คำทำนายภัยพิบัติ อ.ทิพากร รินไธสงค์ จากปัจจุบัน ไปจนหลังสิ้นปี 2561

ก็เพราะว่ามีสติปัญญาอยู่เพียงแค่นี้

ขออนุญาตครับ

ผมจะถือว่า ที่ท่านเขียนมาท่านได้ใช้สติปัญญา จนสุดความสามารถแล้ว

ไปไล่อ่าน ไปไล่ดูเอาเองว่า ผมเขียนอะไรไว้ในเว็บนี้บ้าง

 

"การทำบุญให้ทานมีอานิสงส์มาก คนผู้มีการทำบุญให้ทาน ไปที่ไหนไม่อดอยากขาดแคลน ไปที่ไหนไม่อด เบิกกว้างไปตลอดเวลา เพื่อนฝูงก็มาก จิตใจของเราก็เบิกกว้างออกไป เกิดภพใดชาติใด ไม่มีคำว่าอัดอั้นตันใจด้วยความขาดแคลนในสิ่งที่จะนำมาเสวย นี่อำนาจแห่งทานนี่ละ เบิกๆออกไป ไปอยู่ในภพใดชาติใด ก็มีแต่อำนาจของทาน อำนาจของบุญกุศลที่เกิดขึ้นจากการให้ทานนี้ ให้เป็นเครื่องเสวย เป็นที่อยู่อาศัยสะดวกสบายไปตามๆกันหมด"

โดย หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน

----------------------------------------------------------

ผมว่าทำบุญทำทาน ทำแล้วดีครับ .. ไม่ต้องมากก็ได้ครับ ทำตามกำลังครับ

ดังนั้นงานบุญงานกุศลใหญ่ๆ อย่าเพิ่งไปคิดว่าต้องช่วยทำมากๆ ไปด้วย
เอาตามกำลังและเท่าที่สบายใจครับ ทำแล้วต้องสบายใจ ทำแล้วไม่สบายใจ
ไม่ต้องทำก็ได้ครับ อย่างเช่น เห็นงานบุญ เราทำ 10 บาท 20 บาท
ดีกว่าพลาดโอกาสไม่ได้ทำบุญเพราะคิดมากเกินไป

ทุกวันนี้เราหมดไป กับสิ่งภายนอกอื่นๆ ที่ไม่ใช่บุญไม่ใช่กุศลติดตัวไปชาติหน้า
ตั้งเยอะกว่านั้น เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่ากินเลี้ยง ค่าน้ำมัน
อย่างไรเสียได้ทำบุญเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำเอาเสียเลยครับ

ท้ายนี้ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านในการตั้งใจทำความดีครับ

 

ทำบุญน่ะดีแล้วครับ แต่ถ้าจะให้ดียิ่งๆขึ้นไป เราทำไปทำไป แล้วให้ชำเลืองดูใจตัวเราไปด้วย
จะได้ปัญญามาก นับเป็นโชคสองชั้นสามชั้นครับ ... ทำแล้วจิตใจผ่องใส สว่าง และชุ่มเย็นอันนี้แหล่ะดีมาก
นับเป็นบุญที่มีอานุภาพมาก สำหรับผู้ทำครับ แล้วน้อมพิจารณาต่อไปว่า"แม้อารมณ์ที่ชุ่มเย็นนี้
ก็ต้องดับไปตามเหตุตามผล" ...

บาป(อกุศล)เราไม่ทำเลย บุญ(กุศลทุกประเภท)เราเจริญให้ถึงพร้อม แล้วก็ทำความเข้าใจต่อไป
ให้เกิดเป็นปัญญา(ทำจิตให้ผ่องใส)ในท้ายที่สุด ใจจะมีอิสระมากทีเดียวครับ ปัญญาเราจะเข้มแข็งยิ่งๆขึ้นไป
และมีพระนิพพานเป็นอารมณ์ไปโดยตลอด ... ผมเองก็พยายามทำอยู่ครับ ...

อนุโมทนาในบุญกุศลทุกๆประเภท ที่ทุกๆท่านทำไปแล้วด้วยครับ

... ^^ ...

ปล. ทุกอย่างเป็นความเห็นส่วนตัวครับ

 

ก็ต้องขอตอบครับ ว่าการเชื่อมโยงแบบผิดๆ เป็น 1 ในอกุศลกรรมบท 10 อย่าง เพราะจัดเข้าข่ายพูด/แช็ทโกหกนั่นเอง และมีเพิ่มเติมอีกหนึ่งอย่างด้านล่างคือการพูด/แช็ทส่อเสียดตามคำตอบของท่านด้านล่าง

ฉะนั้นเราจะควรใช้วิจารณญาณในการรับชม/อ่านครับ...

ป.ล. ไม่ใช่ผมไม่สนับสนุนการทำทานนะครับ ทานเป็นสิ่งที่ต้องทำ ยิ่งท่านหยิบยื่นสิ่งที่ดีให้ผู้อื่นเท่าไร โลภะก็จะน้อยลงเท่านั้น และมานะ(ส่วนนึงของโมหะ) ก็จะลดลงตามครับ ระหว่างที่ให้ทานเจตสิกของท่านจะปรุงแต่งในทางเสริมสร้างบุญ จึงได้บุญครับ

 

บางอย่างเขียนได้ถูกใจเรานัก

 

คำทำนายเกี่ยวกับเรื่อง ยุคทมิฬ ถิ่นกาขาว ชาววิไล
ตามคำบรรยาย โดย พระมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

-------------

อาตมาได้พบและได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเป็นสมุดข่อย ซึ่งพระอรหันต์ในอดีตนามว่า พระพุทธโฆษาจารย์ (ลำใย) เขียนไว้ ทำนายชะตาบ้านเมืองก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะแตกเสียอิสรภาพแก่พม่า ก่อนที่กรุงเทพฯ ยังไม่ปรากฏ

โดยท่านได้เขียนทำนายไว้ว่า
“กรุงศรีอยุธยาจะต้องถูกข้าศึกตีแตก แจ่จะเสียอิสรภาพไม่นานนัก จะมีคนดีของกรุงศรี
อยุธยามากู้ชาติ แต่เมื่อกู้ชาติได้แล้วจะต้องไปตั้งเมืองหลวงอยู่ใหม่”

และเหตุการณ์ต่างๆ ของกรุงศรีอยุธยาก็ได้เป็นจริงตามคำทำนายทุกอย่าง

ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าทั้ง ๑๐ รัชกาล

ในสมุดข่อยเล่มเดียวกันนี้ พระพุทธโฆษาจารย์ได้กล่าวทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแก่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงใหม่ ในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแต่ละรัชกาลดังนี้

รัชกาลที่ ๑. ทำนายว่า มหากาฬผ่านมหายักษ์
รัชกาลที่ ๒. ทำนายว่า รู้จักธรรม
รัชกาลที่ ๓. ทำนายว่า จำต้องคิด
รัชกาลที่ ๔. ทำนายว่า สนิทธรรม
รัชกาลที่ ๕. ทำนายว่า จำแขนขาด
รัชกาลที่ ๖. ทำนายว่า ราษฎร์ราชาโจร
รัชกาลที่ ๗. ทำนายว่า นั่งทนทุกข์
รัชกาลที่ ๘. ทำนายว่า ยุคทมิฬ
รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว
รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล


ความแม่นยำของคำทำนาย

เมื่อพิจารณาถึงคำทำนายและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละรัชกาลก็จะเห็นได้ชัดว่า คำทำนายนั้นถูกต้องเพียงใด

รัชกาลที่ ๑. ผ่าน พระเจ้าตากสิน ขึ้นครองราชย์สมบัติ

รัชกาลที่ ๒. ท่านว่างจากศึกสงครามก็หันมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้พระสงฆ์ค้นคว้าพระธรรมวินัยรวบรวมกันเป็นการใหญ่

รัชกาลที่ ๓. ท่านมีหัวคิดริเริ่มหาเงินมาสร้างสรรค์บ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้

รัชกาลที่ ๔. ท่านสนิทธรรม ก็เพราะพระราชาองค์นี้ทรงผนวชถึง ๒๗ พรรษา มีความคล่องตัวในพระธรรมวินัย ทรงไว้ซึ่งพระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน และยังมีความสนิทสนมกับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) อย่างยิ่ง เป็นคู่บารมีกัน

รัชกาลที่ ๕. จำแขนขาด เราเห็นได้ชัดมาก เพราะเราต้องเสียดินแดนไปหลายครั้งหลายหน โดยพระองค์ทรงยอมเสียแขนขาดีกว่าเสียตัวทั้งหมด คือยอมเสียผืนแผ่นดินบางส่วน เพื่อรักษาเอกราชของชาติไว้

รัชกาลที่ ๖. เป็นโจร เพราะทรงใช้จ่ายเงินในท้องพระคลังจนหมดสิ้น แต่อาตมาเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นนักชาตินิยม มีพระปรีชาสามารถปลุกใจประชาชนให้รักชาติบ้านเมือง เช่นมีเพลงบทหนึ่งทรงพระนิพน์ไว้ว่า “ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำร่ำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย” ทรงเป็นนักประชาธิปไตย จึงได้ทำทุกอย่างให้บุคคลอื่นเห็นว่า พระองค์ไม่ทรงถือพระองค์ เช่น แสดงมหรสพ เล่นโขนกับข้าราชบริพาร

ยิ่งกว่านั้นพระองค์ยังสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่ปรากฏแก่ชาวโลก โดยส่งทหารไปช่วยสงครามโลกครั้งที่ ๑. จึงจำเป็นต้องใช้เงินมาก แม้จะใช้เงินมาก แต่ประโยชน์ก็เกิดแก่ประเทศชาติอย่างหนัก

รัชกาลที่ ๗. นั่งทนทุกข์ พระองค์เสวยราชสมบัติอยู่ในเกณฑ์ตกอับพอดี เงินในท้องพระคลังก็หมดมาแต่รัชกาลก่อน พระองค์จึงทรงประทับอยู่บนกองทุกข์ต้องดุลข้าราชการออกเป็นจำนวนมาก เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาพระองค์ต้องจำพระทัยสละราชสมบัติ ไปนั่งทนทุกข์อยู่ต่างแดน จนสิ้นพระชนม์

รัชกาลที่ ๘. ยุคทมิฬ บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ ๒. ประชาชนตกอยู่ในสภาพบ้านแตก อดอยากยากแค้นแสนสาหัส พระมหากษัตริย์ก็ถูกลอบปลงพระชนม์จนสวรรคต

รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว เราก็เห็นแล้วว่าฝรั่งมาอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ล้วนแต่คนผิวขาวทั้งนั้น

สำหรับรัชกาลต่อไป คือ รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล หมายความว่า บ้านเมืองเราได้ผ่านยุคเข็ญมาแล้ว จะได้ประสบความเจริญรุ่งเรืองกันเสียที เราจะมั่งคั่งสมบูรณ์เหมือนนานาอารยะประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย

�Ѵ�ѹ����� (��ҫا) - ��ǧ��������ԧ�Ӻ���������ͧ "͹Ҥ��ͧ�����Ȫҵ�"

 

ที่แท้ครูบาอาจารย์ท่านสอนอะไร? ท่านจะให้เดินไปทิศทางไหน?

ขออนุญาตครับ

คำสอนของครูบาอาจารย์เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาว่า

ความชัดเจนของที่ไปที่มา เพราะเห็นส่วนมาก ท่านมักจะบอกว่า เทวดามาบอก
ที่ท่านบอกเล่า ท่านสอน อะไร? ท่านสอน ทำไม?
ในอนาคต ท่านต้องการ ให้คณะศิษย์ของท่าน เดินไปในทิศทาง ไหน?

เพราะเห็นศิษย์รุ่นหลัง วาดหวังว่า "วัดท่าซุง" จะเป็นจุดศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา?

ก็เลยมีศิษย์กลุ่มใหญ่รวมตัวกันอยู่ที่นี่

โดยลืมพิจารณาว่า ที่ครูบาอาจารย์ เพียรสอนแทบล้มแทบตายนั้น

ท่านมีเป้าหมายอะไร?
ท่านจะให้คณะศิษย์ ทำอะไรต่อไป?
ท่านจะให้คณะศิษย์เดินไปในทิศทางไหน?
ทิศทางที่ว่านั้น ถูกต้อง เหมาะสม ดีที่สุดหรือยัง?
หรือว่า ยังมีทิศทางอื่นๆ ที่ดีที่สุดของที่สุด อยู่อีกบ้างไหม?
หรือว่า พวกเรากำลังพากันพายเรือ อยู่ในอ่าง?

ผมถือว่าคำสอนที่สำคัญที่สุดขององค์ท่านคือ

เป็นคณะศิษย์ไม่รู้สาระวนทำอะไรกันอยู่ ครูบาอาจารย์ของตนบอกกันขนาดนี้
ยังไม่รู้จักต่อยอด ทำอะไรได้ต่อ

หรือว่า กำลังพากันพายเรือในอ่างกันจริงๆ?

หรือว่า พากันรังเกียจ

สรุป คำทำนาย ก็คือ
การบอกเล่าเรื่องราวในอนาคต ก่อนที่เรื่องราวจริงๆ จะเกิดขึ้น
เมื่อเรื่องราวจริงๆเกิดขึ้นแล้ว จึงจะพิจารณาได้ว่า
คำทำนายนั้นๆ มีความแม่นยำ ถูกต้อง มากน้อยเท่าใด

ถ้ามีคนมาบอก มาอธิบายว่า
นาย ก หน้าตา ท่าทาง คล้ายกับ นาย ข
แล้วเราจะมัวไปพิจารณากันทำไมว่า
นาย ก ไม่ใช่ นาย ข

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

โดยลืมพิจารณาว่า ที่ครูบาอาจารย์ เพียรสอนแทบล้มแทบตายนั้น

ท่านมีเป้าหมายอะไร?
ท่านจะให้คณะศิษย์ ทำอะไรต่อไป?
ท่านจะให้คณะศิษย์เดินไปในทิศทางไหน?
ทิศทางที่ว่านั้น ถูกต้อง เหมาะสม ดีที่สุดหรือยัง?
หรือว่า ยังมีทิศทางอื่นๆ ที่ดีที่สุดของที่สุด อยู่อีกบ้างไหม?
หรือว่า พวกเรากำลังพากันพายเรือ อยู่ในอ่าง?

