ทำไมโลกนี้ไม่ยุติธรรมเลยครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย monkeyswilf, 3 สิงหาคม 2013.

  1. monkeyswilf

    monkeyswilf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +122
    คิดอยู่นานครับจะตั้งดีมั้ย ใครตอบผมที

    เอ่อขอเล่าก่อนนะครับ คือผมรู้จักกับบ้านนึงเป็นบ้านญาติผมเองเป็นคนมีเงินครับแต่ผมสงสัยว่าคนในบ้านเหล่านั้นไม่ค่อยได้ทำบุญสวดมนต์หรือไม่ได้ทำบุญทำทานมากนักแต่อยู่กันสุขสบายลูก3คนลูกคนโตเรียนไม่จบอยู่สบายมีรถยนต์และมอเตอไซค์คันละหลายแสน อีก2คนกำลังเรียนม.ปลายกะม.ต้นแต่ชีวิตสุขสบายอยากหยุดเรียนเมื่อไรก็หยุดได้มีของแพงใช้มีเงินไปเที่ยวทุกเสาอาทิตแต่ต่างกับที่บ้านผม พ่อผมเป็นคนชอบทำบุญทำทานคนยากจนทำสังฆทานเข้าวัดปัฎิบัติ
    ตามประเพณีที่สืบต่อกันมาชอบสวดมนต์ และผมเรียนอยู่นะครับผมก็ส่วนมากก็สวดมนต์ทำสมาธิทำสังฆทานปล่อยปลาในตลาด แต่ผิดกับที่บ้านนั้น เช่น เวลาผมสวดมนต์นานก็หาว่าผมบ้าบ้างต๊องบ้าง ผมไปไหว้พระไปซื้อสังฆทานมาทำก็หาว่าผมบ้าติงต๊องไรมั่ง ทำไมครับคนเหล่านั้นถึงยังสุขสบายมีหัวหน้าครอบครัวคอยหาเงินมีความสุขสบายคับ แต่ทำไมที่บ้านผมถึงต้องดิ้นรนแม่กะพ่อทำงานครับครับไม่ได้สุขสบายเหมือนคนเหล่านั้นคับ
    ทำไมโลกนี้มันไม่ยุติธรรมเลยครับ หรือบาปบุญไม่มีจริงครับ
    ใครจะว่าผมก็ได้นะครับผมแค่อยากรู้

    ใครตอบผมที
    [​IMG]
     
  2. กฮ

    กฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +415
    แล้วเห็นบุญไหมครับว่าเป็นตัวอย่างไร หากยังไม่เห็นแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าที่ทำเป็นบุญ
     
  3. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ที่ว่ามานั้นบุญกำลังให้ผลอยู่ครับถ้าไม่สร้างบุญต่อหมดบุญก้อต้องรับผลกรรมละครับ

    กรรมที่ปรามาสคนทำบุญหนักนะคับช่างมันเดวก้อคงได้รับผลของกรรมละคับ

    ส่วนคุณคิดซะว่าบุญยังไม่ให้ผลกรรมยังส่งผลอยู่คับพยยามเข้าครับอย่าท้อในการทำบุญ

    ผมก้อเคยคิดแบบคุณแล้วศึกษาธรรมมะเลยเข้าใจคับแล้วยอมรับถ้าบุญส่งผลแล้ว

    ชีวิตก้อดีขึ้นเองผมก้เคยเป็นแบบคุณมาก่อนคับ
     
  4. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    ปล่อยพวกเขาไปเถอะค่ะ หากว่าพวกเขากำลังเสวยกรรมดีอยู่ เมื่อไม่ทุกข์ก็ยังไม่รู้จักธรรม.. อย่าเรียกร้องหาความยุติธรรมบนโลกใบนี้เลยค่ะ เรียกหาเครื่องวัดกิเลสดีกว่า รับรองคุณแพ้เขาแน่เพราะคุณแทบไม่มีกิเลส แต่คุณมีค่ามากมายที่คิดรู้และกำลังสะสมอริยทรัพย์ เป็นสิ่งที่ตามติดคุณไปได้ทุกที่ทุกทางทุำกภพทุกชาติ แต่ที่พวกเขากำลังสะสมนั้นเป็นสมบัติของโลกใบนี้ค่ะ แค่ชื่นชม พอละสังขารไปแล้วก็ต้องทิ้งไว้วัฏฏ์นี้ แล้วค่อยเวียนว่ายกลับมาชื่นชมใหม่ ถึงตอนนั้นอาจไ่ม่ได้เสวยสุขแบบภพนี้ก็ได้ค่ะ...

