แนวหลวงพ่อเทียน เป็นสมถะหรือ เจริญสติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Thanks-Epi, 22 พฤษภาคม 2013.

  1. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    -เลี้ยงลูกค่ะ
    -ไม่ได้ฝึกสัตว์หรือต้องการ ให้ลูกนำหวยมาให้ค่ะ
    -ปลูกจิตสำนึกในทางธรรม พอดีไม่ทราบจริตทาง หลวงพ่อเทียนเท่าไหร่ เลยโพสต์
    -คิดว่า สมถะแบบสายอื่น (เดินจงกรมไม่เป็นค่ะ) ไม่ค่อยเหมาะกับเขาเท่าไหร่ เลยลองหาสายอื่นดู
    -การปลูกจิตสำนึกในทางธรรมส่วนตัวคิดว่า ต้องปฎิบัติควบคู่ไปด้วยค่ะ(เพราะพุทธเน้นการปฎิบัติ หรือทาง รร. ยังให้สวดมนต์ทุกวันเลย แม่ก็ต้องทำหน้าที่ต่อ) เพราะส่วนตัวคิดว่า การได้แต่พูด เด็กไม่ค่อยเข้าใจนัก เพราะจากการนั่งสมาธิมาประมาณ 1 ปี (แบบไม่ต่อเนื่อง) ดูแล้ว ยังไม่เหมาะกับเด็กค่ะ ไม่ใช่การผลักดันหรือบังคับค่ะ
    -การทำให้เห็น แล้วคิดว่า เด็กจะทำได้ เด็กทำไม่ได้ค่ะ ลูกเคยหลับ (ไม่ได้นานเลย แค่หลับตา ก็หลับแล้ว ต้องให้เขาเลิก) เลยคิดว่า ไม่ควรบังคับเขา ถ้าเขาไม่ชอบหรือแสดงการบ่นออกมา
    -ลำพังเพียงแค่ การสมถะ ส่วนตัวแล้ว คิดว่า ไม่สามารถทำให้เด็กให้หวยได้ ลำพังผู้มีอภิญญา ยังทำกันแทบไม่ได้ (แม้ทำได้ ยังไม่ทำกันเลย เพราะถือว่า เป็นการเอาอภิญญาไปใช้ทางทางผิดค่ะ กรรมหนัก ญาณเสื่อมค่ะ)
    -มนุษย์เป็นสัตว์ที่จิตใจสูง ถูกต้องแล้วค่ะ โดยเฉพาะบอร์ดนี้

    ถ้ากำลังเลี้ยงลูก พ่อแม่ ก็ไม่เห็นจะต้องทำอะไรมาก นอกจาก
    ทำ จรณะ มีวินัย ทำเป็น ตัวอย่าง ให้ลูกดู

    -ถูกต้องแล้ว แต่เด็กก็คือเด็กค่ะ ยังไม่เข้าใจนัก หลายครั้งที่ลูกยังอดมานอนตักแม่ต้องนั่งสมาธิไปด้วย (เด็กไม่ทราบค่ะ ว่าควรไม่ควร แม้จะเป็นช่วงเช้ามืดเด็กยังไม่ตื่นเลย) แต่โทษลูกไม่ได้จริงๆ
    -เฮ้ออออออออออ ...ยาว :'(
     
  2. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ดีหละๆ หากเด็กไม่ให้หวย เด็กก็ไม่ต้องมาทำนายภัยพิบัติ เป็นของแถม

    ต้องกราบขออภัยคุณแม่ ที่ต้องมาดักคอในเรื่องไม่เป็นเรื่อง

    ทั้งนี้ เหตุแบบนั้นมันมีมาก่อน แรกๆ ก็เอาเด็กไปวัด พอเด็กชัก ก็เอา
    เด็กเป็นองค์ ให้หวยบ้าง ทำนายภัยพิบัติบ้าง เด็กสอนธรรมะบ้าง
    มีตั้งแต่ 5ขวบ 8ขวบ 13ขวบ

