อย่าถือมงคลตื่นข่าว

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย eg_billusion, 18 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. eg_billusion

    eg_billusion Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +29
    ขอให้ทุกท่านมีสติ พิจารณาให้ดี เราเชื่อพระพุทธเจ้าใช่มั้ย แต่สิ่งที่สังคมทำอยู่วันนี้คืออะไร พระพุทธเจ้าสอนให้เราเป็นคนรักกันใช่มั้ย บางครั้งสิ่งที่มันกระทบดูเหมือนไม่ยุติธรรมสำหรับเรา เราไม่เห็นด้วย แต่เราเลือกทำในสิ่งที่ถูกได้ อย่าทำเพียงเพราะความสะใจ เพราะฉะนั้นเท่ากับคุณเริ่มทำอกุศกรรมแล้ว ข้าพเจ้าเชื่อในการทำดี ได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แม้ว่าตอนนี้ข้าพเจ้าจะโดยอกุศลกรรมเข้าก็ตามที

    การถือมงคลตื่นข่าวเป็นวิสัยของ<WBR>ปุถุชน อย่างที่โบราณบอกไว้ว่า ตื่นวัวตื่นควายพอรั้งได้ ตื่นคนรั้งไม่ไหว อันนี้พระพุทธเจ้าท่านบอกไว้ว่า<WBR> บุคคลที่เริ่มเข้าถึงความเป็นพร<WBR>ะโสดาบันจะไม่ถือมงคลตื่นข่าว คือกำลังใจเขาปักมั่นกับพระรัตน<WBR>ตรัยที่เป็นคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จริงๆ จะยึดในตัวธรรมะ ยึดในตัวคุณพระรัตนตรัยที่เป็นส<WBR>่วนของนามธรรม จะไม่ยึดตัวบุคคล ...ตัวบุคคลท่านก็ให้ความเคารพบูชา<WBR> กราบไหว้บูชาตามปกติ แบบเดียวกับหลวงพ่อวัดท่าซุงท่า<WBR>น ถึงเวลาท่านบอกว่าพระองค์นั้นดี<WBR>พระองค์นี้ดีให้ไปหา ไปกราบไปทำบุญไปขอข้อธรรมของท่า<WBR>นมา แต่จริงๆ ยังยึดหลวงพ่อเป็นหลักแน่นแฟ้นอ<WBR>ยู่ในใจของเรา ไม่ได้ไหลตามเขาไป

    การถือมงคลนี้มันก็แย่เหมือนกัน<WBR> ไม่กี่วันก่อนแห่ไปขอหวยแม่พวงก<WBR>ันซะจนผีนอนหลับหรือเปล่าก็ไม่ร<WBR>ู้ นั่นแหละตื่นข่าวคนตายไปตั้งนาน<WBR>แล้ว การตื่นข่าวมีทั้งดีและไม่ดีคือ<WBR>ถ้าเข้าไปในสถานที่ดีที่ถูกต้อง<WBR>มันก็เป็นคุณแ่ก่ตัวเขา ถ้าไปในสถานที่ที่เขาหลอกลวงหวั<WBR>งจะเอาประโยชน์จะเอาอะไรจะพลอยเ<WBR>สียไปเลย...ลำบาก

    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมิถุนายน ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
     
  2. eg_billusion

    eg_billusion Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +29
    คำว่า มงคลตื่นข่าว (ตามความเห็นของข้าพเจ้า)

    คือ การตื่นตระหนกต่อข่าวที่ได้รับ ข่าวลือ แล้วก็ทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูม ไม่ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนก่อน ว่าข่าวที่ได้รับ ผู้พูดต้องการอะไร พูดด้วยอารมณ์โกรธ หรือหวังประโยชน์อะไรกันแน่ ตอบแบบไม่มีอคตินะ

    หลายคนก็คงจะดูละคร เวลา ตัวโกง หรือ ตัวอิจฉา กำลังเป่าหูพระเอกหรือนางเอกอยู่ เราเป็นคนดู ตอบไม่ลำเอียง เรารู้ว่าเอ่อ นี่มันตัวโกงกำลังเป่าหูใส่ร้ายอยู่นิน่า แต่พระเอกรู้มั้ย ก็ไม่รู้ เพราะกำลังโกรธอยู่ หรือกำลังหลงเชื่อตามเรื่องที่ได้ยิน หรือตาเห็นแบบผิดๆมาอยู่ และพระเอกก็คิดว่าตัวฉันนี่ละฉลาด แล้วเราก็คิดว่าทำไมพระเอานี่มันโง่จัง กว่าพระเอกจะรู้ความจริง จะต้องพบกับความสูญเสีย เฮ้อ ชีวิตจริงก็มาจากละครแหละ ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน จะได้ไม่เป็นเหยี่ยของคนที่ต้องการใช้ประโยชน์จากเรา
     
