หน่วยกู้ภัยบุกช่วยเด็กสี่คนโดนผีหลอกขังติดอยู่ในบ้านผีสิงค์ตลอดคืน

ผมคิดว่าเป็นเทวดาเจ้าที่ การที่แสดงตัวเป็นผีก็คงเพื่อกันไม่ให้เด็กๆออกมาจากบ้านในเวลานั้น เพราะข้างนอกบ้านในเวลานั้นอาจมีไอ่พวกแว้น หรือ พวกขี้เมา ขี้ยา อยู่แถวๆหน้าบ้าน ถ้าออกมาช่วงเวลาก่อนตี3 อาจโดนลากไปข่มขืนได้ เพราะดูจากชุดอะนะ สายเดี่ยวนุ่งสั้นซะขนาดนั้น
ผมว่าเทวดาท่านมีเจตนาดี ถึงโดนด่าก็ยังไม่โกรธ ถ้าเป็นผีตายโหง และต้องการชีวิตของพวกเด็กๆ พวกเด็กๆคงไม่มีโอกาสรอดออกมา แน่ๆ ครับ

ก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมอะนะครับ

 

ผมเชื่อหมดข้อสงสัย เด็ก 4 คน 8 ตา และเล่าคล้องจองกัน ไม่แสดงท่าทีและหน้าตาน้ำเสียงไม่มีพิรุจ และการนำเด็กทั้ง 4 คน มาออกทีวี.ต่อหน้าประชาชนทางบ้าน ทางผู้จัดรายการ วิทวัส คงพิจารณามาอย่าดีแล้ว จึงนำมาเปิดเผยครับ

 

อย่าล้อเล่น กับ ผี อย่าลองดี กับ พระ จูงกระเบนสีแดงสะด้วย ผีขั้น จาตุม
ครับ เป็นผีจ้าที่ ผีเจ้าที่ เท่ามาให้เห็นใน ชุดแดง มือแดง ถือว่าท่าน
มีอำนาจมากอิทธิฤทธิ์มาก

 

คิดเหมือนกันเลยครับ

 

คนที่เห็นผีเป็นคนมีบุญมากขอขอบคุณผีเขาด้วย เรารู้สึกว่าผีเขาอยู่กับคนที่ได้เหรียญทั่งสองคน หมั่นทำบุญรักษาศิลแล้วก็แผ่บุญให้เขาแล้วก็จะโชคดีไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน
ขอบคุณผู้ที่นำมาให้ได้เห็นและได้เรียนรู้เราได้เห็นพญานาคกลายร่างมาเป็นคนหลายครั่งทุกวันนี้ผมก็แผ่บุญให้เขาตลอดมาวันหนึ่งถ้ามีโโอกาสไปธาตุพนมก็จะไปหาพญานาคเหล่านั่นนด้วย พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ประเสริฐ
จริงหนอ บิดามารดาครูบาอาจารย์ประเสริฐแท้หนอ

 

ต้องสัมผัสด้วยตัวเอง....จะรู้ว่ามีวิญญาณจริง...และเขาอาจจะรอส่วนบุญ
ทางที่ดีที่สุด ไปสถานที่แปลก ๆ หรือไม่เคยไปเลย...ก็ควรกรวดน้ำไปซะวิธีนี้ดีที่สุดสำหรับทางออก..สำหรับทุกคน ....เพราะเคยสัมผัสมาแล้วกับสิ่งเหล่านี้

 

