เรื่องเล่าในตำนาน มนุษย์ผู้อหังการ ต่อ เทพเจ้า

วันที่มนุษย์มีความสามารถในการถอดจิต ท่องเที่ยวไปไหนต่อไหน
มีตาทิพย์ในการมองเห็นสิ่งต่างๆในโลกทิพย์
มีหูทิพย์ที่จะได้ยินเสียงของจิตที่อยู่เบื้องบน
มีกายทิพย์ที่สามารถสัมผัสสิ่งละเอียดอ่อนในอีกภพหนึ่งได้
วันที่เริ่มรู้สึกได้ว่า โลกนี้ไม่ได้มีอยู่เพียงเพื่อรองรับการมีอยู่ของมนุษย์เท่านั้น

แล้วมนุษย์ก็เริ่มพัฒนาความสามารถนี้ขึ้นไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งใกล้เคียงกับจิตชั้นสูงบนภพภูมิที่อยู่สูงขึ้นไป
ผู้มีสัมมาทิฐิย่อมได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า
ผู้ปฏิบัติจิตขั้นสูงเท่านั้นที่จะรับรู้และเข้าใจได้
แต่ทุกสิ่งในโลกมักมีสองด้าน
เมื่อวันหนึ่งมนุษย์มีความคิดที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับจิตที่สูงกว่า
เริ่มมีความอยากได้ในสมบัติทิพย์ของเทพเทวา
ดวงจิตเป็นมิจฉาทิฐิ ความโลภบังตา ใช้ฤทธิ์ของตนในการลองของกับเทพเจ้า
ด้วยหารู้ไม่ว่า พลังของมนุษย์กับเทพที่แท้จริง เปรียบได้กับ กบในกะลาครอบ
กับนิ้วที่จะพลิกกะลาขึ้นรึกดให้กบภายในติดอยู่ในกะลาไปตลอดชั่วชีวิต ด้วยนิ้วเพียงนิ้วเดียวของเทพเจ้าก็ได้
ความผิดที่มนุษย์พยายามจะใช้ฤทธิ์ประลองกับเทพ แค่มีจิตสมรู้ร่วมคิดก็ผิดแล้ว
เหมือนเด็กเกเรตั้งแก๊งค์ขโมยของแล้วผู้ใหญ่จับได้
เคยมีบางกรณี
มีการจับมนุษย์ที่แอบเข้ามาในวิหารเพื่อจะลักสมบัติเทพ
คนที่กลัวจนตัวสั่นแต่ยังปากกล้าว่าข้านี้เจ๋งนักหนา ย่อมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเจอกับอะไร
เทพที่แท้จริงไม่เคยสาปมนุษย์ ไม่เคยทำร้ายมนุษย์
สิ่งที่เทพเจ้าใช้ คือการให้ขอขมา
มนุษย์ที่ติดหนี้เทพ
ต้องใช้ ดอกไม้แดงหรือดอกไม้เจ็ดชนิด เจ็ดดอก
ทรัพย์มีค่าอย่างละเจ็ดหีบ
ได้แก่ ทองคำ ทองคำขาว เพชร พลอย เครื่องเงิน หยก เครื่องหอม
ผลไม้เจ็ดชนิด กล้วยหอม สับปะรด แอบเปิ้ล ลูกพลับ ลูกท้อ มะพร้าว องุ่นแดง
และการกล่าวคำขอขมา
ในสมัยโบราณจะใช้คำในการขอขมาว่า ..ข้าขมาต่อเทพผู้สร้าง ไฟแห่งจักรวาล และธาตุทั้งสี่ที่ก่อกำเนิดโลกนี้
ทวยเทพเจ้าทุกองค์เป็นพยาน ข้าขอขมาด้วยจิตที่ศรัทธาต่อเทพเจ้าที่เป็นผู้สร้าง ผู้ดูแลโลกและเดินเคียงข้างมนุษย์
ข้าน้อมจิตขอขมา ..
ในการขอขมาต้องกระทำต่อหน้าเทพเจ้าไม่ต่ำกว่าสามองค์ จึงจะเป็นผล
ต่อเมื่อมนุษย์ละเลยสัญญาที่จะขมาต่อเทพ
ความวินาศจะเกิดไม่เฉพาะกับมนุษย์คนนั้นเท่านั้น แต่จะเกิดความวิบัติล่มจมทั้งตระกูล
เพราะเทพเจ้า ไม่ใช่ เพื่อนเล่นของมนุษย์
การกระทำทุกสิ่งก่อให้เกิดผลสะท้อนกลับ ยิ่งมิจฉาทิฐิมาก หลงมาก ยิ่งเป็นภัยแก่ตัวแก่วงศ์ตระกูลมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
หลังจากการขอขมา
สิ่งที่มนุษย์จะพึงได้รับ จะเป็นรูปของทรัพย์สินตอบแทนกลับคืนมาสิบเท่าตัวเสมอ
เป็นกฏที่รู้กันในหมู่ของเทพเจ้า
ในทางกลับกัน เมื่อปรามาสต่อหน้าเทพ
มนุษย์ผู้นั้นจะโดนลงทัณฑ์ด้วยอัตราส่วนทวีคูณเป็นสิบเท่าด้วยเช่นกัน
ความหายนะจะบังเกิดกับสายตระกูลทั้งเจ็ดชั่วคน โดยไม่มีใครช่วยได้

