" หลวงพ่อกล้วย" พระผู้เลิศด้วย "บุญญาภินิหาร" ที่ยังทรงธาตขันธ์อยู่

ไปบวชศึกษาธรรมกับหลวงพ่ออยู่ 5 เดือน คำสอนหลวงพ่อฟังง่ายเข้าใจง่าย ท่านเมตรตากับทุกคน

 

..." ตอบ คุณ พิพัฒน์ "........(ขอตอบเป็น การส่วนรวม จะมีประโยชน์ กับผู้อ่านท่านอื่นนะครับ)......... ..ผมเอง ไม่ปรากฏ ว่าหลวงพ่อ ท่าน จะ ทำพระเครื่อง เเต่หาก ท่านใด มีข้อมูลเพิ่ม ...........เติมมากกว่านี้ ก็ เล่า ให้กันรับรู้ เป็น ธรรม ทาน ครับ............ผม โมทนา ด้วยที่ อ่าน ครั้งเเรก ก็ ศรัทธา องค์ ท่าน.........

 

"ช่วง สงกรานต์ ถ้า ท่านผ่านไปขอนเเก่น เชิญ ทุกท่าน เเวะสงน้ำ พระ บรมสารีริกธาตุ ที่ วัดหลวงพ่อ ท่าน ครับ"

 

.......... หลวง พ่อท่าน จะทานทรัพย์ ที่ ญาติโยม ถวายมา ในการ ......."ไถ่ชีวิตโคกระบือ" ....."ทานเเด่คนเเก่ ที่ยากไร้".....ซึ่งเป็นงาน ใหญ่ระดับจังหวัด ทั้ง ผู้ใหญ่ฝ่ายปกครอง บ้านเมือง เช่นทางจังหวัด......ทาง อบจ........อีกทั้ง ท่านยัง ช่วยสร้างโรงพยาบาลเเละ ซื้อ ....เครื่องมือเเพทย์....ปีละนับสิบล้านบาท......นับว่าท่านเป็นร่มโพธิ์ ร่มไทร ....เเก่ พุทธ ศาสนิกชนอย่าง.......อย่างไม่มีประมาณ......

 

วันนึงเข้าไปในวัดคิดในใจว่าอยากเจอหลวงพ่อมาก เดินไปทางลัดเพื่อทำวัตรเย็นอยู่ดีๆ หลวงพ่อท่านเดินผ่านมาจากทางเดินลัดเล็กๆนั้นและถามว่ามาจากไหนค่ะ ทรุดลงกราบเลยค่ะปิติมากๆ

 

....... "พระรัตนตรัย เเละ เทวดาสงเคราะห์"..............เมื่อ สองสัปดาห์ ที่เเล้ว ผู้เขียน เเละ "คนที่บ้าน" ไป ธุระเรื่องที่ดินที่ขอนเเก่น...... ( อ. น้ำพอง ) เมื่อเสร็จธุระเเล้ว เวลาประมาณ 18.30 น ...เราปรึกษา กันว่า ....จะเอาถ่าน.. (ถ่านไม้กระสอบ ใหญ่ ....ที่ ลูกน้อง เผาเองเเละ ..มีน้ำใจฝากให้ ไปใช้ที่บ้าน)....ไปถวาย เป็นของสงฆ์ ไว้ที่โรงครัว ....ที่วัดป่าธรรม อุทยาน........เมื่อเรากราบ พระพุทธเจ้า ปางประสูตรเเล้ว........จึงเดิน เข้าไปที่โรงครัว.....;ว่าจะ ขอ ถวายถ่านไม้ไว้ในโรง ครัว " เพื่อ อานิสงส์.......ในกาลภายหน้า".......มีคุณพี่เเม่ชี เเละคุณ ป้า ที่เป็นโยม(อยู่ประจำที่วัด) ...ผู้อุทิศตนอยู่ งานครัว งานก่อสร้าง เเละ กิจ ทางพระศาสนาต่างๆที่คุณป้าจะทำใด้.......(คุณป้า ผู้มีรูปร่างบาง เเละยิ้ม อยู่เสมอ ผู้ไปที่วัดบ่อยๆ น่าจะพอนึกหน้า ท่านใด้) .......ทั้งคุณ พี่เเม่ชีเเละ คุณป้า กุลีกุจอ เอารถ เข็น ......มา เเล้วลากกระสอบถ่านลงจากรถ ...พลางบอกว่า " คุณ ไม่ต้องจับ นะเดี๋ยวเปื้อน "............พร้อม หันมาบอก.กับ ผู้เขียน ...... "คุณ รู้ไหมว่า วันนี้ เมื่อตอน กลางวัน ป้ากับเเม่ ชี พากัน ...เก็บเศษถ่าน ที่หล่น ตามโรงครัว เเละตาม กองไฟเเถวนี้ เอามาใช้.......ถ่าน หมดมาระยะหนึ่ง เเล้ว .....จะพากันออกไป ซื้อ ก็ ยังไม่มีจังหวะออกไป.....ป้าคิดว่า สงสัยเทวดาท่าน .. ดลใจพวก คุณ นะ".............เเล้วผู้เขียน จึง กล่าวขอบคุณ ลา ป้า พร้อม พี่เเม่ชี.........(ผู้เขียน บอกเเก่พี่เเม่ชีว่าจะ ใด้ เขียน เรื่อง "พระเดชพระคุณ หลวงพ่อท่าน"..ลงเวบนะ.........พี่เเม่ชีถาม ....ลงเวบอะไร ....ผู้เขียน จึงใด้บอกไปว่า เวบ .......พลังจิต......ครับ.....)

