ติดตามสถานะการณ์

ถูกแล้ว ดวงเดียวกัน ครับ ISON จะขึ้นทางทิศตะวันออก ตอนเช้าตรู่

แต่ข้อความข้างบน พูดถึงว่า ช่วงบ่ายหรือช่วงหัวค่ำ ISON อยู่ตำแหน่งไหน ของทิศตะวันตก ครับ

.

 

ชอบดูดาวพระศุกร์มาตั้งแต่สมัยตอนยังเด็ก ทุกวันนี้ดาวพระศุกร์ก็ยังอยู่ตำแหน่งเดิม ยิ่งหน้าหนาวท้องฟ้าเปิด ดาวจะดูดวงใหญ่ สุกใส งดงามมาก

... ค่อนข้างมั่นใจว่าดาวที่เห็นยามเย็น ทิศw 18.00-19.00 น. คือดาวพระศุกร์ จ๊า

 

พูดถึง ดาวพระศุกร์ ย้อนยุคไปไกลเลยนะคุณ น้ำใส

บางท่านอาจจะยังสงสัยว่า ทำไมจู่ๆ เพิ่งสังเกตเห็นว่า ดาวศุกร์ มันดวงใหญ่ สุกใส ในช่วงหัวค่ำ ต่างจากช่วงก่อนหน้านี้หล่ะ ??

เนื่องจากดาวศุกร์ได้โคจรเข้ามาอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้โลกมากขึ้น ก็เลยเห็นดวงใหญ่ขึ้นนั่นเอง ถ้าเปรียบการโคจรของดาวเคราะห์กับการวิ่งกรีฑา ดาวศุกร์อยู่ลู่ 2 ส่วนโลกอยู่ลู่ 3 ดังนั้นดาวศุกร์จะวิ่งรอบวง(โคจรรอบดวงอาทิตย์)ได้เร็วกว่า วันนี้ 9 พย.2013 ดาวศุกร์อยู่ห่างโลก 0.61 AU ( โลกโคจรนำหน้า ) แต่ในช่วงต้นเดือน มค.2014 ดาวศุกร์จะโคจรมาอยู่ตำแหน่งเสมอกับโลกและใกล้โลกที่สุด ห่างเพียง 0.27 AU





.

 

สภากาชาดฟิลิปปินส์ ประเมินว่า ขณะนี้จำนวนผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลของพายุ "ไห่เยี่ยน" มีไม่น้อยกว่า 1,200 รายแล้ว ขณะที่พายุลูกนี้ซึ่งอ่อนกำลังลงเล็กน้อยกำลังมุ่งหน้าสู่ประเทศเวียดนาม...



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ว่า จากการประเมินของสภากาชาดฟิลิปปินส์ในวันเสาร์ อิทธิพลจากซุปเปอร์พายุไต้ฝุ่น 'ไห่เยี่ยน' ซึ่งพัดถล่มพื้นที่ตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์​ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,000 ราย ในเมืองเพียงเมืองเดียว และอีกราว 200 ราย ในจังหวัดอื่นๆ

1 วันหลังจากไต้ฝุ่นซึ่งถูกจัดให้เป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดเท่าทีเคยมีมา ซึ่งได้ขึ้นฝั่งทางตะวันออกบริเวณภาคกลางของฟิลิปปินส์เมื่อวันศุกร์ (8 พ.ย.) พายุได้เคลื่อนตัวจากตะวันออกไปทางทิศตะวันตก ขณะที่หน่วยกู้ภัยประสบปัญหาในการเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล เนื่องจากถนนหลายสายถูกกระแสน้ำท่วมตัดขาด รวมถึงถูกเศษซากปรักหักพัง และต้นไม้ที่หักโค่นกีดขวาง

อิทธิพลของพายุ ไห่เยี่ยน แผ่ปกคลุมทั่วทั้งฟิลิปปินส์ และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากพายุลูกนี้จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยเมืองชายฝั่งตาโกลบัน ในจังหวัดเลย์เต ซึ่งมีประชากรราว 220,000 คน เป็นเมืองที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด หลังถูกคลื่นทะเลหนุนยกซัดฝั่ง (สตอร์มเซิร์จ) ที่มีความสูง 5-6 เมตร ใกล้เคียงระดับคลื่นยักษ์สึนามีซัดถล่ม สนามบินของเมืองได้รับความเสียหาย กระจกหอบังคับการบินถูกลมกระโชกซัดแตกละเอียด อาคารผู้โดยสารถูกน้ำท่วม และระบบการสื่อสารของเมืองล่ม

ด้านนาง เกวนโดลีน แปง เลขาธิการใหญ่สภากาชาดแห่งฟิลิปปินส์ เผยต่อสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า พบศพผู้เสียชีวิตนับพันศพ ลอยอยู่ในน้ำที่ท่วมสูง และมีผู้เสียชีวิตอีกราว 200 คน ที่จังหวัดซามาร์ เธอระบุด้วยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในภูมิภาคนี้อาจเพิ่มขึ้นอีก เมื่อมีการนับจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตราว 100 คน และบาดเจ็บอีก 100 คน ส่วนสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติระบุว่า ยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แน่ชัดได้

ขณะเดียวกัน ภาพที่เผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์ของฟิลิปปินส์ แสดงให้เห็นศพผู้เสียชีวิตซึ่งถูกบรรจุในห่อพลาสติก นอนเรียงอยู่บนถนน รอให้รถฉุกเฉินมารับไป โดยนาย เซบาสเตียน โรดีส์ สแตมปา หัวหน้าทีมประสานงานประมาณภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดีเอซี) ซึ่งถูกส่งเข้าไปยังเมืองตาโกลบันระบุว่า เขาเคยเห็นภาพแบบนี้ครั้งสุดท้ายในเหตุสึนามิถล่มมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2004

ทั้งนี้ ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนพัดถล่มจังหวัดเลย์เตและซามาร์ในวันศุกร์ ด้วยความเร็วลมประโชกสูงสุด 275 กม./ชม. เทียบเท่าพายุระดับ 5 ซึ่งเป็นขึ้นสูงสุด จากนั้นเคลื่อนตัวขึ้นเหนือไปยังจังหวัดเซบู ก่อนจะออกกำลังลงเล็กน้อยและเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือใกล้เกาะโบลาคาย แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง และเคลื่อนตัวเข้าถล่มเกาะมิดาเนาในภายหลัง

ในวันเสาร์ไต้ฝุ่นลูกนี้อ่อนกำลังกลายเป็นพายุระดับ 4 มีความเร็วลมสูงสุด 185 กม./ชม และความเร็วลมกระโชกสูงสุด 220 กม./ชม. และเคลื่อนตัวเข้าสูงทะเลจีนใต้ มุ่งหน้าสู่ประเทศเวียดนาม ซึ่งพยากรณ์อากาศฟิลิิปปินส์ระบุว่า พายุอาจทวีกำลังขึ้นอีกระหว่างเดินทางไปเวียดนาม

อนึ่ง ทางการท้องถิ่นใน 15 จังหวัดของเวียดนาม ดำเนินการเรียกเรือประมงกลับเข้าฝั่งแล้ว และเตรียมตัวรับมือเหตุดินถล่มที่อาจเกิดขึ้น ประชาชนกว่า 300,000 คนในจังหวัด ดานัง และ กว๋างนัม ถูกสั่งให้อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย













ข่าวไทยรัฐ. ออนไลน์

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
ทำนายราศีกันย์ ดาวหาง ISON: วิวรณ์ 12 - เวลาสิ้นสุดในคำพยากรณ์พระคัมภีร์

