จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. thipong

    thipong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2013
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +1,673
    .
    .
    .สาธุๆๆๆ ข้อนี้ชอบครับ เห็นด้วยยิ่งงงงครับ
     
  2. thipong

    thipong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2013
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +1,673
    ....กินใจผมอีกแร้ววววว....
    ....โลกนี้วุ่นวาย โลกนี้ทุกข์หนอ จะไม่ขอกลับมาอีกแล้ว...
    ...สาธุๆๆๆๆ
    ...
     
  3. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    เรื่องจริงครับเจอมากับตัวเยย
     
  4. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    การกล่าวปรามาส หรือล่วงเกินพระโพธิ์สัตว์ กรรมหนักแค่ไหน?


    ขออนุญาตครับ

    แล้วการกล่าวปรามาส หรือล่วงเกินพระโพธิ์สัตว์ กรรมหนักแค่ไหน?

    ขอเมตตา ท่าน newwave1959 พอจะบอกเล่าได้บ้างไหม


    ใครมีปัญญาก็ช่วยเตือนกันหน่อย

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
    ลุงมหา

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03011.JPG
      DSC03011.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      200
    • DSC03169.JPG
      DSC03169.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      65
    • DSC03179.JPG
      DSC03179.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.1 MB
      เปิดดู:
      49
    • DSC03444.JPG
      DSC03444.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      56
  5. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
  6. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    พระครูเกษมวรกิจ - บ้านจิตสบาย 560210 - 1/10 - YouTube

    ณ บ้านจิตสบาย
    พระครูเกษมวรกิจ (หลวงพ่อวิชัย เขมิโย)
    วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย แสดงพระธรรมเทศนา
    วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556

    ๔๐ ลืมหน้า ๕๐ ลืมหลัง แต่ถ้า ๖๐ ลืมทั้งหน้า ทั้งหลัง
    (หลวงพ่อเทศน์)
     
  7. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    อ่านมาพักนึง สงสัยคำว่าบ้านเก่าเนี่ยครับ ถ้านิพพานคือบ้านเก่า แสดงว่าคนที่เข้านิพพานแล้ว ลงมาเกิดได้เหรอครับ (เปล่ากวนนะครับ สงสัย )
     
  8. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    [​IMG]

    "...จิตดวงนี้ไม่เคยตาย ไม่เคยฉิบหาย แต่ไหนแต่ไรมา
    ถ้าพูดถึงเรื่องวัตถุต่างๆ ในแดนโลกธาตุนี้
    ว่าอันไหนมากกว่าอะไร ไม่มีอะไรที่จะมากยิ่งกว่า
    จิตวิญญาณของสัตวโลก เต็มท้องฟ้ามหาสมุทร
    ใต้ดิน เหนือดิน มีเต็มหมดเลย อันนี้มากที่สุด
    คือจิตวิญญาณของสัตวโลก เพราะมันไม่เคยสูญนั่นเอง.."

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    ลูกขอน้อมกราบองค์หลวงตาด้วยเศียรเกล้าค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2013
  9. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    โมทนาสาธุครับ เป็นคำถามที่ดีมาก เป็นเกียรติอย่างยิ่ง
    ไม่เป็นไรครับ ถามเข้ามาได้ลย ถ้าตอบได้ก็จะตอบให้
    แต่จะมีคำตอบให้ ทั้งทางโลกและทางธรรม
    ถ้าเป็นคำถามของชาวโลก ขออนุญาตตอบแบบชาวโลก
    แต่ถ้าเป็นคำถามของผู้ปฎิบัติธรรม ก็จะขอตอบแบบทางธรรม
    หวังว่าคงจะเข้าใจนะครับ
    แต่ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากตอบเฉพาะปัญหาในทางธรรม
    เพราะคำถามของชาวโลก ไม่มีคำว่า จบสิ้น
    ถึงตอบดีแค่ไหนก็มิอาจถูกใจ เดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็นคือถกเถียงกัน

