ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    แก้ไขในสิ่งที่ตัวเองก่อ..เรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองพลาด !!!

    [​IMG]

    ทั้งชื่อเสียงและคำชื่นชมใน IRON MAN 3 ทั้งหมดนั้นไม่ใช่เพียงแค่การสร้างกระแสหรือผลบุญเก่าจากซีรี่ยส์ก่อนๆ แต่เป็นเพราะในครั้งนี้ IRON MAN 3 สามารถทำหน้าที่ของการเป็นหนังที่สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมได้อย่างเต็มที่ และมันไม่ได้วางตัวเป็นแค่หนังแอคชั่นซุปเปอร์ฮีโร่ของฮอลีวู้ดเท่านั้น แต่มันยังเล่าเรื่องและนำเสนอในความเป็น IRON MAN ได้อย่างน่าสนใจ

    *เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง*

    ในมุมมองของผู้เขียนที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับ IRON MAN หรือซีรี่ยส์ซุเปอร์ฮีโร่อเมริกาแบบใกล้ชิดติดขอบ ก็รู้สึกได้ว่ามันเป็นหนังที่มีความบันเทิงสูง 2 ชั่วโมงที่ผ่านไปมีความเพลิดเพลินและบันเทิงในระดับที่น่าพึงพอใจ เรื่องราวเนื้อหาที่มีลูกเล่นพลิกแพลงและเทคนิคในการนำเสนอมากขึ้น แม้จะมีจุดผิดพลาดหรือช่องโหว่ที่น่าสงสัย แต่หนังก็สามารถรีบพาเราไปด้วยความสนุกสนานและรวดเร็ว โดยทำให้เราไม่รู้สึกถึงจุดโหว่เหล่านั้นขณะรับชม

    การเฉลยความจริงที่ซ่อนไว้ในเรื่องในสายตาของผู้ชมทั่วไป ก็ไม่ได้มีผบกระทบอะไรมากนัก เพราะเมื่อถึงจุดนั้น ผู้ชมเองก็ไม่ได้โฟกัสไปตรงจุดนั้นมากเท่าเดิมแล้ว รวมถึงการปูเรื่องที่หากเรามองดูดีๆ แล้วตัวละครอย่างแมนเดรินจะโดนลดความสำคัญของบทบาทลงรื่อย ๆ และบทบาทของด้านคิลเลี่ยนก็เพิ่มขึ้นมาแทน ทำให้การเปิดเผยความจริงนั้น ไม่หักโค้งหักศอกเกินไปจนผู้ชมรับไม่ได้

    สิ่งที่น่าสนใจก็คือการที่ MARVEL เลือกที่จะปกปิดตัวร้ายที่แท้จริงจากสายตาของผู้ชมนี้ ไม่ได้เป็นไปตามเนื้อหาตามต้นฉบับของหนังสือการ์ตูน เราไม่อาจรู้ได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นไปตามความต้องการของตัวผู้กำกับ (เขาเป็นผู้เขียนบทร่วมด้วย) ที่ต้องการจะแค่สร้างความแปลกใหม่ไม่จำเจให้กับเนื้อเรื่อง หรือต้องการนำเสนออะไรบางอย่าง ที่สอดแทรกอยู่ตามเหตุการณ์ในเนื้อเรื่อง หรือว่าเป็นความต้องการจากเบื้องบนที่ต้องการให้หนังเป็นเช่นนี้ เพื่อเป็นการปูพรมผู้ชมสำหรับอะไรบางอย่างก็เป็นได้

    กลับมาที่เนื้อหาของหนังกันต่อ มาใน IRON MAN 3 เนื้อเรื่องดำเนินไปด้วยความรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด เหตุการณ์เป็นชุด ๆ และข้อมูลเหตุการณ์ต่าง ๆ วิ่งเข้าไปอย่างไม่มีจุดและมีช่วงเวลาที่ผู้ชมได้พักได้ไม่มากเท่าไหร่นัก แต่ถึงกระนั้นการแบ่งจังหวะของเรื่องราว การสอดแทรกอารมณ์ขัน ก็ช่วยให้ผู้ชมไม่รู้สึกตึงจนเกินไป รวมถึงการใช้องค์ประกอบส่วนอื่น ๆ ช่วยในการเล่าเรื่องบางส่วนเพื่ออุดรูโหว่หรือข้อสงสัย อย่างเช่นบาดแผลบนใบหน้าของมายาที่สร้างขึ้นมาในจุดที่เด่นชัด (ในขณะที่ของเพ็พเพอร์จะไม่มีเลย เพื่อใช้ประโยชน์ในช่วงท้าย) เพื่อเป็นการตอบคำถามที่ไม่มีใครถามว่า เธอเองก็โดนทดลองด้วยหรือไม่

    ฉากแอคชั่นที่เป็นจุดขายในเรื่องนี้ ก็ยอมรับว่าทำออกมาได้น่าสนใจและสนุกสนาน การเพิ่มข้อจำกัดให้กับตัวละครในเรื่อง นอกจากจะทำให้ผู้ชมให้กำลังใจตัวละครในเรื่องมากขึ้นแล้ว มันยังสร้างความเป็นเอกลักษณ์และลูกเล่น ให้ฉากแอคชั่นนั้นแปลกใหม่และเป็นที่จดจำ อย่างฉากเกราะที่บินมาไม่ครบ ก็เป็นฉากที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ขันและมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ

    จุดเด่นหลักของ IRON MAN ก็คงไม่พ้นตัวของโทนี่ สตาร์ค มาในครั้งนี้หนังเองก็ได้เน้นที่โทนี่อย่างเห็นได้ชัด โดยในครั้งนี้ตัวหนังเองก็ใช้ประโยชน์จากเนื้อหาของ THE AVENGERS มาสร้างปมในตัวของโทนี่ พร้อมทั้งอุปสรรคที่หนักหนาเพิ่มมากขึ้น โดยการสร้างตัวร้ายที่มีความสามารถที่ชนะทางตัวละครหลักได้ มาในครั้งนี้ตัวเรื่องไม่ได้เน้นไปที่ IRON MAN แต่เน้นไปที่ชายที่อยู่ข้างในชุดเกราะอย่าง โทนี่ สตาร์ค มากขึ้น มันเหมือนเป็นการตอบคำถามทั้งของสตีฟ โรเจอร์ ครั้งใน The Avengers และคำถามที่ตัวเขาเองก็ถามแก่ใจเขามาโดนตลอดว่า “เมื่อถอดเกราะออกมา แล้วคุณคือใคร”

    จากเหตุการณ์ตอนนิวยอร์กจาก The Avengers โทนี่ก็เกิดอาการนอนไม่หลับ ฝันร้าย หวาดผวา วิตกกังวล จนถึงขั้นมีอาการแสดงออกมา ความหวั่นไหวและหวาดกลัวว่าตนเองนั้นจะสามารถปกป้องผู้คนได้หรือไม่ เพราะในเหตุการณ์ที่เอเลี่ยนบุกนิวยอร์ก ไม่ใช่เพียงแค่เขาพบกับสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ แต่เขาก็ยังได้เผชิญกับความสูญเสียที่ตนเองไม่สามารถคาดการณ์ได้ และได้รู้ว่าหากไม่มีชุดเกราะนั้นเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ด้วยเหตุนี้หนังจึงลดความสำคัญและความไร้เทียมทานของเกราะให้ด้อยลง แต่ถึงกระนั้นผู้ชมที่หวังจะดูชุดเกราะก็ไม่ต้องหวั่นใจ เพราะในช่วงท้ายเรียกได้ว่าหนังนั้นชดเชยให้ผู้ชมได้อย่างเต็มที่

    สิ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากนี้คือสารต่าง ๆ ที่สอดแทรกอยู่ในหนัง เริ่มจากแรกคือการก่อการร้ายของตัวร้ายในเรื่อง ที่มีเจตนาชัดเจนในการบอกว่าจะลงโทษอเมริกา ผู้ที่กลายเป็นแรงสนับสนุนตัวร้าย ก็คือเหล่าทหารที่รับใช้ชาติแล้วก็เกิดพิกลพิการจนไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ ระเบิดที่ทำให้ผู้คนในรัศมีใกล้ๆ สลายเป็นเหลือแค่คราบเงาบนกำแพง ราวกับเหตุการณ์นิวเคลียร์ในฮิโรชิม่า หรือแม้กระทั่งสุดท้ายฉากที่ War Machine หรือ Iron Patriot ในสีธงชาติอเมริกา โดนแขวนอยู่กลางทะเลแล้วพร้อมจะจุดน้ำมันเผาทิ้งเป็นการประจาน (และแน่นอนคนที่ไปช่วยก็ต้องเป็นทหารอเมริกานั่นแหละ)

    สังเกตได้ว่าเนื้อหาของเรื่องนั้นจงใจที่จะ ‘ด่า’ ตัวอเมริกามากขึ้น แม้มันจะดูเป็นการด่าเพื่อป้องกันตัวเอง มากกว่าด่าเพื่อวิเคราะห์เจาะลึกในปัญหาจริง ๆ แต่มันก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจพอสำหรับหนังแอคชั่นฮอลีวู้ดทุนยักษ์แบบนี้ และตรงจุดนี้เองก็สอดคล้องกับการหักมุมเพื่อเปิดเผยตัวร้ายที่แท้จริงอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับการ สร้างภาพ มาตั้งแต่ต้น (อันที่จริงว่ากันตั้งแต่ตัวอย่างภาพยนตร์ และในหนังเองก็มีฉากที่เหน็บตัวเองว่าเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งมายาด้วย)

    คิลเลี่ยนสร้างภาพของแมนดารินให้ชาวโลกได้รับรู้ เพื่อที่จะหาแพะและเป้านิ่งเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและความรับผิดชอบ ไปที่คนคนหนึ่งที่ไม่มีจริงแต่แรก ในส่วนนี้เป็นจุดที่น่าสนใจมาก เมื่อเทียบกับบริบทของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และเมื่อเปิดเผยเบื้องหลังทั้งหมดแล้ว คนร้ายมันก็มีแต่พวกอเมริกาทั้งนั้น และจุดนี้เองก็ทำให้เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจและมีเสน่ห์มากขึ้นเลยทีเดียว

    ถ้าจะบอกว่า IRON MAN 3 นี้มันมีความลึกซึ้งมากขึ้นก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นการพูดถึงแง่มุมของตัวละครหลายคนอย่างละเอียดลออ การแสดงความอ่อนแอทางจิตใจอย่างชัดเจนของตัวละครหลัก บทเริ่มต้น บทสรุปที่ไม่ได้เน้นไปที่ความอลังการหรือแอคชั่นที่ตื่นตาตื่นใจ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเชื่อมโยง และให้มันกลายเป็นบทเรียนอันแสนล้ำค่าของผู้ชายคนหนึ่ง โทนี่ สตาร์ค

    บุรุษต้องแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองก่อ เรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองพลาด และจนสุดท้ายมันก็สามารถทำให้เขาพูดได้อย่างเต็มปากว่า ผมคือไอรอนแมน ไม่ใช่ความหมายของชายผู้เป็นเศรษฐีนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ นักบุญเพลย์บอยที่ใส่ชุดไอรอนแมน แต่เป็น ไอรอนแมน ที่แท้จริงแม้ว่าจะไม่มีชุดเกราะใดๆ ก็ตาม

    ที่มา REVIEW: IRON MAN 3 เมื่อถอดเกราะออกมาแล้วคุณคือใคร?
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2013
  2. Super V.I.P

    Super V.I.P สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +18
    เด็ก ป.1 มันยังรู้เลยครับ ว่าจะเกิดเหตุทะเลาะ เพราะท่านทักษิณ
    ดู TV ก็รู็ครับ ไม่ต้องมีีฌาณ อะไรหรอกครับ ลุงอย่าเนียนเลยครับ
    อ่านแล้วรำคาญจัง
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ขอให้ทุกคนไม่ประมาท ไม่ปรามาสคำเขาเตือน !!!

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทวิตเตอร์​

    แตกตื่น! ไฟดับทั้งย่าน เซ็นลาดฯ-เมเจอร์รัชโยฯ มืดสนิท ไฟดับพรึบไม่มีปี่มีขลุ่ย ลูกค้า-พนง. 2 ห้างดัง เซ็นทรัล ลาดพร้าว/ เมเจอร์ รัชโยธิน แตกตื่น วิ่งหนีออกจากห้างอลหม่าน

    เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วันนี้ (8 พ.ค.) เกิดเหตุไฟดับกินบริเวณกว้างในย่านลาดพร้าว พหลโยธิน และแยกรัชดา-ลาดพร้าว ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชน อาคารสำนักงาน รวมถึง 2 ศูนย์การค้าดัง เซ็นทรัล ลาดพร้าว และเมเจอร์ รัชโยธิน ไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยเฉพาะในส่วนของศูนย์การค้า และโรงภาพยนตร์ ไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติ ลูกค้าและพนักงานรีบวิ่งหนีออกมาอย่างอลหม่าน เพราะเกรงจะมีอันตราย อีกทั้งกระแสไฟฟ้าขัดข้องในครั้งนี้ยังส่งผลให้สัญญาณไฟจราจรดับตลอดแนวอีกด้วย

    ทั้งนี้มีรายงานว่า ขณะเกิดไฟดับมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากบริเวณโรงภาพยนตร์ของเมเจอร์ รัชโยธิน สร้างความแตกตื่นให้ผู้ชมภาพยนตร์ และผู้ที่เข้าไปใช้บริการเป็นอย่างมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของห้างเผยว่า สาเหตุของกลุ่มควันดังกล่าว เกิดจากเครื่องสำรองไฟของเมเจอร์ฯ ขัดข้อง ขณะนี้กำลังรีบระบายควันออกจากตัวอาคาร และยังไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไป

    สำหรับสาเหตุของไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างในครั้งนี้ ล่าสุด การไฟฟ้านครหลวง แจ้งว่า เกิดจากสายส่งไฟฟ้าแรงสูงขนาด 115 กิโลวัตต์ขัดข้องบริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม และตอนนี้ทาง กฟน. ได้ดำเนินการแก้ไขจนสามารถกลับมาจ่ายไฟได้ตามปกติแล้ว

    ที่มา http://www.ryt9.com/s/iqry/1645523
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2013
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ยอดเสียชีวิตตึกถล่มในบังกลาเทศเกิน 800 คนแล้ว

    [​IMG]

    ธากา 8 พ.ค. - หน่วยประสานงานบรรเทาภัยพิบัติแถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอาคารถล่มครั้งร้ายแรงที่สุดของบังกลาเทศเพิ่มขึ้นเกิน 800 คนแล้วในวันนี้ หลังหน่วยกู้ภัยนำศพออกมาได้อีกหลายสิบรายจากซากปรักหักพังของอาคารที่ถล่มลงมาในกรุงธากาเมื่อเดือนที่แล้ว

    เจ้าหน้าที่บังกลาเทศกล่าวว่า ยอดเสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่ 803 ราย โดยกู้ศพจากซากอาคารได้ 790 ราย และอีก 13 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัยค้นพบศพผู้เคราะห์ร้ายจากซากอาคารรานา พลาซ่า เพิ่มอีก ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยขณะเกิดเหตุช่วงเช้าวันที่ 24 เมษายน มีคนงานเย็บเสื้อผ้าเข้ากะทำงานมากกว่า 3,000 คน แต่มีผู้รอดชีวิตที่ได้รับการช่วยเหลือออกมา 2,437 คน

    ขณะที่ตอนนี้ปั้นจั่นและรถตักดินกำลังเก็บกวาดซากอาคารบนชั้นที่ 3 และยังคงได้กลิ่นเหม็นของซากศพรุนแรงจากด้านล่าง ทำให้เชื่อว่ายังมีศพอีก และเป็นที่น่าสังเกตว่าพบศพผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมากถึงราว 150 ศพ บริเวณบันได สันนิษฐานว่าคนงานเหล่านี้ตกใจและพยายามวิ่งหนีลงบันได หลังได้ยินเสียงดังของอาคารที่กำลังจะพังถล่ม แต่ภายในไม่ถึง 5 นาที อาคารทั้งหลังก็ถล่มลงมาทับพวกเขา

    สำนักข่าวไทย TNA News | 8 พ.ค. 2556 18:16 |

    ที่มา ยอดเสียชีวิตตึกถล่มในบังกลาเทศเกิน 800 คนแล้ว | MCOT.net | MCOT.net

    ซีเรียตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับโลกภายนอกขณะสงครามกลางเมืองยังคงลุกลาม

    [​IMG]

    ซานฟรานซิสโก 8 พ.ค. - ข้อมูลจากบริษัท กูเกิล อิงก์ และบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ระบุว่า การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างซีเรียกับโลกภายนอกถูกตัดขาดเมื่อวานนี้

    รายงานจากกูเกิล ระบุว่า การใช้หน้าเพจของกูเกิลจากในซีเรียหยุดไปเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 02.00 น. ตามเวลาไทย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นกล่าวว่า เว็บไซต์ส่วนใหญ่ในซีเรียก็ไม่สามารถใช้ได้เช่นกัน ทั้งนี้ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในซีเรียให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตราว 80 เครือข่าย แต่เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา มีเพียง 3 เครือข่ายที่ปรากฏบนอุปกรณ์ค้นหาการเชื่อมต่อ อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังไม่สามารถติดต่อทูตซีเรีย เพื่อขอความเห็นได้ในขณะนี้

    นายแดน ฮับบาร์ด หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท โอเพนดีเอ็นเอส ซึ่งให้บริการระบบสาธารณูปโภค ระบุบนบล็อกของบริษัทฯ ว่า การปิดระบบครั้งนี้ทำให้ซีเรียไม่สามารถติดต่อสื่อสารผ่านทางอินเทอร์เน็ตกับส่วนอื่นของโลก แต่ไม่แน่ชัดว่า การสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตภายในซีเรียยังใช้ได้อยู่หรือไม่ และแม้ว่าทางบริษัทฯ ยังไม่สามารถให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ระบบล่ม แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมาเชื่อมโยงกับทั้งการปิดระบบ ซึ่งเป็นคำสั่งของรัฐบาล และความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงสายไฟขาดและไฟฟ้าดับ นอกจากนี้ นายฮับบาร์ด ยังระบุว่า ซีเรียเคยเกิดเหตุการณ์อินเทอร์เน็ตล่มเป็นเวลา 3 วัน เมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว

    สำนักข่าวไทย TNA News | 8 พ.ค. 2556 11:25 |

    ที่มา ซีเรียตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับโลกภายนอกขณะสงครามกลางเมืองยังคงลุกลาม | MCOT.net | MCOT.net
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ตึกสูงทั่วกรุงเสี่ยงวินาศ!? ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ยิ่งใกล้ไทยยิ่งอันตราย !!!