เมื่อ 3 พฤศจิกายน 13 ปรากฏการณ์ดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์บางส่วน หรือ "สุริยคราส" ในทางโหราศาตร์ถือว่าไม่ค่อยดี
..ในการเรียงลำดับความลับของ "สำหรับฟ้าแลบที่มาจากทางทิศตะวันออกจะมองเห็นได้แม้จะอยู่ในทิศตะวันตก." ที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์ที่ผ่านมา. ที่ไปสอดคล้องกับแมทธิว 24 เหตุการณ์เหล่านี้ในแวดวงทำนายตะวันตกมองว่าเกี่ยวกับการที่เรากำลังเดินทางเข้าสู่บททำนายอันน่าตื่นกลัวทีมีในแมทธิวที่ 24 (การทำลายวิหารก่อนสิ้นโลก)

ดาวหาง Ison ที่ได้เดินทางเข้ามารวมอยู่ในตำแหน่งของ กลุ่มดาวจักรราศีที่ 6

(ราศีกันต์หมายถึง กลุ่มดาวจักรราศีที่ 6 ตามตำราของโหรศาสตร์ตะวันตก อยู่ระหว่างกลุ่มดาวราศีสิงห์และราศีตุลย์ มีสัญลักษณ์เป็นหญิงสาวพรหมจรรย์มีปีก ที่จะครอบคลุมระหว่างวันที่ 17 กันยายน ถึง 16 ตุลาคม ในแบบนิรายนะ)

และที่เท้าของดาวกลุ่มดาวราศีกันย์และ ISON อยู่ในส่วนของศีรษะ ซึ่งปรากฏการณ์ในลักษณะนี้ทางตะวันตกเรียกว่า รูปแบบที่มีความสัมพันธ์กับวิวรณ์ข้อ 12 1-2 : "หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์เกิดขึ้นบนสวรรค์ คือมีหญิงคนหนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นเสื้อผ้า มีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า และบนหัวของเธอมีมงกุฎที่ทำด้วยดาวสิบสองดวง เธอตั้งท้องอยู่ เธอร้องด้วยความเจ็บปวดเพราะใกล้จะคลอดแล้ว"

อ่านต่อบทต่อมา..

"ข้าพเจ้าได้เห็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้นบนสวรรค์ พวกคุณเชื่อไหม มีพญานาคสีแดงตัวใหญ่ตัวหนึ่ง มีเจ็ดหัวและสิบเขาโผล่ออกมา แต่ละหัวมีมงกุฎสวมอยู่ หางของมันตวัดเอาหนึ่งในสามของดวงดาวบนท้องฟ้าตกลงมาบนโลก และมันก็ยืนอยู่ตรงหน้าหญิงที่กำลังจะคลอดลูกคนนั้น เพื่อจะกินลูกของนางทันทีที่คลอดออกมา หญิงคนนั้นได้คลอดลูกชาย ผู้ที่จะครอบครองประชาชาติทั้งปวงด้วยคทาเหล็ก แต่พระเจ้าก็ได้คว้าลูกของเธอไปอยู่กับพระองค์บนบัลลังก์ของพระองค์ เธอได้หนีเข้าไปในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง ไปยังที่ที่พระเจ้าได้เตรียมไว้สำหรับเธอ เพื่อเธอจะได้รับการดูแลเป็นเวลาหนึ่งพันสองร้อยหกสิบวัน
ต่อมา ได้เกิดสงครามขึ้นบนสวรรค์ มิคาเอล กับทูตสวรรค์ของเขาได้ต่อสู้กับพญานาคตัวนั้น แต่พญานาคตัวนั้นกับพวกสมุนของมันก็ตอบโต้ ฝ่ายพญานาคแพ้ ดังนั้น มันและพวกสมุนของมันจึงไม่สามารถอยู่บนสวรรค์ได้อีกต่อไป พญานาคซึ่งเป็นงูดึกดำบรรพ์ ซึ่งเรียกกันว่า มารหรือซาตาน ผู้ที่ล่อลวงมนุษย์ทั้งโลก ก็ถูกโยนลงมาบนโลกพร้อมกับพวกสมุนของมัน" ฯลฯ ....
............

ไม่แน่ใจว่าบังเอิญเกี่ยวหรือคนละเรื่องเดวกัน เมื่อ ..เมื่อวันหนึ่ง ท้องทะเลปั่นป่วนด้วยคลื่นลมแรง และคำราม เมื่อยมทูตปรากฏกายขึ้นบนชายฝั่ง และเมื่อได้เป่าแตรอันมหัศจรรย์นั้น โลกเก่าก็ถูกทำลาย โลกใหม่ก็บังเกิด. ... ทำนายของ มาเธอร์ Shiptonhttps://www.facebook.com/photo.php?fbid=600666379996356&set=a.448055735257422.105722.448042111925451&type=1&relevant_count=1

 

ข้อมูลจาก. Solarham. และ. Solar. Img

เกิดเปลวไฟสุริยะขนาด. X1.1. จากจุดดับ. 1890 ซึ่งมีทิศทางตรงกับโลก เมื่อวันที่. 10. พฤศจิกายน. 2556 เวลา 12:14. น. เวลาไทย. ดูภาพจาก. STEREO มี การเกิด. CME. หลังจาก้กิดเปลวไฟสุริยะขนาด. X1.1

X1.1 Solar Flare From Sunspot 1890 - November 10, 2013

As seen in the EVE image to the left, sunspot 1890 is directly Earth facing and has just produced a strong X1.1 solar flare at 05:14UTC.

Looking at the latest STEREO images, there is a CME that was produced along with this X flare.
More updated images are needed to tell the direction and speed of this CME.







Piyacheep S.Vatcharobol



เมื่อเช้านี้คาดการณ์ไม่เกิน ๗ ชั่วโมง X Class เกิดแล้วนะครับ
X 1.1 เป็นเวลา ๑๐ นาที เกิน ๑ ไปแค่ ๐.๑ เท่ากับครั้งก่อน

GOES 15 X-Ray Events 1-8A
Cur 10/0551 C2.1 Ratio 0.035
Beg 10/0508 C2.3
Max 10/0514 X1.1 Int 3.5e-02 J m-2
End 10/0518 M5.3

๑๘๙๐ และ ๑๘๙๑ ก็ยังคงโตขึ้นเรื่อยๆนะครับ และจากข้อมูลก็เชื่อว่า จุดดับที่ ๑๘๙๐ จะยังต้องปล่อยพลังงานระดับ X Class ใหญ่ๆออกมาก่อนที่จะหมุนไปด้านหลัง ไม่น้อยกว่า ๒ ครั้ง

ดร.ก้องภพบอกว่าผลกระมบของดาวพฤหัสที่มาเรียงตัวก่อให้เกิดปฏิกิริยามากมาย

การเกิดปฏิกิริยามากมายถี่แบบนี้ ตามบันทึก ว่าเป็นครั้งแรกนะครับ การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ใกล้เข้ามาชัดเจน ให้จับตาดูและรังมากเป็นพิเศษ ช่วงหลัง ๒๑ ธันวาคม จน มกราคม โดยเฉพาะเมื่อดาวหางไอซอน (หากไม่ระเบิด) วกกลับออกมาจากดวงอาทิตย์ จะมีอิทธิพลกระทบโลกโดยตรง เพราะอยู่ใกล้กันมากเหลือเกิน

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล ได้แชร์ ลิงก์

พวกเขาอาจกำลังตั้งรับการมาของจานบินที่มากับดาวหาง ISON แต่อาจจะเป็นจานบินที่ถูกสร้างขึ้นโดยโปรเจคบลูบีม

CHINESE TROOPS & US NAVY IN HAWAII NOV 12-14 TO FIGHT OFF THE SPACESHIPS ESCORTING COMET ISON
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=mGtdI8mN1WU&feature=em-uploademail]CHINESE TROOPS & US NAVY IN HAWAII NOV 12-14 TO FIGHT OFF THE SPACESHIPS ESCORTING COMET ISON - YouTube[/ame]

Communist Chinese troops 'boots on the ground' in Hawaii next Tuesday



Department of Defense - Public Domain

Timothy WhitemanWilmington Conservative Examiner
November 8, 2013

For the first time in American history, troops from Communist China's People's Liberation Army (PLA) will openly be on sovereign American soil starting early next week, as reported by the right-of-center news portal Canada Free Press (via Google News) on Nov. 8, 2013 and also by China's governmental controlled Xinhua News Agency on Nov. 6, 2013.

