ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. ลูกคุณพระ

    ลูกคุณพระ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +94
    ขอบคุณค่ะที่มีเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลกหาข้อมูลมาให้ได้เรียนรู้กัน
     
  2. marvis vermillion

    marvis vermillion สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +5
    นั่นสินะครับ...แป้กจนพลาดไปมากแล้ว

    พอไม่ตรงไม่เกิดก็มามุขอ้างเลื่อนเพราะมีเหตุอื่นอะไรนั่นมาอีก-.-
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ลำปางประกาศพิบัติภัยลูกเห็บอำเภอเสริมงาม

    [​IMG]

    ลำปาง 4 ก.พ.-ผู้ว่ฯ ลำปาง ประกาศพื้นที่ประสบภัยกรณีฉุกเฉินจากพายุลูกเห็บถล่ม 14 หมู่บ้าน 3 ตำบลของ อ.เสริมงาม ส่งผลบ้านเรือนราษฎรเสียหายกว่า 1,000 หลังคาเรือน เดือดร้อนกว่า 3,000 คน

    นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ลงนามประกาศพื้นที่ประสบภัยกรณีฉุกเฉินจากพายุลูกเห็บถล่ม 14 หมู่บ้าน 3 ตำบลของ อ.เสริมงาม คือ ต.เสริมซ้าย 10 หมู่บ้าน ต.เสริมงาม 2 หมู่บ้าน และ ต.เสริมกลาง 2 หมู่บ้าน เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยอำเภอจะได้นำงบทดรองราชการในอำนาจ 1 ล้านบาท มาฟื้นฟูความเสียหายของบ้านเรือนราษฎรกว่า 1,000 หลังคาเรือน เดือดร้อนกว่า 3,000 คน

    ขณะเดียวกัน พล.ต.สุมงคล ดิษบรรจง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ให้กำลังทหาร 100 นาย ร่วมกับตำรวจ สภ.เสริมงาม ช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนของผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สามารถเข้าพักอาศัยได้ก่อนชั่วคราว ซึ่งความเสียหายส่วนใหญ่จากหลังคากระเบื้องแตก นอกจากนี้ยังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาอาหาร น้ำดื่ม และเครื่องนุ่งห่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน.-สำนักข่าวไทย

    ที่มา ลำปางประกาศพิบัติภัยลูกเห็บอำเภอเสริมงาม | MCOT.net
     
  4. ฟาสิรี

    ฟาสิรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2011
    โพสต์:
    396
    ค่าพลัง:
    +729
    ยังไม่ชินกันอีกเหรอครับ???
     
  5. phirus

    phirus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +318
    เราอ่านกันมาเยอะ ลองมาดูว่าเราต้องคิดเห็นเช่นไรในโลก ไซเบอร์แห่งนี้:cool::cool:
    อาจจะทิ่งแทงใจใครบ้างแต่ผมว่าเราต้องคิดหาเหตุและผลทุกครั้งในการรับข้อมูล

    [​IMG]
     
  6. ลูกคุณพระ

    ลูกคุณพระ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +94
    ขอบคุณคุณเกษมอย่าท้อนะคะ
     
  7. ปธ6

    ปธ6 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +292
    กรรมมันจัดสรร กรรมมันลิขิต ถ้าใครคิดท้าทาย มันต้องถูกลงโทษ....คิคิคิคิ
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สึนามิ 1.5 เมตร ซัดโซโลมอน ดับ 6 สูญหายหลายราย

    วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2556 19:12น.

    [​IMG]

    เหตุแผ่นดินไหว 8 ริกเตอร์ จนเกิดสึนามิ ขนาด 1.5 เมตร ซัดเข้าชายฝั่งหมู่เกาะโซโลมอน ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 6 ราย และมีผู้สูญหายอีกหลายคน ขณะที่หมู่บ้านริมชายฝั่งพังเสียหายไป กว่า 70 หลังคา

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้า เหตุแผ่นดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งประเทศหมู่เกาะโซโลมอน จนเกิดคลื่นสึนามิความสูงราว 1.5 เมตร ซัดเข้าชายฝั่งแนว จังหวัดทีโมทู ของเกาะโซโลมอน ทำให้บ้านเรือนประชาชน ที่อยู่ตามริมชายฝั่ง พังเสียหายไปกว่า 60 - 70 หลังคา ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 6 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ในขณะที่มีรายงานเพิ่มอีกว่ายังมีผู้สูญหายไปอีกหลายคน เนื่องจากถูกคลื่นสึนามิซัดหายไปและยังไม่รู้ชะตากรรมจนถึงขณะนี้

    [​IMG]

    สึนามิ1.5ม.ซัดโซโลมอนดับ6-หายหลายราย : INN News

    ปากีสถานน้ำท่วมหนักดับ 34 คน

    วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 18:49 น.