    อย่าได้แคร์สักนิด ในการทำบุญกุศลสร้างกรรมดี.. ดิฉันเองก็ถูกเรียกว่า ยัยเพี้ยน เหมือนกันแหละค่ะ.. ถึงวันนี้แล้วดิฉันรู้แล้วหนทางแห่งการหลุดพ้น แค่ยังไปไม่ถึงเท่านั้นเอ๊งงงค่ะ ฉะนั้น มองแล้วเห็น ก็ผ่านไป ได้ยินก็รู้ รู้ก็วาง อย่าแบกใส่บ่าเป็นเด็ดขาด เพราะกิเลสเหล่านี้จะทำให้การบรรลุธรรมของเราช้าลงค่ะ..^^
     
  5. apiraks

    apiraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +508
    ก่อนอื่นต้องขอถามก่อนว่าคุณเชื่อเรื่องกรรมแค่ไหนนะครับ?

    ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ทำไปจะได้รับผลอย่างไร หรือเพราะที่บ้านพาทำก็เลยทำตามกันมา
    หรือเพียงเชื่อต่อๆจากคนรุ่นก่อนเท่านั้นก็ตาม

    สัตว์โลกไม่ว่ามนุษย์ เทวดา สัตว์เดรัจฉาน ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเกิดมาเพราะแรงกรรมทั้งสิ้นครับ
    ภพชาติถูกสร้างขึ้นจากสิ่งที่เรากระทำในวันนี้ ทำบุญก็จะสร้างสุขติภูมิรอไว้ ทำชั่วก็จะสร้าง
    ทุกขติภูมิรอไว้เช่นกัน เมื่อตายโดยเหตุแห่งมรณุปปัตติ ก็จะไปเกิดในภพภูมิที่มีรอไว้แล้วนั้น
    วนเวียนไปเรื่อยๆ สุขติภูมิบ้าง ทุกขติภูมิบ้าง จนสุดท้ายเกิดการเบื่อหน่าย คิดหาทางออกจาก
    วัฏจักรนี้ เมื่อสามารถค้นพบและดับต้นเหตุแห่งการเกิดนั้นได้ ภพชาติทั้งหลายจึงยุติลง

    สิ่งที่ท่านได้พบเจอในขณะนี้นั้น พื้นฐานมาจากบุญกรรมที่ท่านเคยกระทำไว้ในกาลก่อนทั้งสิ้นครับ
    ผู้เกิดมารวยเพราะบุญที่ได้ทำในภพชาติก่อนๆส่งเสริม ผู้เกิดมายากจนก็เป็นผลแห่งบาปเช่นกัน

    ผู้เขียนพยายามสรุปให้เจ้าของกระทู้เข้าใจโดยย่อนะครับ, หากท่านสนใจสามารถศึกษาได้
    จากพระไตรปิฎกได้โดยตรงเลยครับ มีหมดทุกเรื่องที่ท่านอยากรู้ครับ

    ขอเจริญในธรรมทุกท่านนะครับ
     
  6. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    อย่ากังวลไปเลยครับ ผมเข้าใจคุณ แต่ก็จริงอย่างที่คุณว่านะครับ โลกใบนี้ไม่มีความยุติธรรมหรอกครับ เพราะผลของบุญกรรมที่กระทำมาไม่เท่ากัน บางคนทำมาแต่ปางก่อนได้เสวยความสุขจากบุญกุศลที่ตนทำไว้ ถ้าไม่ได้กระทำต่อเนื่องในปัจจุบันก็ไม่มีทางได้เสวยบุญกุศลต่อในภายภาคหน้าหรอกครับ ในทางกลับกันเราอาจจะไม่ได้กระทำมาในแต่ปางก่อนเราก็ไม่สามารถเสวยบุญกุศลในปัจจุบันได้หรอกครับ นี่ประการหนึ่ง

