การจัดแสงมาตราฐานในการพิจารณา"พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์นิยม"

เนื่องจาก"พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์นิยม"เป็นพิมพ์ท่ีถูกสร้างข้ึนโดยหลวงวิจารณ์ ความต้ืนลึก หนักเบา และความลาดเอียงท่ีปรากฏบนแม่พิมพ์ หากใช้หลักการพิจารณา"พุทธศิลป์" ลักษณะลีลา ท่าทาง โดยใช้แสงเป็นตัวช่วย ในการพิจารณาเพ่ือให้เป็นไปตาม มาตราฐานเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแสงธรรมชาติจากดวงอาทิตย์ หรือจากหลอดไฟฟ้า
-จัดให้แสงเข้าทาง"ขวามือ ขององค์พระ"(ด้านซ้ายมือเรา)องศาท่ี10-11นาฬิกา ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณา จากองค์จริง หรือภาพถ่าย เพ่ือป้องกันความผิดเพี้ยน จนบางท่านอาจมองเป็นผิดพิมพ์ได้ ฉะน้ันการถ่ายภาพ"พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์นิยม"ทุกคร้ัง ต้องจัดให้แสงเข้าตามท่ีได้กล่าวมา หากปฎิบัติตามแล้ว ภาพท่ีออกมาพิจารณาแล้วมีความผิดเพี้ยน ท่านสามารถตั้งข้อสงสัยได้ว่าเป็น"พระสมเด็จ"ไม่แท้"ในเบ้ืองต้นครับ.
หมายเหตุ ให้ท่านพิจารณาเปรียบเทียบ จากภาพถ่าย"พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์นิยม"องค์ดังระดับประเทศ ได้ทุกองค์ครับ ขอแสดงภาพตัวอย่าง การจัดให้แสงเข้าทางด้านมาตราฐาน จะเห็นได้ว่าเป็นแม่พิมพ์เดียวกันกับ"พระสมเด็จวัดระฆัง"(องค์อธิบดี)ครับ และน่ีคือการพิจารณาแยกพิมพ์ โดยใช้แสงเป็นตัวช่วย(สำหรับแม่พิมพ์ของหลวงวิจารณ์)
"พิมพ์เดียวกัน แต่คนละเนื้อ"

 

จริงๆเราพิจารณาไม่ไช่แค่แสง
องค์ประกอบที่ใช้พิจารณาพระสมเด็จ. ผมสรุปออกเป็น 3 ข้อครับ
อายุ
พิมพ์
เนื้อ
ข้อมูลข้อเดียวถือว่าไม่แท้ครับ แสงทำให้เห็นทุกอย่างแต่องศาเป็นสิ่งที่ทำให้พิมพ์ออกมาดูโอเค
อายุและเนื้อหาไม่ต้องตรงองศาก็ดูออกครับ
ขอแค่เวลาอัพรูป เซฟไฟลล์ใหญ่ๆ ไปฟากที่เวบที่รับฝากรูปแล้วมาโพสในเว็บอีกที
จะช่วงลดภาระserverของเว็บครับ

 