ที่มา
จากบันทึกของมนุษย์คนหนึ่งที่เคยติดหนี้เทพเจ้า

 

ที่มา
จากบันทึกของมนุษย์คนหนึ่งที่เคยติดหนี้เทพเจ้า
..........................................................
จากข้อความข้างต้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าได้มีมนุษย์ ลองดีและล่วงเกินต่อเทพเจ้า แล้วถูกจับได้.... เพราะฉะนั้นตามหลักสากลของระบบกรรมหรือระบบที่เกิดจากการกระทำจะด้วยการล่วงเกินโดยไม่รู้หรือล่วงเกินโดยไตร่ตรองมาเรียบร้อยแล้ว ผลที่จะได้รับคือ ใครทำสิ่งใดย่อมได้รับผลจากสิ่งนั้น
ระบบกรรมทำงานโดยไม่บิดพริ้วหรือผิดพลาดตามเจตตนาของผู้กระทำ

 

ใช่แล้ว...มนุษย์ผู้บังอาจล่วงเกินเทพเจ้า...เป็นการไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง...
................................................................................
พ่อมดโลจิ......มนุษย์ไม่อาจล่วงเกินเทพเจ้า...เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง....
ใช่แล้ว แค่คิดก็ผิดแล้ว และแค่ลองทำก็ผิดแล้ว เพราะเป็นการกระทำอันไม่สมควรอย่างยิ่ง และไม่มีคนที่ดีๆๆ คนไหนเขาคิดจะทำกันเช่นนั้น...ล่วงเกินเทพเจ้า
แค่คิดในทางไม่ดีก้อผิดตั้งแต่เริ่มคิดแล้ว

 

จากข้อความข้างต้นที่คุณศุกร์ได้กล่าวมาทั้งหมดนั้น ......... แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าได้มีคนได้ล่วงเกินเทพเจ้าเข้าแล้ว....... แล้วเทพเจ้าที่ว่าหน้าตาท่านเป็นยังไง หน้าตาเหมือนคนอย่างเราๆๆไหม มีอะไรเป็นลักษณะที่เด่นน่าสังเกตไหม ........ จะได้เอาเงินไปให้ท่านเผื่อจะได้กลับมาคูณสิบชาตินี้ไม่ต้องทำอะไรแล้วรวย(ถ้านั่นคือเรื่องจริง) .......แต่จากข้อความของจอมพลคนอ้วนแดง เป็นแค่เรื่องเล่าในตำนาน แต่คุณศุกร์ เหมือนจะบอกว่าเรื่องที่จอมพลคนอ้วนแดงยกมาเล่าสู่กันฟังเป็นเรื่องจริง
ปล. สังเกตจากข้อความที่บอกว่า.....ใครที่ถูกหลอกให้ไปขอขมา ก็ไม่ต้องไปหรอก ก็แค่อยากได้ เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ก็เท่านั้น
ผีก็ย่อมเห็นผีวันยังค่ำ
............... ถ้าผีย่อมเห็นผี เพราะฉะนั้นเทพก็ย่อมเห็นเทพอยู่วันยังค่ำ แต่ผีไม่สามารถเห็นเทพเป็นได้แน่แท้ เปรียบกันไม่ได้ นอกเสียจากเทพจะทำตัวเป็นผีเสียเอง

 

คนที่ใช้ฤทธิ์ของตัวเอง ปิตุฆาต .....

