ปัญหาการมีอยู่จริงของพระผู้เป็นเจ้าในศาสนาฮินดู

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Sirius Galaxy, 19 มิถุนายน 2013.

  1. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    ไม่รู้จะเริ่มไงดี ขอเเสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมอีกหน่อย พอเป็น idea
    แต่เอาเป็นว่าโดย ส่วนตัวเเล้ว
    มีความเข้าใจว่า เทพเจ้านั้นเป็นสัตว์[จิต] ที่มีจิตใจสูงส่ง อยู่ในภพภูมิที่ดี มีผลของกรรมดีที่เคยทำไว้อยู่ ไม่ว่าด้วย กุลกรรมบท{เทวจิต} หรือ อำนาจแห่งสมาธิ[พรหมจิต]
    ปรุงแต่งเป็นกาย ตามผลและการสะสมนั้นๆ พลังอำนาจต่างๆ จะมีผลมากล้น จะเป็นโพธิสัตว์หรือไม่ใช่ ก็ตามแต่ท่านเหล่านั้นจะสะสมมาเป็นเรื่องเฉพาะตัว เพราะเปลี่ยนแปลงได้ไม่เปลี่ยนแปลงได้ ถ้าไม่เกี่ยวอะไรกับเราก็ไม่มีนัยสำคัญใดๆ
    ผู้ที่หวังพึ่งพิง ก็ ไม่ได้ผิดอะไร แต่ท่านจะช่วยได้ไม่ได้ ก็แล้วแต่ ผลกรรมของคนที่ขอและอำนาจของท่าน บางคนเรียกว่ากรรมสัมพันธ์ นั่นเป็นความประจวบเหมาะของกฎแห่งกรรม
    แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ ต้องรู้ ผลทุกอย่างเป็นไปตามเหตุ การเป็นเทพพรหม มีที่มามีที่ไปทั้งหมด สิ่งหนึ่งเกิด สิ่งหนึ่งดับ มีความเชื่อมโยงกัน
    ทีนี้ ปัญหา คือ คนที่เห็น คนที่ไปรู้ นี่หล่ะ รู้อะไร+ ปรุงแต่ง
    ยกตัวเอย่างนะครับ

    สัตว์หนึ่งอุบัติขึ้นด้วยเหตุแห่งสมาธิ มีกายละเอียดมีอายุมากมายจนอาจนับไม่ได้ มีอำนาจสร้างสรรบัลดาลสิ่งต่างๆในขอบเขตแห่งกฎเกณฑ์ตามธรรมชาติ ผมขอเรียกว่าเทวดากายพรหม

    ลำดับต่อมา มีสัตว์หนึ่งอุบัติตามมาด้วยเหตุแห่งกรรม มีกายละเอียดผมขอเรียกว่าเทวดา ก็พบ กายละเอียดท่านนั้นอยู่ก่อน แต่อายุน้อย เกิดแล้วตายหลายครั้ง ก็ยังพบท่านผู้นี้ มิตรสหายที่เกิดมามีอายุไล่เลี่ยกัน ก็ต่างพูดว่า ท่านเกิดและตาย เราเองก็เช่นกัน แต่ท่านผู้นั้นไม่ ดังนั้นท่านคือผู้เที่ยงแท้ ยิ่งใหญ่ น่านับถือเราทั้งหลายขอเอาท่านเป็นที่พึ่ง
    เอาเเล้วไง เกิดความเข้าใจบางอย่างขึ้น แม้ในหมู่เทวดา
    มีเทวดาผู้หวังดีบอกเล่าความเข้าใจของตนให้แก่ผู้ทรงสมาธิ ที่ฟังถ้อยคำเทวดา
    เหล่าฤาษีที่เป็นมนุษย์ เป็นพราหมผู้ทรงศีล ก็เรียนถ้อยคำเป็นตำรา สอนสิ่งดีๆแก่มนุษย์ผู้ศรัทธาสะสมเป็นองค์ความรู้ บูชาเทพเจ้าผู้เป็นครู ไม่แปลกเลย ไม่เเปลกเลย
    แต่เทวดาก็มักจะ เรียก ฤาษีผู้ที่ทรงฌานว่า ผู้เป็นเจ้า เพราะจิตของผ้ทรงฌานนี้แล จะมาอุบัติเป็นพรหมผู้มีอายุมาก
    เทวดาทั้งหลาย เพียงถือ เอาพรหม ผู้ทรงศีลเป็นผู้สอน เหตุ เป็นที่ทำทานเพียงเท่านั้นก็อุบัติเป็นเทวดา ไม่เเปลกเลย ที่เขาจะ นับถือผู้ทรงศีลและเป็นเหตุให้เขา เกิดในภพที่ดี
    [คนที่นับถือศาสนอื่นๆ หรือไม่มีศาสนา ก็เกิดเป็นเทวดา ถ้าจิตเขามีคุณภาพและทำเหตุมากพอ]