    [​IMG]

    ปากีสถานเผชิญน้ำท่วมอย่างรุนแรง ภายหลังฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 34 คน

    เจ้าหน้าที่ปากีสถานเปิดเผยวันนี้ว่า ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 34 คน ส่วนใหญ่อยู่บริเวณพรมแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือติดกับอัฟกานิสถาน โดยพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุด คือเมืองคีเบอร์ ปัคตุนควา มีผู้เสียชีวิตไป 25 คน และบาดเจ็บ 57 คน จากฝนที่ตกหนักจากวันอาทิตย์จนถึงวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากนี้ มีรายงานว่า ทหาร 3 นายสูญหาย หลังหิมะถล่มในเขตโลเวอร์ เดอร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ

    ปากีสถานมักเผชิญน้ำท่วมในช่วงฤดูมรสุม 3 ปีหลัง รวมทั้งปี 2553 ที่น้ำท่วมเป็นประวัติการณ์ คร่าชีวิตผู้คนเกือบ 1,800 ราย และสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน 21 ล้านคน

    ปากีสถานน้ำท่วมหนักดับ34คน | เดลินิวส์

    ที่มา http://palungjit.org/threads/warroo...พื่อรองรับสถานการณ์ปี-2013-a.288866/page-1295
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    "หนีนรก"ด้วยการไม่ละเมิดกรรมบถ ๑๐

    [​IMG]

    พระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)พระอรหันต์แห่งวัดท่าซุง เมตตาสอนว่า “ถึงแม้ว่าจะทรงสมาธิไม่ได้นาน ตามที่เรียกว่าขณิกสมาธินั้น แต่ถ้าสามารถทรง กรรมบถ ๑๐ ประการ ได้ครบถ้วน ท่านกล่าวว่า

    "เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ไม่ต้องไปเกิดในอบายภูมิอีกต่อไป บาปที่ทำไว้ตั้งแต่สมัยใดก็ตาม ไม่มีโอกาสนำไปลงโทษในอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น อีกต่อไป ถ้าบุญบารมีไม่มากกว่านี้ ตายจากคนไปเป็นเทวดาหรือพรหม เมื่อหมดบุญแล้วลงมาเกิดเป็นมนุษย์ จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ในชาตินั้น แต่ถ้าเร่งรัดการบำเพ็ญเพียรดี , รู้จักใช้ปัญญา อย่างมีเหตุผล ก็สามารถบรรลุมรรคผลเข้าถึงพระนิพพานได้ในชาตินี้"

    กรรมบถ ๑๐ ประการ

    ๑. ไม่ฆ่าสัตว์ หรือไม่ทรมานสัตว์ให้ได้รับความลำบาก
    ๒. ไม่ลักทรัพย์ คือไม่ถือเอาทรัพย์ของผู้อื่นที่เขาไม่ให้ด้วยความเต็มใจ
    ๓. ไม่ทำชู้ในบุตรภรรยาและสามีของผู้อื่น
    (ขอแถมนิดหนึ่ง ไม่ดื่มสุราและเมรัยที่ทำให้มึนเมาไร้สติ)
    ๔. ไม่พูดจาที่ไม่ตรงความเป็นจริง
    ๕. ไม่พูดวาจาหยาบคายให้สะเทือนใจผู้รับฟัง
    ๖. ไม่พูดส่อเสียด ยุให้รำตำให้รั่ว ทำให้ผู้อื่นแตกร้าวกัน
    ๗. ไม่พูดจาเพ้อเจ้อเหลวไหล
    ๘. ไม่คิดอยากได้ทรัพย์ของผู้อื่น ที่เจ้าของเขาไม่ยกให้
    ๙. ไม่คิดประทุษร้ายใคร คือไม่จองล้างจองผลาญเพื่อทำร้ายใคร
    ๑๐. เชื่อพระพุทธเจ้าและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของท่านด้วยดี

    หลวงพ่อฯแนะวิธีรักษากรรมบถ ๑๐ ประการ

    การที่จะทรงความดีเต็มระดับ ตามที่กล่าวมาให้ครบถ้วน ให้ปฏิบัติดังนี้

    ๑. คิดถึงความตาย ไว้ในขณะที่สมควร คือไม่ใช่ทุกลมหายใจเข้าออก เมื่อตื่นขึ้นใหม่ ๆ อารมณ์ใจยังเป็นสุข ก่อนที่จะเจริญภาวนาอย่างอื่น ให้คิดถึงความตายก่อน คิดว่าความตายอาจ จะเข้ามาถึงเราในวันนี้ก็ได้ จะตายเมื่อไรก็ตาม เราไม่ขอลงอบายภูมิ ที่เราจะไปคือ อย่างต่ำไปสวรรค์ , อย่างกลางไปพรหม ถ้าไม่เกินวิสัยแล้วขอไปนิพพานแห่งเดียว คิดว่าไปนิพพานเป็นที่ พอใจที่สุดของเรา

    ๒. คิดต่อไปว่า เมื่อความตายจะเข้ามาถึงเราจะเป็นเวลาใดก็ตาม เราขอยึดพระพุทธเจ้า พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต คือไม่สงสัยในความดีของพระพุทธเจ้า ยอมเคารพด้วยความศรัทธา คือความเชื่อถือในพระองค์ ขอปฏิบัติตามคำสอน คือกรรมบถ ๑๐ ประการโดยเคร่งครัด ถ้าความตายเข้ามาถึงเมื่อไร ขอไปนิพพานแห่งเดียว เมื่อนึกถึงความตายแล้ว ตั้งใจเคารพ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์สาวกแล้วตั้งใจ นึกถึงกรรมบถ ๑๐ ประการ ว่ามีอะไรบ้าง ตั้งใจจำ และพยายามปฏิบัติตามอย่าให้พลั้งพลาด