    [​IMG]

    แม้ประเทศไทยไม่ได้เป็นพิกัดศูนย์กลางของเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าหลายปีมานี้ เราได้รับแรงสะเทือนเสียทุกครั้งไป โดยเฉพาะตามตึกสูงระฟ้าในเขตกรุงเทพฯ ที่สร้างความตื่นตระหนกอยู่เนืองๆ ซึ่งสิ่งที่น่าวิตกไปกว่านั้นคือ บรรดาตึกสูงในประเทศเรายังขาดมาตรการรองรับกรณีแผ่นดินไหว และยังมีการเปิดเผยอีกว่า ผืนดินในเมืองหลวงนั้นอ่อนมาก ถ้าเกิดแรงสั่นสะเทือนรุนแรงตึกสูงทั้งหลายมีความเสี่ยงถล่มแน่นอน

    เหตุการณ์แผ่นดินไหว 6.6 ริกเตอร์ ที่ประเทศพม่า (11 พ.ย.) ถือเป็นเหตุครั้งล่าสุด ถึงบ้านเราจะไม่ได้รับแจ้งเหตุรุนแรงเพราะอยู่ห่างไกลหลายร้อยกิโลเมตร แต่ชาวกรุงที่อยู่บนอาคารสูง รวมทั้งชาวบ้านทางภาคเหนือก็สัมผัสถึงแรงสั่นสะเทือน ส่วนประเทศที่เกิดเหตุนั้นได้รับความสูญเสียอย่างหนัก

    อย่าชะล่าใจ เพราะสภาพพื้นที่กรุงเทพฯ นั้นมีลักษณะเป็นแอ่ง ลักษณะพื้นดินด้านล่างอ่อนเป็นเลน ลักษณะทางภูมิศาสตร์คล้ายกับกรุงเม็กซิโก ซิตี ที่ในอดีตเคยได้รับความเสียหายครั้งใหญ่จากแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางออกไปมากกว่า 300 กิโลเมตรราวปี 2528 ซึ่งกลายเป็นบทเรียนที่ผู้เชี่ยวชาญแขนงที่เกี่ยวข้องในไทยร่วมศึกษาหาเพื่อหาแนวทางลดความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

    ตึกสูงเสียดฟ้า อัตราเสี่ยงที่มากกว่า

    ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงต้นปีที่แล้ว (24 มี.ค. 2554) ก็เคยเกิดกรณีแผ่นดินไหวในประเทศพม่าที่สร้างความตื่นตระหนกแก่ชาวไทยเช่นกัน เพราะแรงสั่นสะเทือนในครั้งนั้นส่งผลให้ตึกรามบ้านช่องของเราเสียหายไปด้วย ซึ่งดูจะเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้สังคมไทยเริ่มตระหนักในภัยพิบัติธรณีวิปโยค

    ครั้งนั้นหลังเหตุการณ์สงบ สำนักงานกรุงเทพฯ ก็เร่งตรวจสอบตึกสูงหลายแห่ง ไล่ตั้งแต่ตึกที่รู้จักกันดี อย่างตึกใบหยก, โรงแรมดุสิตธานี, อาคารพาณิชย์ย่านสาทร สีลม ฯลฯ

    อย่างที่กล่าวในข้างต้นว่า ในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนพื้นดินอ่อน ฉะนั้น หากเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงตึกสูงๆ ก็เตรียมรับสภาพย่อยยับทุกหย่อมหญ้า ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมโครงสร้าง สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว กล่าวย้ำว่าเมืองหลวงของเราเป็นพื้นที่เสี่ยง

    “ทั้งกรุงเทพฯ แอ่งของกรุงเทพฯ มันคลุมหลายจังหวัด กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนแอ่งดินอ่อน แต่เดิมเป็นทะเลมาก่อน เพราะฉะนั้น มันเป็นพื้นที่ดินอ่อนที่ใหญ่มาก” ไม่ว่าตึกสูงจะตั้งตระหง่านย่านไหน สีลม, บางรัก, สาทร, พญาไท, ห้วยขวาง, ดอนเมือง ฯลฯ รับรองได้ว่ารับผลกระทบไม่แพ้กัน

    ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวอธิบายถึงโครงสร้างของตึกสูงในกรุงเทพฯ ว่า เรื่องมาตรฐานการออกแบบก่อสร้าง จะอาคารพาณิชย์เสียดฟ้า หรือดอนโดฯ หรูหลายสิบชั้น ส่วนมากถูกออกแบบภายใต้มาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ แต่อาจติดในเรื่องการต้านแรงแผ่นดินไหว

    “ถ้าไม่ได้ออกแบบให้อาคารทนแรงสั่นได้ อาคารก็จะมีทั้งอาคารอ่อนแอ ธรรมดา และแข็งแรงปนกันไป ต่างกัน ถ้าตั้งใจออกแบบให้อาคารนั้นทนแผ่นดินไหวได้ อาคารทุกๆ ตัว ที่ออกแบบอย่างถูกวิธีก็จะทนได้ในระดับหนึ่ง”

    แผ่นดินไหวเขย่ากรุงเทพฯ ชั้นใน-ชั้นนอก

    ถามว่าตึกสูงในประเทศไทยรองรับความรุนแรงได้แค่ไหน ทางผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวท่านเดิมก็ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนนัก เพราะต้องดูปัจจัยในการเกิดแผ่นดินไหวในแต่ละครั้งประกอบด้วย โดยเฉพาะศูนย์กลางที่เกิดเหตุ รวมไปถึงความรุนแรงของเหตุการณ์ในแต่ละครั้ง

    “พื้นดินสั่นสะเทือนถ้าสั่นเบาๆ โครงสร้างมันยังทนได้ ถึงโครงสร้างไม่ได้ออกแบบต้านทานแผ่นดินไหวเลยก็ทนได้ แต่ถ้ามันสั่นแรงขึ้นๆ ค่อนข้างตัวอาคารอ่อนแอ หรือมีจุดอ่อนอยู่เยอะก็จะเสียหายรุนแรง และมันอาจจะพังทลายบางส่วน มันแล้วแต่ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น ความเหนียวของตัวโครงสร้าง”

    ตามข้อมูลจดหมายข่าว IPRB รศ.ดร.อมร พิมานมาศ ประธานคณะอนุกรรมการสาขาวิศวกรรม โครงสร้างและสะพาน สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้อธิบายถึงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอันตรายจากเหตุแผ่นดินไหว ได้แก่ 1. พื้นที่นั้นอยู่ใกล้รอยต่อของเปลือกโลก หรือ Ring of Fire หรือรอยเลื่อน ที่มีศักยภาพที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว 2. พื้นที่นั้นตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อนหรือไม่ 3. โครงสร้างของอาคารบ้านเรือนในพื้นที่นั้นออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหวหรือเปล่า

    ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การเกิดแผ่นดินไหวขนาดกลางก็เป็นอันตรายได้ แน่นอนว่าตึกรามบ้านช่องที่ตั้งบนพื้นดินอ่อนในเขตกรุงเทพฯ รวมทั้งปริมณฑล อย่างนทบุรี ปทุมธานี ไปจนถึงสมุทรปราการ และสมุทรสาคร ยิ่งเป็นอาคารบ้านเรือนที่ไม่ได้ออกแบบเพื่อป้องกันภัยแผ่นดินไหวย่อมได้รับผลอย่างหนัก

    ปรับมาตรฐานอาคารรับแรงสะเทือน

    อาจเป็นเพราะประเทศไทยยังไม่เคยเผชิญเหตุการณ์แผ่นดินไหวขั้นรุนแรง การก่อสร้างอาคารสูงจึงไม่ได้คำนึงถึงเรื่องการรองรับแรงสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหวเท่าที่ควร ดร.เป็นหนึ่งกล่าวว่า เบื้องต้นของการก่อสร้างอาคารในประเทศไทยมี พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ปี 2550 ออกมาบังคับใช้ แต่เนื้อหายังไม่ชัดเจน มาตรฐานที่กำหนดไว้ก็ไม่ทันยุคทันสมัย

    2 ปีถัดมา กรมโยธาธิการก็จัดทำข้อกำหนดให้เหมาะสมมากขึ้น สร้างมาตรฐานใหม่แก่อาคารสูงในเขตกรุงเทพฯ และทั่วประเทศเพื่อรองรับป้องกันในเรื่องแผ่นดินไหว

    แต่ยอมรับว่า วิศวกรผู้คุมงานก่อสร้างก็ดี หรือเจ้าของโครงการตึกสูงก็ดี ยังไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากนัก เพราะเป็นเรื่องใหม่ และยังต้องปรับตัวกันอีก ดร.เป็นหนึ่งให้ทัศนะว่า ความตื่นตัวมีเพิ่มขึ้นแน่นอน การเสนอข่าวของสื่อมวลชนนั้นมีผลต่อการรับรู้ เกิดการติดตาม และสร้างความเข้าใจ ประชาชนเองมีส่วนกดดันเพื่อเร่งสร้างมาตรฐานใหม่ให้ตึกสูงในเมืองไทย

    “มีความตื่นตัวแต่ว่ายังไม่มีแอ็กชันที่ดีพอ อาคารรุ่นใหม่ก็พยายามที่จะออกแบบเป็นเรื่องเป็นราว ทางเราให้การแนะนำเป็นเรื่องเป็นราวไปเหมือนกัน แต่หลายโครงการก็ยังไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้ ประชาชนต้องทราบเรื่องนี้ก่อน ในหมู่วิศวกรก็มีทั้งคนที่ใส่ใจ และไม่ใส่ใจ ในหมู่ของเจ้าของโครงการหลายเจ้าก็ใส่ใจมากขึ้น บางที่แม้ไม่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยก็ยังเอาจริงเลย”

    แม้การออกแบบ หรือแก้ไขโครงสร้างอาคารให้รองรับแรงสั่นไหวของแผ่นดินนั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทางเจ้าของโครงการฯ ก็ต้องยอมจ่าย เพราะนั่นหมายถึงสวัสดิภาพขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับ
    ….................
    ไม่รู้ว่าโลกของเรากำลังเขาสู่ยุคแห่งภัยพิบัติหรือเปล่า เพราะในช่วงไม่กี่ปีมานี้ธรรมชาติได้มอบบทเรียนครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าแก่มนุษย์ ถึงเราจะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพียงไร แต่ท้ายที่สุดก็คงฝืนธรรมชาติไม่ได้

    จะว่าไปภูมิศาสตร์ของประเทศไทยยังถือว่าโชคดีกว่าหลายๆ ประเทศ เพราะไม่ได้ตั้งบริเวณศูนย์กลางการเกิดเหตุแผ่นดินไหว ผลกระทบก็ถือว่ายังน้อย อย่างไรก็ตาม บรรดาตึกสูงราวกับสร้างขึ้นมาท้าทายปรากฏการณ์ธรรมชาติคงนิ่งนอนใจต่อภัยพิบัติไม่ได้ เร่งสร้างมาตรการป้องกันเสียแต่เนิ่นๆ เถิด

    โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 13 พฤศจิกายน 2555 19:01

    ที่มา Daily News - Manager Online - ตึกสูงทั่วกรุงเสี่ยงวินาศ!? ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ยิ่งใกล้ไทยยิ่งอันตราย!
     
  6. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    Subject: Fwd: ขอสมัครเข้าร่วมกลุ่มอพยพภัยพิบัติที่ฐานผาแบ่นเชียงคานจังหวัดเลย หนูติดต่อคุณอาไม่ได้เลยพยายามมาตลอด๕วันมานี้ ส่งเมลล์ไปที่ cot@cot.co.th. และที่ isara@ cot.co.th. และที่ k isara@ windowslive.com. และที่ usa_biz@ hotmail.com. แต่ไม่ได้รับเมลล์ตอบกลับเลยซักฉบับดูได้ที่อยู่เมลล์จากเข้าไปดูอาโพสในเว็บพลังจิต k_97 หนูร้อนใจมากหนูอยากเข้าร่วมกลุ่มด้วยเพราะเคยคิดอพยพไปแถวเลยแต่ไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อที่ดินเคยคิดฝันว่าน่าจะมีกลุ่มคนมาร่วมช่วยเหลือเกืี้อกูลและมีอุดมการณ์เดียวกันเหมือนที่คุณอากำลังทำอยู่หนูชอบและสนใจในแนวคิดและหลักการของคุณอามากพร้อมที่จะช่วยออกแรงและออกเงินและไปดูฐานจริงค่ะแนวร่วมของหนูมีครอบครัวหนู(หนู+แม่) ครอบครัวพี่ชาย ครอบครัวเพื่อน มีแต่ผู้ใหญ่ไม่มีเด็ก รุ่นอายุ ๕๐ ๔๐ ๓๐ ๒๐. ทุกคนเป็นคนอยู่ในศีลในธรรม ไม่ฝักใฝ่อบายมุข มีจิตอาสา หนูสนใจเรื่องภัยพิบัติมาได้ประมาณ๑ปี. เพราะหนูฝันเห็นเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดกับประเทศของเรา๖ครั้ง๖เหตุการณ์ภายในระยะเวลา๑ปีหนูได้แต่เล่าให้คนในครอบครัวฟังค่ะกลัวคนเค้าหาว่าบ้าหนูอยากเจอคุณอาและเล่าให้คุณอาฟังค่ะ หนูเคยอยู่่แถววัดนาวงและเคยขายของอยู่แถวดอนเมือ...
    From: karnta71@gmail.com
    Date: Tue, 30 Apr 2013 22:20:27 +0700

    9 พ.ค. 56 น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย

    นี่คือตัวอย่างหนึ่งที่สนใจและเป็นห่วงครอบครัวตัวเองและคนรอบข้าง

    เคอิสรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 พฤษภาคม 2013
  7. Sittirat

    Sittirat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +821
    คุณเขียนเอง เออเอง มากกว่าครับ สุดท้ายก็ไม่พ้นอุบายเรี่ยไรเงิน
    ยังไม่หมดอีก พวกผู้วิเศษ น่าเศร้าจริงๆ
     
  8. ตั่วเฮีย

    ตั่วเฮีย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +259
    ปี๒๕๕๖'ดวงเมืองแตกดวงคนดับ'
    ดวงเมืองแตก ดวงคนดับ ปี ๒๕๕๖ อีกหนึ่งคำทำนายของ...'พระอาจารย์อุเทน วัดท่าไม้' : เรื่องและภาพ โดยไตรเทพ ไกรงู
    "พระอาจารย์อุเทน" หรือพระครูปลัดอุเทนสิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และเจ้าสำนักธรรมสถานวิโมกสิวาลัย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี "วัดท่าไม้" แม้จะเป็นพระหนุ่มที่มีอายุน้อยแต่ท่านมีลูกศิษย์ตลอดจนผู้ที่ศรัทธามากมาย ตั้งแต่บุคคลสามัญทั่วๆ ไป เหล่าศิลปินนักร้องดารา นักธุรกิจข้าราชการ ไปจนถึงนักการเมืองระดับชาติ โดยเฉพาะเรื่องดวงที่ใครต่อใครต่างก็บอกว่า หลวงพ่ออุเทน ดูดวงแม่นยำมาก แต่ถ้าหากใครอยากไปดูดวงต้องเดินทางไปรับบัตรคิวตั้งแต่ตี ๐๕.๐๐-๐๗.๐๐ น.

