ภาษาเทพ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Karnta, 27 มิถุนายน 2013.

  1. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    มนุษย์เรา มีสัตว์เลี้ยงมากมาย
    เมื่อเลี้ยงสุนัข ก็พูดกับสุนัข เมื่อเลี้ยงวัวควาย ก็พูดกับวัวควาย พูดกับนก พูดกับปลา พูดกับแมว พูดกับกิ้งก่า พูดกับ สัตว์เลี้ยงที่ตนเลี้ยง
    จะเห็นว่า ถ้าใครเลี้ยงสัตว?นั้นมาตั้งแต่มันเกิด มันก็จะมีความผูกพันทางจิจหรือทางใจ สื่อสารกันเข้าใจกันได้ดีกว่า การที่นำตัวที่โตแล้วมาเลี้ยง นอกจาก ตัวที่โตแล้ว ผ่านการฝึกฝนมาดีแล้ว

    ดังนั้น ภาษา ที่เกิดจากความคิด ที่ต้องการจะสื่อสารกันนั้น มันไม่มีขอบเขต หรอกครับ มันมีแต่ การที่อยากจะสื่อสารความในใจของตนให้อีกฝ่ายได้รับรู้และเข้าใจ เท่านั้นเอง เช่น ภาษาตา ภาษามือ ภาษาปาก ภาษากาย ซึ่ง รวมทั้ง ภาษาใจ ด้วย

    ดังนั้น ภาษาเทพ จึงไม่ไช่เรื่องแปลกอะไร ก็แค่ เทพเรียกภาษาที่ตนเองใช้ว่า ภาษาแห่งเทพ ส่วน โจร ก็มีภาษาแห่งโจร เหมือนกัน ไม่เห็นแปลก

    ความดี คนดี ทำดี พูดดี คิดดี ต่างหาก คือสาระที่ ควร คำนึง
     
  2. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    ทีนี้ จะอธิบาย ถึง ว่า เมื่อภาษา มันสามารถ บ่งบอกถึงระดับ จิตได้
    คนก็เช่นกัน การใช้ชีวิต การพูด การคิด การกระทำ ก็เป็นตัวบ่งบอก คุณความดี ความเป็นคนดี ได้เช่นกัน ดังนั้น การพูด กักขระ สถุล ไม่เพราะ ก็บ่งบอกความเป็น คนดี บ่งบอกระดับจิต ในตัวคน ว่าเป็นคนต่ำสูง ระดับไหน ภาษาเทพก็มีหลายระดับ ภาษานาค ครุฑ ยักษ์ วิญญาณระดับต่างๆ ผี เทวดา พรหม ซึ่งภาษาเหล่านี้ เองคือ ตัวบ่งบอกระดับคุณความดี ที่เขาเป็น อยู่ในแต่ละภพภูมินั้นๆ มันคือ สมมุติที่บ่งบอกความเป็น ตัวเขาออกมา ดังนั้น ภาษาเทพ จริงๆ คนที่จะพูดได้ ก็จะต้องสื่อยกระดับจิตตนเอง ด้วยใจ ก็คือ เอาจิตใจสื่อหรือยกความดีความสงบในตน ให้ เข้าถึง ความดีความสงบ ระดับเทพนั้นให้ได้
    ถึงจะสามารถ พูดได้ สื่อสารกันได้

    ก็เหมือน คนจน ที่ต้องการคุยกันเศรษฐี ก็ต้อง ยกระดับตนเองคือ แต่งตัวให้สะอาดเรียบร้อย มีกิริยามารยาท ที่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สมควร พูดคุยกับเศรษฐี นั้น ถึงจะได้ พูดคุยกันรู้เรื่อง นั่นเอง ไม่ไช่ สกปรกมอมแมม ไม่มีมารยาท ไม่มีสัมมาคารวะ มันก็ คุยกันรู้เรื่องได้ยาก หรือจะให้เศรษฐี ลดระดับตัวเอง ลงมาคุยกับ คนจนคนสกปรก ก็ ทำได้ แต่ มันเป็นการ ลดระดับเศรษฐี ลงมา ไม่ได้ช่วยยกระดับ คนจนคนสกปรกให้ดีขึ้นเลย

