คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 สิงหาคม 2010.

  1. แปดเหลี่ยม

    แปดเหลี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    831
    ค่าพลัง:
    +559
    จองเหรียญหลวงพ่อสด วัดหางน้ำสาครครับ
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    สุดยอดพระเครื่องแห่งกรุงรัตนโกสินทร์สร้างอย่างมากปีละครั้ง จากชนวนมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์และหาได้ยากยิ่งจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย นำมาบดสร้างเป็นองค์พระจนได้คำขวัญที่ว่า รูปแบบสวย มวลสารดี พิธีการเยี่ยม ประสบการณ์ยอด พระพุทธคุณสูงและได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษกจากพระคณาจารย์ชื่อดังมาแล้วหลาย ครั้งหลายหนจนเกิดอภินิหารย์ และมีประสบการณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาแล้วอย่างมากมายทั้งในเมืองไทย และต่างประเทศซึ่งเป็นพระเครื่องที่มีกรรมวิธีการสร้างอย่างวิจิตรพิสดาร ยิ่งนัก ยากที่จะมีใครมาปลอมแปลงให้เหมือนได้>>
    พระอาจารย์สมชาย สัญญจิตโต ผู้สร้างพระคู่ชีวิตให้เป็นเพชรน้ำเอก ของ จว.เพชรบูรณ์ เมื่อสมัยตอนเป็นเด็กท่านเป็นผู้ที่มีจิตใจฝักใฝ่ในธรรมมาโดยตลอด ได้ปฏิบัติสมาธิจิต และวิชาคาถาอาคมมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เมื่อตอนบวชท่านได้ฉายาว่า “ หมอดูเทวดา ” เพราะเมื่อมีญาติโยมที่ตกทุกข์ได้ยากมาขอความช่วยเหลือและขอความอนุเคราะห์ พร้อมทั้งขอคำปรึกษาเรื่องต่าง ๆ จากท่าน ท่านก็จะแนะนำเขาไปตามดวงชะตา พร้อมทั้งแก้ไขให้จนทุก ๆ คน พ้นทุกข์ และมีแต่ความสุขความเจริญขึ้นตามลำดับ>>
    แต่ท่านเป็นพระที่ชอบสันโดษ ท่านจึงตัดสินใจออดธุดงค์เดี่ยวไปตามป่าเขาและถ้ำต่าง ๆ ได้พบกับเรื่องราวอันมหัศจรรย์และเร้นลับต่างๆ มาอย่างมากมายแต่ท่านก็ไม่ยึดติดอยู่กับเรื่องราวเหล่านี้ จนวันหนึ่งขณะที่ท่านกำลังปฏิบัติธรรมอยู่นั้น ท่านได้นิมิตว่า มีเทวดาองค์หนึ่งแต่งชุดสีเขียวมีรัศมีสีทองแพรวพราว ได้เข้ามานั่งสนธนาธรรมกับท่านเป็นเวลานาน และได้บอกกับท่านว่า ไม่มีใครที่จะสามารถตัดกรรม หรือหลีกเลี่ยงจากผลกรรมต่าง ๆ ได้ ไม่มีใครที่จะล้างกรรมหรือทำลายอาถรรพณ์ต่าง ๆ ที่ติดตัวมาได้ พิธีกรรมต่าง ๆ ที่มนุษย์ทำกันขึ้นมา เป็นเพียงพิธีทางการของความเชื่อเท่านั้น แต่กรรมที่ไม่ดี และอาถรรพณ์ต่าง ๆ จะคลายลงไปบ้าง ถ้าหมั่นปฏิบัติธรรมและสร้างสมแต่คุณงามความดีอยู่ตลอดเวลา หรือให้พระอริยสงฆ์เจ้าผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ แผ่เมตตา>>
    อฐิษฐานจิตให้ แต่มีสิ่งของบางอย่างที่พระอรหันต์สาวกเจ้า ผู้ประเสริฐได้สร้างขึ้นแล้วอฐิษฐานจิตไว้ เพื่อให้ดำรงค์คงอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาตลอดไป และให้รอดพ้นจากอาถรรพณ์ของหมู่มารทั้งปวง แม้แต่ พรหม เทพ และเทวดา ทุกชั้นฟ้าชั้นดิน ก็ยังต้องลงมาเฝ้าปกปักรักษากราบไหว้ บูชาสักการะอยู่เป็นประจำ ของพวกนี้เป็นของแก้อาถรรพณ์ต่าง ๆ ได้ มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเอง มีพลังคุ้มครองสูง และไม่มีวันเสื่อมสลายลงไปได้ เพราะพระอรหันต์เป็นผู้อฐิษฐานจิตเอาไว้ สิ่งของต่าง ๆ เหล่านี้จะมีอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ กัน จะมีเทวดาคอยปกปักรักษาอยู่ ผู้มีบุญวาสนาเท่านั้นถึงจะไปขอเอามาได้ และถ้านำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ นั้น มาสร้างเป็นรูปขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าในรูปแบบของ “ นวโลกุตระธรรม ” แล้วหมั่นกราบไหว้บูชา หมั่นทำบุญสร้างกุศลและทำแต่คุณงามความดีตลอดไปบุคคลผู้นั้นจะพ้นจากกอง ทุกข์และภัยพิบัติทั้งปวง จะมีแต่ความสุขความเจริญก้าวหน้า >>
    ศาสตราวุธทุกชนิด ไม่อาจจะเข้ามากล้ำกรายได้ สัตว์ร้ายทุกชนิดจะถอยไกลไม่กล้าเข้าใกล้ ศัตรูทั้งหลายจะแพ้ภัยไปเอง อีกทั้งยังเป็นที่รักของหมู่เทพเทวดาและสัตว์โลกทั้งปวงอีกด้วย ทั้งยังสะกดความอัปมงคลของ ใฝ ปาน >>


