เหตุใด เจ้าแม่กวนอิม จึงฉันเจ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย makcloud, 4 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. makcloud

    makcloud เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    424
    ค่าพลัง:
    +535
    ขอออกตัวก่อนว่า "ไม่อยากให้เกิดเป็นข้อพิพาทระหว่างผู้กินทุกอย่างกับผู้กินเจและผู้กินมังสวิรัติ"
    ด้วยสงสัยว่า ในเมื่อเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ และมีตัวตนจริง "อ่านจากหลวงปู่ดู่" ขออภัยที่พาดพิงถึง
    ท่านก็น่าจะรู้ด้วยบุญบารมีของท่านว่า การกินเนื้อนั้นไม่เกี่ยวกับการได้บุญ หรือการบำเพ็ญเพียรบารมี แต่ทำไมท่านถึงได้ฉันเจ
    ด้วยความอยากรู้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการบำเพ็ญเพียรของเรา ๆ ท่าน ๆ แต่รู้ไว้ใช่จะเสียหายจริงหรือไม่
    ต้องขอออกตัวอีกครั้งว่า "ไม่อยากให้เกิดเป็นข้อพิพาทระหว่างผู้กินทุกอย่างกับผู้กินเจและผู้กินมังสวิรัติ"
    ฉะนั้นอย่าเกรียนใส่กัน หรืออย่าเทภูมิใส่กันเลยนะครับ เรา ๆ ท่าน ๆ ต่างก็มุ่งแสวงหาทางนิพพานด้วยกันทั้งนั้น
    ขอบคุณครับ
     
  2. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    ต้องตอบว่า ไม่รู้ เกิดไม่ทัน
    และตำราที่ว่ากันไว้ ต่างๆก็ไม่รู้จะคลาดเคลื่อนหรือไม่....
    จึงตั้งตนเป็นศาสดาจอมปลอม วิเคราะห์(เดี๋ยวก็มีศิษย์ผูกกรรมกันมา...เชื่อ ฮา)ดังนี้
    เมื่อนิกายพุทธ แตกออกจากเถรวาท ไปเป็น "มหายาน" ว่าไปโน่น....
    ...นิกายทางนี้ จะเชื่อในพระพุทธเจ้าหลายองค์ พระโพธิสัตว์หลายองค์..
    ...มหายานนี้ แตกแขนงไปอีก20กว่าสายโน่น....(เถรวาท 10 กว่าสาย)
    ...ศีลข้อ ห้ามฆ่าสัตว์นั้น มีเหมือนกันแน่นอน....
    แต่วิธี รักษาศีล และ ปฏิบัติ จะต่างกันไปในแต่ละแขนง....
    กุศโลบายเอย คติเอย จะถูกนำมาใช้ปฏิบัติ เช่น ก่อนที่จะบรรลุธรรม ก็จะใช้อุบายทรมานกายใจ ด้วยการกินผัก เพื่อสติในการเลี่ยงหรือ สนับสนุนการฆ่า...
    แต่เมื่อบรรลุธรรมแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะกินผักตลอดไปในการทรงสังขาร หรือ กินก็ได้ อาจถือเป็นวาสนา(สันดานเดิม เคยชิน) ดังนั้น เจ้าแม่ เมื่อบรรลุธรรม ท่านก็ใช้วาสนาเดิมตอนเป็นมนุษย์ กินเจ กินผักว่ากันไป และแม้ท่านละสังขารไปนิพพาน สาวกทำเจ ทำผักถวาย ท่านก็ฉันท์ตามวาสนาเดิมตอนเป็นมนุษย์ ตอนทรงธาตุขันธ์ ก็ได้
    นี่เป็นความเห็นทางธรรม
    แต่ถ้าตำราบางที่เล่าเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง การอุทิศถวายฯลฯนั่นจริงเท็จเราไม่รู้ในประเพณีนี้ ...
    ..ที่เล่ามาน่าจะใกล้เคียง เพราะผมสันนิษฐานจากวัตรปฏิบัติของพระอาจารย์มั่นฯพระป่าขนาดวาระจิตรู้ว่าจะละสังขาร ท่านยังออกกุศโลบายให้หามท่านไปแดนกันดาร เพื่อหลีกเลี่ยงการฆ่าสัตว์ในงานของท่าน...นี่ พระอรหันต์จิตละเอียดถึงปานนี้...จิตเจ้าแม่ก็เช่นกัน กุศโลบายที่ท่านทำกินเจนั้น เพื่อให้สาวกหลีกเลี่ยงการฆ่าเช่นกัน สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2013
  3. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    การไม่กินเนื้อสัตว์ เอื้อต่อการทำสมาธิของนักปฏิบัติระดับเบื้องต้น ทำให้นิวรณ์รบกวนลดน้อยลง ทำให้จิตเป็นสมาธิได้ง่ายขึ้น

