พระพุทธองค์ทรงแสดงสติปัฏฐาน ๔ในกรรมฐานอื่นอีกไหมครับ

พระพุทธเจ้าอธิบายสติปัฏฐาน ๔ โดยใช้อานาปานสติจนถึงวิมุตติ

พระพุทธองค์ทรงแสดงสติปัฏฐาน ๔ ในกรรมฐานอื่นอีกไหมครับ

 

กรรมฐาน40 นั่นไง มีอนุสสติ10 อสุภะ10 เป็นต้น

และหนึ่งในอนุสสติ เช่น กายคตาสติ เป็นต้น

 

ลองดูในอรรถกถาได้อธิบายไว้
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=179

 

ทรงสอนพระราหุลด้วยพระองค์เองให้พินาเรื่องรูป ให้เห็นเป็นอนัตตา ๔ขั้นตอน

ขั้นที่๑ รูปกัมมัฏฐาน ประกอบด้วยธาตุทั้ง๕ ได้แก่

ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ช่องว่างในกาย อธิบายว่า

ปฐวีธาตุ อาโป เตโช วาโย อากาศธาตุ ฯลฯ

เข้าใจว่าเหมือน กายคตาสติหรือไม่

 

พระผู้มีพระภาค
ได้ตรัสพระพุทธภาษิตนี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย หนทางนี้เป็นที่ไปอันเอก เพื่อ
ความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์ เพื่อล่วงความโศกและปริเทวะ เพื่อความดับสูญ
แห่งทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุธรรมที่ถูกต้อง เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
หนทางนี้ คือ สติปัฏฐาน ๔ ประการ ๔ ประการ เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ
มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ ๑ พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่
มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ ๑
พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและ
โทมนัสในโลกเสียได้ ๑ พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ
มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ ๑ ฯ

...

มหาสติปัฏฐานสูตร ทรงแสดงไว้ 4 หมวด(กายเวทนาจิตธรรม)
ใน 21 บรรพะ

อานปานบรรพะ(ลมหายใจ) จัดอยู่ในหมวดกายานุปัสสนา

ส่วนกรรมฐาน อานาปานสติ เป็นการเจริญสติได้ทั้ง กายเวทนาจิตธรรม
หรือกรรมฐาน กายคตาสติ ก็คงเช่นกัน...

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=10&A=6257&Z=6764

 

ทำฌานต้องทำอย่างไรถึงจะได้ผลเร็วครับ

 

จะมาหลอกถามคนอื่นไปทำไม ผมว่าคุณคีรีมายา มีความรู้ความสามารถที่จะกระทำความเพียร

ผมเองเห็นคุณไปตอบกระทู้ "พลังจิตไม่ได้ช่วยให้สำเร็จ..." ยังรู้สึกชื่นชม

ว่าคนๆนี้ คงมีภูมิรู้ ภูมิปฏิบัติ ในฌาน และสัมมาสมาธิ ดีพอควร ไม่งั้นคงจะไม่โพสมาหลอกว่า

 

ฟังเขามานะครับ

 

อาจจะไม่ใช่อยู่ในกรรมฐานอื่นนะครับ แต่มีอยู่ในพระสูตรอื่นอื่น-------------พระวจนะ" ภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่าใดที่เราแสดงแล้วด้วยปัญญาอันยิ่ง ธรรมเหล่านั้น พวกเธอจงพึงเรียนเอาด้วยดี พึงเสพให้ทั่ว พึงเจริญ ทำให้มาก โดยอาการที่พรหมจรรย์ นี้ จักมั่นคง ตั้งอยู่ได้ตลอดกาลนาน ข้อนั้นจักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่มหาชน เพื่อความสุขแก่มหาชนเพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อความเกื้อกูล เพื่อความสุข แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย .............ภิกษุทั้งหลายธรรมเหล่าใหนเล่า ที่เราแสดงด้วยปัญญาอันยิ่งซึ่งพวกเธอควรเรียนเอาให้ดี เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ธรรมเหล่านั้นคือ สติปัฎฐานสี่ สัมมัปธานสี่ อิทธิบาทสี่ อินทรีย์ห้า พละห้า โพชฌงค์เจ็ด อริยะมรรคมีองค์แปด............ภิกษุทั้งหลายเหล่านี้แล คือธรรมที่เราแสดง แล้วด้วยปัญญาอันยิ่ง อันพวกเธอพึงเรียนเอาให้ดี พึงเสพให้ทั่ว พึงเจริญ ทำให้มาก โดยอาการที่พรหมจรรย์ นี้จักมั่นคง ตั้งอยู่ได้ตลอดกาลนาน และข้อนั้น จักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่มหาชน เพื่อความสุขแก่มหาชน เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุข แก่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย---มหา.ที.10/140/107...

