ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. wichai68

    wichai68 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +154
    ผมไม่เห็นโทษของโพสของคุณเกษมที่เกิดจากใจผมเลยนะครับ เพราะเหตุใด นั่นคือมันไม่ได้มาจากคุณเกษม
    คุณๆท่านๆ โปรดเอาจิตพิจารณา อย่าได้เอาจิตส่งออกไปเพ่งโทษผู้อื่นเลย
    ผู้ที่ให้ร้ายกล่าวโทษผู้อื่นโดยผู้นั้นไม่มีจิตที่จะกล่าวโทษคุณๆท่านๆ อีกทั้งยังชี้ให้เห็นโทษ
    เป็นผู้มีคุณ อย่างเช่น พวกท่านหลายๆคนมีความเห็นต่างว่าการเมืองไม่ควรเอามาลง แล้วอีกหลานท่าน
    กลับไม่มีการโต้แย้ง หรือมีการโต้แย้งว่ามันเป็นผลกระทบ ก็ทำให้เราพิจารณาได้ว่าสิ่งที่มากระทบใจเรา
    เราส่งจิตออกไปนอกกายเสียแล้ว นอกศีลข้อวาจาเสียแล้ว ใครกันครับที่ไม่ฟังผู้อื่นที่เตือนท่าน ๆ
    ด้วยข้อความสุภาพ เรื่องการเมืองผมไม่เดือดร้อนนะเป็นของฝ่ายบริหารบ้านเมืองเขาก็ทำหน้าที่ของเขา
    ผมก็ใช้วิจารณญาณของผมที่จะสนใจเพียงเล็กน้อย และคิดถึงความตายทุกขณะ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า
    เราจะมีวันพรุ่งนี้หรือชั่วโมงต่อไปได้นานแค่ไหน ทำจิตใจของท่านให้ผ่องใสอยู่เสมอ
    ผมขอถามว่าถ้าคุณๆท่านๆ คิดว่าการนำข่าวบางอย่างที่ลงมาแล้วทำให้คนทะเลาะกันกลายเป็นกระทู้ร้อน
    เต็มไปด้วยโทสะ โมหะ นั่นไม่ได้มาจากช่าวหรือข้อความ เกิดจากการส่งจิตออกไปเพ่งโทษผู้อื่นมากกว่าครับ
    ผมเชื่อว่าไม่ว่าเรื่องอะไรก็สามารถจะเกิดการโต้แย้งได้ทั้งนั้นครับ อย่างเช่น ก่อนหน้านี้ไม่มีเรื่องการเมือง
    ก็โดนเพ่งโทษว่า เอาข่าวแต่สิ่งที่ทำให้จิตใจหดหู่มาลง พอเอาข่าวคำทำนายมาลง ก็กลายเป็นพ่อมดหมอผี
    พอทำนายพลาดกลับยิ่งเพ่งโทษ ซึ่งถ้าพวกคุณๆท่านๆไม่เชื่อก็ไม่เห็นต้องไปเชื่อนะครับ ผมก็ไม่ได้เชื่อทุก
    คำทำนาย การคาดเดา การพยากรณ์ หลักโหราศาสตร์ สิ่งที่ผมเชื่อคือเราเป็นเมืองพุทธครับ ซึ่งก็มีหลัก
    กาลามาสูตร 8 เป็นที่ตั้งอยู่แล้ว พระพุทธองค์เมื่อครั้นจาริกเสด็จประทับ อยู่ใกล้เมืองของเวรัญชพราหมณ์
    โดนเวรัญชพราหมณ์กล่าวโทษ แต่พระองค์กลับไม่โต้ตอบทรงทำให้เวรัญชพราหมณ์ เห็นโทษในการส่งจิตออก
    ไปเพ่งโทษผู้อื่นเป็นเหตุมีทุกข์เป็นผล แต่การเอาจิตดูจิตเป็นมรรคมีนิโรธคือความดับทุกข์เป็นผล
    นี่แหละครับกระทู้ชาวพุทธ
     
  2. Sestulee

    Sestulee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +2,386
    ขออภัยน่ะครับหากว่าการเตือน การเสนอแนะ ปิดหนทางโอกาศที่จะทำให้คนขัดแย้ง โต้เถียงกันของผมนั้นเป็นการเพ่งโทษคุณเกษม ผมไม่รู้จริงๆว่าการกระทำแบบนี้ของผมมันเป็นการเพ่งโทษคนอื่น การที่เราช่วยกันนำเสนอ เสนอแนะแนวทางเพื่อไม่ให้คนทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน นั้นมันไม่ดี

    การที่คุณบอกว่าคุณไม่เห็นโทษในโพสต์ของคุณเกษม มันก็ไม่แปลกเพราะใจคุณบอกอย่างนั้น ในส่วนที่ผมโพสต์คุณอาจเห็นโทษคุณไม่ชอบใจนักหรือไม่เห็นด้วยจึงออกมาโพสต์ตอบ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรน่ะครับมันเป็นสิทธิ์ของคุณหรือใครๆก็ได้ที่ไม่เห็นด้วยกับผมก็สามารถโพสต์ตอบ โต้แย้งได้ตามเหตุผลของแต่ล่ะคน และที่สำคัญคนที่ไม่เห็นด้วยกับผมก็โต้แย้งผมก็ไม่ถือว่าเพ่งโทษผมด้วย เราอยู่บนโลกปัจจุบันครับ ปีนี้ พ.ศ.2556 พูดกันง่ายๆภาษาง่ายๆจะได้เข้าใจง่ายๆกันครับ ไม่ต้องสรรหาคำ สรรค์สร้างประโยคให้อ่านแล้วงง เขียนให้มันเข้าใจง่ายๆดีกว่าครับอย่าทำให้ชีวิตต้องยุ่งยากมากกว่าที่เป็นเลย อ่านอักษรภาษาไทยอยู่ดีๆอ่านเสร็จแล้วต้องมานั่งคิดตีความแล้วแปลอีกหลายๆรอบกว่าจะเข้าใจได้ หรือผมโง่เกินไปก็ไม่รู้(ถ้าเป็นอย่างนั้นต้องขออภัยครับ)

    จริงๆแล้วผมว่าคุณก็เพียงแต่จะบอกว่าสิ่งที่คุณเกษมทำนั้นมันก็ไม่ได้มีโทษอะไร ส่วนที่ใครอ่านแล้วจะตื่นกลัว หรือทะเลาะเบาะแว้งกันนั้นมันเป็นเรื่องของแต่ล่ะคนที่คิดกันเองคุณเกษมไม่เกี่ยว คุณก็แค่อยากออกมาพูดห้ามผมและคนอื่นๆว่าอย่า"ปรามาส"คุณเกษมแค่นั้น แต่เปลี่ยนคำซะใหม่เป็น "เพ่งโทษ" คุณมานั่งสรรค์สร้างคำและประโยค เขียนให้งงเล่นยกโน่นมานี่มาเพื่อให้ดูเป็นคนมีภูมิธรรมสอนคนอื่นได้ ทั้งๆที่สิ่งที่คุณห้ามผมว่าอย่าไปเพ่งโทษคนอื่นแต่กลับกันคุณเองสามารถเพ่งโทษผมหรือคนอื่นได้แฮ๊ะไม่ผิดทำได้

    จริงๆสิ่งที่ผมทำนี่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเลยน่ะครับ งดซะเว้นซะมันก็จบกระทู้ก็ได้บรรยากาศที่ดี แต่ไหง๋กลายเป็นว่าสิ่งที่ผมทำมันทำให้บัลลังค์หรืออาสนะท่านใดมันร้อนขึ้นมาซะงั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นผมเองก็ต้องขอโทษด้วยครับ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ

    ส่วนที่คุณบอกว่าไม่เห็นคนอื่นเขาจะว่าอะไรเลยเรื่องเอาการเมืองมาลงนั้น ผมอยากจะกราบขออนุญาติเรียนคุณตรงๆดังนี้ครับ คือการที่คุณเห็นคนเข้ามาอ่าน 1000 คน(สมมุติ)แล้วมีคนโพสต์ตอบไม่เห็นด้วย 1 คน โพสต์ขอบคุณ 100 คน กดอนุโมทนา100(จริงๆคงไม่ถึง) คุณจะมาสรุปเอาเองว่ามีคนเห็นด้วย 999 คนไม่ได้น่ะขอรับ เพราะ 799 คนที่ไม่ออกเสียงเราไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไรหนึ่งล่ะ ขอบคุณ 100 คนการขอบคุณนั้นเป็นมารยาทของคนไทยที่ดีงามแต่ดั้งเดิมครับ ใครหาอะไรมาให้ก็ขอบคุณไว้ก่อนใช้ได้ไม่ได้ หรือไม่ได้ใช้นั้นอีกเรื่องหนึ่ง จะมาสรุปว่าตอบขอบคุณแล้วจะเห็นด้วยซะทั้งหมดก็ไม่ได้น่ะขอรับ การกดอนุโมทนาก็คล้ายกรณีการตอบขอบคุณนั่นล่ะครับคงไม่อธิบายเพิ่ม ทีนี้คุณพอจะเข้าใจหรือยังครับว่าโลกปัจจุบันนั้นคิดอะไรอย่างไร

    ส่วนเรื่องการเมืองที่คุณบอกคุณไม่เดือดร้อนเป็นเรื่องของผู้บริหารนั้น แหม๋คุณนี่ช่างคิดช่างเปรียบดีจริงๆน่ะครับดีแล้วครับที่คุณคิดอย่างนั้น เพราะถ้าหากคุณเดือดร้อนขึ้นมาคงต้องไปยึดอำนาจบริหารเอง ผมเองผมก็ไม่เดือดร้อนครับ แต่ผมไม่มีเวลาคิดถึงความตายอยู่ทุกขณะอย่างคุณน่ะครับเพราะผมยังต้องทำงาน คิดโน่นคิดนี่ จนไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องตายเลยอีกอย่างไม่รู้จะไปคิดถึงมันทำไมเพราะเดี๋ยวถึงเวลามันก็ตายเอง ทุกคนเกิดแล้วก็ต้องตายทั้งนั้น อย่าไปคิดถึงมันให้ปวดหัวสู้เอาเวลาไปทำประโยชน์ให้ตัวเอง ครอบครัว และสังคมจะดีกว่าครับ น่ะครับท่านเลิกคิดถึงเถอะเรื่องตายน่ะไม่ช้าก็เร็วก็มาถึงอย่าไปยึดติดกับมันมากเลยน่ะกับความตาย