    และการไม่เบียดเบียนสัตว์อื่นๆ ทำให้จิตใจมีเมตตา แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับการหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสารโดยตรง
    แต่จะทำให้จิตมีสภาพอ่อนโยน พร้อมที่จะรับฟังธรรมะ และพร้อมที่จะปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นได้ง่ายกว่าจิตที่มีสภาวะหยาบและไม่มีเมตตา ครับ

    ทั้งนี้ ไม่ได้แปลว่า การกินเนื้อสัตว์ทำให้จิตในหยาบ หรือไม่มีเมตตา หากกินโดยพิจารณาเพียงว่าเป็นธาตุ 4 ย่อมไม่มีติดข้องอะไร
    แต่หากการกินเนื้อสัตว์ถ้ากินแบบติดข้องเป็นกิเลส จะทำให้มีสิ่งบดบังจิต มีนิวรณ์ มีกิเลสหนามากขึ้นกว่าเดิม ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2013
  4. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ไม่รู้ครับ ต้องพยายามหาวิธีไปถามท่านเองครับ
     
  5. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    คงเพราะเมื่อก่อนอาหารการกินหาลำบาก เลยต้องกินพืชกินผักที่หาได้ง่ายๆครับ
     
  6. Dacky14K

    Dacky14K Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +70
    ไม่ใช่เฉพาะเจ้าแม่กวนอิมหรอกครับที่ฉันเจ พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ก็ล้วนฉันเจทั้งสิ้น เพราะท่านเข้าใจในหลักสัจธรรมแล้ว ศากยมุนีพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเคยตรัสธรรมะสอนว่า คนเราทุกคนนั้นเกิดมานับชาติไม่ถ้วน เป็นหมื่นๆแสนชาติๆ ทุกชาติล้วนต่างมี พ่อ แม่ พี่ น้อง ทุกๆชาติ ไม่ว่าจะเกิดเป็นสัตว์หรือมนุษย์ก็ต่างก็มีพ่อแม่ทุกชาติ แล้วไม่ใช่เพียงชาติเดียวแน่นอนที่ได้เกิดมาด้วยความผูกพันธ์กรรม ซึ่งกันและกัน ก็จะวนเวียนสลับกัน เกิดเป็น แม่ บ้าง ลูกบ้าง พ่อบ้าง สลับกันไป พระพุทธองค์ตรัสว่าไม่สัตว์ตัวไหนเลยที่ไม่เคยเกิดเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง ของเรา แม้แต่สัตว์ที่เราเลี้ยงในบ้านของเรานั้นสังเกตุไหมว่า ทำไมบางตัวถึงได้มีความผูกพันธ์ กับเราเหลือเกิน เมื่อเหล่าพุทธะ โพธิสัตว์ทั้งหลายทรงตระหนักถึงหลักธรรมข้อนี้ และด้วยความเมตตาที่เต็มเปี่ยม จึงไม่สามารถที่จะฉันเนื้อของ พ่อ แม่ พี่ น้อง ของเราได้
    ผู้น้อยนั้นไม่กลัวว่าจะถูกประนามหรือขัดข้องเพียงใด สิ่งที่ผู้น้อยพิมพ์ลงนั้นจริงหรือไม่จริง ท่านทั้งหลาย จงใช้ปัญญาของท่านพิจารณาเองได้
