ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ตรงนี้ สำคัญ คนที่รู้จัก บุญคุณ ของ ท่านผู้มีคุณ แก่ตน เป็นคุณธรรม พื้นฐาน ที่สำคัญ

ขาดไม่ได้ ทีเดียว
คนที่มีคุณธรรม ข้อนี้ ก็ OK
คนไหนไม่มี คุณธรรมข้อนี้
คบไม่ได้

มาขอเรียนวิชา ครูบาอาจารย์ ท่าน ก็ ห้ามสอน

แม้น มาเป็นเพื่อน ก็ คบยาก
หาก มี อ้ายหนุ่ม ที่นิสัยอย่างนี้ มาขอลุกสาว ท่านให้ เอาปืนลูกซอง ยิงไล่มัมไปไกลๆ ขืนรับมันไว้ในครอบครัว มีแต่จะให้ ความหดหู่ เศร้าหมอง หาความเจริญได้ยาก

...........................

เรื่องคนไม่รู้คุณคน

นี่...ย สมัยก่อน ก็ ไม่คิดอะไรมาก เจอ ก็ เฉยๆ คิดว่า ทำบุญ ไม่เลือกคน

คนจะดี ไม่ดี ก็ ช่างมัน สงเคราะห์ ได้ ก็ ช่วย มันไป

หาก เป็น การ ทำ แล้ว ก็ แล้ว กัน อย่างนั้น ก็ ไม่เป็นไร ... ถือว่า "ช่างหัวมัน"

แต่ ต้องมาพบ มาคบ เจอะ เจอ กัน อีก อย่างนี้ ไม่เอา นะ
จะเป็นการ หาเรื่องใส่ ตัว......


เจี๊ยป้า บ่อ สื่อ ( เสียงในฟิลม์ .......55 )

 

เรียนถามคุณหมอครับ
เรื่องของถั่งเช่าคัรบ สรรพคุณของตัวนี้ บำรุงอวัยวะสำคัญคือปอด ตับไต ได้ดี แต่ราคาแพง
อยากทราบสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณเทียบเท่าถั่งเช่ามีบ้างมัียครับ และถั่งเช่ากินนานเกิน10เดือนจะมีผลเสียมั๊ยครับ(กินเช้า500มก เย็น500มก)
ขอบคุณครับ

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะอาจารย์สุวิ ขอให้อาจารย์สุขภาพแข็งแร็งและขอให้ครอบครัวอาจารย์มีความ
สุขมากๆนะคะ

 

เมื่อหลายวันก่อนมีข้อความหลังไมค์จาก คุณ Jasmin99999 ได้เขียนเข้ามาขออนุญาตขอคำอธิษฐานจิตของดิฉัน ซึ่งดิฉันได้ใส่ไว้ที่ท้ายกระทู้นี้แนบแทบทุกครั้งที่ดิฉันนำเรืองราวมาเขียน


เธอขอนำคำถวายบูชาที่ดิฉันใช้อยู่ไปเผยแพร่ที่อื่น ซึ่งแต่เดิมก็มีคนเขียนเข้ามาขอไปเป็นคำอธิษฐานจิตของตัวเอง เฉพาะตนเอง ไม่ได้นำไปเผยแผ่ในที่สาธารณะอะนะคะ ดิฉันก็ยินดีค่ะ

แต่ทว่า...

ดิฉันจำต้องขอให้ผู้ที่จะเอาไปเผยแผ่ผ่านสาธารณะอื่นๆ ต่อๆ ไป ทั้งหลายกรุณาช่วยตัดทำว่า "สังฆราชราชา" ออกไปอะนะคะ

หลายท่านที่เคยอ่านคำอธิษฐานของดิฉันอย่างพินิจพิเคราะห์ และถึงขนาดแปลตีความ (อย่างที่เวลาสวดมนต์ทำวัตรเช้า วัตรเย็น เราก็มีการอ่านคำแปลของบทสวดด้วยชิมิคะ?) เช่นกันค่ะ หากใครอ่านอย่างพิเคราะห์แล้ว ก็อาจสงสัยว่า สังฆราชราชาที่ดิฉันใส่ไว้ในคำบูชานี้คือผู้ใด...?



