ชีวิตครอบครัวไม่มีความสุขสักที หรือว่าเป็นผลจากความคิดในอดีตที่คิดจะทำแท้ง

10 ปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน ชีวิตครอบครัวไม่มีความสุขสักที หรือว่าเป็นผลจากความคิดในอดีตที่คิดจะทำแท้ง และการโกรธแค้นครอบครัวของสามี

10 ปีก่อน เรารักผู้ชายคนหนึ่งมาก คิดจะเลิกหลายครั้ง เพราะเค้าไม่ได้รักเรา จนเราท้อง ตอนนั้นเราทำงานได้ 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงาน พอบอกเค้าว่าเราท้อง เค้าอึ้งและหนีปัญหา เราเป็นฝ่ายโทรตามตลอด สุดท้ายเค้าให้พี่สาวเค้า ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย (แฟนอายุน้อยกว่าเกือบ 2 ปี เค้าทำงานได้ 1 ปี) มาบอกเราว่า เค้าปรึกษากับแม่เค้า ว่าให้เราเอาเด็กออกดีมั้ย เค้าจะพาไป เค้าเคยพาเพื่อนไป เราโกรธและเกลียดมาก เรียกได้ว่า แทบจะตัดเพื่อนกันเลย ว่าทำไมเค้าแก้ปัญหาแบบนี้ เห็นเราเป็นอะไร แม่เค้าเป็นพยาบาลคะ ทำให้เราโกรธยิ่งกว่าว่าทำไมไม่มีจรรยาบรรณเลย แก้ปัญหาแบบคนเห็นแก่ตัว เราขอเล่าพื้นฐานของเรา ให้ฟังนะคะ เราเป็นผู้หญิงที่เรียกว่าจะพร้อมทุกอย่าง ผิวขาว หน้าตาดีมากๆ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยอันดับต้นของเมืองไทย หน้าที่การงาน เงินเดือนเราก้อดีพร้อม จากบริษัทมีชื่อเสียง บ้านเราก้อถือว่าฐานะปานกลาง พ่อแม่ก้อเป็นที่เคารพในหมู่บ้าน เรามีอะไรด้อยกว่าหรือไม่เหมาะสมตรงไหน ที่แฟนและครอบครัวเค้าทำกับเราแบบนี้ (แฟนเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมากค่ะ ฐานะทางบ้านอาจน้อยกว่าเรา) เราว่าเค้าไม่ให้เกียรติพ่อกับแม่เราเลย การแต่งงานก้อไม่มีเพราะอีกฝ่ายไม่ยอม เราตัดสินใจเอาลูกไว้ แต่ยอมรับคะว่าเคยคิดจะทำแท้ง เพราะอายสังคม แต่สังคมที่ทำงานกลับเป็นยารักษาแผลที่ดี พี่ๆทุกคนให้กำลังใจเราเกือบทุกคน ไม่มีใครดูถูก พาเราไปวัด ไปฝากครรภ์ ไปหาหมอ คือระหว่างอุ้มท้อง ทะเลาะกับแฟนบ่อยมาก เนื่องจากเค้าไม่ยอมอยู่กับเรา เราโทรไปตามที่บ้านเค้า ได้คุยกับแม่เค้า เค้าบอกว่าลูกชายเค้าต้องดูแลพี่สาว ส่วนเรามีพี่กับน้อง ทำไมต้องให้ลูกชายเค้าไปอยู่ด้วย ตอนนั้นเราเป็นคนดี เหมือนนางเอกเลย อึ้งกับคำพูด ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ร้องไห้ทุกวัน (แต่ปัจจุบันไม่ใช่แล้วค่ะ เพราะถูกกระทำมาเยอะ ทุกวันนี้เราตัดขาดกับแม่สามีไปแล้วค่ะ เค้าทำไม่มีกับเรามากๆ และเราก้อไม่ได้ง้อเค้ากิน รวมทั้งนิสัยเบียดเบียน ทำไมเราต้องเคารพด้วยค่ะ ลองอ่านดูนะค่ะ) แฟนพาไปหาหมออยู่ 4 เดือน หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น เค้าก้ออยู่กับพี่สาวเค้า ไม่มาหาเราอีกเลย เค้าหนีเรา เราอยู่ทั้วน้ำตาทุกวันเลย สภาพจิตใจแย่มาก ถ้าไม่ได้พี่ๆ ที่ทำงานพาไปวัดทุกๆเช้า ซึ่งใกล้ที่ทำงานมากคะ พี่ท่านอื่นๆ ที่คอยถามสารทุกสุขดิบ แม้กระทั่งพาเราไปหาหมอหลายครั้ง พี่กับน้องเราที่อยู่เป็นเพื่อน พ่อกับแม่อยู่ต่างจังหวัดคะ เค้าก้อให้กำลังใจตลอดมาเจอหน้าแฟนอีกทีวันคลอด เพราะเราโทรตาม ที่ผ่านมาเค้าก้อโทรมานะคะ แต่ไม่มาหา พอคลอดลูก ปัญหาก้อเกิดมาตลอด แฟนเราก้อยังไม่มาอยู่กับเราเพื่อดูแลลูกอยู่ดี ไปๆ มาๆ เค้าอยู่บ้านเค้ามากกว่าบ้านเรา ตอนนั้นไม่ใช่ไม่คิดนะคะ แต่มันทำอะไรไม่ได้ เราคิดว่าลูกเราเค้ามีบุญเยอะ ก่อนที่จะเกิดแม่้เราฝันว่า หลวงยาย (ยายบวชค่ะ) เอาพระพุทธรูปทองคำงดงามมากมาให้ มีคนอยากได้เยอะ แต่แม่เราได้ เราไม่เคยฝันเลย ตอนนี้ลูกโต 9 ขวบแล้ว เป็นเด็กผู้ชาย หน้าตาน่ารักมาก เรียนหนังสือเก่ง ได้ที่ 2 ,3 หรือ 1 ใน 5 ตลอด เป็นเด็กดี แต่อาจดื้อซนตามประสาเด็ก เรื่องลูกหมดห่วงค่ะ ยิ่งได้ความรักจากแม่และพ่อเราเลี้ยง ซึ่งเราบอกได้เลยว่าท่านทั้งสองเลี้ยงลูกได้ดีกว่าเราเลี้ยงอีก ตอนเราท้อง เราเครียดสุดๆ ร้องให้ทุกคืน ก้อกลัวนะคะว่าลูกเกิดมาจะกระทบมั้ยกลัวเป็นเด็กซึมเศร้า แต่ผิดคาดค่ะ เค้าอารมณ์ดีมากๆ เป็นเด็กตลก ชอบทำเรื่องฮาๆ อารมณ์ดีเกินเหตุ / จริงๆ เรามีลูกดี เหมือนจะไม่มีปัญหานะคะ ทุกอย่างในชีวิตเราดีขึ้นมากๆ คะ คิดว่าอาศัยบุญลูก เราได้งานทำที่ดี เงินเดือนสูงกว่าเดิมมาก ตำแหน่งหน้าที่การงานก้อไม่ได้ด้อยกว่าใคร จนที่บ้านแฟนถามเรานะ เพราะแฟนมาเล่าให้ฟังว่าเค้าถามว่าเงินเดือนเท่าไร ได้ทำงานที่นี่หรอ เป็นหัวข้อขึ้นมาเชียว รวมโบนัสก้อเกินครึ่งแสนคะ ไม่ได้รู้สึกดีนะคะที่ถาม เพราะที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน ค่านม ค่าเลี้ยงดู ค่ากินค่าอยู่ ค่าเรียน