Almost totally ignored by the American media, PLA troops will be in Hawaii from the 12th through the 14th of this month, to be hosted by the U.S. military's Pacific Command, also headquartered in the Aloha State.

Communist Chinese troops will be participating in the U.S. government's massive GridEx II military, quasi-military and civilian emergency response exercise.

The New York Times reported on Aug. 16, 2013 that GridEx II specifically is consists of:

... thousands of utility workers, business executives, National Guard officers, F.B.I. antiterrorism experts and officials from government agencies in the United States, Canada and Mexico are preparing for an emergency drill in November that will simulate physical attacks and cyberattacks that could take down large sections of the power grid.

They will practice for a crisis unlike anything the real grid has ever seen, and more than 150 companies and organizations have signed up to participate.
Three days after the NY Times article, the Department of Defense official website quietly noted rather generically that Chinese troops were invited to "attend next year’s Rim of the Pacific multilateral naval exercise."

Not quite done yet, the American Defense Secretary Chuck Hagel appeared before the world's press corps with Chinese Minister of National Defense Gen. Chang Wanquan.

The duo stated they've agreed "to expand the current system of defense exchanges and joint exercises."

Open Arms...

In what the Beijing-ran news agency refers to as "non-traditional security areas," the American commander of all US Forces in the Pacific, Admiral Samuel Locklear was quoted by Xinhua as "looking forward" to Chinese troops participating in the disaster relief drill.

"In relation to our ability to do this with our Chinese counterparts," the Admiral said, "this kind of exercise gives us a place to start, and get into the rhythm of understanding and trusting each other."

"I'm looking forward to it," he added. "I think it will be a great exercise."

Communist Chinese troops 'boots on the ground' in Hawaii next Tuesday - Wilmington Conservative | Examiner.com

 

เดือน ธ.ค. 2556 จับตาฝนฤดูหนาว
ขอขอบพระคุณครับ
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=F0dQDPI-Vtc]ฝนฤดูหนาว - พริม เพชรรัตน์ - YouTube[/ame]

 

พายุแรงมากจริงๆ น่ากลัวมาก

ดูในยูทูปแล้ว น่ากลัวมาก ผู้สื่อข่าวบ้านเขาน่านับถือจริงๆ

<iframe width="420" height="315" src="//www.youtube.com/embed/rxmHNuky0hU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/Ke6ureLcpkk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/teKyrb9-jUw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


<iframe width="420" height="315" src="//www.youtube.com/embed/KBk5j5GIfaA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/qZ_FAMOy8FA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


<iframe width="420" height="315" src="//www.youtube.com/embed/KmjwaYxqP_4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/ygf7PXAs9IM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


<iframe width="420" height="315" src="//www.youtube.com/embed/BrJxrYxvERk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/Ez-7_fXdzwY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

Kaokala Fc
3 ชั่วโมงที่แล้ว ·





คาเรน ไนเบิร์ก (Karen Nyberg) มนุษย์อวกาศหญิงจากองค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) และสมาชิกหนึ่งใน 9 ลูกเรือที่ประจำอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติขณะนี้ เผยภาพน่าสะพรึงของมหาไต้ฝุ่น "ไห่เยี่ยน" (Haiyan) จากอวกาศ ที่บันทึกเมื่อ 9 พ.ย.ที่ผ่านมาขณะพายุเพิ่งผ่านฟิลิปปินส์ ความเสียหายเบื้องต้นคาดว่ามีประชาชนชาวฟิลิปปินส์เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ร่วม 10,000 คน

พร้อมกันนี้มนุษย์อวกาศหญิงซึ่งรับหน้าที่วิศวกรประจำภารกิจที่ 37 บนสถานีอวกาศ ยังได้โพสต์ภาพแสดงความหวังว่า แม้มีเมฆทะมึนปกคลุมโลกแต่ดวงอาทิตย์ยังคงฉายแสงอยู่

 

เตือนภัย พิบัติโลก
The Weather Lover Club
พายุเดินตามลมที่ระดับ 500 เฮกโตปาสคาลหรือ 5.5 กม.

จะเห็นว่าวิชาสถิติใช้ไม่ได้กับพายุลูกนี้ เราต้องรู้จักทฤษฎีของการเคลื่อนตัวของพายุ พายุหมุนเขตร้อนจะเคลื่อนตัวโดยใช้ระบบลมระดับ 500 เฮกโตปาสคาล เราต้องใช้เทคโนโลยีดาวเทียมกับการเคลื่อนตัวของพายุหมุนเขตร้อน นักวิชาเกินบางคนพอเอาไมค์จ่อปากพูดได้ทุกเรื่อง สื่อมวลชนต้องระวังนะครับ ผมดีใจมากๆเลย ที่ตอนนี้มีคนเข้าใจการเปลี่ยนแปลงลักษณะอากาศมากขึ้น เข้าใจพายุและอื่นๆ ผมรู้สึกหายเหนื่อยเลยนะครับ เมื่อการโพสต์ของเราทำให้คนเข้าใจวิชาอุตุนิยมวิทยามากขึ้น หรือทำให้เขาเหล่านั้นปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ ผมใช้เวลาศึกษาพายุหมุนเขตร้อนมา 25 ปี เพราะตอนที่ผมเข้ามาทำงานในกรมอุตุนิยมวิทยาใหม่ๆ (2532) ผมรู้จักพายุไต้ฝุ่นเกย์ สองสามชั่วโมง พายุไต้ฝุ่นเกย์สร้างความเสียหายให้กับภาคใต้เป็นพันล้านบาท และเห็นความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ถ้ามีโอกาสผมก็อยากจะออกไปให้องค์ความรู้ด้านอุตุนิยมวิทยา หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ เราไม่สามารถจะนิ่งเฉยปล่อยให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยขาดแคลนความรู้ด้านอุตุนิยมวิทยา และภัยพิบัติทางธรรมชาติ

(ดร.วัฒนา กันบัว)

 

Adepto Perfectus = dutchsinse



Breaking news .. from a viewer in the Philippines

zirojrage
19 minutes ago

as per our weather forecasters (P.A.G.A.S.A.), the next typhoon "Zoraida" is going on the same track where yolanda or haiyan wrecked havoc. pls update us too.

มไม่ค่อยรู้หลักการตั้งชื่อพายุมากครับ แต่ในนี้บอกว่า ได้เกิดคลื่นไมโครเวฟ ในในพื้นที่นี้ (จากรูป) และได้เกิดการก่อตัวของพายุขึ้น เห็นเขาเรียกว่า Zaraida แต่ตอนนี้ยังไม่มีการตั้งชื่ออะไรน่ะครับเป็นแค่การคาดการณ์โดยดูจากสิ่งที่เขเรียกว่าคลื่นไมโครเวฟที่ตรวจได้จากบริเวณนั้น และถ้ามีก็คงจะสร้างความเสียหายได้ใกล้เคียงพายุโยลันดา หรือไห่เยี่ยนครับ
______

Everyone... I just put this out a few hours ago..

ANOTHER microwave pulse happened, and went into this area.. now called "Zoraida".

Here is the official news on it..from 2 hours ago

Tropical Depression east of Southern Mindanao enters Philippine Area of Responsibility, signal no. 1 up in 7 areas | Sun.Star



Here is my post showing the microwave pulse.. I will be putting out the video I made earlier with tatoott regarding this storm forming during another microwave beam event

อ่านรายละเอียด และดูรูปเพิ่มเติม คลิก-> http://sincedutch.wordpress.com/201...c-new-rotation-develops-as-result/]11/10/2013 — Microwave ‘beam’ into West Pacific, new rotation develops as result |

 

อ้างอิง ข้อมูลคุณ Adepto Perfectus = dutchsinse


...

as per our weather forecasters (P.A.G.A.S.A.), the next typhoon "Zoraida" is going on the same track where yolanda or haiyan wrecked havoc. pls update us too.
...