    ของถามว่า ถ้าท่านละกายสังขารแล้วไปเกิดเป็นเทวดา ท่านยังจะมีเนื้อให้กินบนสวรรค์อีกหรือไม่ จะมีหมูสวรรค์ ไ่ก่สวรรค์ให้ท่านกินไหม เคยคิดไหมทำไมบนสวรรค์ถึงมีการกินเพียงผลไม้ทิพย์เท่านั้น พวกท่านจะทนได้หรือไม่ หากขึ้นสวรรค์ไป หมื่นๆปี แสนปีๆ แล้วไม่ได้กินเนื้อสัตว์เลย
    พระพุทธะโพธิสัตว์ทั้งหลายทุกภพทุกชาติล้านไม่กินเนื้อสัตว์ แม่แต่ศากยมนีพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ท่านวนเกิดเป็นมนุษย์และเป็นพระโพธิสัตว์สลับกันอยู่หลายชาติ จนได้เวลาอันถึงพร้อมทรงเลือกที่จะจุติลงมาเกิดในตระกูลศากยมุนี ในประเทศเนปาล ซึ่งเป็นตระกูลมังสวิรัติ ซึ่งท่านสามารถศึกษาได้ว่าถึงแม้ตระกูลศากมุนีจะถูกฆ่าล้างตระกูลในสมัยพุทธการ แต่ก็ยังคงเหลือสายเลือดตระกูลนี้อยู่ในสมัยปัจจุบัน และยังคงกินมังสวิรัติกันทั้งตระกูลตลอดมาอย่างเคร่งครัด
    ท่านลองใช้ปัญญาดูเถิดว่าพระพุทธเจ้าบรมครูเองของจักรวาล ทรงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาน ล้วงรู้ทุกสิ่ง มองเห็นถึงกรรมแห่ง สรรพสัตว์อย่างทะลุปรุโปร่งหลายชาติ รู้ว่าสัตว์นั้นเคยเกิดเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ของพระพุทธองค์ทั้งสิ้นไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่ง พระองค์จะฉันลงได้อย่างไร
    ด้วยเหตุนี้พระพุทธองค์จึงประกาศศีลข้อแรกของศีลทั้งหมดคือการไม่เบียดเบียนสัวต์ ไม่ใช่เฉพาะการไม่ฆ่าเท่านั้น จึงจะเรียกว่าไม่เบียดเบียนสัตว์
    หากยังมีคนกินก็จะมีคนฆ่าอยู่วันยังค่ำ ไม่เพียงพระพุทธองค์เท่านั้นที่รู้ถึงเรื่องนี้ดี พวกท่านเองก็ต้องรู้ด้วยเช่นกันว่าทุกวันนี้ฆ่ากันมากถึงเพียงไรก่อนจะมาเป็นอาหารให้ท่านทั้งหลายได้กิน
    ท่านจะปฏิเสธด้วยการทำเป็นว่าไม่รู้ไม่เห็นว่าเข้าฆ่ามาให้เรากินหรือไม่ได้อย่างไร ในเมื่อสัตว์นั้นเกิดมาใช้กรรมแต่ต้องถูกฆ่ามาเป็นอาหาร
    เวนัยสัตว์ทั้งหลายทั้งหมดทั้งสิ้นล้วนมีจิตญาน สัตว์มีโอกาศที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์ในภพใดภพหนึ่งข้างหน้า คนจะมีโอกาศที่จะเกิดไปเป็นสัตว์ในภพใดภพหนึ่งข้างหน้าเช่นกัน
    ท่านลองใช้ปัญญาคิดดูว่าสมมุติมีคนมาฆ่าท่านให้ตายจิตของท่านจะต้องเคียดแค้นคนที่ฆ่าท่านรอวันที่กรรมจะสนองแกคนที่ฆ่าท่าน ด้วยท่านยังมีจิตญานถึงแม้ตัวตายแต่จิตใจยังอยู่ยังจำความแค้นได้ หากสมมุติว่าชาตินี้ท่านเกิดเป็นหมูบ้าง มีคนมาฆ่าท่าน สัตว์นั้นมีความอาฆาต อยากจะไม่น้อยกว่าคนด้วยซ้ำไป มีคนฆ่า และคนเอาไปกิน ท่านจะเลือกจองล้างเฉพาะคนที่ฆ่า หรือคนที่กินท่านด้วย ท่านจะแค้นไหม หากมีคนมากินท่านแต่ไม่ได้ฆ่า