    ไปๆมาๆผมเองมั่งที่จะทำให้กระทู้นี้มันระอุขึ้นมา อย่างไรก็ต้องขออภัยเจ้าของกระทู้ด้วยครับ ผมเป็นคนผูกผมก็จะเป็นคนแก้เองก็แล้วกัน เอาเป็นว่าเรื่องที่ท้วงติงคุณเกษมไปนั้น ผมก็ได้ทำตามเจตนาด้วยความหวังดีของตัวเองแล้ว แต่เมื่อไร้ผลผมก็ไม่ตื้ออะไรหรอกครับ คนเราต่างจิตต่างใจใครล่ะจะไปห้ามได้ ผมก็ขอจบเรื่องนี้เพียงแค่นี้ครับ
     
  3. Alexanto

    Alexanto Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +87
    สิ่งของในตลาด วางขายกันดาษดื่น
    บางคนชอบสิ่งนั้น บางคนชอบสิ่งนี้ ก็เลือกซื้อกันไป
    อะไรที่เอามาวางขาย คนเขาไม่ชอบ ไม่ซื้อ ที่สุดก็เลิกไปเอง
    จะไปบอกว่าคนขายไม่ดี คนซื้อไม่ฉลาด หรือใครบริโภคสิ่งนี้โง่งมงาย..นั้นไม่สมควร
    และจะห้ามไม่ให้คนเดินเข้ามาดูของในตลาดก็ไม่ได้เหมือนกัน

    ถ้าเว็บนี้เป็นตลาดแห่งหนึ่ง
    ใครจะขาย ใครจะซื้อแค่ไหน น่าจะเป็นสิทธิที่ผู้เดินตลาดด้วยกันพึงเคารพ
    อะไรที่ผิดกฏหมายก็ให้กฎหมายจัดการ อะไรที่ผิดศีลธรรมผลกรรมก็จัดการเอง

    เคารพความคิดผู้อื่น ไม่ตัดสินค่านิยมของคนอื่น และไม่แบกโลกแทนคนอื่น ใจย่อมสงบ
     
  4. Luke Skywalker

    Luke Skywalker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +627
    ผมขอยกนิ้วให้คุณเลยครับ :cool: ความคิดทัศนะของคนในนี้มันมีอยู่สองฝ่าย
    คือ เห็นด้วย และ ไม่เห็นด้วย บ่องตงว่า เค้าคิดว่าเค้าถูกเสมอ เค้าไม่เคยผิด
    หลายท่านรวมทั้งผมเข้าใจเจตนาคุณดี เพราะไม่อยากให้เรื่องราวมันไปไกล
    ลดความขัดแย้ง หลีกเลี่ยงสิ่งเปราะบาง แต่กลับโดนพวกคนใจแคบมองว่าร้าย
    ก่อกวน เฉกเช่นพวกผมที่โดนเพ่งโทษว่าก่อกวน สร้างความวุ่นวาย ป่วน
    ทั้งๆที่พวกผมโพสเตือนสติคนให้อยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่สิ่งที่ยังมาไม่ถึง

    Keyword ของปัญหาทั้งหมดอยู่ที่คำๆเดียว "หลอกตัวเอง"

    คนพวกนี้พึงพอใจและยินดี ใน "คำทำนายภัยพิบัติ"

    ปลาบปลื้มเกิดปิติในคำทำนาย วันไหนถ้าขาดมันไปจะหมดลมหายใจ
    หลอกตัวเองไปวันๆ ในสิ่งที่ส่วนลึกในหัวใจมันเรียกร้อง อยากให้เกิด
    อยากให้มี อยากให้เป็น เพื่อจะได้สนองกับเสียงหัวใจของพวกเค้า
    ตรงนี้เราไม่ว่ากัน แต่เหตุไฉนจึงต้องหาพวกเข้าร่วมด้วย เหตุไฉนจึงต้องชี้นำ
    ผู้อื่นด้วย

    ผมต้องขอโทษด้วยหากที่ผ่านมาทำให้คนหลายคนร้อนรนทุรนทุราย
    เพียงเพราะแค่กำลังบอกว่านี่มัน 25 เมษายน 2556 นะ นาฬิกาก็ยังเดินไป
    ข้างหน้าอยู่เหมือนเดิม สรรพสิ่งก็เคลื่อนตามกาลเวลา ให้อยู่กับปัจจุบัน
    ตั้งใจทำมาหากินกันต่อไป โพสนี้จะเป็นโพสสุดท้ายในกระทู้นี้เพราะผม
    เข้าใจแล้วว่าการที่ผมมาโพสโต้แย้งด้วยข้อเท็จจริงทำให้หลายๆท่านเกิดทุกข์
    เพราะจะขัดขวางการหลอกตัวเองของพวกท่าน ทำให้ก้อนหิน ต้นไม้ พูดได้
    ยังง่ายกว่าการเตือนสติพวกท่านมากมายนัก
     
  5. shesun

    shesun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +1,327
    นั่นสินะ!!!คนอื่นเสพข้อมูลแล้วคิดอย่างไรเราไม่รู้ ...เรารู้แต่ว่า เราเสพข้อมูลแล้วเราคิด พิจารณา กลั่นกรอง เลือกใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์ เรื่องใดควรเชื่อ เรื่องใดควรระวัง เรื่องใดควรปล่อยผ่านไม่ต้องใส่ใจ เราขอบคุณทุกข้อมูลที่ให้สาระ ให้ประโยชน์ ให้ความรู้และให้ข้อคิดที่ดีจ๊ะ
     
  6. zixma99

    zixma99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +1,175
    ครับผมก็คิดอย่างนั้นครับ ที่นี้ ก็แค่ตลาดขายของ ขายความเชื่อดีๆแค่นี้เองครับ ตาดีได้ตาร้ายเสีย มีเจ้าของร้าน มีเซลแมน มีหน้าม้า มีลูกค้า ตามระบบ:cool:
     
  7. khun ae

    khun ae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +159
    อย่าหลอกตัวเองเลยครับผมขอเตือนท่านด้วยคนนะครับ คนที่ปฏิบัติได้จริงถึงขั้นส่งจิตออกนอก เข้าในได้น่าจะพิจารณาออกว่าการบอกเตือนกับเพ่งโทษต่างกันยังไง ถ้าคุณเอาจิตเข้านอกออกในได้น่าจะดูออกนะว่าคุณเกษมเลือกที่จะนำเสนอโดยไม่คิดถึงผลกระทบในสังคมปัจจุบัน ผมว่าชาวพุทธที่ดีควรมีปัญญาควบคู่กับศรัทธานะ ศรัทธาอย่างเดียวระวังจะโดนหลอก ระวังเพ้อเจ้อนะครับ
     
  8. kb 2500

    kb 2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +873
    สัทธรรมปฏิรูป
    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

    ส่วนหนึ่งของ
    ศาสนาพุทธ

    สถานีย่อย


    ประวัติศาสนาพุทธ

    ศาสดา
    พระโคตมพุทธเจ้า
    (พระพุทธเจ้า)
    จุดมุ่งหมาย
    นิพพาน
    ไตรรัตน์
    พระพุทธ · พระธรรม · พระสงฆ์
    ความเชื่อและการปฏิบัติ
    ศีล (ศีลห้า) · ธรรม (เบญจธรรม)
    สมถะ · วิปัสสนา
    บทสวดมนต์และพระคาถา
    คัมภีร์และหนังสือ
    พระไตรปิฎก
    พระวินัยปิฎก · พระสุตตันตปิฎก · พระอภิธรรมปิฎก
    หลักธรรมที่น่าสนใจ
    ไตรลักษณ์
    อริยสัจ ๔ · มรรค ๘ · อิทัปปัจจยตา
    นิกาย
    เถรวาท · อาจริยวาท (มหายาน) · วัชรยาน · เซน
    สังคมศาสนาพุทธ
    ปฏิทิน · บุคคล · วันสำคัญ · ศาสนสถาน · วัตถุมงคล
    การจาริกแสวงบุญ
    พุทธสังเวชนียสถาน ·
    การแสวงบุญในพุทธภูมิ
    ดูเพิ่มเติม
    อภิธานศัพท์ศาสนาพุทธ
    หมวดหมู่ศาสนาพุทธ
    สัทธรรมปฏิรูป หมายถึง พระสัทธรรมเทียม พระสัทธรรมปลอม เมื่อพระสัทธรรม คือคำสอนของพระพุทธเจ้า เลือนหายไป
    ความเลือนหายแห่งพระสัทธรรม หรือ สัทธรรมปฏิรูป เกิดขึ้นจากเหตุผล 5 ประการ คือ พุทธบริษัท 4 (ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา)
    ไม่เคารพยำเกรงในพระศาสดา
    ไม่เคารพยำเกรงในพระธรรม
    ไม่เคารพยำเกรงในพระสงฆ์
    ไม่เคารพยำเกรงในสิกขา
    ไม่เคารพยำเกรงในสมาธิ
    [แก้]อ้างอิง

    พระ​ไตรปิฎก​ ​เล่มที่​ ๑๖ ​พระสุตตันตปิฎก​ ​เล่มที่​ ๘ สังยุตตนิกาย​ ​นิทานวรรค ​สัทธรรมปฏิรูปกสูตร​
    พระ​ไตรปิฎก​ ​เล่มที่​ ๑๖ ​พระสุตตันตปิฎก​ ​เล่มที่​ ๘ สังยุตตนิกาย​ ​นิทานวรรค ​อาณิสูตร​
    บทความเกี่ยวกับศาสนาพุทธนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยเพิ่มข้อมูล ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:พระพุทธศาสนา
    หมวดหมู่: อภิธานศัพท์ศาสนาพุทธบทความเกี่ยวกับ พุทธศาสนา ที่ยังไม่สมบูรณ์
    รายการเลือกป้ายบอกทาง