เราและพ่อแม่เราออกคะ แฟนไม่เคยให้นะค่ะ ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่ต้องให้แม่เค้าค่ะ แม้กระทั่งตอนคลอด แม่แฟนยังถามเลยว่าใครออกเงิน พอแฟนบอกว่าเค้าออกเอง แม่เค้าก้อบอกว่าเรามีประกันสังคมไม่ใช่หรอ ก้อเบิกจากประกันสังคมได้นี่ โอ้ ไม่นึกเลยค่าคลอดประมาณสองหมื่นเองนะคะ ยังทำให้ท่านแม่สามีคิดได้ถึงเพียงนี้ ค่านมหลานให้มา 1 ลังคะ แต่ลูกเรากินเก่ง 1 ลังเนี่ย ไม่กี่อาทิตย์ก้อหมด ตอนเราท้องได้แบรนด์ จากแฟน ครึ่งโหลคะ อย่างอื่นและจากบ้านเค้าไม่มีคะ เราไม่ง้อเพราะเราซื้อเองได้คะ / ต่อนะคะ เรากลับมาทำงานกรุงเทพ แฟนให้เราไปอยู่บ้านกับพี่สาวเค้ากัน เค้าบอกว่าจะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย เราก้อกะช่วยค่าน้ำค่าไฟกัน (ตอนนั้นกลับไปทำงานกับพี่สาวเราได้ 3 ปีคะ พอลูกเข้าเรียนก้อกลับมาทำงานคะ) พอมารู้ความจริงไม่ถึง 1 เดือนว่าที่เค้าไม่ยอมซื้อบ้านกับเรา เพราะห่วงพี่สาวเค้า พี่สาวเค้าแต่งงานแล้วค่ะ อยู่กัน 2 ครอบครัว แฟนเราช่วยออกค่าผ่อนบ้าน 3 พัน พี่สาวเค้าผ่อน 2 พัน ค่าไฟแฟนจ่ายให้พี่สาวเค้าต่างหาก ของเฟอร์นิเจอร์ในบ้านแฟนซื้อให้เยอะมากคะ รวมทั้งจักรยาน เราน้อยใจที่แฟนไม่ยอมซื้อให้ลูก แต่ซื้อให้พี่สาวเค้าไว้ขี่ในหมู่บ้าน พ่อเราเลยพาไปซื้อให้หลาน จนลูกเราขี่จักรยาน 2 ล้อตั้งแต่ 3 ขวบ เลยทะเลาะกันค่ะ ว่าทำไมเราไม่ซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน วันนั้นทะเลาะกันแฟนเข้าข้างพี่สาวกับสามีพี่สาวนะคะ เราไปว่าเค้าเห็นแก่ตัว เราเลยย้ายของออกมา ไม่ติดต่อไปพักนึง แต่สุดท้ายแฟนก้อกลับมาง้อเรา เค้าบอกว่าเค้าอยูที่นั่นทำให้สามีกับพี่สาวทะเลาะกัน สามีพี่สาวหาว่าพี่สาวดูแลน้องดีกว่า บ้านนี้นิสัยแย่อย่างหนึ่งคือเราว่าเป็นโรคขี้อิจฉาคนอื่น เราก้อไม่ได้ว่าอะไร กลับมาก้อดี ตอนนั้นเราคิดแก้แค้นอยู่ คือทำยังไงก้อได้ให้แฟนมาอยู่กับเรา โดยที่ไม่ต้องไปอยู่กับพี่สาวเค้า สำเร็จค่ะ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ยิ่งตอนนั้นพี่สาวเค้าท้องด้วย ลืมเล่าไปว่าที่แฟนเป็นห่วงเพราะสามีพี่สาวเค้าไม่ค่อยได้เรื่อง ได้ยินว่าทะเลาะกันบ่อยและพี่สาวเค้าก้อไม่ถูกกับแม่สามีค่ะ ... ต่อ

