{{หลวงพ่อคูณ257}}ศึกษาพระสมเด็จ/เบญจภาคีองค์ครู26ขุนแผนพรายกุมาร4ลพ.พรหม68พ่อท่านคลิ้ง105

สู่มาตุภูมิ


หลังจากที่พิจารณาเห็นสมควรแก่การปฏิบัติแล้ว หลวงพ่อคูณจึงออกเดินทางจากประเทศเขมรสู่ประเทศไทย เดินข้ามเขตด้านจังหวัดสุรินทร์ สู่จังหวัดนครราชสีมา กลับบ้านเกิดที่บ้านไร่ จากนั้นจึงเริ่มดำเนินการก่อสร้างถาวรวัตถุทาง พระพุทธศาสนา โดยเริ่มสร้างอุโบสถ พ.ศ.๒๔๙๖ โดยชาวบ้านได้ช่วยกันเข้าป่าตัดไม้ ซึ่งในสมัยก่อนมีอยู่มาก การตัดไม้ในสมัยนั้น ไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะไม่มีเครื่องจักร ไม่มีถนน กว่าจะได้ไม้ที่เลื่อยแปรสภาพสำเร็จแล้ว ต้องเผชิญกับการขนย้ายที่ยากลำบาก โดยอาศัยโคเทียมเกวียนบ้าง ใช้แรงงานคนลากจูง บนทางที่แสนทุรกันดาร เนื่องจากถนนทางเกวียนนั้นเป็นดินทรายเสียส่วนใหญ่ เมื่อต้องรับน้ำหนักมากก็มักทำให้ล้อเกวียนจมลงในทราย การชักจูงไม้แต่ละเที่ยวจึงต้องใช้เวลาถึง 3-4 วัน

แต่กระนั้นหลวงพ่อก็สามารถนำชาวบ้านช่วยกันสร้างพระอุโบสถจนสำเร็จ (ปัจจุบันได้รื้อลงแล้ว และก่อสร้างหลังใหม่แทน) นอกจากสร้างพระอุโบสถแล้ว หลวงพ่อยังสร้างโรงเรียน กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ รวมทั้งขุดสระน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค ยังความสะดวกสบาย และความเจริญในบ้านไร่ยิ่งนัก แม้ปัจจุบันจะไม่ได้เห็นสิ่งดังกล่าว เนื่องจากหลวงพ่อได้เปลี่ยนสิ่งก่อสร้างดังกล่าวทั้งหมด มาเป็นปูนเป็นอิฐให้สวยงามและทนทานยิ่งขึ้น

นอกจากการก่อสร้างอุโบสถแล้ว หลวงพ่อคูณยังสร้างกุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ ขุดสระน้ำไว้เพื่อุปโภคและบริโภค และที่สำคัญยังสร้างโรงเรียนไว้เพื่อเด็กบ้านไร่อีกด้วย นอกเหนือจากนั้น หลวงพ่อยังได้สร้างโรงพยาบาล โรงเรียน ตลอดจนบริจาคเงินทองเพื่อช่วยเหลือสาธารณะสุขต่างๆ

 

หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ
เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระญาณวิทยาคม

 

“หลวงพ่อคูณ” อาการทรุดอีก! เกิดภาวะปอดอักเสบซ้ำซ้อน



       ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “หลวงพ่อคูณ” ทรุดอีก เกิดภาวะปอดอักเสบติดเชื้อซ้ำซ้อน มีไข้ต่ำ แพทย์เผยอาการแย่ลงเอกซเรย์พบปอดอักเสบแต่ไม่ใช่ปอดบวม ต้องฉีดยาฆ่าเชื้อเข้าหลอดเลือดดำต่อเนื่องอย่างน้อย 10 วัน งดพิจารณากลับวัดบ้านไร่
       
       วันนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พักรักษาอาการอาพาธอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และหลอดลมอักเสบ ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
       
       ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ พร้อมด้วยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด ได้เข้าตรวจอาการหลวงพ่อคูณ ก่อนเปิดเผยว่าอาการหลวงพ่อวันนี้ยอมรับว่าแย่ลง เสลดเสมหะมีเยอะมากขึ้นกลับมาอีก จากการตรวจพบว่าท่านมีไข้ต่ำๆ และคณะแพทย์ได้ทำการเอกซเรย์ปอดอย่างละเอียดพบว่าปอดด้านซ้ายล่างอักเสบ โดยสรุปคือหลวงพ่อคูณเกิดภาวะปอดอักเสบตั้งแต่เมื่อช่วงเช้า และคณะแพทย์ได้ให้ยาปฏิชีวนะฉีดเข้าเส้นเลือดดำวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งจะให้ยาฆ่าเชื้อต่อเนื่องอย่างน้อยเป็นเวลา 10 วัน
       
       “ครั้งนี้ปอดเกิดการอักเสบพอสมควรซึ่งถือว่าอาการทรุดหรือแย่ลง ส่วนจะขยายหรือลามไปจุดอื่นหรือไม่ แพทย์เราก็ยังหวังว่าจะไม่ลามหรือขยายไปจุดอื่น เพราะได้ให้ยาฆ่าเชื้อแล้ว” นพ.พินิศจัยกล่าว
       
       นพ.พินิศจัยกล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุนั้น ส่วนหนึ่งมาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงด้วยโดยเฉพาะช่วงนี้ที่มีเสลดเสมหะเยอะมากอยู่แล้วทำให้เสลดเสมหะลงคอและเกิดการติดเชื้อได้ง่ายเนื่องจากหลวงพ่อติดเชื้อได้ง่ายอยู่แล้วเพราะภูมิต้านทานยังไม่กลับคืน และสภาพร่างกายไม่แข็งแรง ประกอบกับอายุมากด้วย (อายุ 89 ปี) จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบ
       
       ส่วนจะถึงขั้นต้องส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศิริราชหรือไม่นั้น ทางคณะแพทย์เรามีพันธะกับโรงพยาบาลศิริราชอยู่แล้วหากถึงจุดหนึ่งที่จำเป็นต้องส่ง และตอนนี้มีการประสานกันอยู่ตลอดพร้อมกับให้คำแนะนำ ส่วนแนวทางการรักษาก็เป็นการรักษาแบบประคับประคองและดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.) ซึ่งก่อนหน้านี้ท่านมีภาวะทางเดินปัสสาวะอักเสบ และมาเป็นภาวะหลอดลมอักเสบ คราวนี้ถือว่าซ้ำซ้อนที่เป็นปอดอักเสบอีก
       
       “เรื่องการพิจารณากลับวัดบ้านไร่คงต้องเลื่อนออกไปอีก 2-3 สัปดาห์ คิดว่าแนวโน้มเดือนนี้ยังคงกลับวัดบ้านไร่ไม่ได้แล้ว ตอนนี้ต้องให้ท่านพักผ่อน งดปั่นจักรยานไฟฟ้า งดให้ออกนอกห้อง และงดเยี่ยมต่อไปอีก” นพ.พินิศจัยกล่าว

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ 6/6/56

 

ขอบคุณมากครับ คุณ soul power
สำหรับข้อมูลข่าวสาร ขอให้หลวงพ่อหายป่วยโดยเร็วครับ

 

ขอให้หลวงพ่อคูณ หายอาพาธเร็วๆครับ

 

รุ่นไหนครับ

 

สร้างวัตถุมงคล



หลวงพ่อคูณสร้างวัตถุมงคลมาตั้งแต่บวชแล้ว ๗ พรรษา โดยเริ่มทำวัตถุมงคล ซึ่งเป็นตะกรุดโทน ตะกรุดทองคำ เพื่อฝังที่ใต้ท้องแขน ณ วัดบ้านไร่ ราว พ.ศ.๒๔๙๓

“ใครขอ กูก็ให้ ไม่เลือกยากดีมีจน” เป็นคำกล่าวของท่าน เนื่องจากวัตถุมงคลของหลวงพ่อได้ชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ เมื่อมีผู้ถามว่า หลวงพ่อแจกให้กับคนไม่ดีเป็นโจรผู้ร้ายอย่างนี้หลวงพ่อไม่บาปหรือ

“กูจะไปรู้หรือว่ามันเป็นใคร ถ้ามันเป็นโจร เมื่อมันได้รับประโยชน์จากของที่กูแจก มันคงคิดได้ว่า เป็นเพราะพระศาสนา มันจะได้เข้ามาสนใจปฏิบัติธรรม….”