ผมถือว่าคำสอนที่สำคัญที่สุดขององค์ท่านคือ

ต้องขออนุญาตตอบ คุณลุงมหา สักครั้งนะครับ...

ที่หลวงพ่อท่านสอนจนแทบล้มประดาตาย เป็นเรื่องการละสังโยชน์ทั้ง 10 ประการ อย่างเลวที่สุดนี่ต้องละ 3 ข้อต้นให้ได้ นี่ท่านสอนทุกวัน วันละหลายรอบ...

ท่านมีเป้าหมายอะไร?
ท่านมีเป้าหมายให้ลูกศิษย์ท่านทุกคนเข้าถึงนิพพานในชาตินี้ให้ได้...

ท่านจะให้คณะศิษย์ทำอะไรต่อไป?
ท่านสอนให้รัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ ให้รักษาศีล 5 กรรมบท 10 พรหมวิหาร4 บารมี 10 จรณะ 15 และให้มีสังคหวัตถุ 4 เป็นปกติ คำว่าเป็นปกตินี่หมายถึงว่าทำเอาไว้ตลอดเวลา...

ซึ่งทิศทางที่ว่า ผมว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว ตรงแล้ว ชอบแล้ว เป็นไปโดยธรรมแล้วครับ? ถึงผมจะชอบเถียงหลวงพ่อบ้าง ก็เป็นบางเรื่องแต่เรื่องธรรมที่ท่านบอกว่าเป็นธรรมที่องค์สมเด็จพระสวัสดิโสภาคทรงตรัสไว้แล้ว หลวงพ่อเพียงแต่นำมากล่าวนี้ เรื่องแบบนี้ผมไม่เถียงครับ...

เรื่องทิศทางที่ดีที่สุดของที่สุด นอกจากหนทางที่หลวงพ่อ สั่งไว้ว่าให้ละสังโยชน์ 3 ข้อต้น และมีจิตรักพระนิพพานเป็นอารมณ์ เพื่อการดับไม่มีเชื้อดังที่พระสารีบุตรได้เคยสอนพระใหม่ที่จะไปสู่ป่า เมื่อครั้งพุทธกาล ผมเห็นว่าไม่มีนะครับ...

พวกเรากำลังพายเรือวนอยู่ในอ่าง อันนี้ผมเห็นด้วยว่าจริงครับ? เพราะแม้ว่าหลวงพ่อจะสอนวันละหลายๆรอบ เพื่อให้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ท่านบอกว่า มนุษย์โลกก็ดี เทวโลกก็ดี พรหมโลกก็ดี มีแต่ความทุกข์ แต่ว่าลูกศิษย์จำพวกหนึ่งนี่ไม่ค่อยสนใจ ยังมีอีกมากที่อยากมาเกิด(ไอ้พวกนี้มันได้ยินหลวงพ่อพูดตอนที่ว่า มนุษย์โลกก็ดี เทวโลกก็ดี พรหมโลกก็ดี มันฟังถึงตอนนี้แล้วไม่ฟังต่อ หันไปคุยกันซะแล้ว แล้วมาบอกว่าหลวงพ่อว่า ดีนี่หว่า งั้นพวกเราเกิดกันอีกดีไหม เป็นมนุษย์,เทวดาหรือพรหมก็ดีนะ...นี่พวกนี้มันเป็นซะอย่างนี้เอง) ทั้งที่อยากมาเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์บ้าง อยากเกิดมาเป็นพระพุทธเจ้าบ้าง พระโพธิสัตย์บ้าง บางพวกมักน้อยหน่อยก็จะมาเกิดเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี ร่วมภพร่วมชาติกับพระศรีอาริย์บ้าง...

แต่ผมว่าพวกนี้ไม่ใช่ลูกศิษย์หลวงพ่อหรอกครับ พวกนี้เป็นพวกที่เอาหลวงพ่อมาบังหน้า อ้างท่านมาเพื่อให้ตัวเองดูดี ทั้งนี้เพราะอะไร...
ทั้งนี้ก็เพราะหลวงพ่อท่านสอนให้ไม่เกิด แต่พวกนี้เสือกอยากเกิด มันเป็นพวกหนอนที่กิน นอน เสพ อยู่ในกองขี้ แล้วยังเห็นว่าการเกิดเป็นของดี...
ไอ้พวกศิษย์ที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์นี่ มันนับเป็นศิษย์ไม่ได้นะครับ ครูสอนให้ไปนิพพาน อย่ามาเกิด ไอ้พวกนี้ไม่ฟัง อยากมาเกิด อยากเกิดมายิ่งใหญ่ มีเงิน มีอำนาจ วาสนา บุญญาธิการ มากบารมี คือโลกธรรม 8 นี้ ข้ายินดีแค่ 4 ข้อ คือจะเอา 4 ข้อ ทำยังไงก็ได้ให้ข้าได้ 4 ข้อ อีก 4 ข้อไม่เอา....

หลวงพ่อพูดให้ฟังว่าคำข้าวคำเดียวนี่มันทุกข์ขนาดไหน...แล้วนี่การเกิดมาเป็นมนุษย์ที่ยังต้อง หิวข้าว ปวดขี้ ปวดเยี่ยว ง่วงหงาวหาวนอน ต้องพลัดพลากจากของรักของชอบใจ ในท้ายที่สุดมันต้องตาย ต้องเน่าเหม็น เสื่อมสลายหายไป มันจะเกิดในยุคใด มีพระเจ้าจักรพรรด์สักกี่องค์ อภิมหาเศรษฐีสักกี่ล้านคน ร่วมยุคร่วมสมัยไปกับพระศรีอาริยเมตตรัยก็ตาม เกิดมาแล้วต้องมีทุกข์ด้วยกันทุกคนไป...นี่ยุคสมัยนี้พระธรรมขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ายังมีอยู่ครบ ครูบาอาจารย์ที่ทรงคุณวิเศษที่พวกเรายังทันได้เห็นองค์ท่าน เห็นปฏิปทาท่าน ยังมีอยู่ แต่พวกเราที่พายเรือวนอยู่ในอ่างนี่ก็ไม่นำพา จะวนอยู่ในวัฎฎสงสารนี้ต่อไป

วันนี้ธรรมะทั้งหลายมีอยู่แล้วไม่เอาไม่เร่งขวนขวาย หวังแต่จะไปเอาธรรมะเบื้องหน้าในอนาคต ซึ่งต้องขอบอกว่ามันยังไม่แน่นอน แต่ที่แน่นอนก็คือธรรมะที่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ตรัสรู้แล้วเป็นธรรมเดียวกัน ธรรมะในวันนี้ที่ยังปรากฎอยู่กับธรรมะในยุคพระศรีอาริยเมตตรัยก็เป็นธรรมดวงเดียวกัน เป็นไปเพื่อลด ละ เบื่อหน่าย คลายกำหนัด เพื่อออกจากกาม เป็นไปเพื่อการประพฤติพรหมจรรย์ให้ยิ่งๆขึ้นไป...

