สรุป งานสัมมนา "พระอาจารย์รัตน์ เตือนภัย 2012-2013" 17 ธันวาเป็นต้นไปเตรียมตัวให้ดี

*******************************
เท่าที่อ่านมาและตามที่ผมเข้าใจนะครับ น่าจะเป็นแรงกดนะครับ ไม่ใช่แรงโน้มถ่วงหรือแรงดึงดูดของโลกครับ คล้ายๆ กับเป็นการบีบอัดของอากาศหรืออาจจะเป็นคลื่นความถี่ต่าง ๆ จากด้านบน หรือความเร็วของการหมุนรอบตัวเองของโลกเปลี่ยนแปลง ที่มีผลกับร่างกายมนุษย์ หรือสัตว์บางชนิด

*** เชื่อ หรือไม่เชื่อ ของแต่ละบุคคลไม่ได้เป็นความผิดและก็ไม่ได้เป็นปัญหาของใคร มันเป็นเรื่องของสติ ปัญญา เวลา ที่สะสมกันมาของแต่ละคนครับ คล้าย ๆ กับเรื่องของวิญญาณ เยอะมากครับที่ไม่เชื่อว่ามีวิญญาณหลังความตาย (ไม่เจอไม่รู้) หรือว่าคนสมัยก่อนไม่รู้จักอินเตอร์เน็ตว่ามันคืออะไร เป็นอะไร จนกระทั่งปี 1995 ถึงเริ่มรู้จักกันมากขึ้น ทำนองนั้นล่ะครับ แต่แนะนำว่าอย่าเอาจิตไปลบลู่ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ หรือและผู้ทรงศีลนะครับ แรงสะท้อนมันแรง เพราะทุกท่านมีจิตใจเมตตาต่อเราทั้งนั้น อยากให้เราได้ดีมีความสุขและอยู่รอดปลอดภัย เท่านั้นครับ ***

ช่วงนี้สำหรับคนที่คิดจะเริ่มเตรียม จะเตรียมอะไรก็รีบเตรียมเถอะครับตามสบาย จะเตรียมของปัจจัยสี่ / เตรียมใจ / เตรียมสมาธิ / เตรียมเข้าณาญ /เตรียมสู้ / เตรียมหนี หรือเตรียมพร้อมอะไรก็ตามจัดให้หนักนะครับ หลังวันที่ 17 ธค ของพวกปัจจัยสี่ก็จะไม่ค่อยมีให้ซื้อ (คนมีเงินเค้าไปกวาดดะ) ถ้าไม่เกิดก็กินของที่ซื้อมาเหมือนตอนหนีน้ำท่วม กินไม่ทันก็นำไปถวายวัดทำบุญทำทานเพื่อพระผู้ที่ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ หรือคนยากจนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ดีกว่ารู้เรื่องแล้วช่างมันอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด (แล้วทำไมไม่ทำในขณะที่มีโอกาสกว่าคนอื่น) สำหรับผมหลังวันที่ 25 มค ถ้ายังไม่มีอะไรก็จะทำงานให้หนักมากขึ้นชดเชย สู้ชีวิตต่อไป... ฉลามบุก ^_^

 

ไม่เชื่อหรอกน่า

เพราะ ว่า

1. ถ้าบอกว่า หมู่ดาว โลก พุธ เสาร์ จะโดน อีกGalacxy ดูดไป
คำถามแรกคือ Now โลกอยู่ในตำแหน่งใด ของ Milky Way
มีใคร บอกได้บ้าง

2. อีก Galacxy ที่จะมาดูด เราไป จะต้องมี ดาว หรือ บางอย่าง
ที่มี แรงดึงดูดสูงมาก และ จะต้องเห็น ดวงอาทิตย์ ทำงาน ผิดปกติ
เช่น ปะทุ บ่อยๆ ถี่ๆ ใหญ่ๆ -> ดาวเทียม จะทำงานไม่ได้ TV เดี้ยง

== แต่จะรับฟังไว้ 10% เผื่อหนีทัน ===

 

เห็นทุกท่านโพสแล้ว ก็เข้าใจทุกๆ ท่านนะครับ บางคนอาจจะเชื่อ บางคนอาจจะไม่เชื่อ แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในทำความดีเป็นกิจวัตรก็แล้ว เพราะหากถึงเวลาตายจะได้ไม่เสียดายที่เกิดเป็นมนุษย์แล้วไม่ได้ทำกุศลกรรม เพราะการเกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยากเหลือเกิน

สำหรับผมส่วนตัวผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ ผมคิดว่าประเด็นเรื่องของคำทำนายที่แต่ละท่านได้เห็น ได้ฟัง ตามญาณทัศนะ และมาแลกเปลี่ยนกันนั้นทุกอย่างสามารถอธิบายและดูจากสถิติทางวิทยาศาสตร์ได้หมดครับ ประเด็นใดผู้ทำนายพยายามอธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยศาสตร์แล้วดูไม่เป็นเหตุเป็นผล ก็ขอให้ดูเจตนาที่ของเขา เพราะเขาก็พยายามอธิบายสิ่งที่เขาเห็นตามภูมิความรู้ สติปัญญา และ การค้นคว้าของเขาอย่างเต็มที่อยู่แล้ว

เรื่องของแกนโลกพลิก

ผมเชื่อว่ามีโอกาสเกิดแน่นอน เพียงแต่เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ และรุนแรงขนาดไหน เหมือนแผ่นดินไหวนั่นแหละครับ เพราะในอดีตมันเคยเกิดมาแล้วมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ ทั้งแบบที่เกิดแบบค่อยเป็นค่อยไป และเกิดแบบฉับพลัน

เรื่องของภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เรื่องนี้ก็เห็นกันอยู่แล้วทุกคนว่า พายุรุนแรงขึ้น ปริมาณฝนที่ตกในแผ่นดินเพิ่มขึ้นทุกปี ไฟป่า ร้อนสุดขั้ว เย็นสุดขั้ว และมั่นใจได้แน่นอนว่า มันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งโลกใบนี้เข้าสู่การปรับสมดุลทางธรรมชาติแบบใหม่

เรื่องแผ่นดินไหวขนาดใหญ่

จากสถิติก็เห็นแล้วว่าในช่วง 10 ปีหลังแผ่นดินไหว ไหวถี่ขึ้น รุนแรงขึ้น เหมือนกับกาต้มน้ำที่ค่อยๆเดือดขึ้นเรื่อย และ เข้าใจว่าเมื่อไหร่ที่กาน้ำถูกเปิดฝา ระบายความร้อนภายในหม้อออกไปพอสมควรแล้ว แผ่นดินก็จะไหวถี่น้อยลง และ รุนแรงน้อยลง และในระยะหลังก็มีคนพยายามเชื่อมโยงอัตราการเกิดแผ่นดินไหว ขนาดความรุนแรง เข้ากับ การระเบิดของจุดดับบนดวงอาทิตย์ และพายุสุริยะที่พัดเข้ามาในชั้นบรรยากาศของโลก นอกจากนี้หลักฐานชิ้นใหม่ที่ค้นพบล่าสุด ก็พิสูจน์แล้วว่า เคยพายุสุริยะที่มีระดับความรุนแรงมากมาปะทะกับชั้นบรรยากาศของโลก

ทั้งหมดนี้ ไม่มีใครฟันธงได้ชัดเจนว่าจะเกิดเมื่อไหร่แม้กระทั้งพระอริยะ เพราะเหตุปัจจัยทั้งหลายเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ฟันธงวันนี้ กับ ฟันธงวันพรุ่งนี้ ก็มีความแตกต่างกันในเรื่องของเหตุและปัจจัยอยู่แล้วครับ

จะมีก็แต่พุทธพยากรณ์ด้วยสัพพัญญุตญาณ ที่เป็นหนึ่งไม่มีสอง

ด้วยเหตุนี้ครับ แทนที่พวกเราจะกังวลว่ามันจะเกิดเมื่อไหร่ ตอนไหน ผมว่าเราต้องเปลี่ยนวิธีคิดและความกังวลของเราเป็นการเตรียมตัวอย่างไม่ประมาท

ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมการด้านกายภาพ เช่น มีเป้ฉุกเฉินไว้ในบ้านพร้อมหยิบฉวยเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ สำรวจทางหนีทีไล่เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินทั้งที่บ้านและที่ทำงาน

หรือการเตรียมพร้อมทางด้านจิตใจ เช่น การฝึกสติและการทำสมาธิ สติ ทำให้เรารู้ว่าเราต้องทำอะไร สมาธิเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญาทำให้เราแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้

ส่วนที่เหลือก็ขอให้เป็นเรื่องของกฎแห่งกรรมครับ ใช้ชีวิตแบบปกติไปเหมือนเดิม และ พร้อมทุกเมื่อ เมื่อภัยมา

 