    แต่ถ้าผมตอบแบบคนมีญาณ แล้วคุณจะเชื่อไหมละ
    บอกแล้วว่า คำตอบดีที่สุดในโลกนี้ ไม่มี
    มีแต่คำตอบของตนเอง คือธรรมที่ผุดออกมาจิตตน เท่านั้น
    ดังเช่น พระอรหันต์ ก่อนหน้านั้น ท่านก็มีความลังเล ความสงสัยแบบพวกเรานี่แหล่ะ
    แต่ในที่สุด ท่านก็พบคำตอบที่ดีที่สุดให้กับตนเอง
    ท่านจึงหายหรือคลายความลังเลและความสงสัยของตนไปได้
    โดยครั้งแรกจะต้องค้นหาจิตตนพบก่อน แล้วจิตปัญญาก็จะพาไปหาธรรมในภายหลัง

    คำว่า นิพพาน เป็นเรื่องที่เหนือคำบรรยาย เหนือคำสมมุติ
    คนปกติ คนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆ หรือคนส่วนใหญ่ที่ยังเข้าไปไม่ถึง
    คำว่า นิพพาน เป็นภาษาปฎิบัติ คือเป็นภาษาจิต
    คือ ผู้ที่รู้จริงๆนั้น จะต้องลงมือปฎิบัติเอง เห็นเอง รู้เอง จึงชอบเอง
    ถ้าผมบรรยายไปแล้ว คุณไม่สามารถมองเห็นธรรม ก็เปล่าประโยชน์
    นิพพาน เป็นเรื่องปัจจัตตัง เป็นเรื่องเฉพาะตน
    นิพพาน เป็นมิติอย่างหนึ่ง ซึ่งแตกจากมิติโลกเราอยู่นี้
    นิพพาน เป็นโลกทิพย์ ซึ่งอยู่เหนือโลกวิทย์ เพราะไม่มีสิ่งมายืนยัน

    แต่ถ้าผมตอบไป เดี๋ยวจะหาว่า ผมเคยมาจากดินแดนนิพพานหรือ
    สำหรับผมไม่มีคำว่าสงสัยใดอีกแล้ว เมื่อก่อน ผมก็ขี้สงสัยแบบคุณนี่แหล่ะ
    พอมาปฎิบัติธรรม จึงหายสิ้นจากความสงสัยแห่งตนไปโดยปริยายเลย
    ขอตอบแบบชาวบ้านกันดีกว่าเน๊อะว่า..ไม่รู้ จบ (พูดตั้งเยอะ)

    แต่ขอจะถามกลับไปบ้างว่า ถ้าคุณเบื่อทางโลกมากๆแล้ว
    คุณยังอยากจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกไหม
    ถ้ารู้ว่าการมีการกายหยาบนั้น คือตัวทุกข์ดีๆ นี่เอง
    เพราะฉะนั้น คำว่านิพพานก็เช่นกัน จิตที่เป็นอนัตตาเท่านั้นจึงจะเป็นผู้มีสิทธิ์ไป
    แต่ถ้าจิตคุณเป็นอนัตตา(ว่างถาวร) แล้วคุณยังอยากจะกลับมาเกิดมีกายหยาบอีกไหม?
    เพราะฉะนั้น ผมมีความคิดเห็นส่วนตัวว่า คำว่า นิพพานนั้นไม่สูญ มีอยู่จริง
    แต่ถ้าต้องมีเหตุที่จะต้องกลับมาเกิด ก็เกิดได้ เพราะลงมาทำหน้าที่
    แต่การเกิดในครั้งนี้ จะต่างจากการเกิดของเหล่ามนุษย์ทั่วๆไป
    กล่าวคือ มีกายบริสุทธิ์ มีจิตบริสุทธิ์ เกิดมาครั้งนี้ก็เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น เป็นต้น
    หรือเรียกว่า ลงมาเกิดเพื่อทำหน้าที่ ว่าอย่างงั้นเห่อ