ผมสงสัยว่าจะเป็นสิ่งที่กำลังก่อตัวขึ้นในภาพข้างล่างครับ

ข้อมูลจากเว็บภัยพิบัติ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2556



00:30 JTWC ยกระดับหย่อมความกดอากาศต่ำ 90W ในทะเลฟิลิปปินส์เป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง (HIGH) แต่ยังไม่ให้ค่าเป็นพายุดีเปรสชันตามอุตุนิยมญี่ปุ่น (JMA) ซึ่งประกาศเป็นพายุไปก่อนนี้แล้ว ส่วนทางซ้ายของภาพดาวเทียมคืออดีตดีเปรสชัน TD30W ที่เข้าถล่มเพชรบุรี-ประจวบ ขณะนี้กำลังทวีกำลังขึ้นใหม่ในอันดามัน

 

เราแค่อยากรู้ เรื่องบนโลก ▶ Weather Warfare/สงครามสภาพอากาศ Haarp/Chemtrail/Geoengineering
44 นาทีที่แล้ว
Prophetic Nov. 15th, Facebook Warning Goes Viral: A Message From God?
อ่านข่าวจาก before it’s news พาดหัวข้างบนนี้ อ้างถึงคำทำนายว่า 15 พย 2013 โลกจะเกิดภัยพิบัติ อ้างถึงไฟฟ้าดับ 3 วัน (ช่วง power grid drill ? ) คำทำนายดังกล่าวนี้ เป็นสัญญานเตือนภัยจากของเทพเจ้า Prophetic Nov. 15th Facebook Warning Goes Viral: A Message From God? | Prophecy

อ่านแล้ว บางคนก็เชื่อและตื่นกลัว บางคน ( เช่นเราฯ) ก็อดหวนนึกถึง Project Blue Beam ไม่ได้ ก็พล็อตเรื่องมันสอดรับกับพล็อตเก่าเหลือเกิน พล็อตในอดีตนานแสนนาน ......ฮืม......

Project Blue Beam อะไรหว่า ???

คศ. 1994 เป็นครั้งแรกที่ชื่อ “โปรเจคบลูบีม” หลุดออกมาสู่สายตาสาธารณะชน นักข่าวชาวคานาดา Serge Monast อ้างว่านี้คือเอกสาร ลับของ UN ที่เขาลักลอบออกมา (ดูภาพเอกสาร ประกอบ) หลังจากนั้น เขากับเพื่อนนักข่าวก็ถูกฆาตกรรม ส่วนลูกสาวก็หายสาปสูญ กูเกิล ดู จะเห็นนิยามว่า เป็นโปรเจคที่พวกเชื่อเรื่อง conspiracy theories อ้างว่า NASA จะใช้เทคโนโลยี่ นำพาโลกเข้าสู่ยุคแห่ง ศาสนาใหม่ ( antichrist ) เพื่อเป็นรากฐานสำคัญ นำไปสู่สังคม New World Order

Project Blue beam เป็นเรื่องที่คนจำนวนมากมาย เคลือบแคลงใจ และไม่เชื่อ แต่..........รู้อะไรไม๊..... โปรเจคบูลบีมนี้ มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ พิสูจน์มากสุดก็ว่าได้ !!!

ทีนี้เรามาดูว่าในเอกสาร(ที่อ้างว่าเป็นของ) UN นั้น Project Blue Beam ถูกแบ่งเป็น 4 ระยะ มีอะไรบ้าง :
- ระยะที่ 1 : ทำการลบล้างความเชื่อเกี่ยวกับ God ในอดีต คือพยายามหักล้างคำสอนทางศาสนา ขั้นตอนทำ ผ่านทางสื่อ สร้างหนังแนว Antichrist สร้างเรื่องมนุษย์ต่าวดาว สร้างหนังต่อต้านทฤษฎีของ ชาลส์ ดาวิน ( evolution , วิวัฒนาการ ) รวมทั้งสร้างเหตุภัยธรรมชาติในที่ต่างๆ เพื่ออ้างเหตุการค้นพบ “หลักฐานใหม่” ที่จะสามารถใช้หักล้างคำสอน/ ความเชื่อเดิมทางศาสนา
- ระยะที่ 2 จะฉายหนัง 3D- Hologram บนท้องฟ้า ....ภาพจานบิน ,มนุษย์ต่างดาว หรือแม้แต่พระเจ้า
(อันนี้คือเหตุผลหนึ่งที่ต้องพ่น Chemtrails ในอากาศ คือให้สารเคมีในเคมเทรล เป็นจอรับภาพ , สมัยก่อนคนไม่ค่อยเชื่อเรื่อง Project Blue Beam เพราะคนไม่คิดว่า Hologram เป็นเรื่องจริง ทำได้ ณ ปัจจุบัน 3 D-hologram ถูกนำมาใช้ในงานแฟชั่นโชว์ งาน คอนเสริต์กันเกร่อแล้ว แถมตั้งแต่ ปี คศ. 2009 hologram ยังพัฒนาจนถึงขั้นเป็น ภาพ 3 มิติที่ไม่ใช่แค่ตาดู แต่มือต้องได้ รู้สึก สัมผัสได้แล้ว ดูลิงค์ Touchable Hologram Becomes Reality (w/ Video) ประเทศจีนก็พัฒนา Hologram ได้ มีสายตาคนจีนร่วมหมื่นเป็นพยาน เขาฉายเป็นภาพเมืองพร้อมรถวิ่ง บนท้องฟ้าเหนือแม่น้ำ หลายสายข่าวยังกล่าวว่า USA เองอาศัยภาพ hologram ลวงทหารอิรัก ในสงครามครั้งล่าสุด คือแสร้งฉายเป็นภาพกลุ่มรถถัง และ ทหารอเมริกันในทะเลทราย )
- ระยะที่3 Mind control ใช้คลื่นความถี่ต่ำ แสร้งทำเป็นเสียงจากพระเจ้า สื่อสารกับผู้คน. กลุ่มใหญ่ ทั่วโลก ทุกภาษา ...อันนี้สามารถทำเป็นเสียงจากในหัวกระโหลกของเราเอง ไม่เฉพาะเสียงจากภายนอกแบบเสียงวิทยุ HAARP.net - Could The HAARP Project Be For Mind Control? by Nicholas Jones
(ในอดีตทดลองทำเฉพาะเป็นรายๆ ไป ผลก็คือ บางคนก็กลายเป็นคนบ้าโรคจิต เพราะได้ยินเสียงอยู่คนเดียว แต่ ........ แต่........บางคนก็กลายเป็นคนพิเศษ คือกลายเป็นคนที่อ้างว่า ตนสามารถรับสื่อ ได้กับพระเจ้า หรือ มนุษย์ต่างดาว.........อย่างเช่น Zeta Talk ????, Maitreya???? (คือเขาเอาชื่อพระศรีอริยะเมตไตยของชาวพุทธ ไปใช้ในการหลอกลวงมานานแล้วค่ะ)
- ระยะที่ 4 Universal Supernatural manifestations มี 3 ขั้น
1 alien invasion
มนุษย์ต่างดาวพวกผู้ร้ายมาบุกโลก
2 Rescue the Earth
มนุษย์ต่างดาวพระเอก นางเอก และพระเจ้ามาโปรดโลก กำจัดพวกเลวร้ายอออกไป
3 อันนี้โหดร้ายที่สุด จะมีการใช้ คลื่น เสียง คลื่นไฟฟ้า ผ่านไปทางอุปกรณ์ไฟฟ้า โทรศัพท์ทุกชนิด ไมโครเวป หลอกคนว่านี้คืออำนาจซานตาน มาทำร้ายเรา จุดประสงค์คือสร้างสถานการณ์ให้คนกลุ่มใหญ่ ฆ่าตัวตาย เป็นบ้า เป็นโรคจิตถาวร ดู VDO เล่นๆ พอเพลินตา จาก ลิงค์ Project Blue Beam | NEW WORLD ORDER PLAN

หลังจากผ่านช่วงที่โหดร้าย, ผ่านคืนแห่งดาวพันดวง มวลมนุษย์ชาติก็จะพร้อมอ้าแขนรับ พระเจ้าองค์ใหม่ “ New Messiah” ผู้จะนำความสงบไปสู่ทุกหนแห่งในโลก ...........แลกกับอิสระภาพของความเป็นมนุษย์?????