เรื่องที่ลุงมหาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการสร้างพระใหญ่ชัยภูมินี้ ผมก็ขออนุโมทนาบุญด้วยความเคารพ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณลุงมหา จะได้เกิดมาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ 500 ชาติ ได้บำเพ็ญบารมีให้ถึงที่สุดซึ่งการเป็นพระโพธิสัตย์และสำเร็จในความปรารถนาอันเป็นที่สุด...

แต่ว่าลูกศิษย์หลวงพ่อฤษีนี่ ชั้นเลวจริงๆมีไปเกิดในยุคพระศรีอาริย์ไม่กี่สิบคน เกือบทั้งหมดเขาตามหลวงพ่อฤษีไปอยู่กับท่านเสียก่อนแล้วครับ...พ่อไม่อยู่แล้วข้าฯจะอยู่ไปทำไม...ไปดีกว่า...พ่อไปอยู่ไหนข้าฯไปอยู่ด้วย...จบ..
ขอบคุณที่ทนอ่าน...จะขยายตัวโตๆไว้ให้คุณลุงมหาอ่านจะได้ไม่ปวดตา(นี่ไม่ต้องบอกก็ต้องรู้ว่า ชราปิทุกขา มันเป็นอย่างนี้...ไม่ใช่เป็นทุกข์ที่ขาเท่านั้น ที่ตาก็ทุกข์ด้วย..เข้าใจนะ)

 

อ้อ ที่แท้ก็สำเร็จ กันไปหมดแล้ว

ขออนุญาตครับ

จากที่ท่านได้เมตตาเขียนตอบมา ผมอ่านดูแล้ว เข้าใจว่า

อ้อ ที่แท้ก็สำเร็จ กันไปหมดแล้ว

ก็เลยเหลือ กันน้อย ข่าวคราวก็เลยเงียบหาย

เลยทำให้ผมสงสัยว่า สำนักใหญ่ กำลังทำอะไรกันอยู่?

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

อ.ทิพากร รินไธสงค์ คือ ลุงมหา๑ ใช่มั๊ยครับ

ลุงมหา๑ คือ อ.ทิพากร รินไธสงค์ ใช่มั๊ยครับ

 

บุญบารมีห่างกันไกลมากๆ

ขออนุญาตครับ

ลุงมหา กับท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์นั้น บุญบารมี ห่างไกล กันมากครับ

ท่าน อ.ทิพากร นั้น ท่านจะเกิดอีกแค่เพียง ๒ ชาติ

ชาติหน้า เกิดเป็นพญาเต่าใหญ่ในยุคน้ำท่วมโลก หลังหมดกัปนี้ ก็คือหลังยุคขององค์พระศรีอริยะเมตไตร

ชาติถัดไปท่านจึงจะเกิดเป็น พระพุทธเจ้าพระองค์ที่ ๑๐ พระนาม"สุมังคละ"

ส่วนลุงมหานั้น เป็นแค่ศิษย์สายเทพสายพรหม ที่มีความเคารพในครูบาอาจรย์สายธรรมยุติอย่างสูง

มาช่วยประสานงานการสร้าง พระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ)ในทุกๆเรื่อง
เรื่องไหนที่คนอื่นทำได้ ลุงมหาก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย
มีหน้าที่คอยเสริมเพียงอย่างเดียว เพราะอยากจะทำเพียงแค่นี้

ศิษย์ของท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์ ส่วนใหญ่ ไม่รู้จักลุงมหา
หรือแม้แต่คณะกรรมการมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ก็ไม่รู้จัก เรื่อง ภูมิรู้ ภูมิธรรม ของลุงมหา

นอกจากศิษย์ใกล้ชิดท่านจริงๆ ระดับผู้ติดตามทุกฝีก้าว จึงจะรู้ว่า ลุงมหา เป็นใคร เป็นอะไร

นอกนั้นเดินผ่านยังไม่ทักทายเลย

แม้แต่ รปภ พุทธสถานพระใหญ่ชัยภูมิ เข้าไปหลัง ๔ ทุ่มยังไม่ยอมให้เข้า

ลุงมหาไม่มีกุญแจห้องใดๆในพุทธสถานพระใหญ่ชัยภูมิ

เวลาไปนอนในนั้น ก็เลือกกางเต้นท์นอนเอาเองตามสะดวก เหมือนญาติธรรมทั่วๆไป

พื้นที่ เกือบ ๓๐๐ ไร่ มีที่นอนเหลือเพือ

แต่ส่วนมากลุงมหา จะเช่าหอพักใกล้พระใหญ่ชัยภูมิ

เพราะมีความจำเป็นต้องเดินทางเกือบตลอดเวลา

เวลาส่วนใหญ่ก็นอนในรถ หน้าร้าน 7-11 ในปั้ม ป.ต.ท นั่นละ
เพราะลุงมหาแก่แล้ว ไม่สามารขับรถหลัง สี่ทุ่มได้ เดี๋ยวหลับคาพวงมาลัย

อาทิตย์ก่อน ก็ไปจอดรถทานข้าวในปั้มน้ำมัน ป.ต.ท ใน จ.กาฬสินธุ์ ทั้งๆที่เป็นบ้านเกิดของตัวเอง

แต่ก็ไม่รู้จะไปหา ไปเยี่ยมใครเหมือนกัน

ทางโลกลุงมหาเคยเป็น Project Coordination Engineer
บริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจของประเทศมหาอำนาจของโลก
ที่มีทรัพย์สินหลายแสนล้านบาท

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ปริศนา เงินจะมาจากไหน? พระใหญ่จะสร้างให้เสร็จได้อย่างไร?

ขออนุญาตครับ

ในงานพิธีเทฐานแผ่ให้ครบ ๕๐ รัตน์บัลลังก์ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๗

มีญาติธรรมเพียงเท่านี้ ที่ได้ร่วม อธิฐาน ที่ได้ร่วมรับรู้ว่า

เงินจะมาจากไหน?

พระใหญ่จะสร้างให้เสร็จได้อย่างไร?

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ขอนำข้อความที่ได้เขียนไปแล้วมาให้พิจารณาดูอีกที?