    ประการต่อมา อย่าไปกังวลใจกับการเสวยบุญกุศลของใครบางคนเลยครับ ทำของเราให้ดี ๆ และต่อสู้ไปเรื่อย ๆ อย่ายอมแพ้ สักวันจะเป็นวันของเรา แม้อาจจะไม่มีวันนั้น แต่เราจะภูมิใจในตนเองว่าได้ต่อสู้กับอุปสรรคอย่างกล้าหาญ

    ประการต่อมาอีก ด้วยระบบสังคมทีมีความซับซ้อน ซ่อนเงื่อน แฝงเร้น โกง ไม่ดี อาจเป็นปัญหาของเราในการดำรงชีวีตได้

    ประการต่อมาอีก ตัวเราเองนะเป็นคนขยันขันแข็ง มุมานะทำงาน ประหยัด อดออมมากน้อยแค่ไหน อีกประการหนึ่งอุปนิสัยตัวเราเองเป้นอย่างไร เช่น บื้อ ไม่ทันคน หรือเปล่า ? ถ้าเราเป็นคนฉลาด หลักแหลม รอบรู้ ทันคน ก็ไปได้ไม่น่าห่วงครับ !
     
  7. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    หากน้องเป็นชาวพุทธ ก็คงพอจะทราบจากคำสอนของพระพุทธเจ้ามาบ้างว่า .."เราทั้งหลาย ไม่ได้เพิ่งมาเกิดในชาตินี้เป็นชาติแรกหรอก แต่ เคยเกิดและตายมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว ..เมื่อเกิดตายมานานขนาดนั้น ต่างก็ทำบุญและบาปมาเกือบทุกชนิดแล้ว ดังนั้นผลบุญและบาปที่ทำมานั้น ก็ย่อมมี และตามส่งผลให้ได้รับกันถ้วนหน้า..ดังนั้นที่เขาไม่ขวนขวายทำบุญอะไรๆ แต่กลับมีความสุขและร่ำรวยก็เพราะบุญเก่าอันดียังมีกำลังส่งผล อยู่ แต่จะเป็นเช่นนี้ตลอดไปหรือไม่ก็ต้องคอยดูกันในระยะยาว ....

    หรือที่เราเห็นจากภายนอกว่ามีของดีและ แพงใช้ หรือมีฐานะร่ำรวยนั้น ก็หาใช่เครื่องตัดสินไม่ได้ว่าเขาเหล่านั้น"มีความสุข"จริง คนที่มีความสุข จะมีจิตคิดแต่ในทางที่ดี แต่เท่าที่เล่ามา ว่า..

    ..เช่น เวลาผมสวดมนต์นานก็หาว่าผมบ้าบ้างต๊องบ้าง ผมไปไหว้พระไปซื้อสังฆทานมาทำก็หาว่าผมบ้าติงต๊องไรมั่ง..

    นั้นแสดงให้เห็นเบื้องลึกว่า เขาไม่ได้มีความสุขอะไรอย่างแื้ท้จริง เขาอาจนึกอิจฉาความมีบุญของน้อง ที่สามารถทำในสิ่งที่เขาทำไม่ได้ ทำไม่เป็นหรือไม่อาจทำได้ เเต่เขารู้ว่าสิ่งที่น้องทำนั้นดีแน่ จึงริษยาจนถึง กล่าวมิจฉาวาจาออกมาเช่นนั้น...หรือเขาอาจมีมานะถือดีในความร่ำรวยของตน ครั้นได้โอกาสก็แสดงมิจฉาวาจาออกมาเพื่อดูแคลนคนอื่น..