    "นับแต่วันนี้เป็นต้นไปอากาศจะหนาวขึ้น เมื่อเข้าหน้าแล้งก็จะแล้งยาวนาน จะเกิดอุบัติเหตุทางเครื่องบิน เรื่องร้อนๆ เรื่องวุ่นวายของดวงเมืองจะร้อนแรงขึ้น โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ประเทศไทยอยู่ในตำแหน่งดวงชะตาเมืองแตก มีเหตุการณ์ประท้วงจากทุกกลุ่มก้อน เศรษฐกิจย่ำแย่ การเงินฝืดเคือง การเมืองวุ่นวาย" นี่คือส่วนหนึ่งของคำทำนายดวงเมือง พ.ศ.๒๕๕๖ ของพระอาจารย์อุเทน

    ทั้งนี้ พระอาจารย์อุเทน บอกว่า ต้องจับตามองการโคจรของดาวใหญ่ ๒ ดวงคือ ดาวเสาร์ และดาวราหู ที่เริ่มเข้าสถิตในราศีตุล เล็งลัคนาดวงเมืองที่สถิตในราศีเมษมาตั้งแต่วันที่ ๗ กันยายน และ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๕ ตามลำดับ ตำแหน่งของดาวเสาร์ และดาวราหู ที่โคจรเล็งดวงเมืองขณะนี้ มีตำแหน่งเข้มแข็งหรือเป็นมหาอุจ หรือมีกำลังแรง

    ดังนั้นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในบ้านเมืองดูจะมีแต่เรื่องร้อนๆ วุ่นๆ ทั้งสิ้น โดยปกติแล้วดาวเสาร์ เป็นดาวธาตุไฟสุมขอน ค่อยๆ สะสมอุณหภูมิความร้อน การมาของดาวเสาร์ ครั้งนี้จะสถิตในราศีตุลตั้งแต่วันที่ ๗ ก.ย.๒๕๕๕-๒๗ พ.ย. ๒๕๕๗ เมื่อมาสถิตในราศีตุล อันเป็นราศีธาตุลม ซึ่งมีดาวศุกร์ เป็นเจ้าบ้าน ย่อมมีนิมิตหมายที่ทำนายได้ว่า "อากาศจะเกิดความวิปริตแปรปรวนเป็นอย่างมาก การค้าขาย-การลงทุนทำธุรกิจอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงตามวงจรวัฏจักรการเปลี่ยนแปลงของโลก"

    การมาของดาวเสาร์ ครั้งนี้แค่เริ่มแรกก็ทำให้ต้องลุ้นกันตัวโก่งเสียแล้ว ที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจการค้า นำเข้าและส่งออกสินค้า ตั้งแต่วันที่ ๖ เมษายน-๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ดังนั้นสัญญาณความถดถอยทางเศรษฐกิจอันมาจากสภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยจึงมีความชัดเจนว่าจะเกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

    ในขณะที่ดาวเสาร์และราหูให้โทษแก่ดวงเมือง ดาวพฤหัสบดีทับอังคารเจ้าเรือนลัคนา อันหมายถึงคุณธรรมและศีลธรรมจะเป็นตัวเร่งให้การแก้ไขปัญหาการโกงกินได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นจุดโจมตีรัฐบาลได้แผ่ขยายวงออกไปค่อนข้างรวดเร็วในหมู่นักวิชาการ และบุคลากรในกองทัพที่ยืนข้างประชาชน จึงอาจเป็นมูลเหตุจูงใจให้เกิดการกระทำการใดๆ อันเป็นการโค่นล้มรัฐบาลได้เร็วขึ้น

    ยิ่งกว่านี้ เมื่อดาวราหูจะโคจรเข้าเล็งลัคนาร่วมกับเสาร์ (๑๐ ธ.ค.๒๕๕๕) จะทำให้คนในรัฐบาลขัดแย้งกันเองมากยิ่งขึ้น และสาเหตุแห่งความขัดแย้งส่วนใหญ่จะมาจากการแบ่งปันผลประโยชน์ไม่ลงตัวประกอบกับมีนักการเมืองบางคนถูกความโลภครอบงำ กอบโกยผลประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง และเป็นธรรมแก่คนในสังคมส่วนรวมอันเป็นฐานทางการเมืองของทุกพรรค จึงทำให้ประชาชนหมดศรัทธา และเป็นการเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านหรือผู้ต่อต้านรัฐบาลถือเป็นจุดด้อยโจมตีทางการเมืองจนทำให้รัฐบาลหมดความชอบธรรมได้

    พระอาจารย์อุเทน ยังบอกด้วยว่า ดาวเสาร์เคยมาสถิตในราศีตุลเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๒๕-๑๖ มกราคม ๒๕๒๘ ทำให้ปรากฏเหตุการณ์วางแผนลอบสังหารบุคคลสำคัญระดับประเทศ ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อุบัติภัยจากเฮลิคอปเตอร์ตก ทำให้สูญเสียบุคคลสำคัญระดับประเทศและนายทหารหลายคน กรุงเทพฯ จมบาดาลเพราะพายุไต้ฝุ่นคิม-โจ-เล็กซ์ เกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯและทั่วภูมิภาคเอเชีย เกิดแชร์แม่ชม้อย มีการกวาดล้างบ่อนทั่วกรุง เกิดปัญหากรณีพิพาทระหว่างไทย-ลาว มีการจับกุมแกนนำพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย

    นอกจากนี้แล้วยังมีดาวอีกดวงหนึ่งคือ ดาวราหู ที่เข้ามาสถิตในราศีตุลในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๕ ดาวดวงนี้จะสถิตในราศีนี้ไปจนถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ดาวราหู ทั้งนี้ ดาวราหูเคยสถิตในราศีตุลมาแล้วในอดีตเมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๓๗-๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๓๘ จะพบว่า "หลังจากที่ดาวเสาร์ สถิตในราศีตุลได้ไม่นาน ต่อมาประเทศไทยก็เผชิญเข้ากับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนักจนต้องประกาศลดค่าเงินบาท กลายเป็นวิกฤติต้มยำกุ้งลามไปทั่วเอเชีย"

    ส่วนดวงของคนนั้น พระอาจารย์อุเทน บอกว่า พ.ศ.๒๕๕๖ นี้ คนที่เกิดปีมะเส็ง กับปีกุน ถือว่าเป็นปีชง ทำอะไรจะมีปัญหาไปทุกเรื่อง ต้องระวังเรื่องการลงทุน ต้องระวังเรื่องสุขภาพ เพื่อความไม่ประมาท ควรให้ศึกษาเรื่องดวงชะตาในแต่ละเดือน ซึ่งมีทั้งคำทำนายและแนวทางแก้ไขที่ดีอยู่แล้ว สำหรับดวงคนที่เกิดนอกจากนี้ถือว่าดีทุกปี แต่อย่างหลงระเริงพึงให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติและทำงานด้วยปัญญา ดวงจะดียิ่งๆ ขึ้น

    เมื่อถามถึงการแก้ดวงการแก้ปีชง พระอาจารย์อุเทน บอกว่า ใครจะมาขอพึ่งบารมีฉันก็จะแนะนำว่ามาขอพึ่งบารมีฉันได้แต่ต้องสร้างบารมีให้เกิดขึ้นกับตัวเองก่อนถ้าตนเองไม่มีบารมีต่อให้ไปขอบารมีจากพระเกจิอาจารย์ทุกรูปทั่วประเทศก็ช่วยไม่ได้ กาแก้ปีชงดีที่สุด คือ ต้องหันหน้าพึ่งพระรัตนตรัย ใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาให้มากที่สุด มีสติให้มากขึ้น หรือที่เรียกว่า ใช้ชีวิตและทำงานด้วยปัญญา สิ่งแรกโยมต้องช่วยตัวเองก่อนโดยเฉพาะเรื่องบุญบารมีดังคำสมเด็จพุฒาจารย์ (โตพรหมรังสี) ที่ว่า....

    "ลูกเอ๋ยก่อนจะเที่ยวไปขอบารมีจากหลวงพ่อองค์ใดเจ้าจะต้องมีทุนของตัวเองคือบารมีของตนลงทุนไปก่อนเมื่อบารมีของเจ้าไม่พอจึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วยมิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอดเพราะหนี้สินในบุญบารมีที่เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัว เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมาก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาหมดไม่มีอะไรเหลือติดตัวแล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้าหมั่นสร้างบารมีไว้แล้วฟ้าดินจะช่วยเองจงจำไว้นะเมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ครั้นถึงเวลาทั้งฟ้าจรดดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดินเมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลยจะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า"
     
  9. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    9 พ.ค. 56 เขาเปล่าชวนน๋า เขามาเอง

    เสียงแว่วเพลงของพุ่มพ่วง ยังใช้ได้อยู่

    โฟลเดอร์
    กล่องขาเข้า 2
    อีเมลขยะ
    แบบร่าง 42
    ส่ง
    ลบ 4
    สร้างโฟลเดอร์
    มุมมองทางลัด
    ถูกตั้งค่าสถานะ
    รูปถ่าย1
    เอกสาร
    ประเภทใหม่

    LUNK -

    ดูผู้ติดต่อ
    เนื้อหาจาก
    เรียนรู้เพิ่มเติม|ปิด

    FW: ขอสมัครเข้าร่วมกลุ่มอพยพภัยพิบัติที่ฐานผาแบ่นเชียงคานจังหวัดเลย หนูติดต่อคุณอาไม่ได้เลยพยายามมาตลอด๕วันม‏

    การดําเนินการ

    LUNK - (usa_biz@hotmail.com)


    8/5/2556

    ถึง: k_isara, karnta71@gmail.com

    ขออภัยด้วยนะคะที่ตอบช้า พี่พึ่งเห็นเมล์น่ะค่ะ
    ปกติพี่เช็คเมล์แต่ทางมือถือ
    พอดีเมล์น้องมันไปอยู่ junk หมดเลย
    มือถือมันเลยไม่แจ้งเตือนให้
    เดี๋ยวพี่ส่งต่อให้คุณอาเคนะคะ

    คุณอาอ่านข้างล่างนะคะ น้องเค้าแก้วแนะนำตัวมา




    --------------------------------------------------------------------------------
    Subject: Fwd: ขอสมัครเข้าร่วมกลุ่มอพยพภัยพิบัติที่ฐานผาแบ่นเชียงคานจังหวัดเลย หนูติดต่อคุณอาไม่ได้เลยพยายามมาตลอด๕วันมานี้ ส่งเมลล์ไปที่ cot@cot.co.th. และที่ isara@ cot.co.th. และที่ k isara@ windowslive.com. และที่ usa_biz@ hotmail.com. แต่ไม่ได้รับเมลล์ตอบกลับเลยซักฉบับดูได้ที่อยู่เมลล์จากเข้าไปดูอาโพสในเว็บพลังจิต k_97 หนูร้อนใจมากหนูอยากเข้าร่วมกลุ่มด้วยเพราะเคยคิดอพยพไปแถวเลยแต่ไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อที่ดินเคยคิดฝันว่าน่าจะมีกลุ่มคนมาร่วมช่วยเหลือเกืี้อกูลและมีอุดมการณ์เดียวกันเหมือนที่คุณอากำลังทำอยู่หนูชอบและสนใจในแนวคิดและหลักการของคุณอามากพร้อมที่จะช่วยออกแรงและออกเงินและไปดูฐานจริงค่ะแนวร่วมของหนูมีครอบครัวหนู(หนู+แม่) ครอบครัวพี่ชาย ครอบครัวเพื่อน มีแต่ผู้ใหญ่ไม่มีเด็ก รุ่นอายุ ๕๐ ๔๐ ๓๐ ๒๐. ทุกคนเป็นคนอยู่ในศีลในธรรม ไม่ฝักใฝ่อบายมุข มีจิตอาสา หนูสนใจเรื่องภัยพิบัติมาได้ประมาณ๑ปี. เพราะหนูฝันเห็นเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดกับประเทศของเรา๖ครั้ง๖เหตุการณ์ภายในระยะเวลา๑ปีหนูได้แต่เล่าให้คนในครอบครัวฟังค่ะกลัวคนเค้าหาว่าบ้าหนูอยากเจอคุณอาและเล่าให้คุณอาฟังค่ะ หนูเคยอยู่่แถววัดนาวงและเคยขายของอยู่แถวดอนเมือ...
    From: karnta71@gmail.com
    Date: Tue, 30 Apr 2013 22:20:27 +0700
    To: usa_biz@hotmail.com

    ส่งจาก iPad ของฉัน

    จุดเริ่มต้นข้อความที่ส่งต่อมา:

    จาก: Karnta Keratitanuprakeit <karnta71@gmail.com>
    วันที่: 30 เมษายน 2556, 22 นาฬิกา 14 นาที 58 วินาที GMT+07:00
    ถึง: "k isara@windowslive.com" <k isara@windowslive.com>
    ชื่อเรื่อง: ขอสมัครเข้าร่วมกลุ่มอพยพภัยพิบัติที่ฐานผาแบ่นเชียงคานจังหวัดเลย หนูติดต่อคุณอาไม่ได้เลยพยายามมาตลอด๕วันมานี้ ส่งเมลล์ไปที่ cot@cot.co.th. และที่ isara@ cot.co.th. และที่ k isara@ windowslive.com. และที่ usa_biz@ hotmail.com. แต่ไม่ได้รับเมลล์ตอบกลับเลยซักฉบับดูได้ที่อยู่เมลล์จากเข้าไปดูอาโพสในเว็บพลังจิต k_97 หนูร้อนใจมากหนูอยากเข้าร่วมกลุ่มด้วยเพราะเคยคิดอพยพไปแถวเลยแต่ไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อที่ดินเคยคิดฝันว่าน่าจะมีกลุ่มคนมาร่วมช่วยเหลือเกืี้อกูลและมีอุดมการณ์เดียวกันเหมือนที่คุณอากำลังทำอยู่หนูชอบและสนใจในแนวคิดและหลักการของคุณอามากพร้อมที่จะช่วยออกแรงและออกเงินและไปดูฐานจริงค่ะแนวร่วมของหนูมีครอบครัวหนู(หนู+แม่) ครอบครัวพี่ชาย ครอบครัวเพื่อน มีแต่ผู้ใหญ่ไม่มีเด็ก รุ่นอายุ ๕๐ ๔๐ ๓๐ ๒๐. ทุกคนเป็นคนอยู่ในศีลในธรรม ไม่ฝักใฝ่อบายมุข มีจิตอาสา หนูสนใจเรื่องภัยพิบัติมาได้ประมาณ๑ปี. เพราะหนูฝันเห็นเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดกับประเทศของเรา๖ครั้ง๖เหตุการณ์ภายในระยะเวลา๑ปีหนูได้แต่เล่าให้คนในครอบครัวฟังค่ะกลัวคนเค้าหาว่าบ้าหนูอยากเจอคุณอาและเล่าให้คุณอาฟังค่ะ หนูเคยอยู่่แถววัดนาวงและเคยขายของอยู่แถวดอนเมืองพลาซ่าถนนสรงประภาเมื่อซัก๖ปีที่แล้วปัจจุบันหนูย้ายมาอยู่เเถวคลอง๓คลองหลวงค่ะ หนูกับแม่เคยสมัครเป็นสมาชิกสถานธรรมที่ดอนเมืองตรงใกล้ตลาดบุญอนันต์ พรุ่งนี้วันแรงงานหนูว่าหนูจะเข้าไปที่สถานธรรมค่ะหวังว่าคุณอาจะตอบเมลล์หนูนะค่ะขอโทษที่ติดต่อมาช้า คอมเสียและเล่นคอมไม่เก่งค่ะ. ขอบพระคุณค่ะหนูแก้ว

    ส่งจาก iPad ของฉัน

    จะรับไม่รับยังไม่รู้ มีแต่พวกไม่เห็นสะพานก็ข้ามไปเสียก่อน

    เคอิสรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 พฤษภาคม 2013
  10. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    4,024
    ค่าพลัง:
    +1,223
    หนูเล่าให้คนอื่นๆฟังบ้างซิ จะได้รู้ว่าหนูฝันแม่น หรือไม่แม่นนะ
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สิ้นสุดยุคการครอบงำโลกของสหรัฐอเมริกา !!!