    ขี้แมลงวัน ในที่ลับที่แจ้งที่ไม่ดีได้ อำนาจแห่งคุณไสยศาสตร์ฝ่ายต่ำและวิญญาณอันชั่วร้ายทั้งปวงจะไม่กล้าเข้ามา ใกล้ ศัตรูจะกลับใจมาเป็นมิตรด้วย>>
    คำว่า “ นวโลกุตระธรรม ” หมายถึง ธรรมชั้นสูงของผู้ที่ปฏิบัติธรรมเริ่มต้นจากพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ แบ่งออกเป็น 2 อย่างคือ 1. มรรค คือการปฏิบัติธรรม 2. ผล คือการปฏิบัติธรรมที่ทำได้แล้วจริง นิพพานหมายถึงดินแดนที่ห่างไกลจากกิเลศทั้งปวงพระอรหันต์เจ้าผู้ละสังขารจาก โลกมนุษย์ไปแล้ว จะมาปฏิบัติธรรมชุมนุมกันอยู่ ณ ดินแดนแห่งนี้ รวมเรียกว่า มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 และยังหมายถึงดวงดาวทั้ง 9 ได้อีกด้วย คือ ดาวอาทิตย์, ดาวจันทร์, ดาวอังคาร, ดาวพุธ, ดาวพฤหัส, ดาวศุกร์, ดาวเสาร์, ดาวเกตุ, ดาวราหู ความหมายนี้คือปุ่มทั้ง 9 ซึ่งมีอยู่ข้างองค์พระคือข้างซ้าย 4 ปุ่ม ข้างขวา 4 ปุ่ม และอีก 1 ปุ่ม อยู่เหนือเกศาขององค์พระขึ้นไป ตัวอุณาโลมทั้ง 2 ข้าง ที่อยู่เหนือปุ่มข้างซ้ายและปุ่มข้างขวา หมายถึงผู้ซึ่งกำลังปฏิบัติธรรมอยู่ในชั้นไหน ๆ ก็ตามถ้าท่านมีความเพียรและตั้งใจจริงโดยไม่ย่อท้อต่อความทุกข์ยากลำบากทั้ง ปวง โดยใช้ปัญญาในการพิจารณาไตร่ตรองในบทธรรมต่าง ๆ ที่ท่านได้ศึกษามา สักวันหนึ่งท่านจะประสบกับความสำเร็จในธรรมต่าง ๆ นั้น ตามภูมิธรรม ภูมิปัญญาของท่าน สักวันหนึ่งสิ่งที่ท่านมุ่งหวัง และตั้งใจจริงในบทธรรมนั้น ๆ ท่านจะบรรลุผลตามที่ท่านได้ตั้งใจเอาไว้แล้ว>>
    “ รูปพระพุทธเจ้าเป็นปางตรัสรู้ ” หมายถึงพรพุทธเจ้าเป็นผู้มีปัญญารอบรู้ในกฎแห่งธรรมชาติ ทรงตรัสรู้เองโดยชอบ ทรงเป็นผู้พ้นจากกองทุกข์และกิเลศทั้งปวง อีกทั้งยังทรงเป็นบรมครูผู้นำธรรมมะมาสอนให้แก่มนุษย์ พรหม เทพ เทวดา และเหล่าสรรพสัตว์โลกทั้งหลายทั้งปวงด้วย เพื่อที่จะดึงให้พวกเขาทั้งหลายได้พ้นจากทุกข์ทั้งปวงเหล่านั้นด้วย และยังรู้ซึ้งถึงสัจธรรมที่แท้จริงว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นสิ่งที่ไม่ แน่นอนไม่มีจีรังยั่งยืน สังขารทั้งหลายทั้งปวงย่อมมีการเปลี่ยนแปลงและแตกสลายไปตามกาลเวลา แม้แต่ชีวิตของมนุษย์ พรหม เทพ เทวดา และเหล่าสรรพสัตว์โลกทั้งหลายก็เช่นกัน สังขารย่อมมีการแตกสลายไปเมื่อถึงเวลา >>
    “ ส่วนยอดเกตุที่อยู่สูงขึ้นมาคือ ฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้า ” หมายถึงรัสมีของพระพุทธองค์ซึ่งทรงแผ่ความเมตตาและพลังคุ้มครองให้กับผู้ที่ ระลึกนึกถึงคำสั่งสอนของพระพุทธองค์และปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเจริญรอยตามพระ พุทธองค์ต่อไป รูปบัวคว่ำ – บัวหงาย ใต้ฐานพระแทนอาสนะนี้ นี้เป็นรูปบัวบานมี 3 กลีบ และ 5 กลีบ บัวคว่ำ 3 กลีบ หมายถึง พระไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา บัวหงาย 3 กลีบ หมายถึง คุณffice:smarttags" />พระศรีรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บัวคว่ำ 5 กลีบ หมายถึง รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ บัวหงาย 5 กลีบ หมายถึง พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ คือ พระกฤสันโธพุทธเจ้า, พระโกนาคมนพระพุทธเจ้า, พระกัสสปะพระพุทธเจ้า, พระโคดมพระพุทธเจ้า และ พระศรีอาริยเมตไตย์พระพุทธเจ้า>>
    ส่วนดอกบัวที่อยู่ใต้ปุ่มข้างล่างทั้ง 4 ทัง 2 ข้าง นั้น เปรียบได้กับบัว 4 เหล่า คือ 1. บัวที่อยู่ใต้โคนตม 2. บัวที่เริ่มจะโผล่พ้นโคลนตมขึ้นมานิดหน่อย 3. บัวที่โผล่พ้นจากโคนตมแล้วแต่ยังอยู่ใต้น้ำอยู่ 4. บัวที่โผล่พ้นผิวน้ำแล้วและรอวันที่จะเบ่งบานต่อไป ในที่นี้หมายถึงดอกบัวดอกที่ 4 นั่นเอง ส่วนรูปสี่เหลี่ยมของพิมพ์พระหมายถึงธาตุทั้ง 4 คือ ดิน,น้ำ, ลม, ไฟ ส่วนรูปกลมของพิมพ์พระ หมายถึงโลกธาตุ คือการรวมเอาทุกสรรพสิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้มารวมกันไว้ในโลกนั่นเอง>>
    ตัวยันต์นะครูด้านหลังองค์พระนั้นเรียกว่า ยันต์พระศาสดา ปุ่มตรงกลางหมายถึงหัวใจ เส้นที่ลากโค้งและหักมุมด้านล่างหมายถึง ตับไตใส้พุงและอวัยวะภายใน ปุ่มข้างล่างหมายถึงจุดกำเนิดซึ่งอยู่กลางลำตัวคือ อยู่เหนือสะดือขึ้นไป เส้นที่หยักด้านข้างทั้งซ้ายและขวาเปรียบเสมือนกับองค์พระศาสดา เส้นที่ลากโค้งลงมาด้านล่างใต้องค์พระคือบัลลังก์หรืออาสนะที่รองประทับของ องค์พระศาสดา เส้นที่ลากไปด้านข้างองค์พระแล้วขมวดวนหยักเป็นตัวอุณาโลมขึ้นไปหมายถึง ฉัพพรรณรังสี ขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เปล่งประกายรัศมีออกมา เพื่อคุ้มครองโลกและเหล่าสรรพสัตว์โลกทั้งปวงที่กำลังปฏิบัติธรรมอยู่ และระลึกนึกถึงคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ให้รอดพ้นจากอันตรายและภัยภิบัติทั้ง ปวง>>
    เมื่อพระอาจารย์สมชาย ได้ทราบถึงคุณวิเศษ และปริศนาธรรมอันลึกซึ้งขององค์พระแล้วท่านจึงได้ออกเดินทางไปตามสถานที่ ต่าง ๆ เพื่อเก็บรวบรวมเอามวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ มารวมเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งการไปหาสิ่งของต่าง ๆ นี้เป็นไปด้วยความยากลำบากจริง ๆ ของบางอย่างอยู่ในถ้ำลึก ของบางอย่างอยู่บนยอดเขาสูงชัน ท่านต้องไปพำนักอยู่ในสถานที่นั้น อยู่หลายวันแล้วอธิษฐานจิตขอเอาจึงได้มา (ซึ่งเคยมีผู้เอาของจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไปแล้ว แต่ก็ต้องนำกลับมาคืนกันหมดเพราะเจ้าของเขาคือวิญญาณที่เฝ้ารักษาอยู่ไปเข้า ฝัน บางทีก็ไปเข้าทรงบอกว่าให้เอาของมาคืนไม่อย่างนั้นจะมาเอาชีวิตของคนที่เอา ของไปแทน) บางครั้งท่านต้องนุ่งสบงเพียงตัวเดียวแล้วเดินลุยเข้าไปในดงต้นหนาม ยอมให้ต้นไม้ซึ่งมีหนามแหลมคมเกี่ยวเอาจนเป็นริ้วรอยเต็มไปหมด เพราะถ้าใส่อังสะหรือจีวรเข้าไปแล้วถูกหนามเกี่ยวจะขาดหมด ท่านจึงต้องนุ่งสบงแล้วโจงกระเบนเข้าไปแทน เมื่อผ่านดงหนามเข้าไปแล้วก็เป็นหลุมงู คือจะเป็นสถานที่งูมาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ เพื่อเฝ้ารักษาสิ่งของบางอย่างอยู่ แต่เมื่อพระอาจารย์สมชาย อธิษฐานจิตเพื่อขอสิ่งของสิ่งนี้แล้วท่านได้นั่งสมาธิแผ่เมตตาจิตออกไป สักครู่หนึ่งปรากฏว่างูเหล่านั้นเลื้อยหายไปตามรูและรอยหินหมด เมื่อได้สิ่งของมาแล้วท่านก็จะเอามารวมกันแล้วเริ่มออกไปหาสิ่งของต่าง ๆ มาอีก บางทีต้องลงไปในถ้ำซึ่งลึกมากในถ้ำมีลำธารน้ำไหลต้องลุยน้ำไปขึ้นอีกฝั่ง หนึ่งของถ้ำแล้วเดินขึ้นไปอีกไกลจนถึงสุดทางถ้ำมีหน้าผาสูงชัน ต้องปีนขึ้นลงเป็นชั้น ๆ ไป แต่ท่านก็ลงไปเอาสิ่งของในถ้ำ แต่ท่านก็ลงไปเอาสิ่งของในถ้ำนี้ขึ้นมาจนได้โดยใช้เชือกเส้นใหญ่ผูกติดตาม แง่งหินมือซ้ายจับเชือกเพื่อดึงตัวเองขึ้นมามือขวาจับถุงที่ใส่ถุงธาตุ กายสิทธิ์ต่างๆ แล้วแบกขึ้นบ่าเดินมาต้องลุยธารน้ำในถ้ำอีก ต้องล้มลุกคลุกคลานไปหลายครั้งหลายหนแต่ในที่สุดท่านก็ได้นำสิ่งของเหล่า นั้นออกมาจากถ้ำได้ มีบางครั้งท่านได้ไปเอาสิ่งของศักดิ์สิทธิ์มา โดยได้อธิษฐานจิตขอแล้วแต่พอตกตอนกลางคืน วิญญาณที่เฝ้าของอยู่ได้ตามมาหาท่านถึงที่ซึ่งท่านก็ทราบว่าวิญญาณดวงนี้หวง สิ่งของนี้มากจึงได้ตามมาแต่ไม่พูดอะไร ท่านจึงได้เข้าสมาธิและอธิบายให้ดวงวิญญาณที่เฝ้าของอยู่ดวงนี้ฟังว่า สิ่งของต่าง ๆ เหล่านี้ท่านจะนำมาเพื่อสร้างเป็นรูปขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองต่อไปและขอให้ดวงวิญญาณผู้เฝ้ารักษา สิ่งของอันศักดิ์สิทธินี้ จงรับรู้และมีส่วนร่วมในการสร้างบุญสร้างกุศลกับท่านในครั้งนี้ด้วย แล้วท่านก็นั่งแผ่เมตตาจิตให้กับ>>
    > >
    ดวงวิญญาณดวงนี้ด้วยสักพักหนึ่งท่านก็ได้ยินเสียงถอนหายใจ ท่านจึงได้ลืมตาขึ้นดูปรากฏว่ามีดวงไฟกลมโต สีเขียว ขนาดประมาณเท่ากับลูกปิงปอง ได้ลอยอยู่เหนือสิ่งของที่ท่านได้นำออกมาจากในถ้ำ แล้วค่อย ๆ ลอยต่ำลง>>
    าจนหายไป แล้วปรากฏลมแรงพัดมาเสียงดังอื้ออึงจนต้นไม้ใหญ่น้อยโอนไปเอนมาฟ้าร้องดัง ครืน ๆ จนเกิดฟ้าแลบขึ้นอีกหลายครั้ง สักพักทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบสงบลงเหมือนเดิม แสดงว่าวิญญาณที่เฝ้าสิ่งของอันศักดิ์สิทธิ์นี้และเทพยดา เจ้าป่าเจ้าเขาได้ลงมาร่วมอนุโมทนาสาธุการ ในการสร้างบุญสร้างกุศลในครั้งนี้เป็นอย่างดี >>
    เมื่อรวบรวมผงธาตุกายสิทธิ์ จากทั่วทุกสารทิศมาครบแล้ว ท่านก็ออกไปหามวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ มาเพิ่มเติมเข้าไปอีกมากมายด้วยการบดสิ่งของต่าง ๆ นั้นท่านใช้เพียงมีดฝานรากไม้ต่าง ๆ ตากแห้งแล้วจึงนำมาบดด้วยครกเพียงใบเดียวเท่านั้น บางครั้งในขณะที่ท่านใช้มีดหรือขวานสับต้นสมุนไพรอยู่ แล้วเกิดสับพลาดมาถูกมือของท่านเองอย่างแรง แต่คมมีดหรือขวานนั้นก็ไม่อาจทำให้เกิดบาดแผลขึ้นมาได้เลย ซึ่งสร้างความมหัศจรรย์ใจให้แก่ลูกศิษย์ของท่านที่ได้พบเห็นเป็นยิ่งนัก แม้แต่แร่ตระกูลเหล็กไหลซึ่งมีความแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษท่านก็ใช้เพียงครก ใบเดียวตำให้ละเอียดแล้วร่อนด้วยตะแกรง แล้วนำผงที่ได้ทั้งหมดนี้มาคลุกเคล้าให้เข้าด้วยกัน แล้วจึงหาฤกษ์ล้างอาถรรพณ์ในการกดพิมพ์พระ การบดผสมมวลสารและการกดพิมพ์พระขึ้นท่านก็ ต้องอฐิษฐานจิต และว่าคาถากำกับไปด้วยทุกครั้งทุกองค์ แล้วจึงนำมาจัดพิธีขึ้นอีกหลายครั้งหลายหนในฤกษ์ของการล้างอาถรรพณ์และหนุน ดวงชะตา โดยขออัญเชิญองค์บารมธรรมขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าบรรจุในองค์ พระคู่ชีวิตด้วย และขออัญเชิญอำนาจอำนาจของคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ทั่วทั้งสากลจักรวาลโลกนี้มาร่วมในพิธีนี้ด้วยทุกครั้ง แล้วจึงนำไปจัดพิธีมหาพุทธาพิเษกขึ้นอีกหลาย ๆ ครั้ง และมีคณาจารย์ชื่อดังแห่งยุคช่วยอฐิษฐานจิตเสกเดี่ยวให้อีกหลายองค์หลาย ครั้ง เหตุที่ท่านต้องทำเช่นนี้ เพราะท่านต้องการให้ผู้คนได้ของดี ๆ ไปใช้กันแล้วท่านก็จะนำกลับมาตั้งอฐิษฐานจิตต่ออีกทุกวัน แม้แต่พระรุ่นแรกที่ ท่านอฐิษฐานจิตเพียงองค์เดียวก็ล้วนมีประสบการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมาแล้วอย่างมากมาย จนมีผู้คนกล่าวขานถึงพระคู่ชีวิตกันอย่างไม่รู้จบสิ้น หนังสือพระเครื่องต่าง ๆ ก็เขียนถึงพระคู่ชีวิตกันอย่างมากมายแต่น้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้ครอบครอง เป็นเจ้าของพระคู่ชีวิตเพราะพระอาจารย์ได้ออกเดินธุดงค์อยู่ตลอดทุกปี >>
    คาถาบูชาบรรจุองค์พระ พระพุทธธังจุติ จุติด้วยพระพุทธธัง สะระณังคัจฉามิ พระธัมมังจุติ จุติด้วยพระธัมมัง สะระณังคัจฉามิ พระสังฆังจุติ ได้>>
    คาถาบูชาพระปิยะมหาราช ร.5 ตั้งนะโมก่อน 3 จบ พระสยามมินโธ วะโรอิติ พุทธะสังมอิติอรหัง สะหัตสะกายัง วะรัง พุทโธนะโมพุทธายะ>>
    การบูชาให้จุดธูป 5 หรือ 9 ดอก ควรบูชาทุก ๆ วันอังคาร สิ่งของที่ควรนำขึ้นหิ้งบูชาถวายคือ น้ำมะพร้าวอ่อน,กล้วยน้ำว้า, ทองหยิบ, ทองหยอด, ปรั่นดี (เหล้า) ,ซิการ์(บุหรี่, ข้าวคลุกกะปิ และดอกกุหลาบสีชมพู น้ำควรมี ใส่แก้วถวายอย่าให้ขาด >>
    > >การทำบุญสะเดาะห์เคราะห์ใหญ่ >>
    1.พระบูชาประจำวัน 1 องค์ ให้เขียนหรือสลักชื่อนามสกุล ลงบนฐานพระ ข้าพเจ้าขออุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวร เทพยดาทุกชั้นฟ้าดิน เหล่าสรรพสัตว์โลกทั้งหลายทั่วทั้งสากลโลกจักรวาลโลกนี้รวมถึงตัวข้าพเจ้า เองและครอบครัวด้วย>>
    2. บริจาคเงินซื้อโลงศพตามมูลนิธิต่าง ๆ 1 ชุด >>
    3. หนังสือสวดมนต์ 1 เล่ม + หนังสือธรรมะ 1 เล่ม ให้เขียนชื่อนามสกุลลงไปด้วย>>
    4.ถังสังฆทานที่มียารักษาโรคอย่างน้อย 1 ถัง >>
    5. อาหารคาวหวานพร้อมน้ำดื่ม>>
    6. ยารักษาโรคที่เราเป็นอยู่ นิมนต์พระ 5 องค์มารับทำเป็นสังฆทาน>>
    เนื้อผงมหาจักรพรรดิ – ล้างอาถรรพณ์>>