    สัทธรรมปฏิรูป
    ๑๒ ตุลาคม ๒๕๔๗


    สัทธรรมปฏิรูป หมายถึงสัทธรรมเทียมสัทธรรมปลอม ไม่ใช่สัทธรรมแท้ คือคำสอนที่ผิดเพี้ยนไปจากสัทธรรมจริงคำสอนนอกลู่นอกทาง แต่อ้างว่าเป็นสัทธรรมแท้

    สัทธรรมปฏิรูป เป็นเหตุให้เกิดความเข้าใจผิดและหลงผิด เมื่อปฏิบัติตามย่อมผิดทางทำให้เสียเวลา ไม่ได้รับผลจริง และเป็นชนวนให้เกิดวิวาทะถกเถียงกัน ทะเลาะกัน แล้วแตกแยกกันในที่สุด

    สัทธรรมจริงย่อมพิสูจน์ได้ด้วยผลของการปฏิบัติ มิใช่ด้วยการตรึกนึกนึกคิดหรือการศึกษาตามตำรา เป็นต้น

    คุณเกษมเป็นนักเผยแพร่ที่สำคัญคนหนึ่งในเว็ปที่ใหญ่มากๆที่เกี่ยวกับศาสนาพุทธบางข้อมูลที่ลงมีบ่อยๆ ที่อาจเทียบได้ตามข้างต้นครับ แย้งได้รีบแย้งครับ บางทีท่านเกษมหลับหูหลับตาโพสก์ก็มีบ่อยๆ ท่านเป็นคนจ่ายเงินสนับสนุนเว็ปด้วยเกรงใจท่านเหมือนกัน..แกมีหน้าที่ลงโพสก์อย่างเดียว แบบเสียวเข้าว่า ด่าไม่สน โยนให้ผู้ดูแลอย่างเดียวครับตามนั้น...
     
  9. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เราชอบอ่านข่าวที่นี่ ที่กระทู้นี้เพราะข่าวเร็วมาก
    ห่างหายไปปีสองปี กลับมาตามอ่านก็ยังชอบอยู่
    เราไม่ได้ชอบดูหายนะของชาวบ้าน แต่ข่าวภัยพิบัติมันทำให้เราไม่ประมาทในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน
    ขอยกตัวอย่างเราเอง ทุกวันนึ้เราก็ยังอยู่กรุงเทพฯ ไม่มีเงินจะไปซื้อที่สูงๆเพืรอหลบภัย แฟนและครอบครัวแฟนอยู่กรุงเทพกันหมดและไม่มีใครเชื่อเรื่องภัยพิบัติ แต่เราก็อยู่ร่วมเป็นครอบครัวเดียวกันได้โดยไม่ทะเลาะกัน

    กระทู้นี้กลายเป็นกระทู้ภัยพิบัติทางใจไปซะแระ
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เอเชียฟื้นมาตรการเฝ้าระวังหลังไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 แพร่ไปถึงไต้หวัน

    [​IMG]

    ไทเป 25 เม.ย. - ประเทศในเอเชียพากันฟื้นมาตรการเฝ้าระวังที่เคยใช้เมื่อครั้งโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ระบาด หลังจากไต้หวันแจ้งว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนก สายพันธุ์เอช 7 เอ็น 9 นอกจีนแผ่นดินใหญ่เป็นรายแรกของโลก

    องค์การอนามัยโลก เตือนให้ระวังการสัมผัสสัตว์ปีกมีชีวิต แต่ยังไม่ประกาศห้ามเดินทางไปจีน ที่ซึ่งพบผู้ติดเชื้อไวรัสเอช 7 เอ็น 9 แล้ว 108 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 22 คน หลายประเทศในเอเชียย้ำว่า ได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังที่เคยใช้เมื่อครั้งโรคซาร์สระบาดเมื่อทศวรรษก่อน แต่ก็ขอให้ประชาชนใส่ใจคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ ได้นำเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิผู้เดินทางเข้าประเทศมาติดตั้งที่ท่าอากาศยานอีกครั้ง เพราะคาดว่าจะมีชาวจีนเดินทางเข้าประเทศจำนวนมากในช่วงเทศกาลวันหยุดฤดูใบไม้ผลิ สัปดาห์หน้า ซึ่งจะเริ่มในวันแรงงาน 1 พฤษภาคม

    ด้านไต้หวันขอให้ประชาชนระมัดระวังหากเดินทางไปจีน โดยเฉพาะนครเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง และ 5 มณฑล เนื่องจากชายไต้หวัน วัย 53 ปี ที่ทำงานในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซูของจีน ป่วยหลังเดินทางผ่านนครเซี่ยงไฮ้กลับไต้หวันได้เพียง 3 วัน ขณะนี้อาการทรงตัว แต่ยังน่าเป็นห่วง

    สำนักข่าวไทย TNA News | 25 เม.ย. 2556 18:39 |

    ที่มา เอเชียฟื้นมาตรการเฝ้าระวังหลังไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 แพร่ไปถึงไต้หวัน | MCOT.net | MCOT.net

    เหยื่อโรงงานบังกลาเทศถล่ม ตายพุ่ง 175 คน

    [​IMG]

    บังกลาเทศ 25 เม.ย. - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโรงงานสิ่งทอในบังกลาเทศถล่มเพิ่มเป็นอย่างน้อย 175 คนแล้ว

    ความคืบหน้าเหตุโรงงานสิ่งทอในบังกลาเทศพังถล่ม ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 175 คน บาดเจ็บอีกกว่า 1,000 คน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากยังมีคนงานอีกจำนวนมากติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคาร

    มีรายงานว่า โรงงานแห่งนี้มีคนงานทั้งสิ้น 3,122 คน แต่ยังไม่แน่ชัดว่าขณะเกิดเหตุมีคนงานทำงานอยู่ภายในโรงงานกี่คน จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยคนงานออกมาจากใต้ซากปรักหักพังแล้ว 2,000 คน

    สำนักข่าวไทย TNA News | 25 เม.ย. 2556 14:24 |

    ที่มา http://www.mcot.net/site/content?id=5178da2c150ba0d707000041#.UXlXw6JeBRY
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2013
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ภัยจากธรรมชาติ..ภัยพิบัติจากคน..ล้วนมาจากการคิดร้ายของมนุษย์ !!!

    [​IMG]

    ปราศรัยโดย อนุตราจารย์ชิงไห่ ที่ไถหนัน ฟอร์โมซา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2530 (ต้นฉบับเป็นภาษาจีน)

    ในจักรวาลมีโลกต่าง ๆ มากมาย มีระดับชั้นมากมาย โลกของเราเรียกว่า โลกแห่งวัตถุ ไม่ว่าสิ่งไหนก็สามารถเห็นได้ จับต้องได้ คลำพบได้ หยิบถึงได้ อีกโลกหนึ่งสร้างขึ้นมาด้วยความคิด ในจำนวนดังกล่าวมีดินแดนอสุรกาย ที่อยู่ใกล้พวกเรามากที่สุด เวลาส่วนมาก ความคิดของพวกเราส่วนมากจะเป็นความคิดที่ต่ำและดุร้าย หรือเป็นความคิดทั่วไปที่ทางโลกคิดว่าดี ความคิดเหล่นนั้น จะบินไปอยู่ใกล้ ๆ กับแดนอสุรกาย พวกเราเรียกมันว่า ชั้นอากาศใหญ่

    ดังนั้น บางครั้งพวกเราป่วยเป็นโรคบางชนิด หรือผู้อื่นนำโรคมาติดพวกเรา หรือมีภัยพิบัติอะไร สงคราม หรือภัยธรรมชาติ ภัยพิบัติจากคน มันล้วนเกิดจากความคิดที่ดุร้ายของคนในโลก พวกเราอย่าได้บ่นว่า “ฉันเป็นคนดี ทำความดีมาตั้งแต่เป็นเด็ก ทำไม่ยังมาป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่ได้?” หรือบ่นว่า “ประเทศของฉันดี ทุกคนต่างนับถือศาสนาพุทธมาตลอด ไปไหว้ทุกแห่ง ทำไมจึงมีภัยธรรมชาติ?”

    ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมา ล้วนมีสาเหตุทั้งสิ้น เพราะคนในโลกนี้ หรือคนในประเทศของพวกเรา ในอดีตหรือปัจจุบัน เคยมีความคิดที่ดุร้าย แม้พวกเราจะคิดอยู่ชั่วครู่เดียวก็เลิกคิด และไม่ได้ไปทำ แต่พลังของความคิดนี้มันยังอยู่ ตัวมันเองเหมือนมีความรู้ ความฉลาด พวกเราสามารถเรียกมันว่า เป็นสสารชนิดหนึ่ง พวกมันไม่มีจิตวิญญาณ ภายในก็ไม่มีพลังของพุทธ มีเพียงความรู้เท่านั้น เหมือนกับเครื่องคิดเลข เครื่องคิดเลขไม่มีจิตวิญญาณอยู่ข้างใน แต่มันสามารถคำนวณด้วยเหตุผล

    แต่ความคิดที่ดุร้าย ไม่ดี มันร้ายกาจกว่าเครื่องคิดเลข เครื่องคิดเลขพวกเราสามารถทำลายมันได้ แต่ความคิดที่ดุร้ายเหล่านั้น ไม่ทำลายยาก ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไร พวกมันก็ยังคงมีอยู่ รวบรวมสนามแม่เหล็กที่เหมือนกับพวกมัน ช้าหรือเร็ว จะหาโอกาสที่สะดวก เพื่อระเบิดกำลังของมันออกมา