เพราะเหตุว่า มันเป็นคำที่อยู่นำคำก่อนคำทุกคำ แม้แต่ก่อนคำว่าพระปฐม และองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยซ้ำอะนะคะ



ดิฉันขอให้คุณ Jasmin99999 เธอตัดคำว่าองค์สังฆราชราชา ออกไป เพราะเหตุว่า เป็นคำอธิษฐานของดิฉัน(เฉพาะตัวเอง) ด้วยเหตุที่ว่าครูของตนเอง หมายความว่าตัวของดิฉันเองมีครู ที่นมัสการอยู่เฉพาะตัวหนะค่ะ

แต่นั้นไม่ได้หมายความว่า ดิฉันไม่ได้นมัสการพระพุทธเจ้า หนะคะ เพราะนมัสการพระปฐม พระพุทธเจ้า เป็นสะระณะของข้าเจ้า ในที่นี้แปลว่า นมัสการพระพุทธเจ้าแต่เพียงผู้เดียว ในความหมายของดิฉันจะแตกต่างจากคนอื่น ตรงที่ พระพุทธเจ้าเป็นไอดอล (เป็นตัวอย่างของการประพฤติปฏิบัตร) ของดิฉัน จะเปรียบไปก็เหมือนเราบ้าคน(ใคร) ที่ทำดี ปฏิบัตรดี สักคน เช่น นักข่าว สมเกีรติ อ่อนวิมล หรือหมอสุวิ เป็นต้น


ดังนั้นจึงต้องขออนุญาตเล่าย้อนไปว่า มันเกิดเหตุการณ์ที่ดิฉันจะเรียนวิชาจากครูที่เป็นพระในศาสนาพุทธไม่ได้ แต่เหมือนจะต้องเรียนผ่านท่านผู้นี้เท่านั้น(ในตอนนี้อะนะคะ) แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่ได้มีตัวอย่างที่ดีอย่างไอดอลหนะค่ะ งง ไหมคะเนี่ย

คำว่า สังฆราชราชา นี้ เป็นทั้งครู เป็นพ่อแม่ เป็นเพื่อน เป็นทุกสิ่ง ที่ติดมาตั้งแต่อดีตชาติปฐมกาลก็ว่าได้ อันเป็นเฉพาะตัวของดิฉันมาหนะค่ะ


ดังนั้นหากผู้ใด ท่านใด จะนำคำอธิษฐานจิตของดิฉันไปใช้ส่วนตนหรือเผยแผ่ ก็ให้ตัดคำดังกล่าวออกไป ยกเว้นบางท่านจะมีครูเดียวกับดิฉันก็เชิญนำไปใช้ได้ตามสะดวกค่ะ









ข้าพเจ้าขอถวายบูชาบุญนี้ แด่องค์สังฆราชราชา องค์พระปฐม องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า 28 พระองค์ องค์ปัจเจกพระพุทธเจ้า องค์พระอริยเจ้า และพระธรรมในพระพุทธภูมิ ทุกๆ พระองค์ และขอที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายบูชาบุญนี้แล้วนั้น จงแปลเปลี่ยนเป็นพลังบุญเติมเต็มมหาสมุทรแห่งบุญของข้าพเจ้าให้เพิ่มพูนยิ่งๆ ขึ้นไป และหนุนดวงของข้าพเจ้า ไม่ให้ตกต่ำในเรื่องการเงิน ขอให้ข้าพเจ้ามีเงินเหลือกินเหลือใช้ไม่ขัดสนเงินทอง เป็นพลังบุญหนุนเรื่องการงานของข้าพเจ้า ให้มีงานทำที่มั่นคง เป็นผู้ที่มีประโยชน์แก่ผู้ร่วมงานอยู่เสมอ และเป็นพลังบุญหนุนสุขภาพให้ไร้โรคภัยเบียดเบียน และได้รับความรัก ความเอ็นดู การใส่ใจจากมนุษย์ทั้งหลาย ให้ได้รับการดูแล ปกป้อง ได้รับความช่วยเหลือจากมนุษย์และอมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวงอยู่เสมอ ประหนึ่งข้าพเจ้าเป็นญาติสนิทในครอบครัวของพวกเขาทั้งหลาย ตลอดจนสิ้นอายุไขของข้าพเจ้าในชาตินี้เทอญฯ

