อยากคิดดีตลอดเวลาทําไงครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 15 พฤศจิกายน 2013.

  1. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ว่า
    "มโนปุพพัง คมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ มีใจเป็นประธาน สำเร็จลงแล้วด้วยใจ"

    ถ้าผมคิดดี ได้ก็สร้างบุญกุศลตลอดเวลา แต่มันไม่ง่ายเลยเพราะผมยังมีกิเลสอยู่

    แต่อยากทราบวิธีที่จะคิดดี คือทรงพรหมวิหาร4 ตลอดเวลาเลย ประมาณนี้

    ที่ผมเคยทําคือตั้งอานาปานุสติ แล้วดูลมหายใจ แต่บางครั้ง สมาธิหลุด ไปตามกิเลสเลย
     
  2. ตาป้อม

    ตาป้อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +121
    ตั้งกระทู้แบบนี้ ก้อเป็นคนคิดดีอยู่แล้ว การที่จะเป็นคนดีไม่มีกิเลสหลงเหลืออยุ่เช่นอริยะบุคคุลที่หลุดพ้นไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ คนเรามีกิเลสกันทุกคน ถ้ายังไม่จบกิจ บรรลุอริยะธรรม
    การครองตนให้เป็นคนดี รักษาศิล ทำบุญกริยาวัตถุ10 ให้มั่น จนเกิดความเคยชินชำนาญ
    ก้อเป็นคนดีแล้ว
     
  3. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    พยามเข้าล่ะกันครับ
    ไม่ต้องถึงกับให้คิดดีตลอดเวลาหรอก ไม่มีใครทำได้หรอก
    เอาแค่เมื่อคิดอกุศลให้รู้ตัว แล้วระลับ
    และหากมีโอกาสช่วยเหลือเอื้อเฝื้อผู้อื่น
    ก็ทำตามความเหมาะสม ให้ตามอัตภาพ
    แค่นี้ก็พอครับ
     
  4. deawpayu

    deawpayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +980
    ขอโมทนากับเจ้าของกระทู้ครับ ขอฝากคำถามเพิ่มเติมด้วยครับ เวลาพูด ทำงาน มันชอบเผลอ ความคิดดีไม่ต่อเนื่อง มีเทคนิคแก้ไขยังไงบ้างครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 พฤศจิกายน 2013
  5. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    หายใจเข้า..คิดดี หายใจออก..คิดดี ทำให้ได้ตลอดเวลาแค่นี้พอ..
     
  6. ABT

    ABT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ศีลครับ ตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ก็จะทรงความคิดดีเอาไว้ได้ ค่อย ๆ รักษาไปจนถึงกรรมบถ 10 ก็จะบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น สมาธิก็จะทรงด้วยครับ อนุโมทนา
     
  7. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    อยากคิดดีตลอดเวลาต้องทำอย่างไร คำตอบคือต้องทำอย่างพระอริยะครับ

    ต้องทำอย่างไร ต้องเริ่มจากการ ศึกษาเรียนรู้ ก่อนว่า อะไรคือ การคิดดี ความดีคืออะไร อะไรคือความไม่ดี ต้องมีปัญญาให้รอบรู้ลึกซึ้ง ที่กล่าวแบบนี้เพราะเรื่องบางเรื่อง คนที่ฉลาดๆอย่างเราๆยังไม่สามารถตอบได้เลยว่า เรื่องนั้นดีหรือไม่ดี เรื่องบางอย่างที่คิดว่าดี อาจจะไม่ได้ในอีกมุมมองหรืออีกด้านหนึ่งก็ได้ ดังนั้นต้องเริ่มด้วยการฝึกปัญญา รู้ทัน ก่อให้เกิดวิชา ทำลายความไม่รู้ทั้งหมดก่อน

    เมื่อมีปัญญารู้แจ้งในความดีทั้งปวงแล้วจึงสามารถคิดดีและทำดีต่อไปได้อย่างไม่มีข้อสงสัยครับ