    คิด ติดตามข้อปฏิบัติเสมอว่า มีอะไรบ้าง ตั้งใจไว้เลยว่า วันนี้เราจะไม่ยอมละเมิดสิกขาบทใด สิกขาบทหนึ่งเป็นอันขาด เป็นธรรมดาอยู่เองการที่ระมัดระวังใหม่ๆ อาจจะมีการพลั้งพลาดพลั้งเผลอในระยะต้นๆ บ้างเป็นของธรรมดา แต่ถ้าตั้งใจระมัดระวังทุกๆวัน ไม่นานนักอย่างช้าไม่เกิน ๓ เดือน ก็สามารถรักษาได้ครบ มีอาการชินต่อการรักษาทุกสิกขาบท จะไม่มีการผิดพลาดโดยที่เจตนาเลย

    ที่มา หนีนรกด้วยกรรมบท 10 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1251211972.jpg
      1251211972.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.7 KB
      เปิดดู:
      947
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2013
  10. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
  11. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +2,752
    เวลานี้ความรักสามัคคีเมตราต่อกันเป็นสิ่งสำคัญ เราคอยติดตามสถานการณ์ แต่ไม่ได้หมายถึงอยากให้เกิด(เพราะเมื่อเกิดมีแต่ความสลด สูญเสีย) การให้อภัยเป็นการสร้างพลังงานในเชิงบวก หนักนิดเบาหน่อยอภัยให้กัน บอร์ดแห่งนี้จะได้มีแต่ความรู้สึกของความรักเมตรา ผู้อ่านพิจารณาด้วยสติ ลดความร้อนแรงเพื่อสันติสุขเถอะค่ะ...

    ขอให้ทุกๆ คนในบอร์ดนี้มีความสุขและปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งปวงค่ะ...
     
  12. kumpeang

    kumpeang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,984
    อย่า กระทบ กระเทียบ เสียดสี จนก่อวจีกรรมทางแป้นปาก แม้นมาดอวดอ้างว่าเรารู้มากกว่าเขา อันใบไม้หยิบมือมา เหลือในป่าอีกมากคณาเดา จงฟังความพึงพิจ พินิจเอา ดีเก็บเอา สิ่งใดเขลา ก็อย่าหยิบเข้าใส่หัวตัว...
     
  13. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    น่าจะหมายถึงรอบ 40 ปี ของที่ อ.เวียงแหง จ.เชียงราย จ้ะ ที่อื่นก็มีอยู่เรื่อยๆจริงๆ
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ฝันว่าโลกใบนี้แยกออกเป็น 2 โลก !!!

    [​IMG]

    waterydis สมาชิก

    ในฝันเรากลับไปอยู่ที่บ้านพ่อแม่ที่เมืองไทย เวลานั้นเป็นวันที่ 3 หลังจากเหตุการณ์โลกแยกไป 2 ใบ จุดศูยน์กลางโลกเพิ่งเริ่มแยกและค่อยๆ เลื่อนออกจากกัน ในวันที่ 3 นี้ทุกคนยังใช้ชีวิตค่อนข้างปรกติ เพราะยังพอมีอาหารอยู่ เราอยู่บ้านนอกด้วยมั้ง ยังพอหาผักหาปลามาทำกินตามประสาชาวบ้านได้ ส่วนบ้านเรานั้นไม่มีปัญหาอะไรมีข้าวอยู่หลายตัน

    ระหว่างโลก 2 ใบนี้ เราสามารถจะข้ามไปมาได้ จะใช้คำว่าข้ามก็ไม่ถูกนักเพราะแค่คิดว่าจะไปเราก็อยู่บนโลกนั้นแล้ว ทุกอย่างในโลกทั้ง 2 ใบเหมือนกันเป๊ะ (เพราะเพิ่งแยกออกจากกันมั้ง) แต่ที่แตกต่างกันคือในโลกใบที่ 2 เข้าได้เฉพาะบางคน ดังนั้นโลกใบที่ 2 นี้ว่างมาก เงียบสงบ มีอาหารสมบูรณ์ การเหาะเหิญเดินอากาศเป็นเรื่องปรกติ แล้วทุกคนที่เราพบเจอะดูเป็นมิตรมาก จะไปไหนมาไหนไม่ต้องกลัวใครมาทำร้าย เราไปๆ มาๆ ระหว่างโลก 2 ใบเพราะยังห่วงครอบครัวพี่น้องอยู่

    ตอนเย็นของวันที่ 3 หลังทานอาหารเสร็จ พ่อเราบอกให้เราเก็บอาหารที่เหลือและเอาไปทิ้งให้หมด เราก็งงเพราะอาหารจะคลาดแคลนน่าจะเก็บไว้ แล้วพ่อเราก็พูดว่า คิดหรือว่าเธอข้ามไปอีกมิติได้แค่คนเดียว ป๋าก็ข้ามไปได้ เราแอบตกใจเล็กน้อย แล้วพี่สาวกับหลานสาวก็มา แล้วก็ข้ามมิติให้ดู เราก็อ๊าว ถ้าข้ามได้แล้วเราจะมาห่วงทำไหม ว่าแล้วก็พากันข้ามไปอยู่อีกโลกหนึ่ง พ่อเราจากแก่ๆ อายุ 80 กลายเป็น 18 แต่ไม่เห็นมีใครตกใจอะไร เหมือนเข้าใจว่าเป็นเรื่องปรกติ พากันเหาะไปดูโน้นดูนี้แล้วก็ตื่น

    07-02-2013, 10:16 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ความฝัน-เทพสังหรณ์-สัญญานเตือนจากเบื้องบน.79471/page-170
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    นำบุญกุศลมาฝากญาติธรรมทุกท่านครับ !!!


