ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

สวัสดีครับพี่มดพงษ์
ได้ความรู้มันส์หยดติ๋งดีจริงๆครับ
_/\_

 

มารอติดตามครับ

 

มารอติดตามครับ

ปล.อ่านแล้วแอบสงสัยนิดหน่อยว่าเหตุใด ค่านิยมพระผงสุพรรณถึงเบียดพระถ้ำเสือ แซงขึ้นมาติดแท่น ห้าสุดยอดพระเครื่องเมืองไทยได้

 

สวัสดีครับคุณอา...มาติดตามอ่านบทความพระถ้ำเสือครับ

 

.....
...ไม่ต้องสงสัยหรอก.....
๑. พระผงสุพรรณ..แตกกรุ..ก่อนตั้งนาน..สมัย ร.๖...
...ถ้ำเสือ..แตกสมัย ร.๘....คนรู้จักมาก่อน..มีประสพการณ์มาก่อน
...และค่านิยม..ก็มาก่อน....
๒. พระผงสุพรรณ..แตกกรุจาก..พระมหาธาตุ...ยิ่งใหญ่..
..มีประวัติการสร้างระบุชัดเจน..ในลานทอง..แถมมีรายละเอียดของ
ผงที่ผสม..และ..ระบุผู้สร้างปลุกเสก..เป็นของระดับรัฐ..ในสมัยนั้น..
......พระถ้ำเสือ..เจอในถ้ำ..ไม่ทราบประวัติที่มา..ไม่รู้ใครสร้าง...
๓. พระผงสุพรรณ..มีจำนวนมากกว่ามาก..เมื่อเทียบกับ..กรุถ้ำเสือเพียงอย่างเดียว(กรุอื่นไม่นับ)..ประสพการณ์ที่เกิดเลยมากกว่า
...มีคนกล่าวขานถึงมากกว่า..จึงนิยมกว่า
๔. พระผงสุพรรณ..สวยกว่า..และ..ดูสง่า....และเนื้อสวยงามกว่า
....พระถ้ำเสือ..เหมือนของเด็ก..เอามาปั้นเล่น
....บางพิมพ์..ขี้เหร่มากๆ.....

 