    ดังนั้นภาษาเทพที่คนต้องการ พูดเป็นนั้น ก็คือ การยกระดับจิตของคนที่ต้องการให้ สะอาดขึ้น สงบขึ้น ดีขี้น เพื่อ เข้าสู่ระดับจิตสังคมเทพ นั่นเอง กระทำดีแบบเทพ เป็นแบบเทพ นั่นเอง
     
  3. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    จะเห็นว่า เทพอยู่สูง มารบางพวกก็อยู่สูง เพราะ จำพวกนี้ ไม่ได้แบ่งว่า เขาดีแล้ว ดีพอ หรือไม่อย่างไร เพราะ ที่ดีที่สุด คือ ความเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐ ดังที่พุทธองค์ ได้ทรงกระทำ แสดง เปิดเอาไว้ แล้วนั่นเอง มารเทพ ของคู่กัน นรกสวรรค์ ดีชั่วของคู่กัน รักโกรธ ของคู่กัน
    ซึ่งสมมุติคู่วิมุติ ของเหล่านี้ เป็นสมมุติคู่ ที่ ต้องเรียนรู้ และเข้าใจ และ หมดสงสัย กับมันให้ได้ จะได้ หมด หลง เมื่อไม่หลงในสมมุติและวิมุติ จึงจะเหลือความจริงคือ รูปนาม ความเป็นมนุษย์ นั่นเอง
     
  4. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    คนเรา ทำบุญ สร้างบุญ ก็เพราะ อยากเกิดเป็น เทวดา เทพ พรหม อินทร์ บนสวรรค์
    หรือบางคนปฏิบัติ เพื่อให้เห็น นิพพาน สุขาวดี พระพุทธเจ้า พระเจ้า มะนาวต่างดุ๊ด ภพภูมิต่างๆ
    การที่ ทุกวันนี้ มีการ เปิดจิต หรือ เกิดดวงธรรม หรือ เปิดกรรม หรือ เปิดจักระ ก็ล่วนเป็นการ เรียนรู้ที่รวดเร็ว เรียนลัด กันนั่นเอง โดยไม่ต้อง รอให้ตายก่อน ถึงจะไปเป็น เทวดา เทพ บนสวรรค์ ทุกวันนี้ ก็เลย มีกันแบบนี้ นั่นเพราะ ทุกคน ล้วนสงสัย ในเรื่อง ภพภูมิเหล่านี้ ว่า มีจริงหรือไม่ บางคนเชื่อแต่ยังไม่เคยสัมผัส หรือเห็นด้วยตา ก็จะ ค้างคาใจอยู่
    บางคนเห็นจากนิมิตรในสมาธิ บางคนเห็นจากนิมิตรในฝันที่ครูอาจารย์ เทพ เขา พาไป ดู ไปเห็น และ บางคน ก็ เปิด จิต เปิดจักระ กัน เหมือนทุกวันนี้ ที่ครูอาจารย์นำพาจิต ลูกศิษย์ ไปเพื่อเห็นนั่นเห็นนี่ นี่คือ ทำเพื่อให้ หมดความอยาก ความสงสัย ลงได้ แต่บางคน กลับ เพิ่มความอยากความสงสัยแห่งตนเข้าไปอีก นั่นก็ขึ้นอยู่ กับ กรรม ที่เขา มีและส่งผล นั่นเอง
     