รัศมีแห่งการปกป้องคุ้มภัย ท่ีมีประสิทธิภาพเต็ม 100%ต้องประกอบไปด้วย
1.ดำเนินชีวิตไปตามปรกติ ภายใต้ความคิดท่ีดี และกระทำแต่ความดี
2.วางรากฐานแห่งชีวิตโดยใช้ศีล 5 เป็นตัวพยุง และใช้เป็นกำแพงต้าน
3.เจริญ"พระธรรมคาถา"เป็นกิจนิสัย เสมือนหน่ึงมีครูบาอาจารย์ อยู่ใกล้ชิดตลอดเวลา
4.เสริมบุญ สร้างบารมี เพ่ิมเติมทุกคร้ัง เม่ือมีโอกาส
เพียงเท่านี้"พระสมเด็จ"ของทุกๆท่านก็จะทรงพลัง และเข้มขลังอยู่ตลอดเวลา
หมายเหตุ กรณีสำคัญท่ีไม่ได้ยกมาเป็นข้อๆคือ"ความกตัญญู"ต่อ"บุพการี ในท่ีนี้หมายความถึง"บิดา มารดา"ซ่ึงทุกๆท่านต้องมีกันอยู่แล้ว ข้อน้ีสำคัญมาก และจะมีผลต่อพลังแห่งการปกป้องคุ้มภัย(จะเส่ือม หรือหยุดชะงัก)ลงทันทีหากท่านไม่มี"ความกตัญญู"
คลิกท่ีรูปเพื่อดูภาพขยาย จะเห็นได้ชัดว่าเป็นพระท่ีเคยอยู่ใน"กรุ"มาก่อน ตอนได้มาใหม่ๆ ข้าพเจ้าล้างคราบดินเหนียวท่ีติดองค์พระมาด้วยน้ำร้อน องค์จริงบางมาก,งองุ้มมาด้านหน้า,เน้ือแกร่งมากๆ กระทบกับกระจกแผ่นหนาๆ หรือหินอ่อนเสียงดังกริ๊งๆเลยครับ ข้าพเจ้าลองนับปีที่นำบรรจุกรุ ปี 2413 และเริ่มทยอยออกจากกรุครั้งแรกประมาณปี 2425 จะได้ระยะเวลา 12 ปี ซึ่งข้าพเจ้าได้สันนิษฐาน"พระสมเด็จ"องค์นี้ของข้าพเจ้าน่าจะอยู่ในกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นสภาพผิว คราบกรุอ่อนๆ ลักษณะความบาง โค้งงอ และความแห้งสนิทของเนื้อพื้น(แห้งกำลังสวย)จึงขอจัดให้อยู่ในโซน"พิมพ์ใหญ่ตื้น"(เนื้อแก่ปูน+มวลสารน้อย)และเป็นยุคแรกของการ"ตกเบ็ด"ใช้เวลาอยู่ในกรุเพียง 12 ปี ออกจากกรุในปี 2425 ประกอบกับองค์"พระสมเด็จบางขุนพรหม"ของข้าพเจ้ามีทั้ง"ความบาง"และมี"ขนาดเล็ก"กว่า"พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่"ขนาดมาตราฐาน ซึ่งก็ไปสอดคล้องกับระยะเวลา และจำนวนการสร้างที่มีการกำหนดไว้ถึง 84,000 องค์ เพื่อให้ครบตามวัตถุประสงค์ และสร้างเสร็จทันเวลาที่ได้กำหนดไว้ โดยคณะผู้จัดสร้างในยุคนั้นครับ ขอเสริมความเป็น"พระสมเด็จบางขุนพรหม"อีก2ข้อคือ มีพระพักตร์รูปไข่ และไม่มีพระกรรณ ครับ.
"พระสมเด็จบางขุนพรหม"(กรุเก่า)

 

"การยอมรับความเป็นจริง"เป็นส่ิงสำคัญอีกประการหน่ึง ในการพิจารณาแยก"เก๊,แท้"ได้ดี และมีประโยชน์เดินหน้าต่อการพัฒนาความรู้ ความชำนาญ ด้าน"พระสมเด็จ"
-"พระสมเด็จ"ท่ีผ่านการพิจารณาตรวจสอบ จากผู้ชำนาญการ จนถึงท่ีสุดแล้วผลออกมา"ไม่ผ่าน"ท่านต้องให้การ"ยอมรับ"
-อย่าดึงดัน ชักแม่น้ำท้ังห้า ออกลูกนักเลงหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง น่ันคือการลำทายอนาคตของตัวท่าน
-ไม่ออกตัว(ขายต่อ,แลกเปล่ียน)ในกรณีท่ีท่านพลาดโดน"พระเก๊"มา ไม่ว่าจะเช่ามาแพงขนาดไหน(กลืนเลือด)
-เก็บไว้เป็นกรณีศึกษาได้ดีท่ีสุด โดยการเผยแพร่ออกสู่สาธารณะชน เพ่ือเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลัง ในการพิจารณาแยก"เก๊,แท้"
-นำข้อมูลทุกองค์ความรู้ ของบรรดาอาจารย์ทุกท่าน แล้วใส่ลงใน"องค์พระสมเด็จ"ท่ีกำลังพิจารณาอยู่ทุกคร้ัง
-อย่าท้อถอย มุ่งหน้าศึกษาต่อไป"เล่นพระสมเด็จ เสร็จทุกราย"เพราะยังไม่ถึงเวลา ท่ีท่านจะม่ันใจ และไม่เคยระลึกถึง ครูบาอาจารย์ เลยต่างหาก
"พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เจดีย์ชลูด"