 

แต่ก้อยังไม่วายจบเรื่อง ทุกศุกร์เราจะกลับไปหาลูก รู้ว่าแฟนต้องกลับไปบ้านเค้า เราก้อยอมนะ เค้าบอกว่าแม่เค้าสุขภาพไม่ดี โอเคเราตกลงว่า เรากลับรถตู้เองทุกศุกร์ แฟนค่อยมาหาลูกวันอาทิตย์ จะได้กลับกรุงเทพกัน กว่าจะมาก้อบ่ายสองบ่ายสาม หกโมงเราก้อกลับกรุงเทพแล้ว ที่ผ่านมาเราไม่เคยโทรไปตามนะค่ะ ว่าจะมาเมื่อไร ตอนไหน เพราะเราอยู่ที่บ้านมีความสุขดีค่ะ ครอบครัวอบอุ่น ลูกเราทำให้บ้านครึกครื้น สุดท้ายเรารู้ว่าแฟนไปรับพี่สาวเค้ากับลูกพี่สาวกลับทุกอาทิตย์เลยคะ เราโกรธมาก เพราะสามีเค้าก้อมี อีกอย่างสามีเค้าก้อว่างนะคะ ทำไมไม่มาส่งภรรยาตัวเอง เราเลยว่าไปว่างกค่าน้ำมัน เพราะเคยมีเหตุการณ์ที่พี่สาวเค้ากับสามีเค้าเอารถแฟนเราไปใช้ คือแฟนฝากจอดไว้ ทั้งๆที่เราไม่เต็มใจจะจอด วันนั้นแม่เค้ามากรุงเทพด้วยต้องพาแม่เค้าไปหาพี่สาวเค้า เลยเป็นที่มาของเรื่องจอดรถ และก้อไปเที่ยวใต้กันคะ ขากลับเรากับแฟนกลับมาก่อน เพราะจันทร์ต้องทำงานและลูกต้องไปเรียนเลยกลับเครื่องก่อน เลยไปเอารถที่จอดไว้ ขับออกมาไม่ถึง 5 นาที น้ำมันหมด โอ้พระเจ้า อะไรกันนี่ แกล้งกันขนาดนี้เชียว
ชีวืิตแฟน เราก้อว่าเพราะบุญลูกค่ะ เค้าเจริญก้าวหน้ามากๆ ทำธุรกิจส่วนตัว ตอนนี้เริ่มให้เงินลูกเป็นเงินก้อนแล้วค่ะ แต่เราว่าไม่ได้มากมายอะไร เพราะเราก้อช่วยเค้าออกทุนหลายแสนอยู่คะ ที่เลวร้ายก้อคือ เค้าทำทุกอย่าง ให้แม่กับพี่เค้า พี่เค้าลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกเฉยๆ สามีเค้าเฝ้าหอ เป็นธุรกิจครอบครัวสามีพี่สาวเค้า เราว่าคงมีปัญหา เพราะเคยได้ยินว่าพี่สาวเค้าไม่พอใจครอบครัวสามี แม่แฟนเป็นห่วงหลาน เพราพี่ชายเค้่าติดยา น้องสาวก้อไม่ทำงานเป็นพริตตี้ ได้ยินมาว่าเค้าหาผู้ชายที่รวยๆ แฟนยังมาเล่าเลยว่ามีรถหลายคัน น่าภูมิใจหรอคะ เสี่ยเลี้ยงเด็ก เราสมเพชมากกว่า และแฟนเรายังไปทำธุรกิจร่วมกับครอบครัวสามีพี่สาว ตอนนี้มีปัญหาเรื่องการแบ่งผลกำไร ยังคาราคาซังอยู่เลย เพราะเค้ารับตัวเลขกำไรที่แท้จริงไม่ได้ จากที่เคยคาดหวังไว้เกือบสิบล้าน แต่ไม่เป็นดังคาด มีกำไรนะค่ะ แต่ด้วยความโลภของคน ต้องการมากที่สุด เรายื่นคำขาดว่าห้ามทำกับพี่สาวกับสามีเค้าเด็ดขาด แฟนก้อโอเคนะคะ เพราะปัญหามากจริงๆ เราไปคุยกับแม่เค้าเรื่องไม่ให้เค้าทำธุรกิจด้วยกันอีก เป็นโครงการที่ 2 แม่แฟนโกรธมากเลยนะคะ ว่าเค้าพี่น้องกันทำธุรกิจด้วยกัน เรามีสิทธิอะไร เราเลยบอกว่าสิทธิความถูกต้องไม่ทำกับคนโกงไง เลยพูดไปถึงสิ่งที่พวกเค้าทำกับเราในอดีตให้มาขอโทษเรา เราว่าพวกเค้าไร้จิตสำนึก แม่เค้าโกรธมาก รวมทั้งไปขัดลาภไม่ให้พี่สาวเค้ามีเงินใช้ แต่เค้าได้ไป 2-3 ล้านแล้วนะคะ เค้าลาออกมาแล้ว มีลูก 2 คน เค้าต้องการพึ่งสามีเราทั้งบ้านเลยคะ
ปัญหาครอบครัวแม่สามีและพี่สาวเค้าที่ไม่รู้จักจบ เราเครียด เบื่อชีวิตแบบนี้ บางวันก้อร้องไห้ เรารู้สึกว่าเราไม่มีทางอยู่ด้วยกันได้ เราก้อไม่อยากเจอปัญหาแบบนี้ ที่ทำลายสุขภาพจิตเรา