 

ข้าเจ้ากลับมีความเห็นว่า ชั่งหัวมันก็ดีแล้วนะคะ สำบายใจแก่ตัวเราด้วยนะคะ เพราะ ผู้เรีียนรู้ไป หากเอาไปใช้ ก็เจริญไปไม่ได้ไกลอยู่แล้วหนะค่ะ เป็นธรรมชาติเลยนะคะคุรพี่ดาวทะเลทราย


ก็อย่างที่ข้าเจ้าเขียนอธิบายไว้ด้วยนั่นแหละ ว่าข้าเจ้าเรียนหนังสือจบ สอบเสร็จก็คือความรู้ครูไปในบัดดลทันที หาความเจริญมิได้ 555555555

ท่านทั่งหลายอย่าได้เอาตามอย่างดิฉันนะคะ

 

มีท่านใดทราบหรือไม่ครับ ท่านอาจารย์สุวิติดภาระกิจประการใด พอดีกระผมและคุณแม่ซึ่งทานยาของอาจารย์เป็นประจำ ยาได้หมดและแจ้งอาจารย์ไปทางข้อความ ปกติอาจารย์จะจัดส่งหรือตอบกลับมาไม่นาน ครั้งนี้เงียบหายนานผิดสังเกตุแอบเป็นห่วงอาจารย์ครับ

 

ติดราชการสงครามพิเศษครับ กำลังมั่วได้ใจเลย

พรุ่งนี้จัดส่งให้ครับ

 

อยากฟัง สงสัยเป็นหน่วย SEAL พิเศษ

 

ไว้เรื่องสงบกว่านี้จะเล่าให้ฟัง ในเรื่องเล่าตื่นนอนตอนสายๆ

งานนี้มีอุนตร้าแมนปรากฏตนด้วยนะ ไอ้ตัวที่มีเขานะ
ใน TV นี่มันเป็นพระเอกนะ แต่งานนี้ไหง กลายเป็นผู้ร้ายไปได้
มันเอา ชิบ มาติดตั้งในแกนสมองมนุษย์นะ
(อุ้ย...ว่าจะยังไม่เล่า ก็เผลอจนได้)

โชคดีมีคนเห็นหลายคน
หากหมอสุวิ เอามาพูดคนเดียวนี่ สงสัย ต้องย้ายนิเวศสถาน ไปอยู่ในศรีธีญญา แน่แน่นอน

แหะๆ ดาวทะเลทาย ช่วยเป็นพยานนะ หมอสุวิยังเป็นคนดีๆนา ยังไไม่ต้องย้ายบ้าน ไปอยู่ในศรีธัญญานา

 

อีกแล้วเหรอคะ ฮิตกันจัง T_T

 

พวกนั้นมันมีเยอะ ไม่จบไม่สิ้นหรอกครับ ทางสิ้นสุดมีอยู่ มีคนกำลังทำอยู่อย่างยากลำบาก

 

เป็นใครหรือที่หาญต่อกรกับพวกนี้

 

คุณหมอคะ หนูไปเจอสูตรรักษาซีสต์ที่เต้านมและมดลูกมา 2 สูตร ดังนี้ ค่ะ

1. นำถั่วแดง ครึ่ง กก. และข้าวเย็นเหนือ-ข้าวเย็นใต้ หนักอย่างละ 2 บาท มาต้มรวมกันแล้วกินแต่น้ำ จะช่วยทำความสะอาดระบบน้ำเหลือง ทำให้ซีสต์ฝ่อได้