    แต่ผมมีคำตอบ แต่ไม่มีหลักฐานมายืนยัน แต่จะขอกล่าวอ้างจากพระพุทธเจ้า
    พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า...นรก สวรรค์ พรหม นิพพาน...มีจริง
    แม้นกระทั่ง พระอริยสงฆ์ทั้งหลายต่างก็ออกมายืนยัน
    แล้วท่านเหล่านั้น จะมาโกหกลูกหลานเพื่ออะไร
    ถ้าพูดเรื่องไม่จริง แล้วท่านจะกล้าผิดศีล(มุสา)ของตนเองหรือ
    เพราะฉะนั้น ผู้ที่ปฎิบัติธรรม โดยเฉพาะเข้าถึงแก่นธรรม ย่อมหมดสิ้นความลังเล ความสงสัย
    เพราะจิตปัญญาที่พบธรรมนั้น จะเป็นผู้ตอบคำถามทั้งหมดให้แก่ตนเอง
    หรือตอบปัญหาที่ยังครั้งคราใจ ให้หมดสิ้นไปจากจิตใจของตน

    ถ้าคุณอยากหมดสิ้นความลังเล ความสงสัยภายในจิตใจของตนเหมือนดั่งพระอรหันต์ฯ
    โปรดลงมือปฎิบัติธรรม
    แต่ถ้าไม่ คุณก็จะมีคำถามแบบชาวโลกแบบนี้ ต่อไป
    จนกว่าจิตคุณจะพบธรรม(จิตในจิต) จึงเลิกตั้งคำถาม

    คุณน่าจะถามตนเองมากกว่าว่า ทำไม หรือทำอย่างไร ให้ตนหายจากความสงสัย เป็นต้น

    แต่ถ้าเป็นคำตอบไม่ถูกใจ หรือล่วงเกินจิต ได้โปรดอโหสิกรรมให้กับผมด้วยครับ
     
  10. samrung

    samrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +1,258
    คำตอบ ทะแม่งๆ อยู่นะ ไม่ค่อยตรงคำถาม ถ้าผมถามไปอีก กลัวโดนบอกให้ไป
    ปฎิบัติธรรม ค้นหาเอาเอง
    ขออโหสิกรรมเหมือนกัน
    (ผ่านมา ก็ผ่านไป )
     
  11. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    [​IMG]

    คำว่า "ชนะ" นั้น ชนะอะไร?

    ก็ชนะความขี้เกียจ ด้วยความขยัน

    ชนะกิเลสด้วย "วิริยะธรรม" น่ะซี

    แล้วก็พ้นทุกข์นี่แหละ การแก้ปัญหาเรื่องความเกิด

    ตาย คือแก้ที่ดวงใจ มีจุดนี้เท่านั้น

    ที่ควรแก้ที่สุด เป็นจุดที่เหมาะสมอย่างยิ่ง

    เป็นจุดที่ถูกต้องในการแก้ แก้ที่ตรงนี้ แก้ที่อื่นไม่มีทาง

    จากหนังสือธรรมชุดเตรียมพร้อม
    เทศน์เมื่อวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๙
    ที่มา fb Cr น้องเพชรพลอย
     
  12. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    แต่ขอจะถามกลับไปบ้างว่า ถ้าคุณเบื่อทางโลกมากๆแล้ว
    คุณยังอยากจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกไหม
    ถ้ารู้ว่าการมีการกายหยาบนั้น คือตัวทุกข์ดีๆ นี่เอง
    เพราะฉะนั้น คำว่านิพพานก็เช่นกัน จิตที่เป็นอนัตตาเท่านั้นจึงจะเป็นผู้มีสิทธิ์ไป
    แต่ถ้าจิตคุณเป็นอนัตตา(ว่างถาวร) แล้วคุณยังอยากจะกลับมาเกิดมีกายหยาบอีกไหม?
    เพราะฉะนั้น ผมมีความคิดเห็นส่วนตัวว่า คำว่า นิพพานนั้นไม่สูญ มีอยู่จริง
    แต่ถ้าต้องมีเหตุที่จะต้องกลับมาเกิด ก็เกิดได้ เพราะลงมาทำหน้าที่
    แต่การเกิดในครั้งนี้ จะต่างจากการเกิดของเหล่ามนุษย์ทั่วๆไป
    กล่าวคือ มีกายบริสุทธิ์ มีจิตบริสุทธิ์ เกิดมาครั้งนี้ก็เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น เป็นต้น
    หรือเรียกว่า ลงมาเกิดเพื่อทำหน้าที่ ว่าอย่างงั้นเห่อ
     
