เมืองบังบด

เคยนอนรอพ่อแม่กลับบ้านในฤดูทำนาค่ะ
เราจะนอนเล่นรอตรงแถวทางเกวียนเก่า
เพราะตรงนั้นเป็นดินทรายเย็นดีก็เลยชอบเผลอหลับไปได้ยินเีสียงร้องเรียกให้ปล่อยวัวออกคอก. เสียงเหมือนวัวลากเกวียนบ้าง เสียงกระดิ่งห้อยคอวัว บ้างก็มีเสียงเด็กร้องไห้ เสียงจอกแจก จอแจ เหมือนเป็นหมู่บ้านนึงได้ยินเสียงไล่วัวเข้าคอก เสียงเด็กร้อง เสียงทำกับข้าว แปลกมากค่ะ เหมือนว่ามีเมืองอีกเมืองหนึ่ง ซ้อนอยู่กับมิติปัจจุบันของเรา ถามคนแก่คนเฒ่าดูท่านว่าเมืองบังบดค่ะชาวลับแล บังบด ว่ากันว่าเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชา ชั้นต่ำสุด อยู่ใกล้ชิดกับคนมาก เรียกว่า คนธรรพ์ก็มี ซึ่งแบ่งเป็นหลายๆชั้น อยู่ตามต้นไม้ ป่าเขาลำเนาไพร ในถ้ำคูหา ทุกที่ทุกแห่ง บางแห่งว่าเป็นรุกขเทวดาอยู่ตามต้นไม้ เกิดจากบุญที่ถวายของหอมแก่พระ จึงไปเกิดที่ต้นไม้ที่มีเปลือกหอม แก่นหอม ดอกหอม กิ่งใบหอม ฯลฯ รูปร่างเหมือนคน หน้าตาสวยงาม เดินเท้าไม่ติดดิน แปลงตัวได้ หายตัวได้ ศีลดีกว่าคนส่วนใหญ่ ถือสัจจะเป็นสำคัญ ทำมาหากิน มีบ้านเรือน มีครอบครัวลูกเมียแบบคน มีโรงพยาบาล มหาวิทยาลัย อะไรๆคล้ายๆคน

 

เป็นไปได้ครับ

 

ถ้ามีอยู่จริงก็แปลกดีนะค่ะ

 

เขตบริเวณของเค้าสังเกตุง่ายๆคือ ขนาดต้นไม้มันจะเท่าๆกันครับ
ไม่ใหญ่มากดูแล้วประมาณเส้นผ่านศูนย์กลางซักฟุตหนึ่งได้
ถ้ากรณีเราหลงเข้าไปนะครับนอกจากเห็นต้นไม้
จะมีลานหญ้าโล่งๆด้วยครับ.แต่ถ้าเราเดินเข้าไปจะเป็นทางดิน
กว้างประมาณ ๒ เมตรจะมีต้นหญ้าสูงเท่าๆกันประมาณเมตรกว่าๆ
อยู่ ๒ ข้างทางดูคล้ายๆกัน.บางเขตเราเดินไปจะเหมือนเดินบนควัน
.เท่าที่เคยคุยกับคนที่เคยไปมาที่เป็น ญ เค้าเห็นแต่ผู้ชาย แต่งตัวตัวดี
ครับหน้าตาออกกลมๆดูเนียบๆสะอาดๆหน่อย
ชอบพูดจาดีหว่านล้อมเหมือนจะให้อยู่ด้วย.
.ส่วนที่เป็น ช ที่เคยไปจะเห็นแต่ ญ แต่งชุดขาว
แบบหลวมๆหน่อยเป็นเสื้อขาวกับกางเกงขาวนะครับ
ส่วนตัวมาวิเคราะห์ว่าอาจเป็นส่วนหนึ่งที่มีคนเคย
หลงไปติดอยู่ที่นั่นนะครับเพราะเรื่องนี้หละ.
และผมของ ญ เหมือนไม่หวีปล่อยเป็นธรรมชาติหน้าตาเหมือน
เราๆนี่หละครับแต่ออกแนวน่ารัก มีบ้านอยู่นะครับ.แต่รายละเอียดส่วน
อื่นๆไม่ทราบครับ.ต้องลองถามคนที่ชอบสายการท่อง
เที่ยวแบบไม่เสียค่าเดินทางดูครับ.
ปล.ฟังหูไว้หูนะครับ.