  3. eg_billusion

    eg_billusion Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +29
    พรหมวิหาร4 ไง (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา)
     
  4. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    กิจที่คนฉลาดในสิ่งที่มีประโยชน์ และมุ่งหมายจะบรรลุทางสงบ จะพึงทำคือ เป็นคนกล้า เป็นคนซื่อ เป็นคนตรง ว่าง่าย อ่อนโยน ไม่เย่อหยิ่ง เป็นผู้สันโดษ เลี้ยงง่าย มีภาระกิจน้อย คล่องตัว ระมัดระวังการแสดงออก รู้ตัว ไม่คะนอง ไม่คลุกคลีในตระกูลทั้งหลาย ไม่ประพฤติสิ่งที่วิญญูชนตำหนิติเตียนได้ พึงแผ่เมตตาจิต ว่าขอสัตว์ทั้งปวงจงมีความสุขกายสบายใจ มีความเกษมสำราญเถิด

    ขอ สัตว์ทั้งหลายบรรดามี ที่เป็นสัตว์ตัวอ่อน หรือตัวแข็งก็ตาม เป็นสัตว์มีลำตัวยาวหรือลำตัวใหญ่ก็ตาม มีลำตัวปานกลางหรือตัวสั้นก็ตาม ตัวเล็กหรือตัวโตก็ตาม ที่มองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ตาม ที่อยู่ไกลหรืออยู่ใกล้ก็ตาม ที่เกิดแล้วหรือกำลังหาที่เกิดอยู่ก็ตาม ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงนั้นจงสุขกายสบายใจเถิด

    บุคคลไม่พึงหลอกลวงผู้อื่น ไม่ควรดูหมิ่นเหยียดหยามใครๆ ใม่ควรมุ่งร้ายต่อกันและกัน เพราะมีความขุ่นเคืองโกรธแค้นกัน

    คนเราพึงแผ่ความรักความเมตตา ไปยังสัตว์ทั้งหลาย หาประมาณมิได้ ดุจดังมารดาถนอมและปกป้องบุตรสุดที่รักคนเดียวด้วยชีวิต ฉะนั้น

    พึง แผ่เมตตาจิตไปไม่มีขอบเขต ไม่คิดผูกเวร ไม่เป็นศัตรู อันหาประมาณไม่ได้ ไปยังสัตว์โลกทั้งปวงทั่วทุกสารทิศ ผู้เจริญเมตตาจิตนั้น จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน ตลอดเวลา ที่ตนยังตื่นอยู่ พึงตั้งสติอันประกอบด้วยเมตตานี้ให้มั่นไว้ บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวว่า การอยู่ด้วยเมตตานี้เป็นพรหมวิหาร ท่านผู้เจริญเมตตาจิตที่ละความเห็นผิดแล้ว มีศีล มีความเห็นชอบ ขจัดความใคร่ในกามได้ ก็จะไม่กลับมาเกิดอีกเป็นแน่แท้ (พุทธะ/กรณียเมตสูตร)

    -------------------------------------------
    ความรักที่ไม่มีราคะ+ความยึดมั่นว่าเรา ของเรา ตัวตนของเรา = เมตตา

    รักที่คุณ eg billusion กล่าวถึงคือ เมตตา
    ส่วนรักในพระสูตรที่คุณโลโปอ้างถึง คือ รักด้วยความยึดมั่น

    ขอให้เจริญในธรรมครับ




     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 กุมภาพันธ์ 2014
  5. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ...ผู้เจริญเมตตาย่อมเห็นชอบว่า ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวรมีความปลอดโปร่ง มีสุขเถิด ดังนี้
    เมตตาเจโตวิมุติเป็นอันอบรมแล้วด้วยสัมมาทิฐิ

    ผู้เจริญเมตตาย่อมดำริโดยชอบว่า ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร ... ดังนี้
    เมตตาเจโตวิมุติ เป็นอันอบรมแล้วด้วยสัมมาสังกัปปะ

    ผู้เจริญเมตตาย่อมกำหนดโดยชอบว่า ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร ... ดังนี้
    เมตตาเจโตวิมุติเป็นอันอบรมแล้วด้วยสัมมาวาจา