    ถ้าเป็นเครื่องจักรเครื่องคิดเลข วันหนึ่งถ้าพวกเราไม่ใช้หรือใช้นานจนเกินไป เครื่องคิดเลขนั้น มันจะเสียเอง หรือพวกเราไปกดจุดใดจุดหนึ่ง เครื่องจักรก็จะเสีย ข้อมูลต่าง ๆ ที่เคยบันทึกไว้มาแล้ว ก็จะสูญหายไปเอง แต่ว่า ความคิดที่ดุร้ายนั้น ทำไม่ได้เลย มันไม่สามารถจะสูญสิ้นไป ถ้ามันมีอยู่แล้ว ก็จะอยู่ต่อไป แล้วกลายเป็นบรรยากาศชนิดหนึ่ง ห้อมล้อมอยู่รอบ ๆ ตัวพวกเรา หรือห้อมล้อมโลก ประเทศ หมู่บ้าน ตัวเมืองต่าง ๆ ของพวกเรา แล้วมันจะกลายเป็นโรคภัยไข้เจ็บ ภัยพิบัติ สงครามต่าง ๆ มากมายหลายเรื่อง

    โรคคืออะไร? คือบรรยากาศเหล่านั้น จะหาความคิดที่เหมือนกัน เพื่อเข้าสู่สนามแม่เหล็กของมัน ที่เรียกกันว่า สิ่งที่เหมือนกันก็จะดึงดูดกัน มันจะรอเธอมีความคิดชนิดนั้น หรือหาคนที่มีความคิดชนิดนั้นบ่อย ๆ แล้วเข้าสู่สนามแม่เหล็กของมัน เหมือนมีประตู เพราะสองสิ่งที่เหมือนกัน มันจะรวมเข้าด้วยกันง่าย เมื่อมันเข้าสู่สนามแม่เหล็กของพวกเรา ต่อจากนั้น เข้าสู่สมองของพวกเรา ประสาทของพวกเรา แล้วทำลายภูมิต้านทานของพวกเรา พวกเราก็จะกลายเป็นคนป่วยเป็นโรคมะเร็ง หรือเป็นโรคประสาท หรือเป็นโรคที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน คนที่ชอบมีความคิดที่ดุร้าย ในอดีตชาติอาจจะมีความคิดที่ไม่ดี ดังนั้น เมื่อกลับมาเวลานี้ ก็ต้องดูดเอาความคิดที่ไม่ดีจากอดีตของเขา

    ดังนั้น พวกเราไม่ต้องไปโทษคนอื่น ทุกสิ่งทุกอย่างพวกเราเป็นคนสร้างขึ้นมาทั้งสิ้น แต่พวกเราสามารถหลีกเลี่ยงได้ ถ้ากาย วาจา ใจของพวกเรา สะอาดตลอด 24 ชั่วโมง มันก็จะเข้าไม่ได้ เพราะมันต่างชนิดกัน ดังนั้นจึงดูดกันไม่ได้ สิ่งที่แตกต่างกันจะเข้ามา ก็เหมือนกับถูกกั้นออกมา เหมือนกับน้ำกับน้ำมันไม่สามารถจะเข้ากันได้เลย พวกเราผู้บำเพ็ญ สามารถลบล้างกรรมมากมาย แม้ว่าแต่ก่อนเคยคิดเรื่องดุร้าย แต่ว่าเวลานี้กลายเป็นคิดน้อยลง สมมุติว่า มันต้องเข้าไปหมด แต่ในที่สุดเข้าไปได้เพียงนิดเดียว อาจจะทำให้พวกเราคันตรงนี้ เจ็บตรงนั้น หรือไข้ขึ้น 2-3 วัน ก็จะไม่เป็นโรคมะเร็ง หรือทำให้พวกเราเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ รถอาจจะถูกชนจนเสียหมด แต่คนยังไม่ตาย เพียงแต่ถลอกหรือผิวแตก

    ดังนั้น เวลาอยู่ในโลกนี้ พวกเราควรจะชำระล้างกาย วาจา ใจของพวกเราให้สะอาด เพราะพวกเราต้องป้องกันตัวเอง ถ้าพวกเราพ้นจาก 3 โลกแล้ว ก็จะไม่มีปัญหา ที่นั่นไม่มีบรรยากาศที่ดุร้าย ไม่มีใครคิดเรื่องดุร้าย มีแต่คนที่สะอาดจึงจะขึ้นไปได้

    การปราศรัยของท่านอาจารย์ฉบับนี้ เคยลงในธรรมสารฉบับที่ 96 สิ่งที่ท่านอาจารย์มองเห็นอย่างชัดเจน ไม่เพียงพูดถึงต้นตอของปัญหา และได้ชี้นำวิธีป้องกันที่สมบูรณ์ที่สุดให้กับชาวโลกด้วย ในยุคที่โรคระบาดกำลังแพร่สะพัด พวกเรานำเอาบทความนี้ของท่านอาจารย์มาลงพิมพ์ใหม่ หวังว่าทุกคนในสังคมจะได้รับประโยชน์ทั่วหน้า

    ที่มา ภัยจากธรรมชาติ ภัยพิบัติจากคน ล้วนมาจากการคิดร้ายของมนุษย์
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    พระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    [​IMG]

    1. ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้

    พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512

    2. วิถีทางดำเนินของบ้านเมืองและของประชาชนทั่วไป มีความเปลี่ยนแปลงมาตลอดเนื่องมาจากความวิปริตผันแปรของวิถีแห่งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและอื่นๆของโลก ยากยิ่งที่เราจะหลีกเลี่ยงให้พ้นได้ จึงต้องระมัดระวัง ประคับประคองตัวเรามากขึ้นโดยเฉพะเรื่องการเป็นอยู่โดยประหยัด เพื่อที่จะอยู่ให้รอดและก้าวหน้าต่อไปโดยสวัสดี

    พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย โอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2522

    3. ข้าราชการทุกฝ่ายมีหน้าที่เหมือนกัน ที่จะต้องตั้งใจขวนขวายปฏิบัติงานด้วยความฉลาดรอบคอบ ให้สำเร็จลุล่วงตรงตามเป้าหมายโดยไม่ชักช้า และที่จะต้องร่วมกับชาวไทยทุคนในอันที่จะอุ้มชูรักษาความดีในชาติให้ยืนยงมั่นคงอยู่คู่กับผืนแผ่นดินไทย. ยิ่งเป็นผู้ใหญ่มีตำแหน่งสำคัญ ยิ่งจะต้องปฏิบัติให้ดี ให้หนักแน่น ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ผลงานที่สำเร็จขึ้นจากความร่วมมือและจากความบริสุทธิ์ใจ จักได้แผ่ไพศาลสูงขึ้น ผลงานที่สำเร็จขึ้นจากความร่วมมือและจากความบริสุทธิ์ใจ จักได้แผ่ไพศาลไปตลอดทั่วทุกหนแห่ง ยังความสุขความเจริญที่แท้จริงให้บังเกิดขึ้นได้ตามที่ปรารภปรารถนา

    พระราชทานแก่ข้าราชการพลเรือน เนื่องในโอกาสวันข้าราชการพลเรือน
    วันที่ 30 มีนาคม พุทธศักราช 2524

    4. คุณธรรมข้อหนึ่งที่ยังมีอยู่อย่างบริบูรณ์ในจิตใจของคนไทยก็คือ การให้ การให้นี้ไม่ว่าจะให้สิ่งใด แก่ผู้ใด โดยสถานใดก็ตาม เป็นสิ่งที่พึงประสงค์อย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องประสานไมตรีอย่างสำคัญระหว่างบุคคลกับบุคคลและให้สังคมมีความมั่นคงเป็นปึกแผ่นด้วยสามัคคีธรรม

    พระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 31 ธ.ค.2545

    5. การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเองและครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้ จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้นยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย

    พระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 31 ธ.ค.2502

    6. ชาติบ้านเมืองประกอบด้วยนานาสถาบัน อันเปรียบได้กับอวัยวะทั้งปวง ที่ประกอบกันขึ้นเป็นชีวิตร่างกาย ชีวิตร่างกายดำรงอยู่ได้ เพราะอวัยวะใหญ่น้อยทำงานเป็นปรกติพร้อมกันอย่างไร ชาติบ้านเมืองก็ดำรงอยู่ได้ เพราะสถาบันต่างๆตั้งมั่นและปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยพร้อมมูลอย่างนั้น

    พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ และ อาสาสมัครพลเรือนในพิธีตรวจพลสวนสนาม เนื่องในโอกาสงานพระราชพิธีรัชดาภิเษก 8 มิ.ย.2514

    7. ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้ ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทยและความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้

    พระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน 1 ก.ย.2526

    8. วิถีทางดำเนินของบ้านเมืองและประชาชนโดยทั่วไป มีความเปลี่ยนแปลงมาตลอดเนื่องจากความวิปริตผันแปรของวิถีแห่งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และอื่น ๆ ของโลก ยากยิ่งที่เราจะหลีกเลี่ยงให้พ้นได้ จึงต้องระมัดระวัง ประคับประคองตัวเรามากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการเป็นอยู่ โดยประหยัดเพื่อที่จะอยู่ให้รอดและก้าวหน้าต่อไปได้โดยสวัสดี

    พระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 31 ธ.ค.2521

    9. ความเจริญของคนทั้งหลาย ย่อมเกิดมาจากประพฤติชอบและการหาเลี้ยงชีพชอบ เป็นหลักสำคัญ ผู้ที่จะสามารถประพฤติชอบและหาเลี้ยงชีพชอบได้ด้วยนั้น ย่อมจะมีทั้งวิชาความรู้ ทั้งหลักธรรมทางศาสนา เพราะสิ่งแรกเป็นปัจจัยสำหรับใช้กระทำการทำงาน สิ่งหลังเป็นปัจจัยสำหรับส่งเสริมความประพฤติ และการปฏิบัติงานให้ชอบ คือให้ถูกต้องและเป็นธรรม

    พระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แก่ครูโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนาอิสลาม 4 จังหวัดภาคใต้ จ. ปัตตานี 24 ส.ค. 19

    10. เศรษฐกิจพอเพียง เป็นเสมือนรากฐานของชีวิต รากฐานความมั่นคงของแผ่นดิน เปรียบเสมือนเสาเข็มที่ถูกตอกรองรับบ้านเรือนตัวอาคารไว้นั่นเอง สิ่งก่อสร้างจะมั่นคงได้ก็อยู่ที่เสาเข็ม แต่คนส่วนมากมองไม่เห็นเสาเข็ม และลืมเสาเข็มซะด้วยซ้ำไป

    พระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากวารสารชัยพัฒนา ประจำเดือนสิงหาคม 2542

    ที่มา ::
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2013
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สาเหตุที่คนเราชอบจับผิดคนอื่น !!!