    มวลสารต่าง ๆ ที่ใช้สร้างพระผง และมวลสารอุดก้นพระกริ่ง – พระชัยวัฒน์มหาจักรพรรดิ เนื้อโสฬส – ธาตุเหล็กไหล พระธาตุ 500 อรหันต์ พระธาตุข้าว พระธาตุ 500 อรหันต์ พระธาตุข้าว หงอนพญานาค แก้วขนเหล็ก เพชรหน้าทั่ง ผงเหล็กไหลฤาษี ผงเหล็กไหลเงินยวง ผงเหล็กไหลตาแรด โคตรเหล็กไหลสีเงินยวง ขี้เหล็กไหล เหล็กย้อย เหล็กทรหด หยกพันปี แร่บางไผ่ ผงธนบัตรเก่า ผงตะไบเหล็กน้ำพี้ (ถลุงแล้ว) แร่เหล็กน้ำพี้ไหลเพชรดำ ขมิ้นหินหมื่นปี ข้าวตอกพระร่วง แก่นไม้สักหินอายุ 160 ล้านปี ลูกมณีโคตร คดกะลา กะลาตาเดียว กะลาไม่มีตา (กะลามหาอุด) มะพร้าวลูกกรอก กัลปังหาดิน ดินโป่ง ดินกลางใจเมือง และน้ำจากศาลหลักเมือง 76 จังหวัด ตะกรุดข้าวสารหิน คดหอย ทรายเสก ผงพระครูเทพโลกอุดร ผงหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ผงหลวงปู่แหวน ผงจิตรลดา ผงพระปิลันทน์ ผงพระตุ๊กตาวัดพลับ ผงหลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ ผงหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ แป้งเสกหลวงปู่อยู่วัดไทรโยง ผงว่านหลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา เศษพระหักหลวงพ่อมีวัดมารวิชัย เศษพระหักหลวงปู่คำพันธ์วัดธาตุมหาชัย และวัดต่าง ๆ อีกมากมาย เขากวางคุด น้ำมันมนต์หลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา ชานหมากเสกหลวงพ่อดำวัดท่าทอง ดินวิเศษสีเหลือง สมุนไพร 300 กว่าชนิด น้ำมนต์ 100 ตุ่ม หลวงปู่หงส์วัดเพชรบุรี ดินวิเศษสีเขียว แร่เงิน แร่ทอง แร่นาค ผงธูปสมเด็จโตวัดระฆัง ผงธูปวัดเกศไชโย ผงธูปหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ ผงธูปหลวงพ่อแช่มวัดท่าฉลอม ผงธูปหลวงพ่อจรัญวัดอัมพวัน แม่ลิ้มกอเนี่ย ผงธูปศาลเจ้าพ่อเสือ ผงธูปวัดเล่งเน่ยยี่ ผงธูปวัดไต๋ฮงกง พระบรมสารีริกธาตุ หินพระธาตุเขา 300 ยอด พระธาตุสิวลีสีขาว พระธาตุสิวลีสีทอง พระธาตุแก้วขวานฟ้าผ่าเนื้อหิน 16 อัน ข้าวสารหินหมื่นปี ข้าวสารดำพันปี ผงมณีรัตนะ โคตรเหล็กไหล (สีดำเงา) แร่เกาะล้าน เหล็กย้อย ลูกมณีโคตร อุกามณี (สะเก็ดดาว) ไม้กลายเป็นหิน ดอกไม้หิน เพชรน้ำค้าง หินเขี้ยวหนุมาน ขมิ้นขาวเปลือกหอย 75 ล้านปี ไม้งิ้วดำ คดปลวก ลูกธนูคนธรรพ์ แร่ทรายเงิน แร่ทรายทอง ผงงาช้าง งาช้างตายพราย งาช้างกระเด็น งาช้างกระดอน ผงเพชรแท้ เศษพลอยเมืองจันทร์ ผงเก่า วัดระฆัง ผงสร้างพระหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่ ผงสร้างพระหลวงพ่อแพวัดพิกุลทอง ผงสร้างพระหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ผงสร้างพระหลวงพ่อคงวัดบางกระพ้อม ผงสร้างพระหลวงปู่นิลวัดครบุรี ผงสร้างพระหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ผงสร้างพระหลวงพ่อเชิญวัดโคกทอง ผงสร้างพระหลวงปู่คำพันธ์วัดธาตุมหาชัย ผงสร้างพระ หลวงพ่อเกษมเขมโกสุสานไตรลักษณ์ ผงสร้างพระอาจารย์ต่าง ๆ อีก 300 กว่ารูป (ซึ่งไม่สามารถลงหมดได้) เศษพระหักของวัดระฆัง เศษพระหักวัดปากน้ำ พระเครื่องเก่าที่ชำรุดอีกเป็นจำนวนมาก ผงตะไบพระกริ่งเนื้อนวะวัดสุทัศน์ ชานหมากหลวงปู่นิลวัดครบุรี ชานหมากหลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา แป้งเสกหลวงปู่บุดดา ผงยาจินดามณีหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว ผงจินดามณีหลวงปู่เพิ่มวัดกลางบางแก้ว น้ำมันงาเสกหลวงพ่อคงวัดเขาสมโภชน์