 

"เดินตาม หลวงพ่อ ไม่เห็นรอยเท้า" .........................................วันนี้ เเม่บ้าน จัดบ้าน....ค้นเจอ หนังสือ "มหัศจรรย์เเห่งบุญ"..........ที่ลูกศิษย์ ผู้ใกล้ชิด,,,,,, "พระเดชพระคุณ หลวงพ่อ กล้วย"............ใด้บันทึกเอาไว้ มีหลายสิบเรื่องที่..น่าสนใจ ....และผู้เขียน-ขอทะยอยนำมาลงเป็นระยะ นะครับ.....เเละ ขอ ย่อบางหัวข้อ เเต่จะไม่ เปลี่ยนเเปลง....เเละไม่ตัดหรือเติม เนื้อความ..............(เนื่องด้วยผู้เขียน พิมพ์ช้า มาก ส่วนใหญ่ ค่อยๆจิ้มเเป้นพิมพ์ เอานะครับ ....มีผู้ เสนอจะพิมพ์ ให้ทั้งหมด แต่ผู้เขียนจะขอ พิมพ์เอง เพราะจะใด้คิดไปด้วย เเละจะเป็นการฝึก พิมพ์ ไปในตัว)...................เรื่อง เเรก ..ลูก ศิษย์ ใกล้ชิดท่านหนึ่ง...เล่าเอาไว้ว่า........................"สมัยก่อน เวลาเดินตาม หลวงพ่อ กล้วย อยู่ที่วัด ขอนเเก่นหรืออยู่ที่ภู "ป่าไร่" ทุกครั้งที่เดินตามท่าน ......เราจะมอง ไม่เห็นรอยเท้าท่านเลย...เเม้ว่าท่าน ไส่รองเท้า หรือไม่ไส่ ....สมัยก่อนท่าน...เดินเท้าเปล่า..."ก็จะไม่เห็นรอยเท้าท่าน"...."ไม่รู้ตาฝาดหรือเปล่า ...."เพราะเห็นเหมือนกับว่า เท้าของท่านไม่ติดพื้น" ............(หน้า 39)

 

...................."ไป อล้าสก้า"............ โยม ใกล้ชิด หลวงพ่อท่านหนึ่ง เล่าเอาไว้ว่า........................"มีอยู่วันหนึ่ง ผมมีโอกาส โทรไป.....กราบนมัสการหลวงพ่อ .....เพื่อเรียนถาม ธรรมะ เมื่อสนทนาเสร็จ ก่อน วางสาย ท่านก็ถามผมว่า "จะไปไหนนะ จะไปอลาสก้าหรือ" (รัฐ อลาสก้า ประเทศ สหรัฐอเมริกา) ผมก็กราบเรียนท่าน ว่า "ครับ" หลังจากวางสาย ผมก็รู้สึกงงๆ เพราะเรื่องที่ผมจะไป อลาสก้า ผมไม่ใด้บอกใคร".........(หน้า 60)

 