เข้าท่ามากๆจริงอย่างที่สุดโดยเฉพาะบุคคลจำพวก"จ้อออกจอ"ได้หน้าตาเฉยเป็นแบบอย่างน่าละอาย และนอกจากนี้ก็ยังพบเห็นได้มากมายตัวเป็นๆอันที่จริงเด็กพวกนี้ท่าจะว่างมากเที่ยวตะลอนไปทำอย่างนี้ทำไม เรื่องดีมีสาระสร้างประโยชน์ให้กับตนเองคนรอบข้างออกเยอะแยะไม่ไปทำ แต่ดันทุรังไปทำเรื่องไม่เป็นเรื่องชวนให้เป็นภาระกับคนที่เข้าไปช่วยเสียอีก ทำไมนะรึก็ถ้าเกิดในเวลาที่เข้าไปช่วยเด็กพวกนี้ เกิดมีอุบัติเหตุเร่งด่วนเสี่ยงต่อความตายขึ้นมา การที่หน่วยกู้ภัยต้องเสียเวลาเพื่อเข้าไปช่วยเด็กที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ก็อาจหมายถึงชีวิตที่มีค่าต้องจากไปก็ได้ เรื่องแบบอย่างนี้จะอยากรู้ไปทำไมก็ในเมื่อไหร่ก็ตามที่เราทุกคนเท่งทึงหรือถึงกาลมรณะก็จะรู้ได้เมื่อนั้นอยู่แล้ว ทุกคนตอนยังไม่เกิดก็ต้องเป็นผีสัมภเวสีอยู่แล้ว หรือหากเป็นชาวพุทธก็ควรจะต้องเชื่อตามสมเด็จพระบรมครูองค์พระศาสดาของเราที่พระองค์ท่านก็รับรองไว้และหากยังไม่เชื่อก็ให้ลงมือปฏิบัติตามแนวทางที่พระองค์ได้ให้ไว้จะได้ประโยชน์ได้สติและรู้ได้เองโดยไม่ต้องให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนและเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ทำนองนี้

 

แปลกมากๆครับ....น่าติดตามมาก อยากรู้เรื่องราวต่อจากนี้จัง ว่าจริงหรือเปล่าน่ะครับ ฟังแล้ว งงๆ ^_^

 

ผีซ่อนแอบ อืม แถวบ้านก็เคยมี ตามตำนานก็ปรากฏ ไม่แน่ครับผม ^^

 

permalink
เราเองอยากได้ความเห็นของคนที่สามารถสัมผัสผี หรือ ภพไหนก็ตาม ที่ค่อยข้างเป็นเรื่องเป็นราว ยาวได้ขนาดนี้ (จากเรื่องต้องบอกยาวมาก) มาออกความเห็นบ้าง

เพราะน้องได้ยินกันทุกคน(จากหู) เห็นด้วยตาชัดๆ แบบยาวๆหลายชั่วโมง ซึ่งเราว่าแปลก แถมผีขโมยกระเป๋าไปซ่อนในบ้านได้ด้วย
เด็กไปเล่นน้ำกันตอนกลางคืนนอกบ้านร้าง ก็ว่าแปลก (คือ จากข้อมูลบอกว่า ไฟถูกตัด แล้วน้ำไม่ถูกตัดหรือ)
เด็กกลัวมากๆ แต่ด่าผีได้เป็นชุดๆ หลายคนช่วยกันด่าผี เราก็ว่าแปลก (คือไม่น่ามีสติเหลือพอที่จะหาคำด่าได้เป็นเรื่องราว ) เพราะกลัวจนสติหลุดแล้ว
เด็กผู้ชาย ย้ายออกมาแล้วยังเสียดายเสื้อหรือ
ช่องหน้าต่างก็เล็กมากๆ

จะว่าเด็กโกหกก็ไม่น่าใช่ เพราะท่าทางหวาดกลัวจริงๆ

รอผู้รู้มาไขคำตอบที please รายการคนอวดผีก็ได้
______________________________________________________

ออกตัวก่อนค่ะว่าไม่ใช่ผู้รู้ แต่เป็นเพียงผู้มีประสบการณ์ ว่าถ้าผีอยากให้เราเห็นหรือได้ยินกี่คน เราก็จะได้ยินและเห็นด้ยวกัน
ดิฉันไม่ใช่นักปฎิบัติธรรมแต่เป็นชาวพุทธธรรมดาที่ชอบทำบุญทำทานสวดมนต์ไหว้พระตามปกติ ดิฉันเป็นคนมีสัมผัสพิเศษมาตั้งแต่เด็ก จะเห็นผีสางเทวดาบ่อยมาก จนทำให้ไม่รู้สึกกลัวที่จะเห็นพวกเขาเลย ดิฉันชอบเล่าให้คนในครอบครัวฟัง คุณแม่ดิฉันจะบอกว่า อย่าไปเล่าให้ใครฟังเขาจะว่าบ้า ดิฉันก็เห็นด้ยวนะ เพราะคนอื่นๆเขาไม่สามารถที่จะพบเห็นอย่างเราเขาก็ไม่เชื่อ ดิฉันมีประสบการณ์เยอะมาก แต่จะขอเล่าที่ถูกผีหลอกพร้อมกัน ๓ คน ที่เมืองนอก