........
..หวัดดี..Pardy..พลศิริน้องรัก..Anunn..Motana..และ..เฉียวฟงหลานรัก..
.....................................
....ต่อจากตอนที่แล้ว.....
...............................
..................................
...คราวที่แล้ว..ที่ผมพูดว่า..ลุงผมคนนี้..ห้อยสมเด็จวัดระฆังติดตัวนี่..มีเกร็ดอยู่หน่อยนึงคือ..
.....ตอนนั้น..มีงานทำบุญบ้านของพ่อผม...ผมก็เชิญลุงไปด้วย...พ่อผมมีลูกน้องที่สนิทรักใคร่อยู่
คนหนึ่ง..พ่อก็เชิญเขามาด้วย...แขกก็เยอะ..ไม่ได้แนะนำกัน...ตอนนั้น..พ่อผมนั่งคุยกับ..ลูกน้อง
คนนี้อยู่..แล้วอยู่ดีๆ..ลูกน้องพ่อ..ก็แอบๆชี้ไปทางลุง..แล้วถามพ่อว่า..นั่นพี่ชายของท่านใช่มั้ยครับ
...พ่อผมก็รับว่าใช่...แกก็ถามต่อว่า..ท่านห้อยสมเด็จวัดระฆังอยู่ใช่มั้ยครับ...พ่อผมถึงขั้นตกใจ..
...แล้วก็พูดตอบว่า..ใช่....ขนาดนี่..พ่อบอกว่า..แกไม่ได้เข้าใกล้ลุงเลย..และ..ลุงผมก็แต่งกายมิดชิด
.....แกเป็นคนที่..มีสัมผัสที่๖..ที่ค่อนข้างแม่นยำครับ...พิสูจน์มาแล้วหลายครั้ง...นี่ถึงขนาดแยกแยะ
ได้เลยว่า...เป็นวัดระฆัง..ผมละนับถือแก..จริงๆ.......
...............................................................
.....ผมเคยถามพ่อเกี่ยวกับลุง..เรื่องนี้..พ่อก็บอกว่า..ลุงนะชอบสะสมพระพุทธรูปมาแต่หนุ่มๆแล้ว
(ผมไปเห็ห้องพระลุงมาแล้วใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม..เต็มไปด้วยพระพุทธรูปขนาดใหญ่..มีทั้ง..เชียงแสน
..สุโขทัย..อู่ทอง..ลพบุรี..อยุธยา...อัดกันแน่นไปหมด)..เพราะแกทำอยู่กรมประมงเลย..ได้ไปทั่วทั้ง
ไทย..ลาว..เขมร......
.......ผมเอง..เป็นคนประเภทขี้สงสัย..ว่ากรุถ้ำเสือ..ยุคแรกจริงรึเปล่า...(ตอนนั้น..ยังไม่ได้ขอมา)
...ก็เอามาส่อง...จำได้ว่า..กรุนี้แตก..ประมาณช่วง..สงครามโลกครั้งที่สอง.....ก็ต้องเก่าน่าดู..คือ
....สภาพที่..ลุงเลี่ยมไว้คือ..เลี่ยมทองอย่างหนา..หุ้มแต่ขอบ...พระเปลือย..ทั้งหน้าหลัง.....
........ลุงเขาคงไม่บ้า..อย่างผม..ที่..ห้อยแบบเปลือยๆ..แล้ว..๒๔ ชั่วโมง..(..พลายคู่ตัดเดี่ยว...
..ผมถักลวดเงินไว้ห่างๆ....จากเดิมพระ..อย่างเยี่ยม ๙๐ เปอร์เซนต์..สิบกว่าปี..ตอนนี้..เหลือ
ประมาณ ๕๐ กว่า เปอร์เซนต์..เรียกว่า..เหลือแค่เป็นเค้า..เท่านั้น..ลูกน้องผมคนสุพรรณ..มัน
เห็น..มันก็อยากได้..กะลิ้ม..กะเหลี่ย..อยู่เรื่อย..แล้วก็ตัดพ้อผมว่า...ทำไมพี่ไม่ไปเลี่ยมซะเสียดาย