-- The end of the story (จบเรื่องที่แปลจ๊ะ)---
-- The end of a mankind ?? ---

เราฯ เก็บเรื่อง Project Blue Beam เข้าตู้ไปนานมากแล้ว เพราะ
1 คิดว่าถ้าแปล คงต้องงัดเอาหลักฐานมาอ้างอิงด้วย ปีหนึ่งก็ไม่จบเรื่อง .....
2 เรื่องนี้ต้องเอ่ยถึง New age religious เพราะจะผ่านไปสู่ new world order ไม่ได้ ถุ้าไม่มี “Neo God” หลายเสียงอาจระงมด่าเรา .......... เพราะ มนุษย์ต่างดาว, Universal God , หรือพระ Maitreya ตอนนี้หลายคนเคารพ และเฝ้ารอรับการมา ด้วยศรัทธาเปี่ยมหัวใจ .........เราฯ แค่อยากให้เฉลียวใจบ้างว่า เรื่องที่ได้รับทราบ ได้อ่านมา ผ่านการระบายสี +ใส่ไข่ +แต่งเติมเสริมต่อ ___เพื่อเอื้อ ประโยชน์กับกลุ่ม New World Oder มามากแค่ไหน __

เราฯ แปลเรื่องนี้ สำหรับคนที่ยังใหม่อยู่ ขอให้ใช้วิจารณญาน อย่างหนัก ในการอ่าน ในการเชื่อ ข้อมูล .......... หรือยังไม่ต้องเชื่อก็ดี แค่ เก็บข้อมูลไว้มุมหนึ่งของซีกสมอง นะ .............เพราะ หากเหตุการณ์ที่เล่าเกิดขึ้นจริง คุณๆทุกคนมีโอกาสเสียสติ มีโอกาสเป็นบ้า .........เราไม่ชอบเพื่อนที่เป็นคนบ้า มันคุยด้วยไม่สนุก ....

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล



ฝนสีเลือด ความลึกลับที่ยังเป็นปริศนา

หากยังจำกันได้เมื่อปีที่แล้วฝนตกสีเลือดที่ศรีลังกาและอินเดีย ผมโพสต์เรื่องนี้อีก หลังหลายอย่างดูแปลกๆ เหมือนจะเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกัน ..? แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครตอบได้นิ.

หรือบางที อาจเป็นเพราะมีมนุษย์บางกลุ่มสร้างสถานการณ์.. ??
Blood Red Rain | The Unexplained Files
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=zVufc4fMSZM]Blood Red Rain | The Unexplained Files - YouTube[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=zVufc4fMSZM]Blood Red Rain | The Unexplained Files - YouTube[/ame]
Blood Red Rain | The Unexplained Files

1 พฤศจิกายน 2013? ... Waters Turning Red in Nootdorp - Blue Heron - The Netherlands - YouTube
Waters Turning Red in Nootdorp - Blue Heron - The Netherlands


ข่าวฝนสีแดง

ชื่อเจ้าของคลิป : Science Channel

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=HO655uFP50I]Red Rain in Sri Lanka | The Unexplained Files - YouTube[/ame]

หน้ามรสุม ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งในศรีลังกา ฝนก็ตกหนักตามปกติ แต่มีบางอย่างผิดปกติ สีของน้ำฝนที่ตกลงมา ฝนตกติดต่อกันถึง 60 วัน ผู้คนต้องหลบอยู่ในบ้านและหวาดกลัวว่า น้ำดื่มของพวกเขาจะถูกปนเปื้อนด้วยน้ำฝนสีประหลาดที่ตกลงมา

เนื่องจากไม่สามารถหาคำตอบให้กับสาเหตุของการเกิดฝนสีประหลาดนี้ได้ นักวิทยาศาสตร์

จึงหาข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน ที่เกิดขึ้นทั่วโลก

เรื่องเหลือเชื่อก็คือ เหตุการณ์คล้ายๆกันนี้เคยเกิดขึ้นจริงๆ ในซิดนีย์ ออสเตรเลียเมื่อปี 2009 เมืองทั้งเมืองอยู่ภายใต้หมอกสีส้มแดง พื้นที่ตลอดความยาว 600 กิโลเมตรเลียบชายฝั่งตกอยู่ภายใต้ปรากฏการณ์นี้

ก่อนที่หมอกจะสลายไปในอีก 48 ชั่วโมงถัดมา นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าหมอกสีแดงนี้เกิดจากฝุ่นที่มีแร่เหล็กในปริมาณมากซึ่ง ถูกพัดเข้ามาจากพื้นที่ทะเลทราย

และเหตุการณ์ที่เหมือนกันก็เคยเกิดขึ้นในเมือง ซาโลร่า ทางตอนใต้ของอินเดีย ฝนสีแดงเหมือนเลือดตก และคราวนี้ฝุ่นสีแดงก็ถูกหมายหัวว่าเป็นตัวการอีกเช่นกัน เพียงแต่คราวนี้เป็นฝุ่นผงจากทะเลทรายอาราเบีย ที่ถูกพัดมาด้วยกระแสลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งทำให้เกิดฝนตกในหน้าฝน

แต่ทฤษฎีว่าด้วยฝุ่นนั้นก็ไม่เป็นจริง จากการตรวจสอบของนักวิทยาศาสตร์ชาวอินเดีย ดร. กอดฟี ลูอิส ชี้ให้เห็นว่า จากการตรวจสอบตัวอย่างน้ำฝนแล้ว เห็นได้ชัดว่าโมเลกุลเหล่านี้ไม่ใช่ฝุ่นผงอย่างที่เข้าใจกัน ถ้าเป็นฝุ่นผงมันจะไม่มีลักษณะกลมเกลี้ยง และโปร่งแสงแบบนี้

ดร. ลูอิส ยังค้นพบสิ่งที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นคือ​โมเลกุลเหล่านี้ดูเหมือนจะมีชีวิต เท่าที่เราทราบกันสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก มี DNA ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของสิ่งมีชีวิตที่ทำให้เกิดการขยายตัวของเซลล์ แต่ดร. กอดฟีพบว่า เซลล์เหล่านี้ขยายตัวได้ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่มี DNA