 

.......หรืออันที่จริง ในอริยะสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค....ถ้ากล่าวเรื่องมรรคองค์แห่งมรรค นั่นย่อมหมายถึงกล่าวถึง สัมมาสติ อันหมายถึงมหาสติปัฎฐานสี่อยู่แล้ว...เมื่อเป้นมรรค ก็ย่อมใช้เป้นทางในการ กำหนดรู้ทุกขื ละสมุทัย และ ทำนิโรธให้แจ้งอยู่แล้ว...ถ้าในความหมายนี้ มหาสติปัฎฐานสี่ ย่อมเป็นองคืแห่งมรรคที่อยู่ใน ทุกที่อยู่แล้วครับ...(ความเห็นส่วนตัว)..

 

โพธิปักขิยธรรม 37 องค์แห่งการตรัสรู้

 

"ฟังด้วยดี ย่อมได้ปัญญา"

คุณคีรีมายา หากมีเวลาว่างพอ ขอแนะนำหนังสือนี้ครับ

"ส่องทางสมถวิปัสสนา" โดยหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

ค่อยๆกดอ่าน หน้าต่อไปเรื่อยๆ ท่านจะพบกับคำตอบที่ต้องการนำมาปฏิบัติ

http://www.dhammajak.net/samati/samati4/s403.php

 

สติปัฏฐานสี่หมายถึงกาย เวทนา จิต และธรรม
กรรมฐานทุกกองก็ต้องมีสติปัฏฐานทั้งนั้นละครับ แต่จะครบสมบูรณ์หรือไม่ก็เท่านั้น
ในทางปฏิบัติทางลมหายใจนั้นมาถึงอรูปฌานลมหายใจก็หายไป ดังนั้นทางลมหายใจนั้นจะมาถึงเพียงรูปฌานคือที่ฌานสี่ครับ
ธรรมมารมณ์นั้นจะเกิดในชั้นอรูปฌาน ทางลมหายใจก็ไม่ครบในสติปัฏฐานสี่ครับ แต่เป็นพื้นฐานที่ดีมาก
เจริญในธรรม

 

ขอบคุณท่านมากนะครับ ท่าน คีรีมายา ผมบรรจุ อาปานานุสติ ลงในหลักสูตรแล้ว ตัวที่ติดไปต่อ พลิกจาก อานาปานฯ เป็นวิปัสนา วันนี้ ผมตีแตกแล้ว ทำได้แล้วขอบคุณอีกครั้งหนึ่งนะครับ ไม่ได้ ท่านคงติดคิดว่าอานาปานไปต่อไม่ได้ ...... ขอบคุณอีกครั้งด้วยใจจริงครับ ........... เพราะตอนที่ท่านอาจารย์สอนนั้นมันไปต่อ พลิก อานาปานฯไป วิปัสนา ไม่ได้ มันกลับมยึด แต่ ลมหายใจ เพื่อให้เกิดสมาธิ แต่ตอนนี้ ผมค้นเจอแล้ว ขอบคุณครับ ...............ที่รั้งท้ายไว้ .....ขอบุญนี้ อุทิศแด่ท่านด้วยนะครับ ..........ด้วยใจจริง ก๋ง สุญญตา ....

 

ก๋งไปปฏิบัติแบบไหนมาหละ ถึงได้บอกว่าอานาปานสติติดขัด ไปต่อไม่ได้

พระพุทธองค์ ท่านก็ใช้อานาปานสติ จนบรรลุธรรมตรัสรู้

ถ้าก่อนหน้านี้ ก๋งปฏิบัติอานาปานสติ แล้วติดขัดไปอยู่กับสมาธิ มันก็ผิดทางจากธรรมะของพระพุทธองค์

เมื่อก่อนหน้านี้ ก๋ง ไม่รู้จริง แล้วไปสอนกรรมฐานคนอื่น จะไม่พาผู้อื่นหลงทางจากธรรมะของพระพุทธองค์หรอกหรือ?

 

เจริญอานาปานสติ เป็นเหตุให้ สติปัฏฐาน ๔ – โพชฌงค์ ๗ – วิชชา และวิมุตติบริบูรณ์

อานาปานสติบริบูรณ์ ย่อมทำสติปัฏฐานให้บริบูรณ์

สติปัฏฐานบริบูรณ์ ย่อมทำโพชฌงค์ให้บริบูรณ์
โพชฌงค์บริบูรณ์ ย่อมทำวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์

อานาปานสติ เป็นทั้ง สมถกรรมฐาน และวิปัสสากรรมฐาน ครับ

 

อานาปานสตินั้นยังเป็นกุศลอย่างยิ่งด้วย เพราะการมีสติอยู่กับลมหายใจนั้นสามารถเข้าถึงฌานทั้งสี่แทงตลอดธาตุทั้งสี่เป็นเอนก