พลังที่ส่งผลให้ เจ้าสัวธนินท์ (เครือซีพี) นั้นยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย โทรจิต, 5 ตุลาคม 2010.

  1. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701
    สุดยอดของอภิมหาความร่ำรวย คือความร่ำรวยในอริยทรัพย์
     
  2. ปลาแมว

    ปลาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +797
    ผมอยากจะขอเสริมว่า กลุ่มซีพีคือเครือข่ายธุรกิจที่เขี้ยวที่สุด การทำบุญก็เรื่องนึง แต่แนวคิดการทำธุรกิจที่บั้นปลายคือการผูกขาดทุกสิ่ง (ภายใต้หลายชื่อ หลายบุคคล และหลายองค์กร) นั่นก็เป็นอีกเรื่องนึงครับ

    ไม่เถียงว่าเค้าเก่ง แต่ถามว่าโครงการคืนกำไรให้สังคมทั้งหลายแหล่สุดท้ายก็ตั้งบนฐานผลประโยชน์ล้วน ๆ บอกเลยว่าไม่มีอะไรที่องค์กรอย่างซีพีหว่านพืชโดยไม่หวังผล ทุกการกระทำหวังผลหมดครับ หวังมากด้วย

    จะบอกว่าผมมองโลกในแง่ร้ายก็ได้ แต่เงินทำบุญเยอะ ๆ ไม่ใช่คำตอบของการลบล้างการกระทำเลวร้ายที่เหลือนะครับ ทุกอย่างเมื่อมีเกิดย่อมมีดับครับ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ บุคคลหรือแม้กระทั่งอาณาจักรใด ๆ ก็ตาม ผมเชื่อว่าจะได้เห็นองค์กรที่หน้าเนื้อใจเสือแบบนี้ล่มสลายก่อนผมตายครับ
     
  3. pitarang

    pitarang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +26
    กรรมชั่ว ไม่กระทำเสียเลยจะดีกว่า
     
  4. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860

    แหม....เพ่ๆ อย่าเชียร์


    เดี๋ยว Nirvana ติดอันดับ Top Ten ในลีกค์นี้...5555555555:cool::cool:

    ปล. พูดเล่นแก้เครียดประจำวีน ครับ...ไม่มีไร (f)
     
  5. อสุนีบาต

    อสุนีบาต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +237
    ฮู้ว์์ ไปว่าเขา
     
  6. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    นั่นดิ เกี่ยวไรกะเรานิ บุญเขามีมากกว่า บาปเขาก็อาจมีเยอะกว่า ไม่ใช่ผู้พิพากษานิ ทุกอย่างกรรมเขาจัดสรร ถามตัวเองเนาะ ... วันนี้ทำบุญหรือยัง
    ใจใสๆดีกว่า
     
  7. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    ชาตินี้ จาก ผลชาติที่แล้ว
    ชาติหน้า จาก ผลของชาตินี้

    อริยทรัพย์ ต่างหากที่นำพาติดตัวไปได้ เกิดตายจนกองกระดูกมากกว่าน้ำหนักของโลกใบนี้ ถ้าไม่ทิ้ง ทรัพย์ภายนอกมาหาทรัพย์ภายใน ก็จะมีกระดูกกองใหม่เพิ่มขึ้นๆ เรื่อยๆ ชาตินี้รวย ชาติต่อไป จน พิกลพิการ ไม่สมประกอบ ขึ้นชื่อว่า กินของเก่าหมด ไม่สะสมทุนทรัพย์ใหม่ เป็นแบบนี้ไป จนกว่าสัตว์นั้นจะหาทางออกจาก วัฏสงสารที่ ยืดยาวนานหาจุดจบ มิ ได้แล
     
  8. Thammasawasdee

    Thammasawasdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2013
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +869
    บุญใครบุญเขา บุญเรามั่นธรรม (ทำ) เอง

    ธรรมะสวัสดี :)

    ขออนุโมทนา สาธุจร้า

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  9. ปลาแมว

    ปลาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +797
    เออ รู้ครับ ว่าบุญใครก็บุญมัน บาปใครก็บาปมัน ไม่เกี่ยวกับผมหรอก กรรมจัดสรรเอง แต่อยากเสือกน่ะ ไม่พอใจก็ตามสบายครับ

    น่าแปลกที่การพูดความจริงกลับกลายเป็นว่าเป็นการต่อว่าเพราะอิจฉาบุญ หรอ?? คนคิดได้แค่นี้แม่งโลกแคบสุด ๆ ครับ คุณวัดคุณค่าคนที่อะไรครับ? เพียงเพราะไม่รวยเท่า บุญเริ่มต้นมาไม่เท่าจึงวิจารณ์คนบุญมากไม่ได้??
     