    แม้ในกาลก่อน น้องก็เคยกล่าวมิจฉาวาจาเช่นนี้มาให้คนอื่นเจ็บช้ำใจมาแล้ว เพราะหากไม่เคยล่วงมิจฉาวาจาเช่นนี้มา แม้หูจะอยู่ใกล้ปากคนที่พูด ก็จะไม่มีโอกาสได้ยินได้ฟังถ้อยคำเสียหายเช่นนี้เลย ...ส่วนเขาคนพูด..ก็จะได้ไปฟังใครๆกล่าวถ้อยคำน่าสะเทือนใจเช่นเดียวกันตามสมควรแก่เจตนาที่ตนมีในการพูดไว้...น้องพึงอภัยให้คนบอดเขลาที่ไม่รู้หรือ/และไม่เชื่อเรื่องกรรมในพฤติกรรมเช่นนี้เสีย พยายามไม่ส่งใจไปตรวจความเป็นอยู่ของเขา เรากำลังทำดีเจริญกุศล ย่อมไม่เป็นโมฆะแน่ กรรมทั้งดีและชั่ว มีผลตามมาเสมอ..

    ได้ยินมาจากครูอาจารย์ว่า คนรวยมากบางคน แม้มีทุกอย่างครบควรแก่การมีชีวิตที่เป็นสุข แต่กลับทุกข์เดือดร้อนเพราะอำนาจกิเลสมีโลภะของตนที่ไม่รู้จักพอ ..เขานั้นร้อนรุ่มกลุ้มใจวันละ๒๕ชั่วโมง นอนไม่หลับกินไม่ได้ ต้องวิ่งเต้นเพื่อโกยทรัพย์บ้าง รักษาทรัพย์ กลัวหายกลัวหมดตัว เพราะลงทุนอะไรๆไว้เยอะ.. และหรือเดือดร้อนใจเพราะบาปกรรม ที่ตนเคยทำไว้ ครั้นใกล้ตายก็หาที่พึ่งไม่ได้เพราะไม่รู้จักศีลธรรมอะไร ๆจึงเข้าถึงความหลงตาย เมื่อหลงเสียแล้วที่จะได้ไปเกิดในสุคติภูมิย่อมไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้..น่าสงสารมากทีเดียวคนประเภทนี้..

    น้องมีบุญดีได้เกิดเป็นคน บุญดีที่ได้ร่วมวงศ์กับพ่อผู้รู้จักทำบุญ เมื่อเทียบกับบ้านรวยที่น้องเล่า ข้าพเจ้า กลับเห็นว่า น้องมีดีที่ควรภูมิใจมากกว่าบ้านโน้นหลายเท่า...เพราะบ้านโน้นเขากินบุญเก่าอย่างเดียว ไม่รู้จักหาเพิ่ม..คนที่กินของเก่า นับวันของนั้นมีแต่จะลดหรือหมดไป ..

    ส่วนน้องและพ่อ กำลังขวนขวายหาทรัพย์ภายใน ซึ่งได้แก่ กุศลทุกประเภท เป็นทรัพย์ที่มีความมั่นคง มีความปลอดภัย ใคร ๆ ก็ลักไปไม่ได้ เป็นที่พึ่งได้อย่างแท้จริง เป็นสิ่งที่จะติดตามไปในภพหน้า พร้อมทั้งยังเป็นเหตุอำนวยผลที่น่าปรารถนาได้ทุกอย่าง เพราะเหตุว่า สิ่งที่น่าปรารถนาทุกอย่าง สำเร็จด้วยกุศลทั้งนั้น, ทรัพย์ภายใน จึงประเสริฐกว่าทรัพย์ภายนอก เมื่อเข้าใจอย่างนี้แล้ว ถึงแม้ว่าจะแสวงหาทรัพย์ภายนอกบ้าง ก็ไม่ควรละทิ้งทรัพย์ภายใน ด้วยการสะสมความดีประการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมปัญญาความเข้าใจถูก เห็นถูกต่อไป. ..นะครับ..
     
