ประสบการณ์กรรมฐานเมตตาใหญ่-กรรมฐานกับดวงจิตวิสาขบูชา66น.91พิธีจุติคุรุเทวากรรมประสิทธิ์ปฐมฤกษ์"

งันผมเรียกเงินจากกระเป๋าพี่รุ่งดีกว่า เพราะเคยแบ่งกันใช้มาก่อนใช่ใหมครับ

 

***อั้ยยะ ........จัดไปครับ เอิ๊กเอิ๊ก***

 

ทำไม่ได้ครับ 555 ไม่มีปัญญาทำด้วย 555

อยากแจกของให้ลูกหลานหลวงปู่นะครับ แต่ไม่รู้จะแจกยังไง เมื่อก่อนแจกในนี้ได้แต่ตอนนี้เขาห้ามแจกแล้ว

ทำไงดีน้อ

 

วันนี้วันดีที่ได้รับรู้สิ่งดี ๆ จากท่านอาจารย์ซึ่งเป็นงานของหลวงปู่ ตอนนี้งานที่จะทำถวายหลวงปู่ต้องเปลี่ยนแผนบางประการ ซึ่งเป็นแผนเพิ่มเติม ทั้งความอลังการและสุดยอด และได้รับรู้ข้อมูลบางอย่างที่หลวงปู่ได้บอกแก่ท่านอาจารย์ไว้ ซึ่งงานของหลวงปู่ต่อไปนี้จะช่วยเหลือคนหมู่มากได้ในอนาคตครับ

 

กราบๆๆ ขออนุโมทนาสาธุ

 

เมื่อวานท่านอาจารย์ได้ไปทำพิธีที่โรงหล่อนครปฐม งานพิเศษครับ ผมจึงได้นำวัตถุมงคลบางส่วนเข้าร่วมพิธี ทั้งพระกรุโลหะ หลวงปู่ทวดใบมะยม พิธีนี้ศักดิ์สิทธิ์เช่นเดิมครับ แต่ความพิเศษก็แตกต่างออกไป

 

***กราบ อนุโมทนา ครับ***

 

ตอนนี้ผมได้งานใหญ่จากหลวงปู่และท่านอาจารย์ ท่านให้สร้างรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรขนาดใหญ่เพื่อให้คนกราบไหว้บูชาและที่สำคัญในปางนี้ท่านจะช่วยสงเคราะห์ในการรักษาโรคต่างให้ผู้บูชา เป็นงานใหญ่จริง ๆ ต้องใช้งบประมาณพอสมควรเลยทีเดียวครับ เท่าที่ทราบประมาณว่าอวิชาต่าง ๆจะกลับมาอีกครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับที่ครูบาอาจารย์บางรูปท่านได้กล่าวไว้ล่วงหน้าแล้วเช่นกัน

 

ตอนนี้ผมถูกหลวงปู่ท่านสอนเรื่องวัตถุและวัตถุมงคลอยู่ มันมีรายละเอียดมาก ๆ หลายระดับ จนผมก็ปรับไม่ทันจริง ๆ พระกรุตั้งใจจะให้เป็นตำนานที่คนทุกคนคอยคิดถึงและเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ศรัทธาหลวงปู่ที่เพิ่มมากขึ้นได้รู้จัก แต่ก็มีงานสำคัญ ๆ ที่ต้องทำให้นำออกมา รวมทั้งวัตถุมงคลอื่น ๆ ด้วย เป็นการขจัดกิเลสที่ละเอียดจริง ๆ ที่ผมยังไม่สามารถขจัดออกไปได้มาก แต่ก็ต้องพยายามทำตามแนวทางที่หลวงปู่ท่านวางไว้ เพราะต้องสร้างงานถวายหลวงปู่อีกมากตามที่ท่านอาจารย์ท่านสั่งมา

และใจจริง ๆ อีกอย่างที่อยากเก็บวัตถุมงคลไว้อีกสักระยะก็เนื่องจากอยากให้หลวงปู่ท่านเสกหรือสงเคราะห์วัถมงคลอีก(อธิฐานซ้ำ) แม้การที่ท่านเมตตามาทำพิธีให้พร้อมกับพระพุทธเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะทำให้วัตถุมงคลนั้น ๆ สำเร็จและเต็มเปี่ยมแล้ว แต่ด้วยกิเลสที่อยากทำให้ผู้นำบูชาอีจึงคิดแบบคนโง่ ๆ คนหนึ่งครับ