 

ขอให้แข้มแข็ง มีวิริยะ และขันติ สู้ต่อไปนะครับ

 

....

ท่านจขกท เจอชายที่เลี้ยงไม่โต จึงติดแม่และพี่แจเช่นนั้น ..บุคคลเช่นนี้ท่านจขกท พึงปลงวางปล่อยให้เขาอยู่ภายใต้ปกครองของญาติผู้ใหญ่ของเขาเถิด คงไม่มีประโยชน์ที่ท่านจะพยายามยื้อยุดฉุดดึงเขามาให้ยืนบนขาตนเองกับหน้าที่รับผิดชอบครอบครัวที่ควรทำเลย เพราะเขา"โตไม่เป็น"..นี่เป็นเรื่องน่าสังเวชที่เกิดจริง เมื่อพ่อแม่เลี้ยงลูกให้โตได้เฉพาะอายุและรูปกายแต่แกร็นในด้านความคิดรับผิดชอบตนเอง..

ท่านจขกท เมื่อสามารถยืนหยัดได้ตนเอง ก็พึงสงเคราะห์แฟนไปด้วยใจกรุณา นึกเสียว่าเขาเป็น"บุตรชายคนหัวปี"ที่ท่านได้มาโดยไม่ต้องอุ้มครรภ์ ... แม้การเกื้อกูลคนอ่อนแอเช่นนี้ ย่อมมีอานิสงค์แห่งบุญที่ท่านจะได้รับในอนาคตเช่นกันครับ..

เรื่องราวที่เกิดไม่ได้มาจากเหตุที่เคยคิดทำแท้งอะไรๆอันเป็น trendy causeที่นิยมกันมากในปัจจุบัน..แต่เกิดเพราะคบเด็กสร้างบ้านเท่านั้นเองนะครับ

 

เอาใจช่วยนะคะ ^^

 