สึกหมด..(..ความจริงในใจมันคงกะจะว่า..พี่บ้ารึเปล่า..พระดีๆเสียหมด)..แต่จริงๆแล้ว..มันยัง
ไม่รู้สาเหตุ..แท้จริง..ที่ผมเลี่ยมห้อยแบบนี้..แล้วผมจะเล่าภายหลัง..)....
......พระมีการลงรักด้านหน้าไว้...แต่กะเทาะไป..เกือบหมด..เหลือแค่บางส่วน...ก็เลี่ยมห้อยแบบนี้
..ยังไง..ก็ไม่รอดหรอกครับ...แต่ส่วนที่เหลืออยู่..ดูง่าย..และ..ดูขาด..เพราะผมเป็นคนดูรักเก่งอยู่
แล้ว(..ยอตัวเองหน่อย..ปกติไม่เคยยอ...แต่อย่าเอามาให้ผมดูนะ..ดูผ่านจอ..ผมดูไม่ได้หรอก..)
....ก็เป็นรักน้ำเกลี้ยงแบบผสมตามยุค..กึ่งใส..สีน้ำตาล...รักแบบนี้..สีนี้..ลักษณะนี้..ก็จะอยู่ประมาณ
ช่วงสงคราม..ถึง..หลังสงครามเลิกใหม่ๆ..(ประมาณ ๒๔๘๐ - ๒๔๙๐ )....
.....ความจริง..ดูรักอย่างเดียว..ก็ฟันธงได้แล้ว...ว่าเป็นพระถ้ำเสือ..กรุถ้ำเสือ..ที่แตกกรุครั้งแรกแน่..
......ผมก็อยากลองดูต่อ..เพราะเป็นคนชอบหนังแนวสืบสวน....
...ผมมาดูที่กรอบทอง...ทองเรียกว่า..ประมาณ ๙๕- ๙๘ เปอร์เซนต์..เพราะนิ่มมาก..สีเหลืองอมส้ม
....ทองแบบนี้...ร้านทอง..จะใช้ในยุค..ก่อน..ปี ๒๕๐๐.....
...ดูที่ผิว..โอ้..สวยงามมาก...เนื้อแกร่ง..และแน่น..มีแร่ควอรตซ์..แทรกเป็นระยะห่างๆ(..ถ้าเยอะไป
...เก๊..ครับ)...บางจุดก็พบร่องรอยที่..มันหลุดออกไป...(..อันนี้..เป็นลักษณะ..ของ..พระถ้ำเสือ..
..หรือ..แม้กระทั่ง..วัดบ้านกร่าง...เนื้อดินเผาแกร่ง...เมื่อเราตรวจสอบเบื้องต้น..พบว่า..พระเคยถูก
ห้อย..แบบเปลือยมาแล้ว..........................
.................อันนี้..สำคัญ..ถือว่า..ผมสอนไว้เป็นความรู้ประดับ....ทั้งเหงื่อ..ขี้ฝุ่นที่ติดผิวหนัง...รวมทั้ง
น้ำเกลือ..ที่ปนอยู่กับเหงื่อ..จะค่อยๆกัด..เนื้อส่วนที่เป็นดินจริงๆออกไป...เพราะส่วนนั้นนิ่มกว่า..
..ส่วนที่เป็นควอรตซ์(..เม็ดทรายหยาบ)...ถึง..มันกัด..ไม่ได้ก็จริง..แต่..เนื้อส่วนที่เป็นดินรอบตัวมัน
..ค่อยๆหายไป...จนถึงจุดหนึ่ง..ดินมันก็ยึดทรายไว้ไม่อยู่...มันก็เลย..หลุดออกไป..เหลือทิ้งไว้..
แต่ร่องรอย..ที่มันเคยอยู่....(ที่เดี๋ยวนี้..พวกเล่น..พระบ้านกร่าง..เขาเรียกว่า.."รอยว่านหลุด"
..ซึ่งหมายรวมทั้ง..แร่อื่น..เศษถ่าน..อะไรที่ไม่กลมกลืนอยู่กับเนื้อดิน..แล้วมันหลุดออกไปจาก
ผิว..จนเกิดเป็น..หลุม..หรือ..รู..ที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า )....
......................ต่อตอนหน้า.....................