    ท่านรู้หรือไม่ว่ามีชนผ่าที่อยู่ตามขั่วโลกน้ำแข็งต่างๆเข้าไม่มีอาหารอะไรนอกจากเนื้อสัตว์ประเภทปลา หรืออย่างอื่นแถบนั้น อายุเฉลี่ยของคนเหล่านั้นมีเพียง 24-27 ปีก็แก่ตายแล้ว แต่ในมุมโลกต่างๆมีหลายที่ ที่ไม่มีเนื้อกินด้วยภูมิประเทศที่ไม่มีสัตว์ให้กิน มีเพียงพืชผักผลไม้เท่านั้นให้กิน อายุเฉลี่ยของคนเหล่านั้น 100 ปีขึ้นไปถึงจะแก่ตาย หากใครแก่ตายก่อนอายุ 100 ปีพวกเขาจะถือว่าอายุช่างสั้นจริงๆ
    นั้นก็ป็นเพราะด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ได้อธิบายสรีระของสัตว์ต่างๆใ้อย่างชัดเจน โดยแบ่งประเภทออกเป็นสัตว์กินพืชและสัตว์กินเนื้อ โดยผู้น้อยจะขออธิบายโดยยกตัวอย่างเพียง 2 ประการคือ
    1.ฟัน ฟันของสัตว์กินเนื้อนั้นจะเป็นเขี้ยว(ยกตัวอย่างเช่นสุนัข เสือ)ไว้ใช้กิดและฉีกดึงอาหารและไม่สามารถที่จะเคี้ยวได้ละเอียดจึงต้องรีบกลืนเข้าไป ส่วนฟันของสัตว์กินพืชนั้นจะเรียวตัวกันชิดไม่มีเขี้ยวใช้ในการบดอาหารได้อย่างละเอียด(ยกตัวอย่างเช่นวัว ควาย มนุษย์) ถ้าให้สัตว์ที่มีฟันประเภทนี้ไปกัดแล้วฉีกเนื้อสดๆจจะทำได้ยากเพราะการใช้งานที่ผิดประเภท และถ้านำเนื้อไปให้สัตว์ที่มีฟันประเภทนี้กินมันก็จะไม่กิน
    2.ลำใส้ ล้ำใส้ของสัตว์ที่กินเนื้อนั้นจะมีขนาดสั้น เพียง3-4เท่าของกระดูกสันหลังเพราะจะต้องรับขับถ่ายของเสียที่เป็นเนื้อเพราะมันจะเน่าอย่างรวดเร็ว สังเกตุว่าขี้ของสัตว์เหล่านี้จะมีกลิ่นที่แรงมาก
    ส่วนลำใส้ของสัตว์กินพืชจะมีความยาวมากกว่า 20 เท่าของกระดูกสันหลัง สมารถเก็บอาหารให้ย่อยได้นานจนละเอียด แต่ถ้าหากินเนื้อเข้าไปมันจะใช้เวลาในการขับถ่ายนานมาก กว่าจะเดินทางมาถึงทางออกเนิ้อก็จะเกิดอาการเน่าอยู่ในท้องไปแล้วจะทำให้เกิดอาการต่างๆตามมา
    ทั้งหมดนี้ผู้น้อยอยากให้ท่านลองใช้ปัญญาของท่านพิจารณาเองเถิดว่าเป็นจริงดังนั้นหรือไม่แล้วแต่พวกท่านเองเถิดผู้น้อยมีเพียงจิตหนึ่งใจเดียวอยากถ่ายทอดหลักสัจจธรรมความจริงของธรรมะเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่นแอบแฝงแต่อย่างใด
    ผู้น้อยนั้น ทุกภพทุกชาติขอติดตามเหล่าพระพุทธโพธิสัตว์จุติปรกโปรดเวนัยสัตว์ด้วยปณิธาน เวนัยสัตว์โปรดสิ้นจึงน้อมรับโพธิญาน






