    ถ้าคุณแม่ บอกไม่ได้บังคับ ปล่อยให้เด็กซึมซับด้วย จิตเขาเอง ที่เห็น
    เราทำซ้ำ ปฏิบัติที่ตัวเรา(พ่อแม่) แล้วให้เด็กใส่ใจ พิจารณา เห็นผล
    ของการปฏิบัติ แล้วเลื่อมใส แบบนี้จะดี

    เด็กที่เข้าไปในวัด โดย ที่จิตเด็ก น้อมไปสู่การทำสมาธิเอง จะเป็น
    ดวงจิตที่สดใส ไม่ก่อกวนจิตผู้อื่น

    เด็กที่เข้าไปในวัด โดย มีจิตพ่อแม่ คอยกำชับ ไม่ใช่ แค่จิตเด็ก
    ที่แผ่กระจายสภาวะกดท่วงรบกวนจิตผู้อื่นเท่านั้น จิตพ่อแม่ก็จะ
    ไปกดท่วงจิตผู้อื่นด้วย เด็กโยเยรบกวนขึ้นมา ไม่ใช่ เพราะ จิต
    เด็กเป็นเหตุ...........แต่ จิตผู้เป็นพ่อแม่ นั่นแหละ ที่รบกวนชาวบ้าน

    เราพิจารณา สวนไปหาเหตุ ไม่พิจารณาครึ่งๆกลางๆ หรือ หยุดที่ แพะ
     
  3. Kosit`

    Kosit` Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +48
    ไม่ได้บริกรรมอะไรครับ แค่ตามรู้การเคลื่อนไหวเฉยๆ แต่จะบริกรรมก็ได้ แต่อย่าให้สมาธิลึกไปครับ คือคุณลองดูได้ว่าแบบไหนดี ผมลองทำแบบช้ามากๆ แล้วก็เร็วมากๆดูด้วย ไม่ได้ตามที่หลวงพ่อสอนอย่างเดียว คุณปรับได้ตามจริตครับ เวลาทำผมก็เปิดตาทำครับ มองนู่นมองนี่ไป แต่ให้รู้การเคลื่อนไหวไว้ มันจะคิดอะไรไปเรื่อยก็ช่างมันไปครับ เอาแค่รู้อยู่ก็พอ
    รู้แล้วก็ปล่อยไว้ ไม่รู้ พอมารู้ว่าไม่รู้ก็ปล่อยไป ตามติดแบบนี้ไปเรื่อยครับ
    สัจจธรรมคือสัจจธรรม เมื่อทำแบบนี้ได้สัดได้ส่วนแล้ว ปัญญาเกิดเองครับ
    มันเกิดโดยที่ไม่ได้บังคับอะไรเลย ไม่ได้หยิบอะไรมาพิจารณาสักอย่าง
    แต่ผมทำควบกับเดินจงกรมด้วยครับ ทางสายกลางสำหรับแต่ละคนไม่เหมือนกัน แบ่งเวลาตามความเหมาะสมครับ คุณก็อย่าคิดว่าวิธีแบบนี้จะเหมาะสมกับทุกคน โดยความเห็นผมคิดว่ามันค่อนข้างเหมาะกับคนคิดมาก ที่นั่งให้สงบลึกๆไม่ได้ครับ คุณก็ลองไปเถอะครับ ตราบเท่าที่ยังไม่รู้มันก็ไม่รู้ครับ ได้แต่ลองเท่านั้น เมื่อรู้แล้วมันก็รู้

    ก็อย่าลืมครับ เราเอาแค่ดับทุกข์ ทุกข์ดับแล้วก็จบ อย่าไปมักมากอะไรอีก
    ถ้าทำแล้วทุกข์ไม่ดับก็ลองทำวิธีอื่นครับ ควรหาตำราที่หลวงพ่อเขียนไว้ด้วยก็ดีครับ เพราะท่านอธิบายลำดับอาการไว้ด้วย วิธีแก้อาการต่างๆที่อาจเกิดจากการปฏิบัติ
     