 

ขอบคุณครับ รออ่่านทุกวัน ....

 

ถามนอกรอบครับ ตอนนี้ แขวนพระอะไรอยู่ครับ .....ลุงถอดจาก..คอ..และให้พ่อ..ผม...เมื่อคราวที่..พ่อผมไปลา..เพื่อจะเดินทางไปรบ..ที่
ประเทศเวียตนาม..เมื่อ..ประมาณปี ๒๕๑๑....ท่านคงเห็นว่า...เอาพระองค์ที่ท่านเชื่อมั่น...
ให้ไปคุ้มครอง..น้องชายตัวเอง...ให้รอดพ้นอันตราย...จากการสู้รบ...และจะได้เดินทางกลับ
บ้านได้อย่างปลอดภัย..หลังสิ้นสุดภารกิจ.....

ปี ๒๕๑๑ ผมยังไม่เกิดเลยครับ

 

......
...เอ้..ผมจำได้ว่า..เคยบอกไปทีนึงแล้วนะ..ประกอบกับ
เรื่องที่..ผมตกต้นไม้..เกือบ ๖ เมตรนะ..พอดีตอนนี้..
...มีเพิ่มมา..หน่อย(..ก็..ของเก่า..เอามาใส่ใหม่)..
...ตอนนั้น..ห้อยอยู่ ๒ เส้น..ตอนนี้..ไม่รู้ฟิตอะไร..เพิ่มมาอีกเสันนึง..
..............................
.....เส้นแรก.....
๑. หลวงพ่อทวดวัดเมือง ยะลา เนื้อว่าน พิมพ์ใหญ่ ๒๕๐๕
๒. พระถ้ำเสือ กรุถ้ำเสือ สุพรรณ พิมพ์เล็ก
๓. พระมหาอุตม์..ในกรอบแปดเหลี่ยม..หลังจาร..เนื้อตะกั่ว
...เจ้าคุณเฒ่า วัดหนัง ธนบุรี(..พระองค์นี้..ยืนยันโดย..อาจารย์เภา ศกุนตะสุต..คนอื่นไม่มีใครรู้จัก..มีท่านเท่านั้นที่รู้ ..เป็นพิมพ์หายากมาก)
๔. พลายคู่ตัดเดี่ยว หน้ามงคลเล็ก..วัดบ้านกร่าง..สุพรรณ
๕. เหรียญหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม เหรียญหน้าวัว เนื้อเงิน ที่เรืยกันว่า..รุ่น"เพิ่มเงิน" มฤคทายวัน สร้างปี ๒๕๑๓
๖. พระชัยวัฒน์สี่มุมเมือง สามตอก เนื้อทองเหลือง วัดมหาธาตุ นครศรีธรรมราช ปี ๒๕๑๑
๗. พระสมเด็จสิบทิศ วัดปากน้ำภาษีเจริญ พระเนื้อผง ปี ๒๕๐๙ ธนบุรี
๘. พระปิดตาเนื้อผง อาจารย์เปิง วัดชินวราราม ปทุมธานี
๙. เหรียญหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เนื้อเงิน สร้างปี ๒๕๐๐ โดยหลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน..ปลุกเสกก่อน..แล้ว..เอาไปให้หลวงพ่อศุขปลุกเสกอีกครั้ง...ใช้พิมพ์ ๒๔๙๘ หลังชันนางโรง..และ..กดประทับ..เป็นรูปพระปางลีลา..เนื้อเงิน เพชรบุรี
๑๐. พระปิดตาเนื้อชินตะกั่ว หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ สุพรรณ
๑๑. เหรียญพระเจ้าตาก ค่ายอดิสร สระบุรี เนื้อเงิน ๒๕๑๔
๑๒. เหรียญพระนเรศวรเมืองงาย สร้างที่วัดพระสิงห์ ปี ๒๕๑๒ เนื้อทองแดงผสม เชียงใหม่
๑๓. พระเชตุพนนั่ง เนื้อชินเงินผิวปรอท สุโขทัย
๑๔. เหรียญเสมาจปร.(เหรียญแจกเด็ก)..เนื่องจากการเสด็จกลับจากประพาสยุโรป..ครั้งแรก..เนื้อเงิน กรุงเทพ
..........................
...เส้นที่สอง....
๑. พระพุทธสิหิงค์หลังราหูอมจันทร์..เนื้อผงสี่เหลี่ยมสีช็อกโกแลต
..ปลุกในพิธีสร้างจตุคามครั้งแรก..วัดมหาธาตุ นครศรีธรรมราช ๒๕๓๐
๒. เหรียญหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน หลัง กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
เนื้อทองแดงชุบเงิน ปี ๒๕๑๕ วัดสุทัศน์ กรุงเทพ
๓. พระหูยานวัดราชบพิธ (รุ่นปืนแตก) ปี ๒๕๑๑ เนื้อทองแดงรมดำ
๔. เหรียญหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา รุ่น ๒๔๙๒ หลังยันต์ใบพัด เนื้อทองแดง ปราจีนบุรี
๕. เหรียญดาวเทียมหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา กำแพงเพชร ๒๕๑๕ เนื้อเงิน
๖. เหรียญวัดน้ำรอบ รุ่น๑ พิมพ์ใหญ่(แจกผู้ชาย) พังงา ปี ๒๕๑๐ เนื้อทองแดง..
๗. ลูกอมเนื้อผง หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา กรุงเทพ
......................
..เส้นที่ ๓ ล่าสุด เจตนาครั้งแรก..เพื่อจะห้อยพระอีก องค์เดียว..คือ
..เหรียญหลวงพ่อดับภัย วัดดับภัย รุ่น๑ เนื้อนวโลหะ ๒๕๑๘..เชียงใหม่
แต่ห้อยไปได้พักเดียว..ท่านก็ไม่อยู่กับผม(..วันหลังจะมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง..)..ก็เลยต้องเอาพระอื่นมาห้อยแทน..
๑. เหรียญพระยาพิชัยดาบหัก รุ่น๑ ปี ๒๕๑๓
เนื้อทองแดง อุตรดิตถ์
๒. พระพุทธนั่งเอามือจับเข่า..บนบัวสองชั้น..เนื้อตะกั่ว(ขึ้นสนิมแดงแล้ว)...หลังจาร..หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท..
รุ่นพิเศษ..ที่กรมหลวงชุมพรขอให้ท่านทำให้
และนิมนต์ท่าน..มาแจกให้ทหารเรือ..ที่วัดมหาวงษ์ สมุทรปราการ(ข้างๆโรงเรียนนายเรือ)
๓. อันนี้พิเศษหน่อย..เพราะหายากมากๆ..ตะกรุดหนังเสือไฟ ครูบาชุ่ม วัดวังมุย ลำพูน..เพราะปกติท่านจะทำแแต่..หนังควายโดนฟ้าผ่า..หนังควายตายในท้อง..หนังควายเผือกโดนฟ้าผ่า...
..ตะกรุดก่าสะท้อน..ตะกรุดเสื้อยันต์(ที่มา..วันหลังจะเล่าให้ฟัง)
๔. ลูกอมร้อยตะกรุดทองคำขนาดจิ๋ว ๔ ดอก หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน สมุทรปราการ
...นอกนั้น..ก็จะมีตะกรุด..ที่ร้อยที่มือ..และ..ที่คออีก..กว่า ๑๐ ดอก..หลายหลวงพ่อ..มีของหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน(เนื้อเงิน) ตะกรุดคอหมา หลวงพ่อแย้ม วัดตะเคียน(เนื้อเงิน)..เกือบทั้งหมด..จะเป็นเนื้อเงิน..
ที่เหลือก็..เป็นทองคำ..เนื้อฝาบาตร..ทองแดง
...และ..เครื่องรางอีกหลายอย่าง..ขี้เกียจ..จาระนัย..เมื่อยมือแล้ว