  13. samrung

    samrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +1,258
    ถ้านิพพานคือบ้านเก่า แสดงว่าคนที่เข้านิพพานแล้ว ลงมาเกิดได้เหรอครับ (เปล่ากวนนะครับ สงสัย )
    (คนที่ถามก็ไม่ใช่ผมนา ? )

    ผมกล่าวถึง น้องเขาถามคำถามนี้ นะครับ หรือผมอ่าน ไทยไม่รู้เรื่องแล้ว ...

    (ในพระสูตรกล่าวว่า คนที่เกิดมาในโลกนี้ยังไม่เคยเป็นพ่อ เป็นแม่
    ไม่เคยเป็นญาติกันเลยไม่มี.. )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2013
  14. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    สาธุค่ะ ขออนุโมทนากับทุกๆท่าน ที่เข้ามาถามข้อข้องใจ เกี่ยวกับการไปนิพพาน คําว่า"นิพพาน" ก็หมายถึงการการปล่อยวาง ว่างเว้น จากกิเลส และตัวอุปาทาน ทั้งหลาย ที่มีอยู่ในจิตเราๆท่านๆ

    เพราะทุกๆคนมีกิเลสอยู่แล้ว...แต่ใครเท่านั้นที่จะทําให้ถึง และทําให้แจ้งได้เท่านนั้น คําว่ากลับบ้านเก่า คือ "นิพพาน" เป็นแค่ภาษาที่สื่อ ออกมาเป็นการสื่อถึงว่า ให้ปฏิบัติ จนกิเลสหมดไป แล้วให้เหมือนการกลับไปบ้านเก่า บ้านเก่าในที่นี่ก็หมายถึง จิตดังเดิมที่ผ่องใส

    แต่อาศัยกิเลสที่จรมาจึงเศร้าหมอง แล้ว เราจะทําอย่างไร? ให้กิเลสเราๆท่านๆหมดไป ก็เท่านั้นเอง...ภาษาก็ไม่ควรยึดติด เพราะเป็นแค่สื่อ สมมุติเท่านั้นเอง...แต่สิ่งที่ดี เราก็ควรหันมาปฏิบัติ และเป็นผู้หลุดพ้น จากกิเลสและตัณหาที่ทําให้เราๆท่านๆมาเกิดอยู่รํ่าไป...สาธุค่ะ
     
  15. samrung

    samrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +1,258
    ขอบคุณแทนน้องเขา เพราะเขานึกถึง นิพพาน คนละความหมาย จากท่านๆ
    เพราะเธอนึกว่า ท่านๆ ลงมาเกิด อีก ..
     
  16. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    โมทนาสาธุครับ
    ธรรมจบที่ตนเอง แต่ทางโลก ไม่มีคำว่า จบ หรือ สิ้นสุด
    คุยกันได้ทุกเรื่อง ทุกท่าน ด้วยเหตุผล ด้วยสติปัญญา
    เพียงแต่เราไม่ได้ตั้งอยู่ในอารมณ์ของตน จะไม่ตอบมาจากอารมณ์ตน
    ควรทำใจเป็นกลาง และจะไม่ตอบตรงใจผู้ถาม
    เพราะรู้ว่าถามหรือปักธงไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว
    หรือเขาจะต้องตอบให้ได้ตรงใจตนเอง เป็นต้น

    คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว ที่ผมแนะให้ไปปฎิบัติธรรม หรือถ้าปฎิบัติอยู่แล้ว ย่อมไม่มีคำถามใด
    นอกจากเราไม่มีคำถามกับกับตนเองแล้วย่อมมีคำถามกับผู้ใดด้วย
    และไม่ไปถามสิ่งที่ตนเองรู้แล้ว นำไปถามคนอื่น เป็นต้น
    ผู้ที่ตามหาปัญญาของตนให้ได้ก่อน แล้วทุกอย่างจะมีคำตอบให้กับตนเอง
    โดยที่เราไม่ต้องไปถามผู้อื่นให้เมื่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 พฤศจิกายน 2013
  17. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    โมทนาสาธุกับคุณเพ็ญยูเคด้วย ที่ช่วยมาตอบธรรมะ
    การตอบปัญหากับคนทางโลกนั้น มิใช่แค่ตอบปัญหาแล้วก็จบกัน
    เมื่อให้คำตอบไปแล้ว ก็จงให้ปัญญาคนถามไปด้วย
    ถ้าไม่อย่างนั้น ก็จะถามอยู่อย่างนั้นแหล่ะ คือจะถามไม่เลิก
    ที่ถามมาก็เพราะความไม่รู้ หรือสงสัยของจิตตน นั่นเอง
    อย่าลืมนะ เราก็เป็นผู้ปฎิบัติชั้นฆราวาส มิใช่พระ น้ำหนักสู้พระไม่ได้
    นอกจาก คนที่มีตาในดู จึงจะรู้ว่า จิตของแต่ละคนต่างกัน
    คนที่มีแต่ตานอกอย่างเดียวก็เลยดูแค่กายหรือภายนอก เท่านั้น
    ดีก็นะที่ถามมาน่ะ นับว่ามีประโยชน์มาก และเป็นสิ่งทดสอบจิตตนไปด้วย
    ว่ารู้จริงไหม เวลาเดินมรรคส่วนใหญ่ไม่มีใครสนใจใครหรอก
    แต่จะชอบสนใจในผลหรือนิพพานของผู้อื่น

    ใครที่มีปัญญามากมาช่วยตอบก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของกระทู้
    เจ้าของกระทู้ มิใช่อรหันต์ จะรู้ไปหมดซะทุกอย่าง ตอบเท่าปัญญาที่มีอยู่
    จะตอบที่สาธารณะก็ต้องระมัดระวังอีก
    ถ้าขืนตอบแบบคนรู้มาก จะหาว่าอวดอุตริมนุสธรรมอีก
    หาตอบในเชิงปัจจัตตัง หรือจากจิตได้ฌานหรือญาณนู้นนี่ ก็ไม่ได้อีก
    สิ่งที่ตอบในกระทู้นี้ดีที่สุดก็คือ ตอบตามความเป็นจริง
    นี่แหล่ะก็คือธรรม พระตถาคต ยังไม่เน้นเรื่องอภิญญา หรือฌานสมาบัติมากเลย
    เพราะนั่น มิใช่ หนทางแห่งการหลุดพ้นจริง นั่นเป็นทางหลง เฉพาะผู้ไม่ฉลาด
    คือไม่นำฌานสมาบัติ หรืออภิญญา มาทำอาสวกิเลสของตนให้สิ้นไป นั่นเอง

    วันนี้ อย่าไปถือว่าเรามาสอนกันนะ ถือซะว่าเรามาสนทนาธรรม
    หรือแลกเปลี่ยนธรรมะกัน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี คือมีแต่ผู้ปรารถนาที่ดีต่อกัน
    แต่ก็ต้องขอบใจคนที่ถามมากๆเลย ถามแค่ประโยคเดียว ผมตอบซะยาวเลย
    อย่าไปคิดกันมาก เพราะทั้งผู้ถามและก็ผู้ตอบนั้น ก็ยังไม่มีใครไปถึงพระนิพพานจริงๆเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 พฤศจิกายน 2013
  18. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    ขอบคุณครับ สำหรับคำตอบของพี่ๆทุกคน จากที่ตอบๆกันมานั้น ผมขออนุญาตท้วงติงได้ไหมครับ พอดีเห็นกระทู้ท่านมีการสอนด้วย
    ที่พูดๆกันว่าคำพูดเป็นเพียงภาษาสมมุติมันก็ใช่ แต่ก็ควรใช้ให้ถูกต้องด้วยครับ ไม่ใช่ว่าบอกว่ามันสมมุติก็พูดแบบไหนก็ได้ อย่างคำว่าบ้านเก่าเนี่ย คงเข้าใจกันดีในความหมาย ถ้าที่ท่านตอบว่ามีหน้าที่บางอย่างจึงลงมาเกิดนั้น อย่างดีเราก็เคยเป็นพรหม จะใช้คำว่าบ้านเก่ามันก็ขัดๆครับ
    ต้องขออโหสิกรรมด้วยครับ หากไปกระทบจิตใครเข้า ที่เขียนไม่ได้ต้องการมาหาเรื่องครับ ท้วงติงตามประสาพี่น้อง(ตอนชาติไหนก็ไม่รู้)
     