  4. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เป็นการฝึกสติสัมปชัญญะ และเรียนรู้วิปัสนาได้ แต่กำลังของสมาธินั้นผมว่าไม่ถึงฌานนะครับ
     
  5. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    -ขอบคุณค่ะที่คุณบุคคลทั่วไป มาช่วยอธิบาย ทำไม การโพสต์ถามเรื่องสายหลวงพ่อเทียน กลับตาละปัด กลายเป็นกวดวิชาฝึกสัตว์ไปได้

    -เหตุที่ต้องบอกอายุเด็ก เพราะคิดว่า ในบอร์ดนี้ เป็นนักปฎิบัติ ต้องสอนลูกบ้าง คงไม่ได้ปฎิบัติคนเดียว น่าจะมีตัวอย่าง หรือ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันบ้าง

    เพราะลำพังการเที่ยวถามคนนั้นนี้(ต่อหน้า)ว่า สอนลูกปฎิบัติ/สวดมนต์มั้ย/ทำกันอย่างไรบ้าง ไม่ใช่วิสัยที่ควรกระทำเท่าไหร่ แม้นักปฎิบัติผู้ใหญ่ "จริงๆ"
    นิ่งเป็นใบ้กันหมด มองไม่ออกเลย ว่าเป็นผู้ปฎิบัติธรรม
    (ไม่ขอถาม นักปฎิบัติแค่ภายนอกค่ะ)

    แต่การศึกษาหาความรู้เพิ่ม เป็นหน้าที่ของแม่เพื่อลูก ไม่ใช่หน้าที่ของวัดเท่านั้น (จะเห็นว่า ปัจจุบัน มีคอร์สปฎิบัติธรรมสำหรับเด็ก หรือการบวชเณรฤดูร้อน) ซึ่งแม่คิดว่า เด็กยังไม่พร้อมเท่าไหร่ เคยมีพระรูปนึง ท่านพูดให้ฟังด้วย
    (ที่เล่าว่า เด็กไปกระโดดน้ำ อันนั้นจริงค่ะ เพราะเขาคิดว่าสระน้ำ ทำให้ไม่ค่อยอยากพาเขาไปอีก อีกทั้งรบกวนเวลาสนธนาธรรมด้วย)

    -ลูกถามว่า "กายไม่เที่ยงคืออะไร" (เจริญสติปฎิฐาน 4 คุณโจโฉ เขาหยิบมาฟังเอง ไม่ได้ยัดเยียดค่ะ) แม่อธิบายไตรลักษณ์ เขายิ่งไม่เข้าใจ คงยากที่จะให้ฟังเสียงหลวงพ่อ ให้ฟังธรรมโดยตรง เด็กจะเข้าใจยากมาก พลอยเบื่อ แม่ต้องสอนเอง โดยการประยุกต์แบบ ภาษาแม่ๆ
    -และที่แม่หวังก็เพียง แค่ตรงนี้
    และแบบสุกขวิปัสสโก เมื่อเขาโตขึ้น
     
  6. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    ไม่บริกรรมเนี่ยล่ะคะ ทำให้สงสัย เพราะ การภาวนาของหลวงพ่อใช้ความรู้สึก แทน ติง นิ่ง
    (ไม่ขอแปะลิ้ง) เลยอ่านไม่เข้าใจ
    คำว่า ติง -นิ่ง เป็นคำบริกรรมหรือเปล่า เพราะ เขียนว่า "ใช้ความรู้สึก" ก็เป็นการวิปัสสนา

    เลยขอโพสต์ถามก่อน เผื่อท่านใดมาแนวนี้บ้าง พอจะแนะนำไปวัดไหนได้บ้าง ลิ้งไหนบ้าง ฯลฯ

    ส่วนตัวคิดว่า บอร์ดอภิญญา-สมาธิ พลังจิต ยังมีคนเก่งๆ มากกว่า คนที่ติดอัตตา เพราะถ้าไม่บอร์ดนี้แล้วคงไม่ทราบว่า จะไปถามบอร์ดไหนแล้ว (ถ้าแนะนำมา ก็เชิญได้เลยค่ะ)
     