    [​IMG]
    บทความโดย ศ.ศร.นพ.วิทยา นาควัชระ(จิตแพทย์)

    สังคมเราทุกวันนี้มีแต่คนชอบจับผิดคนอื่น ออกมาเสนอผลงานจับผิดเต็มไปหมดทั้งในแวดวงการเมือง การงาน สังคม และครอบครัว เกิดความระแวง ระวัง โกรธ อาฆาต และหาทางแก้แค้นกันต่อไป

    ทำไมคนจึงชอบจับผิดคนอื่น

    1.ได้ความสะใจ เหมือนได้แก้แค้นและระบาย ความอาฆาตที่ผูกใจเจ็บมาก่อนโดยเฉพาะคนที่เคยเป็นเพื่อนกันหรืออยู่ในแวดวง เดียวกัน ย่อมมีข้อมูลในการจับผิดได้ง่ายกว่าคนอยู่นอกวงการ

    2.อิจฉา ลองสังเกตแววตา ท่าทาง คำพูด ของคนที่ชอบจับผิดคนอื่นดูซิ จะออกแนวเยาะเย้ย ถากถาง ประชดประชัน มองเห็นถึงจิตใจที่ไม่มีความสุข เขามักจะจับผิดคนเก่งกว่า ดีกว่า หรือมีคนชื่นชมชื่นชอบมากกว่า หรือคนที่อยู่ในแวดวงเดียวกัน เรียนรุ่นใกล้เคียง หรืออายุไล่เลี่ยกันไม่เห็นมีใครไปจับผิดขอทานหรือคนที่ด้อยกว่าเลยการอิจฉาริษยานี้เป็นนิสัย การจับผิดก็เป็นนิสัยด้วย เราจะเห็นคนที่ชอบจับผิดคนอื่นออกมาปรากฏตัวทางสื่อบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ กัน และในชีวิตประจำวันเราก็จะเห็นคนที่ชอบจับผิดมักมีนิสัยอิจฉาคนอื่น บางคนแลดูเป็นคนเงียบ ๆ รักความเป็นธรรม แต่ในจิตใจมักเหี้ยมโหด แม้จะชอบกล่าวอ้างบ่อย ๆ ก็ตาม

    3.มองโลกในแง่ร้าย จึงมีข้อจับผิดคนอื่นได้มาก โดยมองข้ามข้อดีของคนอื่นไปหมด

    4.มักขาดคุณธรรม ขาดเมตตา มักชอบโทษหรือกล่าวโทษคนอื่นเกินจริง

    5.ตัวเองอาจเคยถูกจับผิดมาก่อน จึงผูกใจเจ็บและหาทางจับผิดคนอื่นเป็นการแก้แค้น

    6.เพื่อให้ตัวเองแลดูเก่ง ฉลาด โดยกดหรือกล่าวว่าคนอื่นมีความผิด

    7.เพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตนเอง ซึ่งตนเองก็รู้และเกรงว่าคนอื่นจะจับได้ จึงจับผิดคนอื่นให้มาก ๆ เอาไว้ ทำให้คนสนใจความผิดของคนอื่น จะได้ไม่สนใจตัวเขา

    8.เอาไว้แก้ตัว เวลาตัวเองทำผิดและมีคน อื่นจับได้ ก็จะได้บอกว่า ทีคนอื่นทำผิดเล่า ไม่เห็นมีใครว่าอะไร? และก็จะหาทางทำผิดต่อไปเพื่อประโยชน์ของตนเอง

    9.มีลักษณะ Sadistic Personality ชอบเห็นคนอื่นมีความผิดแล้วตัวเองมีความสุข จึงพบได้บ่อยที่เขายัดเยียดความผิดให้คนอื่นเกินความจริง

    10.ประเมินตัวเองผิด คิดว่าเก่งกว่าคนอื่น สามารถ จะปราบคนอื่นให้ได้ทั้งหมด จึงใช้วิธีคอยจับผิดคนอื่นเป็นเครื่องมือเพื่อลดเครดิตคนอื่นลง และตัวเองก็ไม่ทำอะไรให้เป็นประโยชน์แก่สังคมด้วย

    คนชอบจับผิดคนอื่นเป็นคนที่มีปมด้อยในใจ ขาดความรักและความสนใจมาก่อนจากทางครอบครัวหรือสังคมรอบตัว ขาดความรักมนุษย์ ขาดเมตตา มักคอยซ้ำเติมคนอื่น

    คนในสังคมที่ขาดวิจารณญาณก็มักจะเชื่อข้อมูลของคนชอบจับผิด จึงให้ความสนใจ เขาจะยิ่งหลงตัวเองว่าสำคัญยิ่งขึ้น แนวโน้มที่เขาจะทำผิดกฎหมายและศีลธรรมจะมีได้มากกว่าคนทั่วไป

    สังคมทุกวันนี้ประเมินการจับผิดเป็นเรื่องของคุณธรรมและความถูกต้อง แถมหลงผิดให้เครดิตว่า ใครจับผิดคนอื่นได้เก่งน่าจะเป็นคนไม่ทำผิด และมีคุณธรรม ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย คนที่จับผิดคนอื่นเก่งอาจจะเป็นคนทำผิดเสียเองมากกว่า หรือเลวกว่าคนที่เขาจับผิดเสียอีก

    ขณะนี้มีคนจับผิดกันมากขึ้น ทำให้คนในสังคมเกิดภาวะระแวง ระวังตัว ใส่ความกัน แก้ตัว ก้าวร้าว อาฆาตแค้น และแก้แค้นไม่คิดที่จะทำหน้าที่ของชีวิตหรือทำความดีอื่น ๆ กันแล้วนอกจากจับผิดกันและแก้ตัวกันวันหนึ่ง ๆ และรอคอยว่าจะถึงวาระ ทีใคร-ทีมัน จะได้แก้แค้น? ล้างแค้นกัน แล้วสังคมจะไม่ย่อยยับได้อย่างไร

    ที่มา สังคมย่อยยับ เพราะคนจับผิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2013
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ห่วงการเมืองป่วน-สงครามเกาหลี-ฉุดเศรษฐกิจไทย !!!

    [​IMG]
    พรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย​

    หอการค้าไทยห่วงการเมืองในประเทศป่วน รัฐเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ ม็อบยืดเยื้อ เกิดสงครามเกาหลี กระทบเศรษฐกิจไทย

    นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หากเทียบปัจจัยการเมืองภายในประเทศกับปัจจัยการเมืองระหว่างเกาหลีหนือกับเกาหลีใต้ในช่วงนี้ คาดว่าผู้ประกอบการไทยกังวลปัจจัยการเมืองในประเทศมากกว่า โดยรัฐบาลจะต้องอธิบายให้ชัดเจนว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่ออะไร และถ้าจะดำเนินการก็ต้องค่อยๆทำ และถ้าอธิบายไม่ชัดเจนจะมีผลทำให้ผู้คัดค้านออกมาพูดว่าแก้ไขเพื่อคนคนเดียว ซึ่งไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งรนี้จะถูกหรือผิด แต่รัฐบาลต้องอธิบายให้ชัดเจนว่าแก้ไขเพื่ออะไร

    "ภาคเอกชนกังวลว่าการถ้ามีการชุมนุมไม่เห็นด้วย จะมีความยืดยาวและจะมีการเอาภาคธุรกิจเป็นตัวประกันหรือชุมนุมกีดขวางการจราจร และจะมีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของชาวต่างชาติ หากจะมีการชุมชนคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญก็ไม่ควรจะยืดเยื้อ ซึ่งน่ากังวลว่าจะมีการชุมนุมคัดค้าน เพราะเป็นเรื่องที่กลุ่มคนมีความเห็นขัดแย้งกัน และถ้ามีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยและออกมาชุมนุมต้องไม่ให้เกิดม็อบชนม็อบ เพราะไม่ต้องการเห็นปัญหาความขัดแย้งใหม่เกิดขึ้นมาอีก"

    ทั้งนี้ สำหรับความขัดแย้งระหว่างเกากลีเหนือและเกาหลีใต้ คงยากที่จะเกิดการสู้รบ โดยเชื่อว่าประธานาธิบดีเกาหลีเหนือต้องการขู่เกาหลีใต้เพื่อสร้างภาวะผู้นำ และคาดว่าเกาหลีเหนือน่าจะขู่เช่นนี้ไปเรื่อยๆ แต่ก็ต้องจับตาดูว่าสถานการณ์ของทั้ง 2 ประเทศ หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าเกิดการสู้รบกันจริง ก็จะเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบกับเศรษฐกิจเอเชีย เพราะทุกอย่างจะหยุดชะงัก และการเดินเรือผ่านบริเวณดังกล่าวอาจมีต้นทุนสูงขึ้น

    นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ภาคเอกชนหวังว่าเกาหลีเหนือจะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ทำสงครามกับเกาหลีใต้ เพราะจะกระทบทั้งภูมิภาค ซึ่งที่ผ่านมาเกาหลีเหนือออกมาขู่หลายครั้งและมีจีนและรัสเซียหนุน แต่ทั้ง 2 ประเทศ กำลังเผชิญปัฯหาเศรษฐกิจภายใน จึงคาดว่าจะมีการชั่งน้ำหนักในการช่วยเหลือเกาหลีเหนือ และถ้าเกิดการสู้รบกันจริง สหรัฐคงไม่ปล่อยให้เกาหลีใต้สู้คนเดียว แต่ก็ไม่อยากให้เกิดการสู้รบกันใกล้ประเทศไทย เพราะอาจมีผลกระทบ