...........................................................................................
ขนาดไม่ประกาศ...เชื่อเรื่องนี้ประมาณ...เดาๆก็ประมาณ..ไม่ก็ไม่ถึง 10%
ในจีนยังตุนเทียนไข ซะเกลี้ยงแล้ว...ท่านลองนึกภาพประเทศไทย...เอาแค่น้ำท่วมปีที่แล้วขนาดแค่บางจังหวัด...ยังโกลาหล...แย่งซื้อกันเป็นแถว...กักตุน
...โอยสารพัด...ถ้าสำนักไหนกล้าฟันเฟิร์ม....โลกนี้ต้องแตกจริงๆๆๆๆๆๆๆ:boo:
เพราะคนนนนนนนนนนนนน ค้น คน

 

*** เราถือสัจจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ****

ที่โหดร้ายกว่า...คือ คนไทยเคียดแค้นฆ่าล้างกันเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

แล้วตราชั่ง มันจะไม่เพี้ยนตามเหรอครับ? 0

 

- เรื่องทฤษฎีแรงกดที่ส่งมาโลก แค่แรงกดส่งมาโลกเพียงนิดเดียวดาวเทียมก็ถูกย้ายตำแหน่งกันหมดแล้ว (ย้ายเข้ามาหาโลก) แน่นอนว่าการสื่อสารของเราล่มหมด สำหรับผมถือเป็นการนับ 1 โดยผมจะบอกครอบครัวและเพื่อน ๆ ว่า ถ้าขาดการติดต่อกัน 3 วันให้หนีไปยังจุดนัดพบทันที ( พอมีเหตุผลไหมครับ )
- ทำไมต้องดูดาวเทียม เพราะดาวเทียมอยู่นอกสุดและส่งผลกระทบกับเราได้ทันที ( การสื่อสารขัดข้อง ) จากนั้นแรงกดจะผ่านชั้นบรรยากาศไปกระทบกับแผ่นดินอาจทำให้เกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ตามมา ฉะนั้นถ้าการสื่อสารขัดข้องจึงเป็นสัญญาณแรกที่เราจะต้องเตรียมตัว
- ทำไมต้อง 3 วัน แน่นอนว่าถ้าขาดการสื่อสารเราจะวิตกจริตขึ้นมาทันทีเพราะไม่รู้ว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้น วันแรกเราให้โอกาสก่อน (อาจจะกู้ได้) วันที่สองเริ่มหงุดหงิดน้ำไฟก็ไม่มี (ดูเชิงอีกวันว่ะ) วันที่สามเตรียมตัวขั้นสุดท้ายถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ต้องเผ่นกันก่อนครับ ในช่วงเวลา 3 วันนี้เราจะขาดการติดต่อ ให้เราดูท้องฟ้าเป็นตัวช่วย (ค้นคว้าเรื่องเมฆก่อตัวตอนมีพายุหรือแผ่นดินไหวและพฤติกรรมสัตว์รอบข้าง) หรือถ้ามีเหตุการณ์เฉพาะหน้าเกิดขึ้นเราก็ต้องเผ่นก่อน
- ถ้าดาวเทียมขัดข้องเราจะรับข่าวจากอะไรได้บ้าง ภาคพื้นดินไงครับ ไม่ว่าจะเป็น TV (ใช้เสาหรือหนวดกุ้ง) , วิทยุ , โทรศัพท์บ้าน ถ้าไม่มีจุดใดจุดหนึ่งผ่านดาวเทียม มันต้องใช้งานได้แน่ ๆ (ภาคส่ง-รับต้องมีไฟสำรอง)
- ตอนนี้เรา ๆ ท่าน ๆ ก็ชิว ๆ กันไปก่อนอย่าไปซีเรียส ขอให้มีสติและคิดเผื่อสักนิด (เตรียมตัว) ถ้าแรงกดค่อย ๆ มาเราเตรียมตัวได้ทันแน่นอน แต่ถ้ามาเป็นระลอกใหญ่ งานนี้คงรอดยาก

 