    Aunyasit สมาชิก

    นำบุญกุศลมาฝากญาติธรรมทุกท่านครับ

    วันที่ 30 ม.ค.-3 ก.พ. 56 ได้ไปโปรดสัตว์(ปลดปล่อยวิญญาณ) และตามรอยหลวงปู่ทองทิพย์ ที่ภาคเหนือ เริ่มจาก จ. น่าน แพร่ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่(ถ้าเชียงดาว) เชียงราย(เชียงแสน) กับผู้ร่วมชะตากรรมอีก 10 คน

    เริ่มต้นที่ จ. น่าน ไปที่พุทธสถานลานปฏิบัติธรรมบ้านเมตตาธรรม และพระธาตุแช่แห้ง ไปแวะที่ พระธาตุช่อแฮ กับ พระธาตุจอมแจ้ง จ.แพร่ แวะสักการะแม่จามเทวี ที่จ.ลำพูน(ท่านบอกให้ไปแผ่กุศลที่กู่ช้างกู่ม้าและให้ความรู้เรื่องการสร้างบารมี) ไปภาวนาที่ ถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่ มีพลังเร้นลับมากมาย และกลางคืนไปภาวนาที่วัดเจดีย์หลวง พระธาตุผาเงา พระธาตุจอมแจ้ง(ดอยกิตติ)

    วันต่อมาไปแวะที่เวียงเชียงรุ้งและไปภาวนาที่ถ้ำผาจม(ที่หลวงพ่อทองทิพย์กับหลวงพ่อสายรุ้ง) โปรดพวกบังบดและพญานาคในแม่น้ำที่ไหลผ่านถ้ำผาจม ขากลับแวะสักการะพระธาตุหริภุญชัย ห่มผ้าจีวรพระเจ้าแดง ปลดปล่อยวิญญาณที่กู่ช้างกู่ม้า ไปภาวนาที่วัดพระเจ้าตาเขียว และแวะที่วัดพระพุทธบาทตากผ้า

    ไปภาวนาและโปรดสัตว์คราวนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเมตตาชี้แนะเรื่องต่างๆให้มากมาย และมีผลานิสงส์มากกว่าที่คิดมาก เพราะต้องอธิษฐานบารมีที่สร้างในยุคต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมาปลดปล่อยวิญญาณที่เกี่ยวข้องกันมา ในขณะเดียวกันสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านก็เปิดให้รู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องราวของอดีต ที่มีทั้งเรื่องราวที่ดีและไม่ดี และสิ่งที่ควรจะทำต่อยอดและสิ่งที่ควรจะแก้ไข สรุปก็คือครูบาอาจารย์ท่านพาไปดูแบบฐานของมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ที่กำลังสร้าง ก็จะรีบเร่งถมดินทำฐานเจดีย์หลังงานบุญมาฆบูชา

    ได้ความรู้ว่าพระธาตุบางที่ก็มีกระแสของพระโคดม บางที่ก็มีแต่เจดีย์เปล่า บางที่ก็มีแต่วิญญาณของผู้สร้าง พระพุทธรูปบางองค์ก็มีจิตวิญญาณของผู้สร้างอยู่ กรรมบางอย่างไม่ได้สร้างกับคนอย่างเดียว การทำบางอย่างก็เป็นกรรมกับพวกโอปะปาติกะ ไปโปรดสัตว์คราวนี้ท่านให้ย้อนไปได้ถึงยุคเชียงแสนเท่านั้น

    คิวต่อไปหลังจากงานบุญพระเหวดเสร็จแล้ว ครูบาอาจารย์ท่านให้เดินทางไปภาวนาโปรดสัตว์ที่ จ.อุตรดิตถ์( 2 ที่) จ.น่าน( 2 ที่) จ.พะเยา(หลายที่) เชียงราย (บริเวณเชียงแสน/สามเหลี่ยมทองคำ/เมืองเก่าสุวรรณโคมคำฝั่งประเทศลาว) รวมทั้งจะถือโอกาสบวงสรวงที่พระธาตุจอมแจ้ง บนดอยกิตติ ด้วย

    สิ่งสำคัญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านแนะนำให้ทุกครั้งที่มีโอกาสให้ถือศีล 8 บ่อยๆ เพราะการโปรดสัตว์นั้น ต้องอาศัยบารมีหลายด้าน การปลดปล่อยวิญญาณนั้นก็อาศัยบุญบารมีที่สั่งสมมาส่งเขาไปเกิดตามบุญกุศล ชี้แนะให้โอปะปาติกะเข้าใจถึงการปล่อยวาง บางครั้งที่เขาไปเกิดไม่ได้ ก็เป็นเพราะจิตวิญญาณเขายึดอยู่กับสิ่งต่างๆ หากเขาปล่อยวางก็สามารถจุติได้เลย ส่วนพวกโอปะปาติกะที่เกี่ยวข้องกันมาแต่บุญกุศลยังไม่พอที่จะจุติหรือด้วยเหตุผลอื่นๆ ท่านให้ส่งพวกเขาไปที่เรากำลังสร้างบารมี