    การขนส่งสินค้าทางเรือจากไทยไปเกาหลีใต้ ไม่มากเมื่อเทียบการส่งออกทั้งหมด โดยมีสินค้าที่ส่งออกไปเกาหลีใต้ และสินค้าบางส่วนที่เปลี่ยนเรือเพื่อส่งออกไปญี่ปุ่นทางตะวันตก เช่น ฟูกูโอกะ แต่มีปริมาณไม่มาก ส่วนสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐ จะไปเปลี่ยนเรือที่ไต้หวันและญี่ปุ่น จึงไม่ได้รับผลกระทบหากมีการสู้รบ ซึ่งการส่งออกไปปักกิ่งมีเส้นทางเดินเรือใกล้กรุงโซล และจีนคงไม่ปล่อยให้เกาหลีเหนือดำเนินการอะไรที่กระทบกับจีน แต่ถ้าสู้รบกันอาจมีผลกระทบกับการบินไทย ที่เส้นทางไปแอลเอต้องผ่านกรุงโซล โดยที่ผ่านมาการบินไทยใช้เส้นทางผ่านนาริตะ แต่ช่วงหลังเปลี่ยนมาโซลแทน

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2556

    ที่มา ห่วงการเมืองป่วน-สงครามเกาหลีฉุดศก.ไทย - กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2013
  15. khun ae

    khun ae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +159
    ใช่เลย อันนี้ผมเห็นด้วย เลยนะแต่คุณ เกษม อย่าบอกนะว่าพวกของคุณไม่จับผิดใคร ไม่อิจฉาใคร ผมเห็นเอามาลงนี่ว่าฝ่าย รัฐเขาอย่างอคติเลย แต่ทำไมหนอคนประเภทนี้เวลาทำกะคนอื่นนี่ทำได้ไม่ผิด แต่โดนบ้างร้องแฮะ ผมจะบอกให้เอาบุญระวังเรื่องกฎแห่งกรรมด้วยนะพี่เษม
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ยอดเหยื่อตึกถล่มในบังกลาเทศเพิ่มเป็น 304 ราย !!!

    [​IMG]

    ซาวาร์ 26 เม.ย. - ยอดผู้เสียชีวิตจากตึกโรงงานเสื้อผ้าถล่มในบังกลาเทศเพิ่มขึ้นเกิน 304 รายแล้วในวันนี้ ขณะที่อีกหลายพันคนยังคงรอติดตามข่าวอยู่แถวที่เกิดเหตุ เพื่อค้นหาญาติมิตรที่สูญหาย

    โฆษกกองทัพบังกลาเทศ แถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตมีจำนวน 304 ราย และได้รับความช่วยเหลือออกมากว่า 2,300 คน นับตั้งแต่อาคารถล่มเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันที่โรงพยาบาลเต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งต้องถูกตัดแขนขาออก เพื่อที่หน่วยกู้ภัยจะได้นำตัวออกจากซากอาคารได้

    สำนักข่าวไทย TNA News | 26 เม.ย. 2556 |

    ที่มา ยอดเหยื่อตึกถล่มในบังกลาเทศเพิ่มเป็น 304 ราย | MCOT.net | MCOT.net

    “นพ.ประเสริฐ” ชี้เชื้อ H7N9 รุนแรงกว่า H5N1 แนะเฝ้าระวังเข้ม !!!

    [​IMG]

    องค์การอนามัยโลกยอมรับเชื้อไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 มีความรุนแรงกว่าเอช 5 เอ็น 1 และอาจแพร่จากคนสู่คน แนะให้เฝ้าระวังเข้มงวด

    ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก พบว่ามีการติดเชื้อจากคนสู่คนในครอบครัวพ่อ-ลูก ชาวจีน ซึ่งเสียชีวิตไป 2 คน ถือว่าเชื้อมีความรุนแรงกว่าเอช 5 เอ็น 1

    อย่างไรก็ตาม พบว่ามีอีกกรณีที่เด็กหญิงชาวจีนติดเชื้อ ได้รับการรักษาด้วยยาโอเซลทามิเวียร์ มีการตอบสนองได้ดี ดังนั้น มาตรการจากนี้กระทรวงสาธารณสุขจะต้องเตรียมความพร้อมทั้งยาและห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ และประสานดูแลนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาในไทย หากเจ็บป่วยให้รีบพบแพทย์ทันที แต่ยังไม่มีความจำเป็นต้องห้ามการเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศ พร้อมแสดงความห่วงใย กรณีคณะกรรมการยาแห่งชาติ เตรียมถอดยาโอเซลทามิเวียร์ออกจากบัญชียาหลักแห่งชาติ เกรงว่าหากมีการเจ็บป่วยจะกระทบต่อการรักษา

    สำนักข่าวไทย TNA News | 26 เม.ย. 2556 |

    ที่มา http://www.mcot.net/site/content?id=517a1595150ba0b431000025#.UXqne6JeBRY
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2013
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ข่าวสารจากจิตจักรวาล !!!

    [​IMG]

    เชื้อ Virusteria เดินทางเข้าสู่บรรยากาศโลกแล้ว

    ‎1. ตามที่เราเคยประกาศผ่านสื่อพระโอวาทเอาไว้ล่วงหน้า เมื่อนานมาแล้วว่า ในระหว่างที่มีปฏิบัติการชำระโลกครั้งที่ 4 นี้ ให้พวกเธอจงระวัง! จะมีภัยร้ายถึงขั้นเสียชีวิตอยู่อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมิได้อยู่ในแผนปฏิบัติการใดๆของ พระบิดา นั่นคือภัยจากเชื้อโรคร้ายสายพันธุ์ใหม่นามว่า ไวรัสทีเรีย (Virusteria) เราจึงใคร่ประกาศแจ้งเตือนให้พวกเธอรู้ว่า บัดนี้มันกำลังเดินทางเข้าสู่ระบบโลกของพวกเธอแล้ว

    2. เชื้อโรคร้ายสายพันธุ์ใหม่ “ไวรัสทีเรีย” นี้ เป็นเชื้อโรคร้ายชนิดหนึ่งที่มนุษย์จัดให้เป็นพวก “แบ็คทีเรีย” เหมือนกัน แต่พันธุ์นี้จะมีขนาดเล็กกว่าแบ็คทีเรียโดยทั่วไป ซึ่งขนาดของมันจะเล็กมากพอๆ กับขนาดของไวรัส (Virus) และมันสามารถก่อพิษร้ายให้แก่เครื่องยนต์แห่งกรรมของพวกเธอ ได้ทั้งในแบบของแบ็คทีเรียและในแบบของเชื้อไวรัสเลยทีเดียว

    ‎3. พิษร้ายของมันที่จะแสดงออกในแบบของเชื้อแบ็คทีเรีย ก็คือมันจะแสดงตนเป็นเชื้ออหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ รหัส CD.ทันที หากเธอรับเชื้อนี้เข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร และในขณะเดียวกัน เจ้าเชื้อโรคร้ายตัวเดียวกันนี้ มันจะแสดงตนเป็นเชื้อไวรัสหวัดสายพันธุ์ใหม่ รหัส R.ทันที เมื่อเธอรับเชื้อนี้เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ นี่จึงเป็นที่มาของนามว่า “ไวรัสทีเรีย (Virusteria)” นั่นเอง

    4. หากผู้ใดได้รับเชื้อเข้าสู่ทางเดินอาหารแม้เพียงน้อยนิด จากการดื่มน้ำและการบริโภคอาหาร มันจะสามารถเข้าไปฟักตัว และเจริญพันธุ์อยู่ภายในกระเพาะอาหารและลำไส้ จนทำให้เธอเกิดอาการคล้ายติดเชื้ออหิวาตกโรค หากเธอได้รับการบำบัดรักษาไม่ทัน ก็จะสิ้นชีวิตได้ภายใน 3-5 วัน

    5. หากผู้ใดได้รับเชื้อนี้เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ซึ่งแน่นอนว่ามันจะมากับมวล อากาศนั่นเอง ใครสูดลมหายใจเข้าไปก็จะพาพวกมันเข้าไปด้วย แม้เข้าไปเพียงน้อยนิดมันก็ จะแสดงตัวเป็นไวร้ส โดยเชื้อก็จะเข้าไปฟักตัวเจริญพันธุ์ในถุงลมปอด แล้วจะทำลายปอดและหลอดลมอย่างรวดเร็ว จนระบบการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ก็คือสิ้นชีวิตภายในเวลาอันสั้นนั่นเอง

    6. เชื้อโรคนี้ดั้งเดิมนั้น เป็นเชื้อโรคที่ถูกแบกขนมาจากนอกกาแล็คซี่ทางช้างเผือก เชื้อจำนวนหนึ่งถูกลักลอบนำมาตัดแต่งพันธุกรรมในห้องแล็ป ทำสำเร็จแล้วก็ปล่อยจากแค้ปซูลลงมาสู่ชั้นบรรยากาศโลก พระสุริยเทพและบรรดารูปธรรมชั้นสูงซึ่งเป็นช่างเท็คนิก ของพระบิดา ผู้ข้ามมิติเข้ามาจากนอกระบบ ได้พยายามสกัดกั้นเชื้อนี้เอาไว้ได้จำนวนมากแล้ว แต่ก็ยังมีเชื้อส่วนหนึ่งที่เล็ดลอดเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกของพวกเธอได้อยู่ โดยเชื้อโรคร้ายนี้จะเริ่มเป็นภัยต่อมนุษย์โลก ตั้งแต่วันที่ 09-07-2011 เป็นต้นไป

    เราจึงประกาศแจ้งมาให้พวกเธอทราบโดยทั่วกัน

    (ป.วิสุทธิปัญญา)
    08 กรกฎาคม 2011 เวลา 23:21 น.