เรื่องแรงดึงดูด 3G เนี่ย บอกตามตรง น่ะครับ ในฐานะเด็กคณะ วิทย์ ฟิสิกส์ ที่ปฏิบัติธรรมด้วย พยายามเชื่อ และหาเหตุผลมาสนับสนุนเพื่อให้สอดคล้องกัน
ได้ข้อคิดเห็น ดังนี้ครับ
1. แรงขนาด 3G ถ้ามีจริง ไม่ใช่แรงดึงดูดครับ เพราะ แรงดึงดูดมันมาจากมวลของโลกเองกระทำกับวัตถุ ซึ่งมวลของโลกไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงได้เยอะขนาดนั้นครับ
2. แรงที่กระทำ ที่มากพอที่จะให้เรายืนไม่ไหว ต้องคลานเนี่ย ประมาณ 3G เชื่อถือได้ เช่นคน หนัก 60 กลายเป็นหนักประมาณ 180 ขาจะรับน้ำหนักไม่ไหว
3. แรงขนาด 3G ที่เข้ามากระทำ ผมคาดว่า มาจากสนามแม่เหล็กที่หุ้มชั้นบรรยากาศอยู่ โดน สนามแม่เหล็ก จากภายนอกกระทำ ซึ่งมันต้องเข้าใกล้มาก ถึงจะมีแรงได้ขนาดนั้น
ยกตัวอย่าง เอาแม่เหล็ก ขั้วเดียวกัน 2อัน มาเข้าใกล้กัน สมมติว่า แม่เหล็กมีขนาดใหญมาก และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่เข้าหา กัน จะเกิดแรงกระทำต่อกัน คือผลักออก แต่ด้วยความใหญ่ มีแรงเฉื่อยเยอะ และมวลต่างกันมาก แค่เฉียดๆ มา ก็เลยทำให้ สนามแม่เหล็กโลกมีลักษณะเบี้ยว ตามแรงกดทับ ของสนามแม่เหล็ก ซึ่งเมื่อ มีแรงกดขนาดนั้น มันก็จะกดกับชั้นบรรยากาศ ซึ่งมี มวลของอากาศอยู่ เราจะรู้สึกแน่น หายใจไม่สะดวก มากนัก
ทีนี้ เนื่องจากโลกหมุนรอบตัวเองอยู่ ดังนั้น ตำแหน่ง ของเรา บนโลกก็สำคัญ (ปล. ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ น่ะครับ ของไทย แต่ละจังหวัด คงโดนแรงกระทำไม่ต่างกันมาก จะเห็นความแต่งต่างชัดเจน ถ้าอยู่อยู่ห่างกัน หลายๆ พันกิโล) เพราะประเทศ ที่ อยู่คนละแนวกับแรงกด ( ตั้งฉาก 90 องศา ) น่าจะรับผลกระทบน้อย แต่ประเทศที่ ตรงกับทิศทางของแรง (0 กับ 180 องศา คือ ตรง กับตรงข้าม)น่าจะได้อิทธิพลสูงสุด ซึ่ง ความหายน่ะ ไม่ได้มาจาก แรงกดโดนตรง แต่จะเป็นมวลน้ำ ขนาดมหาศาลที่เคลื่อนที่ หนีแรงกดนี้ ซึ้งเมื่อ โลกเรา เคลื่อนที่หมุนไปรอบๆ ก็เหมือน เราดันน้ำหมุนไปรอบๆ โลก คือ จะมีน้ำขึ้น และน้ำลง อย่างรุนแรง ด้วยแรงกด ตามที่บอกว่า 3G นี้ คงเป็นคลื่น ซีนามิ ขนาดใหญ่ หมุนรอบโลกไม่มีสิ้นสุด จนกว่า แรงกระทำดังกล่าวจะหายไป แต่ยังคงต่อเนื่อง จากแรงเฉื่อยๆ อีกนานพอควรครับ

อันนี้ คือ สมมติฐาน ที่พยายามคิดสนับสนุน แต่ความเป็นจริง มันเกิดยากมากครับ เพราะวงในวิทยาศาสตร์ ไม่เห็นมีข้อมูลอะไร หลุดมาให้ได้ยิน บ้างเลย
ถ้าจะเปรียบเทียบ วันนี้ 11 ธันวา กับอีก 10 วันข้างน้า ในเชิงเวลา กับหายนะขนาดนี้ ถือว่า เราควรจะได้รับผลกระทบได้แล้วน่ะครับ เพราะมันไม่ใช่เรื่อง ที่จะเกิดปุปปัป ทันที แต่จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น น่ะ เรื่องแรงกดทับเนี่ย และไม่น่าใช้เวลา แค่ ไม่กี่สิบวันแต่ ควรจะใช้เวลาเป็นปี ที่ แรงค่อยๆ เพิ่มขึ้นหรือ ลดลง ครับ

ปล, หรือว่า ตอนนี้ มันเกิดผลกระทบแล้วแต่เราไม่รู้ ผมกินน้อยลงน่ะ แต่น้ำหนักขึ้นเอาๆ 55

 

อยากทราบว่า เราสามารถทำพีระมิดเองได้มั้ย เพราะถ้าป้องกันรังสีได้จริง คงผลิตไม่ทันแน่เลยค่ะ

