ประสบการณ์กรรมฐานเมตตาใหญ่-กรรมฐานกับดวงจิตวิสาขบูชา66น.91พิธีจุติคุรุเทวากรรมประสิทธิ์ปฐมฤกษ์"

ตอนนี้เริ่มงานทำพระพิมพิ์พระกรุวังหน้า(พระโลกอุดร) นำไปเหวี่ยงเป็นโลหะมอบให้ท่านและพ่อปู่ เชิญชมได้ที่กระทู้พระเครื่องมีชุดนำฤกษ์ให้ร่วมงานกัน ชุดนำฤกษ์ที่ให้ร่วมงานมีความพิเศษคือจะเป็นเนื้อชนวนล้วน ๆ ต้องลองติดตามชมนะครับว่าจะออกมาพิเศษขนาดไหน เมื่อหล่อเสร็จแล้วผมจะไม่ให้ช่างขัดผิดแต่อย่างใดผมรู้สึกชอบเนื้อแบบเดิม ๆ มันดูขลังดีครับ

 

ขออนุโมทนาบุญ ด้วยครับ

 

ตอนนี้พระโลหะพิมพิ์พระกรุถูกจองหมดแล้วครับ ถ้าใครจะลงชื่อสำรอง ก็ลองดูนะครับ อาจจะพอแบ่งได้อีกสัก 2-3 ชุด เพราะทางเทคนิคการหล่อของช่างทำให้ชุดนำฤกษ์หล่อออกมามีจำนวนพอสมควรครับ

 

วันนี้มาว่ากันด้วยเหตุ และ ผล เอาแบบง่าย ๆ นะครับเพราะผมคิดยาก ๆ แล้วยุ่งทุกที 555

ว่ากันว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีมาแต่เหตุ เมื่อมีเหตุย่อมมีผลที่ให้เราได้เห็นได้รับได้รู้ได้สัมผัสกันอยู่ทุกวันนี้ แม้แต่เรื่องราวของความดีและความไม่ดีก็ตาม แต่เรื่องของผลที่ส่งมานั้นก็จะมีความละเอียดและระดับในการให้ผลไม่เท่ากัน บางครั้งผลที่ส่งมาน้อยจนแทบไม่รู้เลย หรือมากจนน่าตกใจก็ว่าได้ และทุกอย่างที่เป็นเหตุนั้นก็เกิตแก่จิตเราด้วย และผลที่เรารับก็ส่งมาที่จิตเราด้วยเช่นกัน

 

ทุกเรื่องที่ลงไปเป็นการเตือนความจำเตือนสติตนเองเป็นหลักและฝึกฝนการทำความเข้าใจกับคนอื่น

ในวันอาทิตย์นี้จะเป็นวันที่ผมต้องไปบวงสรวงการหล่อพระกรุโลหะหลวงปู่ใหญ่ตามที่แจ้งไว้ และจะมีท่านอาจารย์ช่วยกำกับอีกครั้ง เพราผมเองก็ยังมือใหม่มากเหลือเกิน

ผมได้อธิฐานว่าให้พระหล่ออกมาสวยงามดั่งเทพเนรมิตร ศักดิ์สิทธิ์ดุจหลวงปู่ท่านมาทำเองทุกประการ ผมเพียงคิดเริ่มสละในส่วนที่สามารถทำได้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งหากหลวงปู่ท่านไม่อนุญาตไม่มาช่วยผมคงทำไม่สำเร็จน่ะครับ

 

งานหลวงปู่ที่พยายามทำจนเสร็จ ผม้จะมีอุปสรรคบ้างก็สำเร็จจนได้ ตก ๆ หล่น ๆ ในรายละเอียดบางอย่างแต่ก็แก้ไขด้วยความพยายามครับ

 

ภาพพิมพิ์พระกรุเป็นเนื้อชนวนล้วนได้เปิดให้ร่วมบุญสร้าง ทั้งหมด 18 ชุด และถูกบูชาร่วมบุญไปหมดแล้วครับ ส่วนเนื้อผสมชนวนจะเป็นเนื้อออกผิวไฟต่างกันมากครับแต่เป็นเอกลักษณ์แน่นอน

งานนี้ตั้งใจทำถวายท่านอาจารย์และพ่อปู่ แต่ก็เกินตัวในหลายเรื่องที่ท่านอาจารย์ได้ สั่งสอนไว้ ก็ได้แต่ปลงในตัวเองนี่เขาเรียกว่าโลภบุญไม่มีสติในบุญครับ

 