อยากให้รับทราบในความตั้งใจ และเป็นหว่งทุกท่านอยากให้ระวังและเตรียมตัวไว้บ้าง ระวังไว้บ้าง คุณไสย มนต์ดำ อาถรรภ์จะกลับมาอีกครั้ง ไปไหนค่ำมืดดึกอื่นก็มีอะไรดี ๆ ติดตัวไว้บ้างนะครับ

ผมเคยทราบว่าสาวยาคูล์แถวบ้านมาเล่าให้แฟนฟังว่า ถูกลมเพลมพัดถุงยางมัดจุกเข้าไปในท้องทั้งที่ไม่มีประจำเดือน ไม่มีแฟนมาหลายปี พอไปเข้าพิธีที่วัดกลับ้านมาตกเลือดเป็นถุงยางเฉยเลย เล่าให้ฟังไว้เป็นเรื่องเตือนใจให้ไม่ประมาทครับ

 

พูดถึงเรื่องคุณไสย คุณผี คุณคน ที่กระทำด้วยวิชา อวิชาต่าง ๆ ที่กำลังจะกลับมา ทำให้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเหตุใดเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านมาผ่านท่านอาจารย์ให้สร้างให้ทำวัตถุมงคลอาถรรภ์หลายอย่างโดยเฉพาะปู่พระพิราพ ...........

จะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่เจตตนาของท่านอาจารย์กับผมเพียงเพื่อสร้างบุญเป็นหลักและก็แล้วแต่ท่านผู้ใดจะเล็งเห็นในหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำขึ้นมาให้ได้บูชากัน แต่มั่นใจได้ว่าสิ่งที่ได้บูชาไปในอนาคตอันใกล้และต่อไป แม้ในปัจจุบันก็ตามไม่ศูนย์เปล่าแน่นอน ทั้งในบุญกุศลและความศักดิ์สิทธิ์ี่สถิตย์อยู่ในวัตถุมงคลต่าง ๆ

 

ตอนนี้จะว่าไปเรื่องวัตถุมงคลก็รู้สึกอืด ๆ อิ่มตัวในบ้างประการตั้งใจว่าสิ่งที่มีจะนำมาบอกบุญหรือไม่ก็บรรจุในพระบูชาที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนได้กราบไว้ขอบารมีครูบาอาจารย์ผู้อธิฐาน

การสร้างวัตถุมงคลหรือสร้างพระไม่ว่าจะองค์เล็กองค์ใหญ่ นั้นได้บุญมากมาย แต่ผมต้องตระหนักคือบุญที่ต้องทดแทนแก่เจ้ากรรมนายเวรที่เขารู้ว่าเราสร้างบุญแล้วก็ต้องมารีบแทรกขอรับบุญจากเรา และยิ่งเราแจกให้คนอื่นไปก็ยิ่งรับส่วนแบ่งวิบากกรรมจากเขาเหล่านั้นมาด้วยอีก ทำให้ต้องปฏิบัติมาก ๆ แม้จะเป็นการเช่าบูชาก็ตามก็ต้องรับวิบากจากผู้บูชาด้วยส่วนหนึ่งเช่นกัน

 

การปฏิบัตินั้นไม่ใช่เรื่องนาเบื่อถ้าทำได้ถูกต้อง โดยแรกเริ่มนั้นเราก็จะต้องมีการบังคับใจ ข่มใจ อดกลั้น ต่าง ๆ นา ๆ ที่จะทำไม่ให้ใจมันสั่งให้กายและวาจาไปทำในสิ่งไม่ดีทำให้เราอึดอัดและเหนื่อยกับการปฏิบัติอยู่พอสมควรโดยปกติ แต่ถ้าเมื่อทำได้ถูกต้องจริง ๆ แล้วมันจะเกิดการรู้และเฉย ๆ กับสิ่งเหล่านั้นมากขึ้น ๆ ๆ เอง แต่ก็ยังมีความรู้สึกและรู้อยู่โดยตลอด แต่ความอยากจะเบาบางลง สงบลง โดยไม่ต้องข่มหรือบังคับจิตใจให้อึดอัดเลย

 

ในยุคนี้มีผู้มีวาสนาบารมีมากเกิดมากมายจนปัจจุบันถึงเวลาที่เหล่านั้นจะได้สร้างบุญบารมีต่อเนื่องด้วยวาสนาที่ได้สะสมมา ผมไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของความดีของ่านเหล่านี้เลย การปฏิบัติเมื่อทำไปก็จะส่งให้ผลบุญวาสนาการปฏิบัติเดิมมาเกื้อหนุน ผมก็ได้แค่งู ๆ ปลา ๆ เรื่องหรือสิ่งที่รู้นั้นผมจะต้องสอบถามท่านอาจารย์ให้แน่ใจก่อนถึงจะมาบอกกล่าวในกระทู้นี้ได้ เพื่อไม่ำให้ข้อมูลที่ให้เป็นการหลอกลวงหรือทำให้เข้าใจผิดไปจนเกิดเวรกรรมกันขึ้น