" จิตส่งออก คิดถึงสาว ".............................มีลูกศิษย์ ท่านหนึ่งที่ วันหนึ่งใด้ ขับรถ ให้หลวงพ่อ ท่านนั่ง ไปด้วย บันทึกเอาไว้ว่า .................................." วันนั้น ขับรถให้หลวงพ่อนั่ง....จะไปที่ขอนเเก่น ขับออก จากวัดได้ประมาณ 7 -8 กิโล ก็นึกถึงแฟนเก่าที่เคยรัก เเละชอบพอกันตอนสมัยวัยร่น คิดถึงว่าเขาจะอยู่อย่างไร เป็นอย่างไรบ้างหนอ จิตมันปรุงความคิดไปสักพัก ทันใดนั้นหลวงพ่อท่านก็พูด สวนขึ้นมาทันทีว่า ...." คนบางคน คิดถึงเเต่ผู้สาวเนอะ " ..เท่านั้นเเหละ สติ ก็กลับมาอยู่กับปัจจุบัน เเละขับรถต่อไป "..........(หน้า 23).....

 

..." หวุดหวิด น๊อตเกือบหลุด"......................................................... ลูกศิษย์ บันทึกเอาไว้ว่า "หลังจากใด้อยู่ช่วยงานหลวงพ่อ ใด้พักใหญ่" ....ก็มีเหตุที่สังเกตุใด้ว่า "เวลาท่านให้เงินไปเติมน้ำมั้นเเต่ ละครั้ง จะเติมใด้เต็มถังพอดี ทุกๆ ครั้ง" ..................." แม้กระทั่ง เวลานำรถไปซ่อม เปลี่ยนเเบตเตอรี่ เช็คเครื่อง ท่านให้เงิน ไปเท่าไหร่ ช่างซ่อมจะบอกราคาค่า ซ่อมใด้พอดีกับเงิน ที่ท่านให้ไป สร้างความมหัศจรรย์ ใด้ทุกครั้ง..... " มีอยู่ครั้ง หนึ่ง นำรถไปซ่อม ซ่างซ่อมเกิดคิด ไม่ซื่อตรง ขันน๊อต เครื่อง ไว้ตัวเดียวหลวมๆ ในเครื่องยนต์ ด้วยความที่ผมสนิทกับช่างซ่อม ทันทีเมื่อขับรถกลับไปถึงวัด หลวงพ่อท่านเรียก ผม เข้า ไปหาท่านบอกว่า ให้เปิดรถ เเละเรียก มาดูน๊อต ...."น๊อตจะหลุดเเล้วเห็นไหม มันเหลือ น๊อตตัวเดียว " ....ถ้าขืนขับต่อไป น๊อตจะหลุด เเละทำให้เครื่องยนต์ พังใด้ ...จากนั้นหลวงพ่อเปลี่ยนไปซ่อมรถที่ร้านอื่นเเทน "............( หน้า 22 ).....

 

โมทนาสาธุ ชอบเรื่องเล่าในหนังสือ. มีโอกาสคงได้ไปกราบท่าน

 

รอคุณพงศ์มาเล่าอยู่นะครับ

 

ช่วงนี้ที่วัด "หลวงพ่อ" กำลังมีการก่อสร้างอาคาร เพิ่มเติม วันนี้ผู้เขียนพาครอบครัวไป "ถวายทานเเด่หลวงพ่อ" ใด้เห็นภาพอันน่าประทับใจคือ "หลวงพ่อท่าน " จะนั่งรับเเขก เเละเทศนา อยู่ข่างๆ ที่ กำลังก่อสร้าง ใด้เห็นความร่วมมือร่วมใจ ของพระเณร เเม่ชี โยมชายหญิง ทำงาน อย่างเเข็งขัน เเต่สงบ (เป็นภาพที่งามมาก)

เเล้วช่วงนี้จะมีผู้คนใกล้ไกล เดินทางมา ที่วัดท่านเป็นจำนวนมาก ทั้งมาพักปฎิบัติธรรม หรือเเวะกราบ "หลวงพ่อท่าน" ถ้าท่านใดมีโอกาส ไปขอนเเก่นถือโอกาสไปวัด "ธรรมอุทยาน" นะครับ ช่วงนี้กำลังก่อสร้างเพิ่มเติม จะใด้ ร่วมบุญ "วิหารทาน" อันเป็น "อามิสทาน " ที่เกิดอานิสงส์ สูงสุด "ในพระพุทธศาสนา"ครับ

 