    เหล่าพรหม เมื่อหมดกำลังเเห่งสมาธิก็ ลงมาอุบัติเป็นผู้บำเพ็ญเพียรหรือเป็นอย่างอื่นอีก ด้วยกระเเสของโลกก็ทำให้หลงลืม สิ่งต่างๆไป วัฏฏ์ในพรหมและเทวดานั้นก็ เป็นเช่นนี้เว้นแต่ มีผู้หลุดวงโคจรลงมาในภพต่ำเพราะพลาดพลั้งทำกรรมชั่ว
    มนุษย์และสัตว์อื่นก็เช่นกัน มีโอกาสเป็นทั้งเทวดาเเละพรหม แต่โอกาสของสัตว์อื่นจะน้อยกว่ามนุษย์นัก
    มนุษย์ผู้มีบารมีน้อยก็ถือเอาผู้มีบารมีมากกว่าเก่งว่าเป็นที่พึ่งเพื่อพ้นทุกข์เพื่อความสบาย เป็นเรื่องปกติ

    วันหนึ่ง มีผู้ที่ เห็นวงจรนี้จน รู้สึกว่า มันซ้ำซากจำเจ วนไปวนมา ไม่จบไม่จบไม่สิ้น
    เเม้เเต่ พรหมผู้ขึ้นชื่อว่ามีอายุนานที่สุด ก็มีอายุ อะไรหนอที่จะ ไม่มีอายุ ไม่มีเกิดไม่มีดับ
    สุดท้ายท่านนั้นก็ค้นพบ ว่า เพราะมีการก่อตัว เป็นอัตตา จึงสลายอัตตา และคืนทุกอย่างสู่ ธรรมชาติของมัน หลุดพ้นเป็นผู้หลุดพ้น แต่สิ่งทั้งหลายย่อมเกิดแต่เหตุ กว่าจะหลุดพ้นได้จวบจนวันที่หลุดพ้นนั้น ช่างละเอียดซับซ้อน เหมือนที่หลายท่านกำลังสะสมบารมีและพยายามหลุดพ้นนี่หล่ะ
    ทุกอย่างเป็นไป ของมันเช่นนั้นๆ
    เรื่องวุ่นวายก็มาเกิดเพราะมีผู้ศรัทธา แต่ปัญญาน้อย มีความเห็นคับแคบและมีความยึดติดในทิฐิของตน
    ถกเถียงวาทะของตน เพื่อผลต่างๆนั่นเอง

    จบเรื่องสมมติของผมครับ

    ผมประสบการณ์น้อย อ่านพุทธประวัติ สองสามฉบับคนละนิกาย แล้วก็พบว่านี่พระพุทธเจ้าคนเดียวกันหรือเปล่า คนเรามองต่างมุมจริงๆ 555
    ไม่ต้องเอาคนละศาสนา ในศาสนาเดียวกันแต่คนละนิกายก็ยังเห็นแตกต่าง
    ให้เราอยู่ในสถานการณ์จริง เอามาเล่าก็คงต่างกันออกไปอีก

