อยากสอบถามเรื่องความรู้สึกที่มีวิญญาณติดตามค่ะ

อาการพลังเกินที่พี่ประสพอยู่ พี่จะเป็นคนไวต่อพลัง ไหว้พระไหว้เทพหรือกระทั่งเดินผ่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆท่านก็จะให้พลัง ทำให้เราได้พลังมากเกินไป เคยไปกราบหลวงพ่อโสธรก็ได้รับพลังจากท่านกลับมาก็ป่วยนาน 2 เดือน อาการจะมีร้อนแสบๆตามรอบสะดือ บ่า ไหล่ ต้นคอ กลางกระหม่อม บางครั้งก็จะร้อนแสบเหมือนโดนพริกตามแขนและขา แสบกลางฝ่ามือฝ่าเท้า คันตามฝ่ามือตามข้อนิ้ว บางครั้งจะมีเหมือนประจุไฟฟ้าช็อดตามแขนขา และมีประจุไฟฟ้าวิ่งไปจากบ่าซ้ายไปบ่าขวากลับไปกลับมาเหมือนเราเป็นอุปกรณ์อิเล็คโทรนิค ถ้ารับพลังมากไปพลังจะหมุนวนจากท้องขึ้นหัวทำให้เวียนหัวมากและอาเจียร พลังนี้จะหมุนวนแบบทอร์นาโด บางครั้งจะขึ้นไปตุงกลางกระหม่อมเป็นก้อนเหมือนก้อนหินก้อนใหญ่ ซึ่งเพื่อนที่มีความรู้ด้านลมปราณมาลองจับพลังก็ตกใจเพราะไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อน
บางครั้งปวดกระดูกแทบจะแตกเป็นเสี่ยง ปากลิ้นเหงือกบวมพองเป็นอาการพลังเกิน บางครั้งหนาวสั่นแบบที่น้องเป็นเย็นยะเยือกเข้าไปในกระดูกก็มี ตอนนี้รู้แต่ว่ารับพลังใหม่ไม่ได้ ส่วนอาการต่างๆที่เกิดแตกต่างกันคาดว่าน่าจะมาจากพลังต่างระดับที่รับมา ซึ่งแน่นอนจะมีทั้งพลังร้อนและพลังเย็น ส่วนเหตุผลว่าเป็นอะไรกันแน่ก็ยังหาคำตอบจากผู้รู้ยังไม่ได้

 

มีอีกอย่างหนึ่งที่คนไม่ค่อยจะได้รู้จักกันก็คือ มีคนที่มีวิชาสามารถมาดูดพลังจากเราได้ทำให้เราอ่อนแอ แต่ก็มีอีกกรณีที่แปลกออกไปเช่นหลานสาวมีท่อดูดพลังจากชาวศิวิไลซ์ต่างดาว เลือดเหลือเพียง 20% ส่งตัวเข้าโรงพยาบาลต้องหาเลือดเติมด่วนก่อนช็อค แต่พอดีก็ได้ไปหาหมอแขกดูให้ก็พาไปรักษาทัน หมอแขกบอกว่ามีคนโดนในปัจจุบันมาก ซึ่งเขาเองก็มีคนไข้ตอนนั้น 5 คน แต่ต่อมาเราก็พาเพื่อนไปหาอีก 2 คนซึ่งทั้งสองคนก็โดนเช่นกัน

 

บางทีหนูก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ถ้าหนูตอบ หรือ อ่าน หรือถามคำถามผิดพลาด เพราะไม่เข้าใจจริงๆค่ะ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร มันบอกไม่ถูกค่ะ


ตอนนี้ความรู้สึกที่ว่าชาๆ เย็นๆ ในกระดูกก็เป็นอยู่ทั้งๆ ที่วันนี้หยุดอยู่บ้านไม่ได้อยู่ในห้องแอร์ รู้สึกเนือยๆ เหมือนจะต้องบิดขี้เกียจ แต่ก็ไม่หายค่ะ ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี แต่มันเมื่อยๆ อย่างไรก็รู้

 