    ทีนี้การฝึกให้คิดดี สม่ำเสมอตลอดก็ต้องฝึกเรื่องสติและสมาธิ ให้ชำนาญเป็นรากฐานของจิต เพื่อใช้ควบคุมให้คิดดีเป็นปรกติครับ ตรงนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนให้มากๆต้องใช้เวลามากครับไม่ง่ายครับ แต่จะเห็นพัตนาการของจิต คือความคิดทั้งหลายจะเป็นความดิดดีเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆครับ จนในที่สุดคือมีแต่ความคิดดีล้วนๆ

    เมื่อฝึกฝนต่อไปตามแนวทางของพระพุทธเจ้าก็จะพบจุดสูงสุดของความดีทั้งหลายคือ ความคิดที่ดีที่สุดจะเห็นว่า จิตที่ดีที่สุดคือต้องเป็นจิตที่ไม่ยึดติดในความดี คือต้องเป็นจิตที่สะอาดบริสุทธิ์นั่นเอง ตอนนั้นท่านก็จะคิดดีแบบใหม่ แบบพระอรหันต์ ที่ยิ่งกว่าการคิดดีแบบปุถุชนครับ มันเป็นไปตามลำดับขั้นของมันอย่างนั้นนั่นเองครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2013
  8. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +9,765
    การไม่คิด หรือต้องการให้คิดในทางกุศล คือจิตต้องอยู่ในสมาธิทรงอารมณ์กุศลไว้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
    ขอแชร์ประสบการณ์ ที่ลองทำแล้วได้ผลคือ การสวดมนต์ในพุทธศาสนา บทใดก็ได้ กลับไปกลับมา สิบครั้ง ร้อยครั้ง หมื่นครั้ง ...
    จะพบว่าจิตจะค่อยๆ นิ่งขึ้น โดยเฉพาะ บทสรรเสริญพุทธคุณ จิตจะคลายความกังวล ความกลัวต่าง ๆ
    เมื่อถอนจิตออกมา อาจจะต้องพบเรื่องราว หรือ ได้เห็นสิ่งที่ก่อกิเลส ชัดเจน
    ก็เลี่ยงที่จะไม่ ดู ไม่ฟัง หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ให้เพียงสักแต่ว่าเห็น แต่ไม่ได้ดู
    ได้ยิน แต่ไม่ได้ฟัง พูดง่ายๆ ว่าเราไม่เอาจิตไปเกาะกับสิ่งที่เป็นอกุศลทั้งหลายทั้งสิ้น
    พยายามอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ จะเห็นภาวะจิต
    และกระแสอกุศลที่กำลังก่อตัวขึ้นได้เร็วและเท่าทัน
     
  9. deawpayu

    deawpayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +980
    ถ้ามือถือ ใฃ้ระบบ android ใช้โปรแกรม Mindfulness Bell https://play.google.com/store/apps/details?id=com.googlecode.mindbell&hl=th ตั้งเตือน ทุก 5 นาที 10 นาที แนะนำให้ตั้งแบบสั่น กันเราเผลอ เวลาเราพูดคุย หรือทำงาน โปรแกรมจะเตือนให้หันกลับมาอยู่กับลมหายใจ หรือพรหมวิหาร ก็ช่วยได้ดีระดับหนึ่งสำหรับผู้เริ่มต้นภาวนา ขอโมทนาครับ
     
  10. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ทำจิตให้เกิดสมาธิก่อน..เขาจะทรงอารณ์กุศลธรรม ได้เท่าที่กำลังจิตจะพึงทำได้ตั้งสัมมาทิฏฐิให้ได้ ใช้เป็นฐานของจิตไปเลยครับ สาธุ
     
  11. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    อยากคิดดีตลอดเวลา ต้องมีความเพียร เพียรอย่างสม่ำเสมอ