  7. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    คิดว่า บางคนน่าจะทำได้นะค่ะ การเจริญสติจนกำลังจิตมากกว่า สมถะ นั้นยากกว่ามาก ใช้เวลามากกว่าเยอะ กินเวลาหลายชม. เพราะเผลอง่าย/บ่อยมาก (ท่านั่งสมาธิเข้าฌาณง่าย/เร็วที่สุดแล้ว)

    ตรงนี้ ความเห็นส่วนตัวค่ะ ผิด/ถูกขออภัยค่ะ
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    งง หละซี่

    1. เข้ามาถาม กรรมฐานหลวงพ่อเทียน

    2. เอาเด็กมาปฏิบัติด้วย

    ***************

    ซึ่ง ก็ต้องกราบเท้าเรียนให้ทราบว่า ต้องแกะปัญหาก่อน ก่อนที่มันจะยุ่ง คือ

    o แม่ นั่นแหละ ต้องเข้าใจกรรมฐานก่อนว่า เขาฝึกอะไร
    ถ้าแม่ไม่เข้าใจ จะเอา ลูกมาฝึก แล้ว แม่รู้หรือว่า ลูกฝึกอะไร


    เมื่อแม่ยังไม่รู้ชัดว่าฝึกอะไร เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่า ลูกจะได้ประโยชน์อะไร

    ตรงนี้จึงจำเป็น ต้องปรักปรำให้ชัดๆว่า ไม่ได้สนใจว่า ลูกฝึกอะไร แต่ ต้องการ
    เอา ลูกมานำหน้า เป็นสินค้า เป็นสัตว์ในงานวัด เอามาแสดง เอา
    มาโชว์ เอามาตบแต่ง ทาสี แต่งองค์ ทรงเครื่อง ด้วย ชื่อของการปฏิบัติอะไร
    คุณแม่เองก็ยังไม่รู้ แต่ ตบแต่งไว้ก่อนหละว่า นำมาฝึก มาหัด มาบังคับให้
    ทำท่า มีลีลา ไปก่อน กี่จังหวะว่าไป

    ก็นั่นแหละ

    ตราบใดที่ คุณแม่ยังใคร่ครวญไม่ถูกว่า อะไรคืออะไร จะรีบร้อนเอาลูก
    มาฝึก แล้วมันจะได้อะไร

    สู้พาลูก สวดมนต์ ทำทาน ทำบุญ ทั่วๆไป ก็ไม่ได้ยากส์อะไร

    หรือ ตัวคุณพ่อคุณแม่นั่นแหละ ลงมือปฏิบัติให้เข้าใจก่อน พอเข้าใจ
    แล้ว แสดงพฤติกรรมที่ดีขึ้นด้วยกรรมฐาน เพราะเข้าใจว่า ปฏิบัติอะไร
    เพื่ออะไร ลูกก็จะได้รับจาก พ่อแม่เอง โดยไม่ต้องสอนด้วยวาจา ก็ยังได้

    เพราะ บุคคลที่เป็น พ่อ แม่ ลูก กันในทางธรรม เขาถือว่า เป็น " จิตดวง
    เดียวกัน (ธรรมภายนอกเป็นธรรมภายใน) " แต่กระนั้น ก็เป็นการกล่าวโดยอาศัย " ธรรมคู่ " หากจะให้
    ระบุว่าเป็น จิตดวงเดียวกันเป๊ะเลยหรือ ก็จะไม่ยืนยันหรอกว่าใช่ แม้ใน
    ทางปฏิบัตินั้น จะเป็นดวงเดียวกันแยกไม่ออก ที่ไม่แสดงว่าเป็นดวง
    เดียวกันเดี๋ยวยุ่ง ( พระหนุ่ม เณรน้อย พระชราตัณหากลับ จะ ผ้าเหลือง
    ร้อน เรื่องจะไปกันใหญ่ )

