จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. phiung_ay

    phiung_ay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +895
    ขออนุโมทนากับจิตบุญ 126 และครูผู้สอนทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ ^^
     
  2. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    ขออนุโมทนา กับ จิตบุญดวงที่ ๑๒๖ และครูผู้สอนทุกๆท่านด้วยนะค่ะ:cool::cool:
     
  3. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับจิตบุญน้องใหม่ดวงที่ 126 แล้วจ้าาา พร้อมทั้งขออนุโมทนาบุญกับครูผู้สอนทุกท่านด้วยจ้า..:cool::cool:

    ปล.จะเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจค่ะเนี่ย สมแล้วที่เป็นจิตบุญ 126 ต้อนรับศกใหม่ปี 2556...ลงท้าย 6 เหมือนกันเลย..อิๆๆ..เยี่ยมๆๆ..:cool:
     
  4. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สวัสดีปีใหม่ค่ะ คุณพี่พอใจ หายยยยย...ไปนานเลยนะค่ะ กลับมาพร้อมเพลงที่แสนจะไพเราะเพราะพริ้งเหมือนเดิม...แสดงว่าไอ้ที่เคยคิดๆ ทุกข์ๆ อยู่นั้น มันตกตะกอนหายไปพร้อมกับปีเก่าแล้วใช่มั้ยค่ะ..อิๆๆ..ดีใจด้วยค่ะ สาธุ ({)({)({)
     
  5. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    วันนี้จะกล่าวถึง ประสบการณ์ที่ผู้เขียนจะเล่าตอนไปบวชเนกขัมมะที่วัดสายของปู่ชา ที่อยู่อังกฤษ เพราะที่อังกฤษวัดที่เป็นสายหลวงปู่ชามีอยู่ ๔ สาขา แต่ผู้เขียนได้ไปบวชที่สาขาใกล้บ้าน และที่นั้นก็มี แม่ชี แต่เป็นคนฝรั่งเศล และก็มี หมาซึ้งเป็นหมาที่แก่เลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเล็กๆตอนนี้หมาของแก่ ก็มีอายุ ๑๓ ปีแล้วก็จัดว่าค้อนข้างจะแก่มากเพราะหมาก็จะมีอายุอย่างมากก็ไม่เกิน ๒o ปี และตอนบ่ายของทุกๆวันเราก็จะไปเดินอยู่บนเขา ซึ้งเป็นฟาร์มอยู่รอบๆและเป็นฟาร์มที่เขาเลี้ยงแกะ เพราะจะปลูกอะไรไม่ได้ก็มีแต่หญ้าและเขาก็จะเลี้ยงแกะขาย และก็จะเต็มไปด้วยแกะอยู่ติดกับเขตวัด ซึ้งมีเนื้อที่๗oกว่าไร่ และหมาของแม่ชี ก็ไปด้วยทุกครั้ง และก่อนผู้เขียนจะไปบวช บังเอิญแกะของFarmer เขาได้ตายไปโดยไม่รู้สาเหตุแต่ผู้เขียนก็เพิ่งทราบตอนเหตุเกิด เพราะขณะเราไปเดินหมาของแม่ชีได้หายไปไม่ได้เดินตามเราเแต่จะหายไปโดยเขาก็จะหลบหนี้ไป กินซากศพของแกะที่เคยได้กิน คือ เกิดติดใจในรสชาติของแกะที่ตายไปแล้ว และพอแม่ชีเกิดเอ้ะใจว่าหมาหายไปไหนแก่ก็จะวิ่งไปที่ตรงแกะตาย ตอนแรกผู้เขียนก็ไม่ได้คิดอะไร ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของ"สัตว์เดรัจฉาน" ก็ชอบของเหม็นตามนิสัยของเขา เขาจึงต้องมาเกิดเป็นหมา ผู้เขียนก็เริ่มจะสังเกตุพฤติกรรมของหมาตัวนี้ และอีกวันใหม่เราไปเดินอีก มันก็จะไปอีก คราวนี้ผู้เขียนก็เลยนึกถึง "ธรรมะของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร" ท่านเคยกล่าวไว้ตอนหนึ่ง ว่า ตอนท่านคิดจะสึกเพราะมีความรัก เกิดขึ้น แล้วตอนนั้นท่านก็ได้อยู่ กับหลวงปู่มั่น และหลวงปู่มั่นท่านก็ กล่าวเป็นนัยว่า "จะกลับไปเป็นหมาที่ติดในรสชาติของกระดูก ก็ตามใจนะ" และหลวงปู่ทานก็ได้นําธรรมะนั้นมาพิจารณาตัวเองจนเข้าใจเป็นท่องแท้ และท่านก็ไม่ต้องการจะมา เวีนยว่าย ตาย เกิดอีก และท่านก็ไม่คิดจะสึกอีกเลย และผู้เขียน ก็ได้นํามาเล่าเพื่อหวังว่าเป็นคติที่ดีสําหรับนักปฏิบัติที่ปรารถนาความหลุดพ้นเพราะเราผู้ปฏิบัติก็ไม่อยากจะกลับมาเกิดอีก เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเราได้เคยเกิดเป็นอะไรมาบ้างแล้ว จึงขอให้ผู้อ่านทุกๆท่านจงได้เป็นผู้หลุดพ้นจากการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย และก็ให้ท่านพ้นจากทุกข์ทั้งปวงด้วยเทอญ.
     