    ความเพียรที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ มี ๔ อย่าง คือ

    ๑. เพียรละ บาปที่เกิดขึ้นแล้ว
    ๒. เพียรระวัง บาปใหม่ไม่ให้เกิดขึ้น
    ๓. เพียรรักษา กุศลที่เกิดขึ้นแล้ว
    ๔. เพียรเจริญ ในกุศลกรรมให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป

    ถ้ามีความเพียร และตั้งใจฝึกฝนดังนี้แล้ว ก็ถือว่าใช้ได้นะ
     
  12. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    เขาเรียก สัมมัปทาน4..ใช่ไหมครับท่านt-boon:cool:
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ส่วนตัวจะแนะนำว่า.การที่เราตั้งใจจะคิดให้ดีอย่างนี้ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ.
    .แต่ว่ามันจะเป็นการปิดกลั้นตัวเราเองครับนั่นก็คือจะปิดกลั้นใจได้ครับ.
    .ให้ลองเปลี่ยนการคิดดีๆอย่างนี้มาเป็นการสร้างสติทางธรรม
    จากการเจริญสติในชีวิตประจำวันด้วยวิธีใดๆก่อน
    ก็ได้ครับขอให้อยู่ที่ฐานกาย...เพื่อเข้าไปคอยควบคุมความคิด ณ ตรงจุดนี้
    เพื่อให้คลายใจออกจากความคิด ออกจากอารมย์.ออกจากขันธ์ ๕ ส่วนนามธรรมก่อนครับ.

    ..ความคิดถ้าเค้าจะเกิดเราต้องไม่ให้เค้าเกิดครับ.
    ต้องมีกำลังสติทางธรรมตัวนี้เค้าไปควบคุม..
    ความคิดตัวนี้ก่อน.เพื่อไม่ให้จิตเกิด.จิตเป็นธาตุรู้เราปล่อยให้เค้ารับรู้ได้
    แต่ว่าไม่ปล่อยให้เค้าเกิด(คือมีความคิดเข้าไปร่วมปรุงแต่ง หรืออาการจิตกระเพื่อม)
    .พอปล่อยให้เค้ารับรู้ตามความจริงในสภาวะปัจจุบัน
    จะเกิดปัญญาทางธรรมขึ้นมาได้..พอเกิดปัญญาทางธรรมขึ้นมา
    ต่อไปเราก็ใช้สติตัวนี้กับปัญญาทางธรรมให้ทำหน้าที่แทนความคิด..
    เพราะปัญญาทางธรรมนี้จะทำให้รู้ว่า
    เรื่องอะไรควรหรือไม่ควร อะไรเป็นกุศลหรืออกุศล.
    พอเค้ารู้ว่าเรื่องอกุศลนั้นๆไม่ดี เรื่องความคิดนั้นๆก็ไม่ดี.
    ปัญญาตัวนี้ก็จะหาเหตุผลจนทำให้จิตยอมรับในเรื่องนั้นๆได้
    ถ้ายอมรับได้แล้ว.

    .ความคิดฝ่ายอกุศลในเรื่องนั้นๆก็จะไม่ผุดขึ้นมาอีกครับ..
    ไม่งั้นเด่วความคิดอกุศลเรื่องนั้นๆแม้ว่าด้วยความตั้งใจของเราที่คิดดี.
    พอเวลาผ่านไปอีกซักระยะพอเราเผลอมันจะผุดขึ้นมาได้อีกครับ​
     
  14. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ขออนุญาตขยายความเข้าใจตรงนี้สักเล็กน้อยนะครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์อยู่บ้าง