ขอขอบพระคุณทุกท่านมากๆกับกำลังใจที่มีให้กันนะคะ
ปัญหาทุกอย่างคุยกันมานานแล้ว และหลายรอบคะ ไม่ต่ำกว่า 20 รอบ ทะเลาะกันทุกครั้ง แต่ไม่มีทางออก จริงอยู่ที่ลูกให้พ่อแม่ อยู่กับพ่อแม่ไม่ผิดอะไร เป็นสิ่งที่ถูก แต่ที่อยากจะบอกคือตลอดเวลาที่ผ่านมา แม่เค้าไม่ต้องการให้ลูกชายมีครอบครัว เราคิดนะคะว่า เพราะสามีเป็นคนที่เลี้ยงดูพ่อแม่ ป้าๆ อย่างดี รวมทั้งเงินทองให้ทั้งหมด พี่ๆของสามี พอทุกคนมีครอบครัว ทุกคนรักแต่ครอบครัวตัวเอง เงินไม่เคยให้ (สามีเล่าให้ฟัง) และไม่ค่อยกลับมาหาพ่อแม่ ต้องให้พ่อแม่ขึ้นไปที่กรุงเทพประจำ เค้าไม่อยากให้แม่เค้าเครียด จึงให้เงิน แม่อยากได้อะไรซื้อให้หมด ไปเที่ยวไหนก้อพาไป แม่อยากมีรถดีๆ ใช้ สามีก้อซื้อให้ (ครอบครัวเราผ่อนอยู่) เราใช้รถแยกกัน พี่สาวไม่กลับบ้าน แม่อยากเจอหลาน ก้อเป็นธุระจัดการให้
และการที่น้องให้พี่ก้อเป็นสิ่งที่ดี แต่พี่เค้ามีสามีแล้ว หน้าที่หาเงินให้ครอบครัว ควรเป็นหน้าที่ของสามีเค้าไม่ใช่หรอ เรารู้สึกว่าเค้าให้ทุกคนในสายเลือดเค้า แต่ลูกที่เกิดมาจากเค้า เค้าไม่ให้อะไรเลย หรือเป็นเพราะเราไม่เคยเรียกร้อง การที่แม่กับพี่เค้าพยายามทำให้สามีเราไปดูแลพวกเค้า เรารู้สึกเค้าจงใจให้เรากับสามีเลิกกันจริงๆ คือเราจดทะเบียนสมรสมาได้ 4 ปีกว่าแล้วคะ

 

อนุโมทนาบุญ ด้วยค่ะ ที่ตอนนั้นคุณไม่คิดไปทำแท้ง เพราะไม่เช่นนั้น ชีวิตคุณคงจะไม่เจริญ
ก้าวหน้า มีแต่ปัญหาและอุปสรรค ส่วนเรื่องครอบครัวทุกๆครอบครัวก็มีปัญหากันทั้งนั้นค่ะ อยู่ทีว่า
จะเล็ก หรือใหญ่ เอาใจช่วยค่ะให้คุณผ่านพ้นไปได้



เห้นด้วยกับเม้นท์ ของ ท่าน ddman ค่ะ

 

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิต แม้ในยามที่ไม่เหลืออะไรเลย สิ่งนึงที่เราต้องมีคือศรัทธาในตัวเอง ซึ่งไม่ได้เกิดจากความคิด หรือการสร้างภาพลมๆแล้งๆ แต่เกิดจากการตรวจสอบการกระทำความคิดของตัวเอง เกิดจากความนับถือในแก่นแท้ในสิ่งที่เราเป็นได้จริงๆ

เราต้องจริงใจกับตัวเองพอที่จะรักษาขัดเกลาความคิด การกระทำ คำพูดของเราในแต่ละขณะ เพื่อให้เรานับถือ และมีศรัทธาในตัวเองได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็มีศรัทธาที่มั่นคงในสิ่งที่ผ่านมา มองย้อนไปในอดีต ก็จะเห็นสิ่งที่เราทำ เป็นความดีงาม เป็นประโยชน์ เป็นเรื่องจริง ที่หากใครจะสร้างภาพบิดเบือนก็เป็นได้แค่คำพูด แต่ข้อเท็จจริงเป็นประจักษ์พยานรับรองที่จับต้องมองเห็นได้

อดีตของเราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แต่เราต้องรู้ชัดว่าเราทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยเจตนาดีงาม ทำเต็มกำลังสติปัญญา ขัดเกลาพัฒนาจิตวิญญาณของตัวเองจนเกิดผลลัพธ์ดีงามในชีวิตตนและคนอื่น เมื่อมองไปในอดีตก็อบอุ่นใจ มองไปในอนาคตก็รู้ว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร

ดิฉันคิดเอาเองว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นเพื่อให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ได้ดีหรือร้ายในตัวมันเอง อยู่ที่จะสร้างให้เป็นประโยชน์กับชีวิตของเรายังไง ทุกอย่างเกิดจากจิต เปลี่ยนแปลงขึ้น-ลง ตรงตามการเปลี่ยนในจิตเรา ดังนั้นเราสามารถเปลี่ยนข้างนอกได้ด้วยการเปลี่ยนภายใน ทุกเหตุการณ์มีทางเลือกเสมอนะคะ เลือกที่จะมีความสุขเป็นประโยชน์แก่ตัวเองและคนอื่นเสมอ ...ขอเป็นแรงใจให้เข้มแข็งเพื่อเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความกล้าหาญ..ให้สมกับเป็นหญิงไทยหัวใจงามนะคะ ขอให้บุญรักษาค่ะ ^^

 

ทำบุญแก้เคล็ด เรื่องครอบครัวไม่เป็นสุข
ให้ ซื้อผ้าเหลือง 2 เมตร ไปห่มพระประธาน ในโบสถ์ เขียนชื่อ คนในครอบครัว บนผ้าด้วยนะ อย่าลืม แล้วจะดีขึ้น จะอยู่ร่มเย็น เป็นสุข ครับ

คำแนะนำของ อ.สมศักดิ์ เทพสมบุญ

 

เราก็ติดกรรมคิดทำแท้ง เพราะสุขภาพไม่ดีมาก หมอสูติก็หวั่นๆ ไม่รับปากจะให้ตั้งครรภ์ เลือกแม่ดีกว่า เลือกลูก กลัวแม่เป็นอันตราย
ยิ่งถ้าเด็กเป็น อภิชาติบุตร กรรมยิ่งหนักค่ะแค่คิดทำแท้ง กรรมอาจจะมากเท่าทำแท้งจริงๆก็ได้ค่ะ หน้าเราดำมากๆ ตอนท้อง (ต้องบอกว่า เหมือนผีค่ะ) ตอนที่ยังทราบว่า ท้อง หน้าเราผ่องจนคนทักว่าไปเข้าคอร์ส

เราก็อาศัยบุญลูกอยุ่เหมือนกันค่ะ (เราเอะใจตั้งแต่วันที่รู้ว่า ลูกเกิดวันอะไร / โรคเราอยู่ๆก็หายไปซะได้ เฮ่งเจียกง สวนผัก ทักไว้เมื่อราวๆ 15 ปีก่อนค่ะ ว่าถ้าลูกมา โรคจะหาย แต่ท่านไม่บอกว่าเพราะอะไร (เราไม่เชื่อและลืมไปแล้วค่ะ) /งานก็เยอะขึ้น ฯลฯ)
เท่าที่อ่านๆ ลูกคุณนิสัยคล้ายๆลูกเรานะค่ะ (แต่รายละเอียดเราคงไม่ลงลึก) ตอนที่มีคนมาบอกเรื่องลูก เราตกใจไม่น้อย คิดไว้แล้วว่าต้องมีอะไรแน่ๆ สงสัยลูกมาก (แต่คิดไม่ถึงขนาดนั้น)

ส่วนกรรมที่มีกันมาระหว่างคู่ ก็ต้องยอมรับค่ะ แต่กรรมคิดทำแท้งมีส่วนกับชีวิตเรามากค่ะ แม้จะงานดีเงินดี ก็ไม่ค่อยมีความสุขนัก วิธีแก้คือ ปฎิบัติภาวนาค่ะ