    ถาม
    Q1: ถ้าไวรัสทีเรียมิได้อยู่ในแผนปฏิบัติการ แสดงว่าไม่ได้อยู๋ในแผนคัดเลือก ก็แสดงว่า ไวรัสทีเรีย ก็จะทำร้ายมนุษย์ทุกคนเลยหรือครับ?


    ตอบ
    1.ไวรัสทีเรีย(Virusteria) เป็นแบ็คทีเรียที่ก่อให้เกิดเชื้ออหิวาตกโรคที่รุนแรง (อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่) ...ทั้งๆ ที่ตัวมันเองก็เป็นจุลินทรีย์ประเภทไวรัส ที่ถูกสร้างให้มีพิษร้ายแรงกว่าไข้หวัด ที่ร้ายแรงสุดในโลกแล้วในขณะนี้

    2. เชื้อโรคร้ายตัวนี้ ถูกส่งเข้ามายังระบบโลกของเธอก่อนกำหนด มันจึงมิได้อยู่ในแผนปฏิบัติการชำระโลกของพระบิดาแต่อย่างใด

    3. เมื่อมันมิได้อยู่ในแผนปฏิบัติการ มันจึงย่อมเป็นอันตรายถึงชีวิตต่อมนุษย์โลกทุกคนแน่นอน แม้ในขณะนี้บรรดารูปธรรมชั้นสูงจากนอกระบบ กำลังหาหนทางช่วยเหลือ เพื่อกำจัดเชื้อโรคร้ายนี้อยู่ทั้งวันคืน แต่ก็พบว่ามันยังเล็ดลอดเข้ามาในระบบโลกของเธอได้จำนวนหนึ่งแล้ว

    (ป.วิสุทธิปัญญา)
    10 กรกฎาคม 2011 เวลา 11:25 น.

    ถาม
    Q2: ทำไม "ไวรัสทีเรีย" จึงเข้ามาสู่ระบบโลก ก่อนกำหนดครับ?


    ตอบ
    1. เป็นเพราะเจ้าเชื้อโรคร้ายที่ถูกนำมาจากต่างกาแล็กซีตัวนี้ จำนวนหนึ่งถูกโจรกรรมออกมาเพาะขยายพันธุ์จนเป็นผลสำเร็จเร็วเกินคาดหมาย ด้วยพลังอำนาจแห่งซาตานที่ยังคงฝังแน่นอยู่ในดวงจิต...ธรรมญาณแห่งตนนั่นเอง

    2. แคปซูลแรกถูกปล่อยออกมาในบรรยากาศ ให้เห็นเป็นริ้วหมอกควัน ในยามอรุณรุ่งของวันที่ 07-07-2011 และแคปซูลที่สอง ถูกปล่อยออกมาในยามราตรี 22.00 น.ของวันที่ 08-07-2011

    3. พวกเธอจะสัมผัสรู้ได้ว่า ตลอดทิวาราตรีกาลดังกล่าว พระสุริยเทพและบรรดารูปธรรม ชั้นสูงต่างได้พยายามเข้าช่วยเหลือมนุษย์โลก และพากันสกัดกั้นไอหมอกควัน เชื้อโรคร้ายนี้อย่างสุดกำลัง โดยพวกเธอจะพบว่า ตั้งแต่วันที่ 07-07-2011 ที่ผ่านมาจนวันนี้ อากาศจะร้อนอบอ้าวผิดปกติ และมืดช้าสว่างเร็ว (หนึ่งทุ่มก็ยังสว่างอยู่ และตีห้าก็สว่างแล้ว) เพราะโลกต้องการรังสีร้อนจากพระสุริยเทพ เผาผลาญเชื้อโรคร้ายพวกนี้เป็นจำนวนเวลานานอย่างทันทีทันควันนั่นเอง (ท่านน่าจะช่วยเผาเชื้อชั่วในตัวมนุษย์ไปเสียด้วยนะเนี่ย?)

    4. ข่าวสารสำคัญคือ เชื้อโรคนี้จำนวนหนึ่งได้แพร่เข้าสู่บรรยากาศของทวีปยุโรป และได้ตกลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือบ้างแล้ว ที่ต้องปัดขจัดไปทางนั้น เพราะยังเป็นภาคพื้นทวีปที่ได้รับมหันตภัยพิบัติ เพื่อเป็นสัญญาณเตือนเรื่องการชำระโลกน้อยกว่าภูมิภาคอื่นอยู่

    5. พี่ๆ น้องๆ แถบทวีปยุโรป จะพากันเป็นหวัดงอมแงมเลย หากภูมิต้านทานต่ำแล้วหายใจ เอาเชื้อเข้าไปก็สามารถเป็น พาหะแพร่ต่อไปได้อีก และร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ

    6. ยืนยันว่า ขณะที่พวกเขาแพร่เชื้อลงมาในระบบนั้น คนที่คิดผลิตสร้างวัคซีนอหิวาต์และหวัดจากเจ้าเชื้อตัวนี้ ยังทำไม่สำเร็จเลย

    (ป.วิสุทธิปัญญา)
    10 กรกฎาคม 2011 เวลา 11:48 น.

    ถาม
    Q3: จะทราบได้อย่างไรว่าอาการที่เป็นนั้นได้รับเชื่อไวรัสทีเรียเข้าแล้ว?

    ตอบ
    1. ดูข้อมูลเบื้องต้นที่ คุณ Nitsuda Rattanapanalee ค้นมาฝากเอาไว้ก่อน อย่างน้อยมันก็คล้ายๆกัน ส่วนที่พิเศษกว่านั้นมีอะไร บ้างก็ให้รอข้อมูล เราไม่ปิดบังพวกเธอหรอก ที่ยังไม่บอกเพราะกำลังศึกษาและเก็บข้อมูลอยู่

    2. หากพบว่าตัวเองมีอาการในแบบที่รู้และไม่แน่ใจ ก็จงรับฟังสัญชาตญาณจากจิตวิญญาณ(พี่พลียะเดี้ยน)ของเธอเองบ้างสิ อย่าประมาทก็แล้วกัน

    (ป.วิสุทธิปํญญา)
    10 กรกฎาคม 2011 เวลา 11:54 น. ·

    ถาม
    Q4: เราจะต้องเตรียมตัวเตรียมพร้อม ทางด้านร่างกายและจิตวิญญาณอย่างไรบ้าง?


    ตอบ
    1.เตรียมพร้อมทางร่างกายมีดังนี้
    1.1 อย่าตากฝนหรือโดนละอองฝนโดย เด็ดขาด
    1.2 ถ้าจำเป็นต้องอยู่กลางฝน หรือเดินกลางแจ้งในยามเมฆมัวฟ้าตรึ้ม หรือฝนปรอยๆ กรุณาสวมหน้ากาก
    1.3 งดดื่มน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่ยังมิได้ผ่านการต้มเดือดหรือฆ่าเชื้อโรคก่อน
    1.4 อย่ารับประทานอาหารที่ไม่แน่ใจว่าสะอาดจริง
    1.5 ก่อนรับประทานอาหาร หลังทำธุระส่วนตัวห้องสุขา หลังใช้ห้องน้ำสาธารณะ และหลังจากออกนอกบ้านมาแล้ว ต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
    1.6 รักษาสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์ไว้เสมอ (พักผ่อน-ออกกำลังกาย)

    2.เตรียมพร้อมทางจิตวิญญาณมีดังนี้
    • ครองมหาสติ หรือปฏิบัติธรรมชาติสมาธิไป พร้อมๆ กับการทำงานตลอดเวลา
    • ยึดปณิธานแห่งนิพพานให้มั่นคง
    • ไม่ตื่นตกใจกลัวไปกับข่าวร้ายนี้จนขาดสติ จงเชื่อมั่นและศรัทธาในพระอำนาจแห่งองค์พระบิดาว่า ลูกที่ดีแท้ย่อมได้รับการคุ้มครองให้ปลอดภัยเสมอ

    (ป.วิสุทธิปัญญา)
    10 กรกฎาคม 2011 เวลา 12:09 น.

    หมายเหตุ:
    นักเรียนต้องรู้ว่า ขณะนี้แผนการคัดแยกคนดีออกจากคนชั่วของพระบิดานั้น ในทางปฏิบัติยังดำเนินการไม่เรียบร้อย รายนามของคนดีและคนชั่วคัดแยกและบันทึกยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์

    ดังนั้น หากมีภัยนอกแผนปฏิบัติการของพระบิดาเกิดขึ้น อันเกิดจากการกระทำของพวกคนพันธุ์กิ้งก่ายักษ์ในหมู่พวกเธอเอง (มิใช่ช่างเท็คนิกที่เป็นเจ้ากรรมนายเวร)เช่นครั้งนี้ หากเรารู้ จะนำมาประกาศให้พวกเธอทราบต่อไป เพื่อให้พวกเธอช่วยกันดูแลตนเองด้วย นั่นคือหน้าที่ดูแลเครื่องยนต์แห่งกรรมที่พระบิดาให้เธอยืมใช้ใช่ไหม?

    เรื่องอื่นที่อยู่นอกเหนือขีดความสามารถของมนุษย์อย่างพวกเธอ พี่ๆน้องๆ รูปธรรมชั้นสูงของเรา ที่พระบิดามอบอำนาจหน้าที่ให้มาดูแลพวกเธอ จะจัดการให้อย่างเต็มกำลังเช่นกัน เราขอกราบคารวะพี่ๆ น้องที่ช่วยเหลือมนุษย์ของเราด้วยเมตตาไว้ ณ ที่นี้ด้วย...

    (ป.วิสุทธิปัญญา)
    10 กรกฎาคม 2011 เวลา 12:18 น.

    รวบรวมมาแจ้งโดย แม่นายมล

    ที่มา นึกไป เขียนไป: เชื้อ Virusteria เดินทางเข้าสู่บรรยากาศโลกแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2013
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    คลิปรายการ ที่นี่เมืองไทย !!!