 

ตามติดอย่างต่อเนื่องครับ

 

มารอติดตามครับ

 

ที่ถามเพราะอยากหามาบูชาบ้าง แต่มีวาสนาพอจะหาได้ แค่หลวงพ่อแย้มนี่แหละครับ นอกนั้นยอมครับ...

 

สวัสดีครับพี่ แวะมาคุยด้วยคนนะครับ

หลังจากพี่หยุดเขียนไป ผมก็ไม่ค่อยได้เข้ามา ดีใจมากครับที่พี่มาเขียนต่อ จากใจนะพี่ บทความของพี่ เป็นบทความที่ทรงคุณค่ายิ่ง เป็นแนวยึดที่จะสะสมพระเครื่อง ความเป็นไปได้ ความสมเหตุ สมผล เด็กรุ่นหลังที่มาคุยปรึกษาผมเรื่องพระ ผมจะแนะนำให้มาอ่านบทความที่พี่เขียนเป็นหลักยึด เพราะถ้าอ่านแต่ต้นมา อย่างละเอียด ไม่หลงทางแน่นอน ผมเองยังมาต่อยอดได้มากมาย บางทีก็ขำๆตัวเองเช่น เขาบอกว่าแขวนพระขุนแผนแล้วจน เจ้าชู้ เลยไม่มีกับเขาสักองค์ มานึกดูมันเกี่ยวกัยตรงไหนนะนี่55555

โดยส่วนตัว ผมดูพระเครื่องไม่เป็น เพราะเป็นคนนิสัยไม่ละเอียด ชุ่ยๆ อาศัยได้ที่ปรึกษาดีเป็นศูนย์พระเก่านิสัยดี แต่ก็หยุดมาตั้งแต่ปี 2539 เพิ่งเริ่มฟิตอีก แต่ต้องตกใจกับราคาพระเครื่อง แพงๆๆๆๆจริงๆ จับแล้วเช่าไม่ลง ยังปรับตัวไม่ได้ ไม่คิดว่าจะดุเดือดเลือดพล่านอย่างนี้ จะมีพระกรุเก่าๆ ที่ยังพอคุยกันรู้เรื่อง

ไว้พี่มีเวลาว่างช่วงไหน ขอความกรุณาพี่ เล่าเรื่องสมเด็จวัดเกษไชโย ที่แต่ก่อนเคยมีการถกเถียงกันว่า เป็นพระที่สมเด็จพุฒาจารย์โต สร้างจริงหรือไม่?