 

วันนี้ได้ค้น File ของปราโมทย์ ท่านมาฟังเพื่อทำความเข้าใจเรื่งการดูจิต ได้ความเข้าใจบางอย่างที่พอจะเข้าใจคำสอนท่านบ้าง เห็นว่ามีประโยชน์จึงนำ Link มาให้นำไปฟังกัน ค่อย ๆ ฟังช้า ๆ หลาย ๆ รอบ นะครับ มีแต่เนื้อมีแต่แก่นของการปฏิับัติอยู่มากมาย



http://www.youtube.com/watch?v=I05rZRFVlqQhttp://

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=I05rZRFVlqQ]หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 540904 1/2 - YouTube[/ame]

 

ขอบคุณมากครับ

 

หลวงพ่อปราโมทย์ :

พวกเราอย่านึกว่าแค่รู้กายรู้ใจแล้วเป็นวิปัสสนา ไม่เป็นหรอก วิปัสสนาจริงๆ ไม่ใช่การรู้กายรู้ใจ วิปัสสนาจริงๆ คือรู้ความเป็นไตรลักษณ์ของกายของใจ ต้องชัดเจนขนาดนี้นะ เพราะอะไร เพราะว่าวิปัสสนาทำไปเพื่อถอนความเห็นผิด เพื่อละความเห็นผิดว่ากายกับใจเป็นตัวเรา ถ้าเราเห็นกายเห็นใจเป็นไตรลักษณ์เราก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ตัวเรา ละความเห็นผิดได้ ลำพังเห็นกายเห็นใจแล้วก็ทื่อๆ นิ่งๆ ทื่อๆ อยู่นะ สามวันสามคืน หรือทำสมาบัติ นิ่ง ไม่กระดุกกระดิก ไม่กินข้าวอยู่เจ็ดวันเจ็ดคืน มันไม่มีปัญญา มันไม่สามารถถอดถอนความเห็นผิดว่ากายกับใจเป็นตัวเราได้

ฉะนั้นเราต้องมีทั้งสติ มีทั้งปัญญา มีสติรู้สภาวะ คือรู้กายรู้ใจที่กำลังปรากฎ มีปัญญาเข้าใจความเป็นจริงของกายของใจว่ามันเป็นไตรลักษณ์ ไม่ใช่เป็นตัวเรา บางคนเห็นว่ามันไม่เป็นตัวเราเพราะมันไม่เที่ยง บางคนเห็นว่ามันไม่ใช่ตัวเราเพราะมันเป็นทุกข์ บางคนเห็นว่ามันไม่ใช่ตัวเรา เพราะมันบังคับไม่ได้ มันเป็นวัตถุ มันเป็นก้อนธาตุ มันบังคับไม่ได้ มันเป็นอนัตตา

ดังนั้นเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพียงอันใดอันหนึ่ง ย้ำคำว่าเพียงอันใดอันหนึ่ง ก็สามารถละความเห็นผิดว่ากายกับใจเป็นตัวเราได้ อันนี้แล้วแต่บุคคล หน้าที่ของเราแค่มีสติรู้กายรู้ใจ มีปัญญาเข้าใจความเป็นจริงของกายของใจไปเรื่อยๆ ตรงที่อริยมรรคจะเกิดนะ บางคนเกิดเพราะเห็นอนิจจังของกายของใจ บางคนเห็นทุกข์ของกายของใจ บางคนเห็นอนัตตาของกายของใจ แล้วก็ละความเห็นผิดว่ากายกับใจเป็นเรา มีเราในกายในใจนี้ มีเรานอกเหนือกายนอกเหนือใจนี้ ต้องรู้อย่างนี้นะ รู้ไป

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันเสาร์ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๑

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๒๔
File: 510216A
ลำดับที่ ๑
ระหว่างนาทีที่ ๓ วินาทีที่ ๓๘ ถึง นาทีที่ ๕ วินาทีที่ ๓๔

 