    ส่วนศาสนา ไม่ศาสนา นั้นแล้วแต่ใครจะมองว่า ความจริงที่ตนเข้าใจเป็นอย่างไร
    เอาอะไรเป็ฯที่ตั้ง จะพึ่งใคร ถามว่า ใครถูก ใครผิด ก็คงต้องหาเกณฑ์วัด อันนี้ก็เป็นโจทย์ให้ถกเถียงแบบปรัชญาสำหรับผู้ที่เรียนตำราและเป็นนักวิเคราะห์

    แต่มาถึงจุดนี้ผู้ที่ศึกษาศาสนาและธรรมเพื่อการหลุดพ้นของตน ไม่จำเป็นต้องหาที่มาท่ีไปเเล้วมั้งครับ

    สิ่งทั้งหลายย่อมเกิดแต่เหตุทั้งสิ้น
    สาธู๊
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2013
  2. stone111

    stone111 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +32
    ศาสนาทุกศาสนา ไม่เคยสอนให้คนโกหกกันทั้งนั้น เอาอะไรมาพูดเนี้ย.

    จริงหรือที่ท่านคิดเยี่ยงนี้
    ลองกับไปทบทวนดูใหม่ ว่ามีเหตุการณ์ใดบ้างที่แสดงให้เห็นว่าเหล่าสาวก
    มารวมตัวกันนับร้อยนับพันคนนับหมื่นคน

    พูดผิดหรือเปล่า คนที่เห็นธรรมและถึงธรรมแล้ว เขาไม่ยึดต่างหาก
    แต่เขาจะเฝ้ากลางไว้นั้นสำคัญยิ่งกว่า

    แน๊ะ อุตสาห์ยังไปกระทบกระเทียบอีก มันเรื่องของเขา มันต่างกันมากนะหรือ
    ให้ดูที่เจตนารมณ์

    คนอินเดีย บาปด้วยหรือที่ต้อง ฆ่าวัว ควาย เพื่อแสดงการขอบคุณพระเจ้า
    คนจีน บาปด้วยหรือที่ต้อง ฆ่าวัว ควาย หมู เห็ด เป็ด ไก่ เพื่อกราบไหว้ฟ้าดิน
    คนไทย บาปด้วยหรือที่ต้อง ฆ่าวัว ควาย หมู เห็ด เป็ด ไก่ เพื่อกราบไหว้และถวายให้แด่พระพุทธ และ พระสงฆ์

    โดยแท้จริงแล้ว ชาวอินเดียที่นับถือฮินดู เป็นชาวมังสวิรัติ
    ได้เป็นต้นแบบและเผยแพร่ไปสู่นักบริโภคมังสวิรัติทั่วโลก
    เวลามองอะไร ก็มองที่มันดีๆ ในแง่ดีๆ บ้าง
    อย่ามองชาวบ้านหรือศาสนาอื่นในแง่ลบ
    เพราะใจคุณมันติดลบต่างหากละ
     
  3. choksila58

    choksila58 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    631
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,059
    ..เทพเจ้าในคติศาสนาพราหม์ฮินดูนั้นก้อมีอยู่มีจริง แต่ตำนานหรือประวัติของเทพเจ้าแต่ละองค์ในคติศาสนาพราหม์ฮินดู เกิดจากรจนาเขียนแต่งเติมเพื่อเทิดทูนบูชาต่อองค์เทพของท่านจนพิศดาร แปลกประหลาด หาขอสรุปไม่ได้ แต่ละท่านคงจะบำเพ็ญเพียรบารมีมาดีมากพอสมควรจึงมีคนเคารพศรัทธาต่อท่านมาก และคติความเชื่อการอวตารแบ่งภาค แบ่งดวงจิตลงมาเกิดนั้นเป็นไปไม่ได้เลย เป็นเพียงความเชื่อ สำหรับพทธศาสนาของเรานั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยและไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้า เทพฮินดูนั้นท่านก้อฤทธิ์ของท่านแต่ฤทธิ์ของท่านไม่สามารถช่วยเราได้ทุกครั้งหรอก นอกจากตัวเรา บุญกุศลของเรา กรรมของเรา.. กรรมเป็นใหญ่กว่าเทพเจ้าทั้งปวงรวมแม้กระทั่งพระพุทธเจ้าของเรา
     