  19. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]


    คติธรรม คำสอน หลวงพ่อทูล ขิปปปัญโญ

    "สมัยก่อนๆ คนไม่มีความรู้มากขนาดนี้ ก็เป็นพระอริยเจ้ากันได้มากมาย พระพุทธเจ้าสอนประโยคสองประโยค ท่านเอาไปปฏิบัติ สมัยนี้รู้มาก ลังเลมาก เรียกว่ารู้มากยากนาน เหมือนอาหารมากเครื่องปรุงมากกลับไม่อร่อย เพราะเครื่องปรุงไม่สมบูรณ์แบบ"

    ขึ้นชื่อว่าความรู้ ทุกๆคนต่างก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์ แต่ในทางธรรมะนั้น ความรู้มากเกินไปมีแต่จะเป็นผลเสีย เพราะอะไร?

    มนุษย์สามารถพัฒนาปัญญาได้ 3 รูปแบบ

    1.) สุตมยปัญญา ปัญาที่เกิดจากการฟัง การอ่าน
    2.) จินตามยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการคิด วิเคราะห์
    3.) ภาวนามยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากสมาธิ

    ปัญญา 2 อย่างแรก นำมาใช้ทางโลกนั้นดี ยิ่งรู้มากก็ยิ่งประสบความสำเร็จมาก แต่ในเรื่องของธรรมะนั้น กลับไม่ใช้ปัญญา 2 อย่างแรก แต่ไปใช้ปัญญาอย่างที่ 3 เป็นหลัก

    ปัญญา 2 อย่างแรกนั้น ทำงานร่วมกับสมองเป็นหลัก สมองมนุษย์นั้นหยาบ ไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่ละเอียดกว่ากายหยาบได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งบ้า จึงต้องใช้

    ปัญญาอย่างที่ 3 คือใช้ "กำลังใจ" เป็นหลัก ในการตัดกิเลสให้เป็นสมุจเฉทประหาร กิเลสทั้งหลายก็ไม่ได้เกาะอยู่ที่สมอง แต่เกาะที่ใจ ถ้าพัฒนาสมอง แล้วจะหมดกิเลสได้อย่างไร

    ยกตัวอย่างเช่น พระอักครมหาสาวกเบื้องซ้าย ขวา ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสารีบุตรนั้นกว่าจะบรรลุธรรม ต้องใช้เวลาถึง 15 วัน แต่พระมหาโมคคัลลาน์ ใช้เวลาเพียง 7 วัน ส่วนสาวกท่านอื่นๆฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้าเพียงไม่กี่จบ หรือบางท่านก็ฟังแค่จบเดียว บรรลุอรหัตผลเลย

    Cr..ศิริกุล ชีวะถาวร
     
  20. Kim_UoonSo

    Kim_UoonSo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +5,937
    สวัสดีค่ะ ลุงมหา๑,
    พี่ ผู้มา และพี่ samrung
    (เอ๊ะ!!! คนเดียวกันรึเปล่าน๊า?)

    ขอเชิญดื่มน้ำเย็นๆ ให้สบายกาย สบายจิตก่อนนะคะ
    ขอให้พบกับความสุขกาย สบายจิต สงบ และร่มเย็นจ้า


    [​IMG]






    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


     

แชร์หน้านี้

Loading...