    แต่ คุณเป็นแม่ คุณสามารถสังเกตได้ สามีร้อนใจ มีหรือ ภรรยาจะไม่ร้อนใจ
    พ่อแม่ ร้อนใจ ทะเลากัน มีหรือ ลูกจะไม่ร้อนใจ ทะเลาะกัน

    พ่อ แม่ ลูก จึงถือว่า เป็นจิตดวงเดียวกัน ฝึกคนใดคนหนึ่งก็ได้ แล้ว เดี๋ยว
    ที่เหลือจะรับสัมผัสไปได้เอง ......ทั้งนี้ เว้นแต่ ครอบครัวที่ถูกกลุ้มรุมด้วย
    โลกธรรมมากๆ อันนั้น ก็จะสื่อกันไม่ได้ ซ้ำร้ายยังทำลายกันเอง

    เช่น อยากให้ลูกเรียนเป็นที่หนึ่ง ก็เขี่ยวเข็ญ ใส่ องค์ ทรงเครื่อง สารพัด
    เพื่อให้ลูกเด่น ดัง มีโลกธรรม8 ร้อยรัด ....อะไรแบบนี้ ถือว่า ทำลายกันเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2013
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ทีนี้ ถ้าจะให้แนะนำว่า แล้ว จะให้ถามอย่างไร ถึงจะได้ คำตอบที่ตรงไปตรง
    มาตามคำถาม

    ก็ขอกราบเท้าคุณแม่ แนะนำว่า แยกกระทู้ออกเป็นสามเรื่อง

    กระทู้แรก คือ ถามเรื่องกรรมฐาน

    กระทู้ที่สอง ก็ถามเรื่อง การนำลูกไปปฏิบัติธรรม

    กระทู้ที่สาม คือ ไม่หลอกถาม แต่ สอนออกมาเลย ไม่ต้องเม้ม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2013
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    กรณีที่ พยายามจะเข้าใจ กรรมฐานหลวงพ่อเทียน ก็ไม่ยาก

    เอาตอนที่คุณ กำลังนั่งทำกรรมฐาน แล้ว ลูกเข้ามากวน ไม่ว่า
    ลูกจะมากวนตัว หรือ สามีมากวนใจ ให้สังเกต ใจที่ไหลไป

    ต้องสังเกตให้ดีว่า ใจไหลไปแล้ว แต่ ไวดั่งฟ้าแล๊บ จะรู้สึก
    ว่าใจไม่ได้ไหลไป มีความรู้สึกภายในบางอย่าง เข้ามาย้อม
    ให้รู้สึกว่า เป็นเรื่องของตน เป็นจิตของตน

    ลูกมาหนุนตักปั๊ป ใจไหลไปที่ลูก แต่ แม้ใจอยู่ที่ลูก ก็รู้สึก
    เหมือนว่า นั่นแหละดวงใจของตน

    สามีมาหนุนตับปั๊ป ใจไหลไปที่สามี แต่ แม้ใจอยู่ที่สามี ก็รู้สึก
    เหมือนว่า นั่นแหละดวงใจของตน

    ตามเห็น " ธรรมภายนอกเป็นธรรมภายใน " บ้าง

    ตามเห็น " ธรรมภายในเป็นธรรมภายนอก " บ้าง ( เหนื่อย อยากให้
    ลูก แล สามี เข้าใจตน เป็นหนึ่งเดียวกัน )

    ตามเห็น ธรรมแปรปรวน หมุนเวียนแบบนี้ เดี๋ยวเข้าใจเองว่า หลวงพ่อ
    เทียนขยับ "แขนขา" ซึ่งเป็น วัตถุภายนอก ไม่ใช่ใจ แล้วเห็นอะไร รู้อะไร
     
  11. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ถามเพราะไม่เข้าใจและไม่เคยศึกษาจริงๆค่ะ
    เจริญสติแบบเคลื่อนไหว ของหลวงพ่อเทียน
    1.ต้องบริกรรมหรือเปล่าคะ เวลายก/วาง ถ้าบริกรรม ใช้คำอะไรบ้าง