    หมายความว่า ปกติเวลาเราคิดอะไร เดิมทีเราไม่รู้เลยว่า คิดเพราะจิตเกิด มีอารมณ์ เช่น รัก โลภ โกรธ หลง เข้ามาปรุงร่วมด้วยอยู่หรือไม่ หรือว่า มีสติ รู้คิดวิเคราะห์ตามเหตุตามผลตามความเป็นจริงจริง ๆ ตรงนี้เรายังไม่รู้ แยกไม่ออก ตรงนี้แหละมีความสำคัญมาก ต้องเจริญสติสัมปชัญญะ เข้ามาแยกแยะตรงนี้ให้ออก ให้เห็นชัดเจนจริง ๆ

    (คำว่า มีสติ คือ กลับมาระลึกได้ คำว่า มีสัมปชัญญะ คือ รู้ตัวทั่วพร้อม หมายความว่า นอกจากต้องฝึกสติให้กลับมาระลึกได้ ได้เร็วขึ้น ไวขึ้น บ่อยขึ้นแล้ว การรู้ตัวหรือการมีสัมปชัญญะ ต้องให้มีความชัดเจนด้วย อย่าเพียงแค่รู้แวบ ๆ เบลอ ๆ แล้วผ่านไป ต้องฝึกให้การกลับมารู้สึกตัวมีความชัดเจน สติสัมปชัญญะถ้ามีกำลัง การระงับยับยั้งชั่งใจจึงได้ผล ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา กำลังทั้ง ๕ นี้ทิ้งไม่ได้ ควรฝึกให้เข้มแข็งเข้าไว้ ทาน ศีล ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา ค่อย ๆ ต่อยอดเรียนรู้ไป)

    การฝึกทวนกระแส ไม่คิดตามความเคยชินนั่นแหละคือการฝึกสมถะ ซึ่งถ้าควบคุมได้จริง แยกออกได้จริง มันก็จะเริ่มรู้ว่า ลักษณะของจิตที่เกิดและไม่เกิดเป็นอย่างไร มีจุดให้สังเกต สติจะตามรู้เอง เห็นจุดที่ควรจะดู จะรู้ จะละ จะควบคุม ความหลงเป็นอย่างไร ในเบื้องต้นตรงนี้ จะพอเริ่มเห็นแนวทางบ้างแล้ว ฝึกสัมปชัญญะตามให้มาก ๆ ด้วย มีสติก็ต้องมีปัญญา รู้จักระงับยับยั้งชั่งใจให้มาก อะไรเป็นกิเลส ตัณหา อุปาทาน ต้องอ่านตัวเองให้ออกเสมอ ๆ คลายความเห็นผิดออกไป


    จริง ๆ เมื่อเริ่มเข้าใจแล้ว มันเป็นการรู้แต่ไม่ยึด รู้สึกไม่อินเหมือนเคย นั่นโฉมหน้าใหม่ของการศึกษาเริ่มมาให้เรียนรู้แล้ว รู้แต่ไม่ยึด แต่อย่าไปสนใจมากว่า จิตเป็นธาตุรู้ เพราะมันจะทำให้เกิดอัตตาขึ้นมาได้ ว่ามีจิตที่เที่ยงแท้ ไม่ต้องไปสนใจตรงนั้นก่อน พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ชัดเจนแล้วว่า ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ดังนั้นหน้าที่ที่จะต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่องคือการมีสติและสัมปชัญญะ ไม่หลงความคิด ติดอยู่ในมุมใดมุมหนึ่ง ห้วงใดห้วงหนึ่ง หรือภพใดภพหนึ่งนั่นเอง ไม่ปล่อยให้เค้าเกิด คือ ให้รู้เท่าทันการหลงสร้างภพในทางใดทางหนึ่ง แม้แต่การคิดว่า ไม่ให้เค้าเกิด ก็ต้องระวังว่า จะหลงสร้างภพ ไม่เกิด ขึ้นมาอีกหนึ่งภพโดยไม่รู้ตัว ตรงนี้ค่อย ๆ ศึกษาไป มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กำลังใจถ้าไม่ถึง บางทีจะว่ายุ่งยาก หาว่ากลัวโน่นกลัวนี่ แต่จริง ๆ ที่ว่า ไม่กลัว ๆ จริง ๆ มันก็ยังกลัวกันอยู่นั่นเอง ความกลัวมันมีกันทุกคน ค่อย ๆ ทำความเห็นให้ถูกตรงไปโดยลำดับ อย่าใจร้อน อ่านตัวเองให้ออกเสมอ ก็จะค่อย ๆ เข้าใจตนเองตามความเป็นจริงไปโดยลำดับเอง