... "ถ่ายรูปไม่ติด" (ขอนำเรื่องจากหนังสือ มหัศจรรย์เเห่งบุญ มาเล่าเพิ่มเติมนะครับ)

ในหนังสือของทางลูกศิษย์ บันทึกไว้ดังนี้ " สมัยก่อนมีหลายๆครั้ง ที่พากันถ่ายรูปหลวงพ่อเเล้วไม่ติด เพราะไม่ใด้ ขออนุญาตท่านก่อน"

" สมัยปี 41 หรือ 42 มีหม่อมท่านหนึ่ง เข้ามาถ่ายวีดีโอที่วัด หลวงพ่อก็ให้ถ่าย ถ่ายรูปที่อยู่ในวัดทั้งหมด ทีนี้ก็ถ่ายรูป หลวงพ่อ ด้วยเเต่ไม่ใด้ขออนุญาต ท่านก่อน พอถ่ายเสร็จเเล้ว เปิดดูภาพ สถานที่วัดที่ถ่ายมาเห็นชัดเจนหมดเลย เเต่ส่วนที่เป็น รูปหลวงพ่อมองไม่เห็นสักภาพเลย "

 

.."องค์ที่นั่งด้านหลังภาพล่าง คือ "พระเดชพระคุณหลวงพ่อ กล้วย " ....."พระพุทธรูป สามองค์ด้านหลังคือ พระพุทธรูปหยก ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เเละทรงพุทธลักษณะงดงาม มาก" .... " หลังพระพุทธรูปหยก เยื้องทางด้านขวา(ไม่ปรากฎในภาพ) คือ เจ้าเเม่กวนอิมหยกที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย"

......ภาพโยมผู้ชายด้านบน คือ ดร.วรภัทร ภู่เจริญ "ลูกศิษย์หลวงพ่อ " นักวิทยาศาสตร์แห่ง ...องค์การนาซ่า ....เเละวิทยากรบรรยายธรรม คอลัมนิสต์ เชิงธรรมปรัชญา ชื่อก้องของเมืองไทย

( รายละเอียดที่ผู้เขียนให้ใว้ อยากจะรบกวนท่าน nopphakan ท่านเป็นผู้ใกล้ชิดวัดเเห่งนี้ น่าจะให้รายละเอียดเพิ่ม เติมพร้อมรายนาม พระสงฆ์ ศิษย์หลวงพ่อในภาพ ตามที่ท่านจะเห็นว่าเหมาะสมนะครับ)

 

ขอบคุณ คุณพงศ์ภูพาน ที่ให้เกียรติมาเล่านะครับ..ผมเกรงใจครับเรียกน้องก็ได้ครับ.
ผมก็แค่คนธรรมดาที่แวะไปกวาดถนนภายในวัดบ้าง.ว่างๆก็ไปช่วยงานก่อสร้างบ้างตามแต่จังหวะและโอกาส
ที่เคยได้รับเมตตาจากหลวงพ่อท่านสอนสมาธิและแนะนำเรื่องการสัมผัสภพภูมิมาบ้าง.หากจะนับว่าเป็นลูกศิษย์ท่านและวัดความสามารถ.
ถ้ามายืนเรียงแถวต่อกันคงต้องใช้กล้องส่องทางไกลถึงจะมองเห็นผมครับ.
จากภาพถ่ายที่เห็นนะครับ.ท่านที่ยังจำพรรษาอยู่ที่วัดมี ๔ ท่านคือ แถวหลังจากซ้ายมือเรา.องค์ที่ ๒ ถามเรื่องปริยัตได้ครับ.
และองค์ที่ ๔ องค์นี้ถามเรื่องสมาธิสำหรับท่านที่สัมผัสภพภูมิได้.
อีกสองท่านคือแถวหน้าจากซ้ายองค์ที่ ๕ คือหลวงพี่ต้า
หลายท่านอาจคิดว่าท่านเป็นเณรนะครับหากดูจากภายนอก.ท่านเป็น รองเจ้าอาวาส.
ท่านคอยอำนวยความสะดวกและรับสังฆทานเช่นเดียวกันองค์ที่ ๗ ทั้งสองท่านสอนและแนะนำตามแนวที่หลวงพ่อท่านสอนบุคคลทั่วๆไป.