ครับ แหมเปลี่ยนภาพแทนตัวซะที อยากให้เปลี่ยนจากคนอินเดียนานแล้วครับ

 

เนื่องจากช่วงนี้ได้มีโอกาสรับคำแนะนำจากท่านอาจารย์ท่าหนึ่งในด้านสายเทพ สายพรหม ได้คุยและได้รับคำแนะนำต่าง ๆ นา ๆ ในใจเชื่อและศรัทธาว่าท่านถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ ซึ่งโดยหลัก ๆ ท่านจะมีบารมีปู่ศิวะเทพอยู่ จากการพูดคุยกับท่านใจก็คิดว่าท่าจะรับรู้แค่ไหน อย่างไร ท่านมาโปรดเราที่บ้านบ้างใหมนะ

ทำให้เมื่อวานขณะนั่งรถไปโรงหล่อก็ง่วง ๆ เพลีย ๆ จึงปล่อยใจสบาย ๆ ไปเพลิน ๆ ระหว่างคุยกับช่างปั้นประจำคณะที่วันนี้มาเป็นสารถีขับรถพาผมไปโรงหล่อ ระหว่างเดินทางก็คิดถึงเรื่องท่านอาจรย์สายเทพท่านนี้และปู่ศิวะเทพ ฉับพลันทันใดใจก็ประวัติเห็น บุคคลท่านหนึ่งผมยาวมีคล้าย ๆ งู พาดที่คอ กำลังก้มกราบพระที่ห้องพระบ้านผม ไม่ได้เห็นหน้าท่าน ก็ดีใจแต่ก็วางเฉย ๆ ใจเห็นเช่นนั้นอยู่ระยะหนึ่ง ก็อิ่มใจอย่างยิ่งในการเดินทางไปหล่อพระกรุโลหะเมื่อวันอาทิตย์

 

อ้าวพี่ไม่ชอบเหรอค่ะ ...แหะๆ

ยังไม่ได้ตอบพี่เรื่องพ่อปู่ฤาษีเลยค่ะ ยังจำได้ แต่ต้องรอจังหวะบุญวาสนาของตนเองก่อนค่ะ อิอิอิ

 

กราบพ่อปู่ฤาษี และ โมทนาบุญกับพี่ด้วยค่ะ

 

ช่วงนี้มีคำขยายความในชีวิตเพิ่มขึ้นและก็ทราบเป้าหมายในอนาคตบางอย่างระยะ 5 ปีนี้ ถ้าไม่แพ้วิบากกรรมไปซะก่อนคงได้รับรู้อะไรดี ๆ อีกมาก การที่ได้มาสื่อสารกับทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ก็เป็นหน้าที่หนึ่งที่ได้รับมอบหมายมาจากเบื้องบน แต่สิ่งสำคัญที่ผมต้องทำนั้นก็คือรูปลักษณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านปราถนาจะให้สร้างขึ้นเพื่อให้ลูกหลายได้รู้จัก ได้กราบไหว้บูชา เพื่อเป็นศิริมงคล

โดยตัวผมเองก็ยินดีที่จะทำงาน ยินดีที่จะช่วยงานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และครูบาอาจารย์ทุก ๆ ท่าน ตามกำลังที่จะทำได้ แต่ตอนนี้ช่วงนี้ท่านเจ้ากรรมนายเวรท่านเบียดเข้ามาซะชิดใกล้จนกระอักกระอ่วนเช่นเดียวกับท่านทั้งหลาย ก็ต้องพยายามขอขมากรรมกัน ผมก้อหวังว่าท่านเจ้ากรรมนายเวรผมทุกท่านปราถนาในบุญที่ผมจะทำในพระศาสนาเพื่อให้ท่านเหล่านั้นได้พ้นจากความทุกข์ไปสู่ภพที่ดี มีบารมีสูงยิ่ง ๆ ขึ้นไปแล้วมาช่วยผมสร้างสรรค์งานถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันต่อไปในภายภาคหน้า

 

งานที่เริ่มช่วยท่านอาจารย์ช่วงช่วงที่ผ่านมาก็คือปู่พระพิราพที่มีบารมีกว้างขวางมากในยุคนี้องค์หนึ่ง ซึ่งตามตำนานถือว่าท่านเชื่อกันว่าท่านเป็นภาคอวตาลขององค์อิศวรเทพผู้ยิ่งใหญ่