    2.ไม่บริกรรม จะยากเกินไปหรือเปล่า สำหรับเด็ก ลูกชาย 6 ขวบ แถมสมาธิสั้นอีก บ่นคัน ไม่ยอมนั่งสมาธิแล้ว คิดว่า ต้องหาวิธีใหม่ให้เขานะค่ะ เลยคิดว่า มาทางหลวงพ่อเทียนถูกหรือเปล่าคะ

    3. แล้วเป็นการสมถะหรือ เจริญสติคะ

    พอจะมีวัดใน กทม. ที่ปรึกษาได้หรือเปล่า คะ (เข้าคอร์สค้างคืนไม่ได้ค่ะ เพราะลูกชายยังเล็ก และแม่ก็ไปค้างไม่ได้ด้วย งานเยอะค่ะ)

    เปรียบเทียบอย่างนี้ครับ จากประสพการณ์การฝึกของตนเองที่ได้ทดลองทำดูทุกสาย

    1 การเจริญสติ ไม่ต้องใช้คำภาวนาครับ ใช้การจับความรู้สึกจากอาการต่างๆที่เกิดขึ้น
    กับร่างกายของเรา เช่น ตรงนี้ปวด ให้ภาวนาว่า ปวดหนอ โดยใช้สติคิดตามว่ามันปวดจริง
    ซึ่งถ้าเราคิดในสมาธิก็คือ การวิปัสสนานั่นเอง แต่ถ้าไม่ได้ทำสมาธิ แล้วคิดอย่างนี้อยู่นอก
    สมาธิ จะเรียกว่าการเจริญสติ ครับ
    สรุปก็คือ ไม่ต้องบริกรรมครับให้คิดตามอย่างเดียว แต่ถ้าคุณยกคำบริกรรม ขึ้นมา มันจะเป็นการญาณขั้นที่หนึ่ง แต่คิดพิจารณา คือญาณขั้นที่สองครับ โดยต้องทิ้งคำภาวนาให้หมด

    2 เด็กอายุแค่ หกขวบ แต่สามารถนั่งสมาธิได้ ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆครับ เพราะว่าเขาเกิดอาการคันยุบยิบทั่วร่างกาย จนจะแทบทนไม่ได้ เรียกว่า อาการที่เกิดจากปิติ หรือผู้ที่
    สามารถจะเข้าญาณสามได้ หายคันเมื่อไหร่ก็เข้าได้ครับ
    สรุป เด็กไม่ต้องบริกรรมก็สามารถเข้าญาณได้ครับ เพราะจิตใจเค้าบริสุทธิ์กว่าผู้ใหญ่ที่ทะเลาะกันไปทะเลาะกันมา โดยคิดว่า ทางของเราดีกว่าของคนอื่น หากจะมัวเถียงกันอยู่ ให้แข่งกันปฎิบัติจะดีกว่าไหมครับ
    สุดท้ายให้บอกเค้าว่า ถ้าเค้านั่งสมาธิแล้วรู้สึกเป็นสุข แสดงว่าเค้าถึงญาณสี่แล้วครับ
    ก็คงอีกไม่นาน ถ้าเค้ายังทำอยู่ แต่ถ้าเค้าไม่อยากทำจริงๆ แนะนำให้ฝึกเพ่งกสิณจะสนุกกว่า แล้วก็ตรงตามจริตของเด็กด้วย แต่ไม่แนะนำให้เค้าเจริญสตินะครับ เพราะมันยาก
    เกินไป