ขออนุญาตครับ

อ่านเรื่องราวใดๆ ก็ขอให้พิจารณาให้เข้าใจก่อนนะครับ
อย่าได้อ่านลวกๆ อย่าได้คิดเอาเองว่าตัวเองเข้าใจดีแล้ว

ผมก็เขียนไปมากแล้ว จะยกมาให้พิจารณาอีกก็ได้

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
ลุงมหา

 

ขอนำข้อความที่ได้เขียนไปแล้วมาให้พิจารณาดูอีกที?(ต่อ๑)


ขออนุญาตครับ
ขอนำข้อเขียนของผมที่ได้เขียนเอาไว้แล้ว มาให้ดูกันอีกที

ขออนุญาต แบ่งเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ให้ดูอีกที

***********************************

หมวดพระโพธิ์สัตว์

*******************************
หมวดพญามาร

********************************************
หมวดพระอริยะสงฆ์ และ ชาวพุทธสายปฏิบัติ

*******************************************
หมวดพระพุทธองค์

***************************
หมวดศรัทธามหาชน

**********************************
หมวดญาติธรรมพระใหญ่ในปัจจุบัน

สรุป

พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาจวบจนปัจจุบัน
นั่นเป็นเพราะว่า มนุษย์ในโลกใบนี้ ยังไม่ได้สะสม อกุศล ผลบาปเอาไว้มากพอ
และพญามารจึงยังทำได้แค่ว่า

"โน้มนำให้มนุษย์ทำผิดคิดชั่ว เท่านั้นเอง"

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ พระเจ้า พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ ท่านยังคงมีบทบาทอย่างสูง
ในการสอนให้ชาวพุทธ เดินตามทาง

ศรัทธา
ทาน
ศีล
สมาธิ
ปัญญา
วิมุติ - หลุดพ้น

แล้วก็มีชาวพุทธจำนวนมากมหาศาล ยังคงเดินตามเส้นทางสายนี้

ครั้นพอโลกดำเนินมาจนถึงยุคกึ่งพุทธกาล

เหล่ามนุษย์ในโลก ต่างก็พากันสะสม อกุศลผลบาป เอาไว้มากมาย
เหล่ามนุษย์ในโลก ต่างแก่งแย่งชิงดี ชิงเด่น เอารัด เอาเปรียบ ผู้อื่นมากขึ้นๆ
เหล่ามนุษย์ในโลก ต่างพัฒนาเทคโนโลยี่ต่างๆ เพื่อเสพสุข โดยไม่ได้คำนึงถึงว่า

จะเกิดผลร้ายต่อโลก ต่อสวนรวมอย่างไร

เมื่อมนุษย์ในโลกได้สะสม อกุศลผลบาปเอาไว้มากพอ
ก็ถึงคราวที่พญามาร ได้เปลี่ยนเป้าหมาย

จากการโน้มนำให้ผู้คนในโลกทำผิดคิดชั่ว สร้างอกุศลผลบาป

โดยเปลี่ยนเป้าหมายเป็น

"สร้างภัยพิบัติ สร้างมหาภัยพิบัติ ให้เกิดขึ้นทั่วโลกแทนเป้าหมายเดิม"

เมื่อพระเจ้าพระสงฆ์ ตลอดจนชาวพุทธส่วนใหญ่ ไม่เข้าใจในเรื่องนี้

ก็ไม่เป็นไร เพราะยังมีชาวพุทธกลุ่มเล็กๆ ที่เรียกตัวเองว่า

"ญาติธรรมพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ)" ที่นำโดยท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์

เราบุกเบิก เรานำ เราพากันสร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ)
เราทราบดีว่า ด้วยกำลังของเราในปัจจุบัน เราไม่สามารถสร้างพระให้เสร็จได้
ถึงเราจะสร้างให้เสร็จได้ด้วยญาติธรรมเพียงเท่านี้

พระที่สร้างก็จะไม่มีพลังอย่างเพียงพอที่จะป้องกัน ที่จะแก้ไข ภัยพิบัติของพญามารได้

เพราะผู้ที่ไม่ได้มาร่วมสร้าง ก็จะไม่ได้รับกุศลผลบุญใดๆ ในส่วนของการสร้างกุศลผลบุญ เพื่อป้องกัน เพื่อแก้ไขภัยพิบัติ ของโลก

เพราะกุศลผลบุญของการป้องกัน ของการแก้ไขภัยพิบัตินั้น
เกิดจากการที่เราสามารถช่วยเหลือไม่ให้ผู้อื่น ต้องสูญสิ้นซึ่งชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมากมายมหาศาล

เราจึงเป็นแค่ทัพหน้า ที่บุกผ่านำไป เพื่อรอทัพใหญ่เท่านั้นเอง

เรื่องราวเหล่านี้ แม้พระอริยะเจ้า พระอริยะสงฆ์ผู้เก่งกาจ รวมกันทั้งหมดยังไม่อาจจะเข้าใจได้

ท่านที่รู้ธรรมเพียงเล็กน้อย กระจ้อยร่อย ไม่ต้องมาแสดงความคิดเห็น
ให้เป็นบาป ให้เป็นกรรมแก่ตนเอง

แม้แต่พระอริยะสงฆ์ ที่มีบุญบารมีระดับสูงที่สุด
แม้แต่ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ ที่มีบุญบารมีสูงที่สุด
ก็ยังไม่อาจจะรู้ ก็ยังไม่อาจจะเห็น ก็ยังไม่อาจจะเข้าใจอย่างกระจ่างชัดได้

ไม่เชื่อให้ไปถามแต่ละท่านดูได้ และขอเมตตา ถ่าย วีดีโอ ลงยูทู๊ป ให้ด้วย

เมื่อการสร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ) ก้าวหน้าไปๆ
กุศลผลบุญทั้งหลาย ก็จะนำพา ศรัทธามหาชน ให้เกิดความเข้าใจได้เอง

หรือถ้าเกิดความล่าช้า เกินกว่าที่ควรจะเป็น ถ้าเกิดโชคร้าย เกิดภัยพิบัติใดๆขึ้น
ก็อาจจะเป็นเหตุเป็นผล ให้ผู้คนได้เข้าใจเร็วขึ้นก็อาจจะเป็นไปได้

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
ลุงมหา

 

ลุงมหา ครับ
ผมไม่อยากให้พูดถึงการทำนายอนาคตชาติหน้าของ อ.ทิพากร รินไธสงค์ เลยครับ
มันไม่ได้เกี่ยวกับงานที่กำลังโฟกัสอยู่เลยครับ
แต่ถ้าหากพูดผิดไปอาจจะกระทบกับงานของท่านได้ครับ
ดังนั้นไม่พูดเรื่องนี้เสียดีกว่านะครับ

 

ขอนำข้อความที่ได้เขียนไปแล้วมาให้พิจารณาดูอีกที?(ต่อ๒)



ขออนุญาตครับ

ท่านที่ไม่เข้าใจว่า สร้างพระใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว
ทำไมจึงป้องกัน จึงแก้ไขภัยพิบัติได้
ทำไมจึงช่วยให้ประเทศไทยอยู่เย็นเป็นสุขได้
ผู้นำในการสร้างต้องเป็นผู้มีบุญบารมีสูง
ผู้นำในการสร้างต้องเข้าใจ ต้องมองเห็น ความซับซ้อนของกรรม
อย่างทะลุปรุโปร่ง
จึงจะประสานงานใหญ่ระดับนี้ได้

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญร่วมกับผู้มีบุญบารมีทุกๆท่าน
ขอบคุณครับ
ลุงมหา

 

ชาวญาติธรรมพระใหญ่ ควรวางตัวอย่างไร เรื่อง การชุมนุมทางการเมือง?(ต่อ๑)

ขออนุญาตครับ

เห็นญาติธรรมชาวเว็บ ถกเถียงกันมากเรื่อง "การชุมนุมทางการเมือง"
จึงขอยกข้อความเดิมมาเตือนสติ ญาติธรรมทุกๆท่านต่อ

ชาวญาติธรรมพระใหญ่ ควรวางตัวอย่างไร เรื่อง การชุมนุมทางการเมือง?