พวกมันขยายตัวได้ในเชิงชีวเคมี นี่คือสิ่งมีชีวิตแบบใหม่

ฝนสีแดง จาก Youtube พร้อมคำแปลภาษาไทย

ฝนโบกขรพรรษและเซลสิ่งมีชีวิตต่างดาว

คุณอาจจะเคยได้ยินตำนานุของฝนโบกขรพรรษ หรือ ฝนสีแดง จากตำนานเวสสันดรชาดก ซึ่งเรื่องราวมีอยู่ว่า"...เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จถึงนครกบิลพัสดุ์ตามพระราชประสงค์ของพระพุทธบิดาแล้ว พระพุทธองค์ได้เสด็จประทับบนพระพุทธอาสน์ และพระสงฆ์สาวกก็ขึ้นนั่งบนเสนาสนะ ณ โครธารามวิหารที่บรรดาศากยะวงศานุวงศ์ทั้งหลายจัดไว้ถวายรับรอง ขณะนั้นกษัตริย์ศักยราชทั้งหลายที่เป็นผู้ใหญ่และเป็นผู้มีอายุมาก แล้วมีมานะทิฏฐิ ไม่ทำความเคารพพระบรมศาสดา ด้วยเห็นว่ามีอายุอ่อนกว่า พระพุทธเจ้ามีพระประสงค์จะขจัดมานะทิฏฐิ ของพระญาติทั้งหลายเหล่านั้น จึงทรงแสดงพุทธานุภาพเสด็จเหาะขึ้นไปในอากาศ ทรงแสดงอิทธิฤทธิ์ เนรมิตที่เดินจงกรมแก้ว แล้วเสด็จจงกรมในที่นั้น ประหนึ่งจะโปรยธุลีละอองพระบาทให้ตกลงเรี่ยราย เหนือศิโรตม์แห่งประยูรญาติทั้งปวง มวลพระญาติ อันมีพระเจ้าสุทโธทนะ เป็นต้น ทรงมีจิตเลื่อมใสหายทิฏฐิมานะ พากันถวายนมัสการ ฝนโบกขรพรรษ ก็บันดาลตกลงในสมาคมแห่งพระญาตินั้น ฝนโบกขรพรรษนั้น เมื่อตกลงมา ผู้ใดปรารถนาให้เปียกก็เปียก ผู้ใดไม่ปรารถนาให้เปียกก็ไม่เปียก เม็ดฝนก็จะกลิ้งหล่นจากกายเหมือนหยาดน้ำในใบบัว..." [1]


หลังจากที่ผมได้สืบหาข้อมูลเกี่ยวกับปรากฎการณ์ที่ใกล้เคียงกับ ฝนโบกขรพรรษในยุคปัจจุบันจากทางอินเตอร์เน็ทแล้ว ก็พบว่าได้มีปรากฎการณ์ฝนสีแดงนั้นเกิดขึ้นเป็นจำนวนหลายครั้งในรอบศรรตวรรษนี้ โดยที่เรียกกันว่า "red rain" หรือ "blood rain" (ฝนเลือด) ซึ่งตำนานของฝนสีแดงนั้นมีความแตกต่างออกไปตามแต่พื้นที่ ซึ่งบทความนี้จะนำเสนอตำนานของฝนสีแดงในพื้นที่ต่างๆ รวมไปจนถึงการพิสูจน์ฝนสีแดงโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และการค้นพบเซลส์ของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในฝนสีแดงนี้ และมากไปกว่านั้นนักวิทยาศาสตร์ยังได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า เซลส์ ในฝนสีแดงดังกล่าวเป็นของสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวเป็นมาอย่างไร จะเกี่ยวข้องมากน้อยกับฝนโบกขรพรรษในเวสสันดรชาดกมากน้อยอย่างไรนั้น ก็ขอเชิญติดตามอ่านครับ

ฝนเลือดที่ เทนเนสซี

เวลาบ่ายแก่ๆ ของวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 1841 ที่ไร่ยาสูบแห่งหนึ่งของรัฐเทนเนสซี มีรายงานแจ้งว่าฝนเลือดได้ตกลงมาห่าใหญ่หลังจากมีเมฆสีแดงลอยผ่านบริเวณนั้น ฝนเลือดตกกระจายกินพื้นที่ถึง 700 ตารางเมตรในไร่ยาสูบนั้น อย่างไรก็ดีในรายงานแจ้งไว้ว่าปรากฎการณ์ครั้งนี้เป็นฝนเลือดจริงๆ เนื่องจากมีเศษเนื้อและไขมันรวมไปถึงกลิ่นอันที่ไม่พึงประสงค์ปนมากับฝนเลือดนั้นด้วย จากเหตุการณ์ครั้งนี้คณะสำรวจของ ดร. ทรูส ได้ลงไปสำรวจภาคสนามและพยายามอธิบายลักษณะเหตุการณ์และคาดการณ์สาเหตุของการเกิดฝนเลือดครั้งนี้ ว่า "ลมได้หอบเอาซากสัตว์ขึ้นไปในอากาศและฟ้าได้ผ่าลงเข้าที่ซากสัตว์นั้น เนื่องจากความชื้นของมันทำหน้าที่เป็นสายล่อฟ้าได้อย่างดี "และได้ตีพิมพ์บทความวิชาการไว้ในนิตรยสาร American Science ฉบับที่ 41 ไว้ซะด้วย ซึ่งต่อมาภายหลังนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ก็ต้องหน้าแตกไปตามๆ กันเนื่องจากมีการเปิดเผยว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงเรื่องแหกตาของทาสคนหนึ่งผู้ที่ซึ่งเอาซากสัตว์ไปโปรยไว้รอบๆ ไร่ยาสูบเพื่อแกล้งเจ้านายต่างหาก [2]

ฝนเลือดของจริงที่คาลาเบรีย

ราวห้าสิบปีต่อมา (ปี 1890) ทางตอนใต้ของอิตาลี นักอุตุนิยามวิทยาชาวอิตาเลี่ยนผู้หนึ่งได้บันทึกเหตุการณ์ฝนเลือดที่ตกในพื้นที่แถบคาลาเบรียไว้ใน Popular Science News โดยอธิบายสาเหตุไว้ว่าฝนเลือดนั้นเกิดจาก "นกที่บินอพยพฝูงใหญ่ถูกลมที่รุนแรงฉีกร่าง ซึ่งเลือดที่กระเซ็นออกมาได้ตกลงมาเป็นด้านล่างเป็นฝนเลือด" อย่างไรก็ดีในช่วงเวลานั้นไม่มีรายงานว่ามีลมแรงใดๆ เกิดขึ้นในแถบนั้น แถมยังไม่มีรายงานการพบซากนกในบริเวณนั้นอีกต่างหาก สำหรับหลายๆ คน ปรากฎการณ์ฝนเลือดที่ตกลงมานั้นก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไป [3]

ทฤษฎีฝนสีแดง

อย่างที่ได้กล่าวไว้ตอนต้นว่าปรากฎการณ์ฝนสีแดงนั้นไม่ได้เกิดจากเลือดเพียงอย่างเดียว แต่ฝนสีแดงตามรายงานส่วนใหญ่ที่เกิดนั้น มักจะทรายและฝุ่นละอองที่ปะปนกับน้ำฝน ซึ่งในปี 1981 มีการวิเคราะห์น้ำฝนสีแดงที่ตกในบริเวณเนเปิลส์ (เมืองท่าของอิตาลี) และพบว่าสารเจือปนในน้ำฝนสีแดงประกอบไปด้วย silex (เศษฝุ่นจากหินแร่) ในอัตราส่วน 33%, อลูมิเนียม 15.5%, โครเมียม 1.0%, กรด คาร์บอนิค 9.0%, และที่เหลือก็เป็นพวกคาร์บอน ซึ่งสรุปว่าปรากฎการณ์ฝนสีแดงนั้นเกิดจากการละอองฝุ่นที่มาจากการประทุของภูเขาไฟ อย่างไรก็ดีทฤษฎีนี้ก็ถูกโต้แย้งในเวลาต่อมาเมื่อนักวิทยาศาสตร์พบว่าปรากฎการณ์ฝนสีแดงอื่นๆ ไม่ได้มีสารเจือปนดังกล่าว และน้ำฝนสีแดงนั้นไม่มีการตกตะกอน ดังนั้นการที่น้ำฝนมีสีแดงน่าจะมาจากสาเหตุอื่นไม่ใช่ฝุ่นละอองจากในอากาศหรือภูเขาไฟ อย่างไรก็ดีนักวิทยาศาสตร์ทุกคนค้นพบตรงกันว่า สารประกอบตัวหนึ่งในนั้นคือฝุ่นละอองจากอุกาบาต และพวกเขาสรุปว่าปรากฏการณ์ฝนสีแดงน่าจะมีความเกี่ยวข้องอะไรบางอย่างเมื่ออุกาบาตตกลงสู่พื้นโลก [4]