    บุญกุศลใดๆที่เกิดจากการนี้ ก็ขอให้ถึงแก่ญาติธรรมผู้ใฝ่ในบุญกุศลทุกท่านครับ

    ในช่วงการเดินทางโปรดสัตว์ทางภาคเหนือ ทีแรกตั้งใจว่าจะแวะสักการะพระพุทธชินราช(ปู่ขาวมหาราช) แต่ด้วยเวลาไม่เอื้ออำนวยก็ตัดสินใจไม่แวะวัดใหญ่ เนื่องจากกลัวว่าจะถึงที่หมายมืดค่ำจะทำให้เสียกิจที่จะไปทำ เมื่อรถผ่านไปบนถนนทางแยกที่จะไปวัดใหญ่ ก็กำหนดจิตไปสักการะพระพุทธชินราช(ปู่ขาวมหาราช) ปู่ท่านก็ตอบรับกระแสมาอย่างแรง ก็เรียนท่านว่า ลูกมีเวลาไม่พอที่จะแวะสักการะ ขออนุญาตผ่านและเรียนถามท่านว่า เมืองสองแควนี้ลูกต้องไปโปรดสัตว์ที่ไหนและทำอย่างไรบ้าง

    ปู่ท่านบอกว่าที่เมืองสองแควนี้ลูกต้องมาบำเพ็ญภาวนา ถือศีล 8 ให้เขา 7 วันและให้เดินทางไปแผ่บุญกุศลตามที่ต่างๆ เมื่อถึงเวลาแล้วจะรู้ได้ด้วยตนเอง จากนั้นก็อธิษฐานบารมีปู่ท่าน ขอเปิดดูภูมิภายในของเมืองสองแคว ก็ได้รู้เห็นภาพในอดีตของเมืองสองแควที่ยังอลังการอยู่ ตามมาด้วยกระแสจากจิตวิญญาณชาวบ้านชาวเมืองในอดีต ที่ส่งกระแสว่ารอรับบุญกุศลอยู่ บางอย่างเป็นเรื่องของบารมีสัมพันธ์ เป็นปัจจัตตัง ครับ (ก็ต้องหาเวลาที่จะไปถือศีล 8 และแผ่กุศลให้เขา 7 วัน ที่จ.พิษณุโลก)

    ที่อนุสาวรีย์แม่จามเทวี จ.ลำพูน ไปภาวนาตอนกลางคืน ท่านก็อนุโมทนาในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ท่านบอกว่า......ลูกสร้างบารมีก้าวหน้าไปได้ดีเพราะลูกไม่ค่อยยึดติดในภพชาติ ในบ้านเมือง ในบริวาร ลูกจึงไปวนเกิดวนตายสร้างบารมีได้หลายรอบแล้ว ส่วนผู้ที่ยังห่วงบ้านห่วงเมือง ห่วงบริวาร เพราะสร้างบ้านแปงเมืองมาด้วยกัน เห็นว่าเขาลำบากอยู่ ก็ยังต้องวนเวียนอยู่ในบ้านเมืองคอยสงเคราะห์บริวาร ก็จะวนชาติเกิดตายได้น้อยชาติ เพราะจิตที่เป็นห่วงบริวาร......

    ที่เชียงแสน มีที่นึง ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่าในอดีตที่นี่ผมเคยสร้างกรรมที่ได้บูรณะเจดีย์(ขนาดใหญ่) แล้วได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปบรรจุไว้ในเจดีย์(ขนาดเล็ก)ที่สร้างขึ้นใหม่ เลยเป็นกรรมกับโอปะปาติกะที่ท่านเป็นผู้สร้างเจดีย์องค์แรกไว้ก่อน ตอนที่ไปถึงเจดีย์นั้นมีอาการเหมือนมีพลังบางอย่างอัดแน่นมาที่ตัว ทำให้อึดอัดทั้งๆที่สถานที่ลานรอบเจดีย์นั้นเป็นที่โล่งแจ้ง

    เมื่อพิจารณาดูเห็นว่ามีพวกโอปะปาติกะมาห้อมล้อมเต็มไปหมด ครูบาอาจารย์ท่านก็บอกเรื่องราวให้ทราบ จากนั้นท่านก็ให้ทำอโหสิกรรม ดูแล้วพวกโอปะปาติกะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ก็ยอมอโหสิแต่มีข้อแม้ว่าผมต้องบูรณะเจดีย์ที่นำพระบรมสารีริกธาตุไปบรรจุไว้แล้ว ก็อุทิศส่วนกุศลให้พวกเขาด้วย งานเข้าเลยทีนี้เพราะต้องหาทางบูรณะเจดีย์อีกงานนึง ญาติธรรมท่านใดทราบแหล่งที่ขายแผ่นทองจังโก้ก็ขอชี้แนะด้วยครับ

    มีเจดีย์บางสถานที่พวกยักษ์(ไม่ดี)เขาก็คุมเชิงอยู่ คนในคณะก็โดนดึงหงายหลังขณะนั่งสมาธิ พอรู้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร ยักษ์ก็เผ่นเลย ครูบาอาจารย์ท่านไม่ให้ตอแยกับพวกนี้ เพราะว่าจะเสียเวลาเปล่า ท่านว่าทุกอย่างไม่เที่ยง ที่เจริญก็เสื่อมถอย ที่เคยเสื่อมถอยก็สามารถกลับมาเจริญรุ่งเรืองได้อีก

    ไปโปรดสัตว์ทางฝั่งไทยนี่ไม่ต้องคอยระวังมาก หากไปทางฝั่งลาวบางที่และภูเขาควาย จะต้องระวังหน้าระวังหลังกว่านี้มาก ทางฝั่งนั้นมีแนวเร้นลับที่แรงๆเยอะ หากโปรดสัตว์ เคลียกรรมตนเองให้เบาบางลงทางฝั่งไทยแล้ว ครูบาอาจารย์ท่านจะให้ไปโปรดสัตว์ แถวสิบสองปันนาและบางที่ท่างตอนใต้ของจีน จากนั้นก็จะย้อนกลับไปสู่ยุคหลังพุทธกาลนิดหน่อย และรวมถึงยุคพุทธกาลอินเดีย(อยากไปดูสถานที่ที่เคยบวชและจำพรรษาในสมัยนั้น)

