พระและของมงคล...ที่สะสมพร้อมประสบการณ์ ^^

สวัสดีครับพี่โญ พี่porpek ^^

 

สวัสดีเช่นกันครับ...

เหรียญรุ่นสามหลวงปู่อ่อนสา หรือเหรียญสุรสิทธิ์

เห็นท่านอาจารย์นก เคยกล่าวว่า เหรียญนี้เด่นทางปลดหนี้ปลดสินมีโชคมีลาภ อีกหนึ่งอย่างนะครับ





อาจารย์นก เริงลม เคยเล่าให้ฟังว่า มีเถ้าแก่คนหนึ่งในจังหวัดอุดรค้าขายเกิดพังพินาศ ขาดทุนหนึ้สินอีรุงตุงนัง

หมดหนทาง มากราบหลวงปู่อ่อนสา หลวงปู่บอกไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ฟื้น หมดหนี้หมดสิน รวยเหมือนเดิม ว่าแล้วก็ให้เหรียญรุ่นสามหรือเหรียญสุรสิทธิ์นี้ไป 2 เหรียญ บอกให้ไว้หัวนอนหนึ่งเหรียญ ติดตัวหนึ่งเหรียญสวดมนต์แล้วบอกกล่าวทุกวัน

หลังจากนั้นอีก 2-3 ปีต่อมา เถ้าแก่คนนั้นก็หมดหนี้หมดสิน ค้าขายรวยๆ มากกว่าเดิมอีก และเป็นโยมอุปัฏฐากหลวงปู่จนหลวงปู่อ่อนสามรณภาพ ก็ยังไปทำบุญที่วัดสม่ำเสมอด้วยสำนึกในบุญคุณทีช่วยชีวิตของเขาครับ

 

น้อมกราบ ลป.อ่อนสา ด้วยเศียรเกล้า

ชอบมากๆครับ เมตตา โชคลาภ มาลงให้ชมอีกนะครับ^^

 

​

 

พญาเต่าคำหลวงปู่คำสิงห์ เนื้อชินตะกั่วสังขวานร กะไหล่ทอง

ท่านอาจารย์นก ผู้สร้างยังบูชาไว้ที่โต๊ะหมู่ประจำบ้าน ท่านบอกว่า เงินทองไหลมาไม่ขาดมือ โชคลาภดีครับ









ประวัติการสร้างพญาเต่าคำ (โดยท่านอาจารย์นก เริงลม)


สำหรับเต่าคำนี้ มีความเป็นมาว่า หลวงปู่ท่านเก่งเรื่องหัวใจพญาเต่าคำ ( เต่าทองคำ )
ศิษย์ใกล้ชิดจะทราบข้อกำหนดแผ่นทองที่จะนำมาให้หลวงปูจาร
จะต้องเป็นแผ่นทองคำแท้เท่านั้น กว้างเท่านั้น ยาวเท่านี้เซนติเมตร
ยืนยันว่า ต้องเป็นแผ่นทองคำแท้เท่านั้น

ก็พากันไปซื้อที่ร้านขายทองที่ตลาดบ้านแพง สมัยนั้นมีร้านเดียว และ ทราบต่อมาภายหลังว่า
ร้านทองดังกล่าวเป็นร้านของคุณพ่อท่านชาติชาย มุกดาหารปัจจุบัน
เมื่อหลวงปู่จารตะกรุดด้วยหัวใจพญาเต่าคำ ( อะ สัง วิ สุ โล ฯ ) แล้ว
เสกให้เต็มกำลังแล้ว ตะกรุดดังกล่าว ยังไม่ถือว่าสมบูรณ์ ต้องรอเวลาเขาแห่พระเวสสันดร
ต้องเอาตะกรุดหัวใจพญาเต่าคำนี้ ไปผูกไว้ที่ยอดเสารูปเต่า และ เข้าร่วมขบวนแห่เข้าวัด
จึงเป็นเสร็จพิธิ ดีทางโชคลาภ ค้าขาย ...