    convertisseur youtube
     
  7. rukmac

    rukmac เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +377
    ผมนับถือพระแม่กวนอิมครับ ทานมังสวิรัตน์บ้าง+เจบ้าง ส่วนภรรยาผมก็ทานเนื้อตามปกติ เราก็รักกันดีครับ ไม่ยึดปล่อยวางมีสุขครับ
     
  8. มองภายใน

    มองภายใน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +188
    ถาม พระพุทธเจ้าของเราห้ามภิกษุ พุทธสาวก พุทธบริษัท ฉันหรือกินเนื้อสัตว์หรือไม่ หรือว่าห้ามกินเนื้อบางชนิดเท่านั้น

    ตอบ พระพุทธเจ้ามิได้ทรงห้ามภิกษุฉันเนื้อสัตว์เลย แม้พระองค์เองก็เสวยเนื้อสัตว์ที่มีผู้ปรุงถวาย แต่จะไม่เสวยและฉันเนื้อที่ไม่บริสุทธิ์โดยส่วน ๓ คือที่ได้เห็น(คือได้เห็นว่าเขาฆ่ามาเพื่อเราโดยเฉพาะ) ได้ยิน(คือได้ยินมาว่าเขาจะฆ่าเนื้อนั้นมาให้เรา) และที่รังเกียจ(คือนึกสงสัยว่าเนื้อนี้ฆ่ามาเพื่อเราหรือไม่และเป็นเนื้อสัตว์อะไร)กับเนื้อต้องห้าม ๑๐ อย่าง มีเนื้อมนุษย์เป็นต้น ตามที่ได้กล่าวแล้วในปัญหาข้อต้นๆ เพราะถ้าทรงห้ามแล้ว พระองค์ก็คงจะไม่ทรงอนุญาตให้ภิกษุฉันปลาและเนื้อตามที่พระเทวทัตทูลขอวัตถุ ๕ ประการแล้ว
    นั่นคือ พระเทวทัตขอมิให้ภิกษุฉันปลาและเนื้อจนตลอดชีวิต แต่พระพุทธองค์มิได้ทรงอนุญาตตามที่ท่านพระเทวทัตขอ เพราะฉะนั้นจึงเป็นอันว่าภิกษุฉันปลาและเนื้อได้ หรือท่านใดไม่ฉันก็ได้ ใครพอใจอย่างใดก็ทำอย่างนั้น แม้พุทธบริษัท หรือใครก็ตาม พระองค์ก็มิได้ทรงห้ามการกินปลากินเนื้อ ทรงสอนแต่มิให้ฆ่าสัตว์เองหรือสั่งให้ผู้อื่นฆ่าเท่านั้น แต่มิได้ทรงห้ามไปถึงการกินปลากินเนื้อที่มิได้ฆ่าเอง หรือสั่งเขาฆ่าเพื่อตน เพราะการฆ่าหรือการสั่งให้เขาฆ่า ไม่ว่าจะเพื่อกินเองหรือเพื่อเอาไปทำบุญถวายพระ ก็เป็นบาปกรรมล่วงศีลข้อปาณาติบาตทั้งสิ้น
    ใน อามคันธสูตร อรรถกถาก็ได้เล่าถึงดาบสพวกหนึ่งที่ถือว่า ปลาและเนื้อเป็นกลิ่นดิบ ไม่ควรบริโภค แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ปลาและเนื้อไม่ใช่กลิ่นดิบ แต่กิเลสทั้งปวงที่เป็นบาปเป็นอกุศลต่างหาก ชื่อว่าเป็นกลิ่นดิบ
    สรุปว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงห้ามการฉันปลาและเนื้อ ทั้งพระองค์และภิกษุก็ฉันปลาและเนื้อที่เป็นกัปปิยะ คือไม่ผิดวินัยบัญญัติ เป็นของสมควรบริโภค อันได้แก่ปลาและเนื้อที่บริสุทธิ์โดยส่วนสาม อันได้กล่าวมาแล้ว กับไม่ฉันเนื้อที่ต้องห้าม ๑๐ ชนิด เว้นจากนี้แล้วก็ฉันได้ ไม่มีข้อขัดข้องประการใด