    [​IMG]

    อิมามียะฮ์ เจอร์นัล : สำนักข่าวฟารส์นิวส์ได้รายงานว่า การเพิ่มการแทรกแซงทางด้านการทหารของอเมริกาในทั่วทุกมุมโลกนั้น คือการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายทางด้านการทหารของประเทศนี้มากยิ่งขึ้น และเป็นผลให้เกิดการขาดดุลงบประมาณและวิกฤตทางการเงินอย่างรุนแรงในวอชิงตัน นี่คือส่วนหนึ่งจากเหตุผลที่ที่ชี้ให้เห็นว่าจุดจบแห่งการครอบงำโลกของสหรัฐ อเมริกากำลังจะมาถึงแล้ว

    เว็บไซต์ " American Dreams " ได้เขียนไว้ในรายงานหนึ่งว่า "การเพิ่มจำนวนสูงขึ้นของหนี้สินรัฐบาลสหรัฐอย่างเป็นประวัติการด้วยตัวเลขที่สูงถึง 14.3 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะเดียวกันตอนนี้ การขยายพื้นที่อย่างไม่หยุดยั้งของการปฏิบัติการทางทหารคือเรื่องน่าขบขัน ที่ชี้ให้เห็นถึงความไม่สอดคล้องกันของนโยบายต่าง ๆ ทางด้านการทหารและด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ

    ท่านทั้งหลายทราบหรือไหมว่า ระเบิดต่าง ๆ ของกองทัพสหรัฐในขณะนี้นั้น ได้ถูกโปรยปรายลงบนศีรษะของประชาชนถึง 6 ประเทศ เครื่องบินรบของกองทัพสหรัฐได้ทิ้งลูกระเบิดเหล่านี้ลงในประเทศอัฟกานิสถาน อิรัก ปากีสถาน ลิเบีย เยเมน และโซมาเลีย

    สหรัฐอเมริกามีฐานทัพต่างๆ อยู่ในประเทศทั้งหลายมากกว่าครึ่งโลก และค่าใช้จ่ายทางทหารของประเทศนี้สูงกว่า 7 เท่า ของค่าใช้จ่ายทางการทหารของกองทัพที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดเป็นอันดับสองของโลก แน่นอนยิ่งว่า สหรัฐอเมริกานั้นจำเป็นต้องมีกองทัพที่แข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลา แต่ทว่าแนวโน้มของการขยายตัวของภาระหนี้สินของประเทศ เราจะยังคงสามารถแบกรับค่าใช้จ่ายด้วยวิธีการเช่นนี้ และจะสามารถคงสภาพความเป็นตำรวจโลกอยู่ต่อไปได้อีกหรือไม่?

    ตลอดเวลานั้น มีบรรดาบุคคลในประเทศอื่นๆ ซึ่งต้องการที่จะมุ่งไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับผลประโยชน์ของประเทศของเราตลอดเวลา นั่นหมายความว่ายิ่งสหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดลงบนศีรษะของบุคคลเหล่านั้นมากเท่าใด ลูกๆ หลานๆ ของครอบครัวที่เป็นเหยื่อระเบิดของสหรัฐอเมริกาก็จะยิ่งเพิ่มทวีมากขึ้นเท่านั้น

    ดูเหมือนว่า ณ เวลานี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะหมกมุ่นกับการตามล่าบรรดาผู้ที่ต่อต้านอเมริกาในทั่วทุกมุมของโลกอย่างละเอียดถี่ถ้วน และทันทีที่พบเห็นพวกเขา ฝูงบินทิ้งระเบิดจะทะยานขึ้นสู่เวหาและทิ้งระเบิดใส่อย่างทันควัน ทว่าคำถามมีอยู่ว่า การปฏิบัติการเช่นนี้จะสามารถทำลายผู้ต่อต้านอเมริกาได้ได้อย่างราบคาบหรือไม่?

    รัฐบาลสหรัฐมีเจตนาที่จะครอบครองประเทศในตะวันออกกลางทั้งหมด เพื่อที่จะเป็นหลักประกันต่อความมั่นคง และความสงบสุขของประชาชาติอเมริกัน สหรัฐอเมริกามีความจำเป็นที่จะต้องสอดส่องดูแล และดำเนินการในการเป็นตำรวจโลกของตนไปในทุกๆ จุดของโลกกระนั้นหรือ?

    หนี้จำนวน 4 ล้านล้านดอลลาร์ คือของขวัญจากการก่อไฟสงครามต่างๆ

    "การเป็นตำรวจโลก" คือภารกิจที่ได้สร้างภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นในทุกๆ วันให้กับสหรัฐอเมริกา นับจากวันขึ้นมาดำรงตำแหน่งของโอบามาจนถึงขณะนี้นั้น จำนวนหนี้สินของรัฐบาลอเมริกาได้เพิ่มขึ้นอีกถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์ ประชาชนจำนวนมากต่างเคยคิดกันว่า การเลือกโอบามาขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐ จะทำให้การทำสงครามต่างๆ นอกเขตพรมแดนของกองทัพสหรัฐอเมริกาลดน้อยลงหรือเบาบางลงได้บ้าง

    [​IMG]

    ทว่ากลับเป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจอย่างยิ่ง เนื่องจากภายในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีเท่านั้นที่การเผชิญหน้าต่างๆ ได้แผ่ขยายวงกว้าง และทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ

    "ดิกเลน วอลช์" นักเขียนคอลัมน์ผู้มีชื่อเสียงชาวอังกฤษคนหนึ่ง ได้เขียนบทความเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งได้ชี้ไปยังกรณีการโจมตีของกองทัพสหรัฐอเมริกาในแผ่นดินโซมาเลีย โดยเขาได้เขียนบทความว่า "โซมาเลีย คือประเทศที่หกที่ขณะนี้กำลังได้ลิ้มรสการทิ้งระเบิดของกองทัพของสหรัฐอเมริกา แต่คำถามมีอยู่ว่า ในการโจมตีต่างๆ เหล่านี้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพหรือ องค์กรลับซีไอเอ?"

    การโจมตีเหล่านี้สามารถที่จะสร้างความนิยมต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกาให้เกิดขึ้นในความรู้สึกนึกคิดของประชาคมโลกได้หรือไม่?

    คำตอบก็คือ "ไม่ได้เลย" มีเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ของประชาชนชาวปากีสถานที่ให้การสนับสนุนการโจมตีประเทศของพวกเขาโดยเครื่องบินที่ปราศจากนักบินของสหรัฐอเมริกา ดังนั้นเราคงสรุปได้ว่า ความพยายามของรัฐบาลสหรัฐอเมริกานั้นไม่อาจที่จะบรรลุผลลัพธ์ที่พวกเขาต้องการได้เลยแม้แต่น้อย และบัดนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมาทบทวนดูนโยบายต่างประเทศของเราอย่างจริงจังกันใหม่เสียที

    ดูเหมือนว่าการใช้กำลังทหารนั้น จะสอดคล้องกับรสนิยมของโอบามาเป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดที่ว่าในการออกคำสั่งการโจมตีทางอากาศต่อประเทศลิเบียนั้นเขามิได้ รู้สึกทุกข์ร้อนใดๆ ที่จะขอเสียงสนับสนุนจากสภาครองเกส และขณะนี้ก็มีข่าวแพร่ออกมาอีกแล้วว่ากองกำลังภาคพื้นดินของสหรัฐอเมริกากำลังจะยกพลเข้าสู่แผ่นดินของลิเบียในเร็ววันนี้

    พยานที่ยืนยันถึงคำกล่าวอ้าง และข่าวลือข้างต้น คือคำพูดของ "ดีไมตีร์ รากูซีน" นักการทูตผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งของรัสเซีย ที่กล่าวว่า "ในทัศนะของเขา นาโต้กำลังดำเนินการหาช่องทางที่จะทำการโจมตีทางภาคพื้นดินต่อลิเบีย และลิเบีย ก็ไม่ใช่เป็นเพียงประเทศเดียวที่จะต้องทำหน้าที่ต้อนรับกองกำลังภาคพื้นดินของอเมริกัน"

    จากคำพูดของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลสามารถสรุปได้เช่นนี้ว่า การทำสงครามกับประเทศซีเรียก็จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้เช่นเดียวกัน ทุกๆ เรื่องดูเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งที่น่าขบขันเสียเหลือเกิน พวกเรา (ชาวอเมริกัน) กำลังจะจมดิ่งลงไปในกองหนี้ที่ท่วมหัวขึ้นทุกๆ วัน แต่รัฐบาลสหรัฐ พวกเขากลับคิดว่าพวกเขาจะทำอะไรก็ได้ในทุกๆ ที่ของโลกใบนี้โดยไม่คำนึงถึงปัญหานี้เลย

    พฤติกรรมตำรวจโลก แม้แต่กับพันธมิตรของตัวเอง

    วิธีการมองแบบจากหัวจรดเท้านี้ เป็นพฤติกรรมซึ่งถูกนำมาใช้แม้แต่กับประเทศที่เป็นพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาเอง ในข้อเขียนหนึ่งของหนังสือพิมพ์ "เยรูซาเล็มโพสต์" นั้น โอบามาได้ให้โอกาสกับ "เบนจามิน เนทานยาฮู" นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนเพื่อให้ถ่อยร่นกลับไปอยู่ที่เส้นเขตแดนตามข้อตกลง เจรจาสันติภาพกับชาวปาเลสไตน์ในปี 1967

    ดูเหมือนว่ารัฐบาลอเมริกันไม่มีความปรารถนาที่จะใช้การเจรจาทางด้านการทูตในตะวันออกกลางอีกแล้ว และเลือกที่จะใช้การทิ้งระเบิด และการใช้การข่มขู่แทน

    สหรัฐอเมริกาจำเป็นที่จะต้องรู้ว่า สายตาที่เปิดกว้างของชาวโลกกำลังจ้องมองดู และจดจำพฤติกรรมอันหยิ่งยโสที่โหดร้ายเกินมนุษย์ของพวกเรา และถ้าหากวันหนึ่งสหรัฐอเมริกาจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากประชาชาติเหล่านั้น ย่อมเป็นเรื่องห่างไกลยิ่งที่พวกเขาจะให้การช่วยเหลือ ต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกา

    ในขณะนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ล้มละลายอย่างสมบูรณ์แล้ว และระบบการเงินก็กำลังใกล้ที่จะล่มสลายในไม่ช้านี้ ในช่วงวิกฤตเช่นนี้เราจำเป็นจะต้องงดเว้นจากการใช้จ่ายเงินทุน และงบประมาณอย่างไร้สาระออกไปในต่างประเทศเสีย

    [​IMG]

    เหตุผล 16 ประการที่เป็นสิ่งชี้ชัดถึงจุดสิ้นสุดยุคแห่งการเป็นตำรวจโลกของอเมริกา

    1-ก่อนการเริ่มต้นของการต่อสู้กับการก่อการร้ายนั้น หนี้สินของรัฐบาลสหรัฐมีจำนวนต่ำกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่ปัจจุบันนี้ตัวเลขดังกล่าวนี้ได้เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าสองเท่าของใน อดีตที่ผ่านมา และตอนนี้ตัวเลขไปอยู่ที่ 14.3 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว

    2- ปัจจุบันนี้กองทัพสหรัฐอเมริกาประจำการอยู่ในประเทศต่างๆ มากกว่า 130 ประเทศทั่วโลก และมีฐานทัพรวมทั้งสิ้นประมาณ 700 ฐานทั่วโลก การรักษาฐานทัพทั้งหมดเหล่านี้มีภาระค่าใช้จ่ายสำหรับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในแต่ละปีประมาณหนึ่งแสนล้านดอลลาร์

    3- ค่าใช้จ่ายทางด้านการทหารของกองทัพสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว สูงกว่าค่าใช้จ่ายของกองทัพจีน รัสเซีย ญี่ปุ่น อินเดียและประเทศสมาชิกอื่นๆ ขององค์การนาโต้ทั้งหมดรวมกัน

    4- กองทัพของสหรัฐอเมริกาเพียงชาติเดียวมีค่าใช้จ่ายถึงร้อยละ 46.5 ของจำนวนเงินทั้งหมด ที่จะถูกใช้จ่ายในกองทัพทั้งหมดของโลก ในขณะที่กองทัพของประเทศจีนซึ่งตั้งอยู่ในอันดับที่สองกลับมีค่าใช้จ่ายแค่เพียงร้อยละ 6.6 เท่านั้น

    5- ถ้าหากบิลเกตส์ (มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก) ได้นำเงินทั้งหมดของตัวเองมามอบให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ก็สามารถจะระงับสภาวะการขาดดุลงบประมาณของอเมริกาได้แค่เพียง 15 วันเท่านั้น

    6- รายการนอกงบประมาณและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาในงบประมาณของเพนตากอนนั้น สถิติได้แสดงให้เห็นว่ามี ค่าใช้จ่ายในส่วนของการป้องกันประเทศระหว่าง 1.01 - 1.35 ล้านล้านดอลลาร์

    7- รัฐบาลสหรัฐอเมริกาโดยเฉลี่ยต้องกู้ยืมเงินในทุกๆ หนึ่งชั่วโมงรวมเป็นเงินประมาณ 168 ล้านดอลลาร์

    8- ในปัจจุบันนี้ "เพนตากอน" มีการใช้จ่ายเงินร้อยละ 56 ของงบประมาณสำรองของประเทศทั้งหมด

    9- ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในระหว่างปี 2007 และ 2010 ที่ GDP ของสหรัฐอเมริกามีการเติบโตร้อยละ 4.26 ในขณะที่ในช่วงระยะเวลาเดียวกันนี้ หนี้สินของภาครัฐกลับเพิ่มสูงขึ้นในอัตรา 61 เปอร์เซ็นต์

    10- ค่าใช้จ่ายในการทิ้งระเบิดในประเทศลิเบียในสัปดาห์แรกของการทำสงครามเพียงสัปดาห์เดียวนั้น ใช้เงินจำนวนถึง 600 ล้านดอลลาร์

    จำเป็นอย่างยิ่งที่ท่านทั้งหลายจะต้องตระหนักว่า ตามการยอมรับของบรรดาแกนนำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลลิเบียนั้น มีสมาชิกจำนวนมากของกลุ่มอัลกออิดะฮ์ปะปนอยู่ในหมู่กองกำลังของกลุ่มฝ่ายต่อต้านรัฐบาล หมายความว่าพวกเขาเหล่านั้นคือสมาชิกของกลุ่มเดียวกันกับที่กำลังเข่นฆ่าทหารอเมริกันในอิรักอยู่ขณะนี้ ด้วยเหตุนี้เอง กองทัพสหรัฐกำลังดำเนินการในการช่วยเหลือให้กลุ่มอัลกออิดะฮ์ขึ้นมามีอำนาจปกครองประเทศลิเบีย

    (ซึ่งในความเป็นจริงแล้วกลุ่มอัลกออิดะฮ์ หรือลัทธิวะฮาบีย์ ก็คือกลุ่มก่อการร้ายหนึ่งที่สหรัฐอเมริกาได้สร้างขึ้นมาในนามของมุสลิมและอิสลาม เพื่อเป็นเครื่องมือในการเล่นละครเพื่อตบตาชาวโลกเท่านั้นเอง เรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้วเมื่อไม่นานมานี้ : ผู้แปล)