  6. ทิวลิปขาว

    ทิวลิปขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +1,555
    อนุโมทนา สาธุจิตบุญใหม126 ขอให้มีความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไปทั้งทางโลกทางธรรมด้วยเทอญ
    และร่วมอนุโมทนาครุๆทุกท่านด้วยค่ะ
     
  7. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    กราบอนุโมทนากับจิตบุญดวงที่๑๒๕และ๑๒๖และครูผู้สอนทุกท่านด้วยค่ะ
     
  8. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    ฟังเสียงพี่พอใจแล้วเย็นใจดีจังเลย:cool:
     
  9. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    นิพพานเปรียบเทียบ

    ก็และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) องค์นี้ พูดธรรมสากัจฉากันในที่สมภารต่างๆ ถ้ามีผู้ถาม ถามขึ้นว่า คำที่เรียกว่า นิพพานๆ นั้น บางคนเป็นนักแปล ก็แปลตามศัพท์ ว่า ดับ บ้าง ออกจากเครื่องร้อยรัด บ้าง แปลว่าเกิดแล้วไม่ตายบ้าง ตายแล้วไม่มาเกิดบ้าง ดับจากกิเลสบ้าง ดับไม่มีเศษเป็นนิรินทพินาสบ้าง เลยไม่บอกถิ่นฐานเป็นทางเดียวกัน จะยังกันและกันให้ได้ความรู้จักพระนิพพานเป็นเงาๆ หรือรู้รางรางบ้างก็ทั้งยาก จึงพากันหารือสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ในเรื่องใคร่รู้จักนิพพาน สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ท่านว่าท่าก็ไม่รู้แห่ง แต่จะช่วยชี้แจงอุปมาเปรียบเทียบให้รู้และเข้าใจเอาเอง ตามเหตุแลผล เทียบเทียมได้บ้างว่า นิพพานจะรู้ได้อย่างไร ท่านอุปไมยด้วยหญิงสองคนพี่น้องจ้องคิดปรารภปรารมภ์อยู่แต่การมีผัว อุตส่าห์อาบน้ำทาขมิ้น นุ่งผ้าใหม่ ผัดหน้า หวีผมแปร้ ก็ประสงค์ความรักให้เกิดกับชายผู้แลเห็น จะได้มาสู่ขอเป็นสามีเท่านั้น ครั้นล่วงมาก็สบโชคสบช่องของคนพี่สาว มีผู้มีชื่อมีหน้ามาขอ ได้ตกลงแต่งงานร่วมห้องร่วมหอกันแล้ว หญิงผู้ที่เป็นนางน้องสาวก็มาเยี่ยม แล้วตั้งหน้าวิงวอนเซ้าซี้ซักถามว่า พี่จ๋า การที่พี่หลับนอนกับผัวนั้น มีรสมีชาติครึกครื้นสนุกสนานชื่นบานเป็นประการใด จงบอกให้ฉันรู้บ้าง นางพี่สาวก็ไม่รู้แห่งจะนำความรื่นรมย์สมสนิทด้วยสามีนั้น ออกมาตีแผ่เปิดเผยให้น้องสาวสม รู้ตาม เห็นตามในความรื่นรมย์แห่งโลกสันนิวาสได้ นางพี่สาวก็ได้แต่บอกว่า น้องมีผัวบ้างน้องจะรู้เอง ไม่ต้องถามเอาเรื่องกับพี่หรอก ครั้นอยู่มาไม่ช้านาน นางผู้เป็นน้องสาวได้สามีแล้ว ไปหาพี่สาวๆ ถามว่าการหลับนอนรมย์รื่นชื่นใจกับผัว น้องมีความรู้สึกว่าเป็นเช่นไร ลองเล่าบอกออกความให้พี่เข้าใจบ้างซี