แบบของคุณดวงเดือนโอ เด่วถือว่าเล่าให้ฟังเล่นๆ ขำๆ ยังไงๆลองฟังไว้ก่อนนะครับ..กิริยาทุกอย่างที่เกิดกับร่าง
กายที่พูดมานั้นถูกต้องแล้วครับ..เค้าเรียกว่า การปรับธุาตส่วนหนึ่ง และรับกระแสพลัง
อีกส่วนหนึ่งหลักๆจริง ณ ตอนนี้ก็เพื่อรักษาตัวเอง ลองสังเกตุดูได้ช่วงที่คล้ายมีประจุไฟฟ้าเป็นแผ่นๆ

มันจะสามารถค่อยๆวิ่งได้ ถ้าเรากำหนดนะและถ้าผ่านร่างกายไปช่วงไหนได้เร็ว
แสดงว่าช่วงนั้นไม่มีปัญหาถ้าอยู่ดีวิ่งมาและไม่ยอมผ่านตรงจุด
นั้นแสดงว่ากำลังรักษาตรงจุดนั้นอยู่ด้วยการปรับธุาตทั้งสี่ให้สมดุลย์

และพลังงานความร้อนใช้สำหรับรักษาโรค
และปราบวิญญาน พลังงานเย็นใช้สำหรับเสริมเรื่องสมาธิ.และทำให้จิตใจสงบ..
อาการที่คล้ายๆหมุนๆติ้วๆตามจุดต่างๆที่เป็นจักระ
คือการเปิดรับพลังงานธรรมชาติโดยอัตโนมัตินะจุดนั้น
จะคล้ายๆว่าหมุนได้.ถ้าเวลาใดตำแหน่งนั้นมันร้อนแสดงว่า
กำลังมีการรับกระแสเพื่อปรับธุาตและหนุนกำลังให้เรา
ถ้าตำแหน่งไหนเย็น แสดงว่าเป็นการรับกระแสของเก่า
ที่เราเคยทำมาในอดีตที่ครูบาร์อาจารย์ท่านกำลังส่งให้
แต่ถ้าจะให้รู้สึกว่าธรรมดาและได้ผลดีต้องเปิดจุดสำคัญที่สุดคือกลางกะหม่อมให้ได้ด้วย
ตัวเองก่อน.เป็นจุดแรกแล้วค่อยมาตามเปิดจุดที่เคยมีลมไปหมุนติ้วๆค้างๆที่เหลือ
โดยไล่ลงมาจากศรีษตามลำดับ..ถึงจะไม่มีอาการที่รู้สึกปวดหัวและอาเจียน
แล้วซักพักก็หาย หรือปวดกระดูก เพราะกำลังสมาธิสะสมยังไม่เพียงพอ
และไม่มีการปรับสมดุลผ่านจักระจุดต่างๆโดยอัตโนมัติเนื่องจากยังเปิดไม่ครบ
และต่อไปถ้าเปิดครบจะรู้สึกร้อนๆ เป็นจุดๆ ซึ่งถือว่าเป็นธรรมดาให้ใช้การภาวนา พุทธ โธ
จะทำให้ร่างกายกับเป็นปกติ.