    น้ำมันงาเสกแร่บางไผ่ น้ำมันมนต์ไพรดำ น้ำมันมนต์จากคณาจารย์ต่าง ๆ และศาลหลักเมืองทั่วประเทศ ดินกากยายักษ์ ดินพระแม่ธรณี ดินวิเศษสีขาว ดอกไผ่ 70 ปี ว่าน 108 เกสร 108 สมุนไพร 108 ผงยันต์ 108 ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ผงนรหรคุณ แร่อาถรรพณ์ภูเขาควายประเทศลาว ผงฤาษีผสมแล้ว ผงศักดิ์สิทธิ์>>
    จากถ้ำละว้า ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำม้าร้อง ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำไก่หล่น ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำเนินมะปรางค์ ผงใบลานคัมภีร์คาถาต่าง ๆ ผงเก่าสมัยอยุธยา ผงเก่าสมัยทวาราวดี ใบเสมาศิลาแลงสมัยอยุธยา ผงเก่าที่อยู่ในไหขุดได้ที่ จากวัดร้างอายุหลายร้อยปี ทองคำเปลวจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ ตะไคร่โบสถ์ ตะไคร่วิหาร ตะไคร่พระปรางค์สามยอด ตะไคร่กำแพงเมืองเก่า ดินจากเนินดินพระอรหันต์ ดินจากสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน และสถานที่ปฐมเทศนาจากประเทศอินเดีย (ดินสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง) กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อโสธร กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อชินราช กระเบื้องโบสถ์และวิหารพระแก้วมรกต กระเบื้องโบสถ์และวิหารวัดไร่ขิง กระเบื้องโบสถ์หลวงพ่อโตวัดบางพลีใน กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อพระร่วงโรจน์ฤทธิ์ กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อเศวตฉัตร์ ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระธาตุพนม ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระปฐมเจดีย์ ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระธาตุและตะไคร่พระบรมสารีริกธาตนครศรีธรรมราช และเจดีบริวารอีก 150 กว่าเจดีย์ ผงตะไบสังฆวานร ผงลูกแก้วสามดวงหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค ผงลูกแก้วสีชมพู หลวงปู่ดู่วัดสะแก ผงใต้คานหลวงพ่อคล้อยวัดถ้ำเขาเงิน ผงหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี ผงหลวงพ่อแดงวัดศรีมหาโพธิ์ ผงหลวงปู่ทองฤทธิ์ วัดป่าฉันทนิมิต ผงหลวงพ่อโอดวัดจันทร์เสนจว.นครสวรรค์ ผงหลวงพ่อสุรเสียงวัดป่าเชิงจาน ผงพระกรุวัดป่าเชิงจาน ไหลคำดำประเทศลาว จีวรหลวงพ่อทองดำวัดท่าทอง ชาดหมากหลวงปู่หงษ์วัดเพชรบุรี ชานหมากหลวงปู่ทิมวัดพระขาว ชานหมากหลวงพ่อพุฒิวัดป่าสาละวัน สีผึ้งหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค (ละลายในน้ำมนต์) น้ำมันมนต์นะหน้าทองหลวงพ่อคล้อยวัดถ้ำเขาเงิน >>
    เส้นเกศาของ 39 พระคณาจารย์ที่นำมาฝังไว้ในพระกริ่ง มีดหมอ และพระขรรค์ คือ 1. หลวงพ่อพุฒิวัดเขาไม้แดง 2. หลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา จว.อยุธยา 3.หลวงปู่ศรีจันทร์วัดศรีสุธาวาส จว.เลย 4. หลวงปู่ทองดำวัดท่าทอง จว.อุตรดิตถ์ 5. หลวงพ่อประเทืองวัดหนองย่างทอย จว.เพชรบูรณ์ 6.หลวงพ่ออาคมวัดดาวนิมิตร จว.เพชรบูรณ์ 7. พระราชพัชราภรณ์ (ม.) เจ้าคณะ จว.เพชร 8. หลวงพิ่เฮ็นวัดดอนทอง จว.อยุธยา 9. หลวงพ่อปลื้มวัดสวนหงษ์ จว.สระบุรี 10. ครูบาอนสมวัดทุ่งน้อย จว.เชียงใหม่ 11.ครูบาอินตาวัดห้วยไทร จว.ลำพูน 12 .หลวงพ่อสร้อยวัดเลียบราษฏร์บำรุง จว.ตาก 13. หลวงพ่อพิมพาวัดหนองตางู จว.นครสวรรค์ 14. หลวงปู่อยู่วัดไทรโยง จว.อยุธยา 15. หลวงปู่หงส์วัดเพชรบุรี จว.สุรินทร์ 16. หลวงปู่กองวัดสระมณฑล จว.อยุธยา 17. หลวงพ่อคีย์วัดศรีลำยอง จว.สุรินทร์ 18. หลวงปู่ฤทธิ์วัดชลระทานราชดำริ จว.สุรินทร์ 19. เส้นเกศาหลวงพ่อเที่ยงพระพุทธบาทเขากระโดง จว.บุรีรัมย์ 20. หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จว.ระยอง 21. หลวงปู่ครูบาชัยวงษ์ศาพัฒนาวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จว.ลำพูน 22. หลวงปู่หลวงวัดป่าสำราญนิวาส จว.ลำปาง 23. พระครูอภิรักษ์ วัดป่าสามเขา จว.เชียงใหม่ 24. หลวงปู่ครูบาตั๋นวัดสันทรายหลวง จว.เชียงใหม่ 25. หลวงปู่ครูบาอิ่นคำ วัดข้าว>>

    แท่นหลวง จว.เชียงใหม่ 26. หลวงปู่ครูบาหล้าวัดป่าลาน จว.เชียงใหม่ 27. หลวงปู่ครูบาอิ่นคำ วัดมหาวัน จว.เชียงใหม่ 28 . หลวงปู่ครูบาบุญปั๋นวัดร้องซุ้ม จว.เชียงใหม่ 29. หลวงปู่ครูบาคำวัดธรรมชัย จว.เชียงใหม่ >>
    30. หลวงพ่อครูบาอินทร์วัดสันป่ายางหลวง จว.ลำพูน 31.หลวงปู่ครูบาดวงจันทร์วัดป่าเส้า จว.ลำพูน 32. หลวงปู่ครูบาอินตาวัดวังทอง จว.ลำพูน 33. หลวงปู่ครูบาสุขวัดป่าซางน้อย จว.ลำพูน 34. หลวงปู่ครูบาจ๋อนวัดป่าตาล จว.ลำพูน 35. หลวงปู่ครูบาศรีนวลวัดช้างค้ำ จว.ลำพูน 36.หลวงพ่อสมชายวัดหลักเมืองพัฒนาราม จว.เพชรบูรณ์ 37.หลวงพ่อสมควรวัดถือน้ำ จว.นครสวรรค์ 38. หลวงพ่อเวินวัดน้ำวิ่ง จว.เพชรบูรณ์ 39.หลวงพ่อเปรื่องวัดสันติวัฒนา จว.เพชรบูรณ์ >>


    ชนวนพระกริ่ง – พระชัยวัฒน์ เนื้อโสฬสธาตุเหล็กไหล>>

    เหล็กไหลตัดในถ้ำน้ำหนักประมาณ 9 บาท เหล็กไหลน้ำ แร่วิเศษ (แร่บุญฤทธิ์) สายฟ้าฟาด ขวานฟ้าเนื้อสัมริด(ขวานฟ้าผ่า) แร่โคตรเศรษฐี แร่บางไผ่เหล็กไหลฤาษี เหล็กไหลเงินยวง เหล็กไหลตาแรด โคตรเหล็กไหล เหล็กเปียก วัชรธาตุฟ้า เหล็กย้อย เหล็กน้ำพี้ เหล็กลอง ตะปูสังฆวานรจากพระบรมธาตุเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช เพชรหน้าทั่ง ทองคำขาว ทองคำบริสุทธิ์ นาค เจ้าน้ำเงิน เหล็กละลายตัว บริสุทธิ์ ปรอท ชิน แร่ ประสานกาย ตะกั่วดำ ดีบุก แร่พลวง ทองแดงเถื่อน ยันต์ชินะบัญชร ยันต์ยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎก อักขระเลขยันต์ 108 ยันต์ อักขระเลขยันต์นะปถมัง อันทรงคุณค่าวิเศษอีก 200 กว่านะ แผ่นจารยันต์ เงิน ทอง นาค จากพระคณาจารย์ 300 รูป น้ำหนักรวม 30 กิโลกรัม ตะกรุดของพระคณาจารย์ต่าง ๆ ที่หาได้ยากยิ่ง 108 ดอก เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จว.พิจิตร หลวงพ่อเดิมวัดหนองโพธิ์ หลวงพ่อพิธ วัดระฆัง หลวงพ่อโอด วัดจันเสน หลวงปู่ดู่ วัดสะแก หลวงพ่อคล้อยวัดถ้ำเขาเงิน หลวงปู่สุภาวัดเขารัง หลวงปู่คร่ำวัดวังหว้า หลวงปู่ปรงวัดธรรมเจดีย์ หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ และพระคณาจารย์ต่าง ๆ อีกมากมาย ชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์ ชนวนพระกริ่งหลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ ชนวนพระกริ่งหลวงปู่ทองฤทธิ์วัดป่าฉันทนิมิต ชนวนพระกริ่ง พล.ต.ต.ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช ชนวนพระกริ่งวัดหลักเมือง เงินราง 700 ปี สมัยสุโขทัย เงินพดด้วง เหรียญพระคณาจารย์ ต่าง ๆ อีกเกือบ 2000 เหรียญ ห้องระฆัง ขันน้ำมนต์ เนื้อสัมฤทธิ์เก่า และชนวนต่าง ๆ อีกมากมาย >>
    ผงพิเศษที่นำมาบดสร้างพระชุดเขี้ยวงา และอุดก้นพระกริ่ง – พระชัยวัฒน์ มีดหมอ พระขรรค์และรูปหล่อบูชา ร.5 >>
    งาช้างน้ำ, งาช้างตายพราย, งาช้างกระเด็น, งาช้างกระดอน, เขากวางคุต,เขี้ยวเสอตัน, เขี้ยเสือกลวง, เขี้ยวหมูตัน, เขี้ยวหมีตัน, เขี้ยวหมีกลวง, สายฟ้าฟาด,ขวานฟ้าผ่า, ผงตะไบพระกริ่ง, ผงตะไบเหล็กน้ำพี้ผสมผงมหาจักรพรรดิล้างอาถรรพณ์(พระกริ่ง – พระชัยวัฒน์ – มีดหมอ – พระขรรค์ ใส่น้ำมันเสือทั้ง 4 ลงไปด้วยคือ 1. เสือโคร่ง 2.เสือดาว 3.ใ เสือดำ 4. เสือไฟ>>


    พระกริ่ง – มีดหมอ พระขรรค์ - รูปหล่อ ร.5 แบบบูชา จะฝังเพชรหน้าทั่ง,ข้าวสารดำ, เทียนชัยงานพุทธาพิเษกต่าง ๆ สายสิญย์หลวงพ่อเกษมเขมโก จว.ลำปาง พระธาตุ เส้นเกศาจาก 39 คณาจารย์ ผ้าจีวรหลวงปู่ทองดำ จว.อุตรดิตถ์, ผ้าจีวรหลวงพ่อสมชาย จว.เพชรบูรณ์ (พระกริ่ง- ผ้าจีวร-สายยิญย์-เทียนชัย) จะอยู่ด้านใน พระชัยวัฒน์อุดผงอย่างเดียว รูปหล่อ ร.5 จะไม่ฝังพระธาตุและเส้นเกศา >>
    9 พิธีพุทธาพิเษกใหญ่ พ.ศ.2544 (ศตวรรษที่ 21) >>
    1. พิธีใหญ่รุ่นพระกริ่งจอมไทย 7 วัน 7 คืน วัดสุทัศน์ กรุงเทพ ฯ>>
    2. วัดประสาทบุญญาวาส กรุงเทพ ฯ>>
    3. วัดเวียง อ.ท่าเรือ จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    4. วัดวสันตาราม อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี>>
    5. วัดพยัคฆาราม อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี >>
    6. วัดสับปะรดเทศน์ อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี>>
    7. วัดศรีสันต์มณฑาราม อ.เมือง จว.สุพรรณบุรี>>
    8. วัดศรีฐานปิยราม อ.หล่มสัก จว.เพชรบูรณ์ วันที่ 7 เม.ย.44>>
    9. วัดหลักเมืองพัฒนาราม อ.หล่มสัก จว.เพชรบูรณ์ วันที่ 7 พ.ค.44>>