    ________________________________________
    ที่มา อ้างอิง และแนะนำ :-

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗

    ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต

    อามคันธสูตร
    http://www.84000.org/tipitaka/book/v.php?B=25&A=7747&Z=7809



    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๗ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗

    จุลวรรค ภาค ๒

    เรื่องวัตถุ ๕ ประการ

    พระเทวทัตทูลขอวัตถุ ๕ ประการ

    พระเทวทัตโฆษณาวัตถุ ๕ ประการ
    http://www.84000.org/tipitaka/book/v.php?B=7&A=3770&Z=3863



    พระไตรปิฏก เล่มที่ ๕ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕


    มหาวรรค ภาค ๒


    พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อมนุษย์ เป็นต้น
    http://www.84000.org/tipitaka/book/v.php?B=5&A=1372&Z=1508


    เรื่องสีหะเสนาบดี
    http://www.84000.org/tipitaka/book/v.php?B=5&A=1924&Z=2100
     
  9. มองภายใน

    มองภายใน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +188
    ดังนั้นคือแล้วแต่จริตของคนที่ปฏิบัติครับ
     
  10. Dacky14K

    Dacky14K Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +70
    ผู้น้อยขออนุโมทนาบุญกับท่าน มองภายในด้วย
    เมื่อก่อนผู้น้อยเองก็ทราบมาแบบเดียวกันกับท่าน
    ท่านสามารถบรรลุอรหันต์และกลับพระนิพพานด้วยหลักธรรมที่ท่านปฏิบัติอยู่นี้หากท่านต้องการชาตินี้หรืออีกไม่กี่ชาติที่ท่านตั้งใจท่านจะสำเร็จแน่นอนผู้น้อยไม่สงสัยเลย
    ผู้น้อยเองก็เคยคิดที่จะนิพพานชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายเช่นกัน
    แต่ภาระหน้าที่ของเรายังไม่หมดยังมีเวนัยสัตว์อีกมากมายที่ยังหลงอยู่กับโลกโลกีย์นี้บางคนนั้นไม่รู้หลักสัจธรรมคืออะไรด้วยซ้ำ ท่านเคยห่วงครอบครัวของท่านหรือไม่ว่าจะมีชะตากรรมเช่นไร เพราะสวรรค์ หรือพรหม ก็มิใช่ที่ปลอดภัยตลอดกาล มีเพียงพระนิพพานเท่านั้น
    ด้วยเหตุนี้ผู้น้อยจึงขอตั้งปณิธาน
    ทุกภพทุกชาติขอติดตามเหล่าพระพุทธโพธิสัตว์จุติปกโปรดเวนัยสัตว์ด้วยปณิธาน
    ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณพระศรีอริยเมตไตรยเปลี่ยนโลกโลกีย์เป็นวังบัวบาน
    ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณพระโพธิสัตว์กวนอิมโปรดไม่สิ้นเวนัยสัตว์ในทะเลทุกข์ปฏิญาณไม่บรรลุพุทธะ
    ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณพระพุทธกษิติครรภ์นรกภูมิไม่ว่างปฏิญาณไม่บรรลุพุทธะ
    ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณพระมัญชุศรีโพธิสัตว์อยู่ฉุดช่วยเวนัยสัตว์บรรลุธรรมในแดนโลกีย์มิยอมบรรลุพุทธตลอดกาล
    ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ปฏิบัติในมหามรรคญาณ มหาปฏิปธา 10
    ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณพระพุทธจี้กงโปรดไม่สิ้นเวนัยสัตว์ในสามภพปฏิญาณไม่บรรลุพุทธะ
    ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณพระโพธิสัตว์จันทรปัญญาโปรดไม่สิ้นเวนัยสัตว์ในสามภพปฏิญาณไม่บรรลุพุทธะ
    ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณท้าวสักกะเทวราชเทพเจ้ากวนอู อยู่ร่วมแตกดับพร้อมฟ้าดิินด้วยจิตใจห้าวหาญเด็จเดี่ยวโปรดสิ้นสาธุชนทั้งชายหญิง
    พิทักษ์องค์การฟ้า ปกป้องวงการธรรม รักษามัชฌิมาปฏิปทาการบำเพ็ญคุณธรรมบารมีที่ได้สั่งสมมาทุกภพทุกชาติขออุทิศแก่เวนัยสัตว์ในภูมิวิถีหก ทั้งสามภพสิบทิศอีกทั้งบิดรมารดาแล้วผู้มีพระคุณที่ได้ล่วงเกิน
     