แม่น้อง นางน้องสาวฉอเลาะตอบพี่สาวทันทีว่า พี่ไม่ต้องเยาะ ไม่ต้องเยาะ และพี่น้องคู่นั้นก็นั่งสำรวล หัวเราะกันตามฐานที่รู้รสสังวาสเสมอกัน ข้ออุปมานี้ฉันใดก็ดี พระโยคาวจรกุลบุตร มีความมุ่งหมายจะออกจากชาติจากภพ เบื่อหน่ายโลกสันนิวาส เห็นว่าเป็นหม้อต้มหรือเรือนอันไฟไหม้ คิดจะออกจะหนีให้พ้น ก็ทำความพยายามแข็งข้อ ถกเขมรจะเผ่นข้ามให้พ้นจากหม้อต้มสัตว์ และเรือนไฟอันไหม้ลุกลาม ก็เตรียมตัวทำศีลให้บริสุทธิ์ ปราศจากโทษเศร้าหมอง ทำสมาธิตั้งใจตรง จงใจทำสัมมะถะกัมมัฏฐาน ทำปัญญาให้เป็นวิปัสสนาญาณอย่างยิ่งยอด ตัดสังโยชน์ให้ขาดเด็ดแล้วด้วยมีดคมกล้า กล่าวคือ โคตรภูญาณ อนุโลมญาณ มรรคญาณ ทำช่องให้เวิ้งว้างเห็นแสงสว่างปรากฏพระโยคาวจรกุลบุตรก็กำหนดดวงจิต จิตวางอารมณ์วางสัญญา วางอุปาทานเครื่องยึดถือ ทำลายเครื่องกั้นทั้ง ๕ ละวางได้ขาด ประกอบองค์ ๕ คือ วิตก วิจารณ์ ปิติ สุข เอกกคตา ฟอกใจ คราวนี้ก็กอปรด้วยวิสุทธิ ๗ เมื่อวิสุทธิ ๗ ประการผุดขึ้นแล้ว พระโยคาวจรกุลบุตรก็มาละวิตก ละวิจารณ์ ละปิติ ละสุข ละเอกกคตา เหลือแต่อุเบกขาญาณ ดำเนินไปอุเบกขาญาณ มีองค์ ๖ ประการ เป็นพื้น มโนธาตุ ก็กลายเป็นอัพยากฤตไม่ติดบุญ ไม่ติดบาป ต่อไป จะยังมีลมหายใจหรือหมดลมหายใจ มโนธาตุก็ตั้งอยู่ตามตำแหน่ง ไม่เข้าสิงในเบญจขันธ์ต่อไป เรียดว่า ธรรมธาตุ บริสุทธิ์จำเพาะตน เรียกว่า พระนิพพาน ท่านผู้ใด ผู้ถึง ท่านรู้กันว่าเป็นเอกันตบรมสุข ไม่ระคนปนด้วยทุกข์ต่อไป ท่านไม่ต้องซักถามเซ้าซี้ เช่นหญิงทั้ง ๒ ดังสำแดงมา
     
  10. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอโมทนาบุญกับคุณแป้น วนิดา จบ.126
    โมทนาสาธุกับครูน้องหนู ครูน้อง และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน
    ของขวัญปีใหม่สำหรับพวกเราจริงๆ ถือว่าฤกษ์ดีมากครับ
    สาธุๆๆ
     
  11. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    โมทนาสาธุกับน้องดาวด้วยนะครับ
    (นายแน่มาก..อิอิ)
    ขอโทษครูทั้งหลายด้วยที่ไม่ได้ขออนุญาต ไหนๆ จิตบุญคือจิตพุทธะ
    ไหนๆ ตั้งใจที่จะเป็นจิตอนัตตา ก็เลยวัดกำลังใจกันคราวนี้แหล่ะน่ะ
    ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ครูจิตเกาะพระทั้งหลายได้กลายเป็นดารา Youtube โดยไม่รู้ตัว
    โดยเฉพาะคุณวิทย์ คุณลูกพลัง คุณอัญญะมณี คุณปาราเมศ คุณแนท คุณพอใจ คุณวัฒโจโจ คุณวันดี
    คุณอภิชัย คุณพ่อแม่ของคุณอภิชัย ครูจิตบุญทุกท่านและท่านที่ไปร่วมงานสัมมนาจิตเกาะพระสัญญจร ครั้งพิเศษ