นับถือครับพี่ สำหรับวิทยาทาน ที่พี่ถ่ายทอดให้ มันจะอยู่อีกนานเท่านาน เพราะสังเกตุดูช่วงพี่หยุดเขียน ในกระทู้พี่มักมีคนอยู่ ตามอ่านตลอด

 

เมื่อก่อนรู้จักคนสุพรรณฯ (เดี๋ยวนี้แกเสียแล้ว) ถึงว่าพี่แกค่อนข้างต้องเรียกคลั่งไคล้ พระถ้ำเสือ แกเคยเอาให้ดู ตอนนั้นผมก็ดูไปอย่างงั้นเอง เพราะไม่ค่อยชอบ คิดแต่ว่าพระอะไรหน้าตาแปลกๆ

รอติดตามตอนต่อไปครับอา

 

......
..หวัดดี..คนบ้านสะแก...
..ขอบคุณครับ..สำหรับคำชม..และความนิยมในบทความผม.....
..เรื่อง..วัดเกษฯ..ผมก็เพิ่งเล่าไป..ไม่นานครับ..ในกระทู้ที่ #4718
...อ่านต่อลงไปอีกหลายกระทู้เลย..จะเห็นว่า..ผมและ..เซียนรุ่นเก่า..ทุกคนยังมั่นใจ..ว่า..มีพระของท่าน..อยู่ในพระนอน..วัดสะตือ อยุธยา...
.....เหตุผล..ก็ไปอ่านเอา...อย่าสับสนครับ..ใช้เหตุใช้ผล....
.....ถ้าไปสงสัยแบบนี้..แสดงว่า..หลักการประเมินยังไม่ถูกต้อง..หลักฐาน..
เขามีชัดเจน..ครับ..ยังงี้..ก็คงอาจสงสัยไปยันที่ว่า..พระสมเด็จ..บนเศียร..
หลวงพ่อโต วัดอินทร์..อาจไม่ใช่ท่านสร้างอีก...
........ใช้เหตุผลประกอบ..ในการประเมินนะครับ.....
..ผมยืนยันว่า..วัดอินทร์..วัดเกษ..วัดสะตือ...พระที่บรรจุอยู่..เป็นของ..สมเด็จโต..แน่นอน....
....ผมเพิ่งเคยได้ยิน..นี่แหละ..ว่ามีคนคิดแบบนี้..มันคิดกันไปได้ยังไง..
....แล้วจำไว้ข่าวลือมา..ตรวจสอบ..ให้มั่นใจก่อน..จะเอามาเก็บไว้ในสมองถาวร...เช็คแล้วเชื่อไม่ได้..ทิ้งลงถังขยะไปเลย..เก็บไว้รกสมองเปล่าๆ...

 

ขอบคุณมากครับพี่ เดี๋ยวตามไปอ่าน สาเหตุเพราะไปเจอบทความเก่า นามปากกาตรียัมปะวายเขียนเรื่องนี้เลยรู้สึกหงุดหงิด พระเราแขวนมายี่สิบกว่าปี ประสบการณ์กับตัวเองเยอะแยะ เลยจะหาข้อมูล ขอบคุณพี่อีกครั้งครับ

 