    11-ราคาโดยเฉลี่ยของเครื่องบินรบ F -22 ลำหนึ่งนั้นมีราคาประมาณ 350 ล้านดอลลาร์

    12- บรรดาผู้เสียภาษีชาวอเมริกันในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ได้เทเงินลงกระเป๋าของกองทัพสหรัฐอเมริกาที่ทำการสู้รบอยู่ในประเทศอัฟกานิสถานและอิรัก เป็นจำนวนเงินมากกว่าหนึ่งล้านล้านดอลลาร์

    13- ท่านทั้งหลายพึงรู้เถิดว่า ถ้าหากทุกๆ หนึ่งวินาทีที่พวกท่านต้องใช้จ่ายเงินจำนวนหนึ่งดอลลาร์ พวกท่านจะต้องมีอายุถึง 31,000 ปี จึงจะสามารถใช้จ่ายเป็นจำนวนหนึ่งล้านล้านดอลลาร์ได้หมด

    14- ค่าใช้จ่ายในสงครามในอิรักและอัฟกานิสถานตั้งแต่ปี 2001 จนถึงช่วงเวลาขณะนี้ ได้ทำให้เงินถูกควักออกไปจากกระเป๋าของบุรุษ สตรีและเด็กทุกคนของอเมริกาคนละ 3,600 ดอลลาร์

    15- ค่าใช้จ่ายของกองทัพสหรัฐอเมริกาในอัฟกานิสถานเพียงวันเดียว เพียงพอที่จะนำไปสร้างอาคารใหม่ทั้งหมดของเพนตากอนได้

    16- รัฐบาลสหรัฐเพียงรัฐบาลเดียวในขณะนี้ มีภาระหนี้สินเป็นจำนวนหนึ่งในสามของหนี้สินของรัฐบาลทั้งหมดของโลก

    [​IMG]

    หนี้สินรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะเปรียบได้ก็เหมือนกับม้าพยศที่ในแต่ละวันจะดื้อด้านมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม โดยไม่อาจคุมบังเหียนมันไว้ได้อีกต่อไป และการจุดไฟสงครามก็ไม่อาจที่จะทำให้สามารถควบคุมบังเหียนม้าพยศนี้ไว้ได้เช่นกัน การทิ้งระเบิดลงบนนานาประเทศ ก็ไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยในการเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นคงใดๆ แก่สหรัฐอเมริกาได้แล้ว ในทางกลับกันจะยิ่งเพิ่มศัตรูในนานาประเทศมากยิ่งขึ้น การกระจายของกองทหารตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกมากเกินไป ได้สร้างวิตกให้กับผู้ที่เป็นห่วงความมั่นคงของสรัฐเมริการยิ่งนัก

    ปัจจุบันการกระจายของกองกำลังทหารของอเมริกาในโลกนั้นมีสูงมากถึงขั้นที่ นักวิเคราะห์บางคนกลัวว่าการกระจัดกระจายของกองกำลังของอเมริกา ในกรณีที่มีภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ กองทัพจะไม่สามารถที่จะเผชิญหน้ากับมันได้

    ณ เวลานี้ ถ้าหากผู้ใดคิดที่จะปกป้องกองทัพสหรัฐอเมริกาจริงๆ และต้องการไม่ให้มีภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐอเมริกาแล้วไซร้ จำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเขาจะต้องเรียกร้องจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาว่า ควรจะวางมือจากการทำตัวเป็นตำรวจโลกได้แล้ว และอย่าได้ส่งบรรดาทหารหนุ่มชาวอเมริกันออกไปสู่สมรภูมิที่ไม่มีวันจะได้หวนกลับ และไม่อาจที่จะไปถึงยังเป้าหมายใดๆ ได้อีกต่อไปเลย

    การทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่องเช่นนี้เท่ากับว่า บารัก โอบามา กำลังนำไม้ราคาถูกเข้ามาสุมไว้ในคลังนิวเคลียร์ของอเมริกาเอง และในกรณีนี้ เราจะไม่มีอะไรเหลือไว้ป้องกันตนจากภัยคุกคามต่างๆ ทางด้านยุทธศาสตร์ต่อบรรดาประเทศ อย่างเช่น รัสเซียและจีนได้เลย ดูเหมือนว่ารัฐบาลของอเมริกาได้กลายเป็นรัฐบาลของบุคคลสองคนไปเสียแล้ว และไม่สามารถที่จะทำงานใดๆ ให้ บรรลุผลได้ ในความเป็นจริงทุกๆ สิ่งที่โอบามา และบุชได้กระทำไปนั้น ถือเป็นความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

    สหรัฐอเมริกาจะต้องมีกองทัพที่มีความเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลา แต่การแสดงตนเป็นตำรวจโลกเอาไว้นั้น เป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง การทิ้งระเบิดในตะวันออกกลาง คือความผิดพลาดทางด้านยุทธศาสตร์ มีแต่จะสร้างศัตรูสำหรับตัวเราเองเพียงเท่านั้น นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นทางด้านการทหารสำหรับการเป็นตำรวจโลกนั้นยิ่งจะทำให้ฝันร้ายแห่งความเป็นหนี้ของรัฐบาลอเมริกากลายเป็นสีดำและมืดสนิทมากยิ่งขึ้น

    ที่มา http://www.ahlulbait.org/main/content.php?category=11&id=1288
     
  12. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    10 พ.ค. 56

    16 ก.ย. 51 เรื่องเล่าจากภาพ

    การทะเลาะวิวาท ผู้นำจากคนนอก แผ่นดินไหว

    25 เม.ย.56 ปีนี้ให้เริ่มขยับ และระวังปีหน้า(2557)จะหนักมาก

    เมื่อวานตอนเย็นก่อนปิดร้าน ผู้ช่วยบอกว่าเห็นหมอหลวงกำลังรอรถจะไปทำงาน ผมได้ออกไปหาและพูดคุยกัน วันที่ 9 พ.ค. ศกนี้ต้องขึ้นที่สูงไหมครับ? ท่านบอกว่าจะมีการขยับ แต่ให้ระวังปีหน้า(2557)จะหนัก เป็นเพราะเจ้านายหมอ กับมหาเทพองค์หนึ่งช่วยต้านใช่ไหมครับ? ท่านพยักหน้า

    จากสามแหล่งคือ ฮ่มภะฯ เจ้านายหมอหลวง และภาพนิมิตผมที่ยืนมองน้ำอยู่ริมทะเล พอจะเห็นภาพได้ว่า ปีนี้ภัยเรื่องน้ำยังไม่มา แต่ถ้าภาพสัญญาณเท้าผมแช่น้ำเมื่อไร?ก็เตรียมถอนสมอได้เลย

    27 เม.ย. 56 เท้าผมแช่น้ำเมื่อไร? ก็เตรียมถอนสมอได้เลย

    นิมิตเช้านี้ เท้าผมได้แช่น้ำแล้ว ความสูง 50 ซ.ม. แสดงว่าใกล้เต็มทีแล้ว สำหรับท่านที่คิดว่าเชื่อ และอยากเตรียมความพร้อมไว้ก่อน ก็เมล์เข้ามาคุยในข้อความส่วนตัวในเว็บฯนี้ แล้วจะเล่านิมิตให้ฟังก็จะรู้ว่าเมื่อใด? ส่วนแนวร่วมที่ได้เข้ามาแล้วก็จะทะยอยแจ้งให้รับรู้เป็นรายๆไป

    เกิดเมื่อไร?

    ขอให้สังเกตุเหตุการณ์ หนึ่งไปหาสอง ถ้าเกิดจริงก็เตรียมตัวถอนสมอได้ ผู้สนใจก็สอบถามเข้ามาจะเล่าเรื่องนิมิตให้ฟังแล้วไปคิดเอาเอง

    เคอิสรา
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    วิเคราะห์ "เมืองป่ากระต่ายขี้" !!!

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเมืองป่ากระต่ายขี้

    ironman สมาชิก

    ผมขอแสดงความคิดเห็นบ้างครับ ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนั้น คำว่า "เมืองป่ากระต่ายขี้" นั้น น่าจะหมายถึง.....

    กระต่ายนั้น เป็นสัตว์ที่อ่อนแอ และขี้ตกใจง่าย การที่มีที่ๆนึง ที่กระต่ายซึ่งเป็นสัตว์ที่อ่อนแอ และอ่อนไหวต่อการรับรู้การเคลื่อนไหวของศัตรูรอบข้างได้ไวมากๆนั้น มาอยู่อาศัยได้อย่างเสรี นั่นอาจจะหมายถึง ป่าๆนั้นเป็นป่าร้าง ไ่ม่มีสัตว์ใหญ่เหลืออยู่เลย(รวมถึงคนด้วย) เป็นป่าที่เพิ่งเกิดใหม่ ไร้สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่อยู่อาศัย จึงทำให้กระต่ายอาศัยอยู่ได้อย่างเสรี

    hanky สมาชิก

    ในสมัยเด็กๆ แถวบ้านจะมีกระต่ายมาก กระต่ายมักจะออกมาขี้ตามป่าละเมาะ ซึ่งก็คือทีรกร้างว่างเปล่าเงียบๆ มีต้นไม้พุ่มเล็กๆ เป็นหย่อมๆ กระจายอยู่ทั่วไป เพราะไม่มีสัตว์ใหญ่ที่คอยทำอันตราย และง่ายต่อการระวังภัย สามารถหลบหลีกได้ง่าย(ประเภทวิ่งออกจากพุ่มนี้ โดดเข้าพุ่มนั้น) เราจะเรียกป่าแบบนี้ว่าป่าขี้กระต่าย แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นไร่อ้อยหมดแล้ว กระต่ายก็โดนข่ายดักไปรับประทานเรียบ 555

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ขอย้ำเตือน-อย่าลืม-เมืองป่ากระต่ายขี้-เตรียมพร้อมหรือยัง.494211/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2013
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เหตุการณ์ต่างๆได้ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขไปจากเดิม !!!

    [​IMG]

    มณีส่องแสง สมาชิก

    (เป็นสาสน์และความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจารณา)

    ....วันดวงตาสวรรค์เปิดเต็มที่...หรือวัน ที่ประตูพิภพเปิด..๙ เดือน ๙ ปี ๒๕๕๕....เดือน ๑๑ ปี ๒๕๕๕ เป็นการเริ่มต้นเข้าสู่โลกใบใหม่ รหัส..เกิดก่อนเกิด..เป็นการเตือนมนุษย์เพื่อให้จิตมนษย์ ได้ตื่นรู้..และเตรียมตัว รหัส..ตายก่อนตาย..สติ และกรรมฐานจะสามารถทำให้ทุกคนรอด..

    ลองไปดูและอ่านข่าวสารที่ หลายที่ลงไว้ เกี่ยวกับ ฐานทัพใต้ดินของกลุ่มองค์กรลับที่(อินลูเมเนติ) ถูกทำลาย หลายจุดนั้น ..ว่าใครกันนะที่สามารถมีอำนาจและพลังมากมายขนาดนั้นที่สามารถจัดการ ทุกอย่างได้โดยที่ไม่ทิ้งร่องลอยและหลักฐานได้ ...และความจริง ...ทางองค์กรลับนั้น..พวกเขายึดโลกใบนี้ได้แล้ว ๗๐ % ..เหลืออีกแค่ ๓๐%... แต่พวกเขาก็ทำไม่สำเร็จ เพราะผู้ที่มีอำนาจลึกลับได้ถูกตามตัวเจอและถูก กระตุ้นให้(รู้ตื่น)..และเครียร์ด้วยตัวของผู้ที่มีอำนาจลึกลับ และก็ได้ทำการในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี และได้ยึดกลับโลกใบเก่านี้กลับมาได้แล้ว และทำการล้างและเครียร์ต่อสายใหม่ และจัดระบบสร้างโลกใบใหม่เรียบร้อยแล้ว..(ในภาคจิตวิญญาณและภาคจักรวาล)...

    และตอนนี้ระบบทุกอย่างนั้นจัดเสร็จแล้ว..โลกใบใหม่ถูกสร้างเสร็จแล้ว ในภาคจิตวิญญาณและภาคจักรวาล...ตอนนี้คงเหลือแต่การจัดระบบต่อภาคมนุษย์และ รอแค่เวลาการประกาศตัวตน หรือการเปิดเผยตัวตนและความจริง....องค์จิตจักรวาลนั้นเป็นเพศหญิง..อยู่ที่ สภาแกแล็คซี่แอนโดรมีด้า....(ระบบทางโลกมนุษย์ในปัจจุบันมิต่างจากหนังเรื่องสตาร์วอล์ ที่เคยมีสงครามจักรวาลเกิดขึ้น..และทางสภาแกแล๊คซี่แอนโดรมีด้ามาทำหลักฐานไว้มากมายยังโลกมนุษย์...)

    เพื่อนๆ แปลกแต่จริง เมือถึงเวลาแห่งการล้างหรือเครียร์ระบบ โลกเก่า เข้าสู่โลกใบใหม่ (แม่เหล็กโลก)..เพื่อนๆเชื่อหรือไม่ว่า ..จริงแล้ว (แอนแลตติค ที่ทุกคนทั่วโลกพยายามตามหานั้น และได้มีหลายคนและหลายหลักฐานว่าจะกลับมาและโผล่ขึ้นมาอีกครั้งในยุคนี้นั้น ..เป็นความจริง..และก็จะมาโผล่..ที่ "แผ่นดินไทย"..ของเรานั้นเอง เมื่อถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง...

    กรุงเทพนั้นภายในปีนี้น้ำจะท่วมหนักกว่าเดิม สองเท่า (ทุกอย่างแก้หรือช่วยไม่ได้เพราะเป็นภาวะกรรมและระบบการล้าง)..จุดใหญ่ที่จะมาล้างในพื้นที่กรุงเทพฯ..คือ..พหลโยธิน วิภาวดี ถ.กำแพงเพชร ราชประสงค์ เยาวราช สำเพ็ง ปากคลองตลาด มาบุญคลอง(กำแพงสูงกั้น)...(แต่เรามิได้มาทำให้แตกตื่นนะ และอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้กระมัง..เหตุจะเกิดไม่เกินภายในสองเดือน..) สาเหตุจากฝนและน้ำป่าที่มีมาก และไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ฝนจะตกทางเหนือกับอีสานมาก และน้ำก็จะล้นเขือนลำตะคลอง...

    และหลังจากที่น้ำท่วมกรุงเทพ ภายในปีนี้ ก็จะมีแผ่นดินยุบตามมา..และก็คงถึงเวลาแห่งการ ย้ายเมืองหลวงใหม่...(เพราะดวงเมืองของกรุงเทพนั้นหมดตั้งแต่ ปี ๒๕๔๙ แล้ว แต่ที่อยู่มาได้เพราะได้มีการต่อและแก้แล้วทางภาคจิตวิญญาณ คงรอแต่ภาคมนุษย์เท่านั้นก็คือการย้ายเมืองหลวงใหม่และการตั้งเสาหลักเมืองใหม่นั้นเอง)...ระบบทุกอย่างเป็นไปตามวัฐจักรแห่งการเปลี่ยนแปลง..เช่นเมืองหลวงแห่งแรกคือ..สุโขทัย อยุธยา กรุงธน และกรุงเทพฯ(กรุงรัตนโกสินทร์)..นั้นเอง..(เป็นสาสน์และความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจารณา ดูและอ่านเล่นๆก็มิเห็นเป็นไร แต่ถ้าหากสิ่งที่เรามาส่งสาสน์จะให้นำหลักฐานมาโชว์ก็คงจะยากเพราะ.."ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด")

    เราก็อยากให้เป็นเช่นนั้น มิต้องการให้เมืองไทยหรือกรุงเทพนั้น น้ำท่วมเลย แต่เราก็พยายามถามว่ามีวิธีแก้ไหม ท่านก็บอกว่า ..ในปีนี้มันเป็นภาวะกรรม และระบบการล้าง...ที่ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนและแก้ไขได้ เพราะมันถึงเวลาแล้ว (จากที่อดีตเคยพยายามยับยั้งและแก้ด้วยหลายฝ่าย โดยเฉพาะด้วยพระบารมีขององค์พ่ออยู่หัว)...และอีกอย่าง ก็เพราะมันถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงและการตื่นของ" องค์ท้าวพญานาค" ที่ตื่นมาทำงานนั้นเอง(ปีที่แล้วแค่กระดิกหาง)..แต่จริงแล้วถ้าหากผู้มีบารมีและผู้ที่มีอำนาจลึกลับไม่ช่วย แผ่นดินไทยก็คงไม่ต่างจากที่หลายฝ่ายหรือหนังสือหลายตำราได้เขียนไว้ว่า แผ่นดินไทยมิเหลือและเสียหายหลายจุดมาก แต่นี้ถือว่า การเกิดครั้งนี้น้อยที่สุด จาก ร้อยเปอร์เซ็นต์ เหลือแค่ ห้าเปอร์เซ็นต์เองคะ

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ การนำไปสู่ การเริ่มต้นแห่ง ยุคศิวิไลย์..ที่แท้จริงนั้นเอง...หลังจากที่แผ่นดินไทยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งภัยธรรมชาติ และ ระบบการเมืองแล้ว..เราบอกได้เลยว่าสุดยอดและดีสุด..และแผ่นดินไทยมีแต่ขยายไม่มีหดหรือหายไปไหน จากอดีตที่แผ่นดินไทยเรานั้นแผ่นดินหายไป ๑๔ จุด ..จะกลับคืนมาหมด แต่ว่า ต่างประเทศ เช่น พม่า เขมร มาเลเซีย ฯลฯ แผ่นดินจะหดและหาย...ส่วนแผ่นดินไทยขยายกลับมาเป็นขวานทองเล่มใหญ่เหมือนเดิม...และหลังจากสงครามโลกครั้งที่ ๓ ลาวจะมารวมกันตั้งรัฐบาลกับไทย(ไทยกับลาวกับมาเป็นพี่น้องกัน อย่างเช่นพญานาคในอดีตที่เคยเป็นเพื่อนกันและก็กลับมาคืนดีและกลับมารักกันเหมือนเดิม)....