    ชาวคณะจิตเกาะพระสัญญจร ก็ยังมีความปรารถนาดีที่จะจัดขึ้นทุกๆเดือนตลอดไป ถ้าไม่ติดขัดอะไรนะครับ

    ถึงอย่างไร ก็ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
    และจะปรับปรุง แก้ไขให้ดียิ่งๆขึ้นไป

    ขออภัยและขอน้อมรับทุกคำติ-ชม
    ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ที่ให้ความสนใจเรื่อง จิตเกาะพระ
    ภูทยานฌาน2
     
  12. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    อยากจะไปนิพพาน

    ผู้ที่มากราบนมัสการหลวงปู่ดู่หลายๆ คน มาถึงก็แจ้งความประสงค์กับหลวงปู่ ปรารถนาไม่เกิด อยากไปนิพพานในชาตินี้ จะได้พ้นทุกข์ บางคนก็ตั้งเจตนาจริง บางคนก็พูดไปอย่างนั้น หลวงปู่เคยให้ข้อคิดสำหรับคนที่ไม่ตั้งใจจริงเหมือนคำพูดที่ปรารถนา ว่า

    “อยากจะไปนิพพาน แต่ศีล ๕ ยังรักษาไม่ได้ จะไปได้อย่างไร”

    “วันนี้มีผู้หญิงอยู่คนมากราบข้า บอกว่าจะไปนิพพาน ข้าไม่พูดแต่มองดู ปากยังทาแดงแจ๋ เล็บตีนเล็บมือยังแดงแจ๋ หัวตะพานจะไปถึงหรือเปล่า”

    ดังนั้น หลวงปู่จึงสอนพวกเราทั้งหลาย เมื่อตั้งใจสิ่งใดแล้ว ต้องทำหรือปฏิบัติจึงจะสมปรารถนา หลวงปู่ทวดกล่าวว่า

    “การปฏิบัติจะตัดภพชาติให้สั้นลงทีละครึ่ง เช่น ถ้าเราจะเกิดอีก ๑๐๐ ชาติ ก็เหลือ ๕๐ ถ้าจะเกิด ๒๐ ชาติ ก็เหลือ ๑๐”

    ผู้เขียนเคยอ่านหนังสือหลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน ท่านเคยเปรียบเทียบดังนี้

    “ทำทานเหมือนการไปด้วยถ่อ รักษาศีลไปด้วยรถยนต์ ภาวนาก็ขี่เรือบินไป อาจถึงนิพพานได้ในชาตินี้”

    คนโบราณจึงกล่าวไว้ว่า “ใกล้ก็ไม่ใกล้ ไกลก็ไม่ไกล มองเห็นไวไว เป็นทิวลิบลิบ” ซึ่งเทียบได้กับพระนิพพานคือปลายจมูกนี่เอง หลวงปู่กล่าวว่า

    “จะว่ายากก็ไม่ใช่ จะว่าง่ายก็ไม่เชิง ผู้ปฏิบัติพึงรู้เองเห็นเอง เพราะเป็นปัจจัตตัง”
     
  13. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขออนุโมทนา..สาธุ กับคุณพี่พอใจด้วยนะครับ
    แหม๊! สวยสด งดงาม และใส ทั้งจิตทั้งเสียงเลยนะครับ
    ขอขอบพระคุณมากๆ สำหรับเสียงเพลงเพราะๆ ที่มีให้กับพวกเราทุกคน
    และขอขอบพระคุณทุกท่าน ที่อวยพรให้ผม ครูเพ็ญ ครูจิตเกาะพระ และพวกเราทุกคน

    คุณพี่สุภาทร ฟังหรือยังเอ๋ย...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 มกราคม 2013
  14. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ขออนุญาติ นำส่วนหนึ่งของการบ้านลูกศิษย์มาลงเป็นธรรมทานได้โมทนาบุญกันอีกสักรอบนะค่ะ สาธุ (นี้ไม่ได้ก๊อปปี้ปริยัติจากที่ไหนมา แต่เป็นปัญญาที่ได้จากการวิปัสสนาที่เกิดจากจิตล้วนๆ จ้า..:cool::cool::cool:)