.......
....ตรียัมปวาย...รึเปล่า..ไม่ใช่ ตรียัมปะวาย.....
.....ถ้า..เป็นตรียัมปวาย..ตัวจริง...แกอาชีพจริงเป็นทหาร..ยศพันโท..หรือ..พันเอก..อะไรไม่แน่ใจ...แกเป็นคนที่ตั้งคำว่า..."เบญจภาคี"...ที่เราเรียกกันมา..จนปัจจุบัน..ยิ่งไม่น่าใช่ใหญ่..เพราะเป็นคนตั้งสมมุติฐาน..ในพระกรุ..หลายๆ..กรุ.....
....ผมก็เคยอ่านบทความแก..ในหลายเรื่อง..แต่ก็ไม่เคยพบ..เรื่องนี้....
.......แต่ตอนช่วงหลังๆ..ตอนแกแก่..มีพวกเซียนรุ่นใหญ่(..แต่อวุโส..น้อยกว่าแก่..ทั้งอายุตัว..และ..อายุการเล่นพระ)..ออกมาขัดแย้ง..ความคิด..และ..สมมุติฐานแกหลายเรื่อง..
......ผมก็ไม่แน่ใจที่คุณอ่านนี่..เป็นตัวแก..หรือ..คนอื่นมาล้อนามปากกา..ของแก...
.....แต่ไม่ว่าใคร..ก็ตาม..ผมก็ยืนยันตามเดิม..ครับ..หลักฐานบันทึก..และ..หลายเรื่องสอดคล้อง..มีความสมเหตุ..สมผล..ของมันอยู่...
........ผมยังจำได้..ในบทความแก..ที่เกี่ยวกับ..พระสมเด็จ..สี่สิบกว่าปี..มาแล้ว..แกยังพูดเลยว่า...พระนอนวัดสะตือ..ก็น่าจะมี..พระที่สมเด็จโต..สร้างบรรจุไว้..เลย....

 

กราบขอโทษ เจ้าของนามปากกา ตรียัมปวาย และพี่modpong ด้วยครับ ที่คำถามผมมันไม่ชัดเจน เป็นการอ้างถึงท่าน ตรียัมปวาย จากนามปากกาอื่น และพระสมเด็จวัดเกษที่กล่าวถึงคือ พิมพ์หกชั้นอกตัน และหกชั้นอกตลอด ที่ว่าไม่ใช่สมเด็จสร้าง ไปตามอ่านที่พี่เขียนไว้อีกรอบแลัวครับ ขอบพระคุณพี่อย่างสูง

รอติดตามพระถ้ำเสือต่อครับ

 

