ทำไงให้คนกรุงเทพ 1 ล้านคนตั้งใจรักษาศีล5ตลอดชีวิต

*** เตือนตนเอง ****

สังคมของผู้มี "สัจจะ"
จะเป็นสังคม ที่ทุกคนจะพยายามเตือนตนเอง ในการทำสิ่งที่ถูก สิ่งที่ดี
ไม่ต้องให้ใครมาบังคับ ให้ทำความดี

ไม่มีใครสอนเรา ได้เท่ากับตัวของเราสอนตนเอง
เตือนตนเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ลองค้นหา ****

เราลองมองรอบๆ ตัวเรา
ลองมองหา...คนที่มี "สัจจะ" คนที่ไม่เคยผิดคำพูด ผิดสัญญา
ว่ามีอยู่กี่คน !!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เด็กอนุบาลขอกราบโมทนาในจิตที่เป็นกุศลของทุกท่านที่ช่วยกันคิดช่วย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทางอ้อม ผ่านไอเดียความพยายามช่วยกันคิดว่าจะให้คนกลุ่มนึงในสังคม หันมารักษาศีล5 กันอย่างจริงจัง ได้อย่างไร

ทุกความเห็นที่ให้มา เป็นเหมือนจิ๊กซอร์แห่งความสำเร็จของความคิดที่ดีที่สุด ที่เด็กอนุบาลเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ จากการร่วมใจคิดของทุกคนเร็วๆนี้

หลักการตลาดที่บางท่านเสนอมาในลักษณะ MLM นั้น ให้ผลสำเร็จในเรื่องทางโลกเป็นอย่างดี สร้าง network ผู้ใช้สินค้าได้อย่างท่วมท้น แต่การนำมาใช้กับโจทย์ข้อนี้อาจต้องคิดเรื่องแรงจูงใจ incentive model ให้รอบคอบ ซึ่งก็ ควรค่าที่จะคิดต่อไป

การเจาะไปที่เด็กประถมนั้นเป็น เป้าหมายที่ดีมาก เพราะ "ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่ผิดไปจากคำโบราณนี้หรอก จะดีมั๊ย ถ้าเราจะรณรงค์ให้ทุกโรงเรียน ทำสมุดพก "จริยธรรม" ประเมิน เก็บสะสมความดีเด็ก กระตุ้นเด็กให้แข่งกันทำความดี มีทุนการศึกษาให้เด็กที่มีคะแนนในสุดพกจริยธรรมดี ให้เขามีที่ไปได้ ให้เขาได้รับการยกย่องจากสังคมมากๆ การยกย่อง ชมเชยจากสังคม จะเป็นเหมือน "ปุ๋ย" ให้เด็กประถมเหล่านั้น อยากทำดีขึ้นไปอีก โดยคะแนนในสมุดพกจริยธรรมนั้น ประเมินจากการตั้งใจทำความดี รักษาศีล มีเมตตากรุณา ต่อผู้อื่น แล้วมาเล่าให้เพื่อนร่วมห้อง "ปรบมือ" ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ให้เด็กช่วยกัน vote เป็นคะแนนส่วนนึง คุณครูประเมินให้คะแนนอีกส่วนนึง ในงานประชุมผู้ปกครอง ก็เชิญให้เด็กที่ได้รางวัลมาเล่าความดีที่ทำไปให้ผู้ปกครองทั้งหลายฟัง เพื่อให้พ่อแม่ทั้งหลาย ได้ช่วยกลับไปส่งเสริมลูกตัวเองให้ดียิ่งๆขึ้นไป

ที่ท่านนึงเสนอให้พาไปดูงานแต่ละที่นั้น เห็นด้วยอย่างมาก เช่นพาไปดูความทุกข์ของสัตว์ที่โรงฆ่าสัตว์ ไปดูคนที่ติดเอดส์ ไปดูคนที่พิการจากการเมาแล้วขับ เพราะภาพเหล่านี้จะไปประทับใจ ทำให้ไม่อยากทำผิดศีลได้ง่าย ถ้าพาเด็กๆไปทัศนศึกษา ก็จะดีมาก