    สวัสดีปีใหม่ คุณครูทุกท่าน ครับ
    สามวันนี้ขอสรุปเอาแต่เนื้อเลยนะครับ ช่วงที่ทำงาน ก็จะนึกถึงภาพพระได้ถี่เป็นบางช่วง บางช่วงก็ถี่ๆๆๆ บางช่วงก็เบา ตามงาน ส่วนตอนเดินทางมาทำงานและกลับบ้าน ตอนนี้จะนึกถึงได้ดีกว่า เพราะไม่ได้ใช่ความคิดอะไร อย่างเช่นเมื่อเย็นขี่รถ จักยานยนต์มา ทำงาน ก็จะนึกถึง อาการของทุกข์ในร่างกาย ว่ามันเกิดตอนไหนบ้าง แล้วมันดับไปอย่างไร (ดูไปดูมา มันทุกข์อยู่ตลอด อย่างที่พี่เกษบอก ร่างกายนี้มันมีแต่ถุงทุกข์ ถุงขี้ซึม)นึกตั้งแต่ขับรถออกจากบ้านจนถึงบริษัท ขับมาช้าๆ(แบบกินลมชมวิว) อารมณ์ โกรธ ก็มีเข้ามา ก็ไม่เชิงโกรธแค่ไม่พอใจบางที่เห็นมันไม่ถูกไม่ควร แต่ก็นะทุกอย่างมันเกิดขึ้นที่ใจเราเอง ก็ต้องดับที่ใจเราเอง (ก็ไม่เห็นคนที่ทำให้เราไม่พอใจ มันทุกข์ตรงไหนเลย) ก็แสดงว่ามันทุกข์ที่ใจเราเอง คิดไปเอง โกรธไปเอง ปรุงแต่งไปเอง ทั้งนั้น
    และอีกย่างนึงผมเคยสงสัยว่า(ตามความคิด) พระที่เขาอยู่ตามป่า บางท่านก็เรียนธรรมกับพระด้วยกัน แต่บางท่านก็เรียนด้วยตัวเอง แล้วท่านรู้ธรรมะ มาจากไหน พอผมฝึกจิตเกาะพระมาได้สักพักนึง ก็พอจะเข้าใจบ้าง ว่า ธรรมมะ มันเป็นธรรมชาติ จะออกมาจากจิตเราเองนี้แหละ จะค่อยๆออกมาเอง จากที่เราเรียนรู้ ดูรอบๆกาย ดูกาย ดูในกาย ดูจิตในกาย ดูสรรพสิ่ง แล้วแต่เราได้เห็นมันมากน้อยแค่ไหน จะเข้าใจมาก น้อยแค่ไหน(อันนี้มันรู้สึกเองครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 มกราคม 2013
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,376
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    วันนี้ขอเล่าบ้างนะคะ
    January 1st,2009 ๓๐,๐๐๐ feet in the air memoir
    January 1st,2009 ๓๐,๐๐๐ feet in the air สายการบินจากMumbai to Singapore ในตอนเช้าวันปีใหม่ พุ่งทยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ในระดับ๓๐.๐๐๐ feet ต่างคนต่างปลดเข็มขัดนั่งกันตามสบาย สักประเดี๋ยวหนึ่งก็ได้ยินประกาศว่า "ใครมีความรู้ทางแพทย์ขอเชิญข้างหน้า เออเราก็มองไปรอบๆ มีผู้โดยสารราวๆ๓๐๐กว่า (ชอบนับแถวในเวลาว่างๆ)คงจะมีใครสักคนน่า สักครู่เขาก็ประกาศอีกครั้ง เราก็ เออ พวกคนที่นั่งที่แพงๆคงจะมีใครสักคนนะ สักประเดี๋ยวเขาก็ประกาศเป็นครั้งที่สาม คราวนี้ทนไม่ได้แล้วเลยเดินออกไปข้างหน้า Business section ภาพที่เห็นคือชายร่างผอมซีด ตาโรย ตัวเย็นเจี๊ยบ คราวนี้เราก็ตื่นตัวสิ(Adrenaline rush)เพราะในอาชีพพยาบาล I C U ไม่ยอมให้ใครมาตายต่อหน้าเราเลย บงการใหญ่เลยคราวนี้ วัดความดัน ตรวจร่างกาย สารพัด แบบด่วนตามที่ทําอยู่ประจํา check ทุกระบบตั้งแต่หัวถึงเท้า ทุกส่วนในร่างกายและขณะเดียวกันก็ถามภรรยาเขาที่เดินไปเดินมาหน้าตาเศร้าสร้อย ว่าสามีเป็นโรคประจําตัวหรือทานยาอะไรมาหรือไม่ กลับไปตรวจต่อและทําให้Airline stewardess วิ่งไปมาเสียสามสี่เที่ยวเพราะจะต้องเอาผ้าห่มที่ร้อนพอเหมาะแถมบอกเขาให้ใส่ในMicrowave ๑นาที พอได้ที่ก็ห่มทั้งตัว ฟังหัวใจก็ปรกติดี ทุกอย่างก็ดีหมด เอ เลยนวดแขนขาหน่อย หลังจากนั้นท่าน copilot ออกมา โทรหาหมอที่พื้นโลก แล้วยื่นหูโทรศัพท์มาให้ ธรรมดาก็ฟังกันจะแย่แล้วหลายชาติหลายภาษา เขาก็พูดเร็ว เออ เอาอย่างนี้ดีกว่า เราก็เลยรายงานสิ่งที่เราตรวจดูว่าคงจะเป็นท้องไส้ไม่ทํางาน แล้วส่งโทรศัพท์คืนให้เขา ขณะเดียวกันก็เปิดกล่องยาที่เขาวางไว้ พบพอดีที่เคยใช้เลยชี้ให้ท่านCopilot ดู เขาก็บอกหมอ หมอทางพื้นดินก็สั่งยาชนิดนั้นให้ทาน ป้อนเขาเสร็จก็ตรวจร่างกายอีกหน่อย ปรกติดี ตัวอุ่นขึ้นเริ่มยิ้ม ความดันขึ้นมาปรกติดีก็เลย "คนไข้ โอเค พวกเราโอเค!!"กันยกใหญ่ เลยแนะนําภรรยาให้พาสามีไปตรวจหัวใจถ้าออกจากเที่ยวบินเมื่อมีโอกาส สักครู่ก็กลับมานั่งที่เดิม เวลาหมดไปช ม กว่าๆ Steward ก็ตามมาเชิญจะให้ไปนั่งที่แพงๆ เรามันไม่เคยนั่งที่แบบนั้นนี่ เก้าอี้ก็กว้างมีที่รองเท้าอีก เลยปฎิเสธเขาไป สักประเดี๋ยวเขามากันอีก๒คน นะ นึกว่าหมดเรื่องแล้ว ปรากฎว่าเขามาขอ Identification ก็ให้เขาไป สักประเดี่ยวเขาเอามาคืน ก็นั่งพักละทีเราแล้ว เอ๊ะ เขามาอีกทีพร้อมกับยื่นซองส่งให้ พอปฎิเสธเขาไปเขาก็ยืนอยู่นั่นแหละ ตกลงกันไม่ได้ เขาบอกว่า "This is from Singapore Airline to you and it USA 150.00 " น่ารําคาญเลยรับไว้ หลังจาก Landing ก็มีรถเล็กวิ่งผ่าน คนที่นั่งมาด้านหลังรวมทั้งภรรยาเขาและเจ้าหน้าที่ก็ตะโกนลั่นเลย "Thank you Thank you" อายเลยแหละ คนเดินกันเยอะแยะ เลย"Happy New Year" กับเขาไป