ส่วนอีกท่านที่ยังอยู่แต่ไม่มีในภาพที่เรียกว่าใกล้ชิดกับท่านอีกองค์ที่เคยทำหน้าที่
จับอสูรกาย ๒ ตนกำกับไว้ในหม้อและเคยถูกส่งไปอยู่วัดที่เจ้าที่แรงๆอีกท่านไม่มีในภาพ...ช่วงนั้นวัดจะดังเรื่องเสียงลูกมะพร้าวตก.ทั้งๆที่ในวัดไม่มีต้นมะพร้าว.
ช่วงนั้นอสูรกาย ๒ ตนนี้มาอาละวาดหลอกพระกลางวันแสกๆ.และทั้งหลอกและรบกวนฆารวาสช่วงที่หลวงพ่อท่านไปสร้างหลวงปู่ใหญ่ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
เป็น ๑ ใน ๔ ท่าน(อีกท่านคือ องค์ที่ ๔ แถวหลังจากซ้าย)และอีกท่านคือหลวงตาเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน.และพระเกจิอีกท่าน.
.ส่วนลูกศิษย์รุ่นแรกๆสมัยที่หลวงพ่อท่านเคร่งๆ.ตอนนี้เป็นพระเกจิไป
จำพรรษาวัดอื่น และบางท่านก็จำพรรษาอยู่ในวัดป่าบนภูเขาก็มี

.ไปล่าสุดพบว่าหลวงตาอีกท่าน
ที่เก่งๆสมาธิอีกท่าน.ที่เคยเป็นอดีตผู้รับเหมาและคนขับรถให้หลวงพ่อช่วง
ที่ท่านสร้างหลวงปู่ใหญ่ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธ์ ได้กลับมาจำพรรษาที่วัดแล้ว.องค์นี้เข้าฌาน ๔ ได้ภายในเวลาไม่ถึง ๕ นาทีและยังมีประสบการณ์เรื่องอัศจรรย์ที่ประสบกับตัวเองช่วงที่ยังเป็นคนขับรถให้หลวงพ่อ
เหตุที่ได้บวชเพราะหลวงพ่อท่านเคยบอกให้บวชแล้วแต่ว่ายังไม่บวชในเวลาที่หลวงพ่อท่านได้กล่าวไว้
(ปกติพระทุกรูปที่มาบวชแล้วจะศึก.จะถามหลวงพ่อทุกท่านว่าจะสึกได้หรือยัง...แม้แต่ฆารวาสที่จะมาบวชและจำพรรษาที่วัดหลวงพ่อท่านจะบอกเองว่าบวชได้หรือยัง เกือบทุกรูปที่สึกก่อนที่หลวงพ่อท่านได้กล่าวออกไปแล้วมักจะเจอกับเหตุการณ์ไม่ดีกับตัวเอง)
หลังจากนั้นป่วยเข้าโรงพยาบาลจนเกือบเสียชีวิต.ในช่วงนั้นท่านเลยได้ไปทัวนรก.
ได้พบทั้งฆารวาสและคนใส่ชุดนักบวชอยู่ในนรกมากมาย
หลังจากนั้นมีชายชุดขาวมาช่วย.พาไปเที่ยวสวรรค์เป็นส่วนหนึ่งที่ท่านบวชยังไม่สึกในทุกวันนี้.
.ประสบการช่วงที่ท่านเป็นฆารวาส.เช่น เจ้าของโรงงานทำหินอ่อนที่สระบุรีท่านหนึ่ง.อยู่ดีๆเกิด ขับรถหลงทางทั้งๆที่เป็นเขตบ้านตัวเอง
.แล้วมาเห็นพระหลวงปู่ใหญ่ เลยแวะเข้ามาดูตอนนั้นหลวงพ่อกับหลวงตา(ตอนนั้นฆารวาส)กำลังต้องการหินอ่อนสีชมพูประมาณ ๑๑ รถบรรทุก.
ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญว่ามีคนมาสั่งตัดหินอ่อนกับเจ้าของ
โรงงานคนนี้เป็นจำนวน ๑๑ รถบรรทุกสิบล้อพอดี.แต่ยังไม่มารับของหลังจากเวลาผ่านมาแล้ว ๖ เดือน.ภายหลังเจ้าของโรงงานท่านนี้ก็ได้ถวายหินอ่อนทั้งหมด
กับหลวงพ่อ และยังชักชวนเพื่อนอีกคนหนึ่งเป็นเจ้าของบริษัทรับเหมารายใหญ่เหมือนกัน
ที่ได้ส่งวัสดุก่อสร้างมาที่วัดตลอดโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆเลยจนงานก่อสร้างแล้วเสร็จจนหลวงพ่อต้องได้ให้คนไปตามมาพบหลวงพ่อ.
ปล.เรื่องต่อไปนี้เป็นปัจจัตตัง ควรฟังหูไว้หูนะครับ..
ไหนๆเล่าแล้วขอพูดถึงทางภพภูมิบ้าง..ขนาดของพระหยกสีขาวเป็นขนาดเท่าองค์จริง
ของพระปัจจักเจกพุทธเจ้าในเขตที่ไม่มีการเกิด..และขนาดเจ้าแม่กวนอิม ก็เป็นขนาดพระวรกายจริงๆของท่านในบางเขตในส่วนภพภูมิ.