  8. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154


    ไม่ได้ว่าน๊ะครับ..มันไม่ยุธรรมตั้งแต่คุณไปเปรียบแล้วครับ

    พฤติกรรมอุปนิสัยคนละอย่าง..หน้าที่การงาน..วิถีชีวิต

    แตกต่าง..สิ่งที่คุณทำน่ะดีอยู่แล้วครับ หมั่นทำและรักษา

    เอาไว้เถอะครับ..ขอชื่นชมเด็กรุ่นคุณเท่าที่เห็นมามีไม่มาก

    จงมั่นใจเถิดครับ "ทำดีต้องได้ดี" เรามีหน้าที่ทำไปเรื่อยๆ

    เจตนา..ก่อน..ขณะ..หลัง..วางให้ดีไม่นานผลที่ดีมีมาแน่นอน

    ส่วนคนที่มาว่าคุณทำใจให้ให้อภัยเขาไป..บางที่ขณะนี้เขาอาจ

    จะยังไม่รู้..เวลาผ่านไปเขาก็จะเลิกไปเองแหละครับ

    อนุโมทนาครับ.
     
  9. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    อย่าคิดว่าทำบุญแล้วจะเห็นผลทันทีเลยมันเป็นไปไม่ได้ ถ้าทำบุญแล้วทุกอย่างในชีวิตพลิกในทันที เขาก็คงทำบุญกันทั้งโลกแล้ว คนเราไม่ได้โง่ขนาดนั้นถ้าทำบุญแล้วชีวิตเปลี่ยนทันทีรับรองทุกคนทำหมด แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันใช้เวลา ถ้าอยากเห็นผลเร็วขึ้นก็ลองอธิษฐานเจาะจงลงไปว่าขอให้สำเร็จในเรื่องนั้นเรื่องนี้ ในตอนนี้เวลานี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเห็นผลทันทีอีกแต่ก็เร็วขึ้นพอจะเห็นความแตกต่างได้ ครอบครัวของเพื่อนเขาอาจจะทำบุญมามากในอดีตก็ได้ เราจะแน่ใจได้ยังไงว่าชาติก่อนเขาไม่เคยทำบุญมา ต้องให้เวลากัับมันหน่อย ลองมองเรืาองต่างๆ เป็นเรื่องของกรรมให้บ่อยๆ ถ้าเวลาที่เราทุกข์ก็คิดว่าบุญไม่มีจริง แต่พอเราได้อะไรก็มองเป็นเรื่องของโชค อย่างนี้ไม่มีทางเห็นผลของบุญหรอก บางครั้งบุญก็มาในรูปของสิ่งไม่ดีที่ไม่ได้เกิดขึ้นเหมือนกัน
     
  10. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ตายแล้วรู้ชัวร์ทุกคน
     
  11. กลางทาง

    กลางทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2013
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +702
    จริงที่สุด
     
  12. กลางทาง

    กลางทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2013
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +702
    สิ่งที่ผมคิดอยู่เสมอก็คือวันนี้ชาตินี้ใครทำอะไรผม ผมมีเท่าไรแค่ไหน หรือผมเป็นอย่างไร ใครดีหรือเลวกับผม มันก็เป็นเพราะในอดีตผมเคยทำเขาไว้ทั้งหมด ในอดีตผมเคยเป็นอย่างนั้นเองวันนี้ก็ต้องยอมให้มันเป็นไป แล้วในอนาคตผมอยากเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับวันนี้ซึ่งผมกำลังสร้างเรื่องราวในอนาคตผมอยู่ แล้วบอกตามตรงหลายต่อหลายครั้งที่ทำดีไปแล้วชีวิตก็จมปลัก ทำให้ท้อบ่อยๆยังคิดอีกด้วยซ้ำว่าไม่อยากทำความดีแล้วจริงๆ แต่สุดท้ายก็กลับมาทำดีทุกครั้งอาจมีอะไรมาดลใจก็ได้ให้เราเข้ามาทำในเรื่องทำนองนี้ ผมเชื่อว่าคุณเป็นคนดีเนื้อแท้ดีนะผมเชื่อ แต่บางทีกำลังใจอาจยังไม่มากพอก็ทำให้ยังมีท้อเป็นระยะแต่อย่างไรก็ขอให้คุณยังยึดมั่นในการทำดีนะครับ วันนี้ถ้าคุณมองย้อนกลับไปในอดีตคุณอาจเสียใจหรือกลัวผลของกรรมที่คุณทำไว้ในอดีตแต่ตอนนี้คุณกำลังทำความดีอยู่อีก20-30ปีข้างหน้าเมื่อคุณแก่แล้วและเริ่มปลงกับอะไรต่างๆแล้วเมื่อคุณมองย้อนมาถึงวันนี้คุณก็จะสบายใจว่าได้ทำความดีสะสมไว้หากต้องเป็นอะไรไปในขณะนั้นจริงๆก็ยังมีบุญตามไปด้วยละ อย่าหยุดทำดีแล้วกัน
     