2. ตำรับยา มดลูก (ดัดแปลงจากตำรับเดิมของ ดร.วุฒิ วุฒิธรรมเวช)
ว่านชักมดลูก 5 ส่วน
รากสามสิบ 2 ส่วน
ขมิ้นชัน 1 ส่วน
ขมิ้นอ้อย 1 ส่วน
มหาเมฆ 1 ส่วน
ทรหด 1 ส่วน
นางคำ 1 ส่วน

สรรพคุณ : แก้ก้อนเนื้อ-ซีสต์ในมดลูก ลดอาการนอนกรน ปวดประจำเดือน
มดลูกไม่เข้าอู่ กระชับช่องคลอด ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์

ขนาดและวิธีรับประทาน : บดเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอน ขนาดเท่าลูกประคำ
รับประทานครั้งละ 3-5 ลูกกลอน หรือตักยา 1 ช้อนชา ชงกับน้ำอุ่นค่อนแก้วกาแฟ
วันละ 2 ครั้ง ตื่นเช้า และหลังอาหารเย็น

ไม่ทราบว่าทั้งสองสูตรนี้สามารถใช้รักษาได้ผลจริงไหมคะ และจะกระทบต่อระบบอื่นๆ ในร่างกายหรือไม่

ตอนนี้หนูมีซีสต์ก้อนเล็กๆ ที่หน้าอก ข้างละ 6-7 ก้อน (Fibroadenoma)
ส่วนที่มดลูกก็ตรวจเจอเนื้องอก 2 ก้อน (subserous myoma) ซึ่งคุณหมอบอกว่าไม่อันตรายอะไร
ไม่ต้องกินยา (เพราะไม่มีอาการปวดท้องใดๆ) แต่ต้องไปอัลตราซาวด์ทุก 6 เดือน เพื่อสังเกตขนาดของเนื้องอก

เลยอยากลองทานสมุนไพรรักษาดูค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ

 

สูตรยารักษาหวัด



ในช่วงนี้อากาศเหมือนผีเข้า คือเดี๋ยวหนาวเย็น เดี๋ยวเริ่มจะร้อน พออีกพักก็กลับมาเย็นหนาวในช่วงค่ำคืนถึงเช้าอีก และเดี๋ยวก็ร้อนอีกแล้ว อากาศไม่แน่ไม่นอนเหมือนนิสัย อารมณ์คนเราไม่มีผิด



ข้าเจ้าบังเอิญได้อ่านเฟสบุ๊คข้อความจากเพื่อน และเกิดความสงสัยว่า ยาตัวนี้จะใช้ได้จริงรึไม่?


เพราะขึ้นชื่อว่า "หัวหอม" เป็นตัวยาสมุนไพร ที่ใช้ในการดูแลหวัดได้ มาแต่โบราณกาล แต่จะให้ได้ผลดีที่สุดเยี่ยงไร เหตุเพราะการปอกหัวหอม ไม่ใช่เล่นๆ เนื่องจากสาร จะมีสาร Syn-propanethial-S-oxide (C3H6OS) เซลล์ของหัวหอมถูกทำให้แตก (ด้วยการหั่น /ปอก) ก็จะระเหยเป็นไอออกมา จะไปทำให้ดวงตาระคายเคือง กลายเป็นน้ำตาไหลมาปกป้องดวงตาของเรา



ข้อความที่ข้าเจ้าได้รับจากเพื่อนทางเฟสบุ๊คมีดังนี้ :


"หวัดลงคอ คัดจมูก หนูดีคั้นน้ำหอมใหญ่สดๆ กินผสมน้ำผึ้ง เป๊กเดียวจมูกโล่งเลย ช่วยเรื่องคันคอด้วย สูตรของเพื่อนอิสราเอลค่ะ ใครอาการไม่ดี ลองทำดูนะคะ"



ความสงสัยนี้ได้ส่งต่อไปยังหมอสุวิ และข้าเจ้าได้รับคำตอบกลับให้เอามาเผยแผ่ได้ดังนี้ค่ะ


"หอมหัวใหญ่ ห้า ส่วน หอมหัวเล็ก(หอมแดง) หนึ่งส่วน คั้นน้ำ ผสมน้ำผึ้ง เจือเกลือไอโอดีน นิดหนึ่ง จิบแก้หวัดได้ดี"