  5. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    การเกิดดวงธรรม จาก สวรรค์ เป็น อีกแบบหนึ่ง ที่ เขาได้ทำกัน
    คือ เอาจิตเทพนั้น มา สัมผัส ร่างกับคนดี จิตดี จิตที่มีปัญญา แล้วปฏิบัติธรรม เพื่อ สอนกันและกัน นำพากันและกัน สร้างบุญกุศล เพื่อสะสมบารมีความดี เพื่อให้ เกิดปัญญา เพิ่มระดับปัญญาหรือเพิ่มความสว่าง เพิ่มระดับจิตใจ ให้ เกิดปัญญาสูงกว่าเดิม ยกระดับจิตให่สูงกว่าเดิม หรือ เพื่อรักษา สภาวะจิต ให้ ดีอยู่ มีพลังดี เพิ่มอีก นี่ล้วนเป็น กุศโลบาย ของการ ทำให้ คนเป็นคนดี ได้เร็ว ขึ้น
    แต่ ก็มี พวกไม่ดี บางพวก ที่เลียนแบบ และ เป็น ธรรมดา ของคู่กัน ดังนั้น กรรมของมนุษย์ของแต่ละคนต่างหาก ที่นำพาตัวเขา ไป ว่า เขาจะได้พบกับ อะไร จริงหรือ ไม่จริง
    กรรมเป็นผู้แจกแจงและพาไป ดังนั้น จึงสรุป ไม่ได้หรอกว่า ดีทั้งหมด ชั่วทั้งหมด
    เพราะทั้งหมด มันก็ขึ้นอยู่ว่า ตัวเรา ตัวเขา สร้างกรรมมาอย่างไร ก็จะโดน อย่างนั้น
    ดังนั้น การรักษาตนเอง ให้พ้นจาก อกุศล ความมืด ความชั่วทั้งปวง ล้วนเป็น บทเรียน ที่ต้อง เปิดใจให้กว้าง มันจะเป็น ผลดี แก่เราให้เราได้เรียนรู้ ตามกรรม ที่เรา ได้ทำมา

    มันจะ ต้อง ชดใช้กรรมเก่า หรือได้ใช้บุญกุศลใหม่ อย่างไร ก็ ต้อง เป็นไปตามความจริง ตามกรรมที่เราได้เคยสร้างได้เคยทำมา ที่ต้องผ่าน มันไปให้ได้
     
  6. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    การกระทำแบบนี้ ก็เพื่อ ยกระดับจิตใจตนเอง เพิ่มปัญญาให้ ตนเองได้ หลุดพ้น จาก ระดับ หรือ สมมุติที่ ตนเองใช้เป็นเครื่องหล่อเลี้ยง ภพภูมินั้นเพื่อการ พ้นจากสมมุติเดิม ภพภูมิเดิม เหมือน เรียน กศน นั่นแหล่ะ ได้ปริญญาโดยไม่ต้องไปเรียน หรือ เป็นนักศึกษา แต่ เป็นนักศึกษาด้วยจิตใจ ไม่ได้ ต้องไปแต่งตัวเป็นนักศึกษา ด้วยรูปธรรม แต่เป็นนักศึกษาด้วย นามธรรม การยกระดับจิตใจ เรียนภาษาเทฑ ก็เหมือนกัน เป้นการบวชภายใน ศึกษาใจจิต โดยตรง เรียนการเป็นคนดี ระดับเทพ เรียนวิชาเทฑ เพื่อยกระดับนามธรรมหรือ จิตใจ ตนเองให้สูงขึ้น สูงขึ้น เป็น เทพ เป็นพรหม เป็นพระอรหันต์ เป็น อะไรต่างๆ จน เข้าถึง พระนิพพาน แต่ทั้งนั้นทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับ ระดับปัญญาของ ตัวมนุษย์เอง ว่าเขาคนนั้น เป็นคนยังไง อยู่ยังไง คิดยังไง เป็นคนดี หรือไม่ ด้วย ความก้าวหน้า จึงจะเกิดผลเร็ว
    บางคน ยอมรับ บางคนไม่ยอมรับ บางคนเข้าใจ บางคนไม่เข้าใจ ซึ่ง นี่ก็จะเกิดปัญหา หรือเกิดปัญญา ได้ทั้งสองแบบ
     