    ปล. ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แผ่นดินไทยถือว่า การเกิดภัยพิบัตินั้น น้อยที่สุดกว่าทุกประเทศทั่วโลก (เพราะผู้ที่มีพลังอำนาจลึกลับได้ "รู้ตื่น"และช่วยอีกส่วนหนึ่งนั้นเอง..แต่ไม่เกิดก็ไม่ได้เพราะมนุษย์ได้ทำกรรมหนักเหลือเกิน ..)..และมนุษย์ก็หลงลืม หน้าที่ของตน..ไปยึดติด กับอำนาจและเงินตรา..

    ที่มา http://palungjit.org/threads/เกิดก่อนเกิด-พรแปดประการ.349475/

    หมายเหตุ

    ข้อมูลของคุณมณีส่องแสงนี้ ตรงกับที่อาจารย์ปริญญา ตันสกุล ได้เคยบอกเอาไว้ว่า กรุงเทพและภาคกลาง จะไม่จมน้ำทะเลอย่างถาวร เพราะแผ่นเปลือกในบริเวณนี้จะยกตัวสูงขึ้น ทำให้ได้พื้นที่กลับคืนมาในที่สุด (แต่อาจจะกินเวลาหลายปีกว่าที่จะได้พื้นที่ที่จมน้ำทะเลกลับคืนมา) และถ้าทวีปแอตแลนติสที่จะกลับคืนมาตรงบริเวณประเทศไทยเป็นจริง ก็มีความเป็นไปได้สูงที่แผนที่โลกใหม่ของ อ.ปริญญา ตันสกุล ที่เคยแสดงเอาไว้ว่าภาคกลางและภาคอีสานของไทย ไม่ได้สูญหายไปตามคำทำนาย ที่มีมาแต่ดั้งเดิมนั่นเอง -เกษม-
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ผมขอตอบตามความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ !!!

    ผมขอตอบตามความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ จะถูกหรือผิด ผมก็ไม่สามารถรับประกันได้นะครับ

    1.เหตุการณ์ที่ อ.ปริญญา ตันสกุล ได้เคยบอกเอาไว้นั้น ผมคิดว่ายังคงเป็นไปตามนั้นทุกประการในภาพรวมของภัยพิบัติทั้งโลก เพียงแต่ประเทศไทยมีพระโพธิสัตว์ลงมาเกิดมากมาย ภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย จึงลดความรุนแรงลง ด้วยบุญญาบารมีของพระโพธิสัตว์เหล่านี้ครับ แต่ก็ยังคงมีภัยพิบัติเกิดขึ้นเป็นบางจุด บางที่เท่านั้นครับ ไม่ได้เกิดหมดทั้งประเทศอย่างที่ อ.ปริญญา ได้เคยบอกเอาไว้ครับ

    2.ใช่ครับ เพราะเคยมีพระอริยสงฆ์บางองค์ เคยบอกเอาไว้ว่าภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพฯ จะถูกน้ำทะเลท่วมนานหลายปี จนไม่สามารถจะใช้อยู่อาศัยได้อีกต่อไป หลังจากนั้นน้ำทะเลจะลดลง แต่ไม่มีใครกล้ากลับไปอยู่อาศัยอีก ต้องกลายเป็นเมืองร้างไปครับ

    3.ทวีปแอตแลนติสในสมัยโบราณ มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมากครับ ถ้าทวีปแอตแลนติสบางส่วนจะปรากฎขึ้นมา เพราะการยกตัวของแผ่นเปลือกโลก ในบริเวณอ่าวไทย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยครับ

    4.เมืองหลวงใหม่ของประเทศไทย พระอาจารย์รัตน์เคยบอกเอาไว้ว่าจะย้ายไปอยู่ที่ จ.ลำพูน ครับ ถึงกรุงเทพน้ำทะเลจะไม่ท่วมถาวร แต่ก็คงท่วมอยู่นานหลายปี กว่าที่น้ำทะเลจะลดลง เพราะแผ่นเปลือกโลกยกตัวสูงขึ้น เมืองใดที่ถูกทิ้งร้างเพราะเกิดอุทกภัย แผ่นดินไหว แผ่นดินยุบตัว ย่อมไม่มีใครกล้าจะกลับไปอยู่อาศัยอีก เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยนั่นเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2013
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ไข้หวัดใหญ่ระบาดในภาคใต้ของจีน คร่าชีวิตนักเรียน 1 ราย

    [​IMG]

    หนานหนิง 10 พ.ค. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ ทำให้นักเรียนคนหนึ่งเสียชีวิตและอีกหลายสิบคนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน

    รายงานระบุว่า นักเรียนวัย 10 ปี ของโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในหมู่บ้านติงซาน เมืองหลายปิน เสียชีวิตจากภาวะสมองอักเสบรุนแรงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าไข้หวัดใหญ่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะสมองอักเสบ

    นักเรียนกว่า 30 คนมีอาการไข้และไอตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่แล้ว และการสอบสวนของหน่วยงานสาธารณสุขในท้องถิ่นพบว่า ประชาชนทั้งหมด 64 คน เป็นเด็กก่อนวัยเรียน 62 คน และผู้ปกครอง 2 คน จากหมู่บ้านติงซานและหมู่บ้านอี้ชานที่อยู่ใกล้เคียง มีอาการคล้ายกันนี้

    จนถึงขณะนี้ผู้ป่วย 52 คนยังมีอุณหภูมิร่างกายปกติ ขณะที่อีก 5 คนถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลในเมืองหลายปินเพื่อรับการรักษาเพิ่มเติม ทั้งนี้ หน่วยงานสาธารณสุขได้เข้มงวดการตรวจสอบและเฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้ และได้สั่งระงับการเรียนการสอนในโรงเรียนที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส

    สำนักข่าวไทย TNA News | 10 พ.ค. 2556 16:37 |

    ที่มา ไข้หวัดใหญ่ระบาดในภาคใต้ของจีน คร่าชีวิตนักเรียน 1 ราย | MCOT.net | MCOT.net

    ยอดผู้เสียชีวิตจากอาคารถล่มในบังกลาเทศพุ่งถึง 1,000 คนแล้ว

    [​IMG]

    ธากา 10 พ.ค.. – ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอาคารถล่มครั้งร้ายแรงที่สุดในบังกลาเทศพุ่งสูงเกิน 1,000 คน แล้วในวันนี้ โดยยังคงพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มจากกองซากปรักหักพังของอาคารที่พังถล่มลงมา

    โฆษกกองทัพบกบังกลาเทศกล่าวว่า ปฏิบัติการกู้ภัยย่างเข้าวันที่ 17 แล้วหลังจากเกิดเหตุที่อาคารโรงงานในเมืองซาวาร์ ห่างจากกรุงธากาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 30 กม. รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถกู้ศพออกมาได้อีก 130 ศพนับแต่เมื่อเช้าวานนี้ บางศพอยู่ในสภาพเน่าเปื่อยไม่สามารถจำได้ อาจต้องอาศัยโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าหรือบัตรประจำตัวที่คล้องคอในการพิสูจน์ว่าเป็นผู้ใด ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นคนงานหญิง รายงานระบุว่า มีศพอย่างน้อย 150 ศพถูกฝังโดยไม่สามารถระบุตัวได้ แต่ทางการเก็บดีเอ็นเอของเหยื่อทุกคนไว้เผื่อกรณีมีการเรียกร้องค่าชดเชย

    ขณะเกิดเหตุมีคนงานกว่า 3,000 คนในโรงงานเสื้อผ้า 5 แห่งที่อยู่ในอาคารที่เกิดเหตุ รายงานระบุว่า มีผู้เคราะห์ร้ายอย่างน้อย 2,437 คนได้รับการช่วยเหลือไว้ได้ และมีจำนวนราว 1,000 คนที่บาดเจ็บสาหัส

    สำนักข่าวไทย TNA News | 10 พ.ค. 2556 09:49 |

    ที่มา ยอดผู้เสียชีวิตจากอาคารถล่มในบังกลาเทศพุ่งถึง 1,000 คนแล้ว | MCOT.net | MCOT.net
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2013
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    "สามเหลี่ยมชีวิต" วิธีรอดตายจากแผ่นดินไหว !!!

    [​IMG]

    "สามเหลี่ยมชีวิต" วิธีรอดตายจากแผ่นดินไหว จากบทความของดัก คอบบ์ เรื่อง "สามเหลี่ยมชีวิต" เรียบเรียงสำหรับการสรุปให้คณะกรรมการด้านความปลอดภัย MAA

    ผมชื่อ ดัก คอบบ์ ผมเป็นหัวหน้าหน่วยกู้ภัยและผู้จัดการด้านพิบัติภัยของทีมกู้ภัยนานาชาติแห่งสหรัฐฯ ซึ่งเป็นทีมกู้ภัยที่มีประสบการณ์มากที่สุดในโลก ข้อมูลในบทความนี้ จะช่วยชีวิตคนในกรณีแผ่นดินไหว ผมเคยคลานเข้าไปในตึกที่ถล่มมา 875 ตึก เคยทำงานกับหน่วยกู้ภัยจาก 60 ประเทศ ก่อตั้งหน่วยกู้ภัย ในหลายประเทศ และเป็นเหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการอพยพผู้คนกรณีเกิดพิบัติภัยขององค์การสหประชาชาติมา 2 ปี ผมได้ทำงานกับพิบัติภัยใหญ่ๆ ในโลกมาตั้งแต่ปี 1985

    เมื่อปี 1996 เราได้ทำภาพยนตร์ขึ้นมาเรื่องหนึ่ง ซึ่งได้พิสูจน์ว่าวิธีการรักษาชีวิตของผมถูกต้อง เราได้ถล่มโรงเรียนและบ้านที่มีหุ่นมนุษย์ 20 ตัวอยู่ภายใน หุ่น 10 ตัว "มุดและหาที่กำบัง" และอีกสิบตัวใช้วิธีการรักษาชีวิตแบบ "สามเหลี่ยมชีวิต" ของผม หลังจากแผ่นดินไหวทดลอง เราคลานผ่านซากปรักหักพังและเข้าไปในตึกเพื่อถ่ายภาพและเก็บข้อมูลของผลที่เกิด ในภาพยนตร์แสดงให้เห็นว่าอัตราการอยู่รอด ของพวกที่มุดและหาที่กำบังคือศูนย์ และโอกาสรอด 100% สำหรับพวกที่ใช้วิธี "สามเหลี่ยมชีวิต" ของผม

    ภาพยนตร์ชุดนี้ได้ผ่านสายตาของผู้ชมโทรทัศน์เป็นล้านๆ คนในตุรกีและส่วนที่เหลือของยุโรป เคยออกอากาศทางโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกา คานาดาและลาตินอเมริกา ตึกแห่งแรกที่ผมได้คลานเข้าไป คือโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองเม็กซิโกซิตี้ในแผ่นดินไหวปี 1985 เด็กทุกคนอยู่ใต้โต๊ะเรียน เด็กทุกคนถูกอัดแบนจนกระดูกแหลก พวกเขาอาจจะมีชีวิตรอดด้วยการนอนราบกับพื้น ตรงบริเวณทางเดินข้างๆ โต๊ะเรียนของตัวเอง

    ในเวลานั้น เด็กๆ ได้รับคำแนะนำให้หลบใต้อะไรบางอย่าง อธิบายอย่างง่ายๆเมื่อตึกถล่ม น้ำหนักของเพดานที่ตกลงมาบนสิ่งของหรือเครื่องเรือนที่อยู่ภายในจะทับทำลายสิ่งของเหล่านั้น เหลือที่ว่างหรือช่องว่างข้างๆมัน ที่ว่างเหล่านี้คือสิ่งที่ผมเรียกว่า "สามเหลี่ยมชีวิต" สิ่งของชิ้นยิ่งใหญ่ ยิ่งแข็งแรง โอกาสถูกทับอัดยิ่งน้อย โอกาสที่สิ่งของถูกทับอัดยิ่งน้อย ช่องว่างก็จะยิ่งใหญ่ขึ้น โอกาสที่คนที่อาศัยช่องว่างเหล่านั้นหลบภัยจะไม่เป็นอันตรายก็ยิ่งมาก

    ครั้งต่อไปที่คุณดูอาคารที่ถล่มในโทรทัศน์ ลองนับ "สามเหลี่ยม"ที่เกิดขึ้นที่คุณเห็นดูมันที่อยู่เต็มไปหมดทุกที่ เป็นรูปทรงที่เห็นได้มากที่สุดอยู่ทั่วไป

    สิบวิธีเพื่อความปลอดภัยยามแผ่นดินไหว

    1) เกือบทุกคนที่ "มุดและหาที่กำบัง" เมื่ออาคารถล่มถูกทับอัดจนตาย คนที่เข้าไปอยู่ใต้สิ่งของ อาทิโต๊ะหรือรถยนต์ถูกอัดทับ

    2) แมว หมา และเด็กทารก โดยธรรมชาติมักจะขดตัวในท่าเหมือนอยู่ในครรภ์มารดา คุณควรทำเช่น กันในกรณีแผ่นดินไหว มันเป็นสัญชาติญาณเพื่อความปลอดภัย/รักษาชีวิต คุณสามารถมีชีวิตรอดในช่องว่างที่เล็กกว่า ไปอยู่ข้างๆ สิ่งของ ข้างเก้าอี้โซฟา ข้างของหนักๆชิ้นใหญ่ๆ ที่จะบี้แบนไปบ้างแต่ยังเหลือที่ว่างข้างๆ มันไว้

    3) อาคารไม้เป็นสิ่งก่อสร้างที่ปลอดภัยที่สุด ที่จะอยู่ภายในขณะแผ่นดินไหว ไม้มีความยืดหยุ่นและเคลื่อนตัวตามแรงของแผ่นดินไหว ถ้าอาคารไม้จะถล่มจะเกิดช่องว่างขนาดใหญ่เพื่อช่วยชีวิต และอาคารไม้ยังมีน้ำหนักทับทำลายที่เป็นอันตรายน้อยกว่า อาคารอิฐจะแตกพังเป็นก้อนอิฐมากมาย ก้อนอิฐเหล่านี้เป็นสาเหตุของการบาดเจ็บ แต่จะทับอัดร่างกายน้อยกว่าแผ่นคอนกรีต

    4) หากคุณกำลังนอนอยู่บนเตียงตอนกลางคืนและเกิดแผ่นดินไหว เพียงกลิ้งลงจากเตียง ช่องว่างที่ปลอดภัยจะเกิดรอบๆเตียงโรงแรม จะสามารถเพิ่มอัตราผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวได้ โดยเพียงติดป้ายหลังประตูในทุกห้องพักบอกให้ผู้เข้าพักนอนราบกับพื้นข้างๆ ขาเตียงระหว่างแผ่นดินไหว

    5) หากมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นและคุณไม่สามารถหนีออกมาง่ายๆ ทางประตูหรือหน้าต่าง ก็ให้นอนราบและ ขดตัวในท่าทารกในครรภ์ข้างๆ เก้าอี้โซฟาหรือเก้าอี้ตัวใหญ่ๆ

    6) เกือบทุกคนที่อยู่ตรงช่องประตูตอนตึกถล่มไม่รอด เพราะอะไร? หากคุณยืนอยู่ตรงช่องประตูและวง กบประตูล้มไปข้างหน้าหรือข้างหลัง คุณจะโดนเพดานด้านบนตกลงมาทับ หากวงกบประตูล้มออกด้านข้าง คุณจะถูกตัดเป็นสองท่อนโดยช่องประตู ไม่ว่ากรณีไหน คุณไม่รอดทั้งนั้น!