ภาพนิมิตร ล่าสุด

แต่ละคน แต่ละกลุ่ม ต่างทำหน้าที่ของตน

ส่วนลุงมหาเองนั้น ก็พิจารณาแค่ว่า

การเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี ๒๔๗๕ นั้น มีผลทางการเมืองใหญ่หลวงยิ่งกว่านี้มากมายนัก

องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ตอนนั้น ท่านน่าจะมีอายุราวๆ ๖๒ ปี

องค์ท่านยังไม่ได้ให้ความสนใจอะไรเลย

จึงขอเตือนสติญาติธรรมทุกๆท่านว่า

"ขอให้เลือกทางเดินของตนให้ถูก"

ก็เท่านั้นเอง

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ชาวญาติธรรมพระใหญ่ ควรวางตัวอย่างไร เรื่อง การชุมนุมทางการเมือง?(ต่อ๒)


ขออนุญาตครับ

เห็นท่านสมาชิกบางท่าน บางกลุ่ม บางพวก ออกความเห็นมากมาย
เกี่ยวกับ "การชุมนุมทางการเมือง"

ผมเคารพใน การตัดสินใจ ในดุลยพินิจ ของทุกๆท่าน
แต่ท่านทั้งหลายก็อย่าได้ลืมว่า การเกิดมาเป็นมนุษย์นั้น ก็คือ

๑ เป็นสนามทดสอบว่า ท่านจะสร้าง ท่านจะสะสม คุณงามความดี บุญกุศล ได้มากน้อยเท่าไร
อนาคตชาติของแต่ละท่าน ก็จะขึ้นกับ คุณงามความดี บุญกุศล ที่ท่านได้สะสมเอาไว้
ทั้งด้วยตัวของท่านเอง ทั้งที่ได้เคยทำร่วมกับหมู่คณะของท่าน

๒ ท่านที่ได้ทำคุณงามความดี ทำบุญกุศล ได้มากพอ ท่านก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องเข้าร่วมกับการชุมนุมทางการเมืองใดๆ

เพราะการร่วมชุมนุมทางการเมืองนั้น ไม่ได้ต้องการกำลังพลมากมายใดๆเลย
แค่ที่มี แค่ที่เห็น ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

๓ แต่สิ่งเราๆ ท่านๆ จะต้องทำแน่ๆก็คือว่า

๓.๑ ไปร่วมชุมนุม
๓.๒ ไม่ไปร่วมชุมนุม
๓.๓ ไปเลือกตั้ง
๓.๔ ไม่ไปเลือกตั้ง

มันก็มีแค่นี้เอง ส่วนท่านใดจะผสมผสาน เลือกเกินหนึ่งข้อ ก็ขอให้พิจารณากันเอาเอง

แต่อย่าได้ลืมว่า มนุษย์นั้นได้มีโอกาสเกิดมาเพื่อให้ได้มีโอกาสมาสะสม มาสร้างคุณงามความดี มาสร้างบุญ มาสร้างกุศล

ดังนั้น เมื่อได้เกิดมาแล้ว จึงต้องระวังรักษาชีวิต อันมีค่าให้ยืนยาว
เพื่อจะได้มีโอกาสสร้างคุณงามความดี สร้างบุญสร้างกุศล ให้ได้มากขึ้นไปอีก

อย่าได้ประมาท อย่าได้พาชีวิตของตนเข้าไปสุ้มเสี่ยงใดๆ

ข้าพเจ้าขอคาระวะในการตัดสินใจของทุกๆท่าน

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
ลุงมหา

 

... มั่วหรือเปล่าลุงมหา ท่านพระสุมงคลมหาสัตว์ท่านนั่งสบายใจอยู่ข้างบนโน่น ท่านบอกว่าท่านยังต้องบำเพ็ญบารมีอีกนานกว่าจะได้ตรัสเป็น " พระสุมงคลวิริยาธิกะสัมมาสัมพุทธเจ้า " พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๑๐ หลังพระศรีอาริย์ ท่านบอกว่ายังเหลือระยะกาลสร้างบารมีอยู่ ๕ อสงไขย ๕ แสนกัป ลุงมหานี่ชอบแอบอ้างจังเลยนะครับ ระวังบาปไว้มั่งก็ดี ขอเตือนด้วยความหวังดี

 

คำบอกเล่า คำทำนาย ภัยพิบัติใหญ่ล้างโลก จะเกิดขึ้นหลังสิ้นปี พ.ศ. 2561 หรือไม่?

ขออนุญาตนำข้อมูลเดิมที่ได้เขียนไว้เมื่อ 23-10-2011, 08:07 AM มาให้ดูอีกที

http://palungjit.org/threads/คำบอกเ...จะเกิดขึ้นหลังสิ้นปี-พ-ศ-2561-หรือไม่.311269/

ขออนุญาติครับ

คำบอกเล่า คำทำนาย ภัยพิบัติใหญ่ล้างโลก จะเกิดขึ้นหลังสิ้นปี พ.ศ. 2561 หรือไม่?
ถ้าเกิด จะเกิดแบบไหนอย่างไร?
ถ้าเกิด จะหลบภัยได้อย่างไร?
ถ้าไม่อยากให้เกิด จะป้องกันแก้ไขได้อย่างไร?

จะน้อมนำ กุศลผลบุญ ที่มนุษย์ในยุคกึ่งพุทธกาล สร้างสมมา แก้ กัน ภัยพิบัติได้อย่างไร?
ภัยพิบัติที่ทั้งเกิดขึ้นแล้ว ที่กำลังเกิดขึ้น และที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้มีอยู่ 4 ประการคือ
1. วิบัติเพราะศาสตรา
2. วิบัติเพราะโรคภัยไข้เจ็บ
3. วิบัติเพราะความอดยากเศรฐกิจไม่ดี
4. วิบัติเพราะภัยธรรมชาติ

แล้วเราจะป้องกัน จะแก้ไข ภัยพิบัติเหล่านั้นอย่างไร?
เราจะผลักดันให้กรรมทั้งหลาย ภัยพิบัติทั้งหลาย ไปเกิดในยุค ในกัปอื่น ได้อย่างไร?