 

เพิ่งเคยได้ยิน รู้จักแต่เมืองลับแลค่ะ

 

เหมือนกัน ภาษาคนละท้องถิ่น

 

เสียงกระดิ่งวัวดังๆๆๆๆกรุ๋งกริ๊งๆๆๆๆคล้ายๆๆขบวนวัวควายเข้าหมู่บ้านพร้อมๆๆกันหลายๆตัวช่วงค่ำ แถบชนบทเลยค่ะ

 

ไม่แปลกหรอกค่ะ มิติซ้อนมิติมีอยู่ทุกที่ เมื่อใดที่คลื่นจิตตรงกันก็จะสัมผัสรับรู้ได้ค่ะ

 

ขอแชร์แล้วกันครับ ว่าเมืองบังบดไม่ใช่สวรรค์ชั้นหนึ่งครับ เพราะว่า สวรรค์ชั้นหนึ่งนั้นผู้คนต้องได้รับพรครบสิบประการครับ คือมีความเป็นทิพย์เมื่อแรกจุติครบสิบประการครับ และสวรรค์ชั้นหนึ่งจะมีรอยต่อของระหว่างภพภูมิไม่ได้ใกล้ชิดกับภพภูมิของมนุษย์ครับ ทำให้ยากที่จะไปเยือนสวรรค์นั้นได้ครับ

 

เมืองบังบด เป็นมิติที่ซ้อนอยู่กับโลกที่เราอยู่กันนี่แหละค่ะ และเป็นเมืองหน้าด่านของบาดาลพิภพค่ะ ซึ่งบาดาลพิภพนี้ในไตรภูมิพระร่วงระบุว่าอยู่ลึกลงไปใต้ดินเป็นโยชน์ๆ คงไม่ใช่สวรรค์ชั้น 1 แน่นอนค่ะ

 

ข้อมูลแตกต่างที่มาเยอะดีค่ะ ทำให้ได้ความรู้เพิ่มเติมค่ะ

 

ส่วนพรสิบประการ ที่คุณคุรุวาโรกล่าวถึงนั้น มีดังนี้ค่ะ
1. อายุทิพย์
2. วรรณทิพย์
3. สุขทิพย์
4. ยศทิพย์
5. อธิปไตยทิพย์
6. รูปทิพย์
7. เสียงทิพย์
8. กลิ่นทิพย์
9. รสทิพย์ และ
10.โผฏฐัพพทิพย์
เมื่อได้รับพรสิบประการนี้แล้ว ไปอุบัติบนสวรรค์ คงไม่มาเลี้ยงวัวมั้งคะ
เอ๊ะ...หรือว่าเทวดานางฟ้า นึกสนุก แปลงกายมาเป็นคนเลี้ยงวัวหนอ?

 

แปลกนะค่ะ เคยอ่านเรื่องราวเมืองบังบดแถบจ.อุดร คล้ายๆๆเรื่องของเรามากเลยค่ะ
หลวงพ่อบอกได้ยินเสียงเหมือนคนเลี้ยงสัตว์ กระดิ่งสัตว์ อะไรประมาณคล้ายๆเรื่องของเราเลยค่ะ

 

ขอค้านเรื่องสัตว์ไม่กลัวผีนิดหนึ่งนะค่ะ เพราะว่าเราเกิดในครอบครัวเกษตร.. .ทางที่วัว ควายเดินผ่านแถบที่มีสิ่งเร้นลับซ่อนอยู่เขาจะมีสัมผัสเร็วกว่ามนุษย์อีกนะค่ะ ควายที่เลี้ยงไว้นี่วิ่งตกใจกลัวกลับบ้าน..ซะจนเจ้าของวิ่งตามแทบไม่ทันเลยค่ะ
ถ้าไม่จำเป็นจริงๆไม่อยากพาเขากลับบ้านช่วงมืดๆเลยค่ะ

 

เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์
เวลาผีมา หมาแมววิ่งมาหลบหลังผมกันหมด
พึ่งพาอะไรไม่ได้เลย

 

อันนี้ยืนยันเคยเจอเหมือนกันครับ สมัยเด็กเลี้ยงวัวแล้วต้องต้อนวัวตามทางผ่านป่าช้า จำได้ว่าตอนนั้นลูกพี่ลูกน้องเพิ่งตายไม่นานและถูกฝังที่ป่าช้า ตอนค่ำๆต้อนวัวกลับบ้านผ่านป่าช้า แล้วมันตกใจตื่นทั้งฝูงวิ่งเตลิดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเหมือนตกใจหรือมีอะไรมาไล่ต้อน กลัวมากเพราะตอนนั้นยังเด็กอยู่:boo:

 

ค่ะเมื่อก่อนบางทีถ้าไม่วิ่งก็ไม่ยอมเดินเอาซะดื้อๆเลยค่ะช่วงทุ่มถึงสองทุ่มตรงทางที่กลับบ้านจากทุ่งนาต้องผ่านต้นมะขามยักษ์บางทีมีแสงแปลกๆลอยเข้าไปในต้นขาม วัว ควายนี่ บางทีไม่ยอมเดินเหมือนตกใจอะไรสักอย่างมากๆ. หรือบางครั้งก็วิ่งซะหางตั้ง พลอยทำให้เรากลัวไปด้วยเลยค่ะ

 

ค่ะ....มันพากันวิ่งก่อนเราอีก.เราตามแทบไม่ทันเลยค่ะ

 