    ป.ล. Check ที่ได้มายังเก็บไว้เป็นที่ระลึก (เราชอบเป็น Good Samaritan)
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,376
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    Pugley

    =========================
    ขออนุโมทนาสาธุและขอบพระคุณคุณน้องดาว(Pugsley)จริงๆค่ะ:cool::VO;41
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2013
  17. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151

    หลวงปู่ดู่เล่าเกี่ยวกับอานิสงส์
    "พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ"
    ------------------------------------
    ถ้าจะวิเคราะห์ถึงคำภาวนานี้แล้ว ไตรสรณคมน์มีความสำคัญมาตั้งแต่โบราณคือ ในสมัยที่พระพุทธองค์ทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ได้มีพุทธานุภาพให้พระสาวกทำการบวชกุลบุตรได้ โดยการเปล่งวาจาระลึกถึง ไตรสรณคมน์ แล้วก็เป็นภิกษุได้อย่างสมบูรณ์

    หลวงปู่เคยถาม สมเด็จพุฒาจารย์ (เสงี่ยม) วัดสุทัศน์ฯ ว่า ผู้ที่ภาวนาไตรสรณคมน์เป็นนิจศีล ก่อนตายระลึกถึงไตรสรณคมน์ แล้วจะไปสวรรค์ได้หรือไม่