ในปี ๒๕๓๒ ดิฉันได้ฝันเห็น ชายแก่คนหนึ่งในมือถือน้ำเต้าท่าทางเหมือนเมา มายืนขวางทางดิฉัน และพูดว่า ดิฉันไม่ได้ไปสวีเดนหรอกเพราะเขาจะเอากลับไปไต้หวัน พูดแล้วเขาก็หัวเราะเสียงดัง แล้วดิฉันก็ตกใจตื่น (ตอนนั้นกำลังรอไปสวีเดน)
ดิฉันได้ถามเพื่อนซึ่งเขากลับมาจากไต้หวัน ว่ารู้จักจี้กงไหม เป็นใคร เขาก็บอกว่าเป็นเซียน เขาเรียกว่าอรหันต์จี้กง ดิฉันขนลุก และเชื่อว่า อรหันต์จี้กง ท่านสื่อสารกับดิฉันจริง และท้ายที่สุดดิฉันก็มีเหตุต้องไปไต้หวัน
แล้วดิฉันก็ถูกจับติดคุก(เรื่องราวมันยาวสุดท้ายดิฉันก็ถูกปล่อยโดยไม่มีความผิด) ในขั้นตอนที่อยู่โรงพักได้งีบหลับไปฝันเห็นหลวงปู่แหวน ท่านบอกว่า อยู่ข้างนอกอันตรายอยู่ข้างในปลอดภัย ๖ เดือนเท่านั้น (และดิฉันก็อยู่ ๖เดือนและเป็นอิสระตามวัน เวลา ที่ หลวงปู่บอก ใครจะเชื่อถ้าไม่ประสบกับตัวเองใช่ไหม?)
ในเวลาที่รอส่งตัวไปศาลเขาฝากขังที่คุก และที่ตรงนี้เขาจะมีอาคารที่ใช้ประหารนักโทษที่ผ่านฎีกาแล้วยังยืนโทษประหาร เพราะฉะนั้นในเขตของคุกนี้ผีดุมากผู้คุมจะเห็นบ่อยๆจนไม่กล้าเดินตรวจกลางคืน
ส่วนดิฉันจะเห็นและสัมผัสได้บ่อยๆเขาจะมาขอให้ช่วยปล่อยเขาออกไปจากบริเวณคุกนี้และดิฉันได้ขออนุญาติผู้คุมออกไปทำพิธีช่วยเขาที่นอกอาคาร ผู้คุมก็อนุญาติ (ดิฉันไม่ใช่แม่มดหมอผีแต่ที่ทำเช่นนั้นได้เพราะเคยมีประสบการณ์ที่เมืองไทย) หลังจากนั้นผู้คุมก็ให้นักโทษหญิงย้ายห้องขังทุกเดือน เดือนละห้อง และมีอยู่ ๖ ห้องพอดี (และพอย้ายครบ ๖ ห้อง ดิฉันก็ได้รับอิสระภาพ)ในแต่ละห้องที่ดิฉันย้ายไปอยู่จะมีวิญญานอาศัยอยู่ และในห้องสุดท้าย .........ตอนเย็นวันหนึ่งได้มีนักโทษคนหนึ่งท่าทางนักเลงหญิงหน่อยๆได้มาคุยกับดิฉันว่า ไม่เชื่อเรื่องผีถ้ามีจริงอยากจะเห็น แล้วก็มีนักโทษอีกคนพูดว่าเขากลัวผีแต่ก็อยากเห็น ดิฉันเลยพูดว่า ผีนั่งอยู่ในห้องนี้แหละเดี๋ยวได้เห็น ตอนนั้นดิฉันพูดเฉยๆนะไม่ได้คิดจริงจังอะไร...........พอตกกลางคืน ทุกคนหลับสนิท (ผีหลอกเป็นอย่างนี้แหละคนอื่นไม่เกี่ยวหลับสนิทหมด)ประมาณตี ๑ ดิฉันตื่นขึ้นแต่กระดิดตัวไม่ได้ก็รู้เลยว่าโดนผีเล่นงาน แต่ไม่กลัวพยายามสวดมนต์แต่ขณะที่กำลังเริ่มสวดนั้น ผีผู้หญิง อายุประมาณ ๓๐ กว่าๆมานั่งคล่อมที่หน้าอกดิฉันแล้วเอามือมาจิ้มที่หน้าดิฉัน แล้วพูดว่า มึงไม่กลัวกูใช่ไหม ? มึงเก่งใช่ไหม?