  7. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    แต่มีอยู่สิ่งหนึ่ง ที่ เทพเทวดา พรหม เขา ไม่มี ไม่เข้าใจ ก็คือ ความเป็นมนุษย์โลก นั่นเอง
    เพราะถ้าเขา เข้าใจ พอใจในความเป็นมนุษย์โลก เขาก็คงไม่ต้องไปเกิด เป็น เทพ เทวดา พรหม หรอกนะครับ ดังนั้น การรวมจิตสัมผัส เพื่อ เรียนรู้ กันและกันเพื่อเพิ่มปัญญานี้ ถ้า มนุษย์เอง ไม่มีปัญญาแห่งตน ก็จะกลัวเทพ โดนเทพครอบงำ ซะมากกว่า
    แต่ถ้ามนุษย์มีความรักโลภโกรธหลงมากก็ จะเห็นแก่ตัวมากว่า ถือว่า ผิดทาง ผิดนโยบายที่ต้องการ นำมาซึ่ง การยกระดับปัญญา ในทั้งสองคน แทนที่จะยกระดับ กลับเป็นการ ลดระดับ ไป ซึ่ง ก็มีให้เห็น ทั้งยกระดับ และลดระดับ เพราะ เทพต้องการอย่างหนึ่ง เทพขาดอย่างหนึ่ง ส่วนมนุษย์ต้องการอย่างหนึ่ง ขาดอย่างหนึ่ง พากันคิดเห็น แต่ เรื่องส่วนตัวของตน ไม่พากันคิดเพื่อส่วนรวม เสียสละไม่เป็น กระทำผิด ก็ จะเข้าตนเอง
     
  8. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    เทพอยากสร้างปัญญาได้ เหมือนมนุษย์ แต่เกลียดรูปธรรมของมนุษย์ เพราะไม่เข้าใจในรูปธรรม ของความเป็นมนุษย์
    มนุษย์อยากอยู่สบายแบบเทพ แต่ระดับจิตใจ คุณธรรม ไม่พอ ก็ สร้างสมต่อไป

    ซึ่ง สิ่งเหล่านี้ ก็คือ ธรรมชาติ ที่ เรียกว่า ความไม่เข้าใจในตนเอง ไม่พอใจในตนเอง
    ของ สัตว์โลก พยายาม ค้นหา แสวงหา สิ่งที่คิดว่า ดีที่สุดที่ตนเองคิดได้ ค้นหาสัจธรรม ความจริงกันให้วุ่น ทุกภพภูมิ
     
  9. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    จะเห้นว่า ปัจจุบัน มนุษย์ ที่ มีจิตเทพ มาร่วมสร้างบุญกุศล นั้นมีมากมาย พวก ตาทิพย์ หูทิพย์ จิตทิพย์ ที่ ออกข่าวมา ก็คือเรื่อง นี้ นี่เอง
    จิตพระอรหันต์ จิตพระปัจจเจก จิตพระพุทธเจ้า จิตพระเจ้า จิตพระศรีอริยะ จิตมาร จิตสัตว์นรก จิตเทพ จิตพรหม สิ่งเหล่านี้ คือ ยุคนี้ หรือ ยุคหลังกึ่งพุทธกาล ที่ เทพเทวดา ยักษ์มาร ทั้งหลาย จะมาดูแลพระศาสนา นี่เอง ท่าจะสนุกดีนะครับ
     