“ถ้ามีใจอยู่กับ 'พุทโธ' ให้เป็นกลางๆ ไม่สอดส่ายไปไหน นั่นหมายความว่า ใจเป็นสมาธิ จะช่วยปกป้องคุ้มครองเราได้ดียิ่ง… ยิ่งกว่ามีวัตถุมงคลใดๆ ในโลก”

การปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงพ่อคูณ หลวงพ่อคูณจะใช้คาถาไม่กีบท

หัวใจพระคาถามีว่า

มะ อะ อุ

นะ มะ พะ ธะ

นะ โม พุท ธา ยะ

พุทโธ และยานะ

แต่ในการปลุกเสก หลวงพ่อคูณจะใช้วิธี อนุโลมปฏิโลม (การต่อตามและย้อนลำดับ) เรียกว่า คาบพระคาถา

เมื่อนำหัวใจธาตุ ๔ คือ นะมะพะธะ มาใช้ หลวงพ่อคูณจะภาวนาด้วยจิตอันเป็นหนึ่ง (สมาธิ) ให้อักขระทั้ง ๔ นี้ เป็น ๑๖ อักขระ ดังนี้

นะ มะ พะ ธะ

มะ พะ ธะ นะ

พะ ธะ นะ มะ

ธะ นะ มะ พะ

ระยะเวลาการปลุกเสกของท่านใช้เวลาไม่มากนัก ขึ้นอยู่กับอารมณ์จิต ท่านเคยปรารภว่าเมื่อจะปลุกเสกวัตถุใด ใจต้องเป็นสมาธิ เมื่อใจมีสมาธิ ปลุกเสกสิ่งใดก็ขลัง ระยะเวลาหนึ่งนาทีก็ดีแล้ว แต่หากใจไม่เกิดสมาธิ ปลุกเสกทั้งคืนทั้งวันก็ไม่มีผล อย่างนี้สู้ไปทำอย่างอื่นดีกว่า

 

ท่านั่งยอง



หลวงพ่อให้เหตุผลว่า เป็นท่าที่สบายที่สุด อีกทั้งเป็นลักษณะของคนเตรียมพร้อมที่ลุกเดินไปไหนมาไหนได้ทันที จะหยิบจับอะไรก็ง่ายและสะดวกในการทำงาน

การบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะ

หลวงพ่อคูณได้จัดสร้างโรงพยาบาลถึง 3 หลัง ตลอดจนโรงเรียน และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังได้บริจาคเงินทองเพื่อช่วยเหลือสาธารณะสุขต่างๆ ทุกๆวัน แต่ละเดือนเป็นจำนวนหลายแสนบาท

"หลวงพ่อเป็นคนยากจนมาโดยกำเนิด จึงอยากคิดช่วยเหลือคนอื่น การนำเงินออกไปช่วยคนอื่น ก็จะมีคนบริจาคเรื่อยๆ ถ้าเก็บไว้จะทำให้ตนตาบอด ใจก็บอดอีกด้วย จึงอยากช่วยคนอื่นอยู่เรื่อยไป วันใดไม่มีคนมาขอเงิน ก็ไม่ค่อยสบายใจ”

ข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติ

หลวงพ่อคูณสั่งว่า เมื่อมีพระเครื่องของหลวงพ่อคูณติดตัว ให้ภาวนา "พุทโธ" ทำจิตให้เป็นสมาธิแน่วแน่ ละเว้นถ้อยคำด่าทอ ค่าพ่อแม่ตน และพ่อแม่บุคคลอื่น และอย่าผิดสามีหรือภรรยาผู้อื่น ให้สวยมนต์ก่อนเข้านอนทุกคืน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด และหวงพ่อคูณย้ำว่า "ถ้ามีใจอยู่กับ พุทโธ ให้เป็นกลาง ๆ ไม่สอดส่ายไปที่ไหน นั่นหมายความว่า ใจเป็นสมาธิ จะช่วยปกป้องคุ้มครองเราได้ดียิ่ง...ยิ่งกว่ามีวัตถุมงคลใด ๆ ในโลก"