  4. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2013
  5. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    DuchessFidgette

    อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา
     
  6. stone111

    stone111 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +32
     
  7. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    DuchessFidgette

    สิ่งใดไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติของเรา ให้วางเอาไว้ก่อน

    ตอนนี้หน้าที่ของเราคือ ฝึกสติ สำรวจกาย และ ใจ
     
  8. stone111

    stone111 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +32
    เทพฮินดู มีมากมายและวิจิตรพิศดาร

    ถามว่า การที่คุณเอารูปเคารพ หนุมาน 6 กร ทรงฤทธิ์ หาวเป็นดาว เป็นเดือน
    [​IMG]
    มาเป็นโลโก้ตัวเอง ทำไมไม่เอาออกไป
    ในเมื่อไม่นับถือ...แต่เอาของเขามาใช้ นำมาเป็นของตนเองทำไม

    คงไม่ต่างที่เอาเทพเทวัญทั้งหลายของพราหมณ์
    ไม่ว่าจะเป็นพระอินทร์ พระแม่ธรณี พระเวสสุวรรณ ท้าวมหาจตุราชิกา ฯลฯ
    แล้วเอามาเป็นของตนเอง

    อย่างคุณนะ
    เป็นคนประเภทเกลียดปลาไหล แต่กินน้ำแกง

    ไม่หน้าด้านไปหน่อยหรือ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 มิถุนายน 2013
  9. stone111

    stone111 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +32
    คุณอินทรบุตร (บุตรแห่งพระอินทร์)
    หากยาย DuchessFidgette เป็นศิษย์คุณ หรือศิษย์น้องคุณ
    ช่วยบอกไว้ด้วยว่า
    เอาเวลาที่ติเตียนผู้อื่น
    ไปนั่งกรรมฐาน นะ (ไม่ได้กรรมอย่างอื่น) เยอะๆๆๆ

    ฝึกสติ สำรวจกาย และ ใจ
    ฝึกอย่างไรเนี้ย ยายนี้ ถึงได้คิดต่ำๆ อย่างนี้
     
  10. สมศัดดิ์

    สมศัดดิ์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    วิมลเกียรตินิทเทสสูตร ปริเฉทที่ 1 พุทธเกษตร แปลโดยเสถียร โพธินันทะ

    .พระศากยมนีพุทธเจ้า....สารีบุตรเอย ! โลกธาตุของตถาคตนั้นบริสุทธิ์ แต่เธอมองไม่เห็นเอง”.......

    ท้าวสนังพรหมกุมาร ได้กล่าวกับพระสารีบุตรว่า

    “ขอท่านผู้เจริญอย่าได้ปริวิตก แลกล่าวว่าพุทธเกษตรนี้ไม่บริสุทธิ์เลย ข้อนั้นเพราะเหตุเป็นไฉน ? เพราะเรานั้นได้เห็น ความบริสุทธิ์หมดจดแห่งพุทธเกษตรของพระศากยมุนีเจ้า เปรียบดุจทิพยมณเฑียรแห่งพระอิศวรเทพ ฉะนั้น.”

    ลองคิดดู..... ทิพยมณเฑียรแห่งพระอิศวรเทพ = พุทธเกษตรของพระศากยมุนีเจ้า
    และ.พระศากยมนีพุทธเจ้า....สารีบุตรเอย ! โลกธาตุของตถาคตนั้นบริสุทธิ์
    ด้วยเหตุนี้ จิตของพระศากยมุนีเจ้า ก็มหาบริสุทธิ์เท่ากับพระอิศวรเทพ พวกท่านจึงสร้างทิพยมณเฑียรแห่งพระอิศวรเทพ ดจเดียวกับ หรือ = พุทธเกษตรของพระศากยมุนีเจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 มิถุนายน 2013
  11. choksila58