  10. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    และนี่คือ สิ่งที่เรียกว่า การรวมเอา ทุกภพภูมิ มาไว้ที่โลกมนุษย์ ก็คือ การเปิดประตูนรก สวรรค์ นั่นเอง แล้ว ทีนี้ เรื่องก็มีอยู่ว่า คนเราที่ได้เคยเกิดมา หลายภพหลายชาติ เป็นญาติพี่น้องกันมามากมาย เมื่อนรก สวรรค์เปิด สู่โลกมยุษย์ สัตว์จากนรกเทพจากสวรรค์ ส่วนมาก ที่เจาะจง และ ลงมาหากันได้ ก็จะเป็น หรือเคยเป็นญาติพี่น้องกัน ดังนั้น จิตพวกนี้ จากนรก สวรรค์ ต่างดาว ภพภูมิอื่น ก็ จะ เข้ามาหาคนดีที่ปฏิบีติธรรม หรือ คนที่เป็นญาติกันมาก่อน เพื่อเข้ากัน สื่อกันได้ง่ายกว่า คนแปลกหน้า ไงครับ
    ดังนั้น ความพร้อมของสติที่ฝึกมาดีแล้วระดับหนึ่ง ของมนุษย์คนนั้น จะสามารถ รองรับ ยอมรับ ทำใจ มีปัญญาพอที่จะ ร่วมเรียนรู้ หรือไม่ อย่างไร ดังที่ว่า มันจะเกิดปัญญา หรือเกิดปัญหา กันแน่ นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2013
  11. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    ดังนั้น ความอดทน ขันติ ความสงบ สติที่ฝึกมาดีแล้ว ปัญญาที่สะสมมาแล้วระดับหนึ่ง จึงเป็นต้นทุน ที่มำคัญมาก ของแต่ละบุคคล ที่ ว่า คุณ จะสามารถ ช่วยเสริมบุญหรือปัญญา ให้กับ ญาติพี่น้องต่างภพภูมิเหล่านี้ ได้ รอดพ้นจาก ภพภูมิที่กักขังเขาอยู่ (ระดับปัญญา้เขาไม่พัฒนาขึ้น)จะพัฒนาได้ด้วย ความดีความสงบ หรือ บุญหรือปัญญาในตังมนุษย์เอง ว่า จะ สงบเพื่อ ปฏิบัติ เพื่อยกระดับตนเอง ได้หรือไม่อย่างไร
    ดังนั้น การปฏิบัติที่ถูกต้อง สถานที่ปฏิบีติที่ถูกต้อง ครูอาจารย์ผู้นำผู้สอนที่ถูกต้อง ความดีในตนเอง ความเชื่อความศรัทธาที่ถูกต้อง จึงเป็น ต้นทุนอันสำคัญ มาก ในการ นำพา เหล่า ญาติพี่น้อง ที่ตกอยู่ใน ภพภุฒิเหล่านั้น ได้ พ้น ได้ยกระดับ ได้ พัฒนาปัญญา และ พ้นจากสมมุติที่กักขังผูกมัดเขาเหล่านั้น ให้พวกเขา ออกมาได้ เพราะ ความเป็น มนุษย์ จากเรา ปัญญาเรา นั่นเอง
     
  12. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    พิมพ์ผิด สะกดผิด บ้างก็ขออภัยนะครับ
     
  13. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    ไม่ว่าภาษาใด ที่สุดแล้ว ก็มีแต่ภาษาไทยนี่เอง ที่สามารถ อธิบาย อารมณ์ ความรู้สึก ความละเอียด ได้ดีมากกว่า ทุกภาษาสมมุติ ที่มีอยู่ในโลก เป็นภาษาที่สละสลวยสวยงาม ชดช้อย อ่อนหวาน ยึดได้หดได้ สามารถอธิบาย นามธรรม ต่างๆได้ดีกว่าทุกภาษา ที่โลกมี
    ดังนั้น เหตุผลที่ทำไม ศาสนาพุทธถึงได้ มา ตกอยู่ในประเทศไทย ก็เพราะ เหตุนี้แหล่ะครับ
    พยัญชนะมากสุด สระมากสุด วรรณยุกต์มากสุด ผสม ประสม สมาสคำได้มากที่สุด เกิดคำ รูปแบบได้ มากที่สุด ภาษาอื่นอธิบายได้แค่ สามระดับคือ อดีต ปัจจุบัน อนาคต แต่ภาษาไทย สามารถอธิบายได้ ทุกระดับ อดีต ทุกระดับ ปัจจุบัน ทุกระดับ อนาคต
    ยกเว้น สภาวะที่ ไม่ต้อง ใช้ สมมุติบัญญัติ เท่านั้น แต่ ก็ เอาภาษาไทย อธิบาย ได้ ถ้า คนที่รับรู้ เขาสามารถรับรู้และเข้าใจว่า ความว่าง นิพพาน ความไม่มีอะไร ความหลุดพ้น เป็นเช่นไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2013
  14. จอกแหน

    จอกแหน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    272
    ค่าพลัง:
    +873
    เสียดายความเป็นพระ ควรจะนำธรรมมะมาสั่งสอนญาติโยม เนี้ยะอะไรไร้สาระ
    หลงทางเสียเวลานะหลวงพ่อ
     
  15. Yohanna

    Yohanna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +130
    คุณ เทวะทะตะ ......................!!!!!!?????????????????????????????????????????????????พูดไรยาวจัง -.-
     
  16. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297

    .. 55555555 ขออนุญาติฮาก่อนนะคะ เพราะฟังคลิปแต่ละอันมึนตื๊บ ... ไม่รู้เรื่องเลยงงหลายภาษาเกิน ..