คนที่ตื่นก่อนแล้วใช้ฤทธิ์ ใน ทางที่ผิด
บิดามารดา ของ ผู้รู้ตื่น มี อายุ 80 ปี ถึงจะสิ้นอายุขัย ....
บิดา ของ ศุกร์ เสียชีวิต ตอน อายุเท่าไหร่ ....
สาเหตุการตายเพราะ อะไร ?...
บิดามารดา ของ ผู้รู้ตื่น ไม่มีวันอยู่ ขุมนรกสุดท้าย...

เหอๆ....

 

เข้ามา "งง" ด้วยคน ขอดูอยู่ห่างๆ ก็แล้วกันเน๊อะ!!

 

คนเรามักจะเลือกอยู่ที่สบายใจไม่สามารถมีใครบังคับได้ เมื่อเราเลือกที่จะเป็นคนดีและเลือกทำในสิ่งที่ดีแล้ว....หากวันหนึ่งเราถูกเอารัดเอาเปรียบหรือถูกหลอกใช้ก็ช่างมันถือว่านั่นคือสิ่งที่เราเลือกแล้วผลที่ได้มาแม้ไม่มีอะไรดีเลยก็ถือว่าเป็นกรรมของเรา (ไม่สามารถรับแทนหรือแบ่งปันกันได้)แต่ชีวิตนี้ที่ได้เกิดเป็นคนนั้นมันสั้นนักไม่ถึง100ปีก็ตายแล้ว ถ้าจะถูกโกงหรือเอาเปรียบหรือหลอกใช้ก็แค่100ปีเองเดี๋ยวก็ต้องจากไป แต่สิ่งที่ตัดสินเรายาวนานที่สุดคือผลจากการกระทำใครทำสิ่งใดก็ย่อมได้รับสิ่งนั้นระบบของกรรมไม่เคยบิดพริ้วตามเจตนาของการกระทำ......ชีวิตนี้ไม่ได้คาดหวังกับอะไร มีบ้านอยู่ มีข้าวกิน มีเสื้อผ้าไว้ใส่ และมีห้องน้ำให้ใช้และไม่มีอาการท่อตัน....และที่สำคัญอยู่กับครอบครัวที่เรารักและเราก็รักเขาด้วยความจริงใจ ที่สำคัญของสำคัญลองถามใจตัวเองดูให้ดีไม่ต้องมองที่ใจคนอื่นว่าเรารักเค้าไหม(ครอบครัวของเรา)ถ้าเรารักเราก็จะรู้ว่าเราจะทำอะไรต่อไป .......แต่สิ่งที่คุ้มของการได้เกิดมาคือการไม่เคยสูญเสียอะไรเลยเพราะเราเกิดมาไม่มีอะไรตัวเปล่าแค่มีเสื้อผ้าห่มกายปกปิดความอุจาดเวลาออกสู่สังคมหรือสาธารณะ อยู่บ้านไม่ใส่เสื้อผ้าก็อยู่ได้แล้ว(ต้องอยู่คนเดียวนะ) แค่นี้ถือว่าคุ้ม เป็นกำไรของชีวิตแล้วเพราะคนส่วนใหญ่มักจะคร่ำครวญเวลาสุญเสียหรือถูกเอาเปรียบแต่ลืมไปว่าเมื่อจากโลกนี้ไปก็ย่อมไปตัวเปล่าเอาอะไรไปไม่ได้สักอย่างเดียวแม้ร่างของเราเขาก็นำไปเผาไฟ......แล้วอะไรเล่าที่เจ้าเฝ้าค้นหาและโทษตัวเองโทษผู้อื่นอยู่ร่ำไป........