  10. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    จริงครับนาย ใช่ครับท่าน ทั้งบวกทั้งลบ ทำบุญลบล้างบาปหรือเปล่า
     
  11. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    แล้วท่านคิดว่าจะลบล้างได้ทันหรือเปล่า

    เพราะท่านเป็นจำเลยที่มีโจทก์วันหนึ่งเป็นแสนๆชีวิต
    ติดต่อกันมากี่ปี คูณกันก็นับไม่ไหวแล้ว

    แค่เป็ดไก่หมู เรียงหน้าไปฟ้องยมบาลก็แก้ต่างไม่จบกันไปหลายชาติแหละ ครับ
     
  12. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    อ้าว .. นี่คุณปลาแมวไม่พอใจอะไรรึเปล่าคะเนี่ย ดิฉันก็ออกความคิดเห็นไปงั้น เห็นว่ากระทู้ไปยกอาชีพของใครมาพูด (ซึ่งดิฉันก็ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว) เห็นว่ามันไม่เกี่ยวกับเรา แต่ไม่ได้ไม่พอใจหรือพอใจความเห็นไหน .. แต่มันคงไปทำให้คุณคิดว่าดิฉันไม่พอใจความคิดเห็นของคุณซะงั้น แต่ก็เออ ช่างเหอะ... งั้นก็ขอโทษด้วยนะที่ทำให้คุณเข้าใจผิด สงสัยดิฉันใช้ภาษาเขียนไม่เป็นอีกล่ะ
     
  13. noumthebest

    noumthebest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +306
    ผู้จัดการผมตอนสมัยเด็กๆ อายุซัก 8-10 ขวบเชือดคอไก่ ไม่ได้ทำเพราะความสนุกเเต่ทำเพราะจำเป็น โตมา ไม่นานมานี้โดนรถไฟชน ไม่ตาย ถัดมาอีก 2 เดือน โดนนักเลงกระทืบเอา ถามเเกบอกว่าเเก่ไม่เคยทำอะไรผิดนะ สวมมนต์ทุกวัน มีโอกาสทำบุญที่วัดประจำ เเกไม่มีเมียด้วย ไม่ได้บ้าเรื่องพวกนี้ เเต่เเกจำได้ที่เเกซวยก็เพราะเมื่อก่อนเเกไปเชือดคอไก่นี่เเหละหลายตัวเลย ก็ลองไปคิดๆกันดูนะ
     
  14. noumthebest

    noumthebest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +306
    เดินไปเหยียบมดตาย ต้องใช้เงินกี่เเสนล้านเหรียญ เอาทองทั้งหมดในโลกนี้ เอาบ่อน้ำมันทั้งหมดในโลกนี้ รวมตีเป็นมูลค่าคงมหาศาลอยู่มากมาย เเต่มันทำให้มดกลับมามีชีวิตได้หรือเปล่าหละ
     
  15. ปลาแมว

    ปลาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +797
    ผมว่ามันเป็นคนละเรื่องกันครับ แน่นอนว่าวัน ๆ นึงมีมดโดนเหยียบตายมากมาย แต่คนทุกคนเหยียบมีเจตนาให้มดตายหรือไม่ครับ? แล้วมีการค้ากำไรจากซากศพของมดหรือไม่ครับ?

    กรณีของซีพีและฟาร์มเพาะสัตว์หรือโรงฆ่าสัตว์ต่าง ๆ นั้น การฆ่าสัตว์ไม่ว่าจะหมู ไก่ เป็ด นั้น ทุกตัวที่ถูกฆ่าไปนั้นมีเจตนาในการฆ่าชัดเจนครับ และเป็นการฆ่าเพื่อเจตนาทำกำไรจากสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นด้วย

    ในสมัยโบราณ การฆ่าเนื้อสัตว์เพื่อยังชีพนั้น มันคือเพื่อการยังชีพจริง ๆ ครับ แต่ในปัจจุบันทั้งซีพีและโรงฆ่าสัตว์อื่น ๆ ต่างก็ทำฟาร์มขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์เดียว คือทำกำไรจากการเลี้ยงและฆ่าสัตว์เหล่านั้น นอกจากการฆ่าตามปกติ สัตว์เหล่านั้นมักจะไม่ได้ถูกเลี้ยงดูในสภาพปกติ แต่ถูกเลี้ยงดูในแบบที่เพื่อกำไรสูงสุดเป็นหลัก ถูกตัดแต่งพันธุกรรมบ้าง เลี้ยงในที่มืดบ้าง (ตัวอ้วน ๆ ขนไม่มี ขาไม่แข็งแรง เดินไม่ได้ ฯลฯ)

    ลองดูวิดีโอเหล่านี้แล้วตอบได้มั้ยครับว่า หากเป็นเราต้องไปอยู่แบบนั้น เราจะยังอยากอยู่หรือไม่ เป็นเบื้องหลังไก่ KFC ครับ