จริงๆแล้ว เด็กอนุบาลแค่อยากช่วยรณรงค์ให้คนไทยหันมาทำทาน รักษาศีล และภาวนาจิต ได้อย่างเป็นรูปธรรม เชื่ออยู่อย่างว่าถ้าทำจริง ต้องสำเร็จ เพราะหลักคิดไม่ต่างจากการที่ทุกองค์กร มีเป้าหมายเติบโตทางกำไร ก็เห็นพยายามกันได้ คิดสารพัดกลยุทธ์ สารพัดแผน ผู้บรืหาร พนักงาน ประชุมกันหน้าดำหน้าแดง ที่สุดก็มีแผนการตลาดมากมาย ผลักดันกันออกมาจนยอดขายโตได้

ก็ถ้าเรื่องการรณรงค์ด้านทาน ศีล ภาวนา ให้เป็นวาระแห่งชาติ ให้เอาผู้ใหญ่เอามาประชุมworkshop มาวางแผนการตลาด มากำหนดงบประมาณ มาทำตามแผน มาปรับแผน ทำกันแบบมืออาชีพแบบนี้บ้าง ก็คงได้ผลไม่มากก็น้อยมิใช่หรือ ที่ผ่านมารู้สึกจังเลยว่า ไม่ได้ทำกันจริงจัง ไม่เห็นเหมือนเรื่องการเมือง เรื่องปากท้อง เรื่องธุรกิจ

 

ขอโมทนาบุญกับคุณเด็กอนุบาลด้วยครับ

การรักษาศีลห้านั้น มีเหตุสองประการ
1.คือความกลัวนรก กลัวผลของกรรม นั่นคือหิริโอตะปะ ความกลัวเกรงและละอายต่อบาป จึงได้รักษาศีล ข้อนี้ ต้องสร้างสัมมาทิษฐิ

2.จิตอันเมตตาทรงพรหมวิหารสี่ จึงไม่เบียดเบียนผู้อื่น เป็นเหตุให้เกิดศีล

ธรรมแท้เกิดขึ้นผลิบานจากภายในจิตใจ ไม่ใช่จากการใช้วัตถุเครื่องล่อหรือการบังคับบีบคั้นใดๆ ธรรมที่ผุดจากภายในจิตใจอันบริสุทธิ์ของตนเองย่อมจีรังยั่งยืนกว่า

ทั้งสองข้ออารมณ์ใจแตกต่างกันออกไปบอกเพียงเท่านี้ ก็น่าจะพอเข้าใจกัน

ส่วนวิธีการในการจัดโครงการให้ได้ผลสูงสุดนั้น เราจงใช้วิธีการเดียวกันกับพระพุทธเจ้าในการเริ่มเผยแผ่พระพุทธศาสนา คือต้องจุดประกายให้กับบัวเหล่าแรกที่พร้อมบานรับธรรมมะก่อน ขั้นตอนมีดังนี้

-รวบรวมบุคลากรที่มีความตระหนักในความสำคัญของโครงการนี้

-ฝึกสอนสมาธิเมตตาอัปปันนาณฌานให้กับทุกคน

-อบรมให้ความรู้ความเข้าใจในสัมมาทิษฐิ กรรม กฏของกรรม

-สร้างจิตวิญญานแห่งความเสีนสละและความเป็นครู ให้คนในชุดแรก(ซึ่งหากเป็นพุทธภูมิก็จะง่าย)

-รวบรวมบุคคลากรชุดนี้ ให้ได้แบบเข้มข้น สิบท่านออกไปสอนคน สอนเด็กนักเรียน ให้ได้ท่านละ100 คน และในร้อยคนนี้สร้างครูผู้ตระหนักถึงความสำคัญรวมทั้งมีจิตสำนึกให้ได้ อีก 10ท่าน

เมื่อเป็นเช่นนี้ พอถึงรุ่นที่หก ก็จะมีความสำเร็จมากมายถึงตัดค่าผิดพลาดจากบางท่านที่ไม่อาจรักษาได้ตลอดไป ก็ยังบรรลุเกินเป้าหมายไปอีกไกล