    3 การทำสมถะ คือนิ่งครับ ทุกอย่างที่ทำแล้วนิ่ง ยกเป็นสมถะทั้ง แต่ที่ทำแล้วฝึกได้ไวมีอยู่ทั้งสิ้น 40 อย่าง
    และการพิจารณาของหลวงปู่เทียน คือ การเจริญสติ นั่นก็คือ การทำวิปัสสนานั่นเอง แต่จะเรียก การเจริญสติ ในขณะที่ไม่ได้ทำสมาธิ และหากการเจริญสตินั้น ทำในขณะทำสมาธิ จะเรียกว่า วิปัสสนา นั่นเอง
    สรุป ก็คือ การเจริญสติคือวิปัสสนาอย่างอ่อนนั่นเอง
     
  12. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    ลูกยังเด็กอยู่ ยังไงก็เอาให้ได้สองข้อหลักนี้ก่อน คือ ละชั่ว กับ ทำดี (แม้ผู้ใหญ่ยังทำได้ยากเลย)

    เรียนรู้กฏแห่งกรรมไปเรื่อยๆ เห็นโทษ เห็นคุณ สั่งสมอุปนิสัย ทำกายวาจาให้สะอาด

    เค้าจะซึมซับมีหลักของตนเอง รู้จักศีลรู้จักสติ รู้จักสิ่งใดดีชั่ว มีหลักในสัมมาทิฏฐิ

    จนเห็นภัยในวัฏฏะต่อการเวียนว่ายตายเกิด

    พอเค้าสร้างฐานสองข้อหลักมั่นคงดีแล้ว พอโตขึ้นมาหน่อยการภาวนาจะง่ายขึ้น
    ในข้อ การทำใจให้บริสุทธิ์ นั่นหากเพราะเค้ารู้จักกองทุกข์
    พอที่จะจะเบื่อหน่าย มีวุฒิภาวะทางจิตที่เติบโตไปพร้อมกับการเห็นโลก

    เพราะสมัยนี้หากฐานไม่แน่นพอ จับมาภาวนาทั้งที่ยังไม่มีหลัก โตขึ้นมาจะเป๋เอาได้ เสียกาล

    เช่น วัตถุนิยม เทคโนโลยีต่างๆ การคบเพื่อนหญิงชาย
    เพราะเดี๋ยวก็ต้องเข้าเรียนหนังสือ สร้างอนาคต ในจะภัยต่างๆ ไม่แน่ว่าอาจจะลืมไปเลยลมหายใจ ความรู้สึกตัว

    ไม่ต้องรีบร้อนภาวนาตั้งแต่อายุหกขวบเจ็ดขวบหรอก โดยที่ยังไม่มีหลัก (หากทำได้จริงก็ดีไป)

    แต่หากเอาไว้โม้ ตอนโตว่าเคยภาวนาตั้งแต่เด็ก จะเป็นการปูทางสร้างทิฏฐิอัตตาให้กับลูกน่ะสิ

    ครูบาอาจารย์บางท่าน ที่ท่านสำเร็จแล้ว ประวัติท่านก็ไม่เห็นพิสดารอะไรมากมาย

    ใช้ชีวิตทางโลกมาอย่างโชกโชน เห็นทุกข์มามาก บางท่านแม่ขอร้องให้บวช

    ก็บวชพอเป็นพิธีตามประเพณีเพื่อทดแทนคุณ อยู่ไปอยู่มาทราบซึ้งจากการ

    ได้ศึกษาพุทธประวัติพุทธสาวก จนไม่ยอมสึก
    เพราะเห็นโทษภัยต่อการเวียนว่ายตายเกิด จึงปฏิบัติภาวนาเพื่อหลุดพ้น
    จนสำเร็จรู้แจ้งโลก รู้แจ้งธรรม อย่างนี้ก็มี

    แต่นั่น ก็แล้วแต่กรรมของแต่ละบุคคล ทางที่จะเดินย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว ตามแต่จะพิจารณา

    เพราะเชื่อว่าผู้ปกครองกำลังส่งเสริมไปในทางที่ดี ตามกาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 พฤษภาคม 2013
  13. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    ขอบคุณค่ะ ที่แนะนำ ก่อนตั้งกระทู้ พอดี serch หาในเนตให้แน่ใจอีกที ปรากฎ มีคำว่า ติง-นิ่ง เขียนออกมา ทำให้ตกลงกลายเป็นว่า ต้องบริกรรมหรือ เลยตัดสินใจตั้งกระทู้ถามน่าเร็วว่า (บวกกับถามสถานที่ฝึกด้วยในกระทู้เดียวกัน)