เต่าคำตัวเท่าฝ่ามือนี้ ท่านอาจารย์นกสร้างถวายหลวงปู่เอง หลวงปู่จารแผ่นยันต์ให้หลายแผ่นมาผสมในเนื้อชินตะกั่วสังขวานร ซึ่งหลวงปู่บอกว่าจะให้ขลังมากๆ ต้องใช้สังขวานรเท่านั้น และ ขออนุญาตหลวงปู่โดยถูกต้องแล้วจำนวนการสร้างประมาณ 600 ตัว มอบให้ทางวัดครึ่งหนึ่ง
และ อีกครึ่งหนึ่ง นำกลับมาให้คนบูชาได้เงินหลายหมื่นบาท ( ให้บูชาตัวละ 300 บาท )
ได้เงินไปซื้อจักรยานสองล้อมอบให้ทางโรงเรียน(บ้านขางัว) พังงูพิทยา ตำบลพังงู อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานีจำนวน 500 คัน
เพื่อให้เด็กนักเรียนทีอยู่บ้านไกลจะได้เดินทางมาเรียนหนังสือได้สะดวก
เงินรายได้ทั้งหมด มอบให้กับเด็กน้อยผู้ด้อยโอกาส และ หลวงปู่ก็อนุโมทนาในกิจนี้ด้วย

เต่าคำเหล่านี้ นอกจากหลวงปู่จะเมตตาเสกให้นานพอสมควร และ ได้เอาใส่ล้อเข็นเข้าขบวนแห่พระเวสฯ ถูกต้องตามตำราของหลวงปู่ครบถ้วนกระบวนความ
ไม่มีผิดพลาดตกหล่น ล้อที่เข็นพญาเต่าคำนี้
ก็เอาแผ่นผ้ารูปพญาเต่าวางทับพญาเต่าทั้งหมด ตามคำแนะนำของหลวงปู่...

 