แล้วมือมี่จิ้มหน้าดิฉันก็จิ้มแรงจนหน้าเจ็บ ตอนนั้นดิฉันโมโหมาก แต่ก็พูดกับผีดีๆว่า......ฉันไม่กลัวแกหรอกเพราะฉันเป็นคนมีโอกาสทำบุญทำทาน ทำความดีอีกมาก แต่แกตายเป็นผีแก"ม่มีโอกาสถ้าแกดีแกเก่ง แกไม่มาตายในคุกหรอกถ้าแกอยากให้ฉันช่วยแกต้องไม่ทำบาปโดยการเที่ยวหลอกใครๆเขาอีก ฉันช่วยให้แกพ้นออกไปจากคุกได้และถ้าฉันได้กลับเมืองไทยเมื่อไหร่จะทำบุญอุทิศบุญกุศลให้ เมื่อพูดจบ ผีก็ค่อยๆดึงมือกลับแล้วถอยไปนั่งหน้าห้องน้ำ (การคุยกับผีหรือผีคุยกับดิฉันน่าจะคุยทางจิต) พอผีถอยไปแล้วดิฉันก็ลุกเข้าห้องน้ำ นักโทษหญิง ๒ คนที่อยากเห็นผีเมื่อตอนหัวค่ำนั้น พอเห็นดิฉันลุกเข้าห้องน้ำเขารีบคลานมาหาดิฉันและเขาทั้งสองร้องไห้และขอโทษดิฉันว่าเขาเคยพูดไม่ดีต่อดิฉันและลบหลู่เรื่องผี เขาบอกว่า ผีไปนั่งทับเขาแล้วเขาบอกว่าให้มาหาดิฉันเพราะดิฉันไม่กลัวผีเขาบอกอย่างนี้ทั้งสองคนเลย ผีเลยมาหาดิฉัน และดิฉันก็เลยบอกเขาว่าผีนั่งอยู่หน้าห้องน้ำเขากลัวมากจนร้องไห้.........หลังจากนั้นเรา ๓ คนก็ได้ยินเสียง โครมครามที่ห้องถัดไป ซึ่งเป็นห้องสมุดและทำงานของนักโทษหญิง........เสียงเล่นเจี้ยวจ้าวและเสียงล้มโต๊ะ เก้าอี้ ล้มตู้หนังสือ เรา๓ คนที่โดนผีหลอกได้ยินเหมือนกัน แต่คนอื่นๆ หลับเป็นตาย นักโทษหญิง ๒ คนนั้นพูดว่า คอยดูนะ พรุ่งนี้ ห้องโรงงานเละตุ้มเป๊ะแน่ แต่ดิฉันเข้าใจเรื่องนี้ดี จึงบอกว่าไม่มีอะไรหรอก แค่เราได้ยินเสียงพรุ่งนี้ทุกอย่างปรกติ คืนนั้นเราทั้งสามคน ไม่ได้นอนเลยจนกระทั่ง ตี๔ เสียงทุกอย่างเงียบลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้ว ๗ โมงเช้าเราทุกคนก็ออกจากห้องขังเข้าห้องโรงงาน และ แล้วทุกอย่างก็เป็นตามที่ดิฉันบอกไม่มีอะไรเคลื่อนย้ายหรือตกหล่น แตกหักเลย เรื่องที่ดิฉันเล่าเป็นเรื่องจริงที่เหลือเชื่อ ถ้าจะถามหาพยานก็คงจะตามได้แต่ต้องกลับไปควานหาที่ไต้หวัน..........แค่อยากยืนยันว่าผีหลอกสามารถหลอกพร้อมกันหลายคนได้ เฉพาะผู้ที่ถูกหลอกน่ะจะเชื่อ แล้วคนที่ไม่ถูกหลอกอยากพิสูจน์ คิดว่าคงไม่ง่าย นอกเสียจากต้องฝึกปฎิบัติกรรมฐานด้วยตัวเอง
(ลืมบอกไป ว่า เช้ามา เล่าให้ผู้คุมฟัง เขาบอกว่ามมีนักโทษหญิง อายุ ๓๕ ฆ่าตัวตายในห้องนี้ )