.และหน้าพระหยกสีขาวจะมีพวงมาลัย
พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ส่วนด้านขวาของภาพย้อน
ขึ้นมาประมาณ ๒o เมตรจะเป็นพระบรมสารีริกธุาตและพระอัฐิธุาตของพระอรหันต์หลายๆ
ท่านที่ได้พระราชทานมาจากสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน ส่วนหน้าพระหยกทั้งสององค์
เป็นรูปเหมือนขนาดเท่าองค์จริงหลวงพ่อครับ...
ปล.ที่เล่าให้ฟังมาทั้งหมดเป็นประสบการณ์ทางสมาธิบางส่วน.และเรื่องราว
ที่ผู้เขียนได้เห็น และได้ยินมากับหูจากพระรูปที่ท่านที่ถ่ายทอดให้ฟังด้วยตัวเอง
ซึ่งแต่ละท่านประสบด้วยตัวเองและอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ.
.ผู้เขียนมิได้เพิ่มเติมใดๆหรือตกแต่งใดๆขึ้นมา.
แต่ได้ลดรายละเอียดปลีกย่อยลงบ้างเล็กน้อยเพื่อความกระชับ..
หากผิดพลาดประการใด.ในการถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ
ผู้เขียนขอขออโหสิกรรมต่อพระปัจจเจกพุทธเจ้า เจ้าแม่กวนอิม.
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเทพเทวดา ทั้งหลายและพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้องทุกท่านที่ผู้เขียนได้กล่าวถึง
ได้โปรดอดโทษและอโหสิกรรมให้ผู้เขียนมา ณ ที่นี้ด้วย สาธุครับ​

 

...ขอ "อภิโมทนา" ในการกุศลกรรมทุกๆประการของท่าน "nopphakan" ครับ .....

ประสบการณ์โดยตรง อย่างนี้หากฟังไม่ง่ายเลย เป็นประโยชน์ น่ารับฟังน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ...."เป็นสุดยอดธรรมทาน" ครับ

 

สำหรับผู้สนใจไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าธรรมอุทยาน​

- ที่ต้องมีพิเศษคือ ไฟฉาย,ยากันยุง และเตรียมใจไว้สำหรับใครที่ขี้กลัว คือ วันแรกทำวัตรเสร็จท่านให้เข้าป่าช้าทุกคนค่ะ(ทีละคน)
-อาหารมีตลอดที่โรงทานค่ะ หรือตอนกลางวันมีร้านค้าขายกับข้าว ของกินทั่วไปค่ะ
- เวลาปฏิบัติ(สำหรับคฤหัสถ์) ท่านไม่กำหนดตายตัวค่ะ ปฏิบัติได้ตามอัธยาศัย
-ตอนเช้าประมาน6.00ใครอยากไปถือของบิณฑบาตรกับพระก็ได้ค่ะ โดยเอาถังสีขาวไปแล้วเดินตามพระ(ผู้หญิงก็ไปได้)
-ทำวัตรเช้าประมานตีสาม ทำวัตรเย็นประมานห้าโมง
ประมานสองสามทุ่มพระท่านจะเริ่มปิดไฟหมด (มืดและสงัดมาก)
ใครอยากไปนั่งสมาธิในป่าช้าก็ได้ค่ะ (ตามอัธยาศัย)อิอิ
- ที่พัก มีห้องแถวรวม(ถ้าว่าง) มีเต้นให้มีหลายสถานที่ให้เลือกกาง ข้างเมรุก็ได้ ในเมรุก็ได้ ข้างหลุมศพก็ได้ แต่ระวังเกะกะทาง"เค้า"(อิอิ)
ข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัยค่ะ หนูอยู่แถวนั้น ใครสนใจจะไปหรืออยากทราบรายละเอียดก่อน ติดต่อหนูได้ค่ะ อนุโมทนาค่ะ

 

เคยไปวัดหลวงพ่อกล้วย...