หลวงพ่อแช่ม วัดนวลนรดิศ สมัยผมยังเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ ในยุคนั้นผมเป็น ป.๖ รุ่นสุดท้าย เมื่อจบจึงเป็น ม.๑ รุ่นแรก เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๐ เนื่องด้วยเป็น ม.๑ รุ่นแรก ความพร้อมของโรงเรียนหรือกระทรวงศึกษายังไม่ค่อยพร้อมเท่าที่ควร หนังสือมีเรียนบ้างไม่มีบ้าง บางวิชาทั้งห้อง ๔๐ กว่าคน มีหนังสือแค่ ๑๐ เล่ม ต้องรวมกลุ่มแบ่งกันดู ผมได้ร่วมกิจกรรมของโรงเรียนโดยการได้สมัครในวงดุริยางค์ของโรงเรียน เมื่อหลวงพ่อแช่มมรณภาพ ทางวัดมีการสร้างรูปหล่อ นักเรียนดุริยางค์ของโรงเรียนวัดนวลนรดิศจึงมีโอกาสได้ร่วมแห่นำขบวน ตอนเป็นนักเรียน ม.๑ ผมเรียนรอบเช้า พอตอนบ่ายเลิกเรียนก็ได้ชวนเพื่อนไปขอพระกับหลวงพ่อ ที่วัดกับโรงเรียนได้อยู่ติดกัน เหตุที่ผมไปกราบขอท่านเพราะ มีผู้ใหญ่ข้างบ้านที่เป็นนักสะสมพระได้คุยกันเกี่ยวกับหลวงพ่อแช่มวัดนวลว่าเก่งแบบนั้นแบบนี้ เมื่อผมได้ยินได้ฟังผมก็คิดว่า วัดนวลก็อยู่ติดกับโรงเรียนผมก็ชวนเพื่อนไปขอโดยประมาณว่า เมื่อได้พระแล้วคล้องคอจะได้เรียนหนังสือเก่งๆประมาณนั้น ผมได้มีโอกาสได้กราบขอพระกับหลวงพ่ออยู่ ๒ ครั้ง ในครั้งแรกที่ผมไปขอพระหลวงพ่อกับเพื่อนนักเรียน ก็ไม่ทราบว่าหลวงพ่อแช่มอยู่กุฏิไหน ได้สอบถามลูกศิษย์พระที่เป็นผู้ใหญ่ เขาก็ชี้ไปที่กุฏิหลวงพ่อ เมื่อผมขึ้นไปบนกุฏิกุฏิบรรยากาศมืดๆสลัวๆ หลวงพ่อไม่ได้เปิดไฟ ผมได้พบเห็นหลวงพ่อตอนนั้นท่านก็มีพรรษามากแล้ว นั่งนิ่งๆอยู่มุมๆหนึ่งของกุฏิ ผมกับเพื่อนจึงคุกเข่าลงพนมมือกราบหลวงพ่อแล้วพูดว่า "ผมจะมาขอพระครับ" หลวงพ่อไม่พูดอะไรซักคำ สิ่งที่ผมเห็นความเมตตาของหลวงพ่อในตอนนั้นท่านอาพาธเดินไม่ได้แล้วท่านคุกเข่า เขยิบตัวไปหยิบพระมาแล้วบริกรรมคาถาแล้วส่งพระมอบให้ผมกับเพื่อน หลวงพ่อก็ยังไม่พูด ด้วยความที่หลวงพ่อไม่พูดผมกับเพื่อนตอนนั้นก็เกรงๆ เมื่อได้รับพระแล้วจึงรีบกราบลาลงจากกุฏิ พระชุดที่ผมได้รับเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นพระขนาดเท่าหลวงพ่อวัดปากน้ำ เนื้อสีออกเหลืองๆห่อด้วยกระดาษแก้ว มีรอยบิดเบี้ยวที่ขอบ ต่อมาเมื่อนำมาให้พี่ชายดูพี่จึงอธิบายว่า รอยปิดเบี้ยวที่ขอบเกิดจากรอยนิ้วที่หยิบพระออกมาจากบล็อคเวลาพิมพ์พระ (พระรุ่นนี้ผมได้พยายามมองหาตามตลาดพลูไม่พบสักองค์ หาในกูเกิลก็เจอแต่เหรียญและพระผงรุ่นแรกที่มีเกศา ส่วนตัวผมชอบมาก ) เมื่อพระมีรอยบิดเบี้ยวก็เหมือนเป็นรอยสะกิดใจว่า