ดังนี้แม้ยาตัวนี้จะรักษาโรคหวัดได้ แต่สำหรับผู่ที่บ้านท่านไม่มีเครื่องปั่นหรือเครื่องสกัด ก็อ่านข้ามๆ ไปได้นะคะ (รวมถึงตัวดิฉันเองด้วย) ถึงกระนั้นก็คงยังประโยชน์ต่อผู้ที่บ้านมีเครื่องอำนวยความสะดวก และผู้ที่ต้องการเลี่ยงการกินยาสังเคราะห์ทางการแพทย์ด้วยาสมุนไพรธรรมชาติค่ะ


อนึ่งข้าเจ้าขอเพิ่มเติมว่า เคยได้อ่านเจอข้าความว่า หัวหอมที่ดี ควรเป็นหัวหอมใหม่ หากเก็บไว้นาน มันจะดูดสารพิษจากรอบๆ ตัวมันเอามาไว้กับตัวเอง ดังนั้นหากต้องการให้ได้ผลดี ควรใช้หัวหอมใหม่ๆ จะดีกว่าที่เก็บไว้นานแล้วค่ะ

 

ชา กินได้กินดี แต่ควรเลือกเวลา


ยุคนี้เป็นยุคของ ชา กาแฟ ที่เราๆ นิยมบริโภคเป็นอย่างมากกว่าแต่ก่อน ก็มันหากินได้ง่ายมากอะจิ ทั้งอากาศบ้านเราส่วนใหญ่ร้อน ดังนั้น การดื่มเครื่องดื่มดับร้อนจึงนิยมมากขึ้นไปอีก


แต่....


ถ้าว่ากันเฉพาะเรื่องชา เชื่อหรือไม่ว่าชา สามารถแบ่งได้ด้วยว่า ควร/ไม่ควรกิน ก่อน หรือ หลังอาหาร


แปลกแต่จริงที่ได้รับคำยืนยันจากหมอสุวิ (แต่ข้าเจ้าดองเรื่องนี้เอาไว้นานแล้ว ไม่ได้เอามาเขียนบอกเล่าเก้าสิบกันสักที จนวันนี้นี่แหละค่ะ อิอิ)


ชาเขียวของโปรดปรานของข้าเจ้า ที่ช่วงก่อนบ้าดื่มมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชาเขียวปั่น ชาเขียวนมทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นเมจิชามัชชะ แลคตาซอลชาเขียว ฯลฯ รวมไปถึงดั้นด้นไปถึงแดนอาทิตย์อุทัย เพื่อไปยืนเลือกซื้อชาเขียวที่คนญี่ปุ่น แนะให้ว่า "ผมว่ายี่ห้อนี้ดีที่สุดสำหรับผมถ้าจะดื่มล่ะครับ" มาแล้วด้วยค่ะ (ยังอยู่ในลิ้นชักนี้เลย อิอิ อีกที)


สาเหตุไม่ใช่อยู่ดีๆ ข้าเจ้าก็ลุกขึ้นมา บ้า ดื่มชาเขียว แบบไม่รู้หัวรู้ท้ายนะคะ แต่เป็นเพราะ ครั้งแรกที่ข้าเจ้าได้ดื่มชาเขียว เป็นชาเขียวปั่นจากร้านขายเครื่องดื่มยี่ห้อดัง โลโก้คล้ายๆ นางเงือกสีเขียว นั่นแหละค่ะ และข้าเจ้าก็ไม่ได้จากสตางค์เอง แต่เพื่อนเธอเลี้ยงน้ำหนะค่ะ


และจะด้วยอะไรก็ตาม มันทำให้ข้าเจ้าวิ่งเข้าห้องน้ำไปปลดหนักข้าศีกได้อย่างสำบายในช่วงก่อนอาหารกลางวันของวันนั้นเล็กน้อย โอ้วจอร์จ มันยอดจุงเบย