 

บางเรื่องเทพอาจจะงงก็ได้

 

เพ่ฮะ พระพุทธเจ้าสอนนู๋ว่า...


เป็นมนุษย์สุดประเสริฐ เพราะสามารถฝึกจิตได้ถึงอรหันต์
แม้นแต่เทพก็อยากเกิดเป็นมนุษย์นะฮะ ดังนั้น คนดีๆ น่ะ
เดี๋ยวตายก็กลายเป็นเทพแล้ว นั่นมันกระจอกงอกง่อย


คนที่อุตส่าห์ได้เกิดมาเป็นคน เขาไม่หวังแค่จะกลับไปเป็นเทพหรอกนะฮะ
เขาหวังสูงสุดสิฮะ ฉลาดกว่า คือ อรหันต์ฮะ เทพยังอยากเป็นคนเลย จะได้
อรหันต์กะเขามั่ง


ไม่ได้ลบหลู่เทพหรอกนะฮะ แต่นู๋บอกว่า "อย่าหลงเทพ" เป็นมนุษย์สุดประเสริฐ

พึงตนเอง (อย่าพึ่งแต่อำนาจเทพ)
ขยันหมั่นเพียร
มีความรับผิดชอบ


นี่ละ คำขวัญวันเด็กที่นู๋จำได้นะฮะ ...

 

งง คับ เข้ามาอ่านแล้ว งง

 

เอาเนื้อๆ น้ำไม่เอา ไม่รูว่าถูกไหมนะ

สรุปว่า คุณ ศุกร์ กับ คุณจันทรุฯ ไม่เชื่อว่า คุณ midias กับ จอมพล เป็นเจ้าจักรพรรดิ์และสามารถเปิดสามโลกได้จริงเพราะจิตใจและศีลยังไม่บริสุทธิ์พอ เนื่องจากยังเที่ยวเหน็บแนมและทำให้คนอื่นเสียใจ ขายหน้า ไร้ความเมตตา มีหรือที่จะช่วยคนด้วยความจริงใจรวมทั้ง สงสารคนที่ไปให้คุณ midias แก้กรรมให้โดยต้องจ่ายเงินให้คุณ midias 60,000 บาท ซึ่งคนที่รู้จักและแก้กรรมบางคนไม่เอาเงินแม้แต่บาทเดียว

แต่คุณ midias กับ จอมพล ก็อธิบายว่า การแก้กรรม หากแก้ไปแล้ว ผู้แก้และรักษาโรคให้ ต้องใช้กรรมแทนคนป่วย ทำให้ชีวิตตกต่ำลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นจึงต้องเอาเงินก้อน 60,000 บาท นี่มาทำบุญก้อนใหญ่เพื่อเพิ่มบุญให้ตนเอง

ส่วนอันอื่นนี่ งง ไม่รู้เถียงอะไรกัน

 

มันเรื่องอะไรกัน

 

เข้ามาดัน..

 

อืม .... เก็บค่าแก้กรรมหกหมื่น

หึ หึ

ทำไมพวกมิจฉาชีพพวกนี้มันเยอะแบบนี้นะ

หารับประทานกันง่ายเหลือเกิน แหมมม ... เรื่องผลประโยชน์นี่มันลึก

ลับ ซับซ้อน กันจริง ๆ ผมเพิ่งเข้ามาไม่นาน บอกตรง ๆ โครต งง เลย

มองภาพใหญ่ยังไม่ออก ต้องเล่นอีกซักพัก แต่ตอนนี้เดาง่าย ๆ ว่า

พวกนี้เป็นกลุ่มผลประโยชน์ทับซ้อน และมีการร่วมมือกับกลุ่มอื่น ๆ เป็น

พันธมิตรป้อยอ ยกย่อง กันไปมา เพื่อต้มตุ๋นเหยื่อ

ใครพอบอกภาพรวมให้ดูได้บ้าง เพราะผมไม่รู้เรื่องจริง ๆ แต่ไม่แน่นะ

ถ้ารู้มากอาจจะไม่กล้ายุ่งเลยก็ได้ ที่เข้ามาเปิดโปงอาชวินเพราะพูดไป

ตามจริง ไม่เคยรู้ว่ามันมีกลุ่มผลประโยชน์โยงใย และมีเรื่องเงินทอง

มาเกี่ยวไม่ใช่น้อย เฮ้อออ ....