    คณาจารย์ที่อธิฐานจิตเสกเดี่ยวในปี พ.ศ.2544 (ศตวรรษที่ 21)>>

    1. หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อายุ 106 ปี วัดบ้านจาน ต.จาน อ.วันทรารมย์ จว.บุรีรัมย์>>
    2. หลวงปู่ทองคำ อายุ 104 ปี วัดท่าทอง อ.เมือง จว.อุตรดิตถ์>>
    3. หลวงปู่เหมือน ฐานุตตโม อายุ 104 วัดบ้านคลองทรายใต้ ต.หนองตะเคียงขอน อ.วัฒนานคร จว.สระแก้ว>>
    4.หลวงปู่กอง จันทวโส อายุ 103 ปี วัดสระมณฑล อ.เมือง จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    5. หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน อายุ 102 ปี สวนป่าสมุนไพร อ.เมือง จว.เพชรบูรณ์>>
    6. ครูบาอิน อินโท พระครูวรวุฒิธิคุณ อายุ 100 ปี วัดทุ่งปุย กิ่ง อ.ดอนหล่อ จว.เชียงใหม่>>
    7. หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จว.นครพนม>>
    8. หลวงปู่โถม กุลปุญโญ เจ้าคณะ จว.สุโขทัย อายุ 80 ปี วัดธรรมปัญญาราม อ.เมือง จว.สุโขทัย >>
    9. หลวงปู่หลวง กตปุญโญ อายุ 85 ปี วัดป่าสำราญนิวาส อ.เกาะคา จว.ลำปาง >>
    10. ครูบาอินตา (พระครูถาวรชัยวุฒิ) อายุ 97 ปี วัดห้วยไทร ต.ห้วยยาม อ.บ้านพี้ จว.ลำพูน>>
    11. พระครูพิศาลธรรมนิเทศ (รองเจ้าคณะอำเภอ) วัดมหาวัน อ.เมือง จว.ลำพูน>>
    12. พระครูปัญญาธรรมวัฒน์ ครูบาอินทร อายุ 50 ปี วัดสันป่ายางหลวง อ.เมือง จว.ลำพูน>>
    13. ครูบาดวงจันทร์ จันทโร อายุ 89 ปี วัดป่าเส้า ต.อุโมงค์ อ.เมือง จว.ลำพูน>>
    14. พระครูถาวรศิลคุณ ครูบาอินตา อายุ 94 ปี วัดวังทอง ต.เหมืองงา อ.เมือง จว.ลำพูน>>

    15. ครูบาสุข อายุ 79 ปี วัดป่าซางน้อย อ.ป่าซาง จว.ลำพูน>>
    16. ครูบาจ๋อน จันทรสี อายุ 87 ปี วัดป่าตาล อ.ป่าซาง จว.ลำพูน>>
    17. ครูบาศรีนวล นนทกุล อายุ 93 ปี วัดช้างค้ำ อ.ป่าซาง จว.ลำพูน>>
    18. พระครูอภิรักษ์ วัดป่าสามขา ต.ออนกลาง อ.สันกำแพง จว.เชียงใหม่>>
    19. ครูบาคำตั๋น อายุ 94 ปี วัดสันทรายหลวง อ.สันทราย จว.เชียงใหม่ >>
    20. พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป อายุ 68 ปี วัดอรัญญวิเวก ต.อินทนิล อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่>>
    21. ครูบาอิ่นคำ พระครูสันติยานุศาสตร์ อายุ 92 ปี วัดท้าวแท่นหลวง อ.สันทราย จว.เชียงใหม่>>
    22. ครูบาหล้า วัดป่าลาย อายุ 92 ปี ต.สันทรายหลวง อ.สันทราย จว.เชียงใหม่>>
    23. ครูบาจั่นต๊ะรังษ๊ วัดกู่เต้า อ.เมือง จว.เชียงใหม่>>
    24. ครูบาอิ่นคำ อายุ 83 วัดมหาวัน ต.ท่าแพ อ.เมือง จว.เชียงใหม่>>
    25. ครูบาบุญปั๋น ธมมปญโญ อายุ 94 ปี วัดรุ้งขุ้ม ต.บ้านแพ อ.สันป่าตอง จว.เชียงใหม่ >>
    26. ครูบาคำ อายุ 66 ปี วัดธรรมชัย ต.บ้านแพ อ.สันป่าตอง จว.เชียงใหม่>>
    27. ครูบาดวงดี อายุ 95 ปี วัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จว.เชียงใหม่>>
    28. ครูบาผัด อายุ 76 ปี วัดศรีดอนมูล อ.สารภี จว.เชียงใหม่>>
    29. ครูบาน้อย อายุ 51 ปี วัดศรีดอนมูล อ.สารภี จว.เชียงใหม่>>
    30. หลวงปู่เหลือ อายุ 92 ปี วัดท่าไม้เหนือ อ.พิชัย จว.อุตรดิตถ์>>
    31. หลวงพ่อจ้อย จันทสุวรรณโณ อายุ 88 ปี วัดศรีอุทุมพร ต.หนองกลัด อ.เมือง จว.นครสวรรค์ >>
    32. หลวงปู่อุย พระครูนิพาทธรรมวัฒน์ อายุ 84 ปี วัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม อ.เมือง จว.นครสวรรค์>>
    33. หลวงปู่ท้าว อายุ 86 ปี สำนักวชิรกัลยาณ์ อ.เมือง จว.นครสวรรค์>>
    34. หลวงปู่สมควร วิชชาวิสาโล อายุ 85 ปี วัดถือน้ำ อ.เมือง จว.นครสวรรค์>>
    35. หลวงพ่ออ้วน จรณะวุฑิโฒ(พระครูนิมิตวิสุทธิคุณ) อายุ 57 ปี วัดหนองกระโดน อ.เมือง จว.นครสวรรค์>>
    36. หลวงพ่อบุญนำ ชิตมาโร (พระครูนิเทศธรรมวิศิษฐ์) อายุ 73 ปี วัดนครสวรรค์ อ.เมือง จว.นครสวรรค์>>
    37. หลวงปู่ต่อ (พระครูนิทัศนพลธรรม) อายุ 82 ปี วัดเขาแก้ว อ.พยุหคีรี จว.นครสวรรค์>>
    38. หลวงพ่อสะอาด (พระครูนิวิทฐมณีวงศ์) อายุ 58 ปี วัดเขาแก้ว อ.พยุหคีรี จว.นครสวรรค์>>
    39. หลวงพ่อประเทือง อิทวโร (พระครูนิวาสธรรมโกวิท) อายุ 63 ปี วัดหนองโพ ต.ตาคลี อ.เมือง จว.นครสวรรค์>>
    40. หลวงพ่อ เศรียร สุธรรมโม (พระครูนิยุตต์ธรรมกิจ) อายุ 69 ปี วัดอินทราราม อ.พยุหคีรี จว.นครสวรรค์>>
    41. พระอาจารย์สมชาย วัดหลักเมืองพัฒนาราม อ.หล่มสัก จว.เพชรบูรณ์ >>
    42. หลวงปู่บ๊ก (สุวรรณ กัลยาณี) อายุ 92 ปี วัดหนองเนินพะยอม ต.หลุมข้าว อ.หนองขาหย่าง จว.อุทัยธานี>>
    43. หลวงปู่ นะ ฐิตปัญโญ(พระครูปทุมชัยกิจ) อายุ 85 ปี วัดปทุมวนาราม(หนองบัว) อ.วัดสิงห์ จว.ชัยนาท>>