นั่นเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ข้าเจ้าติดใจในชาเขียว และนึกไปว่า มันมีสรรพคุณที่ถูกโฉลกกับข้าเจ้ายิ่ง จากนั้นมาหลายปี ข้าเจ้ายังไม่มีปัญญาซื้อกินได้อีก แบบว่าเสียดายตังค์


จนกระทั่งบริษัทข้าเจ้าย้ายไปยังอีกตึกหนึ่ง ใต้ตึกนี้มีร้านขายเครื่องดื่ม ข้าเจ้าก็เลยลองสั่งชาเขียวปั่นขึ้นมาดื่ม เนื่องจากเห็นน้องๆ ออฟฟิศชอบสั่งมาดื่มกันค่ะ (เอาสักหน่อย) ราคาก็ไม่แพงเวอร์เกินไป


น้องๆ เขาจะชอบสั่งกันตอนประมาณบ่าย 3-4 โมงค่ะ หลังจากดื่มไปข้าเจ้าก็พบกับความสดชื่น หอมหวาน และติดดดด ชาเขียว แต่ก็แปลกใจมากว่า เหตุใดเวลาดื่มชาเขียวเข้าไปจนหมดแก้วสักพักแล้วจะหิวแบบหน้ามืดตาลาย อยากกินทุกอย่างที่ขวางหน้า ทั้งๆที่การดื่มน้ำปั่นแก้วใหญ่เช่นนั้น น่าจะทำให้อิ่มมิใช่รึ?


คำตอบที่ได้นี้มาจากคุณหมอสุวิเช่นเคยค่ะ และพบว่า การดื่มชาเขียวที่ถูกต้องแล้ว ควรดื่มก่อน หรือหลังอาหาร (ในช่วงเวลาดังกล่าวที่ข้าเจ้าดื่มไปนั่นแหละ) เป็นดีกว่าช่วงอื่นๆ


เหตุเพราะ ชาเขียว เป็นการตากใบชาให้แห้งค่ะ ไม่ได้ผ่านการอบเหมือน ชาจีน หรือชาที่นิยมขายใส่นมจะมีสีอิฐอย่างที่เราเรียกกันว่า ชาไทย


โอ้ววววว เป็นความรู้ที่พิศดารมากเลยค่ะ เพราะเพียงแค่การอบ จะทำให้สรรพคุณของชาเปลี่ยนไปได้เช่นนี้เชียวรึ?


ที่ต้องเอามาเขียนบอกเล่าเก้าสิบ ไม่ได้ต้องการจะเบียดเบียนผู้ค้าขายน้ำชา-กาแฟ/ ค้าใบชา ใดๆ นะคะ แต่อยากให้ทราบถึงความพิศดารของการ อบ กับการตากแห้ง ว่าสามารถเปลี่ยนธรรมชาติของอาหารได้ค่ะ


สรุปคือ หากชาใดที่เพียงแค่ตากแห้ง อันได้แก่ชาเขียวส่วนใหญ่ จะมีสรรพคุณในการช่วยย่อย จึงควรดื่มก่อนอาหาร หรือหลังอาหารไปแล้วมากๆ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ท้องอืดได้(ท่านว่าอย่างนั้น)


แต่หากเป็นชาที่ผ่านการอบให้แห้ง เช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นชาไทย ชายกล้อ/ไม่ยกล้อ ใดๆ ที่พวกเรานิยมดื่ม สามารถดื่มได้หลากเวลากว่า (หากไม่หนักน้ำตาล/นมข้นจนเกินไป จนกลายเป็นลืมไปแล้วว่า เราต้องการบริโภคตัวชา มากกว่าความหวานเกินพิกัดอันเป็นที่มาของน้ำหนักเกิน หนะค่ะ) เอวังฯ

 