    คิดเหมือนกันนะค่ะ เพราะญาติธรรมคนแรกเคยสอนว่า เด็กสามารถตัดนิวรณ์ได้ดีกว่าผู้ใหญ่อีกหลายๆคน
    (ต้องบอกว่า แรกๆ นั่งด้วยความที่แม่รำคาญที่เขาซน ตอน 4 ขวบ ตอนนั้นเขาดูสนุกๆ แต่แม่ให้เขาเลิกนั่งไป ไม่ได้นั่งสมาธิ แค่ขอนั่งหลับตา ไม่ได้บริกรรมอะไรทั้งสิ้น สุดท้าย กลายเป็นแม่เสียเองที่นั่งเพราะดันนั่งสมาธิเล่นๆ พร้อมลูก ไม่กี่วัน แล้วเกิดปิติแต่ไม่ทราบ จนปิติ 2 เลยซักสงสัย พระท่านเลยบอกอย่าทิ้งนะเสียดาย ยังเสียดายแทนที่พ่อเขาทิ้งเพราะกลัวนิมิตร ไม่ปฎิบัติต่อ)
    อาการปิติ/นิมิตร/ฌาณ ถ้าเกิดขึ้น คิดว่า เรายังไม่ได้คาดหวังอะไร หรือถ้าเกิดจริงๆ ยังพอมีพระ/ญาติธรรมที่ปรึกษาหลายท่านอยู่ค่ะ


    หากจะมัวเถียงกันอยู่ ให้แข่งกันปฎิบัติจะดีกว่าไหมครับ
    -ถูกต้องค่ะ
     
  14. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    -ไม่ได้ปลูกฝังลูกเพื่อโม้ค่ะ หรือสร้างทิฐิอัตตาค่ะ แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
    -แค่เพียงคำถาม สายหลวงพ่อเทียน แต่พลาดที่ดันไปเขียนเรื่องอายุลูก ไม่เข้าใจ อ่านตรงนี้ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2013
  15. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    กรณี คุณนิวรณ์ ที่ช่วยกรุณาสละเวลาตอบกระทู้ ขออนุโมทนาค่ะ

    -ทุตติยัมปิ/ตติยัมปิ ได้ค่ะ ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจ คิดว่าเขียนเยอะแล้ว
     
  16. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    คนมีลูกนี่ก็ทุกข์เนอะ อนิจจัง
     
  17. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ^ทุกข์ทั้งนั้นครับพี่แอค
     
  18. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    ต้องแน่ล่ะ เพราะจิตตินนท์มารับรอง ว่าทุกข์จริง ^

    ว่ากันปาย..ตามหน้าที่ ทิศ6
     
  19. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
    เด็ก 6-7 ขวบ เป็นพระอรหันต์ก็เยอะคร้บ คือเค้าฝึกจนเต็มมาในชาติที่แล้ว ชาตินี้ก็จะทำได้เหมือนเดิม ปล่อยให้ฝึกต่อไปเถอะครับ ถ้าเค้าชอบ หาเทปสวดมนต์ หรือเทปดนตรี หรือเทปธรรมะแบบวิปัสสนา เปิดให้เค้าฟังถ้าเค้ารู้เรื่อง เค้าจะปฎิบัติเองครับ แต่ขั้นแรกเค้าจะทำตามที่พ่อแม่ทำครับ ที่สำคัญอย่าปรามาสว่าเป็นเด็กเด็ดขาด ปาปกรรม อนุโมทนาสาธุดีกว่า
    ผม หกเจ็ด ขวบ ก็รู้ผิดชอบชั่วดีแล้วครับ รู้จักนั่งสมาธิเองด้วย ทำตามยาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...