และถ้าปกติรักษาอารมย์ระหว่างวันให้ถึงระดับฌาน ๑ คือ
ประมาณว่าอารมย์จากภายนอกมากระทบเราไม่ได้ จะไม่เป็นไร
กับอีกอย่างหนึ่งที่กระดูกเย็นๆทั้งตัวรวมกับตัวร้อนผ่าวๆอาจมีคนส่งสิ่งไม่ดีมาแกล้ง.
หรือไม่ก็ไปอยู่ใกล้คนที่ไปทำของมา หรือ ไปใกล้สถานที่่ไม่ดี..
ก็จะมีอาการปวดหัว ตัวร้อน ร่วมกับขนลุก.แต่เป็นไม่นานก็หาย
.บางครั้งถ้าเลอออกมาจะหายเลย
เป็นสัญญานเตือน และสิ่งไม่ดีจะทำอะไรเราไม่ได้
เพียงแต่สร้างความรำคาญ..ถ้ากรณีคุณ จริงๆคุณก็รับพลังได้เอง
อยู่แล้วเป็นธรรมชาติ แม้เทพไม่ส่งก็สามารถดูดมาได้เอง..
แค่คุยโทรศัพท์เฉยๆยังดึงได้เลย..แต่จะเป็นพลังงานร้อน กับเย็น.
ที่รู้สึกว่ารับไม่ได้อีก เนื่องจากพลังงานที่มีในตัวนั้น..
ใช้เพื่อรักษาตัวเองได้ดี ยิ่งช่วงที่จิตเป็น
ทิพย์ คิดว่าน่าจะเข้าใจนะครับ..แต่ถ้าจะรับได้อีก.
ต้องเอาพลังงานพวกนี้ไปหนุนเพื่อการรักษาคนอื่นๆในอนาคต.
ซึ่งจะทำไม่ทำก็ได้ ถ้าจะทำต้องฝึกกสิณให้ได้อีก ๔ กองคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ แล้วใช้
กสิณลม หนุนธาตุขึ้นมาให้หมุนๆเป็นลมให้ได้ก่อน และรู้จักการดูดพิษ และอัดธาตุกลับเข้าไปเพื่อรักษา..
ถ้าทำอย่างนี้ จะสามารถรับพลังงานเพิ่มได้เรื่อยๆทุกวันโดยที่
ไม่เป็นอะไร..ตอนนี้ข้อดีคือ รักษาตัวเองได้.ดึงพลังงานจากคนที่รับพลังงานร้อนเย็นคนอื่นๆได้..
สิ่งไม่ดีทำอะไรไม่ได้ แต่สร้างความรำคาญได้
เช่น ปวดหัว อาการคล้ายอาเจียน ขนลุก อาจเลอบ้างแล้วหาย
แต่ยังไม่มีเครื่องมือป้องกันตัวเองจากพวกวิญญานมีฤิทธิ์.
ส่วนที่ดูดพลังงานที่เข้าใจคือ เป็นการตัดฐานกำลังสมาธิเลยทำให้
คนที่โดนตัดรู้สึกไม่มีแรง.ถ้ามีธาตุทองในร่างกายจะไม่เป็นไรหรือ
สายใยทิพย์ที่เป็นตาข่ายแต่ละคนสีแตกต่างกันไป
.ถ้ารับพลังงานแบบคุณไม่ถือว่าดูดมาเพราะเคยเป็นของเรามาก่อนในอดีตชาติ.
เพียงแต่ตอนนี้ไม่ทราบว่าทะลวงกลางกระหม่อมให้เดินสดวกหรือยัง
ถ้าเปิดได้จะโล่งส่วนบนศีรษะลงมาถึงหางเต่า...
รวมกับเปิดทุกจุดที่เคยมีพลังงานลมไปหมุนๆครบหรือยัง ถ้าดูดพลังงานจะเป็นการ
ดูดพลังงานในส่วนไม่ดี. และอัดกลับพลังงานในส่วนที่ดี
..บางคนเรียกว่า วิชานะปัดตลอด.
ส่วนคุณ everlastinglovesong ไม่ต้องซีเรียสทุกคนเป็นได้ครับ...
และทั้งหมดที่เล่าให้ฟังมา ขำๆนะครับ คริ คริ ​

 

จากที่คุณ nopphakan กล่าวมาข้างต้นถูกต้องหมด พลังที่ได้มาเป็นพลังใช้รักษาโรคเป็นของเก่า ตอนนี้อาจารย์ได้เปิดให้แล้วตอนแรกมีสิ่งที่มาขวางมากมาย การรักษาปัดเป่าเพื่อเปิดแต่ละครั้งใช้เวลานานจาก1-6ชั่วโมง เรอตลอดเวลาจนแทบจะเป็นลม ปัสสาวะเป็นเลือดและมีอาการมากมาย วิชาที่จะได้มี 8 วิชา ตอนนี้ได้มาแล้ว 1 วิชาคือรักษาเบาหวาน ยังรอเวลาที่จะเรียกอีก 7 วิชาให้ขึ้นมา สัมผัสพิเศษนั้นมีมาแต่เกิด ไม่ว่าไปที่ไหนก็จะมีคนทักเสมอว่าแบกเจ้ามาเกิด แต่กำลังพัฒนาเพื่อมาช่วยเหลือคน คิดว่าอีกไม่นาน เพราะปู่โตท่านให้มาช่วยคนได้แล้วตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อนแต่ตนเองยังไม่พร้อม สำหรับเรื่องพลังก็ได้ศึกษามาหลายศาสตร์ ทั้งวิชาลมปราณรักษาโรค เรกิ และอื่นๆค่ะ ตอนนี้ก็ปฏิบัติสมาธิมากขึ้นเพื่อให้การเดินพลังนั้นคงที่ ตั้งใจจะศึกษาครูสอนสมาธิของพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ในเดือนสิงหาคมเพื่อจะเปิดสอนสมาธิต่อไปในอนาคต

 

เป็นดูดมั่ว ดูดทุกอย่างรอบตัวตลอดเวลา
เวลาไฟฟ้าวิ่งให้เอาตูดถ่ายไฟฉายแปะที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง

ถ้าแสบร้อนหรือมีตุง ๆ ให้นั่งเหยียดขาหันหน้าไปทิศตะวันตก
พยายามขับพวกนั้นออกทางฝ่าเท้าหรือทางหู ค่อย ๆ ฝึกบังคับมัน
ถ้ามีมีดหมอก็ใช้ทุ่นแรงได้

ส่วนที่เย็น ร้อน หนาวในกระดูก ไม่เป็นไร ปล่อยไปเถอะ

 

พลังที่ได้รับเป็นพลังที่ดีทั้งหมด ไม่มีพลังที่ไม่ดีสามารถเข้ามาได้ เหลือแต่นำมาพัฒนาใช้ประโยชน์ให้ได้เท่านั้น

 

น่าสนใจ.โชคดีนะเจอ อาจารย์เปิดจุดให้..ถามหน่อยซิ.คุณดวงเดือนโอตอนรักษาคนอื่นต้องถูกตัวด้วยไหมหรือไม่ต้องถูกตัว..
.หรือขึ้นอยู่กับโรคที่ทำการรักษา.และเท่าที่อ่านดูการไล่พิษ
ของวิธี คุณ samnido ออกจากตัวคนอื่นหลักการนะ ok แล้ว
และเรื่องเกี่ยวกับร้อน เย็นที่กระดูกปล่อยไปก็ ถูกแล้ว
.และของคุณ ดวงเดือนโอ รักษาตัวเองต้องใช้อารมย์อุปจารสมาธิร่วมด้วยเปล่า.
ส่วน ๑-๖ ชม.คือช่วงที่อาจารย์ช่วยเปิดจุดให้ หรือเป็นระยะเวลาที่รักษาคนอื่น​

 