สวัสดีค่ะ อาจารย์สุวิ ติดตามอ่านบทความย้อนหลังหลายวันแล้ว อ่านและก๊อปฯ ไว้อ่านภายหลังถึงหน้าที่ 25 เอง...วันนี้ได้ฤกษ์่ถาม
1.แฟนแก้วหูขวาทะลุ...จากการแคะหูค่ะ เป็นหลายปีแล้ว...ปัจจุบันนอนตะแคงขวาไม่ได้..นอนหงายก็ไม่ได้..นอนตะแคงซ้ายได้ท่าเดียว...เพราะจะเวียนหัวมาก
2.ปวดหัวข้างขวา(ข้างที่เป็น)ไปเอ็กซเรย์เห็นจุดดำ รักษากับทางโรงพยาบาลหมอบอกว่าจะเป็นมะเร็ง ให้ไป รพ.ราชวิถี...ปัจจุบันยังไม่ได้ไป...ปัจจุบันกินยาสมุนไพรทั่วไปและทำสมาธิควบคู่ไปด้วย...และไม่ได้รับยาทางโรงพยาบาลมา 2-3 ปีแล้ว(แต่อาการจะกำเริบเป็นบางครั้ง...แต่ไม่หายขาดแต่เวลาปวดจะปวดมากๆๆๆๆ)และมือข้างซ้ายชาชั่วคราวเป็นบางครั้ง...(ถ้าถืออะไรอยู่ก็จะหล่นจากมือทันที)
3.มีกระดูกงอกที่ข้อมือ...จะปวดข้อมือด้วย
4.เส้นเลือดปูดที่นิ้วมือ...ปวดมาก...หมอบอกว่าต้องผ่าตัดเท่านั้น(ปัจจุบันบีบๆ นวด ๆพอหายปวดไปวัน ๆ)
**มีวิธีรักษายังไงคะ...น่ากลัวจะเป็นโรคกรรมโรคเวร...(คิดเองค่ะ..แฮ่ๆ)ตามประวัติแม่และญาติ ๆ ฝ่ายเขาเป็นมะเร็งกันหลายคนค่ะ(เกี่ยวมั๊ยนาาาา)แล้วสมัยหนุ่มๆ เป็นคนโทสะรุนแรงด้วยค่ะ...คิดเยอะ..จึงเครียดเยอะ...เฮ้อ
อนุโมทนาบุญ....ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ....บุญน้อยมาเจออาจาย์ช้าแต่ก็ยังดีที่ยัุงได้เจอ...

 

สวัสดีค่ะอ.สุวิตั้งแต่ได้เจออาจารย์เมื่อวันที่28มกราคมที่ผ่านยังไม่มีโอกาสส่งข้อความมาหาอาจารย์เลย กอ่นอื่นขอบุญกลับเพื่อนสมาชิกทุกท่านกอ่นดิฉันได้รว่มทำบุญเข้ากุงทุนยากับอาจารย์500บาทและร่วมทำบุญสร้างพระที่วัดป่าไพรกังวารที่ชัยภูมิ(จำชื่อวัดไม่คอ่ยได้)500บาทขอให้เพื่อนอนุโมทนาบุญรว่มกันดว้ยค่ะ

ขอแจ้งข่าวอาจารย์ค่ะว่าหนูยังไม่รู้สึกดีขึ้เลยมีแต่เจริญอาหารจนพุงยอ้ยหมดแล้วเนี่ย
ดีขึ้นมาหนอ่ยคือตอนกลางคืนทำให้งว่งขึ้นกว่ากอ่นนิดนึง แต่ทอ้งยังไม่กะเตี้ยงเลยค่ะอาจารย์
หนูได้ไปหาพระอาจารย์รูปหนึ่งท่านบอกว่ายาอาจารย์นั้นมีพลังและได้บอกให้หนูเดินจงกลมดว้ยเพื่อจะได้ดีขึ้นยังไงหนูจะแจ้งอาจารย์เป็นระยะนะคะอาจารย์สวัสดีค่ะ

โยศิริ

 

อนุโมธนาบุญ ใน กุศล ที่ท่านได้ ทำดีแล้ว

เรื่องสุชภาพ
น่าจะ ออกกำลังกาย ประกอบ บ้าง สักหน่อย เพื่อให้ ร่างกาย สร้างพลังงาน สำรอง ไว้ ตาม กล้ามเนื้อ ต่างๆ