อันที่จริงไหนๆขึ้นกระทู้แล้วก็ลุยกันไปเลยครับ ไม่ยากเกินกำลังและวิธีที่ผมบอกไม่ต้องใช้เงินครับใช้แต่วิสัยทัศน์(ที่ต้องการเห็นสังคมสงบสุขร่มเย็นเป็นสังคมแห่งสัมมาทิษฐิและความเมตตาอารีย์ต่อกัน) และศรัทธา(ในสิ่งที่เราทำอยู่ว่าเป็นความถูกต้องงดงาม)

วันอาทิตย์ที่ 21 นี้มีเรียนสมาธิที่สวนลุมครับผม ขอเชิญด้วยตอนเช้า 9.00 น.ครับ


การเริ่มต้นโครงการนี้ เริ่มต้นจากรวมใจคนที่เชื่อมั่นอย่างแรงกล้าที่จะทำโครงการนี้ครับ ตอนนี้ที่เห็นก็มี 3-4 ท่านแล้วครับ

 

พอเริ่มสตาร์ทอัพโครงการได้แล้ว ก้าวต่อไปก็เผยแพร่ให้องค์กรต่างๆเข้าร่วมกิจกรรมของโครงการนี้โดยมีวัตถุประสงค์
-ถวายโครงการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
-ลดการทุจริตในองค์กร
-เพื่มประสิทธิภาพในการให้บริการในองค์กร (จากเมตตา ทำให้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีขึ้น)

-และอื่นๆอีกมากมายครับ

 

เป้าหมายคือให้คน กทม รักษา ศึล 5 จำนวน 1 ล้านคน ภายใน3 เดือน มี งบประมาณ 1 ล้านบาท



เป็นผมคงเอาเงิน 1 ล้านไปพิมพ์เป็นหนังสือธรรมะที่เกี่ยวกับศีล 5 อาจจะเป็น
ผลของการละเมิดศีล ทำให้เกิดผลกรรมเช่นไร พวกนี้แหล่ะที่จะพิมพ์ ซึ่ง อาจ
จะเอา ธรรมะของหลวงพ่อ จรัญ มาพิมพ์ก็ได้ ธรรมะของหลวงพ่อจรัญที่เกี่ยว
กับ กฏแห่งกรรม พอพิมพ์เสร็จก็แจกตามห้างฯต่างๆ ทั่ว กทม. ซึ่ง เงิน 1 ล้าน
บาท พิมพ์ได้เท่าไหร่ ก็แจกเท่านั้น 3 เดือนไม่ต้องรอถึง พิมพ์เสร็จแจกเสร็จ
ผมถือว่าจบ ส่วนตัวผมคิดว่าทำได้เท่านี้ คือการเตือนสติทางปัญญาว่าผล
กรรม จากการละเมิดศีล 5 นั้น ร้ายแรงเช่นไร และผลดีจากการรักษาศีล 5 ดี
เช่นไร ส่วนที่เหลือคงเป็นตัวของคนๆนั้นเองที่จะรักษาหรือไม่ เหมือนกับ
การสอบ เราคงไปสอบแทนไม่ได้ คนๆนั้นต้องอ่านหนังสือและไปสอบเอง ก็
คือเราก็คงได้แค่รักษาศีล 5 ของเราเอง จะไปรักษาแทนคนอื่นไม่ได้ เราทำ
ได้เพียงแค่แนะนำสอนสั่งให้ความรู้ถึง ข้อดีของการรักษาศีล และผลร้ายแห่ง
การละเมิดศีล ที่เหลือก็อยู่ที่จิตใจ ปัญญาของผู้นั้นเอง ว่าจะรักษาหรือไม่
หัวข้อกระทู้ ผมว่ามีความคิดสร้างสรรค์ดี แต่ในทางปฏิบัติจริงอาจจะยากหน่อย
ในการจะให้คนรักษาศึล ผมว่าควรแนะนำข้อดี ข้อเสีย ดีสุด ให้ความรู้ทาง
ปัญญา เขา ส่วนตัวเขาจะปฏิบัติหรือไม่ก็อยู่ที่ตัวของคนๆนั้นเอง

 

ปัญหาคือคนเดี๋ยวนี้ชอบอะไรที่มันเห็นผลทันตาไม่ชอบรอนาน...วัยรุ่นเซ็ง...
ชอบอะไรที่เป็นรูปธรรมมากกว่านามธรรม 1ล้านคนก็อาจชอบไม่เหมือนกันทั้ง1ล้านคน แต่หากว่า1ใน65ล้านคนอาจเป็นเป้าหมายที่ทำได้แน่นอน

ทำให้1ใน65ล้านมีความเห็นชอบตรงกันจะต้องทำยังไง...