ความเชื่อเกี่ยวกับฝนสีแดง
ในประเทศอังกฤษมีความเชื่อกันว่าปรากฎการณ์ฝนสีแดงนี้เกิดจากสงครามของภูติที่อาศัยอยู่บนฟ้า(Sluagh) ซึ่งในหนังสือ The Fairy Tradition in Britain (ตำนานภูติในอังกฤษ) ได้กล่าวว่าผู้คนที่อยู่ตามภาคพื้นดินสามารถที่จะได้ยินเสียงตะโกน และเสียงอาวุธกระทบกันตลอดเวลาการสู้รบ ซึ่งฝนสีแดงที่ว่านี้คือหยาดเลือดของภูติดังกล่าวนั่นเอง [5]

ฝนสีแดงครั้งใหญ่ปี 2001และเซลส์ของสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว

ปรากฏการณ์ฝนสีแดงครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นเมื่อราวๆ สี่ปีที่แล้วที่เคราลาประเทศอินเดีย โดยที่ฝนสีแดงได้ตกต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลายาวนานถึงสองเดือน ซึ่งในปรากฎการณ์นี้มีรายงานว่าได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นก่อนที่ฝนสีแดงจะเทลงมา ซึ่งโดยเบื้องต้นนักวิทยาศาสตร์ได้สรุปว่าปรากฏการณ์ดังกล่าว เกิดจากอุกกาบาติที่พุ่งเข้ามาในชั้นบรรยากาศและระเบิดขึ้นในเวลาเช้าตรู่ของวันที่ 25 กรกฎาคม โดยที่ฝุ่นละอองจากการระเบิดนั้นได้ทำให้เกิดสปอร์จำนวนมหาศาล ซึ่งสปอร์เหล่านั้นได้เข้าไปสะสมอยู่ในกลุ่มเมฆและทำให้น้ำฝนเป็นสีแดง อย่างไรก็ดีนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ว่า ทำไมสปอร์จำนวนมหาศาลไม่ปลิวไปตามลมและตกไปสู่บ้านเรือนแถวนั้นบ้าง? [6]



น้ำฝนดังกล่าวได้ถูกรวบรวมและได้ถูกส่งข้ามโลกไปตรวจสอบที่แลปไมโครไบโอโลยีของมหาวิทยาลัย Sheffield ประเทศอังกฤษ สิ่งที่ค้นพบนั้นเป็นอะไรที่น่าตกใจยิ่งกว่าเพราะว่าสปอร์ดังกล่าวเป็นของสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีอยู่บนโลกใบนี้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่าบางทีแล้วการที่ดาวหางพุ่งชนโลกเมื่อหลายล้านปีก่อน ได้นำเอาเซลของสิ่งมีชีวิตติดมาด้วยและเซลเหล่านั้นได้วิวัฒนาการมาเป็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ บนโลกปัจจุบัน [7]

ดร. หลุยส์ [9] นักวิทยาศาสตร์ชาวอินเดีย ผู้ซึ่งเป็นหัวหอกในการค้นคว้าครั้งนี้ ได้กล่าวไว้ในเว็บไซท์ของเขาว่า เมื่อเอาน้ำฝนดังกล่าวไปตรวจสอบก็ได้พบเซลส์ของสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์ ซึ่งประกอบไปด้วยธาตุคาร์บอนและอ๊อกซิเจนอันเป็นองค์ประกอบพื้นฐาน อย่างไรก็ดีเขาไม่พบ DNA จากเซลส์ดังกล่าว ซึ่งสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกใบนี้จะมี DNA เป็นส่วนประกอบ การที่ไม่มี DNA นั้นแสดงว่าเซลส์สิ่งมีชีวิตนี้ไม่ใช่ผลิตผลทางชีวภาพบนโลก อย่างไรก็ดี ดร.หลุยส์ก็ไม่ได้ฟันธงลงไปว่าแท้จริงแล้วเซลส์นั้นมาจากต่างดาวจริง เนื่องจากว่าไม่เคยมีการค้นพบหลักฐานของสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวมาก่อน (อย่างดีก็แค่ฟอสซิลของแบคทีเรียจากดาวอังคาร [8]) แต่นี่ก็เป็นแนวคิดที่ดีที่สุดเกี่ยวกับปรากฎการณ์ฝนสีแดงในขณะนี้

สรุป

จากปรากฏการณ์ฝนสีแดงหลายๆ เรื่องที่ผมนำมาจากแหล่งต่างๆ นั้น ไม่มีส่วนคล้ายกับเรื่องฝนโบกขรพรรษจากเวสสันดรชาดกเลย แน่นอนว่าผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่เกี่ยวแต่เอามาใส่เฉยๆ เพื่อให้คนที่ยังไม่รู้ได้อ่านและทำให้เนื้อเรื่องนี้น่าสนใจขึ้นน่ะครับ หวังว่าผู้อ่านทุกๆ คนจะได้ความรู้จากเรื่องนี้ไปในทุกๆ แง่ ไม่ว่าจะเป็นศาสนา วิทยาศาสตร์ หรือความเชื่อตามท้องถิ่นนะครับผม

[1] http://www.soonphra.com/topic/pang/027.html
[2] http://www.strangemag.com/tennesseef...bloodfall.html
[3] Paranormal Phenomena
[4] Red Rain
[5] Red Rain
[6] ufoindia.org - ufoindia Resources and Information. This website is for sale!
[7] http://observer.guardian.co.uk/world...723913,00.html
[8] Fossil Life in ALH 84001?
[9] http://education.vsnl.com/godfrey/


BlogGang.com : : =Por= :

 

Piyacheep S.Vatcharobol ได้แชร์รูปภาพของ The Sun Today: Solar Facts and Space Weather
7 ชั่วโมงที่แล้ว
ต้องอ่าน ต้องทราบ ต้องคิดตาม ต้องเตรียมพร้อมให้เสร็จอย่างช้า ๒๕ พฤศขิกายนนี้
เพราะนอกจากพายุโคตะระสุริยะ ที่ดำลังจะเกิดถี่ๆหลายๆลูกแล้ว
อุกาบาต ที่เป็นอุกาบาตจริง จนต้องเรียกว่า "ฝน"อุกาบาต
และอุกาบาตที่เกิดดาวเทียมถูกพายุสุริยะทำลายและตกลงสู่โลก
ที่สมัยก่อนรู้กันในชื่อของ สกายแลป Sky Lab ที่ตกลงสู่โลกเพียงดวงเดียว
แต่นี่น่าจะมีไม่น้อยกว่า ๑,๐๐๐ ดาวเทียม ที่จะต้องตกลงสู่โลก
หลังดาวหางไอวอนเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ และวกกลับในวันที่ ๒๘ นี้
แล้วโคจรมาทางวงโคจรของโลก แม้นจะคนละระนาบ แต่อิทธิพลโดนๆ

ความรุนแรงของโคตะระพายุสุริยะที่จะเกิดขึ้นนั้นประมารไหน
นักวิชาการนอกคอกหลายท่าน หลายประเทศกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า
ทะลุเกิน X จากมาตราวัดทั่วไป A 0.1 ถึง 9.9 แล้วไป B
B 0.1 ถึง 9.9 แล้วไป C C 0.1 ถึง 9.9 แล้วไป M
M 0.1 ถึง 9.9 แล้วไป X X 0.1 ถึง 9.9 แล้วไป ......