 

" สมัยก่อนตอนที่ผมจะถือรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง "เจอเรื่องแบบนี้คงน่ากลัวมาก มาสมัยนี้ไม่ถือรัตนตรัยแล้วหรือคุณ ดอกบัว แล้วถือไร แก้วน้ำหรือ อิอิ ล้อเล่น แค่งงๆๆกะคำเขียน

 

ดิฉันเจอะแต่เพียงแค่สัมภเวสีหิวบุญ จากสัมผัสได้ที่รู้เลยว่า ไม่มีแรงเท่าไหร่ นานๆ ถึงจะเจอะแบบ ปรากฎตัวให้เห็นได้ (เพราะดิฉันบารมีเองก็ไม่พอที่จะเห็นได้ทุกตนทุกตัวได้ และแน่นอน คือดิฉันเห็นไม่นาน)
หรือมาแหย่ มาหยิก มานั่งทับ เพื่อขอบุญเท่านั้น
ส่วนที่เคยเห็นทางจิตอันนี้ขอผ่าน ไม่เล่า เพราะดูแล้วไม่น่าจะมีประโยชน์กับกระทู้นี้เท่าไหร่
ญาติธรรมดิฉันหลายท่าน ก็เคยตอบมาว่า ถ้ากรณีเป็นสัมพเวสีตกค้างจริงๆ จะทำอะไรไม่ได้มาก
นอกจากพวก มีฤทธิ์ (รวมทั้ง สัมพเวสีขึ้ขโมย / มารจำแลง ฯลฯ) ตรงนี้ ดิฉันได้ข้อมูลมาไม่หมด เพราะเยอะมาก จนเพื่อนเล่าไม่ไหว แต่ผูกเรื่องกันยาวจนเจ้าตัวเข้าใจผิดไปหมด ว่าเป็น คนรักเก่าบ้าง / ลูกบ้าง / สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง(แต่ทำหน้าที่แปลกๆ) ปะติดปะต่อเรื่องอย่างกันหนังไทย และคนที่ไปโดนพวกมีฤทธิ์หลอก จะไม่ได้โดนหลอกคนเดียว คนรอบๆข้าง ก็โดนไปได้ด้วย ทำให้ยิ่งเข้าใจผิดกันยกใหญ่

เลยทำให้อยากทราบประสบการณ์ของผู้รู้จริงๆ (ย้ำว่า จริงๆ) ว่า คืออะไรกันแน่ มาร/เจ้าที่/ภพอื่นๆ หรือ แค่สัมพเวสีตกค้าง (ซึ่งไม่น่าทำได้ขนาดนี้)

และดิฉันเคยตะคอก(ในใจ) ด้วยความรำคาญ รู้เลยว่า ทางนั้นกลัว อ่อนลงทันที ทำให้ดิฉันไม่กล้าตะคอกอีก ไม่คิดว่า ทางนั้นจะรับรู้ได้ว่า ดิฉันไม่พอใจ