องค์ที่ผมได้มาไม่สวยไม่ถูกใจ หลังจากนั้นอีกประมาณน่าจะเกือบปี ด้วยความที่องค์แรกไม่ประทับใจ ผมจึงชวนเพื่อนไปกราบขอพระหลวงพ่ออีกครั้งตอนเลิกเรียนอย่างเคยไปทั้งชุดนักเรียน เมื่อขึ้นไปบนกุฏิผมเห็นหลวงพ่อนอนอยู่ ท่านก็หันมามองแล้วไม่พูดเช่นเดิม ผมกับเพื่อนก็มองหน้ากันแล้วพูดว่า "หลวงพ่ออยู่มุมเดิม" ผมกับเพื่อนจึงก้มลงกราบ ผมพูดว่า " หลวงพ่อครับผมมาขอพระครับ " เพื่อนผมของพูดว่าหลวงพ่อผมขอภาพหลวงพ่อครับ " แต่การไปกราบคราวนี้หลวงพ่ออาพาธมากกว่าเก่า หลวงพ่อท่านคุกเข่าไม่ได้แล้ว แต่ท่านยังเมตตาเด็กๆอย่างพวกผมอย่างสุดๆ ปรากฏว่าหลวงพ่อได้ตะแคงข้างใช้มือดันเคลื่อนตัวเองในท่านนอนเพื่อจะมาหยิบพระ ผมประมาณระยะห่างจากที่หลวงพ่อนอนมาถึงพระประมาณ ๓ เมตร ผมกับเพื่อนตกใจมาก ตอนนั้นคิดได้เองเลยว่า เรารบกวนหลวงพ่อมากแล้ว เพราะเป็นเด็กไม่ประสาไม่ทราบว่าหลวงพ่ออาพาธขนาดนี้ ผมกับเพื่อนจึงรีบบอกว่า "หลวงพ่อครับเรื่องพระไม่เป็นไรครับ" และจะเข้าไปช่วยพยุงท่าน แต่หลวงพ่อไม่พูดแต่ยกมือขึ้นเป็นสัญญลักษณ์ว่า ไม่ต้องช่วย แล้วหลวงพ่อก็ยังเคลื่อนตัวไปหยิบพระมามอบให้ ต่อมาทราบว่าเป็นพระผงรุ่น ๑ ที่มีเกศา เมื่อมอบพระให้ผมแล้ว หลวงพ่อก็ไม่พูด แต่หลวงพ่อก็ชี้นิ้วมาที่เพื่อนผม เพราะเพื่อนของผมได้ขอรูปหลวงพ่อ แล้วหลวงพ่อก็ชี้นิ้วไปที่เพดานด้านหลัง ผมกับเพื่อนก็มองตาม ปรากฎว่าเป็นภาพถ่ายขาวดำของหลวงพ่อใบใหญ่ ใส่กรอบเรียบร้อยแล้วแขวนอยู่ที่ข้างฝากุฏิ หลวงพ่อชี้นิ้วเหมือนจะบอกว่า ให้เพื่อนผมขึ้นไปยกเอาภาพลงมาไปสักการะตามที่ขอ รูปหลวงพ่อใบนี้แขวนอยู่สูงพอสมควร ต้องใช้โต๊ะปีนขึ้นไป เพื่อนผมจึงกราบหลวงพ่อแล้วบอกว่า "เรื่องรูปไม่เป็นไรครับ" ในวันนั้นจึงลากลับด้วยความประทับใจในความเมตตาของหลวงพ่อ หลังจากนั้นอีกไม่กี่ปีหลวงพ่อก็มรณภาพ เมื่อโตขึ้นยิ่งย้อนคิดถึงความเมตตาของหลวงพ่อแช่ม ยิ่งเคารพศรัทธาท่าน ถึงแม้ผมจะเรียนที่วัดนวลแต่ได้รู้จักสัมผัสหลวงปู้โต๊ะมากกว่า แต่เมื่อระลึกถึงแล้วหลวงพ่อแช่มกับหลวงปู่โต๊ะ ความเมตตาของท่านทั้ง ๒ องค์ สำหรับผมที่เคยกราบท่านมาเสมอเหมือนกันจริงๆ แต่สิ่งที่ยังอิ่มใจคือผมได้ตอบแทนคุณท่านเล็กๆน้อยๆบ้าง ที่ท่านเมตตามอบพระให้ผมและยังมอบสถานที่ของวัดสร้างเป็นโรงเรียนให้ผมได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้ โดยการที่ผมมีโอกาสเป็นนักดุริยางค์ ได้ร่วมอาลัยงานแห่รูปเหมือนท่าน