งานต่อมาที่ได้เข้ามาช่วยท่านอาจารย์มากขึ้นอีกก็คือองค์ปู่ฤาษีพรหมจินดามณี ซึ่งเท่าที่ทราบข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง ทราบมาว่าท่านมีบารมีที่ยิ่งใหญ่ไม่ต่างกับองค์ปู่ฤาษีองค์อื่น ๆ โดยเฉพาะเป็นที่เคารพกราบไหว้จากลูกหลานเหล่าพญานาคทั้งหลายจะรู้จักท่านดีเป็นอย่างมาก

 

คืนนี้ตั้งใจว่าจะถ่ายรูปพระและเศียรปู่ฤาษีที่ขึ้นธาตุกายสิทธิ์มาให้ชม

 

ภาพพระบารมีโลกอุดรที่ขึ้นธาตุกายสิทธิ์

 

ตอนนี้งานที่ต้องสร้างและต้องทำเริ่มเข้ามามาก เป้าหมายของผมตอนนี้ต้องการหาทุนสร้างศาลาและพระมหาเจดีย์ที่บ้านท่านอาจารย์ให้เสร็จ เพราะจะเป็นประโยชน์แก่คนทั้งหลายอีกมาก ดังนั้นตอนนี้ต้องสร้างงานเล็ก ๆ เพื่อระดมทุนจากหลายทาง แต่การสร้างและทำบุญทั้งหลายที่ทำก็จะไม่ลืมที่จะสร้างพระถวายไว้ในศาสนาด้วย เพื่อบุญกุศลสืบต่อไปในภายภาคหน้า

 

มีเรื่องที่เป็นเรื่อง มาเล่าให้ฟัง

จากการที่ผมนำเศียรปู่ฤาษีชุดนี้มาออกให้บูชาทำบุญและหาทุนหล่อรูปหล่อลอยองค์ปู่ฤาษีพรหมจินดามณี ก็ได้ทำการแจ้งท่านอาจารย์ภายหลังจากที่ลงข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็เป็นเหตุที่ทำให้ผมปวดหัวมากเพราะทำโดยพละการ ที่สำคัญปู่ฤาษีท่านไปแสดงฤทธิ์ในฝันท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์ฝันว่า ท่านแสดงฤทธิ์ ชี้นิ้วให้ฟ้าฝ่าใส่ใครก็ไม่รู้ 7-8 ครั้ง ท่านตื่นมาก็ต้องตกใจเพราะไม่เคยฝันแบบฤทธิ์แบบนี้เลย สุดท้ายคำเฉลยมาอยู่ที่ผม นี่ขนาดบอกกล่าแค่เพียงข้ามคืนนะครับ ถ้าผมไม่คิดจะบอกท่านอาจารย์ ปู่ฤาษีท่านคงลงโทษผมเละ

 

เจ้ากรรมนายเวร ธรรมโอวาทหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง


..เจ้ากรรมนายเวร หมายถึงบาปที่เป็นอกุศล
ที่เราได้ทำไว้กับคนและสัตว์ในอดีตชาติก็ดี
...
ในชาติปัจจุบันก็ดี อย่างบางคนที่เราฆ่าเขาบ้าง
เราทำร้ายเขาบ้าง เขาอาจจะไปเกิดเป็นเทวดาหรือพรหมแล้ว
ถ้าเป็นเทวดาเขาไม่สนใจแล้ว แต่ไอ้ตัวบาปที่เราทำไว้
อย่างคนที่ไปขโมยของเขา เจ้าของเขาไม่ติดใจ
แต่ตำรวจมีหน้าที่ตามไม่ใช่อยากตาม แต่กฎหมายให้ตาม
ฉะ...นั้น กรรมหรือเวรตัวนี้คือกฎหมาย ถ้าหากปฏิบัติ
ในขั้นสุกขวิปัสสโก ก็จะบอกว่าไม่มีตัวตนเพราะไม่เคยเห็น
แต่ว่าตั้งแต่ เตวิชโชขึ้นไปเขาเห็น ดังเรื่องที่อาตมาเล่าให้ฟังประกอบเรื่องนี้

เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๗ คืนหนึ่งอาตมาเจริญพระกรรมฐานเสร็จ ก็อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร
ขณะที่อุทิศส่วนกุศลก็มายืนกันมากแต่ไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวร เป็นคนมาโมทนาบุญ
พอเขาโมทนากันเสร็จ ก็มีชายคนหนึ่งคลานเข้ามา ถือขวานเล่มใหญ่

พอเข้ามาใกล้ก็บอกว่า "ผมกับท่านหมดเรื่องกัน"
อาตมาก็ถามว่า "หมดเรื่องอะไร"
เขาก็บอกว่า "หมดเรื่องที่จะต้องติดตามจองล้างจองผลาญกัน"
ก็ถามอีกว่า "จองล้างจองผลาญฉันทำไม"
เขาก็บอกว่า "เปล่าครับ ผมไม่ได้จองล้างจองผลาญ"
ก็ถามว่า "แล้วเข้ามาทำไม"