  11. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    เรื่องการฆ่านี่ พุทธ ทั้งเถรวาทและมหายานไม่ค่อยเคร่ง
    แต่ลัทธิเชนนั่นเคร่งมากๆ ขนาดมีแซ่ใช้เวลาเดิน กลัวไปเหยียบสัตว์เล็ก แม้ไม่มีเจตนาก็ตามที...
    พระเทวทัติ ท่านก็"สุดโต่ง"ไปหน่อยเรื่องฆ่านี้ แม้เสวยบาปไปแล้ว แต่บุญบารมีของท่านก็ต้องได้กลับมาเป็นใหญ่ในธรรมได้ในอนาคตอันไกลโพ้น
    ที่แท้แล้ว ธรรมะของพระพุทธองค์เรื่องฆ่านี้ จะลงในองค์รวมของทางสายกลางนั่นเอง...สาธุ
     
  12. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    พระโพธิสัตว์ท่านต้องผ่านช่วงกินเจ
     
  13. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    ตรงนี้ เราเห็นด้วยนะ
    เราคิดว่าคนที่เลิกเนื้อสัตว์นานๆ น่าจะเหมือนกันคือ ไม่มีอาการ อยากอาหารอร่อยๆ (ถ้ามีบ้างก็คงน้อย) ประมาณว่า อะไรก็ได้ กินๆ ไปให้หายหิว อาการน้ำลายสอ จะไม่มี เวลาได้เห็นหรือได้กลิ่นอาหาร

    แต่ไม่ได้หมายความว่า คนที่เลิกเนื้อสัตว์จะปฎิบัติได้ดีเสมอไป หรือคนทานเนื้อสัตว์จะปฎิบัติได้ด้อยกว่า คนเลิกทาน

    เท่าที่เคยฟังมา คือ มหายาน เน้นเมตตากรุณา ทางเถรวาท เน้นหลุดพ้นด้วยตัวเอง แต่ทั้งนี้ จุดมุ่งหมายเดียวกันคือ นิพพาน

    ซึ่งการไม่ทานเนื้อสัตว์จะได้เมตตา/ทานบารมี (อาจจะไม่ถูกใจใครค่ะ คำตอบ แต่ตรงนี้ ได้มาจากเจ้าอาวาสท่านนึง ที่เราส่งสังฆทานไป เพราะคิดว่า โปรตีนเกษตรสามารถเก็บได้นาน ส่งได้จำนวนมาก และราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์) แต่ท่านก็ไม่เน้นว่า ห้ามส่งเนื้อสัตว์ เพราะส่งไป พระ/สามเณรท่านอื่นฉันได้ เราก็ได้บุญเหมือนกัน

    ส่วนการกินเจ ห้ามผักฉุน เกี่ยวข้องกับการดับคาวของเนื้อสัตว์ หากไม่กินเนื้อสัตว์ ผักฉุนจะมีอันตรายกับอวัยวะต่างๆนะค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2013

แชร์หน้านี้

Loading...