    .. แต่ภาษาที่เหล่าสาวกพระคริสกาลีนะเคยพุดเคยไปฟังที่โบถ์ใหญ่มาเหมือนกันคะ มันก้แปลกดีไม่รู้เรื่องสักคำ ... แต่จากที่ศึกษา และ เคยสื่อกับของตัวเอง ไม่ใช่แบบนี้คะ ที่ได้ยินเป้นภาษาไทย หรือเพราะว่าบารมีกาลีนะมีน้อยเลยฟังไม่เข้าใจก็เป็นได้ .. เคยโดนลองภูมิหลายครั้งแหละไม่รู้เรื่องสักครั้งเดียว .. แต่เคยพุดภาษาแปลก ๆ แบบนี้ไหม๊ก็เคยคะ พุดเล่น ๆ กับตัวเองฝึกลิ้นตนเองเฉย ๆ ... แต่เห็นชาวตำหนักทรงใช้กันเยอะเหลือเกิน .. ก็เคยสงสัยว่าเทพระดับสูง ๆ ทำไมท่านพูดภาษาที่เราเข้าใจกันง่าย ๆ ไม่เป็นเหรอลำบากคนธรรมดาอย่างเราต้องมาแปลจริง ๆ ก้อยากให้ท่านเมตตาสื่อสารแบบที่คนธรรดารู้เรื่องบ้างก้ดี ...

    ... แต่พอตอนนี้ลองไปค้นข้อมุลมา .. จริง ๆ เทพท่านก็พูดจาภาษาที่เราสามารถเข้าใจได้นี้แหละคะ เพียงแต่ตัวกลางที่เป็นสื่อของเราไม่แน่นพอภาษามันเลยเพี้ยน หรือ บิดเบี้ยวไปจากที่ควรจะเป็น ความจริงภพภูมิเขา " อ่านจิต " กันเอาไม่ได้ขยับปาก แค่ระดับที่สูง ๆ จะอ่านจิตได้กว้างกว่าแต่ระดับที่ต่ำกว่าจะอ่านคนที่สูงกว่าไม่ได้แค่นั้น ...

    ... การที่เป็นร่างทรงก็มีหลายประเภท ทั้งทรง ผี อสุรกาย เทวดา ฤษี เทพ ฯ สาระพัดจะทรงกัน ท่านที่มาทรงเปรียบเหมือนตัวส่งสัญญาณ ตัวคนทรงคือเครื่องรับสัญญาณ ถ้าตัวรับสัญญาณไม่ดี หรือ คุณภาพต่ำ หรือ สภาพการใช้งานไม่ได้ ก้อาจเกิดการบิดเบี้ยวของพลังได้เช่นกัน .. อันนี้ก็คร่าว ๆ ก่อนนะคะ เพราะความรู้ยังไม่แน่นพอ .. ถือว่าฟังไว้ ขำ ๆ นะคะ อย่าถือสากันนะคะ นานาจิตตัง ... จบปิ๊ง !!
     
  17. วิปัสนะ

    วิปัสนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    601
    ค่าพลัง:
    +647
    อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะ เรื่องภาษาเทพ
    ถ้าเป็นภาษาของเทพจริง ท่านเก็บเอาไว้พูดกับพวกท่านเองมิดีกว่ารึ
    แล้วนำมาพูดมาใช้กับมนุษย์ กว่าจะเข้าใจคงจะแปลกันให้วุ่นวาย ถูกๆ ผิดๆ

    มองเทวะ ให้เป็น พลังงาน อย่ามองเป็นรูป แล้วท่านจะเข้าใจ
     

แชร์หน้านี้

Loading...