เหมือนที่ท่านเจ้าของกระทู้พูดถูกแล้วครับ ชาวบังบดคือภุมมเทวาสายคนธรรพ์ มีชีวิตความเป็นอยู่เรียบง่ายเหมือนมนุษย์ ชอบทำบุญ แต่ตอนเป็นมนุษย์ทำบุญตามประเพณีบ่าง ใครชวนทำก้อทำ ตามเรื่องตามราว ใส่ซอง20 30 100 บ่าง บุญดังกล่าวจึงไม่มากพอจะไปสวรรค์ชั้นสูงได้ครับ

พวกนี้รักสงบ ชอบดนตรีการละเล่น ตามวิสัยคนธรรพ์ บางที่เลยได้ยินเสียงดนตรีในวันพระลอยตามสายลม ต่างจากพวกสายยักษ์ ที่ชอบใช่ฤทธิ์ปะลองกำลังกัน ไม่ค่อยสงบ ตามวิสัยยักษ์ เช่นหมู่บ้านที่มีผีปอบผีแม่หม้ายทั้งหลายแหล่ ชอบแกล้งคนทรงคน ถ้าใครมีกรรมมากก้อจะโดนเอาวิญญาณไปเป็นพวกได้

ถือว่าอยู่ในสวรรค์ชั้น1ครับ เพราะว่าสายการปกครองโดย ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ แต่เป็นพวกระดับต่ำสุด(มี3ระดับ ภุมมเทวา รุขเทวา อากาศเทวา) เพราะยังอยู่ในโลกอยู่เลย

ต่างกับพวกที่อยู่ในป่าหิมพาน และเชิงเขาสุเมรู (เขาสุเมรุอยูกึ่งกลางจักรวาล) โดยเฉพาะที่อยู่ในเมืองนครเทพเชิงเขาสุเมรุ พวกนั้นถึงจะมีความเป็นทิพย์ โดยสมบูรณ์ครับ ขอบคุณครับ

 

สวรรค์ชั้น 1 ชั้น 2 หรือ First class ยังงัยผมไม่รู้และก็ไม่สนใจด้วย เรื่อง เมืองบังบด หรือ เมืองลับแล ที่เจ้าของกระทู้กล่าวมา มันก็คือภูมิที่ซ้อนกันอยู่ บ้างจะบอกว่าเป็นสรรค์ ก็ไม่แน่ บ้างบอกว่าเป็นเมืองผี ก็น่าจะใช้ ต้นเหตุที่เกิดหมู่บ้านที่เจ้าของกระทู้พบเจอ บ้างเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ แต่เกิดเหตุให้มีการตายทั้งหมู่บ้าน ก็มี เช่น โรคห่า น้ำท่วม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรือ สงคราม ฆ่าแกงกัน คนที่รอดก็หนีไปที่อื่น คนที่ตายก็ตายอยู่ตรงนั้นทำให้ทั้งคนและสัตว์ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ตายๆกันทีละมากๆ ก็ยังอยู่ตรงนั้น ยังคงทำกิจกรรมเหมือนเดิม พวกนี้บุญ-บาปไม่ถึง อายุขัยไม่ถึง ก็ยังคงทำเหมือนเดิม เหมือนตอนมีชีวิต พลังงานยังไม่สูญหาย บ้านเรือนที่พังไป แต่ความทรงจำ และสภาพในจิต มันยังคงเห็นพลังงานเดิม ที่มีอยู่ ก็สร้างสิ่งเหล่านั้นให้เกิดขึ้น ให้เป็นไปตามปกติ มันไม่น่าแปลกใจ หากเจ้าของกระทู้ไปอยู่ ณ ที่ตรงนั้น ระดับพลังงานของจิตตกอยู่ในสภาวะระดับเดียวกันจะสัมผัสได้ สมัยนี้ คนบางคนยังเห็นทหารญี่ปุ่นเดินสวนสนาม ยังคอยคุมพวกเชลยศึก สร้างทางรถไฟ ที่เมืองกาญเลย ทั้งๆที่มันสร้างเสร็จไปนานแล้ว แถมอังกฤษก็รื้อไป 90% สมัยหลังสงครามโลกแล้ว ลองแผ่เมตตาให้พวกนี้ดูสิ แล้วเค้าจะงงๆเมื่อได้รับพลังงาน ดีไม่ดีจะมาหาคุณทั้งหมู่บ้านเลย คล้ายๆพวกบังบดของทางอีสานนั่นแหละ พวกนี้คล้ายคนนะครับ บางทีก็ย้ายที่อยู่ ย้ายเมืองกัน ประมาณว่าอยู่อีกที่นี่ไม่ดี ไม่สบาย มนุษย์ผิดศีล กระแสพลังงานทางลบ อยู่แล้วแย่ ก็อพยพย้ายกันไปอยู่ในที่ดีๆ ที่ๆอยู่แล้วเย็น สุขใจ จนจะถึงเวลาตายจากภูมินั้นก็มี