เขาก็เลยเล่าประวัติความเป็นมาให้ฟังว่า "ในอดีตนับเป็นสิบ ๆ ชาติ ท่านกับผมรบกันมาเรื่อย"
เป็นคู่สงครามกัน ตัวเขาเก่งขวานทุกชาติ ส่วนอาตมาเก่งดาบสองมือทุกชาติ
ถ้าเวลาให้รบตัวต่อตัว ต้องเอาคู่นี้มารบกัน ถ้าคนอื่นหัวขาด พอถึงเวลากินข้าวก็บอกว่า
"พักรบก่อน กินข้าวเสร็จมารบกันใหม่" วันนั้นทั้งวันไม่มีใครเสียท่ากัน

อาตมาถามว่า "มันมีเวรกรรมอะไรกันล่ะ"
เขาบอกว่า "กฎของกรรมเขาถือว่ามี แต่เวลานี้กฎของกรรมสลายตัวแล้ว"
ก็เลยถามว่า "เวลานี้ไปเกิดที่ไหน"
เขาก็บอกว่า "ผมเป็นพรหมครับ"
ถามว่า "พรหมยังจองกรรมหรือ"
เขาตอบว่า "ผมไม่ได้จองแต่กฎของกรรมมันจอง เรื่องของกรรมหนัก ๆ ระหว่างสงครามหมดกันแค่นี้"

เราอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร เขาจะได้รับหรือไม่ได้รับก็ตาม บุญที่เราทำเป็นผลให้เกิดความสุข
ไอ้กรรมต่าง ๆ ที่เป็นอกุศลที่เราได้ทำไปแล้ว เราไปยับยั้งมันไม่ได้
แต่ทว่าถ้าเราทำกรรมดีให้มีกำลังเหนือบาป บาปต่าง ๆ ก็จะตามเราไม่ทันเหมือนกัน
เรียกได้ว่า เป็นการทำบุญหนีบาป ไม่ใช่ทำบุญล้างบาปทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ที่ไม่ทำความชั่วเลยน่ะไม่มี
ดังนั้นถ้าเราจะชดใช้บาปก็คงจะชดใช้กันไม่ไหวมีทางเดียวในกิจของพระพุทธศาสนาคือ หนีบาปด้วยการปฏิบัติดังนี้

๑) การคิดถึงคุณพระรัตนตรัยคือ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระอริยสงฆคุณ
๒) ทรงศีล ๕ ให้บริสุทธิ์
๓) มีพรหมวิหาร ๔ ให้ครบถ้วน
๔) มีอิทธิบาท ๔ ทรงตัว
๕) มีการภาวนาให้จิตทรงตัว
๖) พยายามรวบรวมบารมี ๑๐ ประการให้มีในจิตให้ครบถ้วน
๗) พยายามตัดสังโยชน์ ๑๐ ประการให้หมด
๘) จรณะ ๑๕ ปฏิบัติให้ครบถ้วน

เมื่อมีการทรงตัวดังกล่าวมาแล้วนี้ได้ทั้งหมด ก็เป็นอันว่าไม่ต้องเกิดกันอีกต่อไป
นั่นคือตายเมื่อใดก็ไปพระนิพพานอันเป็นแดนที่มีความสุขที่สุด.."

 

กรรมและกฎของกรรมมันละเอียดอ่อนเกินกว่าที่จะคิดและเข้าใจได้ง่าย ๆ แม้บางคนเห็นภาพนิมิตก็ยังแยกได้ยากระหว่างกรรมและผลของกรรม ซึ่งนอกจากตัวเราแล้วการที่เป็นครอบครัวยังต้องแบกรับแบกสู้กรรมและผลของกรรมในครอบครัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ภรรยา ลูก น้อง สิ่งที่จะช่วยให้คลายจากกรรมและผลของกรรมได้ผลเร็วขึ้นคือการปฏิบัติให้ได้ผลของศีลอริยมรรค ซึ่งเมื่อปฏิบัติจะได้กำลังบุญสูงมาก ซึ่งเข้าในลักษณะที่พูดกันติดปากว่า ทำบุญหนีกรรม

 

ตอนนี้มุ่งแต่จะสร้างศาลา และพระเจดีย์ที่สวนของท่านอาจารย์ที่พังงาให้เสร็จ เลยไม่ค่อยได้เข้ามาลงข้อมูล