  13. ladyinblack

    ladyinblack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +155
    ใช่ค่ะ คือ พวกกินบุญเก่า คนจำพวกนี้มีเยอะแยะเต็มไปหมด
    แต่บุญถ้าไม่ทำเพิ่ม ใช้ไปเรื่อย ๆ บุญหมด มันก็หมดไปค่ะ
    (นี่ยังไม่นับถ้าบุคคลดังกล่าวทำกรรมไม่ดีเพิ่มไปอีก)

    อย่าน้อยใจกะความไม่เท่าเทียมบนโลกเลยค่ะ (นี่บอกตัวข้าพเจ้าเองด้วย)
    คนเราทำบุญ-บาปมาไม่เท่ากัน รู้อย่างนี้แล้วก็ทำบุญต่อไปดีกว่าค่ะ
    เก็บมันมาคิดก็ทำให้จิตใจหมองหม่นเปล่า ๆ
    โดยส่วนตัวคิดว่า เกิดมาเป็นคนครบ 32 แข็งแรง พอมีกิน มีใช้ ก็ถือว่าดีมากแล้ว
    อย่าฟุ้งเฟื้อ อยากมี อยากได้ อยากเหนือกว่า
    และอย่าเอาวาสนาตัวเองไปเปรียบเทียบกะชาวบ้าน
    เราก็ดีในแบบของเรา เค้าก็ดีในแบบของเค้าค่ะ
     
  14. achara2518

    achara2518 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +175
    ขอเป็นกำลังใจให้นะ
    คุณ monkeyswilf ไม่ได้บ้า หรือต๊อง แต่คุณเป็นคนที่่มีศีลธรรมในตัว แคร์ความคิด ความรู้สึกของคนอื่น
    ดิฉันเคยเจอปัญหาเหมือนคุณ เพราะคนส่วนใหญ่เขาไม่ปฏิบัติ ไม่ทำ เราจึงเป็นคนกลุ่มน้อย ที่ทำ พวกเขาจึงมองหาว่าเราเป็นตัวประหลาด ของเขา ในการสวดมนต์ ไหว้พระ ไปทำบุญที่่วัดในวันพระ จนบางครั้งต้องแอบๆ ทำ แถมคนพวกนี้เวลาพูดถึงเรากับคนอื่นจะพูดเหมือนว่าเราเป็นคนที่ไม่ปกติ ไม่ควรคบค้าสมาคมด้วยอีกต่างหาก
    "คนไม่ปกติ จะมองตนเองว่าปกติ แต่จะว่าคนปกติ ให้เป็นคนไม่ปกติในสายตาคนอื่นตามแบบที่เขาคิด"
    แท้ที่จริงแล้ว คนที่ว่าเรา นั้นแหละ คือ คนไม่ปกติ
     