    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/-rX-qnZgxhI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ผมเอง ก็เป็นคนที่ชอบกินเนื้อสัตว์ เป็นคนกิเลสหนาที่ยังติดในรสชาติเนื้อสัตว์อยู่ สิ่งที่ผมสื่อนั้นไม่ได้สื่อว่าผมเป็นคนธรรมะ ถือศีลกินเจหรือบริสุทธิ์อะไร หากไม่มีโรงฆ่าสัตว์เหล่านี้ ชีวิตผมคงลำบากกว่าปัจจุบันมาก เพราะผมคงออกล่าสัตว์ทุกวันเองไม่ได้ แต่ที่ผมจะบอกคือ วิถีของโรงฆ่าสัตว์เหล่านี้มันโหดร้ายเกินไป มันเกินความจำเป็นมามาก แค่นั้นครับ
     
  16. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    เอาไปสาม likeเลย
    :cool::cool::cool:
    แต่ถ้าไม่มีโรงฆ่าสัตว์ ชีวิตคุณไม่ลำบากหรอกครับ ผมอยากกินเจ กินมังฯ แต่ไม่มีขาย ชีวิตประจำวันก็ไม่มีเวลาจะมานั่งทำใส่กล่องใส่พก แยกช้อน แยกชาม ให้วุ่นวายคนทำคนจัด แม้จะมีอำนาจสั่งได้ ทำได้ ก็ไม่ทำครับ ก็ทำใจกินแบบพระ เจออะไรก็กิน ไม่มีก็หาอย่างอื่นกิน ถ้ามีที่กิน ลองดูสักสองสามอาทิตย์อาจติดใจนะ
     
  17. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    สาธุ กับจิตของท่านพูนด้วยที่คิด ลด ละ เลิก หันมาสนใจทานเจ ทานมัง ขอให้ท่านได้มีโอกาสได้ทานเจ ทานมัง ตลอดไปด้วยเถิด
     
  18. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    ความดีเท่านั้นจะช่วยให้พ้นมือแห่งกรรมร้ายได้ ผู้ที่เกิดมาดีมีสุขสมบูรณ์ในภพชาตินี้ ก็มิใช่ว่าไม่มีมืออกุศลกรรมตามตะครุบอยู่ มีแน่ ทุกคนมีมือแห่งอกุศลกรรมตามตะครุบอยู่

    แต่ในขณะเดียวกันทุกคนก็มีมือแห่งกุศลกรรมเป็นผู้ช่วย มือแห่งกุศลกรรมนั้น ถ้าจะเปรียบให้เห็นง่ายๆ ก็ต้องเปรียบกับเท้า มีมือผู้ร้ายติดตามตะครุบอยู่ จะหนีพ้นก็ต้องอาศัยเท้าพาวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ นั่นคือต้องทำบุญทำกุศลคุณงามความดีให้มากทีุ่สุด ให้เต็มสติปัญญาความสามารถเสมอ ความดีเท่านั้นจะช่วยให้พ้นมือแห่งกรรมได้ แม้จะพ้นอย่างหวุดหวิด ก็ต้องดีกว่าไม่พ้น

    ทุกคนไ้ด้ผ่านภพชาติมาแล้วนับไม่ถ้วน ยาวนานหนักหนา ฉะนั้นทุกคนต้องมีทั้งมือแห่งกุศลและอกุศลกรรมตามอยู่ และมีกันไม่น้อยด้วย กรรมดีกรรมชั่วสลับซับซ้อนกันอยู่ ทำให้เราต้องไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ต้องพยายามหนีผลกรรมไม่ดี เพราะเมื่อกรรมไม่ดีมาทันถึงตัวเมื่อไร ก็จะใช้อำนาจที่ร้ายแรงอย่างไม่เมตตาปราณีเลย..
     
  19. ญี่ปุ่น

    ญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +564
    ไม่มีธุรกิจใดที่ไม่เอาผลกำไรยิ่งรวยมากยิ่งเอากำไรมาก
    ขอแนะนำให้ๆผหาหนังจีนเรื่อง EMPIRE OF SILVER มาดูนะครับ หนังได้รับรางวัลด้วย
     
  20. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    เรื่องของพลังบุญนั้น ไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์ เป็นเรื่องจริงที่มีการพิสูจน์ กันมาเป็นพันๆ ปีแล้ว
    ในหลายพื้นที่ในโลกนี้เรียกต่างๆ กัน ในภาษาละตินเรียกว่าพลังชีวิต ( VIRS ) ภาษาจีน
    เรียกว่า “ชิ” หรือ “ชี่” หมายรวมถึง พลังกาย พลังใจ และพลังชีวิตรวมกัน

    แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่รู้จักพลังแห่งบุญนั้น ก็คงเป็นเรื่องน่าเศร้าใจ เช่นกัน อาจจะมีชีวิต
    ตั้งอยู่ในความประมาท จะเริ่มทำบุญก็ต่อเมื่อคิดว่าตัวเองมีเคราะห์หรือจะเริ่มโชคร้าย
    จึงเริ่มวิ่งพล่านไปสร้างโน่นสร้างนี่ ถวายเงิน ถวายทรัพย์สินกันที่โน่นที่นี่วุ่นวาย



    ชี่เป็นพลังชีวิต เป็นพลังปราณ แบ่งออกเป็นส่วนที่เกิดขึ้นมาพร้อมตัวเรา อยู่ครึ่งกระบังลมล่าง ครึ่งท่อนบนเป็นการสูดปราณ ได้จากการฝึกฝน....

    ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพลังบุญเลยครับ...

    ถ้าเราวัดบุญว่ามากน้อย จากตัวเลขทางบัญชี บิลเกต ก็ทำบุญมามากสินะ...มากกว่าครูบาบุญชุ่ม มากกว่า หลวงปู่มั่น มากกว่า หลวงพ่อทวด ที่ท่านเกิดมาในตระกูลทาส...
    ในทางเศรษฐศาสตร์ กำไรคือบุญ ขาดทุนคือบาป...
    ในทางพุทธศาสตร์ ล่ะ...ผมว่าทุกคนรู้อยู่แล้วนิ...

    เล่านิทานก่อนนอนให้ฟังหน่อยดีกว่า...
    สมัยที่พระนางบูเช็กเทียน ยังเป็นหญิงสาวชาวบ้าน หลวงจีนรูปหนึ่งมารับบิณฑบาตร...
    เธอทำบุญด้วยเงินเพียงไม่กี่อีแปะ...
    หลวงจีนสวดให้พรเป็นเวลานาน...อวยพรในบุญที่เธอทำ...

    วันที่เธอผู้นี้ได้ครองแผ่นดิน จึงได้นิมนต์หลวงจีนรูปเดิมมาเพื่อทำบุญอีก...
    ข้าวของประดามีมากมาย ทรัพย์สินเงินทอง ถวายให้ไม่อาจประมาณ...
    หลวงจีนรับบิณฑบาตรแล้วให้พรสั้นๆก็เดินจากไป...
    พระนางบูเช็กเทียน สงสัยมาก จึงถามท่านว่า สมัยนั้นเธอยากจน ถวายเงินเพียงไม่กี่อีแปะ พระคุณเจ้าสวดให้พรเป็นเวลานาน..
    แต่ครั้งนี้เธอเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ถวายทรัพย์สินมากมาย ทำไมพระคุณเจ้าจึงให้พรเพียงสั้นๆเท่านั้นเอง...

    เงินไม่กี่อีแปะถวายให้ยามที่ยังยากจนอยู่นั้น กำลังใจมากมาย ท่านจึงอวยพรและโมทนาอย่างยิ่ง...
    ทรัพย์สินเงินทองมากมายเมื่อยามมั่งมีอำนาจวาสนา กำลังใจที่ถวายนั้นกลับเทียบไม่ได้กับเมื่อครั้งนั้น....

    ที่ได้อ้างถึงนิทานเรื่องนี้ ก็เพื่อเป็นกำลังใจให้กับนักแสวงบุญทุกท่าน ในการบำเพ็ญบารมี แม้จะมีบ้าง บางครั้ง บางเรื่องราว จะทำให้จิตอันเป็นกุศลของทุกท่านไขว้เขวไปบ้าง ก็ขอให้นึกถึงนิทานเรื่องนี้ ขอให้รู้ว่า บุญบารมีไม่ได้วัดกันที่จำนวนเงินที่ทำบุญ แต่วัดกันที่กำลังใจที่ท่านทำลงไป


    วันที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าของเรา อธิษฐานขอเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกาลเบื้องหน้านั้น ท่านได้ถวาย เพียงเข็มหนึ่งเล่มกับด้ายอีกหน่อยหนึ่ง ร่วมกับสังฆทานของท่านเศรษฐี กำลังใจที่ยอมขายผ้านุ่งเก่าๆ เพื่อเอาไปซื้อเข็มด้ายมาถวายนั้น ยิ่งใหญ่กว่าทรัพย์ทั้งปวงที่เศรษฐีได้ถวายในครั้งนั้น และเป็นปฐมบทของการบำเพ็ญบารมีจนบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณดังที่ทุกท่านทราบอย่างดีแล้ว...

    สุดท้ายนี้...
    ขอท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้มีจิตใจอันไม่หวั่นไหว จงมีจิตใจอันตั้งมั่น แน่วแน่ มุ่งตรงต่อมรรคผล จนถึงที่สุด...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...