มีเพื่อนสนิทอยู่ที่ขอนแก่น .. ตอนนั้นบอกเพื่อนว่าอยากปฎิบัติธรรม
เพื่อนเลยบอกว่า ไปวัดหลวงพ่อกล้วยมั้ย เพื่อนก็พาไปดูสถานที่
เพราะแม่ของเพื่อนคนนี้ ศรัทธาหลวงพ่อกล้วยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ผลคือ..... กลัวตั้งแต่หน้าประตู.... กลัวจริงๆ
กลัวรูปปั้นตรงหน้าประตู... แหะ แหะ
แต่ผ่านประตูเข้าไปแล้ว รู้สึกว่าเงียบสงบ ร่มรื่น แต่ลึกลับเพราะต้นไม้เยอะ

แล้วเพื่อนก็พาเดินดู ภายในวัด ซึ่งก็เดินไม่ไกลมาก
ไปหยุดตรงศาลา ที่มีพระบรมสารีริกธาตุ ... แล้วก็กลับ

ด้วยความที่ไม่คุ้นสถานที่ และทางเข้ามีแต่ต้นไม้ ไม่รู้ว่าทางที่เดินไป จะเดินไปถึงไหน
เพื่อนก็บอกจะพาเดินเข้าไป แต่เราบอกไม่เอาแล้ว กลับกันเถอะ...
ก็ไม่ได้ไปพบหลวงพ่อกล้วย เพราะตอนนั้น ไม่รู้จักว่าท่านเป็นใคร

สรุป ก็ไม่ได้ไปปฏิบัติธรรม ตามที่พูดไว้...


และ ......สุดท้ายก็ได้ไปพบกับหลวงพ่อกล้วย เพราะ เราบอกเพื่อนว่าอยากไปทำสังฆทานเพื่อนคนเดิมก็โอเค .. ไปซื้อข้าวของ กันสองคน และ เพื่อนก็โทรบอกแม่ ว่าจะไปวัดหลวงพ่อกล้วย .. และแม่ก็ไปด้วย

ถวายสังฆทานเสร็จแล้วก็ นั่งฟัง แม่คุยกับหลวงพ่อ ซักพักก็ลากลับ จากวันนั้นถึงตอนนี้ก็หลายปีแล้ว

จนวันนึงหลับฝันไป ... ฝันว่าเดินสวน กับพระรูปนึงเหมือนจะคุ้นๆ คล้ายๆจะเคยเห็น

ตื่นมานึก พระรูปนั้นเป็นใครนึกไปนึกมา .. เหมือนหลวงพ่อกล้วยเลย น่าจะใช่!!!

หุหุ.........

 

... " พระเดชพระคุณหลวงพ่อกล้วย " ...โปรด "น้องสาวผู้เขียน" ...เมื่อ 30 มิถุนายน 2556.

....หลายปีมาเเล้ว ผู้เขียน ใด้บอกเเก่น้องสาว (ไม่ไช่น้องเเท้เเต่นับถือเกื้อกูล กับเสมอน้อง หลายโอกาส เธอจะหา มาลัยมาไหว้) ...ว่าหากมีโอกาสผ่านวัด "หลวงพ่อ"
ให้เข้าไปกราบพระทำบุญที่วัดของท่านด้วย

น้องสาวเล่าให้ฟังว่าเมื่อ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา "เธอเเละสามี " ใด้ตั้งใจเดินทางไปกราบ "พระหยก" เเละถวายทาน ที่วัดป่า "ธรรมอุทยาน " จ . ขอนเเก่น เมื่อกราบพระหยก หยอดตู้บริจาคภายในวัด เเล้วจึงเดินไป ..."กราบขอพร หลวงพ่อขาว" ....(พระประธาน หน้าตัก 7 เมตร องค์ที่เลื่องลือว่า ผู้คน "กราบขอพรจากท่าน" เเล้วประสบผล ดังปรารถนามา มาเเล้วมากมาย)...