หลวงพ่อปราโมทย์ :ทำสมาธิ ไม่ถนัดนั่งก็เดิน ไม่ถนัดเดินก็นั่ง ตัวสำคัญไม่ใช่อยู่ที่ท่านั่งท่าเดิน ไม่ใช่เดินท่าไหนถูก นั่งท่าไหนถูก จะเอามือไว้ตรงไหน เรื่องไร้สาระเลย อันนั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัว คนไหนจะถนัดเอามือไว้ตรงไหนก็เอาไป จุดสำคัญคือรู้ทันจิต เพราะฉะนั้นบทเรียนในการทำสมาธิท่านถึงเรียกว่า “จิตตสิกขา” ไม่ใช่ให้เรียนเรื่องกายเรื่องจะเอามือเอาไม้ไว้ที่ไหนหรอก ใครจะถนัดเอามือไว้อย่างไรก็เอาไว้อย่างนั้นแหละ

มีคราวหนึ่งนะ หลวงพ่อไปหินหมากเป้ง ตอนนั้นหลวงปู่เทสก์ยังอยู่ ท่านสรางมณฑปใหม่แล้วท่านไปอยู่ในมณฑป กุฏิเก่ายังไม่รื้อ เป็นไม้ ท่านให้หลวงพ่อไปพักที่กุฏิเก่าของท่าน กุฏิเก่ากับมณฑปนี้ห่างกันนิดเดียว จากกุฎิเก่ามองเข้าไปทะลุ ผนังเป็นกระจก มณฑปนั้นเป็นกระจกนะ มองเห็นท่านได้ทั้งคืนเลย เราไปถึงก็เนื้อยเหนื่อยนะ ไปถึงแต่มืดเลยเดินทางมาทั้งคืนแล้ว ไปถึงหินหมากเป้งตอนเช้า ไม่ได้พักนะ ภาวนาไปอะไรไป กะว่าค่ำๆจะนอน หลวงปู่ให้ไปอยู่กุฏิเก่าของท่าน มองเห็นท่านอยู่ ท่านเดินจงกรมอยู่เราไม่กล้านอนน่ะ ครูบาอาจารย์ยังไม่นอนเลย ลูกศิษย์นอนก่อน เสียสถาบันนักปฏิบัติ ก็นั่งสมาธิ เดินก็ไม่ไหวแล้ว หนาวพิลึกพิลั่นเลย คอยนั่งสมาธิ คอยลืมตา หลวงปู่ยังเดินอยู่ กะว่าสี่ทุ่มท่านคงพักมั้ง ปลอบใจตัวเอง เปล่าสี่ทุ่มก็ไม่พักนะ ห้าทุ่ม ห้าทุ่มแล้วหลวงปู่ พอเสร็จแล้วดึกๆมากนะ เห็นท่านพัก ท่านพักเราก็รีบนอนเลย นอนไปจนถึงตีหนึ่งกว่าๆ ตีสองอะไรอย่างนี้ อู๊ยมันหนาวจัดนะ ตื่นมา ชะโงกดู อุ๊ย..หลวงปู่มาเดินอยู่อีกแล้ว ต้องลุกขึ้นนั่ง หนาวแทบตายเลย

เห็นท่านเดินจงกรม เป็นเงาตะคุ่มๆนะ มืดๆ ท่านไม่ได้เปิดไฟอะไรไว้ ในห้องที่ท่านอยู่มืดๆ แต่พอมองเห็น เพราะผนังมันเป็นกระจก ด้านหนึ่งพระจันทร์มันก็ส่องอะไรอย่างนี้ เห็นท่านเดินตะคุ่มๆ ใจก็สงสัยขึ้นมา เอ๊..หลวงปู่ หลวงปู่เดินจงกรมเนี่ย หลวงปู่เอามือไว้ตรงไหน ไว้อย่างนี้หรือเปล่า หรือว่าเอาไว้อย่างนี้ แต่ละสำนักเขาสอนไม่เหมือนกัน นึกถามท่านนะ ถามจบปุ๊บท่านก็.. เนี่ย เดินอย่างนี้เลยนะ อ๋อเข้าใจแล้วครับ พอใจบอกว่าเข้าใจแล้วครับ ท่านก็เอามือเก็บ