    44. หลวงปู่ มหาโพธิ์ ญาณสังวโร อายุ 82 ปี วัดคลองมอญ อ.วัดสิงห์ จว.ชัยนาท>>
    45. หลวงปู่สำราญ อายุ 89 ปี วัดปากคลองมะขามเฒ่า จว.ชัยนาท>>
    46. หลวงปู่ตี๋ ญาณโสภโณ (พระครูอุทัย ธรรมกิจ) อายุ89 ปี อ.เมือง จว.อุทัยธานี>>
    47. พระเทพรัตนดิลก(ธ.) อายุ 73 ปี รองเจ้าคณะภาค 4 วัดเพชรวราราม อ.เมือง จว.เพชรบูรณ์>>
    48. พระราชพัชราภรณ์ (ม.)วัดมหาธาตุ อยุ 64 ปี วัดมหาธาตุ อ.เมือง จว.เพชรบูรณ์>>
    49. หลวงปู่ปิ่น (พระครูพัชรธรรมโสภณ) อายุ 70 ปี วัดหนองใฝ่ อ.หล่มสัก จว.เพชรบูรณ์>>
    50. หลวงพ่อเวิน กัลป์ยาณธัมโม(พระครูเวฬุคณารักษ์) อายุ 74 ปี เจ้าคณะ อ.หนองไผ่ จว.เพชรบูรณ์>>
    51. หลวงพ่ออาคม อินทสโร (พระครูโสภณคณาพิทักษ์วารีพิสัย) อายุ 78 ปี วัดดาวนิมิตร อ.บึงสามพัน จว.เพชรบูรณ์>>
    52. หลวงพ่อศรีนวล สิริมังคโล (พระครูสิริพัชรกุล) อายุ 72 ปี วัดสว่างสามัคคี ต.สระกรวด เจ้าคณะอำเภอศรีเทพ>>
    จว.เพชรบูรณ์>>
    53.หลวงพ่อเปรื่อง ฐานังกะโร (พระครูโสภณคณาพิทักษ์) อายุ 70 ปี วัดสันติวัฒนา อ.หล่มเก่า จว.เพชรบูรณ์>>
    54. หลวงพ่อทอง จันทศิริ (พระครูสุวรรณวัยวุฒิ) อายุ 98 ปี วัดสามปลื้ม จว.กรุงเทพ>>
    55. หลวงพ่อจืด นิมมโล อายุ 63 ปี สำนักโพธิเศรษฐี ม.6 ต.บ่อพลับ อ.เมือง จว.นครปฐม>>
    56. หลวงพ่อสมพงษ์ ธีระธัมโม (พระครูปราการลักษาภิบาล) อายุ 66 ปี วัดใหม่ปิ่นเกลียว อ.เมือง จว.นครปฐม >>
    57. หลวงพ่อรอด สิทธิกาโร(พระครูวิมลสิทธิการ) อายุ 74 ปี วัดวังน้ำเขียว ต.หญ้าแพรก อ.กำแพงแสน จว.นครปฐม >>
    58. เจ้าคุณไวย์ อายุ 90 ปี วัดพนัญเชิง จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    59. หลวงปู่ทิม อัตตสันโต (พระครูสังวรสมณกิจ) อายุ 88 ปี วัดพระขาว ต.พระขาว อ.บางบาล จว.พระนคร ศรีอยุทธยา>>
    60. หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก (พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ) อายุ 81 ปี ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    61.พระครูสังฆรักษ์เฉลิม อายุ 76 ปี วัดพระญาติ ต.ไผ่ลิง จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    62. หลวงพ่อเอียด อินทวังโส (พระครูสุนทรยติกิจ) อายุ 73 ปี วัดไผ่ล้อม รองเจ้าเจ้าคณะจว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    63.หลวงพ่อเพิ่ม อัตตทีโป (พระครูประโชติธรรมวิจิตร) อายุ 75 ปี วัดป้อมแก้ว ต.บ้านกลึง เจ้าคณะอำเภอบางไทร จว.พระนครศรีอยุทธยา >>
    64. หลวงพ่อจำลอง เขมะนันโท อายุ 77 ปี วัดเจดีย์แดง ต.หัวรอ จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    65. หลวงพ่อ สวัสดิ์ โสตถิทัตโต อายุ 84 ปี วัดศาลาปูน ต.ท่าสุกรี จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    66. หลวงพ่อพูน ฐิตสีโล (พระครูสุวรรณสีลาธิคุณ) อายุ 69 ปี วัดบ้านแพน ต.สามกอ เจ้าคณะอำเภอเสนา จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    > >
    67.หลวงพ่อวงศ์ (พระครูพิราชธรรมานุกูล) อายุ 75 ปี เจ้าคณะตำบลเจ้าเจ็ดเขต 2 อ.เสนา จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    68.หลวงพ่อหยด กิติสาโร (พระครูเสนาคณานุรักษ์) อายุ 76 ปี วัดเจ้าเจ็ดใน เจ้าคณะอำเภอเสนา จว.พระนครศรี อยุทธยา>>
    69. หลวงพ่ออื้น จันทวรรณโณ (พระครูพจนาภิรักษ์) อายุ 75 ปี วัดเจ้าเจ็ดนอก เจ้าคณะตำบลเจ้าเจ็ด 1 อ.เสนา>>
    จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    70. หลวงปู่ บุญนาค ฐานนาโค (พระครูวิเวกอรัญวัตร) อายุ อายุ 87 ปี วัดหนองโป่ง ต.ห้วยป่าหวาย อ.พุทธบาท จว.สระบุรี>>
    71. หลวงพ่อเพี้ยน อัคคธัมโม อายุ 77 ปี วัดเกริ่นกฐิน ต.บ้านชี อ.บ้านหมี่ จว.ลพบุรี>>
    72. หลวงปู่ถม ธัมมทีโป (พระครูธรรมโสภณ) อายุ 89 ปี วัดเชิงท่า ต.พระหิน อ.เมือง จว.ลพบุรี>>
    73. หลวงพ่อสารันต์ จันทูปโม (พระครูจันทสิริธรา) อายุ 54 ปี>>
    74. หลวงพ่อหลิว กตปุญโญ อายุ 78 ปี วัดคุ้งเขาเขียว ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จว.สระบุรี>>



    (ปิดรายการครับ)
    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2013
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญหลวงพ่อสังข์ วัดบ้านใหม่(กลอ) ปี๒๕๑๙

    ให้บูชา 500 บาทค่าจัดส่ง EMS50 บาทครับ



    [​IMG] [​IMG]
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    รูปหลวงปู่อิง ขนาดประมาณ1*1นิ้วครับ

    ปิดรายการ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2013
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    [​IMG]


    พระครูโสภิตพิริยคุณ หรือ หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ โสภิโต วัดสระกุศกร อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ศิษย์รุ่นสุดท้ายที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาโดยตรงพระอาจารย์ใหญ่สำเร็จลุน(การคำยืนยันของหลวงปู่บู่ เจ้าอาวาสวัดสระ หลานชายแท้ๆของท่านครับ) โดยการกำกับดูแลของศิษย์ผู้พี่ญาท่านตู๋และกัมมัฏฐานแพง ดังนั้น หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ จึงถือว่า เป็นทั้งศิษย์ผู้น้องและศิษย์ของหลวงปู่กัมมัฏฐานแพงและหลวงปู่ญาท่านตู๋ครับ
    หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ เกิดเมื่อ วันศุกร์ที่ 1 มี.ค. 2443 บ้านกุศกร อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เป็นบุตรของพ่อเคน แม่คำตัน อ่อนศรีบุตร มีพี่น้องทั้งหมด 9 คน ท่านเป็นบุตรคนโต ท่านเป็นสหธรรมของ หลวงปู่ญาท่านโทน กันตสีโล ญาท่านทอง วัดบ้านหัวเรือ หลวงปู่ญาท่านภู วัดบ้านกองโพน หลวงปู่บุตร วัดสำราญวราราม ถ้านับตามลำดับชั้น หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของญาท่านสวน วัดนาอุดม อำเภอตาลสุมครับ หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์เป้นผู้สืบวิชาสายสำเร็จลุน วิชาเอกของท่านคือ "พระโมคคัลลาน์ประสานกาย หรือ หนุมานประสานกระดูก" ขนาดที่ว่าแพทย์ในสมัยก่อนยังบอกให้ไปหาญาท่านฤทธิ์ไม่งั้นก็ต้องตัดขาครับ ท่านยังเชี่ยวชาญการรักษาคนช่วย ไล่ผี ในสมัยอดีต เดินไม่เปียกฝนและย่อระยะทางเคร่งครัดในสัจจะปฏิญาณ ไม่มองเหลียวหลัง ไม่เคี้ยวกระดูก ไม่กลับทางเดิม ไม่รอดราวตากผ้าไม่ฉันภัตตาหารในงานศพ มักเปรียกวิเวกเข้าป่าฝึกวิชา ผู้ติดตามจะหาไม่เจอ วัดที่ท่านเคยจำพรรษาอยู่คือ วัดสระกุศกรหรืออีกชื่อหนึ่งคือวัดโพธิ์สะประทุม ตั้งอยู่ที่ บ้านกุศกร อ.ตระการพืชผล จ.อุบล ปัจจุบันศิษย์ที่สืบทอดวิชาของท่านที่ยังดำรงค์ขันธ์อยู่มีดังนี้ครับ หลวงปู่อ่อง วัดสิงหาญ หลวงปู่คล้าย วัดบ้านกระเดียน และหลวงปู่บู่ วัดสระกุศกร ครับ หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์มรณภาพเมื่อวันที่ วันที่ 26 มิยุนายน พ.ศ.2524

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลและเวปอุบลพระที่มาอย่างสูงครับ


    ชุดกรรมการสภาพสวยเดิมๆครับ ทั้งพระสมเด็จเพชรกลับ พระนางพญาเพชรกลับ

    และเหรียญญาท่านครับศิษย์ที่ทันสมเด็จลุนแท้แน่นอนครับ


    ให้บูชา 2000 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2013
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    พระสมเด็จวัดโนนผึ้งสภาพสวยเดิม

    ให้บูชา 1100 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  8. Little Dragon

    Little Dragon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    3,186
    ค่าพลัง:
    +5,362

    จองครับ
     
  9. Little Dragon

    Little Dragon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    3,186
    ค่าพลัง:
    +5,362

    ขอจองครับ
     
  10. Little Dragon

    Little Dragon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    3,186
    ค่าพลัง:
    +5,362

    ขอจองครับ
     
  11. Little Dragon

    Little Dragon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    3,186
    ค่าพลัง:
    +5,362
    ขอจองครับ
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญ ร.6 ของกรมการรักษาดินแดน ปี 2505 นี้ได้ถูกจัดเข้าอยู่ในทำเนียบวัตถุมงคลของพระภิกษุธมฺมวิตกฺโก พระยานรรัตน์ราชมานิต (ตรึก จินตยานนท์) วัดเทพศิรินทราวาส แม้ว่าท่านจะมิได้เป็นพระภิกษุรูปเดียวที่ได้ปลุกเสกอธิษฐนจัดเหรียญ ร.6 นี้ก็ตาม คือหมายความว่าเหรียญรุ่นนี้ได้ฝ่านพิธีพุทธาภิเษกหมู่โดยคณาจารย์หลายองค์ แต่คนทั่วไปก็ยกเหรียญ ร.6 ให้เป็นเครดิตของท่านไป

    ทำนองเดียวกับพระเครื่องที่ปลุกเสกในพระอุโบสถวัดบวรฯ แม้เป็นพิธีหมู่คือมีครูบาอาจารย์ทั่วประเทศเข้าร่วมนั่งปรก คนทั้งหลายก็ยกให้เป็นพระเครื่องของสมเด็จพระสังฆราชเจ้าไปทั้งหมดเหมือนกัน

    เหรียญพระบรมรูปของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 กรมการรักษาดินแดนจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกพระอนุสรณ์อนุสาวรีย์ ที่ประดิษฐานอยู่หน้าสวนลุมพินี โดยทำขึ้นหลายแบบทั้งกลมใหญ่ กลมเล็ก และใบเสมา จำนวนสร้างคาดว่าถึงหลักแสน เมื่อสร้างสำเร็จแล้ว ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกขึ้นในวันที่ 17 พ.ย. 2505 มีคณาจารย์รับนิมนต์มานั่งปรกปลุกเสกหลายองค์ เช่น หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร หลวงปู่อาคม วัดสุทัศน์ฯ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม หลวงพ่อคล้าย วัดจันดี หลวงพ่อนาค วัดระฆัง พระสุธรรมธีรคุณ วัดสระเกศ พระอาจารย์ผ่อง วัดสามปลื้ม และหลวงพ่อจง วัดหน้าด่างนอก ในพิธียังได้มีการอัญเชิญดวงพระวิญญาณของอดีตพระมหากษัตริย์ไทย แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่ ร.1-ร.8 มาประทับทรงในร่างของนายทหารและนายตำรวจ เพื่อทรงเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีปลุกเสกด้วย

    คุณท.สิริปัญโญ ได้กล่าวถึงเหรียญ ร.6 ไว้ในหนังสือทำเนียบประวัติของท่านเจ้าคุณนรฯ ว่า