    ผู้เจริญเมตตาย่อมตั้งการงานไว้โดยชอบว่า ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร ... ดังนี้
    เมตตาเจโตวิมุติเป็นอันอบรมแล้วด้วยสัมมากัมมันตะ

    ผู้เจริญเมตตาย่อมชำระอาชีพให้ขาวผ่องโดยชอบว่า ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร ... ดังนี้
    เมตตาเจโตวิมุติเป็นอันอบรมแล้วด้วยสัมมาอาชีวะ

    ผู้เจริญเมตตาย่อมประคองความเพียรไว้โดยชอบว่า ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร ... ดังนี้
    เมตตาเจโตวิมุติเป็นอันอบรมแล้วด้วยสัมมาวายามะ

    ผู้เจริญเมตตาย่อมตั้งสติไว้โดยชอบว่า ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร ... ดังนี้
    เมตตาเจโตวิมุติเป็นอันอบรมแล้วด้วยสัมมาสติ

    ผู้เจริญเมตตาย่อมตั้งไว้โดยชอบว่า ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร
    มีความปลอดโปร่ง มีความสุขเถิด ดังนี้ เมตตาเจโตวิมุติเป็นอันอบรมแล้วด้วยสัมมาสมาธิ

    องค์มรรค ๘ ประการนี้ เป็นอาเสวนะของเจโตวิมุติ
    บุคคลย่อมเสพเมตตาเจโตวิมุติด้วยองค์มรรค ๘ ประการนี้
    องค์มรรค ๘ ประการนี้ เป็นภาวนาของเมตตาเจโตวิมุติ
    บุคคลย่อมเจริญเมตตาเจโตวิมุติด้วยองค์มรรค ๘ ประการนี้
    องค์มรรค ๘ ประการนี้ เป็นพหุลีกรรมของเมตตาเจโตวิมุติ
    บุคคลย่อมทำให้มากซึ่งเมตตาเจโตวิมุติด้วย องค์มรรค ๘ประการนี้
    องค์มรรค ๘ ประการนี้ เป็นอลังการของเมตตาเจโตวิมุติ
    บุคคลย่อมประดับเมตตาเจโตวิมุติด้วยองค์มรรค ๘ ประการนี้
    องค์มรรค ๘ ประการนี้ เป็นบริขารของเมตตาเจโตวิมุติ
    บุคคลย่อมปรุงแต่งเมตตาเจโตวิมุติด้วยองค์มรรค ๘ประการนี้
    องค์มรรค ๘ ประการนี้ เป็นบริวารของเมตตาเจโตวิมุติ
    บุคคลย่อมห้อมล้อมเมตตาเจโตวิมุติด้วยดีด้วยองค์มรรค ๘ ประการนี้


    องค์มรรค ๘ ประการนี้ เป็นอาเสวนะ เป็นภาวนา เป็นพลีหุกรรม เป็นอลังการ เป็นบริขาร
    เป็นบริวาร เป็นความบริบูรณ์ เป็นสหรคต เป็นสหชาติ เป็นความเกี่ยวข้อง เป็นสัมปยุต
    เป็นความแล่นไป เป็นความผ่องใส เป็นความตั้งอยู่ด้วยดี เป็นความพ้นวิเศษ

    เมตตาเจโตวิมุติ อันบุคคลทำให้เป็นดังยาน
    ทำให้เป็นที่ตั้ง ตั้งไว้เนืองๆ สั่งสมแล้ว ปรารภดีแล้ว เจริญดีแล้ว
    อธิษฐานดีแล้ว ดำเนินขึ้นไปดีแล้ว พ้นวิเศษแล้ว ย่อมยังบุคคลนั้นให้ให้รุ่งเรือง ให้โชติช่วง
    ให้สว่างไสว...(พุทธะ/เมตตากถา)

    ------------------------------------
    เมตตาไม่ใช่การท่องบ่น
    และอำนาจของเมตตาก็มีผลเป็นอจินไตย

    ป.ล. พระพุทธเจ้าไม่สามารถทำให้สัตว์ทั้งหมดไปสวรรค์ได้ก็จริง
    แต่สัตว์ทีไปสู่สวรรค์ หรือบรรลุมรรคผลด้วยอำนาจเมตตาของพระพุทธเจ้านั้นก็มีจำนวนนับไม่ถ้วนเหมือนกัน

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 กุมภาพันธ์ 2014

แชร์หน้านี้

Loading...