อาจารย์ท่านสุดท้ายนี้เป็นหมอแขก ท่านจะแตะหลังเบาๆ เราก็นั่งสมาธิปกติ เราก็จะนั่งดูด้วยจิตว่าใครจะมารักษาให้ ปรากฏว่าเห็นมีอาจารย์อิสลามมา 3 ท่านและเห็นท่านพุทธทาสยืนกำกับการรักษาอยู่ด้วย ระหว่างการรักษาพลังออกทั้งปลายนิ้วมือนิ้วเท้าและทวารต่างๆรวมสะดือด้วย ในเวลาปกติที่ว่าได้รับพลังเกินมานั้นก็จะมีอาการหายใจไม่สะดวกเพราะมาจุกที่อกและหลัง ในระหว่างการให้อาจารย์รักษาให้นั้นจะเรออาเจียรเป็นลมตลอด 6 ชั่วโมง คิดดูค่ะแค่อาเจียรไม่กี่ครั้งก็เหนื่อยแล้ว แต่ถ้าต้องเรอและอาเจียรเป็นลมเหมือนจะออกจากก้นบึ้งของกระเพาะลำไส้ตลอด6ชั่วโมงจะขนาดไหน บางครั้งในการรักษาก็จะมีหลวงพ่ออุตตมะและปู่โตมาด้วย และก็จะมีทั้งฤาษี พระศิวะ พระพิฆเนศวรและพระแม่อุมา มาช่วยในด้านการรักษาและสมาธิด้วย อธิบายมากคนจะไม่เข้าใจ ไม่ได้อุปทานค่ะ แต่ทุกอย่างที่พูดมานี้ได้ประสพและเรียนรู้มากับตนเอง จะนำมาพยายามอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้บ้างง่ายๆ แต่พูดลึกมากไม่ได้ คุณเป็นคนหนึ่งที่มีความรู้และประสพการณ์มามากเชื่อมั่นว่าคุณจะเข้าใจในสิ่งที่ดิฉันพูดมาทั้งหมดหรือคุณอาจจะสัมผัสมันได้ด้วยซ้ำไป ถูกหรือเปล่าคะ แต่ตัวเองนั้นศึกษาและเรียนมาหลายศาสตร์ และตัวเองก็มีครูบาอาจารย์มากทั้งพระเกจิ เทพทั้งไทยจีนฮินดู ฤาษีก็มีปู่ฤาษีตาไฟเป็นหลักและฤาษีตนอื่นๆอีก และมีสัมผัสพิเศษกับพระแม่จามเทวีกับพญานาค และที่เคารพนับถือเพราะท่านคุ้มครองอยู่และคอยเตือนภัยให้ก็คือปู่พญายมและท่านท้าวเวสสุวรรณ และก็เริ่มปฏิบัติธรรมตั้งแต่ยังเป็นเด็กมาเกือบ 45ปีแล้ว จิตใจมุ่งมั่นที่จะช่วยคนแม้เพียงน้อยนิดเช่นคำแนะนำก็ช่วยตลอด และก็เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ดีๆที่เราทำในตอนนี้และในอนาคตจะเป็นประโยชน์ต่อคนหมู่มากในอนาคต นี่ก็พยายามศึกษาและลองมาหลายอย่างหลายศาสตร์จนรู้ว่าอะไรเหมาะและใช่สำหรับตัวเอง จุดยืนของตัวเองชัดเจน อนาคตอยากเปิดสถานปฏิบัติธรรมค่ะ
สำหรับการรักษาคนอื่นนั้นเพิ่งได้วิชามาเป็นศาสตร์ของพราหมณ์สายโบราณท่านอาจารย์บอกว่าเป็นของเก่าด้วยและถูกถ่ายทอดวิชามาจากบรรพบุรุษตั้งแต่สมัยโบราณด้วย ต้องให้แน่ใจว่าได้ผลก่อนจึงจะรักษาคนทั่วไป แต่การรักษาก็ต้องใช้สมาธิจิตที่นิ่งและต้องใช้มือแตะที่หลังคนไข้ที่นั่งหันหลังให้อยู่ตรงหน้าแล้วปล่อยพลังรักษาผ่านฝ่ามือออกไปค่ะ คล้ายๆศาสตร์อื่นเช่นพลังลมปราณรักษาโรค แต่ศาสตร์ลมปราณนี้จะล้วงควักเอาโรคออกแล้วปาดทิ้ง เมื่อก่อนรักษาช่วยคนด้วยพลังลมปราณแต่ยังไม่รู้วิธีป้องกันตนเอง หลังการรักษาเราก็มีอาการป่วยเช่นเดียวกับคนไข้ แต่ตอนนี้ก็โอเคแล้วค่ะ ค่อยเป็นค่อยไปค่ะ ยังไม่เก่งก็ยังไม่เปิดตัวช่วยใครค่ะ

 

ขอบคุณครับ.. _/\_

พอเข้าใจ ..และขอเป็นกำลังใจให้ครับ.(kiss)
.ขอให้ถึงจุดที่ตั้งเป้าไว้ในเร็วๆนี้ครับ.(f)

ตั้งปลายทางเพื่อใช้ในทางธรรม..เรื่องความสามารถพิเศษต่างๆ
เพิ่มเติม.จุดนี้ต้องพยายามนึกให้ออกเอง.
เพื่อเป็นส่วนเสริมในการใช้งานในทางธรรม..เพื่อประโยชน์สูงสุด..

เวลาขอให้ท่านช่วย.บอกว่าต้องการตรงจุดนั้นจุดนี้.
ท่านจะช่วยเปิด.และสอนให้.ขึ้นอยู่กับเราว่าจะตั้งใจฝึกแค่ไหน.
ถ้าตั้งใจมากก็จะทำได้เร็ว..ส่วนทางนั้นพร้อมช่วยทุกวินาทีเป็นปกติ.

ของคุณกำลังหนุนส่วนสมาธินอกจากพลังงานเย็น..
ถ้าให้ใช้งานได้ดีขึ้นและแน่นขึ้นป้องกันผลกระทบต่างๆที่จะเกิด
เป็นกิริยาต่างๆกับร่างกายตัวเองได้ดีขึ้น....ดูปิรามิดที่มี
ดวงตาแห่ง Ra ให้เข้าใจหลักการที่จะมาหนุนกำลังตรงนี้นะครับ
ถือว่าเล่าสู่กันฟัง ขำๆ นะครับ.คริ คริ
ขอบคุณครับ..