    “ในสมัยนั้นข้าพเจ้ายังรุ่นหนุ่ม ยังได้ดูเขาทำพิธีกันเห็นมีอาสนะว่างอยู่ 2 ที่ เท่าที่จำได้มีพระเกจิอาจารย์จากวัดต่าง ๆ มานั่งปรกกันเป็นจำนวนมาก และมีพระครูประกาศสมาธิคุณ สำนักวัดมหาธาตุเป็นผู้บรรยาย (โฆษก) ฝ่ายสงฆ์ในสมัยนั้น พอเสร็จพิธีได้มีหลวงพ่ออยู่องค์หนึ่งท่านนั่งปรกอยู่ข้างอาสนะที่ว่าง ท่านได้สอบถามเจ้ากรมรักษาดินแดนว่าเป็นพระรูปใดที่มานั่งปรกอาสนะข้างท่าน ท่านเจ้ากรมจึงกราบเรียนว่าเป็นอาสนะของท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านบอกว่าเห็นมานั่งปรกอยู่เสร็จแล้วก็ได้หายไปเฉย ๆ ยังความแปลกใจให้กับทุกคนที่ได้ยินและได้ฟัง เพราะต่างเห็นว่าว่างเปล่า ไม่เห็นมีใครมานั่งอยู่บนอาสนะนั้น”

    เรื่องที่อาสนะของท่านเจ้าคุณนรฯ ว่างเปล่า จนเป็นเหตุอัศจรรย์ว่ามีหลวงพ่อองค์ที่นั่งใกล้อาสนะว่างนั้น เกิดนิมิตเห็นพระภิกษุรูปหนึ่งมานั่งปรกปลุกเสกด้วย คือมานั่งเดี๋ยวเดียวก็หายตัวไปนั้นมีอยู่ว่า ในการกระทำพิธีพุทธาภิเษกเหรียญ ร.6 ครั้งนั้น คณะกรรมการทุกคนจำเป็นต้องระลึกถึงท่านเจ้าคุณนรฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะว่าท่านเป็นผู้หนึ่งที่จงรักภักดีต่อล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 จนปวารณาตัวบวชไม่สึก และล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ก็ทรงไปโปรดปรานท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นอย่างยิ่ง เมื่อระลึกถึงท่านเจ้าคุณนรฯ ได้อย่างนี้แล้ว ก็ไปกราบอาราธนาท่านเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกด้วย แต่ท่านได้ปฏิเสธและบอกว่า

    “อาตมาจะขอนั่งปรกปลุกเสกอยู่ในกุฏินี้ เพื่อส่งกระแสจิตไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกด้วยจนกว่าจะเสร็จ”
    และท่านยังได้สั่งให้จัดอาสนะสำหรับท่านไว้ในพิธีนั้นด้วย

    ขออขบคุณท่านเจ้าของบทความและข้อมูลและที่มาอย่างสูงครับของ

    คุณนำลาภ วัชรเสถียร


    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    หลวงพ่อ พระครูอุทัยธรรมวินิจ (จิ๋ว(2) สุขาจาโร )

    อัตโนประวัติ พระครูอุทัยธรรมวินิจ มีนามเดิมว่า จิ๋ว ธัญญกรรม เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2447 ณ บ้านหนองโพธิ์ ต.หนองไผ่แบน อ.เมือง จ.อุทัยธานี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายทัด-นางนิ่ม ธัญญกรรม ประกอบอาชีพกสิกรรม ในช่วงวัยเยาว์ เรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดหนองไผ่แบน จบชั้นป.4 ก่อนลาออกมาช่วยครอบครัวหาเลี้ยงชีพ

    ทุกวันพระมักไปทำบุญที่วัดหนองโพธิ์กับโยมบิดา-มารดา เป็นประจำเสมอมิได้ขาด เมื่อเติบใหญ่ จึงกลายเป็นคนใจบุญกุศลเป็นลำดับ เมื่ออายุครบ 21 ปี นายจิ๋วถูกเกณฑ์ทหาร ไปประจำอยู่ที่ค่ายจิระประวัติ จ.นครสวรรค์ เป็นเวลา 2 ปี พอพ้นเกณฑ์ทหาร ได้กลับบ้านช่วยบิดามารดา

    จนมีอายุได้ 24 ปี นายจิ๋วได้บวชทดแทนคุณบิดามารดา ดังลูกผู้ชายพึงควรปฏิบัติ ได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบุญลือ ต.เนินแจง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ (ปัจจุบันเป็น อ.เมือง จ.อุทัยธานี) เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2471 โดยมีพระญาณกิตติ วัดเขาแก้ว อ.พยุหะคีรี เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า สุขาจาโร แปลว่า ผู้มีความประพฤติอันงดงาม

    เมื่ออุปสมบท พระจิ๋วได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดทัพทันวัฒนาราม อ.ทัพทัน เพื่อเข้ารับการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2474 สอบได้นักธรรมชั้นโท โดยมีพระอุดมธรรมภาณ เป็นพระอาจารย์สอน

    พ.ศ.2476 พระจิ๋ว ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดโมลีโลกยาราม (วัดท้ายตลาด) เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เพื่อศึกษาบาลีกับพระอาจารย์ประสิทธิ์ศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยาราม ในสมัยนั้น

    พ.ศ.2483 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค แต่ครั้นจะศึกษาต่อเปรียญธรรม 4 ประโยค ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 จำเป็นต้องเรียนๆ หยุดๆ ไม่เป็นอันเรียน

    จนถึงปี พ.ศ.2487 สงครามโลก ยังไม่สงบ พระมหาจิ๋ว ได้ตัดสินใจ เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมที่วัดเนินเหล็ก ต.โนนเหล็ก อ.เมือง จ.อุทัยธานี ในขณะนั้น พระครูอุทัยธรรมวินิจ (จิ๋ว อินทสุวัณโณ) เจ้าอาวาสวัดเนินเหล็ก ได้มรณภาพลง

    เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2488 พระอุดมธรรมภาณ (สม สุนทรธัมโม) อาจารย์ของท่าน พร้อมชาวบ้าน ได้นิมนต์ให้ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดเนินเหล็ก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พร้อมเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมให้กับพระภิกษุสามเณร

    ต่อมา คณะสงฆ์ได้เล็งเห็นว่า พระมหาจิ๋ว มีความรู้ความสามารถ ประกอบกับเป็นผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างยิ่ง พ.ศ.2491 จึงได้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดเนินเหล็ก

    พ.ศ.2492 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลโนนเหล็ก

    พ.ศ.2499 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนาม "พระครูอุทัยธรรมวินิจ"

    พ.ศ.2500 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์

    ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี หลวงพ่อจิ๋วสร้างคุณูปการแก่วัดเนินเหล็กและชาวบ้าน ต.เนินเหล็ก ท่านเป็นผู้เคร่งครัดและสอนสั่งให้พระภิกษุสามเณร คณะศิษย์ ตลอดจนเด็กวัด ให้เป็นผู้มีเมตตากรุณาต่อบุคคลทั่วไปทั้งในวัดและชาวบ้าน คอยให้คำปรึกษา แก้ปัญหา ชี้แนะให้ชาวบ้านปฏิบัติตนเป็นคนดีและพัฒนาจิตใจชาวบ้านให้อยู่กันอย่างสงบสุข และมีความสามัคคีอย่างดีเยี่ยม

    หลวงพ่อจิ๋ว ได้พัฒนาวัด ด้วยการสร้างกุฏิ หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ เมรุ อุโบสถ และถาวรวัตถุอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก

    ด้านการศึกษา หลวงพ่อจิ๋วได้เอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง โดยได้ก่อตั้งโรงเรียนราษฎร์ มีชื่อว่า โรงเรียนวินิจประสิทธิเวท เพื่อให้นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาภาคบังคับที่จบชั้นประถม ได้มีที่เรียนต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษา นอกจากนี้ ยังรับบุคคลภายนอกที่มีอายุเกินเกณฑ์ ให้ได้เข้าเรียน โดยให้บวชเป็นพระภิกษุ-สามเณร ทำให้วัดเนินเหล็ก มีพระภิกษุสามเณรจำพรรษานับร้อยรูปเกือบทุกปี ส่วนการศึกษาพระปริยัติธรรม มีการเรียนการสอนประจำในสำนักเรียน ในแต่ละปี มีนักเรียนสอบได้นักธรรม-บาลีเป็นจำนวนมาก

    หลวงพ่อจิ๋ว ยังได้ทำงานด้านการพัฒนาวัตถุและพัฒนาคน ทั้งในวัดและนอกวัด รวมระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษ ภายหลังการสร้างอุโบสถหลังใหม่แล้วเสร็จ ท่านได้ล้มป่วยลง และละสังขารไปด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2536 ณ โรงพยาบาลอุทัยธานี สิริอายุ 88 พรรษา 65

    เรื่องเหลื่อเชื่อ เกี่ยวกับความวาจาสิทธิ์ของท่าน มีโยมท่านหนึ่งในสมัยที่ท่านยังอยู่นั้นได้นำดินซึ่งขุดจากที่ดินของตนเองมาถวายเพื่อถมที่ดินให้ทางวัดโนนเหล็ก แต่บังเอิญรถบรรทุกดินต้องวิ่งผ่านบ้านกำนัน ซึ่งในสมัยนั้น
    เรียกว่า กำนันแม็ด (ขออนุญาติเอ่ยนามเพราะท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว) กำนันไม่พอใจที่รถบรรทุกดินวิ่งผ่านแล้วทำดินร่วงเลยไปต่อว่าหลวงพ่อจิ๋ว(2) ที่วัด ซึ่งหลวงพ่อก็รุ้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่ากำนันคนนี้เป็นคนขี้เกียจมาแต่ไหนแต่ไรเลยออกว่ากับกำนันไปว่า "เออ กูจะเอาดินมาถมที่วัวาอารามมันก็มาว่า ถ้าไม่อยากดูก็กลับไปนอนเฉยๆไป!...." หลังจากนั้นอีกไม่เกิน1เดือนกำนันก็เป็นอัมพาต เดินไปไหนมาไหนไม่ได้นอนอย่างเดียว รวมทั้งลูกเขยของแกอีก(ลูกเขยยังมีชีวิตอยู่ ไปสอบถามได้ )ก็เป็นเหมือนกัน ไปรักษาที่ใดก็ไม่หาย หลวงพ่อสมัยบอกว่าให้มาเดินบริหารร่างกายรอบโบสถ์ แต่ก็ได้แค่ทุเลาลงเท่านั้น จนกำนันเสียชีวิตไปเรื่องนี้รุ้กันทั่วต.โนนเหล็ก - หนองเต่า ................................เหลือเชื่อ.................................


    หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 31
    คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6 โดย สุธน พันธุเมฆ
    วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 15 ฉบับที่ 5498


    รูปหล่อท่านครับ

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2013
  14. ckj_tong1

    ckj_tong1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +931
    องค์นี้มีคนจองหรือยัง ถ้ายังผมขอจองนะครับท่าน
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญหลวงพ่อบุญมี วัดม่วงคัน อ่างทอง

    มี 5 เหรียญ ให้บูชาเหรียญละ 300 บาทค่าจัดส่ง EMS50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    วัตถุมงคลหลวงปู่เขียนปี"16

    คอลัมน์ ซูมโฟกัส

    เซียนบ้านดอน




    วัตถุมงคล "หลวงปู่เขียน ธัมมรักขิโต" วัดสำนักขุนเณร จ.พิจิตร จัดสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2516 ในงานตัดลูกนิมิตวัดสุขุมาราม จ.พิจิตร มีส่วนผสมของมวลสารพิเศษ พระผงว่านวิเศษสุด 108 ผงอิทธิเจ, มหาราช, ผงโพธิ์ (วัดหลวงพ่อเงิน) พระเกศา, จีวร และของสำคัญหลวงพ่อเขียน

    พิธีพุทธาภิเษกครั้งนั้น มีพระสุปฏิปันโนร่วมพิธีหลายรูป เช่น หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช หลวงปู่เส็ง วัดกัลยาณมิตร หลวงปู่เกตุ วัดศรีเมือง จ.สุโขทัย หลวงพ่อชม วัดเขาดิน จ.พระนครศรีอยุธยา ครูบาอินถา วัดพระธาตุดอยเต่าคำ จ.ลำปาง



    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง (นั่งปรกในทิศตะวันออก) หลังพิธีพุทธาภิเษก หลวงพ่อบอกกับท่านพระครูสุรินทร์ว่า "พิธีนี้สมบูรณ์มาก เป็นประกายพรึกสว่างไสวไปทั้งโบสถ์" (ไม่ใช่เฉพาะวัตถุมงคล แต่จากวัตถุมงคลแผ่รัศมีประกายพรึกจนสว่างไปทั้งโบสถ์ ซึ่งเป็นพิธีที่ดีมากที่สุดพิธีหนึ่ง)

    รัศมีประกายพรึก ในความหมาย หมายถึงพระพุทธเจ้าท่านสงเคราะห์หมดทุกอย่าง หลวงพ่อฤๅษีลิงดำบอกพระครูสุรินทร์ว่า "เป็นพิธีมหาจักรพรรดิ" (ซึ่งถ้าไม่พิเศษจริงๆ แล้วหลวงพ่อท่านคงไม่สงเคราะห์) เพราะเจตนาในการสร้างนั้นก็บริสุทธิ์ สร้างเพื่อแจกผู้ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ วัดสุขุมาราม หลวงพ่อท่านบอกอีกว่า "หลวงปู่เขียนท่านก็มาร่วมปลุกเสกด้วย" โดยประวัติหลวงปู่เขียนเองก็เก่ง หลวงพ่อบอกว่า ท่านเป็นพระอรหันตปฏิสัมภิทาญาณ ศพท่านไม่เน่าเปื่อย

    คาถาบูชาวัตถุมงคลรุ่นนี้ ตั้งนะโม 3 จบ ว่า พุทธาราธะนัง ธัมมาราธะนัง สังฆาราธะนัง แล้วว่า คาถามหาลาภ "ธะนะกาโม ละเภ ธะนัง ธะนะโภคัง ภะวันตุ เม อัตถิ การะเย กายะญายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตวา"

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความและข้อมูลและที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 500 บาทค่าจัดส่งEMS 50บาทครับ (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2013
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญหลวงไสว วัดปรีดาราม ปี๑๙ น่าจะเป็นรุ่น ๓ ของท่านครับ

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2013
  18. prapart54

    prapart54 สุรสีห์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,221
    ค่าพลัง:
    +3,096
    วัตถุมงคลหลวงปู่เขียนปี"16
    ขอจองบูชาครับ
     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรีัยญรุ่นแรกของท่านเนื้อตะกั่ว

    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2013
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    [​IMG]


    สำหรับชาวบ้านย่านสกล อุดร หนองคาย นครพนมแล้ว จะรู้จักและได้ยินชื่อเสียงของหลวงปู่สนธิ์หรืออาจารย์สนธิ์กันเป็นอย่างดี เพราะหลวงปู่เป็นพระภิกษุผู้ขึ้นชื่อในเรื่องมีเมตตาสูง สมถะ เรียบง่าย และเรืองวิทยาคมขลัง

    วันนี้หลวงปู่สนธิ์มีอายุครบ 101 ปีแล้ว (เกิดเมื่อ 20 เมษายน 2454) น่าจะเรียกได้ว่าเป็นพระภิกษุที่มีอายุยืนยาวไม่กี่รูปที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน

    แม้จะอายุ 101 ปี แต่หลวงปู่ก็ยังมีสุขภาพแข็งแรง มีเจ็บป่วยบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ปัจจุบันหลวงปู่ก็ยังกวาดลานวัดได้และท่านชอบที่จะกวาดลานวัดด้วยตนเอง

    ประสบการณ์ในชีวิตแบบพระธุดงค์ตั้งแต่เป็นภิกษุหนุ่ม ที่ได้เดินธุดงค์ไปศึกษาและปฏิบัติธรรมตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งฝั่งไทยฝั่งลาว สามเหลี่ยมทองคำ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ตาก พิษณุโลก สุโขทัย นครปฐม สงขลา ภูเก็ต ฯลฯ ทำให้หลวงปู่เข้มแข็งและมั่นคงในพุทธศาสนา สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่สนใจแสวงหาลาภ สักการะและบริวารใด ๆ

    เมื่อใช้ชีวิตแบบพระธุดงค์พอสมควรแล้ว หลวงปู่ได้ย้ายกลับมาพำนักที่บ้านเกิดของท่านเมื่อเกือบ 40 ปีมานี้เอง วัดที่หลวงปู่พำนักอยู่ในปัจจุบันก็เป็นวัดเล็ก ๆ มีพระภิกษุพำนักอยู่ด้วยเพียงไม่กี่รูปในแต่ละปี

    หากท่านมีโอกาสผ่านไปทางนครพนม ย่อมเป็นบุญกุศลมหาศาล หากได้แวะไปนมัสการหลวงปู่สนธิ์ เขมิโย พระมหาเถระผู้เปี่ยมด้วยภูมิธรรมภูมิปัญญาผู้มีอายุยาวนานท่านนี้
    หลวงปู่สนธิ์ เขมิโย"เจ้าอาวาสวัดอรัญญานาโพธิ์ บ้านท่า หมู่ 8 ต.โพนสว่าง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนมพระมหาเถระนักปฏิบัติอีกรูปหนึ่งของภาคอีสานที่ยังมีชีวิตดำรงอยู่เป็นที่เคารพเลื่อมใสของสาธุชนชาวนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง
    ท่านเป็นศิษย์สืบสายธรรม หลวงปู่ศรีทัตถ์ญาณสัมปันโน ผู้สร้างพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และพระพุทธบาทบัวบกอ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลและที่มาข้อมูลอย่างสูงครับ

    ตะลึงเผาวอดทั้งหลัง เงินครึ่งล้านไม่ไหม้

    คอลัมน์ เป็นไปได้
    [​IMG]


    โจรปล้น 10 ครั้งไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว

    ของอย่างนี้ไม่มีใครกล้าเถียงและไม่มีใครอยากลอง

    เหมือนอย่าง นายนิรันดร์ รามเพ็ญ วัย 60 ปี อาชีพทำนา ออกไปเกี่ยวข้าวพร้อมลูกๆหลานๆ ตั้งแต่เช้ามืดห่างจากบ้าน 5 ก.ม. กระทั่งเกือบ 4 โมงเช้า เพื่อนบ้านวิ่งหน้าตื่นมาบอกว่าไฟไหม้บ้าน

    มาถึงเข่าทรุดกองกับพื้นบ้าน 3 หลังถูกพระเพลิงโหมเหลือแต่ตอดำๆ

    ชุดปภ. และ อปพร.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร สกัดเพลิงพร้อมเคลียร์พื้นที่

    รถไถนา จักรยานยนต์ รถจักรยาน ยุ้งข้าวเปลือก สุนัข 1 ตัว นกเขา 5 ตัว ทั้งหมดไม่เหลือซาก

    คุ้ยเขี่ยกองซากเพลิง กลิ่นไหม้เหม็นคลุ้ง ความหวังริบหรี่

    ปรากฏกองเสื่อและผ้าห่ม ไม่ไหม้พอเขี่ยก็พบถุงเงิน

    นับเงิน 5 แสนอยู่ครบ ยังพบขันสแตนเลสใส่เงินพดด้วง เงินฮาง สตางค์แดง และทองอยู่ในสภาพเดิม

    ชาวบ้านถึงกับฮือฮาพูดกันว่า อาจจะมีของดีคุ้มไว้

    เชื่อว่าบ้านเลขที่นี้อาจจะให้โชค พร้อมขออายุเจ้าของบ้านไปด้วย

    นายนิรันดร์เผยว่า มีเหรียญหลวงปู่สนธ์ เขมโย อายุกว่าร้อยปี วัดอรัญญานาโพธิ์ จังหวัดนครพนม อยู่ในขัน

    ส่วนเรื่องเงินสดเก็บไว้ในบ้านมานานแล้ว ไม่เคยเข้าเมืองและไม่กล้าไปฝากแบงก์ติดต่อไม่เป็น

    ลูกๆ หลานๆ ก็บอกให้ไปฝาก เห็นทีต้องเชื่อแล้ว

    แต่อย่าประมาท โชคดีไม่ได้มีกันบ่อยๆ

    หน้า 9

    ขอขอบคุณที่มาข้อมูลอย่างสูงจากหนังสือพิมพ์ข่าวสดครับ

    เหรียญหลวงปู่สนธิ์ วัดอรัญนาโพธิ์ สภาพสวยเดิมๆเก่าเก็บ มีหลายรุ่นครับเชิญพิจรณาตามความชอบครับ

    ให้บูชาเหรียญละ 200 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ



    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG]

    ปิดรายการ
    [​IMG] [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...