 

"การยอมรับความเป็นจริง"เป็นส่ิงสำคัญอีกประการหน่ึง ในการพิจารณาแยก"เก๊,แท้"

จะเป็นจริงเมื่อท่านนำไปใช้ครับ

 

ฝากพิจารณาด้วยครับ เผื่อจะหลงทาง

 

เรียนท่านสมาชิก มืดบอด เอาเป็นว่าร่วมกันศึกษาดีกว่าครับ เพ่ือนสมาชิกท่านใด มีความรู้ชัด ขอคำแนะนำ เพื่อประโยชน์ในกรณีศึกษาร่วมกันด้วยครับ องค์น้ีพึ่งได้มาเหมือนกันครับ ให้ท่านสมาชิกลองสังเกตุดูนะครับ เรายังคงให้แสงเข้าทางด้านขวา ขององค์พระอยู่จะเห็นได้ว่าเป็นประเภท"เน้ือจัด"(แก่น้ำมัน ตังอ๊ิว)ครับ.
"พระสมเด็จเกศไชโยพิมพ์7ช้ัน"(หูประบ่า)

 

ท่ีน้ีเราลองมาชมภาพ"คราบกรุ"เล็กๆแบบธรรมชาติ ท่ีพอจะหาได้ หากสมาชิกท่านใดทราบข้อมูลเชิงลึกท่ีชัดเจนกว่าน้ี ก็ขอความกรุณาเพ่ือเป็นประโยชน์ร่วมกันด้วยครับ จากภาพเป็น"พระสมเด็จ"สร้างลงกรุโดยหลวงตาพัน ปี02
"พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ปรกโพธิ์เม็ด"

 

สภาพพ้ืนผิวเน้ือ"พระสมเด็จวัดระฆัง"องค์น้ีอยู่ใน"รัก"มาเป็นเวลานาน(เป็นรัก ชนิดหนา ลงท่ัวท้ังองค์)ผมลงมือล้างรัก ด้วยตัวเอง แต่ก็สามารถทำได้เพียงเท่าน้ี จัดให้แสงเข้าทางขวามือ ขององค์พระ(ซ้ายมือเรา)องศาท่ี10-11 นาฬิกา ก็ยังสามารถพิจารณา"พุทธศิลป์"บนองค์พระมีลักษณะ เอียง(โย้)ซ้าย เบ่ียงขวา,แขนข้างขวา กางออกเล็กน้อย,แขนด้านในซ้ายเป็น เส้นตรง ส่วนด้านนอกเป็น เส้นวงเล็บ,มีลักษณะการม้วนตัว บ่งบอกถึงความเก่าถึงยุค, มุมด้านซ้ายบนขององค์พระ มีพ้ืนท่ีน้อยกว่ามุมด้านขวาบน ขององค์พระ,มุมฐานช้ันล่างขวามือ ขององค์พระมีเส้นแหลมว่ิงเข้ามุม,มุมล่างขวาของเส้นซุ้มมีลักษณะ"พับเข้ามุม",เส้นซุ้มครอบแก้วท่ี อวบ ใหญ่ หนา และเส้นหูขวาท่ีคมชัด แสดงถึงความเป็น"เอกอุ"ของ"พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่"องค์น้ี
"พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่"(แม่พิมพ์ท่ี 1)

 

กด like หนึ่งล้านครั้ง

 