    จากนั้นท่านก็จะให้วนย้อนกลับสู่ยุคของพระกัสสโป พระโกนาคม พระกุกกุสันโธ เข้าใจว่าน่าวนเวียนอยู่แถบสุวรรณภูมินี้แหละ แต่จะตั้งต้นตรงไหน อย่างไร ก็ต้องรอกาลเวลา หากกาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอีก แต่ในวาระอันใกล้นี้ก็ต้องรีบเร่งโปรดสัตว์ให้ได้มากที่สุด ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ก่อนภัยต่างๆจะเกิดขึ้น

    สรุปว่าทุกอย่างเกิดจากกรรมทั้งสิ้น ดังนั้นให้ญาติธรรมผู้ใฝ่ในบุญกุศลทุกท่าน พึงสังวรระวังว่า ให้หลีกเลี่ยงในการทำอกุศลกรรมทุกอย่าง เพราะกรรมเหล่านี้จะเป็นตัวดึงให้เราล่าช้าในทุกๆเรื่อง รวมทั้งจะทำให้การปฏิบัติธรรมล่าช้าและการบรรลุธรรมก็ยากนานด้วยครับ

    08-02-2013, 03:45 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/เรียนทุกท่านที่ครอบครองแก้วพระรัตนตรัย.343175/page-28
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ฝันเห็นแต่เจ้าแม่กาลี ค่ะช่วงนี้ !!!

    [​IMG]

    interpoo สมาชิก

    เอิ๊กๆ ฝันเห็นแต่ เจ้าแม่กาลี ค่ะ ช่วงนี้ ก็ว่าจะบูชาซะเลยค่ะ ... เจ้าแม่กาลี... แหะๆ แต่คนในบ้าน กลัวกันหมด ครั้งแรกที่อ่านประวัติ เจ้าแม่กาลี... เลยเอามาลงให้ดู ทั้งๆ ที่ฝันเห็นตั้งหลายครั้งแล้วตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่เคยรู้ประวัติท่านเลย... เพราะทุกท่านที่เคยให้ปูเพ่งจิต คงจะรู้ว่า ปูจะไม่เพ่งดู พวกเทพ เทวดา ทั้งหลายแน่ๆ

    พระแม่กาลี

    ตามตำนานโบราณกล่าวว่าพระแม่อุมานั้นแต่เดิมเกิดขึ้นจากการที่พระศิวะใช้พระหัตถ์ข้างขวาลูบเบาๆ ที่กลางพระอุระดังนั้นพระแม่อุมาจึงจุติขึ้นจากกลางทรวงอกของพระศิวะ นั่นเอง แต่ในบางคัมภีร์ได้เล่าไว้ว่าพระอุมากำเนิดเป็นธิดาของพระทักษะประชาบดีพระอุมาในภาคนั้นมีพระนามว่า พระสตี เป็นชายาของมุนีภพคือพระศิวะ อีกภาคหนึ่ง

    พระแม่กาลีนี้ได้แบ่งภาคจากการบำเพ็ญตบะของพระอุมาเทวี โดยทรงมีจุดประสงค์เพื่อปราบอสูรตนหนึ่ง นามว่า อสูรทารุณ ความเป็นมามีว่า อสูรทารุณนี้แม้ว่าจะถูกฆ่าสักกี่ครั้งก็ไม่มีวันตาย แล้วที่สำคัญกว่านั้นเมื่อเลือดตกลงพื้นเมื่อใดก็จะทวีขึ้นเรื่อยไปไม่หมดสิ้น ความที่คิดว่ามีอิทธิฤทธิ์มากมายฆ่าไม่ตายจึงทำให้อสูรทารุณเกิดหลงผิดในความเก่งกาจของตนนำมาใช้ในการกลั่นแกล้ง รังแกผู้คน เทวดาทั่วไป สุดท้ายก็คิดได้ว่าเมื่อมีอำนาจขนาดนี้แล้วครองโลกทั้งสามเลยดีกว่า

    เมื่อเป็นดั่งนี้แล้วเหล่าเทวดา นางฟ้า ผู้ทรงศีลทั้งมวล จึงต้องนำเรื่องเข้าเฝ้าพระอิศวร เพื่อหาทางปราบอสูรทารุณ เหล่าเทวดาทั้งหลายเมื่อได้ฟังสรรพคุณของอสูรก็ไม่มีใครกล้าอาสาออกไปสู้รบเลย จนที่สุดจะทนองค์พระศรีมหาอุมาเทวี เทพสตรีแห่งสวรรค์ได้มีความประสงค์ที่จะออกปราบอสูรร้าย ซึ่งพระองค์ได้ขอพร ขอบารมีต่อองค์พระศิวะผู้เป็นเจ้า เพื่อให้ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ แล้วจึงเสด็จเพื่อบำเพ็ญตบะทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ให้มีฤทธิ์อำนาจปราบอสูรร้ายได้ โดยได้กระทำพิธีในอุทยานเขตแดนป่าหิมพานต์ โดยพระศรีมหาอุมาเทวีได้ทรงมอบหมายให้องค์ขันทกุมาร (พระสกันทะ) รับหน้าที่ดูแลไม่ให้ใครย่างกรายเข้าไปในบริเวณพิธีโดยเด็ดขาด