ประเทศไทยประชากรส่วนมากก็นับถือศาสนาพุทธอยู่แล้ว
มีหลายอาชีพรวมๆกัน
ต้องแยกๆๆออกมาว่าเพศ วัย อาชีพ ถิ่นที่อยู่อาศัย กลุ่มไหนเสี่ยงต่อการละเมิดศีล5บ้างจะได้แยกกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน เพราะทุกคนมีหน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆกันไป หากจะให้ลดละเลิกเลยคงจะลำบาก

ยกตัวอย่างเช่น ในกลุ่มใดมีที่ปัญหาในการดำเนินชีวิต (มีหลายรูปแบบ) อันนี้จะเป็นกลุ่มที่น่าจะทำได้ง่ายเพราะกลุ่มนี้ต้องการความช่วยเหลืออยู่แล้ว สามารถนำธรรมะไปใช้เพื่อแก้ไขปัญหาได้เลย

โดยการทำงานก็ให้บุคลากรของทางโครงการที่มีความสามารถต่างสาขาอาชีพจะคอยให้คำแนะนำคอยเป็นพี่เลี้ยงก็ว่าได้ จัดโครงการอบรมต่างๆ น่าจะทำให้คนกลุ่มนี้ได้รับโอกาสและเป็นผลสำเร็จมากกว่ากลุ่มคนที่ไม่เดือดร้อน...และคนส่วนมากๆของบ้านเราจะประสพปัญหากัน ก็แล้วแต่ใครจะหาทางออกถูกบ้างผิดบ้าง...

แต่คนที่ใช้ชีวิตในเมืองและคนที่ใช้ชีวิตในชนบทก็มีปัญหาต่างออกไปอีก คนกลุ่มใดน่าจะนำมาจุดประกายก่อนเพื่อเป็นแรงขับให้กับทางโครงการ
และทำให้คนไทยได้โดนใจมากกว่า แล้วจะหากลุ่มใดดีละ...

เสร็จแล้ว...555 ถ้าหากทุกๆคนในโครงการช่วยดูคนรอบข้างแล้วชวนๆๆ
อบรมตามหลักสูตรโครงการเมื่อสำเร็จแก้ปัญหาได้ให้เขาออกไปแล้วชวนกันมาอบรมต่อๆกันไปเป็นเครือข่าย... ชวนๆๆๆ

อีกอย่างทุน1 ล้านบาทคงเหลือเพราะเราต้องเที่ยววิ่งหาสปอนเซอร์ทั้งหลายมาเข้าร่วมโครงการจะได้มีทุนหมุนเวียนและได้ความน่าเชื่อถือ

ขอความร่วมมือกับวัดหน่วยงานราชการห้างร้านบริษัทและมูลนิธิต่างๆ
เพื่อขยายเครือข่ายและหาแหล่งเป้าหมาย

ทำสื่อออกมาหลายๆแบบเพื่อเผยแพร่ให้ได้รับทราบข้อมูลกันทั่ว

ประมาณนี้พอเป็นตัวอย่างครับ

แต่ผลสำเร็จของโครงการคือต้องการให้ทุกคนที่เข้ามาอบรมเห็นการเปลี่ยนแปลงของตนเองและสามารถแก้ปัญหาของตนเองได้สำเร็จก่อน
แล้วคนๆนั้นจะรู้ว่า ศีล5มีดีตรงไหน รักษาไว้เพื่ออะไร... ทำไมต้องรักษา...
เป็นประโยชน์อย่าไร...ใครทำได้บ้าง...ทำที่ไหน...อย่างไร...เวลาใดบ้าง...
ต้องให้รู้ให้เห็นกันแบบของจริง เห็นกับแบบรูปธรรมกันไปเลย ให้ไปนึกคิดเองถึงเวลาจริงขึ้นมาก็ยอมใจตัวเองกันซะงั้น