  15. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    โลกนี้ไม่มีความยุติธรรม ถ้าหากเรามองแบบสั้นๆ คิดแบบสั้นๆ เพราะเราเกิดมาหลายชาติ ทำบุญมาก็มาก บาปก็ไม่น้อย เมื่อถึงเวลาเสวยผลกรรมส่วนที่ไม่ดี ก็ต้องมีโวยวายบ้างเป็นปกติ เพราะเราก็เห็นแค่ชาติเดียว ไม่ได้เห็นชาติก่อนๆ คงต้องลองถือศีล นั่งสมาธิ เผื่อจะได้เห็นอดีตกรรมของตัวเองบ้าง ว่าไปแล้วมันเป็นหล่มกรรมหรือกับดักกรรมก็ได้ เพราะมันจะพาเราไปสู่การจองเวร ทำให้ไม่สามารถออกจากกรรมอันนั้นได้ ชาติที่แล้วเราไปทำเขา ชาตินี้เขามาเอาคืน ชาติต่อไปเราก็ไปทำเขาอีก วนไปวนมาไม่สิ้นสุด ถ้าคิดได้ ทำได้ ก็จะตัดกรรมไปได้หนึ่งกรรม จากกรรมอันประมาณมิได้ของสรรพสัตว์ในวัฏฏะสงสารนี้ ทางที่จะทำให้พ้นไปได้ยังมีอยู่ เพียรศึกษาหาความรู้ ความจริงซะ การให้ทาน คือ การสละออก ไม่ใช่การขอเพิ่ม การบำเพ็ญศีล ไม่ใช่ข้อห้าม แต่เป็นอาการของปกติของผู้แสวงหาความจริง เมื่อไม่มีเจตนาที่จะพ้นไปจริงๆ ก็ย่อมต้องวนเวียนอยู่ในวัฏฏะสงสารนี้ตลอดไป
     
  16. เลิฟริว

    เลิฟริว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +207
    อย่าย่อท้อในการทำความดีค่ะ เราทำความดีของเราต่อไป
    ใครจะรวยหรือจน จะทำบุญหรือไม่ทำบุญ ปล่อยเค้าไปค่ะ
    คิดแค่นี้เราก้อสบายใจแล้วค่ะ ^_^
     
  17. Pipat - P

    Pipat - P สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +11
    มีคุณพ่อดีขนาดนี้จะน้อยใจไปทำไม "ความดี" กับ "ความรวย" มันคนละเรื่องเดียวกันนะครับ
     
  18. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701
    อย่าเอาความร่ำรวย เงินทอง ไปเปรียบเทียบ ว่าเป็น บุญ

    อย่าเอาความยากจนในเงินตรา ไปเปรียบเทียบ ว่าเป็น บาป

    โลกนี้และโลกหน้ายุติธรรมเสมอ แต่คุณไม่ยุติธรรม ที่นำเอาบาปบุญไปเปรียบเทียบแบบผิด ๆ

    เพราะมนุษย์ทั่วไป คิดถึงแต่เรื่อง รวยจน เท่านั้น




    ท่านผู้มีบุญ หลายท่าน สำเร็จ ฌาณสมาบัติ 4 มีอริยทรัพย์ เหนือกว่าทรัพย์สินเงินตรา ที่ตายไปแล้ว ก็เอาไปไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2013
  19. nunmk

    nunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +108
    ถ้าเรามองแต่คนอื่น ดูแต่ชีวิตคนอื่นเขา เราก็จะเกิดความรู้สึกว่าโลกไม่มีความยุติธรรม เพราะเราเอาใจของเราไปผูกกับสิ่งภายนอก แล้วเอาทุกข์ภายนอกมาใส่เข้าไปในใจของตนเอง คิดไปเองหลงไปเองว่า เขามี เขาสบาย เขาสุข แล้วเอาของโลกๆ มาเทียบกับเราว่าเราเป็นแบบนั้นแบบนี้เรามีทุกข์ คนจะรวยเมื่อรู้สึกพอ คนที่ไม่รู้สึกพอย่อมที่จะจนตลอดกาล เพราะมีล้านก็อยากมีสิบล้าน ต้องทุกข์หาอีก ไม่พอก็ทุกข์มาก ถ้าพอก็หมดทุกข์ อริยะทรัพย์เป็นทรัพย์ที่เลิศที่สุดในโลกนี้นะ
     
  20. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,741
    ค่าพลัง:
    +205,474
    กฏทุกกฏย่อมมีข้อยกเว้นได้เสมอ
    ยกเว้น กฏแห่งกรรม เพราะเขาจะทำหน้าที่ของเขาอย่างยุติธรรมที่สุด
     

แชร์หน้านี้

Loading...