เราต้องทำกุศลผลบุญอะไร เราต้องสร้างอะไร จึงจะเหนี่ยวนำให้
มหาพุทธานุภาพของพระพุทธองค์ เปล่ง รังสี สี แสง ออกมาปกป้องพวกเราได้

เราต้องทำกุศลผลบุญอะไร เราต้องสร้างอะไร จึงจะโน้มนำให้
เหล่าเจ้ากรรม นายเวรทั้งหลาย ยอมปล่อย ปะ ละวาง เว้นโทษ อโหสิกรรมให้

เราต้องทำกุศลผลบุญอะไร เราต้องสร้างอะไร จึงจะเหนี่ยวนำให้
เหล่าทวยเทพ เทวดา ทั้งหลาย ได้อนุโมทนาบุญ ได้โน้มนำให้ ผู้ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวพันธ์ในอดีตกาล
มาร่วมสร้างกุศลผลบุญร่วมกันนั้น

เราต้องทำกุศลผลบุญอะไร เราต้องสร้างอะไร จึงจะเหนี่ยวนำให้
เหล่าเจ้ากรรมนายเวรที่ไม่ยอมอโหสิกรรม ผลักดันให้กรรมเหล่านั้นไปเกิดในยุคอื่นๆ กัปอื่นๆถัดไปๆ

จึงขอเรียนเชิญ ผู้มีจิตเป็นบุญเป็นกุศล ร่วมอ่าน ร่วมรับชมรับฟัง จากท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์

ผู้มีทิพย์ญาณสูงส่ง เกินกว่าจะมีท่านผู้ใดส่องไปถึง ไปรู้ไปเห็นได้ เช่นท่าน

ขอเรียนเชิญ ทั้งท่านที่ชอบอ่าน หรือ ชอบดู ชอบฟัง

คำบอกเล่า คำทำนาย ภัยพิบัติใหญ่ล้างโลก จะเกิดหลังสิ้นปี พ.ศ. 2561 หรือไม่?

คำทำนายต่อไปนี้ เป็นคำบอกเล่าของ ท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2553

ภัยพิบัติเหล่านี้ จะเกิด ขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อ การสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ ไม่แล้วเสร็จ ภายใน 7 ปี คือ ภายในปี 2561

เพราะฉะนั้น คำทำนายภัยพิบัติ เหล่านี้จะเป็นจริงได้ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ขึ้นศักราช ปี 2562 และพระใหญ่ฃัยภูมิสร้างไม่เสร็จเท่านั้น

(สำหรับท่านที่ต้องการศึกษาอย่างจริงจัง ชอบดู ชอบฟัง ก็เข้าไปดู คลิป วีดีโอ ได้เลยนะครับ)


ส่วนท่านที่ชอบอ่าน ก็สามารถอ่านเอาก็ได้เช่นเดียวกัน
ถอดเสียงจากคลิปวีดีโอ จากนาที่ที่ 11:40-20:08

https://www.youtube.com/watch?v=9WPS0kLawF4#t=150

ครับ เทวดาเปิดขุมทรัพย์ให้มนุษย์เจริญในทุกๆสิ่งทุกอย่าง เพราะเราสามารถที่จะสร้างสำเร็จได้

เพราะฉะนั้นตรงนี้แหละเป็นการวัดพลังว่า สิ่งที่มหัศจรรย์ระดับนี้ แน่ะ
ปรกติใช้เวลาประมาณ สี่สิบ ถึง ห้าสิบปี

แต่เราจะสร้างภายในเจ็ดปีให้เสร็จ

ถ้าไม่เสร็จภายใน 7 ปี เราก็เสร็จ ฉะนั้น ตัวใครตัวมัน นะครับ ผมก็จะไปอยู่เจริญปุระนคร นะครับ

เพราะโลกธาตุจะหวั่นไหว ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะเกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน
วันที่ๆจะมีการเปลี่ยนแปลงทางโลกธาตุ วันนั้น ท้องฟ้าจะออกสีแดงๆๆนะครับ เหมือนแสงตะวัน

วันนี้เอาอันนั้นไหม เอาภาพมาไหม ภาพมาจากประเทศเขมร ภาพสีแดงๆ
ท้องฟ้าสีแดงๆ ฟ้าเปลี่ยนสี อุณหภูมิจะร้อนมากประมาณ ไม่ต่ำกว่า 50 องศาๆ
ความเปลี่ยนแปลงจะเกิด

พอหลังจากร้อน 50 องศานี่ อากาศจะอยู่ประมาณ สาม สาม ถึงสี่วัน
มีเวลาเตรียมตัวอยู่ ท่านก็สังเกตดูธรรมชาติเหล่านี้ด้วย

หลังจากนั้น ก็จะมีการเซื่องซึม จิตคนก็จะไม่ บางคนก็หดหู่
บางคนก็เซื่องซึม มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ มันอุกอั่งๆ จักแม่นเป็นอิหยัง หาสาเหตุไม่ได้

แม้แต่ธรรมชาติ สิ่งที่เป็นเดียรฉานจะซึม พวกที่เป็นหมาแมว
หรือสัตว์เลี้ยงของท่านจะซึม บางตัว น้ำตาไหลซึม นอนซึม ไม่รู้ว่าเป็นอะไร
ให้สังเกตธรรมชาติเหล่านี้ บางตัวนี่ลุกลี้ ลุกรนกระวนกระวาย
อุกอั่งเหมือนกัน นะครับ เหมือนกับเรา

แม้แต่ใบไม้ก็ไม่มีลม นะครับ ไม่มลม เหมือนกับไม่มี
สังเกตดูธรรมชาติและบางที ก็ท้องฟ้าจะสีแดงอากาศจะเปลี่ยน

จะมีเวลาเตรียมตัวอยู่สามวันสี่วัน ใครมีอะไรบ้างเอ๋ย
มันเข้ามันไม่ค่อยน่าไว้วางใจธรรมชาติ อย่างนี้หาที่ปลอดภัยเลย

อย่าไปห่วงแต่สมบัติ อย่าห่วงแต่สมบัตินะครับ

หาอาหารที่กินไว้ ประมาณซํกเดือนหนึ่งๆ
ถ้าอยู่อีสานก็เตรียมปลาร้าบอง อะไรต่างๆ
อะไรก็ได้ที่ท่านอยู่ได้เดือนหนึ่ง

เตรียมกายเตรียมใจ ฝึกวิถีชีวิตที่เรียกว่า
คือยอมรับความเป็นจริงตามธรรมชาติที่มีการเปลี่ยน
พอหลังจากนั้น เออถ้า สามวันสี่วัน หาที่ปลอดภัย

เนี่ยใจตรงนี้แหละจะเหนี่ยว ใจบุญ หรือ ใจ
คนบุญเท่านั้นที่จะรอด นะครับ จิตบุญถึงจะโผล่ขึ้นทันทีเลย
เหนี่ยวไปหาที่ปลอดภัย

จิตคนที่มีกรรมบังก็จะ ยังไงก็จะไปของฉันไม่เชื่อหรอก
มันเป็นอย่างนี้อย่างนั้น หรือว่าอะไรก็ตามที แม้แต่เชื่อก็จะดิ้นรนหาที่ปลอดภัย
แต่ว่าที่นั่นอาจจะไม่ปลอดภัยก็ได้ ตามแนวคิด
เพราะฉะนั้นวัดกันตรงนี้ละทีนี้