 

ศีลห้าหับสังคม
โดย หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

http://www.dhammathai.org/sounds/pla.../phuth/002.wma

 

ใช้ อิทธิวิธี ในทางที่ถูก
เพราะตอนนี้ วัตถุ เจริญ จนคนหันไปนับถือ วัตถุ กันหมด
ความรู้ด้านนามขาดไป
ศาสนาพุทธจะรุ่งเรืองได้อีกครั้ง คงต้องเพิ่ง
อริยสัจ 4

 

จาก ฆราวาส เพราะ สงฆ์ มีข้อจำกัดมากในศีล

 

ตั้งเงินรางวัลขึ้นมา 800,000 บาทมอบให้ผู้ที่สามารถรักษาศีล 5 ได้ครบภายในเวลา 2 เดือน
ส่วนเงินที่เหลืออีก 200,000 บาทให้นำมาใช้ในการประชาสัมพันธ์ให้คนรับทราบให้มากที่สุด
กติกาคือ ต้องเขียนบันทึกประจำวันว่าภายในระยะเวลา 2 เดือนดังกล่าวทำอะไรบ้างในแต่ละวัน
ส่งมาให้กรรมการตัดสิน หากบันทึกของใครเขียนตามความจริง ไม่ละเว้นแม้กระทั่งความชั่วของตน
เจ้าของบันทึกนั้นจะถูกเลือกให้เป็นผู้ได้รับรางวัล 800,000 บาทนี้ ส่วนเงินที่เหลือจากการประชาสัมพันธ์
จะนำมาแจกจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับการประเมินอันดับรองลงมาจากผู้ชนะโดยแบ่งลดลั่นกันไปตามลำดับ
ไม่จำกัดอายุ ไม่จำกัดฐานะอาชีพ แต่จำกัดว่าผู้เป็นเจ้าของบันทึกต้องลงมือเขียนด้วยตนเองเท่านั้น

 

ในความคิดเห็น

การที่จะให้คน 1 ล้านคนมารักษาศีล 5 นั้น เราไม่จำเป็นที่จะต้องระบุจำนวน
ในความเป็นจริงแล้ว อาจจะมากกว่านั้น หรือ น้อยกว่า ก็ได้ ที่สำคัญที่สุด ต้องเริ่มตัวเราก่อน ตัวเราต้องเป็นที่ตั้ง อย่าเอาคนอื่นเป็นที่ตั้ง เหมือนหลวงพ่อเคยพูดว่า "เมื่อเราดีเสียแล้ว โลกนี้ก็ไม่มีใครเลว" ฉะนั้นเราต้องปฏิบัติตัวของเราให้ดีเสียก่อน เมื่อเราดีแล้วจึงจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนอื่นปฏิบัติตาม จึงจะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง.....

 

(b-love2u) เราไม่สามารถบังคับจิตใจคนให้มารักษาศีล5ได้ แต่เราสามารถโน้มน้าวจิตใจคนให้หันมารักษาศีล5ได้ โดย