    เมื่อเวลาผ่านไปพระศิวะจึงทรงเสด็จเข้าไปในอุทยานเพื่อให้รู้แน่ว่าที่นั้นเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วพระองค์ก็พบกับพระขันทกุมาร โอรสองค์เล็กของพระองค์จึงทรงสอบถามว่าพระอุมาเทวีอยู่ที่ใด และจะขอเข้าพบ โอรสขันทกุมารเมื่อได้ฟังดังนั้นจึงกล่าวตอบไปด้วยความที่ได้ทรงรับคำสั่งจากพระอุมาเทวีก่อนเข้าบำเพ็ญตบะ ว่าไม่ให้ใครย่างกายเข้าสู่บริเวณพิธีโดยเด็ดขาดจึงทรงไม่สามารถให้องค์พระศิวรผ่านเข้าไปในพิธีได้ เมื่อเป็นดังนั้นจึงเกิดการโต้เถียงขั้น สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการต่อสู้ระหว่างองค์ขันทกุมารกับองค์พระอิศวร

    โดยฝ่ายพระอิศวรเป็นฝ่ายรุกไล่ และองค์ขันทกุมารเป็นฝ่ายล่าถอยและตั้งรับ เหตุการณ์ผ่านไปไม่นานนักก็ถึงเวลาที่พระอุมาเทวีทรงบำเพ็ญตบะจนเสร็จพิธีได้เสรด็จออกมา แต่สิ่งที่ปรากฏกลายเป็นรูปกายที่เปลี่ยนจากเดิมเป็นพระแม่กาลี ย้อนกลับถึงการต่อสู้เมื่อสู้จนผ่านมายังพระแม่กาลี องค์ขันทกุมารเมื่อเห็นพระแม่กาลีจึงตรงเข้าหาพระแม่ และเล่าถึงเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด โดยที่องค์ขันทกุมารเมื่อพบเห็นรูปกายพระแม่อุมาก็ทรงทราบได้ว่านี้คือพระแม่ของตน

    เมื่อได้ฟังคำจากโอรสองค์เล็กจึงเกิดอาการลืมตัวตาถลนออกนอกเบ้า หน้าตาดุดัน แลบลิ้นยาวน่าเกลียดหน้ากลัว ทำปากแบะกว้างเห็นเขี้ยวโง้ว มีเลือดไหลๆ ไหลจากมุมปากและตามมือและลำตัว ส่งกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่ว ตรงเข้าหาพระอิศวรทันทีด้วยความโมโหนัก เมื่อพระอิศวรทรงเห็นถึงกับผงะและตกใจกลัววิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ส่วนพระแม่กาลีก็ทรงไล่ตามเรื่อยจนพระอิศวรทรงพ้นจากเขตอุทยานไป พระแม่กาลีจึงทรงย้อนกลับไปหาพระขันทกุมาร ด้วยเห็นถึงความซื่อสัตย์ จงรักภักดี ไม่ยอมผิดคำสัตย์ที่พระองค์ทรงมอบหมายให้ถึงแม้นว่าจะเป็นถึงพระบิดาของตนก็ตาม เหตุการณ์นี้จึงเป็นที่ชื่นชมและทรงพอพระทัยยิ่งในโอรสของพระองค์

    จากนั้นพระแม่กาลีจึงรีบเสด็จออกจากอุทยานเพื่อตามล่าสังหารอสูรทารุณ ซึ่งไม่นานพระแม่กาลีก็ได้เผชิญหน้ากับอสูรทารุณ และด้วยฤทธิอำนาจของทั้ง 2 ฝ่าย การต่อสู้ที่ยาวนานจึงเกิดขึ้น ด้วยร่างกายที่แข็งแรงของพระแม่กาลีการต่อสู้จึงดำเนินไป และเป็นจังหวะที่พระแม่ทรงใช้ดาบฟันคอสูรขาด แต่แล้วเลือดของอสูรก็หยดลงพื้นแผ่นดินกลับกลายเป็นการกลับคืนชีวิตของอสูรร้ายตนนี้โดยไม่ว่าจะฆ่าฟันกี่ครั้งเลือดหยุดสู่พื้นก็บกลับเป็นอสูรเพิ่มทวีเรื่อยๆ เมื่อเป็นดังนี้ต่อไปคงไม่มีวันฆ่าอสูรตนนี้ให้ตายเป็นแน่

    พระแม่กาลีจึงคิดกลอุบายเพื่อเอาชัยชนะในครั้งนี้ให้ได้ โดยการตัดหัวอสูรพร้อมทั้งทรงดูดกินเลือดอสูรก่อนที่เลือดจะตกลงสู่พื้น เมื่อกินจนกระทั่งหมดสิ้นแล้วรูปกายของพระแม่กาลีถึงกับพุงกางด้วยความอิ่ม ในมือนั้นถือหัวของอสูรที่ตัดร้อยเป็นพวงไว้จนที่สุดของที่สุด อสูรตนนั้นจึงสิ้นฤทธิ์ลงเพราะไม่มีหยดเลือดหยดลงพื้นแล้วจึงสิ้นสุดลงเพียงนี้