.......
...หวัดดี..น้องเหลิม..aNUNN..และ..เขมทัต..
...........................
...ต่อจากตอนที่แล้ว....
.........................
................................................................
.....วิธีดู"รอยว่านหลุด"....ที่เกิด...โดยธรรมชาติ...มีดังนี้(..อย่าลืม..ผมแนะนำไว้หลายที..
..แว่นกำลังขยาย 20x..ขึ้นไป..๑ อัน).....
.....๑. ดูโดยรอบรอย..ว่า..มีรอยข่วนแบบ..ขนแมวรอบๆ..บริเวณใกล้เคียงหรือไม่...บางที..
อาจไม่เห็น..ด้วย...แว่นกำลังขยาย ๑๐ เท่า(มาตรฐาน)..แต่..อาจเห็นได้ด้วยแว่น ๒๕ เท่า..
...แสดงว่า..มีร่องรอย..การเขี่ยให้หลุดออก...
๒. ดูใน..แนวขนานกับ..พื้นผิว..เท่าที่จะทำได้...บริเวณติดปากหลุม..โดยรอบ..ควรจะต้อง
..สูง..กว่าพื้นผิว..ที่ห่างออกมาเล็กน้อย..เพราะตอนที่เม็ดทราย..ยังฝังตัวอยู่..ขอบของเม็ดทราย
จะช่วยบัง..ทำให้การถูกกัดของผิวโดยรอบตัวมัน..น้อยกว่า..ในส่วนที่ห่างออกไป...
๓. ในหลุม..แว่น ๒๕เท่า..จะมีประโยชน์มาก..เพราะจะสังเกตได้ชัดเจน..ว่า..ในหลุม..เป็น
ลักษณะที่..เคยมีเม็ดทราย..เม็ดแร่..หรือ..เศษถ่าน...ฝังตัวอยู่..แล้วหลุดออกไป..โดยธรรมชาติ
..หรือไม่..หรือ..เอาอะไร..มากด..หรือ..เจาะลงไป..ให้เกิดหลุม..อันนี้ทางที่ดี..ควรไปหาของจริง
ดู..แล้ว..จดจำรูปแบบไว้....
....ขยายใน..ข้อ ๓...ขอบปากหลุม..ต้อง..คม...เพราะ..เม็ดทราย..มันหลุดออก...แต่ถ้า..มน..
มันคือ..การกดเข้าไป..(ก่อนนำ..พระไปเผา..ดินมันไม่แข็งมาก..ยังกดเข้า..ดังนั้น..ขอบโดยรอบ
มันจะยู่..ตามวัตถุที่กด..เข้าไป..)
......นอกจาก..จะคม..ก็ไม่ควรมีรอยแตก..หรือ..บิ่นที่ปากหลุมด้วย..เพราะนั่นมันไม่เป็นธรรมชาติ
..มีโอกาศจะเกอดจาก..การสะกิดออก..เพื่อให้เกิด..รอยว่านหลุด..ด้วย....ซึ่งแว่น ๒๕ เท่าจะทำ
ให้จับสังเกต..จุดนี้ได้ชัดขึ้น....
๔. ในหลุม..เมื่อมันเกิดขึ้นเอง..โดยธรรมชาติ..ก้นหลุม..ก็ควรมี..คราบแบบ..ของขึ้ไคล..
ฝังติดอยู่ด้วย..เพราะในการใช้งานปกติ..เหงื่อ..หรือ..ขึ้ไคล..ย่อม..ถูกดัก..เข้าไปอยู่ในนี้..เมื่อ
แห้ง..น้ำระเหยออกไป..ย่อมทิ้งคราบตะกอนที่เกิดจากขี้ไคล..ติดค้างอยู่
..................................
....ก็เอาพอสังเขปไปก่อน...เพราะท่านเอาไปใช้กับ..พระวัดบ้านกร่างได้ด้วย...
........เม็ดแร่นี้..นอกจาก..ควอรตซ์..ทั้งสีขาวขุ่น..หรือ..ออกน้ำตาลอ่อนแล้ว..ก็ยัง..มีแร่บางส่วน
ที่รูปทรงก็บอกได้เลยว่า..ไม่ใช่ควอรตซ์...มันจะเป็นสีดำมันขรุขระ..กระจายอยู่ด้วย...
......ความจริงที่บอกไปนี่..ให้แค่พอรู้เพราะ..ถ้าไม่เคยเห็นของจริง...ก็ลำบากที่จะแยกแยะได้..
ยิ่งยุคนี้..ฝีมือปลอม..ขยับตาม..ราคาพระ...ที่สูงถึงหลักหมื่นต้นๆ(สภาพดี)
....................................................................
....กลับมาที่...พระองค์นี้..อีกครั้ง..เนื่องจากพระถ้ำเสือ..นั้น...เกิดจากแม่พิมพ์ด้านเดียว...
.....สร้างโดยปั้นดินขนาดกำลังพอดี..แล้วกดลงที่แม่พิมพ์..ด้านหน้า..แล้วใช้..นิ้วมือ..ค่อยๆไล่
ดินให้ติดแนบสนิทกับ..แม่พิมพ์..แล้วจึงเคาะเอา..พระออก...
..........ดังนั้น..ด้านหลังพระ..ที่ไม่ได้ใช้งาน..นอกจาก..จะออกอูมๆแล้ว..ก็จึงมีรอยนิ้วมือ...ปรากฎ
อยู่ด้วย..ทุกองค์..และ..โดย..ที่ลักษณะผิวที่หลัง..จะราบเรียบ..แต่..จะมีบุ๋มๆนูนๆบ้าง..โดยตลอด..
..อันเนื่องมาจาก..ขั้นตอนการสร้าง....
..........แต่พระองค์นี้....ร่องรอยนิ้วมือ..จะเหลืออยู่..เฉพาะ..ส่วนที่อยู่ใกล้..ขอบทองเท่านั้น...
...เพราะที่เหลือ..สึกหมด..เนื่องจากการใช้งาน...เรียกว่าด้านหลังเกือบทั้งหมดนี่..โค้งมน..เรียบๆ
ไปเลย.....
.........................ต่อตอนหน้า.................

 

โห เปิดสมอง เลย ผมก็เคยอ่านนามปากกา.ตรียัมปวาย ใช่จริงๆ ลืมสังเกตว่าต้อง ตรียัมปะวาย..... หลงเข้าใจผิดซะตั้งนาน ขอบคุณมากๆครับ