    choksila58 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    631
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,059
    ..อั๊ยยะ !!!ของจาาขึ้นไหมเนี้ยยยย ก้อผมบอกอยู่ว่ามีอยู่จริง ฤทธิ์ท่านก้อมีอยู่จริง แต่ท่านไม่สามารถช่วยเราได้เสมอไป ให้เชื่อผลของกรรม รูปนี้สวยมากผมช๊อบชอบบบ ศิลปะสวยมากก แต่ประวัติมีการแต่งรจนาเพิ่มเติมจนพิศดาร จนสรุปไม่ได้ อีกอย่างนะผมหน้าด้านม๊ากกกมากกกซะด้วยยยยย..
     
  12. stone111

    stone111 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +32
    อย่าเพิ่งขึ้นๆ บอกให้ท่านสงบลงก่อน
    ผมไม่รู้ว่า หนุมาน กับ ซุนหงอคง ญาณเดียวกันหรือเปล่า
    ลองถามท่านดูก็ได้
    คุณโชคดีนะเนี้ย ที่ท่านมาโปรด
    ไม่งั้นคุณโดนกรรมสะท้อนเล่นงานตายแน่ๆ
    ประวัติพระพุทธเจ้ากับเทพปกรณัม ไม่ต่างกันนะหรอก
    ขนานนิทานชาดก (Jataka) มหายาน กับ เถรวาท
    ก็ต่างกันคนละขั้วเลย
    ในจริงมีเท็จ และในเท็จก็มีจริง คุณว่าไหม
     
  13. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ..... พอเถอะท่านทั้งหลาย ท่านจะเถียงกันไปถึงไหนกัน ว่ากันตามศรัทธาดีกว่า ใครนับถืออะไรก็นับถือไป อย่าเอาเรื่องศาสนามาเป็นข้อถกเถียงกันเลย เคยได้ยินภาษิตในวงเหล้าไหม เรื่องการเมือง๑. เรื่องศาสนา๑. เรื่องนักเลง๑. อย่าเอามาคุยกันเด็ดขาด ถ้าคุยกันต่อหน้านี่ผมว่าต่อยกันหน้าแหกแล้วมั้งพวกท่านเนี่ย พอได้แล้วอย่าทุ่มเถียงกันเลยไม่มีประโยชน์รังแต่จะผิดใจกันเปล่าๆ เจ้าของกระทู้ก็เหมือนกันเพลาๆได้แล้วกับการตั้งกระทู้ที่พยายามพาดพิงศาสนาอื่น มันไม่ค่อยเหมาะไม่ค่อยควรสักเท่าใด ทำให้คนปรามาสศาสนากันมันไม่ถูกนะ ศาสนาใครๆ ก็หวงเป็นธรรมดา ผมเข้าใจความรู้สึกของทุกคนดี เอาเป็นว่าที่แล้วมาก็ให้แล้วไป ทุกคนให้อภัยซึ่งกันและกันอย่าถือโทษโกรธเคืองกันเลย สาธุ ฯ.
     
  14. choksila58

    choksila58 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    631
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,059
    ..ศาสนาพราหม์มีมาก่อนพุทธศาสนา ท่านจะชอบแบบพ้นจากทุกข์ได้จริง หรือ ท่านจะชอบแบบที่จะต้องกลับมาเวียนว่ายตายได้อีก ผมจะไม่ยกว่าใครดีกว่ากัน ผมจะขอยกคำสอนอันถูกต้องหมดจด ไม่มีผิดเพี้ยน พราหม์ฮินดูท่านก้อสอนให้ทำฌานจนได้สมาบัติมีฤทธิ์ ที่สุดของพราหม์มากสุด"พรหม+อรูปพรหม"หมดกำลังฌานก้อจุติลงมาเกิดตามกรรมของตนที่ได้สร้างไว้ ความแตกต่างอยู่ที่ปัญญาสอนความเห็นชอบอันถูกต้อง"ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค"ซึ่งไม่มีในศาสนาอื่นเลย พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่าทางสายเอกทางสายเดียวที่จะทำให้พ้นจากทุกข์ได้คือ"สติปัฎฐานสี่ กาย เวทนา จิต ธรรม".. ส่วนเรื่องเทพเจ้าใครชอบ ใครพอใจ ใครศรัทธา ก้อเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่จะเอาถูกต้องหมดจดมันอีกเรื่อง นะจ๊ะ นะจ๊ะ
     
  15. choksila58

    choksila58 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    631
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,059
    ..ไม่ต้องตกใจหรอกคร๊าบบบบท่าน คนเรากว่าจะเข้าใจมันก้อต้องมีกันบ้างหล่ะนาาาาาา..
     