    ด้วยความดีพระทัยในการได้รับชัยชนะในครั้งนี้ พระแม่กาลีจึงทรงเต้นรำอย่างสำราญฤทัยที่สุด จนลืมพระองค์ไป ทรงยกเท้าขึ้นสูงหมายจะกระทืบลงบพื้นโลก เหล่าเทวดาทั้งหลายเห็นแล้วก็กลัวว่าพระแม่กาลีจะกระทืบลงบนพื้นโลกเป็นแน่ จึงเข้าเฝ้าพระอิศวรเพื่อหาทางแก้ไขโดยทันการณ์ แล้วพระอิศวรจึงทรงตระหนักได้ว่าพระแม่กาลีที่รูปกายน่าเกลียดนั้นแท้จริงแล้วก็คือพระศรีมหาอุมาเทวี พระมเหสีแห่งพระองค์นั้นเอง

    เมื่อเป็นดังนี้พระแม่กาลีก็ย่อมต้องคิดตรงกับพระองค์เป็นแน่ว่าแท้จริงแล้วพระแม่กาลีก็ต้องทรงเกรงใจ และจดจำพระองค์ได้บ้างเป็นแน่ และแล้วพระอิศวรจึงเสด็จไปพบพระแม่กาลีและทรงลงไปนอนขวางพื้นโลกไว้ ในขณะที่พระแม่กาลีกำลังดีใจพร้อมจะกระทืบเท้าลงก็พรันต้องชะงักเมื่อมองเห็นพระอิศวรผู้สวามีลงไปนอนขวางแทนอยู่ พระแม่กาลีทรงมีความเกรงใจต่อพระอิศวรผู้เป็นสวามีอย่างที่สุดจึงไม่กล้ากระทืบลงพระอุระ และหยุดการกระทำนั้นลง เหล่าเทวดาทั้งหลายทั้งมวลจึงยกย่องพระอิศวร และแม่กาลี พากันศรัทธาในพระองค์ยิ่งขั้นจากการปราบอสูรร้าย และการแก้ไขเหตุการณ์ในครั้งนี้

    ทางรูปเคารพ และลักษณะศิลปะ

    พระแม่อุมายังมีอีกหลายภาคด้วยกัน เช่นภาคหนึ่งซึ่งเป็นภาคที่พระแม่อุมา ไม่ได้มีความสวยงามหมดจดงดงามดั่งภาคอื่นๆ แต่ในภาคของพระแม่กาลี นี้พระนางเป็นเทวีที่มีผิวพรรณดำสนิท มีวรกายอ้วนใหญ่ปล่อยผม สยายยาว ประบ่ามิได้รวบขึ้นรัดเกล้าไว้

    พระแม่กาลี มี 10 แขน มีอาวุธร้ายถืออยู่ในทั้ง 10 มือนั้น โดยอาวุธที่ใช้คือดาบ ที่ริมฝีปากและวรกายยังมีเลือดไหลหยดเป็นทางยาว และประดับเครื่องแต่งองค์อาภรณ์ไปด้วยสังวาลย์สายที่ร้อยไว้ด้วยหัวอสูรที่ร้อยไว้ดังพวงมาลา ตัดมาจากการฆ่าอีกทั้งยังมีงูตัวใหญ่ร้อยคาดองค์ดั่งสังวาลย์เช่นกัน

    มือหนึ่งใน 10 มือของเจ้าแม่กาลีนี้ได้ถือหัวกระโหลกบ้าง บางแห่งก็ว่าไว้ว่าถือหัวยักษ์ซึ่งตัดใหม่มีเลือดหยดเป็นรอยไหลเป็นทาง พระแม่กาลีในภาคนี้นั้นมี ความดุร้ายเหี้ยมโหดเป็นยิ่งนัก พระแม่โปรดที่จะเสวยเลือดและเห็นคนถูกฆ่าตายเพื่อบูชายัญอันเป็นการสักการบูชา พระแม่นั่นเอง

    06-02-2013, 01:27 PM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ปี56จะร้ายแรงเหมือนหลายๆคนพูดหรือไม่.320025/page-89
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2013
  17. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,982
    ผมขอเลือกศึกษาในสิ่งที่พระพุทธองค์สอนไว้นะครับ อย่างอื่น ขอปล่อยเลยไป หวังว่าคงไม่เข้าข่ายปรามาสนะครับ
     
  18. joyplayerman1

    joyplayerman1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +331



    ..........ขาดเงินสร้างเจดีย์อีกหรือครับ ขาดแหล่งซื้อหรือแหล่งเงิน..สมทบทุนสร้างโน่นสร้างนี่มาเยอะแยะแล้ว ยังไม่รู้แหล่งซื้อของอีกหรือครับ
     
  19. Rasbora

    Rasbora เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    359
    ค่าพลัง:
    +779
    ใยต้องกลัว น้บว่าเป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์แนะให้รู้ทันโลกสังคมป้จจุบัน
     
  20. kb 2500

    kb 2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +873
    ผู้ใดนำสื่อเสนอใดๆแก่มหาชนผู้รับฟัง อ่าน โดยสุจริต..ถูกต้องตามครรลองคลองธรรม หวังความเจริญดีงาม แก่ ปัญญา ความประพฤติอันดี ของชนเหล่านั้น ย่อมมีแต่เสียงอนุโมทนา
    ยินดีจากมนุษย์และสวรรค์..แต่ หากมีใจอันไม่สุจริต.. พามหาชน หลงโง่งม พาห่างจากธรรมอันประเสริฐ อันชนเหล่านั้นพึงได้.. อบายทุคติเป็นที่ไปแก่ผู้นั้นยามกายแตกดับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...