 

เราเคยถามพระนักปฏิบัติธรรม (สายพระป่า) ว่า "หลวงพ่อคะ ตอนนี้ขายของอยู่ค่ะ แต่ว่าเหนื่อยมากค่ะ เมื่อไหร่โยมจะได้หยุดพักซักที" หลวงพ่อตอบว่า อีก 4 ปี ตอนนั้นนึกดีใจว่าสงสัยเราคงจะรวย แล้วคงได้เลิกขายของแน่ๆ.. ตอนนี้ครบ 4 ปีที่หลวงพ่อพูดเอาไว้ สงสัยเราจะตายเพราะภัยฯเสียแล้วก็ไม่รู้นะ ตอนนี้เราอยากบอกทุกๆ คนว่า พยายามนึกถึงความตายเป็นอารมณ์ กรรมฐานกันเถิด เมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นเมื่อไร สติจะได้ไม่แตกกระเจิงซะก่อน [/B]

 

มีเหตุผลครับเพราะ พอจ. กล่าวว่าจะกระทบเฉพาะสิ่งมีชีวิต แบบนี้ดาวเทียมก็ไม่ตกสิ (ที่ผมโพสไปก่อนหน้านี้คงไม่เกิด) แล้วผมจะจับสัญญาณเตือนอะไรเป็นหลักดี "ลมปราณ" , "หายใจไม่ทั่วท้อง" มันน่าจะมีอะไรมาเตือนก่อนน่ะ หรือรอสัญญาณวันที่ 17 :'( แต่ถ้าภัยพิบัติมาแล้วผมต้องเผชิญ ผมก็จะสู้จนนาทีสุดท้ายและจะตายอย่างมีสติครับ

 

แล้วถ้าคุณ..ไม่ตายละ..และโลกก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น คุณเตรียมพร้อมที่จะมีชีวิตอยู่ต่อแล้วหรือยัง ดีครับที่ไม่กลัวความตายแต่จะดีมากๆเลยครับถ้าใช้ชีวิตต่อไปโดยมีสติมากขึ้น

 

ท่านไม่ได้กล่าวให้ตื่นตระหนก แต่ท่านให้ตระหนักรู้
และพึงความประมาทไว้ กันไว้ดีย่อมกว่าแก้ ใช่หรือไม่...
อะไรที่ไม่เคยทำ ก็จงพึงทำเสียเถิด...
ทาน ศีล ภาวนา ขอให้ท่านทั้งหลายเจริญให้ยิ่งแล้ว
อย่าลืมว่าสิ่งทั้งหลาย ไม่เว้นแม้แต่ ขันธ์5 ตัวเรานี่...
ไม่ได้เที่ยงแท้ แน่นอน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
มันเป็นสัจธรรมอยู่เช่นนั้น

ไม่ว่าจะเกิดอะไร ด้วยปัจจัยใด ๆ ก็ตาม
สิ่งที่ท่านควรหมั่นระลึกให้มากยิ่ง...
นั่นคือ จิต ของท่านนี่ล่ะ พยายามอย่าให้มัวหมอง
จงวางซึ่งอารมณ์เป็นกลาง คงความว่าง สงบ สว่าง อยู่เสมอ
ธรรมคุ้มครองผู้มี ธรรม ขอให้ท่านทั้งหลายจงพ้นแล้วซึ่งภัยเวร
และขอขอบพระคุณในพระเมตตา ของท่านทั้งหลาย
ที่มีจิต กุศล ช่วยเหลือเกื้อกูล เพื่อนมนุษย์ที่ร่วมทุกข์ด้วยกันมา
อนุโมทนา สาธุ...

 

สาธุ สาธุ สาธุ

 

รอถึงวันที่ 17 ธ.ค. 55 ไม่กี่วัน เดี๋ยวก็รู้เอง พระอาจารย์รัตน์ท่านบอกไว้แล้วว่าจะเริ่มเกิดอะไรขึ้น แล้วจะมีอะไรตามมา อีกไม่นานก็คงได้รู้กัน

 

...................................................................................

ขอบคุณท่าน "ดาบหัก";..ที่มาไขสมอง...ให้ เพราะยังเข้าใจว่าเริ่มที่สมอง...ก่อนเพราะช่วงนี้ปวดหัวแบบตึบๆ และก็เพลียมาก...แสดงว่าเข้าใจผิดไปเอง...:boo:

 

เวปคึกคักอีกแระ ...................... :boo:

 

กระแสแรงจริงๆ ถ้าบวกด้วย3G คงหยุดฉุดไม่อยู่แน่ๆ