 

คาถาที่หลวงพ่อคูณใช้บริกรรมเวลานั่งสมาธิ

เวลาหายใจเข้า ให้บริกรรมว่า ตาย

เวลาหายใจออก ให้บริกรรมว่า แน่

เป็น ตายแน่... ตายแน่... ตายแน่ ไปเรื่อย ๆ จะรู้สึกสบาย จิตสงบ

 

พระปิดตาญาณวิทยาคมคูณลาภ พ.ศ. ๒๕๓๖
เนื้อนวโลหะ (ปิดตาปุ้มปุ้ย) สร้างเพียง ๑,๕๐๐ องค์
หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่





พระรุ่นนี้ที่พบผิวมักจะมีรูพรุน หรือไม่ก็หล่อไม่เต็ม
นิ้วไม่ชัด มีรอยยุบปรากฎตามจุดต่างๆ
พระองค์นี้ค่อยข้างสมบูรณ์มาก โค็ตเต็ม ผิวตึง
หล่อติดครบหมด รายละเอียดชัดเจน
เนื้อนวแก่ทอง คราบเบ้าเดิมๆ ยังอยู่ครบครับ

 

วิธีพิจารณาพระปิดตาปุ้มปุ้ย




อ้างอิง คุณข้าน้อยขอคารวะ

 

พระปิดตาปุ้มปุ้ย หลวงพ่อคูณ
ใครคิดว่ายังไม่มีเก๊...คุณกำลังตกอยู่ในอันตรายครับ
ของเก๊ออกมาสู่สนามพระแล้วนะครับ โปรดระวัง
ลักษณะของเก๊ รุ่นแรก มีดังนี้ครับ
-โค๊ตไม่ใช่ ถ้าท่านใดเคยเห็นของแท้จะรู้เลยครับ เพราะจะต่างกันมาก
-ก้นองค์พระจะหล่อไม่เต็ม ของแท้หล่อเต็มทุกองค์ ของเก๊จะหล่อไม่เต็มเห็นได้ชัด
-องค์พระจะผอม รีบ องค์เล็กกว่าของแท้
-ไม่มีกล่อง ของเก๊ออกมาจะไม่มีกล่องมาด้วยครับ

ของเก๊ รุ่นหลัง ตัวใหม่ล่าสุด
มีความใกล้เคียงมากขึ้น ทั้งขนาดและโค๊ต
ถ้าไม่เคยมีของแท้ก็อาจโดนได้ครับ
จุดสังเกตุ ได้ข้อสรุปที่เหมือนกันดังนี้ครับ
1.เนื้อพระผิดเพี้ยนจากของแท้ค่อนข้างมาก ออกแดงๆด่างๆครับ
2.มีตำหนิที่เหมือนกันทุกองค์(ที่คิดว่าเก๊)คือ หัวเข่าด้านขวามือเรามีรอยยุบ
ตำแหน่งเดียวกันเป๊ะ ข้อมือองค์พระด้านซ้ายมือเรามีรอยยุบเหมือนกันเป๊ะ
3.โค๊ตตอกลึกและเอียง อักษรที่อยู่ในโค๊ตก็ยังแปลกๆมีเส้นซ้อนกันอยู่
4.เนื้อพระตรงบริเวณใต้ฐานพระดูไม่เรียบร้อย เป็นคลื่นๆครับ
5.รอยตัดยังไม่เนียนครับ

 

สวยแชมป์จริงๆ ครับพี่หนุ่ม

 

ขอบคุณมากครับ ปิดตายันต์ยุ่งของพี่ที่เคยลงโชว์
ก็สวยมาก ถ้าไม่เป็นการรบกวน อยากให้นำมาลง
เพื่อการศึกษาร่วมกันครับ

 

องค์นี้แท้ดูง่ายครับ คราบเบ้าเดิมๆ
เครดิตภาพ คุณเกตุเกษม

 

พระยอดธงปริสุทโธ ครบรอบ ๗๕ ปี
หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ รุ่น ๕ ท้ายิง
เนื้อนวโลหะแก่ทอง