    7) อย่าใช้บันไดเด็ดขาด บันไดมี "ช่วงการเคลื่อนตัว" ที่แตกต่างไป (บันไดจะมีการแกว่งแยกจากตัวอาคาร) บันไดและส่วนที่เหลือของตัวอาคารจะชนกระแทกกันอย่างต่อเนื่อง จนเกิดปัญหากับโครงสร้างของบันได คนที่อยู่บนบันไดก่อนที่บันไดจะถล่มถูกตัดเป็นชิ้นโดยชั้นบันได ถูกแยกส่วนอย่างน่าสยดสยอง ถึงอาคารจะไม่ถล่มก็ควรอยู่ห่างบันไดไว้ บันไดเป็นส่วนของอาคารที่มีโอกาสถูกทำให้เสียหาย ถึงแม้แผ่นดินไหวจะไม่ได้ทำให้บันไดถล่ม มันอาจถล่มในเวลาต่อมา เมื่อรับน้ำหนักมากเกินไปจากคนที่กำลังหนี มันควรได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยเสมอ ถึงแม้ส่วนที่เหลือของอาคารจะไม่ได้รับความเสียหายก็ตาม

    8) ไปอยู่ใกล้กำแพงด้านนอกของอาคาร หรือออกจากอาคารถ้าเป็นไปได้ จะเป็นการดีกว่ามากที่จะอยู่ใกล้ส่วนนอกของอาคาร มากกว่าจะอยู่ที่ส่วนในของอาคาร คุณยิ่งอยู่ลึกเข้าไปหรือไกลจากบริเวณภายนอกของอาคารมากเท่าไหร่ โอกาสที่ทางหนีของคุณจะถูกปิดกั้นยิ่งมีมาก

    9) คนที่อยู่ภายในรถยนต์ถูกทับอัด เมื่อถนนด้านบนตกลงมาเพราะแผ่นดินไหวและทับรถ ของพวกเขา นี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับแผ่นคอนกรีตระหว่างชั้นของถนนหลวงนิมิทซ์ ผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมดจากแผ่นดินไหวที่ซานฟรานซิสโกอยู่ในรถของตัวเอง พวกเขาตายทั้งหมด พวกเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ง่ายๆ ด้วยการออกจากรถและนั่งหรือนอนราบอยู่ข้างๆ รถตัวเอง คนที่ตายทุกคนอาจรอดได้ถ้าพวกเขาสามารถออกจากรถ และนั่งหรือนอนราบอยู่ข้างรถตัวเอง รถที่ถูกทับอัดทุกคันมีช่องว่างสูง 3 ฟุตอยู่ข้างๆ ยกเว้นรถที่ถูกเสาคานตกทับกลางคันรถ

    10) ผมค้นพบ--ขณะที่คลานเข้าไปในซากสำนักงานหนังสือพิมพ์แล สำนักงานอื่นที่มีกระดาษจำนวนมาก--ว่ากระดาษไม่อัดตัว จะพบช่องว่างขนาดใหญ่รอบๆ กองกระดาษที่เรียงทับซ้อนกัน

    ***กระจายข้อมูลนี้จะช่วยชีวิตคนบางคน***

    ที่มา สามเหลี่ยมชีวิต" วิธีรอดตายจากแผ่นดินไหว

    พบหญิงรอดชีวิตจากตึกถล่มบังกลาเทศโดยติดอยู่นาน 16 วัน

    [​IMG]

    ธากา 10 พ.ค. - หน่วยกู้ภัยบังกลาเทศแถลงวันนี้ว่า พบผู้หญิงคนหนึ่งรอดชีวิตจากเหตุอาคารถล่มในบังกลาเทศเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คนแล้ว

    เจ้าหน้าที่กู้ภัยกล่าวว่า เรชมี หญิงที่รอดชีวิต ติดอยู่ในช่องว่างระหว่างคานกับเสาของตึกที่ถล่มลงมา โดยอาจมีน้ำสำรองไว้ดื่มหรืออาจได้รับน้ำจากเจ้าหน้าที่ที่ส่งเข้าไปด้านใน หนึ่งในทีมกู้ภัยได้ยินเสียงเธอร้องขอความช่วยเหลือขณะเจ้าหน้าที่เข้าไปกู้ภัยในอาคารที่ถล่มลงมานานกว่า 16 วันแล้ว พร้อมกับร้องตะโกนเพื่อตรวจสอบดูว่ายังมีผู้รอดชีวิตอีกหรือไม่

    สำนักข่าวไทย TNA News | 10 พ.ค. 2556 17:49 |

    ที่มา พบหญิงรอดชีวิตจากตึกถล่มบังกลาเทศโดยติดอยู่นาน 16 วัน | MCOT.net | MCOT.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2013
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สสจ.เชียงใหม่เตือนอากาศเปลี่ยน ส่งผลไข้เลือดออกระบาดรุนแรงหน้าร้อน

    [​IMG]

    สสจ.เชียงใหม่เตือนอากาศเปลี่ยน ส่งผลไข้เลือดออกระบาดรุนแรงหน้าร้อน เผยตั้งแต่ต้นปี 2556 พบผู้ติดเชื้อแล้ว 619 ราย เสียชีวิต 1 ราย ขอความร่วมมือ ปชช. ช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ตัดวงจรชีวิตพาหะนำโรค...

    วันที่ 9 พ.ค. 56 ทพ.ดร.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ไข้เลือดออกใน จ.เชียงใหม่ มีอัตรารุนแรงเพิ่มขึ้นกว่าทุกปี ทั้งๆ ที่กำลังจะย่างก้าวจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน ขณะนี้ทาง สสจ.เชียงใหม่ พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกตั้งแต่ต้นปี 56 จนถึงปัจจุบันพบว่า มีผู้ป่วยแล้วจำนวน 619 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยเดือนที่มีผู้ป่วยมากที่สุดคือเดือน เม.ย. มีผู้ป่วย 236 ราย โดยมีสถิติเพิ่มขึ้นสองเท่าคือ ก่อนหน้านั้นเดือน มี.ค. 155 ราย ถือว่ายอดผู้ป่วยสูงกว่าสถิติปีที่ผ่านๆ มาถึง 3-4 เท่า ทาง สสจ.เชียงใหม่ จึงประสานไปยังโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งภายใน 25 อำเภอ พร้อมกับระดม อสม. ออกประชาสัมพันธ์ แจ้งให้พี่น้องประชาชนช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย เพื่อตัดวงจรชีวิตของยุงลายที่เป็นพาหะนำโรค

    ทพ.ดร.สุรสิงห์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจัยสำคัญของโรคไข้เลือดออกนั้น เกิดจากผู้ป่วยถูกยุงลายกัดในช่วงกลางวัน ซึ่งกลุ่มเสี่ยงที่พบคือ ผู้สูงอายุ หรือเด็กเล็กๆ ที่นอนกลางวัน ต้องระวัง โดยช่วงนี้ใกล้เปิดเทอมแล้ว ฉะนั้น ฝากเตือนทางโรงเรียน เจ้าหน้าที่ ครู ภารโรง ช่วยทำความสะอาดห้องน้ำ เพราะปิดเทอมไว้นาน ยุงอาจไปไข่ในห้องน้ำ โดยขัดพนังของภาชนะเพื่อทำลายไข่ยุง เปลี่ยนน้ำเก่าออก หรือใส่ทรายอะเบต ไม่งั้นเด็กเปิดเทอมมาก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคไข้เลือดออกได้สูง สำหรับสถิติผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกนั้น ใน จ.เชียงใหม่ เสียชีวิต 1 ราย โดยเริ่มตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว ถ้าเราไม่ระมัดระวังช่วยกันก็อาจมีป่วยเพิ่มขึ้นและตายเพิ่มขึ้นอีก

    "อากาศที่เปลี่ยนแปลงในขณะนี้ ทำให้ยุงลายมีวงจรชีวิตที่สั้นลง คือโตเร็วกว่าปกติ จากลูกน้ำเป็นตัวโตเต็มวัยได้เร็วขึ้น นี่ขนาดไม่ใช่หน้าฝนจริงๆ หากภาชนะแหล่งน้ำขังต่างๆ ที่ฝนตกใส่อีกในช่วงฤดูฝน ก็จะมีการเพิ่มจำนวนยุงลายมากขึ้น ฉะนั้น พี่น้องประชาชนในพื้นที่ทุกคน ต้องช่วยกันตรวจสอบกำจัดภาชนะแหล่งแพร่พันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย เพราะโรคไข้เลือดออก ยังไม่มียารักษา เมื่อป่วยแล้วแพทย์ต้องรักษาตามอาการ ซึ่งอันตรายมาก" ทพ.ดร.สุรสิงห์ กล่าว

    ทพ.ดร.สุรสิงห์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนการของแนวทางการป้องกันของทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่นั้น หากพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกที่บ้านหลังไหนชุมชนพื้นที่ใด จะให้ทางโรงพยาบาลชุมชน และ อสม. เข้าไปฉีดพ่นยาไล่ยุงในบ้านนั้นและพื้นที่เสี่ยงบริเวณโดยรอบทันที เพราะยุงพาหะนำเชื้อยังอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว คนป่วยก็อย่าให้ยุงกัด เพราะเชื้อโรคอาจแพร่ต่อได้ และในเร็วๆ นี้ ทาง สสจ.เชียงใหม่ จะมีการจัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ เพื่อตัดวงจรยุงลายในช่วงนี้ลง ก่อนที่จะมีการระบาดไปมากกว่านี้.

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2556

    ที่มา สสจ.เชียงใหม่เตือนอากาศเปลี่ยน ส่งผลไข้เลือดออกระบาดรุนแรงหน้าร้อน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    คำทำนายของ Mother Shipton

    [​IMG]


    คำทำนายนี้อายุแถวๆ ห้าร้อยปีมาแล้วโดย Mother Shipton เกิดก่อนนอสตราดามุสสักสิบห้าปี เป็นชาวอังกฤษในปี ค.ศ. 1488 เดิมชื่อว่า Ursula Sontheil ตายเมื่อปี ค.ศ. 1561 จากการถูกเผา คาดว่าถูกจับหาว่าเป็นแม่มดเนื่องจากความสามารถการมองอนาคตของเธอ ต่อมาแต่งงานกับ Toby Shipton ไม่มีลูกแต่คนก็เรียกเธอว่า Mother Shipton. ​

    มีหนังสือเกี่ยวกับคำทำนายของเธอมาตั้งแต่ ค.ศ. 1641 ที่พิมพ์เป็นรูปเล่มขึ้นมา ลองอ่านแปลดูนะครับ คิดว่าเมื่อห้าร้อยปีที่แล้ว สังคมความเป็นอยู่ การรับรู้ข่าวสารตอนนั้นไม่เท่าปัจจุบัน ตอนที่อเมริกายังไม่ถูกค้นพบ เครื่องจักรไอน้ำยังไม่มี ข้อความหลายๆอย่างฟังดูวิทยาศาสตร์ เกินยุคเกินสมัย บางอย่างที่ยังไม่เกิดก็จะเริ่มมีเค้าให้เห็น อ่านจบก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เธอบ้างนะครับ

    คำทำนายของ Mother Shipton ฉบับแปลเป็นภาษาไทย

    นี่คือกลอนที่คล้องจองบ้างไม่คล้องจองบ้าง ของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า

    แล้วโลกจะเปลี่ยนไปคนละเรื่องเลย และทองจะพบได้ที่รากของต้นไม้ ลูกหลานชาวอังกฤษทุกคนที่ทำเกษตรไถดิน ก็จะพบเห็นว่าเป็นผู้ถือหนังสือในมือ คนจนก็จะกลายเป็นปราชญ์ที่เลื่องลือ บ้านหลังใหญ่ๆ ก็จะปลูกอยู่ในหุบเขาที่ไกลออกไป ทั้งหมดจะถูกปกคลุมด้วยหิมะและลูกเห็บ

    ตู้เกวียนโดยไม่มีม้าจะเคลื่อนไป ความหายนะจะทำให้โลกเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ในลอนดอนที่ Primrose Hill ก็จะเป็น ในที่ตรงกลางจะเป็นสำนักงานของบิช๊อฟ

    Note: Primrose Hill คือยอดเนินที่ใกล้ใจกลาง ลอนดอนที่สุด น่าจะสูงกว่าทุกตึกในเมือง

    รอบโลกความคิดของคนจะบินไป เร็วเหมือนกับตาขยิบ และน้ำก็จะเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างมาก แปลกใช่ไหม และมันก็จะเป็นความจริง (อินเตอร์เน็ต, น้ำท่วม?)

    ผู้คนจะขับขี่ทะลุภูเขาใหญ่ทั้งหลาย ไม่มีม้าหรือลาไปเคลื่อนที่ไปด้วยกับเขา ที่ใต้ผิวน้ำ ก็จะสามารถเดินไปมา จะมีการขับขี่, มีการนอนหลับ กระทั่งพูดกันได้ และมนุษย์ก็จะขึ้นไปอยู่ในอากาศ ในสีขาวและดำ แม้กระทั่งสีเขียว (อุโมงค์ลอดเขา การดำน้ำ scuba diving, การเดินอากาศ )

    ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง ก็จะมาปรากฏแล้วก็จะไป สำหรับคำทำนายนี้ประกาศไว้ ดังนั้นในน้ำ เหล็กก็จะสามารถลอยอยู่ได้ ง่ายๆเหมือนกับเรือไม้

    ทองจะพบได้ทั้งในสายน้ำ และในก้อนหิน ในแผ่นดินที่เรายังไม่รู้จัก (เรือเดินสมุทร ทองในอเมริกายุคบุกเบิก?)