ผล จะทำให้ กระฉับกระเฉง ชึ้น

ลองทำแบบ ง่ายๆ ด้วยการ เดิน เป็นระยะทาง พอสมควร
1. เดินที่ไหน ก็ ได้ แม้น ฟุตบาท ทางเท้า หน้าบ้าน ก็ ได้

2. เดินให้ได้ ระยะทาง สัก 1-3 ก.ม. ( ใช้เวลา ไม่มาก ประมาณ 30นาทีถึง 1 ชั่วโมง) หรือมากกว่า นั้น ก็ดี

3. ระหว่างเดิน ให้ เดิน สบายๆ ไม่ต้องรีบเร่ง แบบ เดินชมนกชมไม้ ไป เรื่อยๆ
ได้ สมาธิ ไป ในตัว

4. แต่ อาจ สลับ กับ การ เดินเร็วบ้าง วิ่งบ้าง ช้าบ้าง ก็ ได้ ให้หัวใจ ได้ สูบฉีด เลือดลม เดินดี

4. ระหว่างเดิน ให้ มีสติ กับการเดิน เช่น
เดินริมถนน ให้ รู้ว่า เดิน อยู่ ริมถนน ไม่ ใจลอย หรือ ไป จดจ่อ อยู่ กับ อย่างอื่น ( เดี๋ยว สิบล้อ จะ หอบเอาไป ซะ.....55 )

5. มีสมาธิ ระดับปกติ ใช้ในชีวิต ประจำวันได้
คือ ไม่ใช่ว่า ทำสมาธิ จน ไม่รับรู้ สภาวะ ภายนอก รอบตัว
(ทำชึ้นขั้นนี้ ต้องนั่งอยุู่เฉยๆ ออกมา ทำกิจกรรม ไม่ได้ อันตราย อาจเดินตกหลุม ตกท่อ หรือ โดนสิบล้อ เฉี่ยวเอาไปกิน ได้)

6. หาก หาสถานที่ ที่มีต้นไม้ ใหญ่น้อย ได้ ยิ่งดี มาก
ได้รับพลัง จากท้องฟ้า ดิน สายลม แสงแดด ก้อนหินต้นไม้ ไป พร้อมๆ กัน


7. หากเคยเรียน เรื่อง การ เดินพลัง มาบ้าง ก็ ทำประกอบไป ด้วย จะได้ประโยชน์ ไป พร้อมๆ กัน

8. ช่วงเวลา ตอนไหน ก็ ได้ ขอให้ เดิน ก็ แล้ว กัน

ทำได้ เช่นนี้ สัก เดือน หนึ่ง น่าจะดี ขึ้น สุขภาพ ดี อาไร อาไร ก็ จะดี ตามมา



อโรคยา ปรมาลาภา

จงมี แต่ ท่านสมาชิก ทุกท่าน โดยทั่วหน้ากัน........

 

กราบเรียน คุณหมอสุวิครับ
ผมอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมและที่มาของยา และรูปร่างของยา เพื่อที่ผมจะไปจินตนาการได้ครับ
1. น้ำเขียวโลกุตตระ
2. ยามณีปัทเมศวร

หลังจากที่ผมได้รับยามาจากคุณหมอวันนั้น ผมรู้สึกขนลุกและเย็นๆภายใน ตอนนี้นั่งสมาธิแล้วตัวเลิกสั่นแล้วครับ รบกวนคุณหมอด้วยครับ

ขอบพระคุณมากครับ

 

ตอบ คุณ wawana

ขอย้ายคำตอบ ของท่านผู้นี้ไปที่ เรื่องเล่า ตื่นนอนตอนสายๆนะครับ หน้า 83

สรุปเรื่องทั้งหมด เป็นการฉ้อฉลในวิบากกรรม
มีทั้งเจ้ากรรมนายเวร ตัวจริง ตัวปลอมและเจ้าหน้าที่ สมรู้ร่วมคิดกัน ให้มั่วไปหมด

เฮ้อ.............โลกมนุษย์ โลกสวรรค์ ช่างเหมือนกันจริง