เพ่ือนสมาชิกทุกท่าน สามารถแสดงความคิดเห็นได้ ไม่ว่าท่านจะมีความคิดเห็นอย่างไรก็ขอให้"ใจท่าน มีแต่ความสุข"และนำเสนอแต่ส่ิงท่ีดีๆส่ิงท่ีเป็นประโยชน์ร่วมกันต่อไปครับ การต้ังกระทู้,การนำเสนอภาพ,การเขียนข้อความบรรยายตามภาพ มันเป็นการ"การันตี"โดยอัตโนมัติ อยู่แล้วครับท่าน ผมใช้ช่ือจริง นามสกุลจริง ท่ีอยู่จริง จะหนีความรับผิดชอบไปใหนไม่ได้อยู่แล้ว ผมมีอย่างไร ก็นำเสนอให้ดูอย่างน้ัน ท่านสมาชิกมีสิทธิทุกอย่างท่ีจะไม่เห็นด้วย อยู่ด้วยกันด้วยความสบายใจเถอะครับ ยอมรับทุกความคิดเห็นครับ.
ก็ขอฝากภาพ"พระสมเด็จ" เน้ือเก่าถึงยุคอีกองค์หน่ึง เคยมีคนจะขอเช่าให้ได้เม่ือ 10 ปีท่ีแล้ว ต้ังแต่นั้นผมก็ไม่เคยให้ใครชมอีกเลย พ่ึงจะมาลงรูปให้ชมกันท่ี"เว็บพลังจิต"น่ีแหละครับ

 

"พระเน้ือครู"คำนี้ ไม่จำเป็นท่ีจะต้องเป็นพระท่ีอยู่ใน สกุลเดียวกัน ขอยกตัวอย่างเช่น"พระเล็บมือข้างเม็ด"เน้ือผงพุทธคุณ ยุคต้นของหลวงพ่อกวย มีส่วนผสมของผง และช้ินส่วนเล็กๆของ"พระสมเด็จบางขุนพรหม"กรุเก่าท่ีชำรุด แตกหักอยู่มาก พิจารณาแล้วสามารถใช้เป็น"เน้ือครู"แทน"พระสมเด็จบางขุนพรหม"กรุเก่า ได้เป็นอย่างดี หาง่าย และราคาถูกกว่ากันมาก
"พระพิมพ์เล็บมือข้างเม็ด"(ยุคต้น)

 

ขอแสดงภาพด้านหน้า และด้านหลัง"พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่"(หลังสังขยา)ซึ่งเป็นภาพที่ถ่ายจากองค์จริง ทั้งด้านหน้่า และด้านหลัง องค์นี้แหละครับที่ได้มาเพราะความซื่อสัตย์ ซึ่งข้าพเจ้าได้ทำการล้าง"รัก"ออกจากองค์พระในภายหลัง แต่ก็ทำได้เพียงเท่านี้ คือเรื่องมีอยู่ว่า ได้ไปช่วยเพื่อนคัด"พระเครื่อง"จำนวนหลักพันองค์ขึ้นไป เนื่องจากเจ้าของ"พระเครื่อง"ทั้งหมดซึ่งเป็น"พ่อตา"ของเพื่อนได้เสียชีวิตลงอย่างกระทันหันด้วยอาการ"มรณัง สุขัง"(เป็นการตายอย่างมีความสุข)คือหลับไปตามปรกติ แล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย ใน"พระเครื่อง"ทั้งหมดมี"พระสมเด็จวัดระฆัง"(พิมพ์ใหญ่) ชนิดลง"รัก"ทั่วทั้งองค์อยู่ 1 องค์ ซึ่งข้าพเจ้าก็ได้บอกเพื่อนไปตามความเป็นจริง สุดท้ายเพื่อนก็ให้มาแบบง่ายๆครับ เป็นบุญของข้าพเจ้าจริงๆ แม่ยายเพื่อนเล่าให้ฟังว่า"พระสมเด็จ"องค์นี้เพื่อนร่วมธุรกิจของพ่อตา นำมาค้ำเช็คเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งพ่อตาก็ดู"พระสมเด็จ"ไม่เป็น โดยท่านเห็นแก่ความเป็นเพื่อนที่ทำธุรกิจร่วมกันอยู่ย่าน"สำเหร่"และนี่ก็คือประวัติความเป็นมาของ
"พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่"(หลังสังขยา)

 