นี่ก็คือพระที่สะสมพร้อมประสบการณ์ของผม กราบหลวงพ่อแช่มครับ

พระชุดแรกที่หลวงพ่อเมตตามอบให้ ท่านใดทราบประวัติขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ

 

หลวงพ่อมอบให้ครั้งที่ ๒ องค์นี้ทราบประวัติว่า เป็นพระเนื้องผงรุ่น ๑ มีเกศา องค์นี้ได้รับมากับมือหลวงพ่อ

 

๒ องค์นี้ สักการะบูชามาทีหลัง

 

เหรียญ 100 ปี หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน- เนื้ออัลปาก้า(เลขไทย)





เหรียญ 100 ปี หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน- เนื้อทองแดง






เหรียญ 100 ปี หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน- เนื้อทองฝาบาตร




​

เหรียญ 100 ปี หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน


จำนวนจัดสร้างบล็อคเดียวแต่มี 2 ตัวตัด
ทองคำ 31 เหรียญ
เงิน 399 เหรียญ
นวะ556 เหรียญ
อัลปาก้า(ตัวเลขไทย ๑) 656 เหรียญ
ทองผาบาตร 2,999 เหรียญ
ทองแดง 17,000 เหรียญ
ตะกั่วไม่ตัดปีก (กรรมการ) 100 เหรียญ

เนื้อพิเศษตัวตัดตัวที่ 2
อัลปาก้า (ตัวเลขอารบิก 1) 2,219 เหรียญ
ทองทิพย์(ตัวเลขอารบิก 1) 2,242 เหรียญ
ทองแดงนอก2,268เหรียญ
ตะกั่ว (กรรมการ) 164 เหรียญ

รายนามการอธิษฐานจิต
1. หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป วัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี เมตตา 10 ส.ค.56
2. หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ วัดป่านาคูณจ.อุดรธานี เมตตา11 ส.ค. 56
3. หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดงจ.อุดรธานี เมตตา 10 ส.ค. 56
4. หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม วัดสามัคคีอุปถัมภ์จ.บึงกาฬ เมตตา 8 ส.ค. 56
5. หลวงพ่ออุทัย สิริธโรวัดเขาใหญ่เจริญธรรม ญาณสัมปันโน จ.นครราชสีมา เมมตา7 ส.ค. 56
6. หลวงปู่เสถียร คุณวโร วัดถ้ำพระภูวัว จ.บึงกาฬ เมตตา8 ส.ค. 56
7. หลวงพ่อเมือง พลวัฑโฒ วัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์ เมตตา 7 ส.ค. 56
8. หลวงพ่อบุญช่วย ปุญญวันโต วัดป่าภูริทัตตปฏิปทารามจ.ปทุมธานี เมตตา8 ก.ค. 56

 

​

พระนางพญา สก. พิมพ์ใหญ่ ปีพ.ศ.2519
ประวัติความเป็นมา
เมื่อ พ.ศ. 2518 วัดบวรนิเวศวิหารได้ทำการรื้อกระเบื้องหลังคาพระอุโบสถทั้งของวัดบวรฯ เอง
และของคณะรังษี (ซึ่งเดิมก็คือวัดบวรรังษี หากภายหลังได้ยุบรวมมาเป็นส่วนหนึ่งของวัดบวรนิเวศวิหาร) แล้วนำกระเบื้องลงมากองไว้

วันหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชพิธีที่วัดบวร ฯ ทรงทอดพระเนตรเห็นกระเบื้องเก่าอายุนับร้อยปี ผ่านพิธีกรรมต่าง ๆ ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทยมาเนิ่นนาน อบอวนด้วยกระแสพุทธมนต์ที่พระภิกษุทำวัตรเช้า-เย็น ซึมซับพิธีพุทธาภิเษกมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันพิธี ที่สำคัญ คือพระองค์ก็ทรงผนวชภายใต้ร่มเงาของกระเบื้องชุดนี้ก่อนที่จะถูกรื้อลงมา

จึงมีพระราชดำรัสว่า “กระเบื้องมุงหลังคาพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหารนั้นน่าจะทำประโยชน์ได้บ้าง เนื่องจากเป็นของเก่า และสมเด็จพระสังฆราชเคยประทับอยู่วัดนี้ถึง 3 พระองค์ หากนำไปทำพระผงคงจะดีไม่น้อย”