(kiss) 1. ประชาสัมพันธ์(ทางทีวี,วิทยุ,หนังสือต่างๆ)โทษของศีลแต่ละข้อว่าไม่ดีอย่างไร เราปลูกฝังตั้งแต่เด็กๆวัยเรียน ในโรงเรียน มีวิชาธรรมะของพุทธศาสนา ในทุกระดับชั้นจนถึงปริญญาเอกเลย (เพราะบางคนจบป.โท-เอก แต่เอาตัวไม่รอด ฆ่าหั่นศพก็มีข่าวกันมาแล้ว) เพราะไม่มีจริยธรรม ไม่มีคุณธรรมกัน แข่งกันเรียนในโลกมนุษย์ แต่ไม่ได้สอนในโลกธรรม คนจึงไม่มีที่พึ่งเวลาทุกข์ขึ้นมา
(kiss) 2. สถานีโทรทัศน์เป็นสื่อที่ดีที่สุด เห็นภาพ เสียง ได้ชัด เพราะฉะนั้น ควรจะมีเวลาให้พระมาเทศน์ เช่นวันพระ ควรจะมีพระมาเทศน์สอนธรรมะ(ถ้าเป็นพระสงฆ์ที่ประชาชนเคารพรู้จักมากจะดีมากๆ) ปลูกฝังให้คนได้ระลึกถึงการทำความดีบ่อยๆ ให้ซึมซับเพราะคนเราแป๊ปเดียวก็ลืมกันแล้ว ถ้าเป็นทุกวันจะดีมาก เพราะขณะนี้รายการทีวีต่างๆบ้านเรามีแต่กิเลสตัณหาเยอะเหลือเกิน ไม่มีสอนธรรมะกันเลย
(kiss) 3. นายกฯฝ่ายรัฐบาลหรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่ประชาชนนับถือเคารพมากที่สุดมาร่วมรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้รักษาศีล5(ท่านคนนั้นต้องปฏิบัติให้เป็นตัวอย่างด้วย)เพื่อประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเรา จะได้เจริญรุ่งเรือง ปลูกจิตสำนึกของคนไทย อย่าลุ่มหลงมัวเมากับอบายภูมิทั้งหลาย
(kiss) 4. ให้รายการทีวี(ของรัฐบาลหรือของเอกชน) พาคนที่เชื่อบาปบุญคุณโทษ ผู้ที่เคยมีประสบการณ์เคยตายมาแล้ว ให้มาเล่าเรื่องราวว่า บาป บุญ นรก สวรรค์ มีจริงๆ ให้ผู้คนเกรงกลัวต่อบาป ให้รักษาศีล5ให้บริสุทธิ์ จะได้ไม่ต้องตกนรก ให้รู้ว่าคนเราต้องเกิดตาย ไม่รู้กี่ล้านล้านชาติแล้วเพื่อมาชดใช้กรรมแต่ละชาติที่เคยทำไว้
(kiss) 5. ให้นายกรัฐฯหรือรัฐบาลรณรงค์จริงจัง ให้ประชาชนไปบวชหรือบวชชีพราหมณ์ในวันหยุดยาวหรือเพิ่มวันหยุดให้สำหรับผู้ที่ต้องการบวชหรือบวชชีพราหมณ์โดยไม่โดนบริษัทฯที่ทำงานไม่หักเงินเดือน หรือ รณรงค์จริงจังให้ประชาชน ทุกๆครอบครัวหมั่นสวดมนต์ ไหว้พระ เจริญสมาธิที่บ้านก็ได้(ถ้าจะให้ดีต้องเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นที่เคารพนับถือมากมาช่วยรณรงค์กระตุ้นให้อย่างจริงจังทุกๆสัปดาห์ในทีวีหรือวิทยุ) แต่รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินงานทั้งหมด(เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชน)ทั้ง ในเรื่องประชาสัมพันธ์,จัดหาพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ประชาชนเคารพนับถือมากแต่ละองค์เพื่อ วนเวียนมาเทศน์ในแต่ละสัปดาห์(f) เพื่อปลูกจิตสำนึกและกระตุ้นให้ประชาชนคนไทยได้ร่วมสร้างความดีรักษาศีลห้าให้ครบ เพื่อตัวเองและประเทศชาติจะได้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป สาธุ

 