เขาว่ามันถึง X 10 ถึง X 20 ซึ่งอาจจะดูเกินจริงไป
หากเทียบกับข้อมูลที่บันทึกได้แล้วในประวัติศาสตร์มนุษยชาติเพียง ๕๐๐ ปี

เราลองมาเปรียบเทียบของจริงของ CME เมื่อวันที่ ๑๐ ที่ผ่านมาว่าแรงแค่ไหน?
X 1.1 มีความแรงเท่ากับ
หลอดไฟฟ้าขนาด ๑๐๐ วัตต์ จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ ดวง หรือ

ความแรงเท่ากับแผ่นดินไหวขนาด ๙ ริคเตอร์ รวมกัน ๒๕๐ ครั้ง หรือ

ความแรงเท่ากับพายุเฮริเคนรวมกัน ๕๐๐ ลูก หรือ

๒๐,๐๐๐ เท่า ของพลังงานทั้งหมดที่ใช้ทั้งโลกในเวลา ๑ ปี หรือ

การระเบิดของภูเขาไฟ ๑๐ ล้าน ครั้ง

แล้้วท่านคิดว่าน่ากลัวไหมครับ??? ป้องกันได้ บรรเทาได้หากจะทำ
วางแผนการดำเนินชีวิตให้ดี การเมืองวิกฤติจะพากันพินาศล่มจมแล้ว
มหาภัยธรรมชาติ จากปฏิกิริยาผิดธรรมชาติ กำลังจะเกิดอีก

เตรียมตัว อาหาร น้ำ ยา พลังงานไฟฟ้าแสงสว่างอย่างน้อย ๓๐ วัน
สถานที่หลบภัยออกจากชุมชนเมือง ขึ้นเหนือ เพชรบูรณ์ เลย แพร่ น่าน
ลำปาง(บางส่วน) เชียงใหม่ เชียงราย พะเยาว์ และแม่ฮ่องสอน(บางส่วน)

ไม่ต้องลงทุนมาก แค่เตรียมคนรู้จัก เพื่อน เพื่อนของเพื่อนรองรับการอพยพไว้
เตรียมอาหาร น้ำ ยา เสื้อผ้ากันหนาว อาวุธป้องกันตัวไว้ที่ ที่เตรียมไว้
ศึกษาพุทธศาสนา การทำสมาธิ เจริญสติ อโหสิกรรม ปล่อยว่าง วางลง

คงไม่เกินความสามารถ หากท่านจะทำใช่ไหมครับ



NASA Solar Dynamics Observatory (Little SDO) ได้แชร์รูปภาพของ The Sun Today: Solar Facts and Space Weather
This drives it home! Thank you friends over at The Sun Today: Solar Facts and Space Weather!

The power output of yesterday's X1.1 solar is ~1 million trillion 100 watt lightbulbs. The total energy is ~250 mag. 9 earthquakes or 500 hurricanes or 20,000 world yearly energy usage or 10 million volcanic eruptions or 10,000 trillion lightning bolts or 1 hundredth of sun's output every sec. credit: NASA/SDO/helioviewe

 

คนดูดาว ได้แชร์ ลิงก์
วันอาทิตย์ เวลา 9:23 น. ·
เห็นดาวหาง ISON ด้วยกล้องส่องทางไกลแล้วครับ



Comet Ison For The First Time!
spaceweathergallery.com

Comet Ison For The First Time!
Taken by Brian Whittaker on November 8, 2013 @ Airborne at 38,000 feet over the Mediterranean Sea, looking through dawns Zodiacal Light.

Details:

I finally saw Comet Ison for the first time using small binoculars! (Not visible in wide-angle photo but location given). It was faint, but is predicted to brighten and move each day! Exciting! More at www.AstroPilot.info Free Astronomy Information Source for Aircraft Navigators, Pilots, and Passengers.

Comet Ison For The First Time!

 

ด็อกเตอร์เขียนมาซะดิบดีเลยครับ ดันมาตายตอนจบ ตอนที่ให้ขึ้นเหนือไปหลบภัย ด็อกเตอร์รู้ได้อย่างไรครับว่าทางเหนือจะปลอดภัยจากดาวเทียมเป็นพันที่อ้างว่าจะตก

ผมว่านะครับ บรรยายมาแบบวิทยาศาสตร์ซะดีเลย แต่คงไม่แคล้วมาบอกว่าต้องไปทางเหนือเพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาก ครูบาอาจารย์บอกครับ

 

นั่นน่ะสิครับ ทางเหนือไม่ได้อยู่ในแนวที่สิ่งเหล่านั้นจะตกลงมาใส่หรือว่าอะไร ยังไง

 

นานาชาติระดมความช่วยเหลือช่วยชาวฟิลิปปินส์ เหยื่อพายุไห่เยี่ยน
นานาชาติระดมความช่วยเหลือช่วยชาวฟิลิปปินส์ ขณะที่ความช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก คนในท้องที่เผยเริ่มมีปัญหาปล้นสะดมกันแล้ว หลังจากไม่สามารถเข้าถึงอาหารและน้ำดื่มได้
นานาชาติต่างระดมความช่วยเหลือไปยังประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากที่ต้องประสบกับพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะคร่าชีวิตผู้คนไม่ต่ำกว่า 10,000 คน

ขณะที่ทางการของฟิลิปปินส์ต่างเร่งระดมให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากซากปรักหักพังแล้ว แต่การให้ความช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะหลายหมู่บ้านถูกตัดขาด อีกทั้งยังมีสภาพเป็นโคลนเละอีกด้วย ส่วนเมืองที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือ ทาโคบัน ซึ่งอยู่ทางตอนกลางทางฝั่งตะวันตกของประเทศ

นอกจากนี้ รายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศยังเผยอีกว่า ประชาชนจำนวนมากที่รอดชีวิตจากเหตุพายุไต้ฝุ่นครั้งรุนแรงในประวัติศาสตร์ ยังไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาด อาหาร และระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอีกด้วย

ส่วนประชาชนในพื้นที่ประสบเหตุภัยพิบัติเผยว่า จากปัญหาขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม ทำให้ในขณะนี้เริ่มมีปัญหาการปล้นและขโมยสิ่งของตามห้างสรรพสินค้า และร้านขายของเกิดขึ้นแล้ว เพื่อหาอาหารและน้ำดื่มมาประทังชีวิตให้รอดพ้นจากสภาวะอดอยาก

ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ของสหรัฐ ได้ส่งสารแสดงความเสียใจมายังประชาชนชาวฟิลิปปินส์ที่เสียชีวิต และสูญเสียทรัพย์สินจากเหตุภัยพิบัติดังกล่าว และขอชื่นชมชาวฟิลิปปินส์ที่สามารถยืนหยัดอยู่ท่ามกลางภาวะที่เลวร้ายได้

ขณะที่ ชัค เฮเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ เผยว่าได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบิน รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติการช่วยเหลือและกู้ภัยไปให้กับทางรัฐบาลฟิลิปปินส์แล้ว

ด้าน คณะกรรมาธิการของสหภาพยุโรป (อีซี) ได้อนุมัติงบช่วยเหลือฉุกเฉิน 3 ล้านยูโร พร้อมกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการให้ความช่วยเหลือยามเกิดภัยพิบัติไปยังฟิลิปปินส์แล้วเช่นกัน

ส่วน สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้จัดส่งเต็นท์ที่อยู่อาศัยชั่วคราว พร้อมกับอาหารและอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานแล้ว

ทั้งนี้ พายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ได้รับการระบุว่าเป็นพายุลูกหนึ่งที่พัดเข้าฝั่งแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่มีการจดบันทึกมา โดยเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้พัดเข้าถล่มทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ ล่าสุดในขณะนี้ได้พัดเข้าทางตอนเหนือของประเทศเวียดนามแล้ว และคาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ทางภาคใต้ของจีนในวันอังคารนี้

ความเร็วลมของพายุดังกล่าวโดยปกติอยู่ที่ 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และหากมีลมกรรโชกแรงจะอยู่ที่ 275 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ยังทำให้เกิดคลื่นสูงถึง 15 เมตร และทำให้เกิดฝนตกอย่างหนัก โดยวัดปริมาณน้ำฝนถึง 400 มิลลิเมตร

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/8UJW84Fqhgw?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

มติชน
เขียนโดย Schau-Thai ที่ 10:15 ไม่มีความคิดเห็น: