของเธอเท่านั้นหนะ
    อย่าเพิ่งไปอ่านผ่านๆประโยคนี้นะครับ เพราะว่าท่านหมายความลึกลงไปกว่านั้นอีก อย่างที่ผมอธิบายไปแล้ว
    ว่าความเชื่อของเรา ทำให้เราคิดแบบนั้น และพอเราคิดออกไป บ่อยๆซ้ำ อย่างจริงๆจังๆเพราะปักใจเชื่อแบบนั้นอยู่
    ก็นั่นแหละ ที่มาของ "สิ่งที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา" หละครับ


    และยังมีกระทู้ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องอยู่อีก ดังต่อไปนี้นะครับ

    http://palungjit.org/threads/ประสบก...ia-และคำอธิบายของพระเยซูเรื่อง-จิตมาร.250652/

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ัมก็มีความนึกคิด-และ-dna-ก็คือควอนตัม.305941/

    ..................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  9. ฅนล้านนา

    ฅนล้านนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +1,000
    ผมชอบแบบนี้มากกว่าครับ
     
  10. ฅนล้านนา

    ฅนล้านนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +1,000
    ความรักที่มาจากธรรมชาติคือ รักแท้ครับ
     
  11. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946

    ของคุณ axazon ขยับตัวไม่ได้อย่างเดียว หรือเห็นใครๆ มานั่งทับ ด้วยหรือเปล่าคะ

    พี่สาวข้าพเจ้าเคยเจอภาวะเหมือนผีอำ ตอนนั้นผีสาวอยู่หอ

    ทุกๆ คืนจะได้ยินเสียงขูดฝา พอดีห้องที่พี่สาวอยู่เคยมีนักศึกษาอิสลามอยู่ และผูกคอตาย

    พี่สาวเลยแกล้งพูดใส่ว่า ถ้าขูดฝาอีก เด๊วจะเอาน้ำมันหมูมาทาฝาห้องเลย

    คืนนั้น พี่สาวก็ฝันเห็นหญิงสาวอิสลามมานั่งทับหน้าอก แล้วก็เอามือมาบีบคอ

    เค้าพยายามดิ้นใหญ่เลย แต่เหมือนร่างกายขยับไม่ได้ และอ่อนแรงไปหมด

    พยายามตะโกนสุดเสียงให้เพื่อนที่นอนอยู่เตียงใกล้ๆ ช่วย ก็ไม่มีใครได้ยิน

    ดิ้นจนเหนื่อย สุดท้ายเค้าก็ไป ก่อนไปบอกด้วยว่าอย่ามาพูดเล่นอย่างนั้นอีก
     
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เสียงขูดฝาที่ได้ยิน และ ภาพที่เห็นนั้น
    มันอาจจะเป็น "ภาพวีดีโอสามมิติ"
    ที่ถูกบันทึกเอาไว้ในขณะที่คนๆนั้นกำลังจะตายก็ได้นะครับ

    เพราะว่า อย่างที่ครายออนเคยบอกเอาไว้ว่า
    ในหลายกรณี ไอ้สิ่งที่พวกเราเรียกกันว่า "ผีหลอก" นั่นหนะ
    แท้ที่จริงแล้ว มันเป็นแต่เพียง "รอยประทับ" ทางพลังงาน
    ของเหตุการณ์นั้นๆ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่
    มีระดับความเข้มข้นรุนแรงของความคิดและอารมณ์ความรู้สึกสูงเท่านั้นเอง
    เพราะฉะนั้น มันจึงถูกบันทึกเอาไว้ ณ.สถานที่เกิดเหตุนั้นๆ
    แล้วมันก็เลย "เล่น" ซ้ำไป ซ้ำมา เหมือนวีดีโอเทปม้วนเก่าๆ
    ที่จะเล่นเองโดยอัตโนมัติ ซ้ำไป ซ้ำมาอยู่นั่นแหละ
    และฉากที่มันเล่น มันก็จะเป็นฉากๆนั้นแหละ เล่นซ้ำไป ซ้ำมาอยู่อย่างนั้นแหละ
    จนกว่ามันจะมีพลังงานอย่างอื่น ที่เข้มข้นรุนแรงกว่า มาลบมันออกไป
    ซึ่งพลังงานที่ว่านั้นก็คือ "ความรัก" นั่นเอง

    ปล.ความเมตตา ก็คือส่วนย่อยส่วนหนึ่งของศัพท์คำว่า "ความรัก" นี้หนะนะครับ
    ดังนั้น คำสอนให้แผ่เมตตาออกไป จึงได้ผลในกรณีนี้ด้วย
    ก็เพราะเหตุฉะนี้เอง..เอวังก็มีด้วยประการะฉะนี้แล..

    ดูเพิ่มเติมได้ในกระทู้นี้นะครับ

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...สารใน-dna-ผี-คือข้อมูลข่าวสารข้ามมิติ.282821/

    .............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2014
  13. (อโศก)

    (อโศก) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +445
    หลวงพ่อก็อธิบายดีอธิบายแบบกระจ่างแบบคนรู้จริง ยังไม่วายจะถูกใครบางคนลากเข้าหาความเข้ากับความเชื่อ+ทฤษฏีหลุดโลกเพี้ยนสุดกู่ของตัวเองอีก...........................เห็นแล้วฮากลิ้งจริงๆๆๆ........ไปและเข้ามาทีไรฮาทุกทีนะกระทู้นี้..............................เดี๋ยวก่อนสิคิดอีกทีเอ....ทฤษฏีก็น่ารับฟังดี เหมือนเคยได้ยินมาก่อนนะทฤษฏีนี้ เอาเถอะๆๆอาจจะเป็นงั้นก็ได้นะโยงเข้ากับการแผ่เมตตาได้ด้วย...........อย่างน้อยอันนี้ก็ไม่ดูหลุดโลกไปไกลเหมือนที่แล้วๆๆมาอย่างดีเอ็นเอ12สายล่ะนะ555 มีความเป็นไปได้ว่าจะจริงอยู่นะทฤษฏีรอยประทับพลังงานนี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2014
  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    มีข้อความใหม่จากชาว Arcturian มาอีกแล้ว
    เมื่อวันที่ 2/3/14 นี้เองครับ เรื่อง ความเมตตา

    Arcturian Group 3/2/14 | The Galactic Free Press

    แต่ผมจะไม่แปลนะครับ แค่จะสรุปให้ฟังคร่าวๆเท่านั้นเอง

    ชาวอาร์ทูเรี่ยนบอกว่าจงมีความเมตตา-กรุณา (compassion)
    แต่อย่าไปร่วมเป็นทุกข์กับคนอื่นเขา (empathy)
    เพราะว่ามันจะให้ผลต่างกัน

    การมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และมีเมตตากรุณาต่อผู้อื่น
    เราไม่จำเป็นจะต้องไปร่วมรู้สึกเป็นทุกข์เป็นร้อนไปกับเขาก็ได้
    เพราะว่าถ้าเราทำเช่นนั้นแล้ว ระดับพลังงานของเราเอง
    ก็จะตกฮวบลงมาอยู่ในระดับเดียวกับเขาด้วย
    แล้วนอกจากเราจะช่วยเขาไม่ได้แล้ว ตัวเราเองนั่นแหละ ที่จะแย่ไปด้วย

    เพราะว่าโดยธรรมชาติของคนทุกคนแล้ว
    ย่อมแสวงหาความเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ด้วยกันหมดทั้งสิ้น
    แต่ว่าความเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ที่ว่านี้ มันจะสมบูรณ์แบบที่สุด
    ในจิตวิญญาณของตัวเราเอง คือเมื่อเราสามารถกลับไปเชื่อมต่อ
    กับจิตวิญญาณหรือตัวตนที่สูงกว่าของตัวเองได้แล้ว

    แต่ว่า สำหรับผู้ที่ยังไม่บรรลุวุฒิภาวะทางจิตวิญญาณ
    หรืออาจจะเรียกว่า ระดับจิตยังอ่อนด้อย หรือ ต่ำอยู่ อะไรประมาณนั้น
    พวกเขาก็จะเสาะแสวงหาความเต็มเปี่ยมสมบูรณ์จากภายนอกแทน
    เช่น ความรักจากคนอื่น การครอบครองสิ่งของภายนอก เป็นต้น
    ซึ่งไม่ว่าจะได้มาเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยังไม่รู้สึกถึงความเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ได้อยู่ดี
    เพราะว่ามันไม่ใช่ เพราะว่ามันเติมไม่ถูกจุด เพราะว่ามันไปหาไม่ถูกที่
    อะไรประมาณนั้น เพราะว่าสิ่งที่พวกเขากำลังไขว่คว้าหาอยู่นั้น
    มันจะพบได้เฉพาะที่ "ภายใน" ตัวเขาเองเท่านั้น

    ดังนั้น เมื่อใดที่เราบรรลุถึงความกระจ่างชัด หรือ การรู้แจ้งทางจิตวิญญาณ
    ระดับใด ระดับหนึ่งได้แล้ว แสงสว่างของเรา
    ก็จะไปดึงดูดให้ผู้ที่กำลังแสวงหาความช่วยเหลือเหล่านี้ เข้ามาหา
    โดยที่พวกเขาเองก็ไม่รู้ตัว เพราะว่า มันจะมาในรูปแบบของ
    คำถาม และ ข้อสงสัยในตัวเรา ว่าเอ๊ะ ทำไมเราถึงสามารถสงบนิ่งอยู่ได้ทุกเวลานะ
    หรือเอ๊ะ ทำไมเราถึงทำแบบนั้นได้นะ หรือ ฯลฯ

    และนอกจากนี้ แสงสว่างของเรา ยังจะไปดึงดูดเอาวิญญาณของผู้ที่ตายไปแล้ว
    แต่ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว ให้เข้ามาหาอีกด้วย
    เพราะว่าพวกเขาต้องการแสงสว่าง ดังนั้น พอเขาเห็นเรามีแสงสว่าง
    เขาก็จะเข้ามาหา และเข้ามาหาเรามากกว่าเข้าไปหาคนที่ไม่มีแสงสว่างเลย ด้วย
    อะไรแบบนั้นหนะครับ

    แต่เราก็อย่าไปกลัว แค่บอกให้เขาไปสู่แสงสว่างซะ หรือขอให้ทวยเทพ
    และสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากเบื้องบน มาช่วยนำทางให้แก่พวกเขา ไปสู่แสงสว่างเสีย
    ซึ่งบางครั้งพวกเขาอาจจะยังไม่อยากจากไป แต่เราก็ต้องบอกให้พวกเขาตัดใจไปเสีย

    และในหลายกรณีที่ผู้ที่มีแสงสว่างมากแล้ว จะถูกผู้ที่มาขอความช่วยเหลือ
    ดูดพลังงานไป โดยไม่รู้ตัวทั้งสองฝ่าย นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า
    "ผู้ดูดพลังงานงาน" ของผู้อื่น

    ดังนั้น วิธีการในทางปฏิบัติสำหรับการมีความเมตตากรุณาก็คือ
    ให้รับฟัง ยอมรับ และเข้าใจปัญหา และ ความทุกข์ของคนเหล่านั้น
    และจะต้องให้ความช่วยเหลือไปตามสมควร ด้วยการให้คำแนะนำ และอื่นๆ
    แต่อย่าไปไปช่วยเหลือมากจนเกินไป จนทำให้เขาไม่ได้เรียนรู้ผลของการกระทำของเขาเอง
    และจนทำให้ตัวเองกลายเป็นพรมปูทางให้กับพวกเขาไป

    และจงตระหนักรู้อยู่เสมอว่า ในระดับจิตวิญญาณแล้ว
    คนทุกคนล้วนมีวาระแห่งชีวิต ที่พวกเขาได้กำหนดเอาไว้แล้ว
    มาตั้งแต่ก่อนการถือกำเนิด เพื่อมาเรียนรู้บทเรียนอะไรบางอย่าง
    เพื่อเพิ่มพูนวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณของตัวพวกเขาเอง ด้วยกันหมดทั้งสิ้น

    ดังนั้น จึงไม่ควรที่จะไปขัดขวางพัฒนาการตรงนี้ของพวกเขา
    ด้วยการให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา จนเกินความจำเป็น
    หรือจนมากเกินไป

    และก็อย่าลืมว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง บนโลกในมิติที่สามแห่งนี้
    ล้วนเป็นมายาการด้วยกันหมดทั้งสิ้น
    ดังนั้น ความทุกข์ ความสุขต่างๆทั้งหลายเหล่านี้
    มันจึงคือมายาการ หรือก็คือ บทละคร ด้วยเช่นเดียวกัน
    ไม่มีอะไรจริงแท้เลย

    และอย่าโดยเด็ดขาด ที่จะไปจมลงไปมีอารมณ์ความรู้สึก
    ร่วมเป็นทุกข์กับพวกเขา แบบเต็มๆ เพราะว่านั่นจะทำให้เราเองสูญเสียพลังงานตามไปด้วย
    และเราก็จะช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย เพราะว่าแสงสว่างของเราก็จะริบหรี่ลงไปด้วย

    ...be aware of the temptation การล่อ,การยั่วใจ,การล่อใจ,สิ่งล่อใจ
    to enter into their state of consciousness,
    for you can never lift another up if you are
    on the same level as the problem.
    Humanly yes, but not spiritually.

    ..................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2014
  15. yaya12

    yaya12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +182
    catt24catt24catt24:z8:z10:z12:z12ชัดเจน ขอบคุณค่ะคุณชยุต(f)(eek)(tm-love)qsquchearr:VO:z2:z4:z6:z8:z10sleeping_rb;37;39;43;aa27
     
  16. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    [​IMG]


    THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2014

    March 02-09, 2014
    วันที่โพสท์ _Tue ,04/3/2014

    ผู้แปล: อจิตตะ

    การปฏิบัติตามคำแนะนำและการเชื่อมโยงหัวใจแต่ละดวงเข้าด้วยกันนั้นเป็นเรื่องสำคัญ
    และการที่บางคนกำลังจะผ่านประสบการณ์ในปัจจุบันขณะของพวกเขา เป็นเรื่องที่ลืมเสียมิได้
    ดังนั้น…สิ่งที่ต้องการคือการยอมรับด้วยความเห็นอกเห็นใจ
    รวมถึงเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาได้ตัดสินใจด้วยความรู้สึกในรูปแบบของตัวพวกเขาเอง
    และปล่อยให้”ความรัก”ที่เต็มไปด้วยหลักการทั้งของคุณและของเขา
    ได้แสดงออกมาตามความปรารถนา....

    เพราะการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นในวงจรชีวิตของผู้คน
    ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ หรือการตีค่าตีราคาในเรื่องราวต่าง ๆ
    ก็ล้วนเกิดจากทัศนะคติของแต่ละบุคคลทั้งสิ้น...
    ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะทำให้เกิดเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากไปบ้างก็ตาม
    แต่ทั้งหมดก็ล้วนเป็น “ประสบการณ์ “ ...
    ที่แต่ละคนต่างก็ยอมรับในหลักของการเปลี่ยนแปลง
    ว่า “ทุกสิ่งล้วนไม่สามารถคงอยู่เหมือนเดิมได้ตลอดไป
    อีกทั้งสิ่งที่ล่วงไปแล้วก็ไม่มีอะไรจะมาทดแทนได้เลย “

    จะมีอยู่ก็มีวิธีเดียวคือปล่อยให้”กาลเวลา”เป็นผู้รักษาเยียวยา
    และนำความกระจ่างมาสู่ในเรื่องเหล่านี้...

    “ความรัก” ที่แสดงออกมาชนิดหลากหลายแง่มุม
    ที่เต็มไปด้วยพลังและศักยภาพที่สามารถเยียวยาได้
    แม้กระทั่งความหวังที่ผู้คนต่างพากันเย้ยหยันว่าเป็นเรื่องลมๆแล้งๆ...
    เพราะเมื่อใดก็ตามที่ “ความรัก” ได้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในหัวใจผู้ใดแล้วละก็
    โลกก็จะนำประสบการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งที่สะท้อนถึงซึ่ง “ความรัก” ออกมา
    เพื่อเข้าสู่กระบวนการเยียวยาให้แก่ผู้ที่ยังเปิดหัวใจไว้ให้กับความเศร้าโศก เสียใจ

    ซึ่งบ่อยครั้งที่การแสดงออกของผู้คนเหล่านี้
    ได้ถูกส่งออกมาจากบาดแผลที่ยังคงซุกซ่อนอยู่ภายในจิตใจ
    ดังนั้น...การเปิดทางให้มีการตรวจสอบความรู้สึก
    ของผู้ที่ตั้งมั่นในการสำรวจภายในจิตตนนั้น
    ย่อมมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด...

    เพราะนั่นเท่ากับเป็นการช่วยให้พวกเขาได้เกิดการขยายตัว
    และก้าวหน้าขึ้นด้วยความเข้าใจในตนเอง
    ทั้งยังเข้าใจในผู้คนรอบๆตัวพวกเขา
    ว่าวงจรชีวิตของแต่ละคนต่างก็มีเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกัน
    นั่นก็เท่ากับเป็นการช่วยให้รูปแบบของพวกเขาได้เปิดกว้างขึ้น
    และมีความพร้อมที่จะแสดงออกในความเป็น “ผู้สร้าง” ของพวกเขาด้วย.

    ทุกสิ่งทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี
    ก็ด้วยการมีพร้อมในรากฐานของ “ความรัก”
    ที่มีต่อเหตุการณ์ ต่าง ๆ ที่จิตวิญญาณของพวกเขา
    ได้เลือกที่จะมีประสบการณ์ให้เกิดขึ้นในชีวิตของแต่ละคน
    และเพื่อจัดการกับสภาวะภายในด้วยความเป็นตัวของตัวเอง
    ร่วมกับตัวตนที่สูงกว่าเพื่อการแสดงออกในความเป็นมนุษย์
    อีกทั้งยังจะเป็นการช่วยให้พวกเขาได้เชื่อมต่อ
    และเริ่มต้นที่จะเข้าใจในพลังงานที่ยิ่งใหญ่ที่เกินกว่ามนุษย์จะสามารถรับรู้ได้...
    และมอบความหนักแน่นเข้มแข็งในการงาน
    ของความเป็นปัจเจกให้พวกเขาอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

    นี่คือคุณลักษณะของ”ศรัทธา” ที่มีการพัฒนาขึ้น
    ด้วยการขยับขยายสู่ภายใน”สัมปชัญญะ”ของพวกเขา
    และการมี”สัมปชัญญะ”ในสิ่งที่ได้รับรู้จากพลังงานที่สูงกว่า
    ซึ่งเป็นรางวัลชีวิตของเหล่าปัจเจกนั้นก็คือ
    ”ขันติ”ในการผ่านแต่ละภพแต่ละชาติที่เต็มไปด้วย”ความทุกข์”
    ที่คอยทำร้ายพวกเขานั้นไปให้ได้
    ด้วยความเข้มแข็งที่จะไม่มีวันจางหายไป
    ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้นก็ตาม...

    และประสบการณ์ในทุกภพชาติ...
    ในส่วนของคุณประโยชน์ที่มีคุณค่าและที่สำคัญๆ
    ก็จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในบทละครชีวิตจริงของพวกเขา
    ทั้งยังเป็นเครื่องมือที่พวกเขาจะนำมาใช้ในชีวิตตามความจำเป็นนั้นด้วย
    ซึ่งจริง ๆ มันก็เป็นเพียงแค่การก้าวผ่านประสบการณ์
    ที่แต่ละคนก็สามารถรับรู้ในความรู้สึกร่วมกันได้ของ”ความเป็นหนึ่งเดียวกัน”นี้
    และก็สืบเนื่องจากกระบวนการนี้.....
    ความสามัคคีในหมู่คณะของมวลมนุษย์จึงเกิดขึ้น...

    ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นพร้อมกันกับกระบวนการนี้ก็คือ
    การรู้จักที่จะ “รัก” และ “ให้” แก่ตนเอง(มิใช่ความหมายของคำว่าเห็นแก่ตัว=ผู้แปล)
    เพราะนั่นคือการเยียวยาและปลดปล่อยออกไป
    ในสิ่งที่ยังคงตอกย้ำซ้ำ ๆ อยู่ในจิต
    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความผิดพลาดหรือความน่าละอายใจ
    หรือความรู้สึกอื่น ๆ ที่เจ้าตัวได้ยึดมั่นไว้ในสภาวะของความสั่นสะเทือนต่ำๆ...

    และนั่นก็เป็นการปลดปล่อยให้เหล่าปัจเจกที่พร้อมจะก้าวไปข้างหน้า
    ได้เริ่มต้นกับรูปลักษณ์ใหม่ในชีวิตของพวกเขาด้วย...

    ส่วนผู้ที่จะได้รับคุณประโยชน์สูงสุดที่ยังอาศัยอยู่บนโลกนี้
    ก็คือผู้ที่สามารถแยกกายกับจิตได้ในขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่
    และผู้ที่ก้าวพ้นจากความ“ผูกพันธ์”ที่ลึกซึ้งกับผู้คนที่มีอิทธิพลในแวดวงของพวกเขา...
    ส่วนผู้ที่เดินตามอยู่ข้างหลังต่างก็พากันคอยมองหารางวัลชีวิตจากผู้คนที่เขารัก
    จากความสัมพันธ์ในกลุ่มชนของพวกเขา
    และจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น...

    ซึ่งในบางครั้ง... ผู้คนจะได้รับรางวัลชีวิตเหล่านี้ก็ต่อเมื่อ
    ยอมรับในเส้นทางเดินของกาลเวลา
    กับประสบการณ์ที่พวกเขาต้องทิ้งไว้ข้างหลัง...

    เพราะในทุกๆประสบการณ์ต่างก็ล้วนเป็นประโยชน์
    ต่อ”จิตหนึ่ง” (จิตที่ไม่มีวันตาย=ผู้แปล)ของพวกเขา
    ที่มีการขยายตัวและเพิ่มพูนภูมิปัญญาแก่พวกเขา
    ซึ่งนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งในคุณลักษณะของจิตวิญญาณของพวกเขานั่นเอง...

    ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นจุดมุ่งหมายของชีวิตผู้คนบนโลกของ”ความเป็นคู่”
    ที่ประสบการณ์ของจิตวิญญาณต้องต่อสู้กับความเป็นทวิภาวะ...
    แต่อย่างไรก็ตาม....
    พวกเขาก็ยังคงจดจำสาระสำคัญในหลักของ”ความรัก”
    และแสงสว่างภายในของพวกเขาได้เป็นอย่างดี...



    Until next week…
    I AM Hilarion


    ©2014 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of Grace
    Permission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety
    and nothing has been changed, or altered in any way and Scribe's credit, copyright and websites are included.
    WELCOME! - The Rainbow Scribe
    MOVING INTO LUMINOSITY
    Thank you for including the above website link when posting this message.
     
  17. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=CGTLHlL0OOg]เก็บอยู่ในหัวใจ (MV Special Edition) - YouTube[/ame]
     
  18. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    ถ้าเรามีความรักกับเพศเดียวกันจะต้องเป็น "เกย์" ไหม?


    ถ้าคุณได้อ่านบทความต่างมิติและเข้าใจจริงๆ คุณจะเข้าใจว่า "ตัวตนเกย์"
    ที่สังคมหรือใครยัดเยียดให้คุณ เป็นแค่ตัวตนๆ หนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ต่างจาก
    ตัวตนคนไข้, หมอ, คุณพ่อที่ดี, คุณลูกที่ดี ฯลฯ มันคือตัวตน ที่ถูกสร้างมา
    จากมิติๆ หนึ่งเท่านั้น เมืื่อคุณยอมรับมัน เปิดรับมัน มันก็เชื่อมโยงกับคุณ?


    คนบางคน มีพลังงานเก่าที่เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน และเขาจะต้องชำระล้าง
    ร่วมกัน ดังนั้น หากเขาชำระล้างผ่านไฟ เช่น ยิงปืนไฟใส่กัน คงไม่ดีนักใช่
    ไหม? ดังนั้น การชำระล้างผ่านกาม อันเป็นธาตุน้ำ คือ "กามศักดิสิทธิ์" จึง
    ถูกเลือกให้เขาสองคนนั้น นั่นแหละ เหตุผลที่ว่า "ทำไมผู้ชายสองคนต้องมี
    กามหรือความรักกัน" เพื่อการชำระล้างพลังงานเก่า ที่โยงใยระหว่างกันเท่า
    นั้นเอง "ไม่ใช่ให้คุณไปเป็นตัวตน" หรือยึดเอาความเป็นเกย์ มาเป็นตัวตน!


    ถ้าคุณเข้าใจตรงนี้ คุณจะทราบว่าทำไม เราต้องพูดเรื่องตัวตนหลากมิติบ้าง
    การชำระล้างบ้าง, พลังงานเก่าบ้าง ฯลฯ และมันสามารถตอบโจทย์และให้
    ความกระจ่างในเรืื่องราวบนโลกที่ยากแก่การเข้าใจได้มากมาย (เช่น การมี
    กามในเพศเดียวกันเกิดขึ้นในโลกนี้) แต่ถ้าคุณยังเอาความเข้าใจอื่นๆ ที่ไม่
    ใช่ความเข้าใจอย่างแท้จริง เป็นความเข้าใจแบบลวกๆ เช่น พอเห็นผู้ชายมี
    รักกัน ก็เรียกง่ายๆ ว่า "เกย์" จบ แล้วก็ยัดเยียดตัวตนเกย์ใส่ให้พวกเขา มัน
    ก็ง่ายดีใช่ไหมละ? แต่มันไม่ทำให้เราเข้าใจอะไรได้จริงๆ หรอก ถ้าเรายังไม่
    เข้าใจเรื่องราวจากต่างมิติที่พยายามอธิบายถึงโครงสร้างต่างๆ อย่างละเอียด


    เรื่องนี้เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งของเรื่องราวที่ยุ่งยากอีกมากมายในโลกนี้ก็เท่านั้น
     
  19. ฅนล้านนา

    ฅนล้านนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +1,000
  20. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    การพลีกาม จะไม่ใช่แบบนี้น่ะสิครับ


    เช่น อาจมีกระเทยน่าเกลียด มาตามตื้อหรือจะมีกามกับเราให้ได้
    เราเห็นแล้วว่ามีกรรมผูกพันกันจริง แต่เราไม่ต้องการเลย ก็เพราะ
    เราไม่ได้คิดอะไรกับเขาจริงๆ แล้วเขายิ่งจะเล่นงานเราหนัก ป่วน
    ชีวิตเราตามก่อกวน อะไรแบบนั้น


    แบบนี้ เข้าข่ายเราต้องปล่อยตามวิบากกรรม "ยอมพลีกาม"


    คือ ยอมปล่อยให้เขาทำไป แต่เราก็ต้องหาช่องทางที่จะเอาตัว
    รอดเท่าที่จะสามารถทำได้ บางที เขาอาจจะมีกามไม่มาก แล้ว
    ก็ยอมปล่อยเราไป ก็นับว่าจบไป นี่คือ เคลียร์พลังงานเก่าแล้ว
    ก็คือ เราไม่ได้ไปทำกรรมให้ได้มาไงครับ แต่เราเป็นเหยื่อแล้ว
    เราก็ยอมอย่างมีสติ ระวังและเอาตัวรอดให้ได้เมื่อมีช่องทางก็
    คือ ยอมที่จะให้เขาได้ไปบ้าง อย่างที่เขาต้องการ (กามน่ะ)


    อันนี้แหละ ที่ผมนับเป็น "กามศักดิสิทธิ์"
     

แชร์หน้านี้

Loading...