  16. stone111

    stone111 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +32
    ท่าน ธัมมะสามี
    สงสัยมานานแล้ว ท่านเป็นฆราวาส หรือ พระภิกษุสงฆ์ กันแน่
    เห็นสถิตย์อยู่ในกระทู้พุทธภูมิ พระโพธิสัตว์ อะไรเทือกนี้

    หากท่านมองดีๆ นี้ไม่ได้เป็นการถกเถียงกันนะครับ
    แค่เมาส์มวย ให้เกิดอรรถรสในการนำเสนอเรื่องราว

    เดี๋ยวกระทู้เรทติ้งไม่กระชูด

    ท่านเองก็ไม่ใช่ย่อย
    นำเสนอพุทธภูมิแบบเถรวาทอยู่ร่ำไป
    แต่ก็ยังไม่เห็นแนวทางปฏิบัติของท่าน
    ว่างๆ ท่านก็ใช้พื้นที่ตรงนี้แหละ ว่าท่านมีแนวทางปฏิบัติของท่านอย่างไร
    ไม่ต้องเอาหลักการนะครับท่าน
    เอาแนวทางปฏิบัติของตนเอง

    อยากรู้ อยากทราบ อยากเข้าใจ
    เพื่อเผื่อแผ่ให้เหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งหลายแหล่
    ที่ยังแอ๊บแบ้ว ยังหาทางเดินไม่ค่อยสะดวก
    จะได้เอาอย่างท่าน เป็นต้นแบบ นะจ๊ะ
    (อุ๊ย อาการแต๋วกำเริบ)

    หวังว่าท่านจะอนุเคราะห์นะท่าน
    เอาเลย อย่าลีลามาก............
     
  17. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154
    คุยคนละเรื่องเดียวกันอยู่หรือจ๊ะ.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. choksila58

    choksila58 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    631
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,059
    ..ผมก้อไม่รู้อะไรมากหรอก แต่ก้อไม่ก้าวล่วงลบหลู่ใคร ท่านก้ออยู่ส่วนของท่าน ไปบ้านเค้าถิ่นเค้าก้อต้องเคารพให้เกรียติกัน แม้ความเห็นไม่เหมือนกัน แต่ท่านพ่อหนุมานท่านก้ออยู่กับผมนะ ก้อผมไปสักพ่อแก่มาจร้าาาาา ซุนหงอคงกับหนุมาน สำหรับผมคงจะไม่ใช่ญาณเดียวกันนะ..
     
  19. stone111

    stone111 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +32
    อ่านแล้วงง
    นี้มันโง่ หรือฉลาดวะเนี้ย
    พราหมณ์ สอนให้เข้าฌานได้อย่างมากก็แค่ รูปา อรูปา
    ส่วนพุทธ สอนให้เข้าวิปสสนา เพื่อหลุดพ้นด้วยวิปัสสนาญาณ

    ใครสอนมันวะ

    ทางสายเอกสติปัฎฐานสี่ + ทางสายกลาง (มรรคมีองค์แปด)
    = หลุดพ้นทุกข์

    ช่วยบอกทางกูหน่อย กูตาบอด กูไปไม่ถูก
    บอกตรงๆ กูขี้เกียจ
     
  20. stone111

    stone111 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +32
    อยู่รอบนอก (ring side) นะดีแล้ว

    จะเป็นดู หรือ คนเล่น
    หากต้องการเล่นด้วย
    ก็เชิญ......อย่าลีลามาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...