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=hQzACv67Wlg&feature=watch-vrec"]?.??? ???????????????????????1-2 - YouTube[/ame]
    To Find The Truth สมาชิก

    ตั้งแต่นาทีที่ 12.00 อ.เจนพูดถึงเรื่องภัยพิบัติ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตครับ อ.เจนบอกว่า

    "จากที่นั่งสมาธิ แล้วเห็นภาพว่าปี 2556 ประมาณปลายปี น้ำจะท่วมแล้วจะเกิดภัยพิบัติ คือภาคใต้จะเกิดสึนามิ เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายประเทศ แล้วก็เห็นภาพว่าปลายปี 56 ที่ประเทศไทย จะค่อยๆ เกิดแล้วก็จะไปหนักที่ปี 2557 อันนี้หนักมาก"

    "ดังนั้นถ้าหากท่านใดสร้างกุศลคุณงามดี คือสร้างกุศลกรรมดี มันก็จะทำให้คุณรอดปลอดภัย จากภัยพิบัติครั้งนี้ได้
    "


    คร่าวๆ นะครับ ภัยพิบัติผมว่าต้องเกิดขึ้นแน่นอน เพราะโลกในปัจจุบันคนชั่วเยอะมาก แต่จะเกิดขึ้นตอนไหนก็เท่านั้นเอง เพราะตอนนี้ในความคิดผม มันยังไม่แน่นอนว่าจะเกิดช่วงไหน เทวดานางฟ้า ท่านคงเลื่อนไป-มา เพราะมีตัวแปรหลายอย่างที่ทำให้ไม่มีความแน่นอน แต่ผมคิดว่าไม่เกินปี 2561 เพราะฉะนั้นเร่งทำความเพียร ทำทาน รักษาศีล แล้วก็เจริญภาวนา เดี๋ยวบุญที่เราสร้างก็ดลให้เรารอดเองครับ สาธุๆๆ

    29-11-2012, 09:15 AM

    ที่มา http://palungjit.org/posts/7060802
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2013
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ใกล้เต็มทีแล้ว !!!

    [​IMG]

    k_97 สมาชิก

    25 เม.ย.56 ปีนี้ให้เริ่มขยับ และระวังปีหน้า(2557)จะหนักมาก

    เมื่อวานตอนเย็นก่อนปิดร้าน ผู้ช่วยบอกว่าเห็นหมอหลวงกำลังรอรถจะไปทำงาน ผมได้ออกไปหาและพูดคุยกัน วันที่ 9 พ.ค. ศกนี้ต้องขึ้นที่สูงไหมครับ? ท่านบอกว่าจะมีการขยับ แต่ให้ระวังปีหน้า(2557)จะหนัก เป็นเพราะเจ้านายหมอ กับมหาเทพองค์หนึ่งช่วยต้านใช่ไหมครับ? ท่านพยักหน้า

    จากสามแหล่งคือ ฮ่มภะฯ เจ้านายหมอหลวง และภาพนิมิตผมที่ยืนมองน้ำอยู่ริมทะเล พอจะเห็นภาพได้ว่า ปีนี้ภัยเรื่องน้ำยังไม่มา แต่ถ้าภาพสัญญาณเท้าผมแช่น้ำเมื่อไร?ก็เตรียมถอนสมอได้เลย

    เรื่องที่ดินที่อุดรไปถึงไหนแล้วครับ? เห็นทางสำนักฯยังเฉยๆอยู่ ถ้าต้องการที่ดินที่อุดรขอให้บอก จะแนะนำคนมาบริจาค แต่ต้องทราบขนาดและตั้งอยู่ตรงไหน? แค่รับรู้

    หมอหลวงได้เล่าให้ฟังถึงพระอาการของสมเด็จแม่ว่าดีขึ้น ดีใจด้วยครับ ท่านได้เล่าถึงเดี๋ยวนี้มีเครื่องยืดชีวิตคนได้ ราคาเครื่องละ 700 ล้านบาท ในประเทศไทยมี 10 เครื่อง ที่เจ้านายหมอจะมีอายุถึง 120 ปี จะเป็นความจริง

    เคอิสรา

    27 เม.ย. 56 เท้าผมแช่น้ำเมื่อไร? ก็เตรียมถอนสมอได้เลย

    นิมิตเช้านี้ เท้าผมได้แช่น้ำแล้ว ความสูง 50 ซ.ม. แสดงว่าใกล้เต็มทีแล้ว สำหรับท่านที่คิดว่าเชื่อ และอยากเตรียมความพร้อมไว้ก่อน ก็เมล์เข้ามาคุยในข้อความส่วนตัวในเว็บฯนี้ แล้วจะเล่านิมิตให้ฟังก็จะรู้ว่าเมื่อใด? ส่วนแนวร่วมที่ได้เข้ามาแล้วก็จะทะยอยแจ้งให้รับรู้เป็นรายๆไป

    มหาประชาบดี ๙๗

    ที่มา http://palungjit.org/threads/แจ้งเตือน-โดย-k-97-a.324655/page-121
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    นัยยะของภัยพิบัติ..อยู่ที่การมาของดาวหางนิบิรุ !!!

    [​IMG]

    prachas สมาชิก

    อรุณสวัสดิ์ยามเช้าครับ มันนอนไม่หลับซะแล้ว ข้อความที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เฉพาะคนบ้าอ่านเท่านั้นครับ ถ้าคุณไม่บ้าอย่างผมกรุณาอย่าอ่านต่อครับ(จบแค่นี้สำหรับคนปกติ) สำหรับคนบ้าเหมือนเราอ่านต่อได้เลยครับ. ???

    วันนี้ก็ใช่ชีวิตเหมือนๆทุกๆวันที่ผ่านมา. หลังจากเหน็ดเหนื่อยไปทำงานรับจ้างให้คนรวยกว่ามา. เขาก็ให้กระดาษที่พวกเราทุกๆคนต้องการมาเกือบๆหกหลักหักค้าใช้แผ่นดินไปก็เกือบห้าหลัก. ภรรยาก็ยิ้มแก้มปริไป. วันนี้ ผมก็เหมือนเดิม. ทำงานที่ได้รับมอบหมายจากคุณสมบัติที่มีอยู่ในจิตในใจในกายนี้ เอาออกมาใช้เหมือนกับคนอื่นๆ ที่ต้องทำภาระกิจแห่งสวรรค์(หรือแห่งนรกก็ไม่รู้ ช่างมันทำไป) Big Project เลย

    ต่อด้วยอาบน้ำ ดูแลอาหารการกินให้มารดาที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ แล้วก็ทำงานต่อจนเกือบๆเที่ยงคืน ตอนเย็นทานข้าวชะอมทอดกับน้ำพริกกะปิและหน่อไม้ต้มมา แล้วอาบน้ำเสร็จก็นอน ตีสามตื่นเข้าห้องน้ำเหมือนทุกๆคืน แต่คืนนี้ตื่นช้าหน่อยเพราะพึ่งนอน. เดินกลับเตียงก็เหมือนทุกคืนนึกว่านั่งสมาธิต่อเลย ไหวมั๊ย บอกกับตัวเอง"เช้านี้ต้องรีบทำงานต่อและตกตอนเย็นต้องเอาของไปช่วยงานบวชอีกเดียวจะไม่ใด้พักผ่อน" ก็นอนหลับไปจากตีสามถึงเกือบตีสี่ครึ่ง ฝันแปลกเหมือนทุกครั้ง อีกแหละ?

    ฝันไปว่า เรายืนอยู่บนถนนที่บ้าน มองที่พื้นดินแบบทั่วๆไปเหมือนเราเดินเล่น. แต่ "แสงอะไรส่องผ่านลงมาที่พื้นดินแบบขาดๆหายๆ". เราก็แหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า. ภาพที่เห็นก็คือมีพระอาทิตย์อยู่ตรงหน้าเหมือนตอนเช้า แต่แสงอ่อนกว่าพระอาทิตย์ ใต้ดวงอาทิตย์ลงมาภาพค่อยๆชัดขึ้น มันเป็นดวงดาวขนาดเท่าดวงอาทิตย์ที่อยู่ด้านบนสีดำทมึน ภาพนั้นค่อยๆซูมเข้าหาดวงตาของผมแล้วซูมออก แล้วสิ่งที่ไมคาดคิดก็เกิดขึ้น

    จากจุดพื้นโลกที่ผมอยู่กับภาพที่ผมเห็นหลังจากซูมออกไป มีดาวเคราะห์ทั้งหมดสี่ถึงห้าดวง เกาะกลุ่มอยู่กับดวงอาทิตย์ (ซึ้งผมเดาว่าเป็นดวงอาทิตย์ของเรา) มันค่อยๆหมุนตามเข็มนาฬิกา แล้วภูเขายอดแหลมก็พลิกกลับเอายอดแหลมทิ่มลง(ภูเขามาตอนดึงภาพซูมออก) แล้ว ณ. ตำแหน่งดาวเคราะห์เหล่านั้นมีวงกลม Mark. สีแดงล้อมรอบดาวทุกดวงไว้ด้วย สัณชาตญาณผมบอกให้แฟนเอาIPad มาถ่ายไว มันแปลกมากแล้วผมก็ตื่นจนมานั่งพิมพ์อยู่นี้แหละครับ

    ผมคงอยากจะบอกกับใครสักคนที่กำลังอ่านอยู่นี้ ให้เขารู้เพราะคุณคนนั้นอาจเป็นมิตรสหายของผม หรือเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผม ผูกกันไว้ด้วยพันธสัญญาที่ว่า"เมื่อใดก็ตามที่ท่านผู้นี้ล่วงรู้ในสิ่งใด ขอให้ข้าพเจ้าได้ล่วงรู้ในสิ่งนั้นด้วย..(ผมบอกทุกๆสิ่งที่กินเข้าไป ที่กำลังทำ จะได้เป็นข้อมูลว่า ความบ้าของคุณกับผมพอๆกันไหม555) ยิ้มเข้าไว้ครับ ยอมรับทุกอย่างได้เหมือนแผ่นดิน ขอบคุณสหายครับ

    26-04-2013, 10:10 PM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ความฝัน-เทพสังหรณ์-สัญญานเตือนจากเบื้องบน.79471/page-170
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...