ด้วยพระราชดำรัสนี้เอง ทำให้คณะพระภิกษุและกรรมการวัดบวรฯ และสภาการศึกษามหามงกุฎราชวิทยาลัย จึงได้คิดสร้างพระผงสมเด็จนางพญาขึ้นรับสนองเสมือนหนึ่งเป็นพระบรมราชโองการ แล้วดำเนินการจัดสร้างทันที โดยกำหนดแบบพิมพ์และขนาด “พระจิตรลดา” ทุกประการ ด้วยการนำผงพระราชทานและผงศักดิ์สิทธิ์ 199 ชนิด มาผสมกับกระเบื้องหลังคาพระอุโบสถดังกล่าว และยังได้ขอพระบรมราชานุญาตอัญเชิญพระนามาภิไธยย่อ “ส.ก” มาประดิษฐานไว้ด้านหลังของพระสมเด็จนางพญา ส.ก.

สำหรับวัตถุประสงค์ในการสร้างนั้นเพื่อนำรายได้จากการบูชาพระสมเด็จและนางพญา ส.ก.ไปก่อตั้งเป็นมูลนิธิเพื่อนำดอกผลมาใช้ในการศึกษาของพระและเณรที่วิทยาลัยสงฆ์ ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีความอัตคัต สืบเนื่องจากเมื่อปี 2516 ได้มีการก่อตั้งวิทยาลัยสงฆ์ ณ จังหวัดอยุธยามีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นทุ่งนา ปราศจากต้นไม้ น้ำท่วมทุกปี ทั้งยังมีปัญหาน้ำดื่มที่ขาดแคลน ปัญหาการบิณฑบาต เนื่องจากวิทยาลัยอยู่ห่างจากหมู่บ้าน ในการนี้ทางมูลนิธิจึงได้คิดสร้างพระสมเด็จนางพญาขึ้นจำนวนหนึ่ง เพื่อหารายได้มาช่วยในวัตถุประสงค์ดังกล่าว รายได้จากศรัทธาของพุทธศาสนิกชนครั้งนี้ จะนำไปจัดตั้งเป็นทุนมูลนิธิเพื่อหาดอกผลมาบำรุงการศึกษาของคณะสงฆ์ตามโครงการดังนี้
1. สร้างอาคารเรียนสำหรับพระภิกษุและสามเณร
2. ส่งเสริมการศึกษาของพระภิกษุและสามเณร
3. ขยายโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ให้แพร่หลายทุกจังหวัด
4. เผยแผ่พระพุทธศาสนาด้านพระธรรมฑูตและหนังสือต่าง ๆ
5. เป็นค่าภัตตาหาร

1. วันจันทร์ 5 ก.ค. 2519 เวลา 17.00 น.
พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
1. สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ
2. พระสังวรวิมลเถระ(หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
3. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่
4. หลวงพ่อเมตตาหลวง วัดเทพพิทักษ์ฯ นครราชสีมา
5. พระเทพวราลังการ(หลวงปู่ศรีจันทร์) วัดศรีสุทธาวาส จ.เลย
6. พระสุทธิสารโสภณ วัดศรีโพแท่น จ.เลย
7. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี

2. วันอังคาร 6 ก.ค. 2519
พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
2. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี
3. พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดอภัยดำรงธรรม สกลนคร
4. หลวงพ่ออ่อนสี วัดพระงาม หนองคาย
5. หลวงพ่อมา วัดวิเวกอาศรม ร้อยเอ็ด
6. พระโพธิสังวรเถร (หลวงพ่อฑูรย์) วัดโพธินิมิต ธนบุรี

3. วันพุธ 7 ก.ค. 2519
พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
2. พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดอภัยดำรงธรรม สกลนคร
3. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง
4. หลวงพ่ออ่อนสี วัดพระงาม หนองคาย
5. หลวงพ่ออ่อน วัดประชานิยม กาฬสินธุ์
6. หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดประชาคมฯ ร้อยเอ็ด
7. หลวงพ่อชา วัดศรีแก่งคร้อ ชัยภูมิ
8. หลวงพ่อชม วัดป่าบ้านบัวค่อม อุดรธานี
9. หลวงพ่อบุญมา วัดอุดมคงคาคีรีเขต
10. หลวงพ่อมา วัดวิเวกฯ ร้อยเอ็ด