หลังจากนั้นไม่รู้ว่าฝุ่นมาจาก..... ท้องฟ้าจะปิด หลังจาก สามวันสี่วัน ท้องฟ้าจะมืด
ฝุ่นมาจากทะเลทรายบ้าง จากที่ไหนก็ไม่รู้เยอะแยะเลย ปิดไว้ตลอด
แม้แต่หมอก ปิดอยู่ สามวัน สี่วัน

หลังจากนั้นเม็ดฝนถึงจะตก เท่ากับไข่นกกระทา ตกอยู่เจ็ดวันเจ็ดคืน
แผ่นดินจะแยก หลายที่นะครับ ทั่วโลก คือโลกธาตุหวั่นไหว

คือมันเหลือวิสัยของมนุษย์ที่จะเข้าใจ หรือคิดคำนวณคำนึงได้ใดๆ

ลมพายุจะเกิดหลายๆลูกพร้อมกันทั่วโลก ซึ่งมีความเร็วไม่ต่ำกว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ถนนสายดีๆ อาจจะถูกตัดขาด แผ่นดินแยก ไปไม่ได้

มัวแต่รออยู่ไม่รู้ว่าน้ำมาจากไหน ล้อมบ้านเราแล้ว นอนอยู่ดีๆ ก็อันนั้น อันนี้แล้ว
แต่ผมก็จะเปิดไปที่เจริญปุระนครเลย นะครับ จะไปที่นั่นครับ

คิดว่า พี่น้องอยู่ภาคใต้คงจะมาทันอยู่ สามวัน สี่วัน นะครับ
คนภาคเหนือ ภาคอีสานก็เช่นเดียวกัน

ถ้าพระใหญ่ไม่เสร็จนะ

ถ้าพระใหญ่ไม่เสร็จภายใน 7 ปี

ถ้าเสร็จภายใน 7 ปี ก็เลื่อนไปอีกประมาณ 250 ปีข้างหน้า ถึงจะไม่เป็นอะไร

ใครจะเป็นเทวดาเป็นพรหมพระนิพพานก็แล้วแต่ท่านละทีนี้นะครับ 250 ปี
ใครจะเฝ้าอยู่ที่นี่ก็แล้วแต่ นะครับ เป็นการสร้างบารมี

อันนี้ก็คือเรื่องของแผนที่โลกจะเปลี่ยนแปลงใหม่ คือ สุวรรณทวีปจะเกิดขึ้น
โน้นทางเบื้องเหนือจรดสิบสองปันนา ที่จะไปนี่ เมษานี่
เน๊ะๆๆจะคล้ายอย่างนี้ละ
ผมวาดไม่เป็นหรอก จะลักษณะอย่างนี้ นะครับ จะลักษณะอย่างนี้ อันนี้ภาพมาจาก
เอะภาพไหนหนอ จะสื่อความหมายได้ถูกต้อง วันที่มีการเปลี่ยนแปลง นะครับจะ....เป็นอย่างนี้

ฟ้าจะร้อน สามวัน สี่วัน ฟ้าแดงจืงคืง เนาะเป็นตาย่าน

หลังจากนี้ก็ทางเหนือจะจรด อยู่ทางโน้นสิบสองปันนาลงมา

ทางทิศตะวันตกก็จะพุทธคยาเข้ามา

ทาง ทางใต้ก็จะจากภาคใต้ของเราเข้ามา อาณาจักรศรีวิชัย

ทางภาคนี้ก็จะจากญี่ปุ่นเข้ามา

แผ่นดินจะปรับใหม่ นี่คือทวีปที่ใหญ่ที่สุดนะครับ
ตอนนี้มันกำลังเลื่อนปรับหาโครงสร้าง หาความสมดุลอยู่ที่มันแยกอยู่
ทุกอย่างตรงนี้นี่ละคือทวีปที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ทุกวันนี้ ก็มีประเทศนั้น ประเทศนี้

น้ำจะมีอยู่ 7 ส่วน แผ่นดินจะมีอยู่ 1 ส่วน นอกนั้นก็ประเทศนั้น ประเทศนี้เป็นเกาะเป็นแก่งบ้าง คือ ปรับใหม่ นะครับ

ฝนจะตกอยู่ประมาณเจ็ดวันถึงเก้าวัน ชะล้างมลพิษต่างๆที่อยู่ในอากาศ หรือว่าในดิน ที่สารพิษต่างๆ
เชื้อโรคต่างๆ ลงไปสู่ทะเลหลวงมหาสมุทร

ผมเห็นภาพในอนาคต คนจูงกันขึ้นสู่ที่สูง สายน้ำหลากอยู่ระดับนี้บ้างๆ ก็มี
จูงกันขึ้นสู่ที่สูง บางคนก็ลื่นไหลไปกับสายน้ำ ร้องกันวื๊ดว๊าดก็มี

เห็นภาพสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นนะ เรื่องของบุญเราได้เต็มๆอยู่แล้ว

แต่เรื่องของภัยพิบัติที่เหลือวิสัยของมนุษย์ที่จะคิดคำนวณได้ มันไม่ได้นะครับ
เราชอบทำอะไรที่เหนือวิสัยของมนุษย์นั่นเหล่ะ
เราถึงหลายคนถึงได้บอกว่าเป็นเรื่องงมงาย

เพราะว่าญาณยังไม่ถึงนั้น

เหนือการวิเคราะห์ เหนือการคำนวณของมนุษย์

อยู่ดีๆก็แผ่นดินไหว

อยู่ดีๆก็บ้านถูกพัดจม

อยู่ดีๆก็น้ำก็ไม่รู้ว่าทะลักมาจากไหน

สิ่งต่างๆทั้งหลายเราไม่ต้องการให้เกิดขึ้นในโลกมนุษย์นี้

ขอสันติภาพบังเกิด

คนมีบุญบารมีความดียังมีอยู่ทั่วโลกๆ
คนมีบุญบารมี อยู่ทั่วโลก

เพราะฉะนั้นการเปิดบุญบารมี ด้วยพระคาถา เจ็ด ตัวนี้ ก็อยู่ในกึ่งพุทธกาล

เอาให้ได้ภายในเจ็ดปี ให้เสร็จนะ ช่วยกันๆ

ใครมีสายใยบารมี ก็ตั้งเป็นกองผ้าป่ามา ช่วยกัน


เมื่อท่านได้อ่านแล้ว ได้ดูแล้ว ได้ฟังแล้ว
ก็ขอให้ท่านคิด ท่านพิจารนาเอานะครับ ว่า ท่านสมควรทำอย่างไร
เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง

ขออนุโมทนาบุญร่วมกับญาติธรรม ผู้มีจิตเป็นบุญเป็นกุศลทุกๆท่าน
ขออนุโมทนา
ขอขอบพระคุณครับ
ลุงมหา