    อังกฤษจะเข้าร่วมกับยิว คุณคิดว่าแปลกไหม แต่มันคือความจริง ชาวยิวที่ครั้งหนึ่งไม่มีใครไว้ใจ จะเป็นพวกกับคริสเตียนและจะเกิดขึ้น

    บ้านหลังหนึ่งทำด้วยกระจกจะมาถึงในอังกฤษ แต่ช่างเศร้าจริงหนอ สงครามจะตามมาด้วยผลงานนี้ ในที่ๆพวกนอกคริสเตียนและพวกตุรกีอาศัยอยู่ (คริสตัลพาเลสเป็น ศูนย์จัดแสดงงานและราชวัง เป็นสิ่งปลูกสร้างที่เป็นกระจก เกิดก่อนสงคราม โลกครั้งที่หนึ่งประมาณหกสิบปี)

    รัฐเหล่านั้นจะถูกขังอยู่ในการต่อสู้ที่รุนแรงอย่างที่สุด และหาทางจะทำลายชีวิตของผู้อื่น เมื่อทางเหนือจะแยกออกจากทางใต้ และอินทรีย์จะสร้างในปากสิงห์โต ตามด้วยภาษีเลือดและสงครามอันทารุณ จะมาเยือนทุกบ้านราษฏร์ทั่วไป (อินทรีย์และสิงห์โต หมายถึงอเมริกาและอังกฤษ)

    สามครั้งที่ประเทศฝรั่งเศสเมืองอันอุดมแดด จะนำเข้าสู่่การเต้นรำเลือด ก่อนที่ประชาชนจะเป็นอิสระ จะมีผู้ปกครองทรราชสามคนให้เห็น (การปฏิวัติฝรั่งเศส)

    ผู้ปกครองสามคนต่อกันมาจะ มาเป็นบุตรหลานของต่างราชวงศ์ และเมื่อความรุนแรงเหี้ยมโหดผ่านไป อังกฤษและฝรั่งเศษจะรวมเป็นหนึ่ง มะกอกอังกฤษต่อไปจะ แต่งงานกับองุ่นเยอรมัน มนุษย์เดินอยู่ใต้และเหนือสายน้ำ เมื่อทำได้ตามนั้นก็จะเป็นความฝันที่น่าอัศจรรย์

    ความน่าประหลาดใจยังไม่หมดแค่นั้น ผู้หญิงก็จะทำตามความนิยมทั่วไปคือ แต่งตัวเหมือนผู้ชาย ใส่กางเกงขายาว และตัดผมของตัวเองออก พวกเธอจะขี่คร่อมขาไปอย่างไม่อาย อย่างกับพวกแม่มดขี่ไม้กวาดตอนนี้ (ผู้หญิงนุ่งยีนส์ หรือ สูท+กางเกงตอนทำงาน, ทรงผมที่สั้นลง, ท่าทางที่ไม่เรียบร้อยเหมือน สมัยนั้น)

    Note: สมัยนั้นถ้าผู้หญิงจะขี่ม้า ก็จะเอาขาทั้ง สองข้าง พาดไว้ข้างเดียวกันของม้า ไม่ได้คร่อมขี่ เหมือนปัจจุบัน

    สัตว์ประหลาดที่คำรามโดยมีคนอยู่ข้างบน ทำเหมือนกับจะกินสิ่งที่อยู่ในแปลงเพาะปลูก คนก็จะบินเหมือนกับที่นกทำได้ในตอนนี้ และก็จะไม่ได้ใช้ม้ากับคราดอีก (เครื่องจักรกลการเกษตร เช่นเครื่องเก็บเกี่ยว)

    Note: ที่อังกฤษสมัยก่อนใช้ม้าลาก คันไถ-คราด ในการเพาะปลูกพืชที่เป็นแปลงใหญ่ๆ

    มันจะมีสัญลักษณ์ปรากฏให้เห็น เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ความรักจะหายไป การแต่งงานจะลดลง และประเทศชาติทั้งหลายจะไม่มั่นคงเพราะเด็กเกิดลดลง (เกิดสงครามและโรคระบาด อดอยากไปทั่วโลก?)

    เหล่าภรรยาก็จะลูบไล้แมวและหมาอย่างรักใคร่ มนุษย์(หรือผู้ชาย) อาศัยอยู่อย่างกับหมู บ้านทั้งหลายที่ใช้ฟางและกิ่งไม้ในการสร้างจะมีจำนวนน้อย และจะมีการเตรียมตัวเข้าสู่สงคราม ไฟและดาบก็จะกวาดเข้ามาในแผ่นดิน

    เมื่อภาพทั้งหลายเหมือนมีชีวิต และเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ เมื่อเรือที่เหมือนปลาจะเวียนว่ายอยู่ใต้ทะเล เมื่อมนุษย์จะบินเหมือนนกที่สำรวจไปทั่วท้องฟ้า ตอนนั้น ครึ่งโลก พวกที่โชกเลือดอยู่ก็จะตาย (ทีวี, เรือดำน้ำ, การสำรวจอวกาศ/ท้องฟ้า,สงคราม,โรคระบาด)

    สำหรับพวกที่ได้อยู่ในศตวรรษนั้น ความกลัวและสั่นจะทำให้ อพยพไปอยู่บนเขาและถ้ำ ไปในที่แฉะน้ำคล้ายทุ่งนา, ป่าและแหล่งที่ราบต่ำตามธรรมชาติ (การหนีเข้าป่า หรือออกจากเมือง แต่ทำไมล่ะ?)

    พายุทั้งหลายจะบ้าคลั่งและมหาสมุทรจะคำราม เมื่อยมทูตยืนในทะเลและชายฝั่ง เมื่อเขาเป่าเขาสัตว์อันประหลาดนั้น โลกเก่าทั้งหลายก็จะตาย และโลกใหม่ก็จะเกิด

    มังกรที่น่าสะพรึงกลัวตัวหนึ่งจะบินผ่าท้องฟ้า หกครั้งก่อนที่โลกจะตาย มนุษย์ชาติจะสั่นไหวและหวาดกลัว สำหรับครั้งที่หกนั้นก็จะอยู่ในคำทำนายนี้

    ทั้งเจ็ดวันเจ็ดคืน ผู้คนจะเฝ้าดูสั่งอันน่ากลัวนี้ ระดับน้ำจะขึ้นเกินกว่าที่เราจะคาดคิด น้ำจะกวาดชายฝั่งทั้งหลายและจากนั้น ภูเขาทั้งหลายก็จะเริ่มคำราม แผ่นดินไหวหลายครั้งจะทำให้ที่ราบกลายเป็นชายฝั่ง

    และท่วมเต็มไปด้วยน้ำ ที่รี่เข้ามา จะท่วมพื้นที่ทั้งหลาย ด้วยเสียงสนั่นหวั่นไหว ที่ทำให้มนุษย์ชาติล่าถอยหรือเข้าไปหลบในโคลนเลน และจะข่มขู่คนรอบข้างให้กลัวเกรง เขาจะแยกเขี้ยวขึ้นขู่ สู้ และ ฆ่าฟัน เพื่อซ่อนอาหาร ในเนินเขาลับ และจากความกลัวนั้น เขาก็หลอกลวง เพื่อที่จะฆ่าพวกมาค้นหาอาหาร, ขโมย และพวกหาข่าว

    ผู้คนจะอพยพออกไป จากความกลัวที่เกิดจากน้ำท่วม ฆ่า และข่มขืน และ จมอยู่ในกองเลือด การหลั่งเลือดก็จะเกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์ จะกลายเป็นรอยด่างและความขมขื่นสำหรับหลายๆพื้นที่

    เมื่อหางมังกรได้ผ่านไปแล้ว ผู้คนก็ลืมกันไป ยิ้มและมีชีวิตอยู่ต่อไป (to apply himself) สายไปแล้ว สายไปแล้ว สำหรับมนุษย์ชาติที่ได้รับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างสาสม

    ใบหน้าที่แสร้งยิ้มของเขา - ความเป็นผู้ดีจอมปลอมของเขา ที่จะรับใช้พระเจ้าทั้งหลาย และพวกเขาก็จะส่งมังกรกลับมา เพื่อจะจุดให้ท้องฟ้าสว่างไสว - หางของมันจะแตกออก ลงบนผิวโลก และทำให้โลกแยกออก ประชาชนก็จะอพยพหลบหนีทั้ง กษัตริย์ ขุนนาง และผู้ใช้แรงงาน

    พวกเขาก็จะแยกออกไปตามเส้นทางอย่างช้าๆ เพื่อค้นหาท่อส่งน้ำที่แทบจะไม่เหลือแล้ว และคนก็จะตายไปก่อนแล้วจากความกระหายน้ำ มหาสมุทรก็จะสูงขึ้น ขยับเข้าไปในชายฝั่ง ผืนที่ดินก็จะแตกและแยกออกจากกันอย่างแรงอีกครั้ง คุณติดว่ามันแปลกใช่ไหม แต่มันจะเป็นจริง

    ในแผ่นดินหนึ่งที่ไกลออกไป ยังมีคนอยู่บ้าง - โอ! มันเหลือน้อยเหลือเกิน จะต้องออกจากภูเขาอันแข็งแกร่งของเขา กระจายตัวออกไปยังที่ต่างๆของโลก แต่ก็น้อยเต็มที ผู้ที่รอดชีวิตจาก (ต้นฉบับก็อ่านไม่ออก) และจะเป็นจุดเริ่มต้นของมนุษย์ชาติอีกครั้ง

    ไม่ใช่บนแผ่นดินที่มีอยู่แล้ว แต่อยู่บนพื้นมหาสมุทรที่ไม่คุ้นเคย แห้งแล้ง และว่างเปล่า ไม่ใช่ว่าทุกวิญญาณบนผิวโลกนี้จะตาย ในขณะที่ หางมังกร กวาดผ่านไป ไม่ใช่ว่าทุกแผ่นดินบนผิวโลกจะจมน้ำ แต่แผ่นดินเหล่านั้นจะเกลือกกลิ้งอยู่ในสิ่งที่เน่าเหม็น ของร่างกายที่เริ่มเน่า ของสัตว์ร้ายและผู้คน และของพืชที่อยู่บนพื้นที่นั้น

    แต่ก็จะมีแผ่นดินหนึ่งที่โผล่ขึ้นมาจากทะเล จะแห้ง สะอาด อ่อนนุ่ม และ ว่างเปล่าจาก ฝุ่นผงของมนุษย์ชาติ ดังนั้นมันจึงกลายเป็น แหล่งที่จะเจริญต่อไปของผู้คน

    ผู้ที่ยังมีชีวิตนั้นก็จะหวาดกลัวภัยของ หางมังกร ต่อไปอีกหลายๆปี แต่เวลาก็จะสลายความทรงจำเหล่านั้น คุณคิดว่ามันแปลกใช่ไหม แต่มันจะเป็นอย่างนั้น(หางมังกร อาจหมายถึงพายุทอร์นาโด,พายุฟ้าผ่า,คลื่นยักษ์จากทะเล?)

    ก่อนที่มนุษย์ชาติจะเริ่มต้นใหม่ งูใหญ่สีเงินจะมาให้เห็น และคายมนุษย์ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อนออกมา จะเข้าร่วมกับโลกก็จะมีมากขึ้น ความหนาวเย็นจากความร้อนของมัน และผู้คนเหล่านี้สามารถ ทำให้จิตใจของคนในอนาคตบรรลุธรรม (มนุษย์ต่างดาว ในยานทรงกระบอก ให้ความช่วยเหลือ?)

    เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันได้ และแสดงให้ทุกคนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันด้วย ความรัก และ การให้อภัยกัน เด็กเหล่านี้ที่มีสายตาที่สอง เป็นเรื่องธรรมชาติที่พวกเขาจะ เติบโตอย่างสง่างาม, เรียบง่าย และเมื่อพวกเขาโตขึ้น ยุคทองก็จะเริ่มต้นใหม่

    หางมังกรนี้เป็นเครื่องหมาย แห่งการล่มสลายมนุษย์ชาติ การถดถอยของมนุษย์ และก่อนที่คำทำนายนี้จะจบนั้น ฉันก็จะถูกเผาอยู่ที่ลานประหาร ขณะเดียวกัน ร่างกายของฉันจะโหยหวล และวิญญาณของฉันจะเป็นอิสระ คุณคิดว่าฉันเป็นผู้ลบหลู่ไม่นับถือพระเจ้าหรือ คุณผิดเสียแล้วหละ ของเหล่านี้มันปรากฏแก่ฉันเอง คำพยากรณ์นี้จะเป็นจริง

    ข้อความเหล่านี้ปรากฏอยู่ตรงห่อของม้วนข้อความ ฉันรู้ว่าฉันจะต้องไป ฉันก็รู้ว่าฉันจะเป็นอิสระ ฉันรู้ว่าสิ่งนี้จะกลายเป็นความจริง จึงต้องซ่อนคำทำนายอันนี้เอาไว้ เพื่อสิ่งนี้จะได้ พบเจอในราชวงศ์ถัดไป ผู้รีดนมวัวคนหนึ่ง เป็นสาวผอมติดกระดูก จะเตะห่อม้วนข้อความอันนี้เข้าขณะที่เธอเดินผ่านไป และเธอจะมีลูกหลานไปถึงห้ารุ่น ก่อนที่เด็กชายคนหนึ่งเรียนรู้ที่จะอ่านข้อความนี้

    และคำทำนายนี้จะอยู่ต่อไปปีแล้วปีเล่า จนกว่าสัตว์ประหลาดเหล็ก มาเขย่าความกลัว กัดกินกระดาษที่ใช้เขียน คำต่างๆจาก ปากกา น้ำหมึก มนุษย์ชาติก็จะมีเวลาที่จะคิด และตอนที่คำทำนายนี้กำลังเกิดขึ้นเท่านั้น มนุษย์ชาติจะมาอ่านคำทำนายนี้ แต่คนกลุ่มหนึ่งจะชื่นชอบ กลุ่มอื่นๆจะมีความทุกข์ ดังนั้นฉันจะไม่ถูกเผาไปอย่างไร้ค่า

    -หมวดข้างล่างนี้แยกออกมาจากส่วนอื่น แต่พบว่า มันเขียนด้วยกันถึงแม้จะเก็บอยู่คนละไหก็ตาม

    สัญญาณทั้งหลายจะมีอยู่เพื่อให้คนทั้งหลายได้รับรู้ เมื่อมนุษย์จะทำในสิ่งที่เลวร้ายอย่างแรง คนจะทำลายชีวิตของพวกเด็กๆ โดยนำมาเป็นภรรยาของตน และเข่นฆ่าผู้คนที่ตนไม่รู้จักอย่างเลือดเย็น การกระทำอันโหดเหี้ยม เมื่อคนจะมีความคิดอย่างเห็นแก่ตัวเท่านั้น คนจะเดินเหมือนกับกำลังหลับ เขาจะไม่มองอะไร และคนก็ไม่แม้กระทั่งจะสนใจเหลือบมองเขา คนเหล็ก ... และรถเหล็กและยานพาหนะก็เหมือนกัน

    กษัตริย์(ผู้นำประเทศต่างๆ) จะให้สัญญาหลอกๆ จะพูดก็สักแต่ว่าพูด และชาติทั้งหลายก็จะวางแผนทำสงครามที่น่ากลัว มันเหมือนกับอะไรที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ภาษีทั้งหลายก็จะขึ้นสูง ในขณะที่ความเป็นอยู่แย่ลง และประเทศต่างๆก็จะทำหน้านิ่ว

    ยังมีสัญญาณอื่นที่จะมีให้เห็นอีก ขณะที่คนเข้าไปใกล้ศตวรรษหลังๆ ภูเขาสามลูกที่หลับอยู่จะเริ่มหายใจ และพ่นโคลน และน้ำแข็งแห่งความตาย แผ่นดินไหวจะกลืนกินเมืองแล้วเมืองเล่า ในดินแดนที่ตอนนี้ฉันก็ยังไม่รู้จักชื่อ

    คริสเตียนนึงสู้กับอีกคริสเตียนนึง ประเทศทั้งหลายต่างถอนหายใจ แต่ก็จะไม่ทำอะไร และมนุษย์สีเหลืองก็จะมีอำนาจขึ้น จากหมีที่ทรงอำนาจด้วยผู้ที่เขาได้วางเอาไว้แล้ว

    พวกทรราชที่ทรงพลังจะทำไม่สำเร็จ เขาทำไม่สำเร็จที่จะแยกโลกออกเป็นสองข้าง แต่สิ่งที่เขาทำลงไปนั้นจะเพาะเชื้ออันตราย เชื้อโรคร้ายแรงชนิดหนึ่ง ทำให้คนตายไปมาก และก็จะหมดหนทางเยี่ยวยา อันนี้จะแย่ยิ่งกว่าโรคเรื้อนเสียอีก

    โอ!... สัญญาณหลายอย่างจะปรากฏให้เห็น ความจริงของคำทำนายอันถูกต้องนี้

    ที่มา http://palungjitrescuedisaster.com<!-- google_ad_section_end -->
     
  20. md626

    md626 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,081
    ค่าพลัง:
    +1,394
    แวะมาทักทาย และให้กำลังใจ คุณเกษม และ คุณ K อีกทั้งทุกๆคนที่เข้ามาติดตามข่าวสาร ข้อมูลต่าง ที่ไม่เคยเห็น และสาระดีๆจากคุณเกษมค่ะ ถึงแม้ภัยพิบัติใหญ่จะยังไม่เกิดตอนนี้ แต่เราก็ไม่ควรใช้ชีวิตอย่างประมาทนะค่ะ เพราะยังไงปลายปีนี้ และต้นปีหน้า เราอาจจะได้เห็นอะไรที่คาดไม่ถึง และไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อก็ได้นะคะ
    สุดท้ายนี้ (เหมือนเขียนจดหมายเลย) ขอขอบคุณข้อมูลทุกๆข้อมูลดีๆที่คุณเกษมนำมาลงไว้ให้ศึกษานะคะ (หากอยากผ่อนคลายก็ไปร้องเพลงที่ห้องเพลงได้นะคะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤษภาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...