 

ตอนแรกคิดว่านายมีเดีย แค่ขายลูกแก้ว และเป็นหมอดูฮวงจุ้ย

ถ้าแก้กรรมทีละหกหมื่นล่ะก็ ต้มตุ๋นแน่นอน ฟันธง .......

แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยังมีอาการปวดพระเศียรบ่อยๆ

เนื่องจากชาติที่เกิดเป็นลูกชาวประมงเคยอนุโมทนาบาปไว้

แม้พระมหาโมคคัลลา อัครสาวก ท่านก็ต้องโดนโจรทุบตี แต่ด้วยท่านมี

ความเป็นเลิศเรื่องฤทธิ์ จึงต่อกระดูกซึ่งแหลกไปทั้งตัวแล้ว ไปเฝ้าพระ

พุทธเจ้าเพื่อถวายบังคมลา ก็เป็นเพราะกรรมที่เคยคิดจะนำมารดาไป

ฆ่าทิ้งเสียในป่า

แล้วหน้าไหนที่บอกว่าแก้กรรมได้ ยิ่งทีละหกหมื่น อย่าไปเชื่อเลย เสีย

ทรัพย์ให้มิจฉาชีพ เปล่าประโยชน์

 

ถ้าใครมีปัญหาเรื่องกรรม ลองไปศึกษางานเขียนของคุณดังตฤณดูนะ

ครับผมแนะนำ แล้วจะฉลาดขึ้น ต่อไปจะได้ไม่เสียทีพวกมิจฉาชีพอีก

ลองอ่าน ลองฟังดู ของเขาดีจริง ๆ แนะนำ

http://dungtrin.com/

คอลัมม์เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ลองอ่านดูนะครับ อันนี้จะเกี่ยวกับ

เรื่องกรรมโดยตรง

 

ใครก็ได้ช่วยเล่า ช่วยขยายความให้ผมฟังทีครับ

ผมอ่านที่เขาโต้ตอบกันไม่รู้เรื่อง

เดี๋ยวดึก ๆ จะเข้ามาอีกรอบ ไปหาของกิน ชอปปิ้งก่อน เดี๋ยวมาใหม่

 

<DIR><DIR>เทพเจ้ามีมาก่อนการเกิดขึ้น ของพุทธะ ดิน น้ำ ลม ไฟ
มีมานานน...มากๆ
องค์บรมครูแห่งพุทธะ ใช้เวลา 40 อสงไขย เพื่อศึกษา
พบวิถี แห่งการหลุดพ้นจาก ดิน น้ำ ลม ไฟ
</DIR>
สิ่งใดที่เป็นธรรมชาติ ก็ต้องดำเนินไป
ความชั่วจะตกลงสู่เบื้องต่ำ ความดีจะลอยสูง


ใครเบื่อ ขึ้นๆ ลงๆ ก็เดินตามทางที่พระพุทธท่านทรงโปรด
</DIR><DIR> ส่วนท่านเทพๆ ถ้าทำไม่ดี นอกลู่นอกทาง </DIR><DIR> ก็ถูกตัดสิน เหอๆ น่ากัว .... ๐.๐



</DIR>

 

เรื่องราวหาอ่านได้ตามกระทู้นี้ http://palungjit.org/showthread.php?t=86133
ลึกๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มาแนวเดียวกัน ผมติดตามก็ไม่เคยได้คำตอบตรงๆ สงสัยอยู่ว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับตาที่สามเหรอเปล่า? ลองค้นๆุดูจะรู้..แจ้งเอง

 

เวรกรรม กระทู้หายไปอีกแล้ว ..อ้างอิงจากข้างบนที่ทำลิ้งค์ไว้นะครับ ช่วงนี้กระทู้หายบ่อยมากเหลือเกิน เข้าใจว่าตอนนี้กำลังล้างประวัติ กันอยู่ จะลองติดตามเรื่อยๆ ดูก็แล้วกัน อีกหน่อยคงเปลี่ยนชื่อ login กันแน่ๆ เซ็งจริงๆ (b-ahh)