ผู้ที่อ่านข้อความนี้ท่านใดมีจิตกุศลเพื่อ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ วัย ของเธอแค่ 17 ปี กำลังเผชิญกับโรค ร้าย Leukemiaมะเร็งในเม็ดเลือด ขาวคือน.ส.เกศรินทร์สุวรรณโนต้องขาดเรียนเป็นเวลานานเพราะต้องรักษาตัว อยู่ขณะนี้ที่ร.พจุฬาโดยฉีดเคมีบำบัดหรืออาจตลอด ชีวิตและเธอกำลัง รอรับการบริจาคโลหิตเพื่อปลูกถ่ายไขกระดูก ตัวเธอเลือด กรุ๊ป B ซึ่งผู้ที่สามารถบริจาคเลือดได้ต้องผ่านการ บริจาคเลือดแล้วถึง2 ครั้งที่สภากาชาดไทย
ผู้บริจาคต้องมีร่างกายสม บูรณแข็งแรงไม่มีโรคติดเชื้อร้ายแรงลักษณะเนื้อเยื่อHLA ตรงกับผู้ป่วยถึงจะรับการ บริจาคได้ซึ่งยากมากที่จะหาผู้บริจาคที่มี เนื้อเยื่อตรงกันจึงต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากผู้มีน้ำใจละจิตเมตตา จะ
บอกกล่าวต่อๆกันก็ได้ นะ คะผู้ป่วยรายนี้กำลังรอชีวิตใหม่จากพวกคุณอยู่สามารถ บริจาคโลหิตได้ ที่สภากาชาดไทย
TEL 02-7149124 กด1 ( ด.ต.สมพรสุวรรณ โน : บิดา)
กำลังศึกษาอยู่ที่ โรงเรียนสายน้ำ ผึ้ง ชั้นม.4 ได้ รับแล้วส่งต่อกับไปเยอะๆนะ ครับช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ครับ
<!-- / message --><!-- edit note -->

 

*** ดารา นักร้อง นักแสดง นักข่าว นักจัดรายการ ****

ท่าน คือ ผู้นำกระแสสังคม
ท่าน สามารถเข้าถึงประชาชน
ท่าน สามารถช่วยเผยแพร่ธรรม
ท่าน สามารถช่วยยกสังคมให้สูงขึ้น
ท่าน สามารถช่วยโน้มน้าวให้คนอยากทำความดี
ท่าน สามารถบอกให้ชาวไทยทำความดีอย่างจริงจังได้มาก
ท่าน ทำได้เพียงแค่...รณรงค์พูดถึง "ความดี" กับ "สัจจะ"

"การทำความดีทุกวันด้วยสัจจะ"

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เห็นชอบกับข้อความนี้

เพราะนี่จะเป็นสิ่งเดียวกันกับที่ชาวต่างชาติกลับหันมานับถือพุทธศาสนา
คราภัยพิบัติมาถึงตัว เพราะเขาจะเชื่อเองว่านี่เป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยเขาจากความพินาศในขณะนั้น

"ไม่เป็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม"

 

*** สัจจะข้อเดียว ศาสนารุ่งเรือง ****

หาก...ชาวพุทธ ถวายสัจจะต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ว่า... " ไม่ซื้อ ไม่ขายพระ ตลอดชีวิต "....

การกระทำที่เกิดขึ้น... คือ ไม่ทำลายศาสนา
เพราะ พระพุทธเจ้าเคยห้ามไม่ให้ค้าขายพระ จะเป็นการทำลายศาสนา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ข้อจำกัดแห่งกรรม

ขออนุโมทนาบุญกับ คุณอนุบาล ผู้ตั้งกระทู้ คุณหนุมาน ผู้ตอบกระทู้และทุกท่าน

มนุษย์ส่วนใหญ่มีสติที่จำกัด เมื่อ จิตไต้สำนึก(กรรมเก่า)ส่งเสริมให้คิดกระทำตามสัญชาติญาณเฉพาะตน เมื่อตาเห็นรูป ลิ้นได้รส ผิวได้สำผัส หูได้ยิน ล้วนเกิด พอใจ (เกิดกามราคะ)ไม่พอใจ (โทสะ)เฉยๆกับกุศลบ้างก็มี (โมหะ)จิตจะเกิดความอยาก จนไม่สามารถยับยั้งได้ เป็นเหตุให้เกิดการละเมิดศีล 5 ทางกายและวาจา ออกมา ทั้งที่รู้ว่าไม่ดีแต่ก็ยังทำ ๆ อย่างไรมนุษย์จึงจะดีได้แม้กระทั้งความคิดให้เกิด ศีลานุสติ จาคานุสติ ฯลฯ ให้มีสติเป็นที่ตั้งจนกรรมไม่สามารถแทรกแซงให้ผลได้

เจริญพร
พระ12