แต่กรณีเด็กๆ พวกนี้ ร้องไห้ของร้อง ทำสารพัด ก็ไม่ยอมปล่อย แต่สุดท้าย ก็ปล่อยตัวออกมา (ทำไม )ทั้งๆที่ตอนแรก ขู่ว่า จะเอาตัวไป

 

ผมเคยเจอผีโพรง เป็นลูกไฟ จริงๆ จิ๊งๆๆ บึยยย แต่ว่า ผีหลอกก็ยังพอทน แต่คนหลอกคนมันซ้ำใจจนว่ายวุ่น

 

ไม่รู้นะค่ะ ดิฉันว่่าเด็กเค้าก็คือเด็ก จริตกิริยาแม้ว่าจะคล้ายคลึงผู้ใหญ่ แต่น้องๆก็ยังเป็นเด็ก เปิดใจให้กว้างๆวิพาท์วิจารณ์เกี่ยวกับหัวข้อที่เขาโพสให้ได้ดูกันไม่ดีรึค่ะ เด็กบ้างคนมีโลกส่วนตัวสูงแถมกล้าที่แสดงการปฎิเสธสิ่งที่เขาไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจนไม่หลบเลี่ยงอะไรทั้งนั้น อย่าได้เอาการแสดงออกหรือการแต่งตัวที่ทางรายเขาจัดให้ไปตัดสินว่าเด็กๆจะเป็นอย่างที่คิด "ดัดจริต" ผู้ใหญ่แบบเราๆใช้คำเหล่านี้วิจารณ์เด็กๆ ไม่สุภาพเลยค่ะ ดิฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับครอบครัวของน้องที่ออกรายการ แต่รู้สึกหดหู่กับคำวิพากษ์วิจารณ์ผ่านโลกออนไลน์ของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ผู้ใหญ่แล้ว.

 

เปลี่ยนรูปเถิดคะ คุณ may uk ตกใจหมด คืนนี้ฝันร้ายแน่เลยเรา

 

ครั้งหนึ่งผมเคยบอกกับลูกเรื่องผี เหตุเพราะว่าลูกผมโตแล้วและจะแยกไปนอนห้องส่วนตัวของเขาเป็นครั้งแรก เขาก็กลัวผีตามประสาเด็กแต่ก็อยากนอนห้องที่เป็นส่วนตัวของตัวเอง และเขาก็ถามผมว่า
" ป๊าผีมีจริงหรือเปล่าและมันทำร้ายคนได้ไหม "
มันเป็นคำถามที่ผมก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรให้ถูกใจรวมทั้งพวกท่านทั้งหลายก็คงไม่ได้รับคำตอบจากคนที่รู้จริงมาไขข้อข้องใจอย่างนี้จนตอนนี้ผมโตและมีลูกผมก็ต้องมาเจอคำถามแบบนี้เข้าจนได้ เกือบจนปัญญากับคำถามของลูก และวินาที่นั้นความคิดผมก็สว่างวูบขึ้นมาแล้วย้อนถามลูกไปว่า
" ตั้งแต่หนูโตมาจนเดี๋ยวนี้เคยดูข่าวในทีวีและข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์เกือบทุกวันและทุกฉบับ มีไหมข่าวที่เขียนว่าผีฆ่าคนตายบ้างไหม "
ลูกชายผมก็ตอบว่า
" ไม่เห็นมีเลยป๊า "
ผมก็บอกลูกไปว่า
" เห็นไหมไม่เห็นมีข่าวว่าผีฆ่าคนหรือทำอะไรกับคนเลยสักครั้ง เพราะฉนั้นลูกจะกลัวผีทำไม "
เขาก็ตอบว่า
" ครับต่อไปนี้ผมจะไม่กลัวผีอีกแล้ว "
จากวันนั้นลูกผมก็นอนหลับที่ห้องของเขาเองเป็นครั้งแรกและหลับอย่างมีความสูขจนตลอดเช้าของวันใหม่ และจนปัจจุบันนี้ลูกผมก็ไม่เคยถามและกลัวผีอีกเลย

 

มีเหตุและมีผลตามคำสอนพระพุทธเจ้า พาพ้นภัยทุกประการ