4. วันพฤหัสบดี 8 ก.ค. 2519
พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
2. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง
3. หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดประชาคมฯ ร้อยเอ็ด
4. หลวงพ่อบุญมา วัดอุดมคงคาคีรีเขต
5. พระอาจารย์สาม วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์
6. หลวงพ่อจ้อย วัดสุวรรณประดิษฐ์ สุราษฎร์ธานี
7. หลวงพ่อบุญรักษ์ วัดคงคาวดี สิชล นครศรีธรรมราช
8. หลวงพ่อเหรียญ วัดป่าอรัญญบรรพต หนองคาย
9. พระอาจารย์บัวพา วัดป่าพระสถิต หนองคาย

5. วันศุกร์ 9 ก.ค. 2519
พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
2. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง
3. หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาละวัน นครราชสีมา
4. หลวงพ่อโชติ วัดภูเขาแก้ว อุบลฯ
5. หลวงพ่อพั่ว วัดบ้านนาเจริญ อุบลฯ
6. พระอาจารย์สมชาย วัดเขาสุกิม จันทบุรี

6.วันเสาร์ที่ 10 ก.ค. 2519
พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
1. สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศ กทม.
2.พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กทม.
3.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
4.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
5.หลวงพ่อเก็บ วัดดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี
6.หลวงพ่อสนิท วัดศีลขันธาราม อ่างทอง
7.หลวงพ่อซ่วน วัดลาดใต้ ฉะเชิงเทรา

7.วันอาทิตย์ 11 ก.ค. 2519
พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
ตอนกลางวัน (เวลา 13.00 - 16.00 น. หลวงปู่ธูป วัดสุนทรธรรมทาน(วัดแค นางเลิ้ง) กทม. นั่งปรกบริกรรมภาวนาเดี่ยว 4 ชั่วโมงรวด
ตอนค่ำ
1.สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรวิเวศวิหาร กทม.
2.พระสังวรวิมล(หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กทม.
3.พระอาจารย์ผ่อง วัดสามปลื้ม กทม.
4.หลวงพ่อสา วัดราชนัดดา กทม.
5.หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร ธนบุรี
6.พระครูสงัด วัดพระเชตุพน กทม.
7.หลวงพ่อซ่วน วัดลาดใต้ ฉะเชิงเทรา

ในวันที่ 12 ก.ค. 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเจิมและสุหร่าย สมเด็จนางพญา ส.ก.และพระสมเด็จอุณาโลม ในเวลา 16.00 น. ณ พระอุโบสถคณะรังษี วัดบวรฯ

สมเด็จนางพญา สก. 2519 นี้ต่อมาในปี 2522 ทางวัดได้นำพระนางพญา รุ่นนี้เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกพระสมเด็จนางพญา ส.ก.รุ่นพระราชทาน 2522 ในวันที่ 9 -12 เม.ย. 2522 ซึ่งมีพระเกจิอาจารย์สุดยอดแห่งยุค 29 รูปนั่งบริกรรมภาวนา ดังมีรายชื่อพอสังเขปดังนี้

-หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดศรีสุทธาวาส
-หลวงปู่ดูลย์ วัดศรีบูรพาราม
-หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง
-หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
-หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
-หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
-พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว
-หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง
-หลวงพ่อสิริ วัดชนะสงคราม

 

สวัสดีชาวคนใจบุญทุกท่านนะครับ พระแจ่มๆ ทั้งเลย.... ^^

 

นานมาที ขอลงอีกซักองค์ ^^​

​