อยู่ว่างๆไม่รู้จะทำอะไร ผมจึงหยิบ"เลนส์"ส่องพระติดกาว2หน้า นำไปต่อกับ"เลนส์"ของiPad4ทดลองถ่ายภาพ"มาโคร"ระยะใกล้ แต่เสียดายจริงๆถ่ายภาพ"พระสมเด็จ"ไม่ได้(เพราะมีขนาดใหญ่เกินไป)จึงทดลองถ่ายภาพ"พระซุ้มกอพิมพ์ขนมเปี๊ยะ"มาฝากเพ่ือนสมาชิก ให้ได้ดูเน้ือกันแบบสดๆจะๆ ทีแรกก็นึกว่าภาพท่ีออกมาจะไม่ดีครับ ลองพิจารณาดู เป็นพระล้างผิวครับ.
"พระซุ้มกอพิมพ์ขนมเป๊ียะ"คลิกท่ีภาพครับ
(ภาพน้ีจัดให้แสงเข้าทางด้านซ้าย ขององค์พระ)

 

อยู่ว่างๆไม่รู้จะทำอะไร ผมจึงหยิบ"เลนส์"ส่องพระติดกาว2หน้า นำไปต่อกับ"เลนส์"ของiPad4ทดลองถ่ายภาพ"มาโคร"ระยะใกล้ แต่เสียดายจริงๆถ่ายภาพ"พระสมเด็จ"ไม่ได้(เพราะมีขนาดใหญ่เกินไป)จึงทดลองถ่ายภาพ"พระวัดพลับพิมพ์พุงป่องใหญ่"มาฝากเพ่ือนสมาชิก ให้ได้ดูเน้ือกันแบบสดๆจะๆ ทีแรกก็นึกว่าภาพท่ีออกมาจะไม่ดีครับ ลองพิจารณาดูนะครับ
"พระวัดพลับ"พิมพ์พุงป่องใหญ่ คลิกท่ีภาพ เพ่ือดูภาพขนาดใหญ่ครับ
(ภาพน้ีจัดให้แสงเข้าทางด้าน"ซ้ายมือ"ขององค์พระ)

 

"พระสมเด็จวังหน้า"พิมพ์แปลกตาองค์นี้ ตะไบทองเยอะมากเป็นพิเศษ ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง

 

จัดให้แสงเข้าทางด้านขวามือ ขององค์พระ(องศาท่ี 10-11 นาฬิกา)ก็ยังใช้การได้ดีสำหรับการถ่ายภาพ"พระเคร่ือง"ในสกุลอ่ืน นอกเหนือจาก"พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์นิยม"ซ่ึงพระเคร่ืองในสกุล"เน้ือชิน,เน้ือตะกั่ว"นี้ ข้าพเจ้ามีความ"อ่อนด้อย"ในเร่ือง การพิจารณาแยก(เก๊,แท้)แต่ก็ได้รับความกรุณาจาก ท่านอาจารย์โอ๋ สะพาน และท่านสมาชิก9S ช่วยพิจารณาให้จึงขอนำภาพมาให้เพ่ือนสมาชิกทุกท่าน ได้ชมกัน
"พิมพ์ประภามณฑล"(ข้างอุ)หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

 

"เน้ือเทียนชัย หรือเน้ือขนมเข่ง"หนึ่งใน12เน้ือพ้ืน"สายวัดระฆัง"ท่ีกำลังจะถูกลืม นำมาให้ชมกันครับ เน้ือลักษณะน้ีจะดู"ความเก่า"ได้ยาก แค่โดนแสงแดดเน้ือก็ใสเป็นกระจกแล้ว แต่ไม่ถึงกับละลาย เพราะมีส่วนผสมของ"ปูนเปลือกหอย และผงพุทธคุณ"พิมพ์คมชัด พุทธศิลป์สวยงาม
-พระกรรณข้างขวาขององค์พระ อยู่ห่างแก้ม และเป็นเส้นตรง
-พระเกศเรียวเล็ก และยาว
-เส้นซุ้มครอบแก้ว จะใหญ่ และหนา
-แขนหักศอก ตั้งฉากทั้งสองข้าง
-มีลักษณะคล้าย"พระสมเด็จบางขุนพรหม"(พิมพ์ฐานคู่)
"พิมพ์ฐานแซม"พิมพ์ที่ 4