    ในที่สุดก็ต้องวางปัญญาด้วย ปัญญาก็เป็นของไม่เที่ยง ผู้รู้เองก็ไม่เที่ยง ถ้ายังเห็นว่า เที่ยงอยู่ ก็แสดงว่า ยังไม่เห็นตรงตามความเป็นจริง ยังไม่ตรงตามคำสอนของพระพุทธองค์ ยังไม่ใช่ หน่อพุทธางกูรโดยแท้


    **ครูบาอาจารย์ท่านเคยเมตตาสอนไว้ว่า เรื่องของจิตก็เป็นเหมือนภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องหนึ่ง มีรักโลภโกรธหลงปัญญาญาณการตรัสรู้อยู่ในนั้นครบหมด ครั้นเมื่อพ้นกิจธุระไปแล้ว ก็คือ ภาพยนตร์นั้นได้ฉายจบเรื่องไปแล้ว ท่านไม่พูดว่ามีอะไรต่อไปหลังจากนั้นอีก


    ขออนุโมทนาในความตั้งใจดีครับ

    สาธุ..
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ขอบคุณที่ช่วยขยายความครับ /\
     
  16. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +2,515
    ไอ้คิดไม่ดีนี่ มันคือไร ประมาณไหน วันๆๆคิดไร อยากรู้อะ แบบไหนคือไม่ดี
     
  17. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ความคิดในจิตเรา นี่มันเป็นขันธ์ ไหม?

    มันอยู่ภายใต้การควบคุมของเราได้โดยสิ้นเชิงไหม?

    แล้วการจะไปบังคับมัน อยากให้มันเป็นอย่างที่เราต้องการ นี่มันจะทำให้เกิดทุกข์ไหม?
     
  18. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    ก็ต้องรักษาจิตใจเราให้ดี(คิดดี ทำดี พูดดี) แต่คงตลอดเวลานั้นคงยาก เอาทำที่เราพอทำไหวก้พอแล้ว โพสท์สิ่งดีๆไว้ในนี้ ก้ทำให้เราเปนคนคิดดี
    ถ้าอยากจะทำได้ตลอดเวลา ก็ต้องมี ศีล สมาธิ ปัญญา เป้นฐานกำลังไว้คอยหนุน
    จะได้แยกแยะสิ่งที่ไม่ดี แล้วเลือกคิดแต่สิ่งดีๆแทน
    ถ้าในภาษาทางโลกง่ายๆเขาว่า.."ให้มองโลกและคนอื่นในแง่ดี (ซึ่งเปนสิ่งที่ทำได้ลำบาก)" แต่ถ้าทำได้เหมือนชนะใจตัวเอง
     
  19. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    ธรรมดาของจิต มีสภาพเกาะ...

    ดังนั้น ใช้อนุสติ10 ให้จิตเกาะ
     
  20. sanjames

    sanjames Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +46
    เราทำได้เท่าที่เราทำได้เพราะเรายังเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ย่อมมีกิเลสในใจ และในตัว เพียงแค่ว่าเราจะทำยังไงให้กดกิเลสตัวนั้นให้ได้นานที่สุด จขกท.ทำดีแล้วให้ทำต่อไปนะครับ (ผมเองก็พยายามกดกิเลสตัวนี้อยู่ บางที่มันก็ชนะ บางทีมันก็แพ้ สู้กับมันต่อไป )
     

แชร์หน้านี้

Loading...