มันไม่ได้อยู่ที่ท่าทาง อยู่ที่สติ พออีกวันไปหาท่าน ท่านก็พูดเรื่องการปฏิบัติ ให้ทำด้วยความมีสติ เพราะฉะนั้นอิริยาบถท่าทางอะไร ใครถนัดอะไรก็เอาอันนั้นแหละ บางคนแกว่งแขนแล้วสติกระเด็นไปหมดเลยใช่มั้ย ก็เลยชอบให้นิ่งๆ มือเคลื่อนไหวมากๆนะจิตใจกระเจิดกระเจิงไป บางคนเดินเร็ว บางคนเดินช้า นั่นไม่สำคัญหรอก สำคัญที่รู้ทันจิต เพราะฉะนั้นเดินไปแล้วให้มีสติรักษาจิตอยู่ จิตหนีไปแล้วรู้ทัน จิตไปคิดแล้วรู้ทัน จิตไปเพ่งรู้ทัน เนี่ยจะได้สมาธิขึ้นมา


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
วันจันทร์ที่ ๓๑ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ก่อนฉันเช้า
File: 551231A
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘
ระหว่างนาทีที่ ๑๔ วินาทีที่ ๓๒ ถึงนาทีที่ ๑๗ วินาทีที่ ๕๒

 

มีสมาธิก็ต้องมีสติกำกับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ถ้าเราพยายามตั้งใจรักษาศีล ๕ ใครมันจะหัวเราะก็ช่างมัน ตั้งใจฝึกจิตใจให้อยู่กับเนื้อกับตัว สภาวะที่จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัวนั้นแหละ คือสภาวะที่จิตทรงสมาธิที่ถูกต้องอยู่ ความรู้เนื้อรู้ตัวนี่ขาดไม่ได้เด็ดขาดเลย บางคนนั่งสมาธิจนกระทั่งโลกธาตุดับนะ ร่างกายหายไป โลกหายไป เหลือจิตดวงเดียว ก็ยังไม่ขาดความรู้สึกตัว จิตไม่ขาดสติ มีสติรักษาจิตอยู่ เพราะฉะนั้นสมาธิก็ต้องมีสติกำกับ ขาดสติเคลิ้มไป เป็นมิจฉาสมาธิทันทีเลย

มีศีล ตั้งใจงดเว้นการทำบาปอกุศลทางกายทางวาจา มาฝึกจิตให้อยู่กับเนื้อกับตัว ได้สมาธิที่ถูกต้อง แล้วก็ไม่ทรงสมาธิอยู่เฉยๆ ต้องน้อมจิต มีสติระลึกรู้ เห็นความเปลี่ยนแปลงของกาย เห็นความเปลี่ยนแปลงของใจเรื่อยไป มาดูความเปลี่ยนแปลง


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
เมื่อวันเสาร์ที่ ๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖

File: 551208A
ระหว่างนาทีที่ ๑๓ วินาทีที่ ๔๑ ถึงนาทีที่ ๑๔ วินาทีที่ ๕๐

 

บุญใหญ่....ครั้งแรกครั้งสำคัญและสร้างทันใจ ขอเชิญร่วมเททองหล่อ"พระองค์ที่ 11" (สมเด็จองค์ปฐมต้น กายมนุษย์) บุญที่สร้าง"จะลงบัญชีทองคำ อักษรทองคำ" ดังประวัติสมเด็จองค์ปฐม โดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เททองวันที่ 9 พฤศจิกายน 56 เวลา 08.49 น.บวงสรวง เวลา 12.59 น. เททอง ....

งานนี้ได้บุญใหญ่และบุญสำคัญครับ

 

หลังจากได้ลงข้อมูลเมื่อวานนี้ ช่วงหัวค่ำก็ได้โทรคุยกับท่านอาจารย์ถึงแผนงานหล่อ เสร็จแล้วก็ขึ้นไปนั่งสมาธิพักใจ นั่งไปเรื่อย ๆ เกิดการรวมจิตอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็มีภาพสว่าง ๆ สีทองซ้อนมาทางขวา เห็นแค่ระดับหน้าตักและปลายสังฆาติด้านหน้าท่าน ใจแรกคิดว่าเป็นพระองค์ที่ 11 แต่ก็ไม่มั่นใจคิดเป็นองค์อื่น ๆ ก็มาลงที่พระองค์ที่ 11 เห็นอยู่สักพักก็ถอนออกจากสมาธิด้วยความอิ่มใจแต่แอบสงสัยในใจ

จนวันนี้ช่วงบ่าย ๆ ได้โทรหาท่านอาจารย์และเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็ย้อนถามว่าแล้วใจคิดว่าเป็นใคร ก็ตอบว่าพระองค์ที่ 11 ท่านก็บอกว่าใช่ครับ

เป็นบุญเหลือล้นที่ท่านมาโปรดครับแม้จะเป็นแค่เพียงหน้าตักและผ้าสังฆาติก็ชื่นใจแล้วครับ