 

หนูว่า กรรมของพี่ เกิดจากการเลือกคนรักผิดค่ะ ซึ่ง มันแก้ไม่ได้แล้ว ให้แก้ที่ใจเราค่ะ

พี่มีพร้อมทุกอย่าง มีเขา หรือ ไม่มีก็ได้ เพราะ ก่อนหน้านี้ พี่ก็สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง

คนอื่นจะเป็นอย่างไร เห็นแก่ตัวแค่ไหน ช่างเขาค่ะ เขาคิดอะไร ก็ได้อย่างนั้น กรรมเขาสร้างเอง เขาก็รับเองค่ะ

ส่วนพี่ผู้ชายคนนั้น อยู่ที่ว่า พี่อยากได้ความรักเขา หรือความรับผิดชอบเขา และเขาสามารถให้ในสิ่งที่พี่ต้องการได้หรือไม่ สิ่งที่เขาให้ พี่คิดว่ามันจำเป็น หรือแค่ มันควรมีเพราะคนอื่นเขามีกัน ถ้าพี่ไม่ได้ต้องการจริงๆ ต้องการเพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ลูกพี่ควรได้รับ ถ้าพี่คิดว่า ยังไงก็ไม่มีวันได้จากเขาแน่ ก็ให้ปล่อยไปเสีย เพราะ ไม่ว่าพี่จะคิดมาก หรือ ไม่คิดอะไรเลย เขาก็ไม่เปลี่ยนไปให้ได้มากกว่านี้อยู่ดี

ปล่อย เมตตา พอไม่พอใจอะไร ก็ท่องไว้ว่า ไม่คิดๆๆๆๆ

หนูว่า พี่เลิกคาดหวังกับคนๆนี้ พี่จะมีความสุขมากขึ้นแน่ๆค่ะ

ถ้าเขาคิดได้ เขาก็คิดได้เอง ถือว่า เป็นกรรมของเขา

หรือ ไม่ ก็ ทำตัวพี่ให้ดี ให้เป็นแบบอย่างแก่เขา เผือที เขาอาจจะพัฒนาตนเอง ให้รู้จักคิดกว่านี้ก็ได้

แต่ อย่า คาดหวัง ว่าเขาจะดีขึ้นน่ะค่ะ ถ้าไม่ได้อย่างหวัง เราเองล่ะค่ะ ที่จะเสียใจเปล่าๆ

 

บางครอบครัวเขาก็รักกันมากเพราะเขาอยู่ด้วยกันมาก่อน ลำบากด้วยกันมามาก สามีภรรยาเลิกแล้วก็เป็นคนอื่น แต่พ่อแม่ลูกพี่น้องก็ยังคงเป็นสายเลือดเดียวกัน คุณเลิกกับสามีคุณไม่ได้เพราะ คุณกับสามีก็รักกันอยู่ เอาเป็นว่าอย่างที่เขาแนะนำกันนั่นแหละปฏิบัติธรรม(ภาวนา) ให้ทานกับญาติพี่น้องไปบ้าง(ถ้าไม่ถึงกับเดือดร้อน) คุณทำอะไรไม่ได้นอกจากวางใจเป็นกลางแล้ว กตัญญูกับพ่อแม่ตน เผื่อแผ่ถึงพ่อแม่สามีด้วย บางครั้งคนเรามันต้องใช้เวลาในการพิสูจน์บ้าง สิ่งใดที่เกินไปก็ท้วงติงที่สามีเราไม่ต้องไปว่าญาติเขาหรอกให้เขาว่ากันเอง เขาเห็นคุณ ลูกและครอบครัวไม่เดือดร้อนน่ะเลยไม่ได้ห่วงมาก แต่เขาก็รักลูกแหละ ตอนนี้พวกคุณอยู่ในช่วงสร้างตัวอยู่น่ะ ผู้หญิงจะคิดถึงอนาคตมากหน่อย