    สมเด็จตอบว่า ได้แน่นอน พร้อมกับยกพระบาลีว่า "เยเกจิ พุทธัง สรณังคตา เสนะ เตคมิสสันติ อบายภูมิ ปหาย มานุสัง เทหัง เทวกายัง ปริปูเรส สันติ" แปลว่า บุคคลบางจำพวก หรือบุคคลใดมาถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะที่พึ่งแล้ว บุคคลเหล่านั้นย่อมไม่ไปอบายภูมิทั้ง ๔ มีนรก เป็นต้นเมื่อละร่างกายอันเป็นของมนุษย์นี้แล้ว จักไปเป็นหมู่แห่งเทพยดาทั้งหลายดังนี้

    ข้อความนี้ อ้างอิงมาจาก สมัยที่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมด้วยพระอรหันต์หนุ่ม ๕๐๐ รูป ประทับอยู่ที่ป่ามหาวัน ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ เทวดาทั้งหลายพากันมาดูและกราบนมัสการ พร้อมกับกล่าวคาถานี้ มีลูกศิษย์ที่นั่งสมาธิ และเห็นหลวงปู่ทวดท่านกล่าวว่า "ไตรสรณคมน์เป็นรากแก้วของพระศาสนา พระพุทธเจ้าเมื่อครั้งยังเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ เข้ามาบวชถือเป็นสมมุติสงฆ์ เมื่อแสวงหาสัจธรรมจนบรรลุมรรคผล ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ ซึ่งเรียกว่า พระธรรม พระองค์ได้ พุทโธ คือ ผู้รู้ กลายเป็น พระพุทธเจ้า และเมื่อเทศน์โปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ได้รู้ธรรมตามที่สอน ก็กลายเป็นพระอริยสงฆ์สืบต่อๆ กันมา ทำให้ศาสนาไม่สูญหายไปไหน"

    พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระเถระองค์สำคัญในยุคปัจจุบัน ท่านกล่าวว่า "สรณะทั้ง ๓ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มิได้เสื่อมสูญ อันตรธานไปไหน ยังปรากฎแก่ผู้ปฏิบัติเข้าถึงอยู่เสมอ ผู้ใดมายึดถือเป็นที่พึ่งของตนแล้ว ผู้นั้นจะอยู่ในกลางป่าหรือเรือนว่างก็ตาม สรณะทั้ง ๓ ก็ปรากฎแก่เขาทุกเมื่อ จึงว่าเป็นที่พึ่งแก่บุคคลจริง เมื่อปฏิบัติตามสรณะทั้ง ๓ จริงแล้ว จะคลาดแคล้วจากภัยทั้งหลายอันก่อให้เกิด ความร้อนอกร้อนใจ ได้แน่นอนทีเดียว"

    ข้อความนี้ทรงแสดงไว้ใน "อุณหัสสวิชัยสูตร" ที่พระพุทธองค์เทศน์โปรด สุปฐิตะเทพบุตร เมื่อถึงกาลที่จะต้องจุติจากสวรรค์ เพราะหมดบุญ ทรงรู้ด้วยพระญาณว่า เทพบุตรองค์นี้ทำแต่ความชั่ว แต่ก่อนมรณะ มีความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยเพียงชั่วขณะ ทำให้ไปเกิดเป็นเทวดา แต่เมื่อได้ดีแล้วก็ลืมความดี ตั้งหน้าทำแต่สิ่งที่ไร้สาระ ถ้าสิ้นจากชาตินี้ไปแล้ว เธอจะไปเกิดเป็นสัตว์นรกอีกหลายร้อยชาติ ถ้าเราเทศน์เรื่องธรรมจักร เธอจะรับไม่ได้ต้องเทศน์เรื่องนี้ เมื่อสุปฐิตะเทพบุตรฟังเทศน์แล้ว ก็สำเร็จเป็นพระโสดาบัน ปิดอบายภูมิได้แน่นอน ซึ่งพระสูตรนี้ (อุณหัสสวิชัยสูตร) แปลเป็นไทยว่า "พระธรรมเป็นของยิ่งในโลกทั้งสาม สามารถชนะ ซึ่งความร้อนอกร้อนใจ อันเกิดแต่ภัยต่างๆ (อุณหัสส) ละเว้นจากอันตรายทั้งหลาย ได้แก่ อาชญาของพระราชา เสือสาง นาค ยาพิษ ภูติผีปีศาจ หากว่ายังไม่ถึงกาลที่จักตายแล้ว ก็จะพ้นไปได้ด้วยอำนาจแห่ง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่ตนน้อมเอาเป็นสรณะที่พึ่ง ที่นับถือนั้น" จึงนิยมเอาพระสูตรนี้มาสวดในงานต่ออายุ จนกระทั่งปัจจุบัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2013
  18. อัญญะมณี

    อัญญะมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +2,169
    โมทนาสาธุ ท่านพูดชอบแล้วค่ะ ธรรมะออกมาจากจิตเราเองนี้แหละ
     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,376
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    ชื่อเพลง ฝากเพลงถึงลูกพ่อ

    -----------------------------------------------------------
    ฟังเพลงเสียงคุณน้องพอใจ ทําให้"พอใจ" ท่านกลับมาแล้วตามคําเรียกร้อง ว่างๆจะมีProject นะคะ ด้วยความรักจากพี่ต้อยเหมือนเดิมค่ะ
     
  20. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    พระคาถาสักกัตตะวาพร้อมคำแปล
    (ป้องกัน รักษาโรคและอาการป่วย)

    สักกัตตะวา พุทธะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง
    เพราะทำความเคารพพระพุทธรัตนะ อันเป็นดั่งโอสถอันอุดมประเสริฐ

    หิตัง เทวะมุนุสสานัง พุทธะเตเชนะ โสตถินา
    เป็นประโยชน์แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ด้วยเดชแห่งพระพุทธเจ้า

    นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เต
    ขอสรรพอุปัทวะทั้งหลายจงพินาศไป ขอทุกข์ทั้งหลายของท่านจงสงบไปโดยสวัสดี

    สักกัตตะวา ธัมมะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง
    เพราะทำความเคารพพระธรรมรัตนะ อันเป็นดั่งโอสถอันอุดมประเสริฐ

    ปะริฬาหูปะสะมะนัง ธัมมะเตเชนะ โสตถินา
    เป็นเครื่องระงับความกระวนกระวาย ด้วยเดชแห่งพระธรรมรัตนะ

    นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ภะยา วูปะสะเมนตุ เต
    ขอสรรพอุปัทวะทั้งหลายจงพินาศไป ขอภัยทั้งหลายของท่านจงสงบไปโดยสวัสดี

    สักกัตตะวา สังฆระระนัง โอสะถัง อุตตะมังวะรัง
    เพราะทำความเคารพพระสงฆรัตนะ อันเป็นดั่งโอสถอันอุดมประเสริฐ

    อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง สังฆะเตเชนะ โสตถินา
    เป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา เป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ ด้วยเดชแห่งพระสงฆ์

    นัสสันตุปัททะวา สัพเพ โรคา วูปะสะเมนตุ เต
    ขอสรรพอุปัทวะทั้งหลายจงพินาศไป ขอโรคทั้งหลายของท่านจงสงบไปโดยสวัสดี

    (คาถาบทนี้ เป็นพระคาถาที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทาน ให้เทพบุตรอุณหิสวิชัยได้ท่อง พระคาถานี้จึงได้มีอายุอยู่ในสวรรค์ต่อไปอีก
    (พระคาถาบทนี้ ส่วนมากมิค่อยทราบกัน ไปสวดบทอานิสงส์กันเสียหมด)

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=nbov4S4HwAU]ทิพยมนต์ ตอนที่ 5 สักกัตวา - YouTube[/ame]


    บทสวดอานิสงส์(คาถาอุณหิสวิชัย)

    อัตถิ อุณหิสสะ วิชะโย ธัมโม โลเก อนุตตะโร
    สัพพะ สัตตะหิ ตัตถายะ ตัง ตะวัง คัณหาหิ เทวะเต
    ปะริวัชเช ราชะทัณเฑ อะมะนุสเสหิ ปาวะเก
    พยัคเฆ นาเค วิเส ภูเต อะกาละ มะระเณนะ วา
    สัพพัสมา มะระณา มุตโต ฐะเปตวา กาละมาริตัง
    ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา
    ลิกขิตัง จินติตัง ปูชัง ธาระณัง วาจะนัง คะรุง
    ปะเรสัง เทสะนัง สุตวา ตัสสะ อายุ ปะวัฑฒะตีติ
     

แชร์หน้านี้

Loading...